Share

สัญญา

last update Last Updated: 2025-02-12 15:17:11

วันต่อมา ครอบครัวของวัยรุ่นทั้งสี่ได้รับคำสั่งอนุญาตให้เข้าเยี่ยม เอโลดี้มาพร้อมกับครอบครัวอเล็กซิสและเอาแต่ร้องไห้อย่างเดียว เพื่อนซี้ของเธอเอาแต่โทษตัวเองที่เป็นสาเหตุให้

อเล็กซิสถูกจับและถูกกล่าวหาว่าเป็นกลุ่มต้องสงสัย อเล็กซิสต้องใช้เวลาอยู่พอสมควรเพื่อปลอบไม่ให้เอโลดี้รู้สึกผิด ทั้งที่เธอควรจะเป็นฝ่ายได้รับการปลอบโยนมากกว่า พ่อของเธอพูดกับเอโลดี้ว่า ถึงแม้อเล็กซิสไม่อยู่ในงานปาร์ตี้ ลูกสาวของเขาก็จะโดนจับอยู่ดี เพราะคำสารภาพของแมรี่ สตีเว่น (หรือพูดให้ถูกคือ ถูกบังคับให้สารภาพ) ทำให้พวกตำรวจไปตามจับเด็กที่ถูกแก้ประวัติเพิ่ม

“หนังสือพิมพ์ลงข่าวว่า นักเรียนหัวกะทิแห่งซานโบซ่าข้องเกี่ยวกับยาเสพติด ไม่รู้ว่าเขียนข่าวมั่วซั่วแบบนั้นได้ยังไง” เจสซี่บ่น

“พวกนักข่าวก็คงถูกบังคับให้เขียนรายงาน ไม่ได้ตั้งใจหรอกลูก” พ่ออธิบาย เขาเข้าใจสถานการณ์มากกว่าลูกชาย

“อย่างน้อยก็ไม่มีชื่อพวกเราในนั้นใช่ไหม”

“ไม่มี ถ้ามีพี่จะฟ้อง”

“พี่พูดเหมือนคุณมิลเลอร์เลย!”

อเล็กซิสสังเกตเห็นว่าแม่และไบรซ์ไม่ค่อยพูดค่อยจา แม่กับไบรซ์ไม่ใช่คนที่จัดการกับความรู้สึกได้เก่งเท่าไร ทั้งสองนั่งเงียบ มองอเล็กซิสกับเจสซี่คุยกัน อีกมุมก็มีเสียงร้องไห้ของเอโลดี้ดังคลออยู่ตลอด แม้แต่พ่อกับเจสซี่ยังดูอ่อนล้ามากราวกับไม่ได้นอนมาหลายวัน พวกเขาคงพยายามทุกวิถีทางแล้วเพื่อจะช่วยเธอออกไปจากที่นี่ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ตัวเจสซี่เองเหมือนขาดความมั่นใจไปเลยเมื่อเทียบกับเมื่อสองวันก่อน อย่างว่า ไม่มีใครคาดคิดว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นกับเธอ ในเมื่อ จู่ ๆ อเล็กซิสกลายเป็นผู้กระทำผิดทางกฎหมายและเป็นภัยต่อประเทศชาติเสียอย่างนั้น

“ทุกคนทำหน้าซังกะตายอย่างกับพวกซอมบี้เลยนะ” เธอพยายามจะมีอารมณ์ขัน แต่เท่าที่เคยเล่นมุกมา มุกนี้ฝืดที่สุด

“พี่ต้องจากพวกเราไปเหรอครับ” เจ้าชาร์ลีถาม เด็กชายเป็นคนเดียวที่ไม่มีท่าทางหดหู่เหมือนคนอื่น อาจเป็นเพราะชาร์ลียังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจว่าพี่สาวของเขาไม่มีวันกลับไปหาเขาอีกแล้ว ไม่มีวันสอนเขาวาดรูป พาเขาไปรับประทานไอศกรีมและพิซซ่า และเล่นกับเขาอีก ไม่มีวันนั้นอีกแล้ว

“พี่เขาจะต้องกลับมา” ไบรซ์พูด พี่สาวโถมตัวเข้ากอดจนเธอหายใจแทบไม่ออก “ใช่ไหม เธอจะกลับบ้านกับพวกเราใช่ไหม”

สองสาวนอนห้องเดียวกันมาตั้งสิบห้าปี ทั้งไบรซ์และอเล็กซิสเป็นทั้งพี่น้องและเพื่อนสนิท จนวันหนึ่ง เหลือเพียงคนเดียวที่ต้องนอนอย่างเดียวดาย มันเป็นความรู้สึกที่แย่เกินกว่าจะจินตนาการความโดดเดี่ยวนี้ได้

“พี่...หายใจไม่ออกแล้ว” อเล็กซิสขอร้องเบา ๆ ความพยายามที่จะสกัดกั้นเจ้าก้อนน้ำตาเหมือนพยายามจะกั้นกระแสน้ำหลาก เจ้าชาร์ลีก็อีกคน เขาจ้องมองเธอเขม็ง เพราะอเล็กซิสยังไม่ตอบสักที

“พี่จะพยายามนะ เจ้าลิง” พี่สาวตอบ เด็กชายจึงพอใจ

“คุณรู้เรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า” แม่ของเธอถามขึ้นหลังจากที่นั่งเงียบมานาน แต่เธอถามพ่อ ไม่ใช่อเล็กซิส “คุณรู้ว่าแมรี่ป้อนข้อมูลเท็จใช่ไหม”

คาเลบพยักหน้า รู้สึกผิด

“แล้วคุณก็ปล่อยให้เธอทำแบบนั้นเหรอ”

“ไม่มีใครผิดหรอกค่ะ” เด็กสาวแทรกซึ่งทันก่อนที่แม่จะพูดอะไรต่อ เธอไม่อยากให้พ่อกับแม่ทะเลาะกันต่อหน้าทุกคน แถมยังในเวลาแบบนี้อีก พวกเขาไม่เคยทะเลาะกันเลยสักครั้งตั้งแต่เธอเข้ามาเป็นลูกสาวบ้านเดวิส ความเศร้ากลืนกินความรู้สึกดีไปจนหมด ถึงกระนั้น อเล็กซิสไม่อยากให้เกิดบรรยากาศลุกเป็นไฟจากการทะเลาะเบาะแว้งภายในครอบครัว เพราะเวลาที่จะอยู่ด้วยกันมันน้อยลงทุกวินาที และทุกวินาทีมีค่าสำหรับเธอ

“พวกตำรวจบอกว่าจะประกาศวันเดินทางภายในพรุ่งนี้ อเล็กซ์ พี่ขอโทษนะ พี่ช่วยเธอไม่ได้เลย พี่มันไม่ได้เรื่อง ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง”

“บอกแล้วไงว่าไม่มีใครผิด” อเล็กซิสย้ำ จากนั้นจึงดึงแขนของไบรซ์ออกจากคอได้สำเร็จ มิเช่นนั้นเธอคงขาดอากาศตาย

เบียนน่าวกกลับมาถามเจสซี่อีกรอบว่าเขาจะหาทนายฝีมือดีได้หรือไม่ และพวกเขาต้องนั่งฟังเจสซี่อธิบายไปเรื่อย ๆ (รอบที่เท่าไร เธอจำไม่ได้) สำหรับกฎหมายรัฐบัญญัติปี 2966 ผู้กระทำผิดและถูกตัดสินว่าเป็นกลุ่มต้องสงสัยว่าจะเป็นกลุ่มเสี่ยงจะไม่สามารถหาทนายมาช่วยแก้ต่างให้หลุดพ้นจากข้อกล่าวหาได้ กฎหมายเล่มนี้ยังไม่อนุญาตให้อุทธรณ์อีกด้วย ดังนั้นคำตัดสินถือว่าเป็นอันสิ้นสุดแล้ว ตลอดสองชั่วโมง พวกเขานั่งถกเถียงเรื่องข้อกฎหมาย ความเป็นไปได้ที่อเล็กซิสจะถูกปล่อยตัว และระบบรัฐ ช่วงนาทีสุดท้าย เบียนน่าไม่อาจควบคุมอารมณ์ให้นิ่งได้ เธอร้องไห้ตัดพ้อเจสซี่ ขอร้องให้เขาหาวิธีช่วยอเล็กซิส เจสซี่จำเป็นต้องพาแม่ออกไปก่อนที่พวกตำรวจจะพาเธอออกไปเองด้วยวิธีการป่าเถื่อน

อเล็กซิสมองไปยังนาฬิกาที่ติดอยู่ในห้อง หมดเวลาเข้าเยี่ยมแล้ว เด็กสาวส่งยิ้มให้พ่อ พยายามจะทำตัวเข้มแข็งในสายตาเขา

“พรุ่งนี้พวกเราจะมาเยี่ยมลูกอีก ดูแลตัวเองนะสาวน้อย” พ่อบอกแล้วจูบหน้าผากลูกสาว ไบรซ์กับเอโลดี้ทำแบบเดียวกัน ส่วนเจ้าชาร์ลียืนรอไม่ยอมไป “พี่สัญญาว่าต้องกลับมานะ ผมอยากวาดรูปช้างเป็น พี่วาดเก่งที่สุดแล้ว เจสซี่พยายามจะสอนเหมือนกัน แต่ฝีมือของเขาโคตรห่วยเลย”

“ชาร์ลี ไปเรียนคำพูดแบบนี้มาจากใครเนี่ย” อเล็กซิสร้องแล้วอุ้มเขามานั่งบนตัก

“ผมได้ยินเจสซี่ชอบพูดว่า ระบบห่วย ๆ มีแต่คนระยำบริหาร”

อเล็กซิสหลับตา สั่นหัวช้า ๆ ควรมีใครสักคนสอนพี่ชายให้รู้จักใช้คำพูดเวลามีเด็กอยู่ด้วย “มันหยาบคายรู้ไหม พี่ไม่สัญญากับเราหรอกนะเจ้าลิงน้อย แต่พี่จะพยายาม ตกลงไหม”

อเล็กซิสไม่ได้ให้สัญญากับชาร์ลี เพราะเธอรู้ดีว่าเธอจะผิดสัญญาแน่นอน เพียงหอมแก้มกลมของเจ้าน้องชาย พ่อเคยสอนว่า อย่าให้สัญญากับใครถ้ารู้ว่าตัวเองทำไม่ได้ อเล็กซิสทำตามคำพ่อสอนเสมอ

เจ้าชาร์ลีกระโดดลงจากตักและหันมาโบกมือพร้อมกับรอยยิ้มสดใสก่อนออกไปหาครอบครัวที่รออยู่ข้างนอก เพราะกุญแจล็อกข้อมือเธอให้อยู่กับโต๊ะหรอก อเล็กซิสเลยได้แต่มองพวกเขาเดินออกไป แต่ในใจนั้นอยากตามไปด้วยจะแย่

วันนั้น กลุ่มเพื่อนและคุณครูที่โรงเรียนมาเยี่ยมพวกเด็กที่ถูกจับเช่นกัน อเล็กซิสเริ่มเห็นใจเบลินดาอยู่บ้างที่ถูกบอยคอต เพราะทุกคนขอเข้าพบแค่กับเด็กสามคนเท่านั้น มีเพียงเพื่อนไม่กี่คนที่มาเยี่ยมเบลินดา พวกเพื่อน ๆ ในโรงเรียนยกโขยงกันมายกทีม อย่างเช่น ทีมเชียร์ลีดเดอร์ ชมรมฟุตบอล ชมรมบาสเกตบอล ชมรมดาราศาสตร์ และคนอื่น ๆ เดวี่มาพร้อมกับชมรมฟุตบอล ส่วนจูนหรือ เธอหายตัวไปจากเมืองแล้วมั้ง แม้แต่แม่ของจูนที่ค่อนข้างสนิทสนมกับครอบครัว

อเล็กซิสยังไม่แม้แต่ติดต่อมาเพื่อแสดงความเห็นอกเห็นใจสักนิด

ถ้าเธอมาหาฉัน ฉันจะลืมทุกอย่าง ให้อภัยทุกอย่าง อเล็กซิสคิดถึงเพื่อนสนิทคนนี้ ถึงแม้ความขัดแย้งของทั้งคู่ได้ทำลายมิตรภาพที่ยาวนานจนยากจะซ่อมกลับมาเหมือนเดิม แถมบาดแผลที่จูนทำยังคงเจ็บเบา ๆ แต่เพราะอเล็กซิสรู้ว่าชาตินี้คงไม่มีวันได้เจอกันอีกแล้ว จึงอยากลาจากกันแบบดี ๆ มากกว่า อีกเหตุผลหนึ่ง ในเมื่อจูนเป็นคนหยิบมีดแทงหลังอเล็กซิส เธออยากให้เพื่อนเป็นคนดึงมันออก แล้วทั้งสองจะได้เริ่มต้นกันใหม่ เหมือนเริ่มต้นจากศูนย์ อันที่จริง ลึก ๆ แล้ว อเล็กซิสเพียงแค่อยากให้จูนขอโทษแค่นั้นเอง นี่คือสิ่งที่เธอต้องการมากที่สุด

อเล็กซิสถูกพาตัวออกจากห้องเยี่ยมก่อนคนอื่น เธอยืนรออีกสามคนที่กำลังเดินมาสมทบ นายตำรวจบรูซยืนอยู่ข้าง ๆ ตบบ่าเธอเบา ๆ เหมือนต้องการปลอบใจ

“เดี๋ยวพรุ่งนี้หนูก็ได้เจอพวกเขาใหม่ อย่าเศร้าไปเลย”

เธอพยักหน้า รู้สึกดีที่อย่างน้อยก็ยังมีคนใจดีหลงเหลืออยู่บ้าง “หนูขอถามเพียงแค่คำถามเดียวได้ไหมคะ”

“ถามมาเลยแม่หนู”

เด็กสาวยิ้มโล่งอกที่นายตำรวจคนนี้ไม่ได้เย็นชาเหมือนอีกสองคนที่เธอเจอบ่อยครั้ง

“พวกเราจะต้องทำอะไรบ้างเมื่อเข้าโปรแกรมบำบัด คุณพอทราบไหมคะ”

บรูซถอนหายใจ “ฉันตอบคำถามนี้ไม่ได้หรอกนะสาวน้อย เพราะว่าฉันไม่รู้จริง ๆ ขอโทษนะ”

“ไง” เวดทักเมื่อเดินมาถึง

“กลับได้แล้ว” นายตำรวจนำทาง พวกเขาเดินผ่านกลุ่มแอนโธนี่ที่กำลังจะเดินไปยังห้องสอบสวน

“โชคดีนะพวกนาย!” เวดตะโกนบอก พวกนั้นจึงหันมามองเขาทั้งกลุ่มเพราะไม่เข้าใจความหมายของเวด

“เดินต่อไป!” ตำรวจสาวผมทองเร่งแล้วชี้นิ้วมาที่เวด เตือนเขาไม่ให้พูดอะไรอีก

อเล็กซิสมองดูเด็กกลุ่มนั้นหายเข้าไปในห้องที่ว่า

“นายมันร้ายจริง ๆ” เธอศอกใส่เพื่อน

“ก็แค่เตือนเอง” เวดอ้าง

“หยุด หยุดเดี๋ยวนี้”

อเล็กซิสหันกลับไปยังห้องนั้น ดูเหมือนจะเกิดเรื่องอลหม่านขึ้นด้านใน มีเสียงกรีดร้องดังลอดออกมา เธอได้ยินเสียงพวกตำรวจตะโกนบอกใครสักคนให้หยุดทำการบางอย่าง ส่วนพวกเด็ก ๆ ที่เหลือต่างร้องโวยวาย พวกอเล็กซิสยืนมองอย่างอกสั่นขวัญหาย

“กลับ ๆ กลับเข้าห้องขังเดี๋ยวนี้” บรูซออกคำสั่ง แต่เด็กทุกคนยังคนยืนทื่อ ไม่ให้ความร่วมมือ มือของเขาหยิบวิทยุสื่อสารออกจากเอว

“เราต้องการกำลังเสริม มาที่ห้องสอบสวน ย้ำคำสั่ง เราต้องการกำลังเสริม มาที่ห้องสอบสวน!”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • Undisclosure    กลิ่นแปลก ๆ

    “...ฉันจำได้ว่ามีแสงจ้า จ้ามาก ๆ ตอนนั้นก้นยังไม่แตะเก้าอี้เลยด้วยซ้ำ เชื่อไหม จู่ ๆ ก็มองไม่เห็นอะไรเลย แสงมันสว่างจ้าจนต้องหลับตา เหมือนตาบอดอยู่ชั่วขณะ แล้วหน้าก็ร้อนไปหมด พวกตำรวจพยายามจะหยุดซอนย่า ฉันได้ยินเสียงปืนด้วย เธอคงพยายามจะหนี ฉันได้ยินแค่เสียงเท่านั้น เลยไม่ค่อยแน่ใจเท่าไรนะ รู้แต่ พวกตำรวจพยายามจะหยุด แต่ก็ยังไม่ทัน”“เล่ามาตั้งนาน สรุปแล้ว พลังพิเศษที่ว่าคืออะไรวะ” เวดถามจี้“แสงไง ก็บอกแล้วว่าเป็นแสงจ้า ๆ”“แสงอะนะ”“ใช่ แสง” แอนโธนี่ย้ำเวดหันมาหาเธอ “ไม่เข้าใจแฮะ แสงทำอันตรายคนเราได้ด้วยเหรอ”“คงเหมือนกับเวลาที่เรามองพระอาทิตย์ตอนเที่ยงไม่ได้ แสงมีความร้อนนะ” อเล็กซิสเดาก่อนหันกลับไปทางแอนโธนี่ “แบบนี้ใช่หรือเปล่า”“ใช่ ๆ ประมาณนั้นแหละ หรือไม่ก็...ซอนย่าอาจจะควบคุมแสงได้ หลังจากที่ทุกอย่างสงบ พอลืมตาได้ ฉันเห็นหลอดไฟแตกหมดเลย มีเด็กผู้หญิงสองคนได้รับบาดเจ็บ ผิวไหม้ แล้วก็ลืมตาไม่ขึ้น พวกเธอถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลแล้ว

    Last Updated : 2025-02-12
  • Undisclosure    คราบมนุษย์

    บรูซจับแขนเธอ “ทางนี้แหละ เรามีตู้โทรศัพท์ตั้งหลายที่ แม่หนู เธอลืมไปแล้วเหรอ ว่าฉันทำงานที่นี่”เขาพูดถูก แต่อเล็กซิสรู้สึกไม่ดีเลย เด็กสาวค่อย ๆ ดึงมือเขาออกอย่างสุภาพ “แล้วใครโทรมาเหรอคะ เรื่องด่วนที่ว่า เกี่ยวกับอะไร”“ถ้าเธอถามอีกรอบ ฉันจะตบให้หายสงสัยเลย เชื่อไหม”เขาถอดหน้ากากคุณลุงใจดีออกเรียบร้อยแล้ว อเล็กซิสใจสั่น เธอมองไปข้างหน้าซึ่งไม่ได้ทำให้เธอไว้ใจเขามากขึ้นเลย อย่างไรก็ตาม เด็กสาวพยักหน้า แต่พอนายตำรวจหันกลับไป เธอวิ่งหนีทันที“ช่วยด้วย”วัตถุแข็งบางอย่างกระแทกเข้ากับหลัง อาจเป็นไม้กระบอง ความเจ็บปวดเฉียบพลันทำให้เธอชะงักฝีเท้า นายตำรวจคว้าตัวเด็กสาวไว้ได้ทัน เขาปิดปากเพื่อกันไม่ให้เธอร้องแล้วลากตัวเธอกลับไป อเล็กซิสถูกจับโยนเข้าไปในห้องเก็บของ พอเธอเงยหน้าขึ้นจึงเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งถูกล่ามโซ่ทั้งแขนและขาติดกับกำแพง ที่ตามีผ้าปิดตาคาดไว้ ตรงปากมีเทปปิดทับเช่นกัน ผมสีดำของเธอหลุดลุ่ยออกจากเปียทั้งสองข้าง เด็กสาวมีรอยช้ำและรอยเลือดทั่วตัว สิ่งที่น่าสยดสยองกว่าอะไรทั้งห

    Last Updated : 2025-02-12
  • Undisclosure    อาชญากรในเครื่องแบบ

    ทั้งสองไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็นวายร้ายในคราบตำรวจจิตใจดี มือแข็งแรงข้างหนึ่งยึดข้อเท้าเธอไว้แล้วลากกลับมา อเล็กซิสทรงตัวไม่อยู่จึงหน้าคะมำล้มลงกับพื้น ครั้งนี้ คางฟาดกับพื้นไปด้วย เธอได้ชิมเลือดตัวเองจนได้ คาเมรอนโกรธเลือดขึ้นหน้า เขาใช้ไม้กระบองฟาดตัวเด็กสาวอย่างแรง ทุกแรงกระทบเจ็บไปถึงกระดูก นี่คงเป็นความรู้สึกของเวดในตอนนั้น อเล็กซิสยกแขนขึ้นป้องกัน สู้ไม่ถอย เธอได้กลิ่นเหงื่อของมัน และสุดท้าย เขานอนกดเธอไว้สำเร็จ มือสกปรกล้วงเข้าเสื้อชั้นในทันที เด็กสาวไม่สามารถร้องขอความช่วยเหลือได้อีกต่อไปเพราะถูกปิดปากไว้สนิท คาเมรอนยั้งมือชั่วครู่เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครได้ยินก่อนจะพยายามรุกล้ำเสื้อผ้าของเหยื่อต่อ“คาเมรอน ฉันว่าพวกเขาได้ยินว่ะ ถ้า...โจเซฟมา พวกเราตายแน่”“หุบปาก ไอ้ขี้ขลาด แกออกไปเช็กสิวะ ฉันขอสั่งสอนยัยตัวแสบนี่สักหน่อย”พวกคุณต้องได้ยินบ้างเซ่ อเล็กซิสหวังว่าตำรวจสองนายจะสังเกตเห็นหรือรับรู้ว่ามีอาชญากรรมอุบาทว์เกิดขึ้นในโรงพักที่ตัวเองประจำอยู่ มันเป็นเพียงความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ของเหยื่อหรือพวกเขาแค่เมินเฉยต่อเรื่

    Last Updated : 2025-02-12
  • Undisclosure    ไร้ปาฏิหาริย์

    อากาศวันนี้สดใส ปกติแล้วท้องฟ้าในหน้าร้อนมักเป็นแบบนี้เสมอ ปลอดโปร่งปราศจากเมฆสีดำ มีเพียงปุยเมฆสีขาวช่วยแต่งแต้มลวดลายบนพื้นนภาสีฟ้า เธอรู้สึกราวกับว่าไม่ได้เห็นท้องฟ้าแบบนี้มาเป็นแรมปี เหมือนวันเวลาที่ผ่านมา เธอเอาแต่นั่งจ้องเพดานโล่ง ๆ อยู่ในห้องขัง ไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวัน แสงอาทิตย์ด้านนอกเจิดจ้า โชคดีที่มีลมเย็นสบายพัดผ่าน แสงสีทองจึงทำได้เพียงส่งไออุ่นมากกว่าทำให้บรรยากาศร้อนอบอ้าว เพราะลมได้บรรเทาความร้อนไปแล้ว“Head homeward, little bird,Fly up high, Thou art free,Misery is no more,Time means not to thee”“ทำไมฉันถึงได้ยินเสียงคนร้องเพลง มีคณะประสานเสียงของโรงเรียนมาด้วยเหรอ”“เปล่า ครอบครัวโรมูลเลอร์ขอให้คณะประสานเสียงจากในโบสถ์มาร้องเพลงที่นี่ ร้องให้กับเด็กที่ตาย พวกเขาคิดว่า วิธีนี้จะช่วยนำพาจิตวิญญาณของเธอไปยังที่ที่ควรไป”“ไม่เคยได้ยินอะไรแบบนี้เลยแฮะ”ไบรซ์ยักไหล่ขึ้น “จะให้พวกเขาทำอะไรเพื่อคนตายล่ะ พวกเราไม่รู้วิธีสื่อส

    Last Updated : 2025-02-12
  • Undisclosure    การจากลา

    สิ่งแรกที่เธอเห็นคือรถตู้ตำรวจที่จอดรออยู่ แม้ว่ามันจะจอดไกลจากจุดที่เธอยืนอยู่มากก็ตาม แต่เพราะว่าเธอเห็นครอบครัวโรมูลเลอร์อยู่แถวนั้นด้วย สายตาเลยเหลือบไปเห็นเจ้าพาหนะที่จะพาเธอไปยังสถานที่หนึ่ง เมื่อพ่อแม่ของซอนย่าเห็นอเล็กซิส พวกเขาโน้มคอลงเหมือนจะกล่าวทักทาย และรีบเดินจากไปสองวันหลังจากเกิดเหตุการณ์นั้น บรูซกับคาเมรอนถูกส่งตัวไปยังศาลปกครองที่เมืองฟิวเจอร์ริสติก เมโทรโพลิสทันที เมืองเดียวกับที่นางพยาบาลสตีเว่นและครูโดบี้ส์ถูกส่งตัวไปสำเร็จโทษ อเล็กซิสได้ยินมาว่าสามีของเธอพาลูก ๆ ตามไปด้วย น่าสงสารทั้งคุณโดบี้ส์ และลูก ๆ ของพวกเขา เด็ก ๆ ยังเล็กเกินกว่าที่จะสูญเสียแม่ส่วนตัวฉัน ก็ยังเด็กเกินไปที่จะสูญสิ้นทุกอย่าง เธอไม่เคยลืมใบหน้าของซอนย่าในตอนนั้นเลย ผิวของเธอไหม้เกรียม ทำให้บางส่วนปริลอกออกมาจนเห็นเนื้อสดสีแดงข้างใน ดวงตาทั้งสองข้างไหม้ดำ ไม่ว่าเธออยากจะลืมภาพนั้นเท่าไร แต่อเล็กซิสรู้ดีว่าใบหน้าตอนตายของซอนย่าจะติดตัวเธอไปตลอด ยกเว้นแต่ว่า ลมหายใจเธอจะดับสิ้น“ลูกอยากได้อะไรเพิ่มหรือเปล่า” พ่อถาม เขายืนรออยู่กับแม่และเ

    Last Updated : 2025-02-12
  • Undisclosure    ปฐมกาลครั้งใหม่

    เขามองเธอแป๊บเดียวแล้วผลักเธอขึ้นรถ จากนั้นไปช่วยเฮลก้าจัดการกับเวด ทั้งสองช่วยกันลากเด็กหนุ่มขึ้นรถอย่างทุลักทุเล เป็นงานหินสำหรับพวกเขามาก เพราะเวดนั้นตัวโตกว่าคนทั้งคู่ และที่สำคัญ เขาขืนตัวสุดกำลัง “โอ๊ย ให้เวลามากกว่านี้หน่อยสิ ปล่อยสิวะ ไปไกล ๆ เลยแม่ง” แต่สุดท้ายเวดก็ถูกผลักเข้ามาจนได้ แถมยังล้มทับอเล็กซิสกับออสโล่ที่อยู่ข้างในด้วยเบลินดาเข้ามาเป็นคนสุดท้าย เธอเดินเข้ามาด้วยตัวเอง ไม่ต้องให้ใครลากเข้ามา ท่าทางสงบลงมากกว่าวันที่ถูกตัดสินว่ากระทำผิด เธอเป็นคนเดียวที่บอกลาทุกคนด้วยท่วงท่าสงบนิ่งและสง่างามกว่าใครเพื่อนประตูรถค่อย ๆ ปิดลงและพวกเขายังคงพยายามมองหาครอบครัวตัวเอง เมื่อประตูถูกปิดสนิท พวกเขาได้ยินแต่เสียงเรียกเท่านั้น“นี่...ฉันคิดว่าที่ผ่านมากำลังฝันอยู่เลยนะเนี่ย แบบหลับยาวเป็นอาทิตย์อะไรแบบนั้น” เวดสารภาพ “คิดว่า...มันต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดสักอย่างแหง ๆ ...”“ฉันอยากให้ใครสักคนตบหน้าฉันแรง ๆ แฮะ ฉันมันคนขี้เซา แม่ต้องตบหลังทุกครั้งเลยเพื่อปลุกให้ตื่น” ออสโล่เสริม หัวเราะเสียงแห้ง

    Last Updated : 2025-02-12
  • Undisclosure    โลกในกล่อง

    ชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังนั่งเช็กซองบุหรี่ที่บรรจุอยู่ในกระเป๋าทรงดัฟเฟิลทำจากหนังแท้อย่างดี ตัวกระเป๋าเป็นรุ่นพรีเมี่ยมออกแบบโดยดีไซเนอร์ชื่อดัง ฟลาเวีย นีโร พอนับหมดแล้วพบว่ายังเหลืออยู่ครบยี่สิบซอง เทียบจากครั้งก่อน แสดงว่าไม่มีใครขโมยไป“นับทำไมวะ ใช้ไม่ได้อยู่ดี”เจ้ากระเป๋าใบนี้ถูกนำมาใช้เฉพาะกิจเพื่อเก็บแพ็กบุหรี่ยี่ห้อ ‘เบสต์ อามี’ ที่เขาหวงแหน มันเป็นยี่ห้อบุหรี่ที่ดีที่สุดในโลกก็ว่าได้ (ถึงแม้ว่าจะยัดไส้พิเศษก็ตาม) มันเข้าคู่กับไฟแช็กแฮนด์เมดที่ทำจากทองคำขาวบริสุทธิ์ตกแต่งด้วยเพชรรูปไข่ขนาดเล็กรายล้อม บนตัวไฟแช็กมีอักษรย่อสลัก ‘บี.อาร์.’ เขาอยากจุดบุหรี่ขึ้นสูบเหลือเกิน อยากเห็นบุหรี่ในมือค่อย ๆ มอดไหม้พร้อมกับสูดควันศักดิ์สิทธิ์เข้าปอด แต่เมื่อนึกถึงผลที่จะตามมา เขาจำต้องเก็บมันไว้ในกระเป๋าเสื้อแทน หนทางที่จะได้สูบมันอีกครั้งอาจจะยังมีอยู่...หรือไม่มีวันนั้นแล้วก็ได้ พอคิดแบบนี้ เขาถอนหายใจด้วยความเสียดายของถ้าเลือกได้ เบนอยากสูบบุหรี่ให้หมดไปมากกว่าทิ้งมันไว้แบบนี้ บุหรี่พวกนี้ไม่สมควรถูกเก็บไว้ประหนึ่งของดูต่างหน้าในพ

    Last Updated : 2025-02-12
  • Undisclosure    หนุ่มขี้เซา

    เบนไม่มีโอกาสเห็นท้องฟ้าสีครามอีกเลยตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ เขาลุกขึ้น เก็บถาดแล้วทิ้งลงในกล่องที่เขียนแจ้งว่า ‘ถังขยะ’ จากนั้นเดินตามกลุ่มเด็กทั้งสามไป เขาอยากรู้จักเด็กคนนั้นตรงข้ามห้องอาหารมีจอสีดำขนาดยักษ์ติดอยู่ตรงกำแพง แต่ไม่มีข้อความอะไรประกาศทิ้งไว้ หรือพูดให้ถูกก็คือ หน้าจอนั้นดำมืดตั้งแต่วันที่เขาเข้ามาอยู่ที่นี่แล้วรัฐบาลใช้สถานที่แห่งนี้จัดโปรแกรมบำบัดสำหรับกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มต้องสงสัย ทว่าผู้คนที่อยู่ในนี้เรียกว่า ‘หอพัก’ ไม่มีการรักษาใด ๆ ทั้งนั้น ไม่มีพนักงาน หมอ หรือเจ้าหน้าที่เลยสักคน ไม่มีแม้แต่ตารางเวลากำหนดกิจกรรมต่าง ๆ พวกเขาทั้งหมดอาศัยอยู่กันอย่างอิสระ ทว่าเป็นอิสระในเชิงพิลึก ก็แค่สามารถทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจภายในคุกประหลาดแห่งนี้มากกว่าหอพักแห่งนี้เปรียบเสมือนกับชุมชนขนาดย่อม คนที่อยู่อาศัยสามารถใช้สิ่งอำนวยความสะดวกได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ สปา ฟิตเนสยิม สนามกีฬา ผับ เลานจ์ โรงภาพยนตร์ขนาดเล็กที่มักเล่นหนังโรแมนติกสมัยรุ่นคุณย่าคุณยาย เรียกได้ว่ามีทุกสิ่งที่สามารถพบเจอในโรงแรมหรู ยกเว้นแต่ว่าไม่มีห้องสมุดแ

    Last Updated : 2025-02-12

Latest chapter

  • Undisclosure    เขาเป็นใคร

    “เออฉันนี่...” เขาหันไปยิงอีกตัว ปืนในมือแสตนเนอร์อานุภาพร้ายแรงกว่าปืนปกติ เพียงนัดเดียวก็เป่าหัวหุ่นเหล็กกระจุย รอบตัวเริ่มชุลมุนหนักขึ้นทุกที เขารู้สึกเหมือนทุกคนเบียดเป็นวงล้อม กลุ่มทหารเปิดวงจรอะไรบางอย่างที่คล้ายกับสร้างเกราะที่มองไม่เห็นขึ้นมากันไม่ให้เขากับอเล็กซิสเป็นลูกหลง (แม้จะแส่หาเรื่องเข้ามาเอง) เมื่อพวกเขาทำลายบานเหล็กได้สำเร็จก็รีบพากันออกมาทั้งหมด“บ้าชะมัด ฉันบอกให้พวกเธอรอ แล้วเข้ามาได้ไง” แสตนเนอร์ตามมาเอ็ด ทั้งเขาและอเล็กซิสคล้องแขนแล้วก้มหน้า ทหารคนหนึ่งรีบดึงดาบในมือออกไปด้วยโดยไม่หันมามองว่าสีหน้าไมเคิลอาลัยมันแค่ไหน ดูเหมือนว่าหุ่นยนต์มีหน้าที่ปกป้องตึก เมื่อผู้บุกรุกออกไป มันกลับไม่ตาม ทั้งหมดมองกลับไปเห็นหุ่นเหล็กยืนสงบ ดวงตาสีแดงอับแสงลง“คุณจะโกรธพวกเราไม่ได้” เพื่อนสาวดูท่าจะรวบรวมความกล้าได้ก่อน “พวกคุณไม่บอกอะไรเราเลย ฉันอยากจะช่วยเบ็กกี้” อเล็กซิสระเบิดออกมาได้แป๊บเดียวเท่านั้น ท่าทางดั่งสิงโตเมื่อกี้หายกลายเป็นลูกแมวเมื่อเธอมองสภาพทหารบางคนที่รอดออกมา ร่างพวกเขาโชกเลือด ไมเคิลรู้ดี

  • Undisclosure    โดนจับได้

    กลุ่มทหารยกพลกันมาสองคันรถ ตัวรถถังกึ่งรถบรรทุกจุคนได้ราวยี่สิบ เขานับเมื่อทั้งหมดออกมาจากรถ บวกกับพลเดินเท้าอีกหยิบมือก็ได้สี่สิบกว่า ทั้งหมดสวมชุดป้องกันและอาวุธพร้อม ไมเคิลตัดสินใจดูเชิงอยู่ห่าง ๆ พวกเขากำลังจะบุกเข้าไปในตึกสูงเจ็ดชั้นซึ่งเมื่อก่อนน่าจะเป็นศูนย์บังคับการกลางของเขตราซา ตัวตึกเป็นทรงห้าเหลี่ยมขนาดกว้างพอดู ไมเคิลกับอเล็กซิสเล็งไว้ว่าจะเข้าไปหลังจากพักเหนื่อยแต่ถูกตัดหน้าเสียก่อน เจ้าหน้าที่รายหนึ่งถือแผ่นจอสกรีนแบบที่พวกเขาชอบพกกัน (มีไว้ครอบครองเพียงแค่ข้าราชการ) กดอะไรบางอย่างแล้วปรึกษากับเจ้าหน้าที่อีกคน สักพัก คนที่สองยกมือหมุนรอบหนึ่ง ทหารทุกนายหันหน้ามาพร้อมเพรียง“ระวังตัวให้มากที่สุด และพยายามหาตัวประกันให้เจอ ผู้ต้องสงสัยทุกรายขอให้จับเป็น แต่หากขัดขืน สังหารทิ้งได้ทันที เราจะไม่เสียกำลังพลของเราเพื่อแลกกับพวกมัน นอกจากปกป้องตัวประกัน คำสั่งของท่านซีโนฮอฟเป็นอันว่าที่สุด”ทั้งหมดยกมือขวาทาบอกตอบพร้อมกันว่า “ขอรับ!”เขามองหน้าอเล็กซิส “ซีโนฮอฟ เธอเคยได้ยินชื่อนี้ไหม”เพื่อนข้างตัวส่ายหน้า &ldqu

  • Undisclosure    เปิดใจ

    รสช็อกโกแลตในปากออกขมมากกว่าหวาน เขาคลี่ซองดูเห็นว่ามันเป็นรสดาร์ก หยิบผิดหรือนี่ อันที่จริงเขาน่าจะพอเดาที่มาอารมณ์หดหู่ของเธอได้ “มันไม่ใช่ความผิดของเธอนะ”อเล็กซิสยังคงไม่สบตา เขามองเธออย่างเข้าใจ เพราะความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการแพทย์ช่วยลบรอยแผลทุกอย่างออกจากตัวเธอ เขาจึงไม่อาจรู้ได้ว่าเธอถูกกระทำอะไรบ้าง มีเพียงรอยหมัดของหนุ่มผิวแทนคนนั้นที่ฝากไว้บนหน้า สิ่งเดียวที่เขาสังเกตเห็นคือเธอผอมลงและเงียบผิดปกติ มันมีบางอย่างในใจที่เธอเก็บไว้แล้วไม่บอกใคร เขารู้สึกเช่นนั้น เพราะท่าทางของเธอเหมือนกับแม่ยามคิดถึงพ่อ เอาแต่โทษตัวเอง หมกมุ่นกับความคิดร้ายต่าง ๆ นานา และแม้ปาสคาลจะปลอบเธอเท่าไร แม่ก็ไม่เคยสดใสขึ้นอีกเลยเขานั่งลง เผชิญหน้ากับอเล็กซิส “เธออยากมาที่นี่ ส่วนหนึ่งเพื่อหาร่องรอยเบ็กกี้ และอีกส่วนคือเธอไม่อยากเจอคนอื่นใช่ไหม”อเล็กซิสไม่ตอบ เขาไม่ชอบเวลาเธอเงียบแบบนี้เลย ปกติแล้ว มันควรเป็นตัวเขาสิ แต่ตั้งแต่เวดถูกพาตัวไปไหนก็ไม่รู้ จนอเล็กซ์งี่เง่าแล้วพวกเขาเลิกกัน แล้วมาเรื่องนี้เอง ไมเคิลไม่คิดว่าอเล็กซิสคนเดิมจะกล

  • Undisclosure    ค่ำคืนในราซา

    ฝนตกเหมือนไม่มีวันหยุด แม้ไมเคิลสวมชุดกันฝนไว้แต่มันไม่ได้สบายตัวเท่าไรนัก เพราะเมื่อขยับจะเกิดเสียงเสียดสี ทำไมตกกระหน่ำอย่างนี้วะ มันเหมือนกับไม่ใช่ฝน แต่เป็นมวลน้ำเทโครมลงบนหัว แถมยังรู้สึกว่าน้ำซึมผ่านเสื้อข้างใน เขาไม่ชอบให้ตัวเปียกเหนอะหนะ“ตกหนักชะมัด ตกหนักที่สุดเท่าที่เคยอยู่มาแล้ว” เรมีกอดอก ส่วนอเล็กซิสยืนรอเงียบ ๆ คนอื่นอาจหาว่าบ้าที่พวกเขาตัดสินใจลักลอบเข้าเขตราซาโดยใช้เวลาไตร่ตรองไม่ถึงนาทีดี ในเมื่อมีกฎห้ามไม่ให้เข้า แต่ใช่ว่าไม่มีคนทำ ตรงกันข้าม มีคนลักลอบเข้าไปเยอะแยะ เมื่อวานก่อน ไมเคิลกับเรมีเข้าไปในตลาดมือสองแล้วพบว่าพวกพ่อค้านำสินค้าราคาถูกมาจากเขตนี้ พวกเขาลักลอบเข้าไปหยิบของเหลือทิ้งมาขายต่อหรือใช้เองบ่อยครั้ง สบู่แชมพูอายุสองปี เศษเสื้อผ้า ทุกอย่างที่ยังไม่หมดอายุ ราคาของในตลาดจึงถูกกว่าในซูเปอร์ และเมื่อเขาบอกเรื่องนี้กับอเล็กซิส เธอต้องการตามหาเบ็กกี้ที่นี่เรมีมองนาฬิกาแล้วก้มตัวลงหยิบอิฐออกทีละก้อน ปากบ่นไป “เทสซ่าจะยอมให้หมอนั่นมาหรือเปล่า พักหลังทำตัวเป็นคุณแม่ขี้บ่นอยู่”ไมเคิลไม่คิดว่าเธอทำตัวเป็นคุณแม่หรอก เทสซ่าห่างไกลจากคำนี้มาก แต่เพราะเธอต้องทำหน้า

  • Undisclosure    ของฝากบนดวงตา

    เธอกลับเข้าไปในห้องนั้นอีกครั้ง อเล็กซิสพยายามปลุกสติตัวเอง เล็บของเบ็กกี้จิกลึกมากขึ้นทุกที เลือดไหลทะลักจากใต้ผิว ทุกอย่างช้าลงตรงข้ามกับความรู้สึกที่ทวีคูณ เล็บค่อย ๆ ฉีกออกจากกัน บางนิ้วฝังแล้วกรีดลงบนเนื้อเธอ หนังค่อย ๆ ปริแยกออกพร้อมลาวาสีเลือดเอ่อล้น กล้ามเนื้อขึ้นเป็นเส้นหนาเกร็งไปจนถึงขมับ ตัวเธอถูกยกขึ้นสูงแล้วดิ่งลงปะทะกับพื้น ริมฝีปากชิมน้ำสกปรกและคราบเลือด ใบหน้าถูไถลไป...ตื่น!เธอลืมตาโพล่ง ความทรงจำชัดขึ้นทุกทีจนอเล็กซิสแทบไม่อยากนอน แต่แล้วจำต้องหลับตาอีกรอบเพราะเจ็บเบ้าตาก่อนจะสูดอากาศเข้าไปเต็มปอดก่อนไอสำลักออกมา มือใครสักคนแปะอยู่บนศีรษะแล้วเลื่อนมาจับไหล่เธอไว้ อเล็กซิสลุกขึ้นนั่งทันที ตกใจ พอมองเต็มตาจึงเห็นดวงตาสีฟ้าเข้มจ้องกลับมา“ไมเคิล...”คงเรียกว่าเป็นเด็กหนุ่มผมเงินไม่ได้แล้ว เพราะเฉดผมสีน้ำตาลเริ่มโผล่ออกมามากขึ้น มุมปากของเขาเชิดขึ้น อมยิ้มบาง ๆ “เธอผอมไปนะ”ทันใดนั้น อเล็กซิสโผเข้ากอดเขา เธอไม่ได้ฝันไป และข้างหลังไมเคิลคือเรมีที่นั่งมองพวกเขาพร้อมกับรอยยิ้มอบอุ่น เธอกวาดตามอง

  • Undisclosure    หลักสูตรเร่งด่วน

    เธอนิ่งคิดเมื่อเดสซิเรถามคำถามนี้ เพราะเหตุนี้วันนี้เธอจึงตัดสินใจจะพบไมเคิล แต่ขณะเดียวกันก็ไม่แน่ใจความคิดตัวเอง “ก็...”ข้างหลังตึกมีพื้นที่โล่ง ๆ ขนาดเท่าครึ่งสนามบาสเกตบอล เอมอนสวมเสื้อกล้ามเผยผิวแทนแกว่งแขนไปมา เขาพยักหน้าให้หญิงสาวข้างอเล็กซิสแต่นัยน์ตานั้นเป็นประกายปิดบังความสนใจของตัวเองไม่อยู่ แม้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะอธิบายเป็นคำพูดยาก สิ่งหนึ่งที่อเล็กซิสมั่นใจคือ เอมอนหลงรักเดสซิเร เขาไม่ได้มองเธอเป็นเพื่อน-กิน-กัน-มัน-ดีแต่อย่างใด แต่ฝ่ายหญิงคิดอย่างไร เธอเดาไม่ออกเด็กสาวกวาดตามองโดยรอบแต่ไม่เห็นอุปกรณ์ใด ๆ เลยนอกจากนวมสีน้ำเงิน“นายนี่นะ จะฝึกสาว” เดสซิเรกอดอก ทำเสียงดูแคลน “แน่ใจรึ”ชายหนุ่มยักไหล่ “ก็...ฉันทำร้ายผู้หญิงไม่ลงเธอก็รู้” เขาโยนนวมชกให้อเล็กซิส “ดังนั้น เริ่มบทเรียนด้วยการโดนตัวฉันให้ได้ดีกว่า”เดสซิเรผิวปาก ทึ่ง “เข้าใจคิดนี่”ทว่าคนที่ถูกฝึกกลับผิดหวัง อเล็กซิสอยากให้เขาทำให้เธอแข็งแกร่ง“ไม่เอาน่า อย่าทำหน้าเสียใจสิ จ

  • Undisclosure    ยาพิษ

    ผ้าห่มสีขาวสะอาดส่งกลิ่นหอมจากการอบความร้อนฆ่าเชื้อ เธอพยายามลุกขึ้นแต่เหมือนติดอยู่ในร่างนี้ เสียงกรีดร้องของเอเลน่าดังเข้าโสตประสาทประหนึ่งมีพลังสั่นคลอนสะเทือนไปจนถึงแกนหูข้างใน อเล็กซิสหันไปเห็นเธออยู่ในสภาพมัดติดกับเตียง เธอร้องระบายความเจ็บปวดข้างในจนขากรรไกรแทบฉีกออกจากกัน “ฆ่าฉันซะ ฆ่าฉันซะ” ราวเหล็กบนเตียงกระตุกรัว อเล็กซิสมองดูเหมือนเตียงจะถล่มตามแรงเคลื่อนไหว เสียงหวีดร้องกรีดหัวใจจนอยากตะโกนบอกให้พวกเขา...ฆ่าเธอซะ ทำตามที่เธออ้อนวอน“เราจะทำอย่างไรดีคะคุณหมอ” “ทำตามที่เธอปรารถนา เราช่วยเธอไม่ได้แล้ว” อเล็กซิสมองทรอย เห็นแต่เพียงแผ่นหลังและผมสีเทา พวกเขาเข็นเตียงเธอออกไปตามคำสั่ง ไม่นานเสียงเอเลน่าสงบลง และนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอเห็นเด็กสาว“มันอยู่ในตัวเธอด้วย”เธอส่ายหน้า “ฉันกำลังจะตายเหมือนเธอเหรอคะ”ทรอยไม่ตอบ“มันอยู่ในตัวเธอ”“มันอยู่ในตัวเธอ”อเล

  • Undisclosure    อเล็กซิส

    “อย่าปล่อยเด็ดขาด”น้ำตาเด็กสาวไหลรินหยดลงบนแขน ความเค็มของน้ำตาทำให้แผลแสบร้อนนิด ๆ นิ้วของเบ็กกี้จิกลึกลงบนแขนจนเลือดไหลซิบ อเล็กซิสกัดฟันทนความเจ็บปวดทุกอย่าง ขืนตัวรั้งเพื่อนไว้ไม่ให้พวกมันเอาตัวไปได้ ชายสองคนต่างพยายามแยกพวกเธอออกจากกันราวกับเล่นชักเย่อ “ใช้มันซะ เบ็กกี้ ได้โปรด” เธอขอร้อง “ได้โปรด...” เด็กสาวหวีดร้อง เล็บที่จิกอยู่กับเนื้อฉีกขาดฝังอยู่ข้างในเนื้อของเธอ บางนิ้วมีเล็บแข็งเกินจึงเฉือนฉวัดขูดผิวเป็นรอยยาว เสียงดังตุบกลางหลังเด็กสาว เบ็กกี้ล้มฟุบลงกับพื้น ยูฟุนแบกร่างเธอออกไปพร้อมกับเด็กอีกคน“แค่นี้ก็สิ้นเรื่อง” เกรกอรี่พึมพำแล้วเหวี่ยงตัวอเล็กซิสลงไปกองกับพื้นที่เต็มไปด้วยน้ำโสโครกผสมเลือดเจิ่งนอง เธอตะเกียกตะกายจะลุกขึ้นไม่ทันไรก็ล้มลง เด็กแฝดที่ยังเหลืออีกคนถูกโขกกับกำแพงดังจนคล้ายกับกะโหลกแตก ร่างอ่อนปวกเปียกไถลครูดลงเหมือนตุ๊กตาไร้ชีวิต อเล็กซิสปากสั่น เกรกอรี่ย่างสามขุมแล้วกดหน้าเธอลงกับพื้นก่อนจะมัดมือไพล่หลัง เธอดิ้นจนแขนเสียดสีกับเชือก รอยแผลที่เบ็กก

  • Undisclosure    สภาวะไร้น้ำหนัก

    อาคุสะนอนอยู่บนเตียงนิ่งเหมือนไม่ได้ยินใครทั้งนั้น แต่สิ่งที่ทำให้เธอตะลึงมากที่สุดคือออร่าหลากสีที่ล้อมเป็นรัศมีรอบตัวเขา พอเธอเขยิบเข้าไป อเล็กซ์ดึงแขนรั้งไว้ทันที “อย่า มันอันตราย”ชายหนุ่มเกาแก้มตัวเอง “ฉันโดนแล้ว มันเหมือนกับพลังของเขากระจายรอบตัว ถ้าเธอเข้าไปในรัศมีนั้นจะเหมือนคนบ้า ทั้งร้องไห้ หัวเราะ ด่าทุกสิ่ง ฉันใช้เวลาเป็นชั่วโมงกว่าจะสงบลงได้”หญิงสาวเขยิบถอยหลังทันที ออร่าที่พุ่งออกมาทำให้อาคุสะเหมือนกับเจ้าชายนิทราต้องสาปประมาณนั้น “มันเกิดอะไรขึ้น เพราะแบบนี้ใช่ไหม พวกนายถึงไม่ส่งข่าวมา”เขาพยักหน้า ชายหนุ่มเชื้อเชิญให้เธอหาที่นั่งเอง ส่วนเขาเดินเก็บของผ่านหน้าไปมา ปากเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น “พวกเราชนะเควสทั้งสองระดับ วันต่อมาระดับสามเปิด พวกเราก็เลยลอง”“บ้าไปแล้ว” เทสซ่าร้อง“ก็จริง” เขาหัวเราะ เธอไม่ได้เห็นเสียงหัวเราะของเขามานานแล้วตั้งแต่เบนจากไป หนุ่มผมดำผู้นี้มีลักษณะเหมือนคนหลายบุคลิก บางครั้งยียวน บางครั้งเงียบขรึม บางครั้งกราดเกรี้ยว “อาคุสะเกือบตาย

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status