Home / แฟนตาซี / Undisclosure / อาชญากรในเครื่องแบบ

Share

อาชญากรในเครื่องแบบ

last update Last Updated: 2025-02-12 15:19:54

ทั้งสองไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็นวายร้ายในคราบตำรวจจิตใจดี มือแข็งแรงข้างหนึ่งยึดข้อเท้าเธอไว้แล้วลากกลับมา อเล็กซิสทรงตัวไม่อยู่จึงหน้าคะมำล้มลงกับพื้น ครั้งนี้ คางฟาดกับพื้นไปด้วย เธอได้ชิมเลือดตัวเองจนได้ คาเมรอนโกรธเลือดขึ้นหน้า เขาใช้ไม้กระบองฟาดตัวเด็กสาวอย่างแรง ทุกแรงกระทบเจ็บไปถึงกระดูก นี่คงเป็นความรู้สึกของเวดในตอนนั้น อเล็กซิสยกแขนขึ้นป้องกัน สู้ไม่ถอย เธอได้กลิ่นเหงื่อของมัน และสุดท้าย เขานอนกดเธอไว้สำเร็จ มือสกปรกล้วงเข้าเสื้อชั้นในทันที เด็กสาวไม่สามารถร้องขอความช่วยเหลือได้อีกต่อไปเพราะถูกปิดปากไว้สนิท คาเมรอนยั้งมือชั่วครู่เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครได้ยินก่อนจะพยายามรุกล้ำเสื้อผ้าของเหยื่อต่อ

“คาเมรอน ฉันว่าพวกเขาได้ยินว่ะ ถ้า...โจเซฟมา พวกเราตายแน่”

“หุบปาก ไอ้ขี้ขลาด แกออกไปเช็กสิวะ ฉันขอสั่งสอนยัยตัวแสบนี่สักหน่อย”

พวกคุณต้องได้ยินบ้างเซ่ อเล็กซิสหวังว่าตำรวจสองนายจะสังเกตเห็นหรือรับรู้ว่ามีอาชญากรรมอุบาทว์เกิดขึ้นในโรงพักที่ตัวเองประจำอยู่ มันเป็นเพียงความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ของเหยื่อ

หรือพวกเขาแค่เมินเฉยต่อเรื่องนี้กันแน่

หัวใจของเธอเกือบจะระเบิดออกมาเมื่อได้ยินคำพูดสกปรกที่ออกมาจากปากเน่า ๆ ของมัน อเล็กซิสไม่อาจฟังถ้อยคำน่าเกลียดต่าง ๆ นานาที่คาเมรอนวางแผนจะทำกับเธอได้ เธอนึกถึงครอบครัวแล้วร้องไห้ หยาดน้ำตารดลงบนมือหยาบช้า เขาเริ่มถอดกางเกงของเธอ แต่โชคดีที่มันเป็นกางเกงยีนทรงสกินนี่ที่ถอดยากกว่าปกติ “หยุดใส่กางเกงสกินนี่ได้แล้วสาว ๆ เพื่อสุขภาพของคุณเอง” เธอเคยอ่านบทความนี้ในหนังสือพิมพ์ แต่มันอาจช่วยปกป้องคุณจากการถูกข่มขืนได้ ถ้าเธอรอดไปได้ เธอสาบานว่าจะภักดีต่อกางเกงยี่ห้อเล็กซี่ไปจนตาย

อเล็กซิสยกแขนที่บาดเจ็บขึ้นสู้สุดฤทธิ์ คาเมรอนยังคงฟาดและตบเธอเหมือนระบายอารมณ์เล่น ๆ

“ไอ้บ้า เด็กจะตายเอา” บรูซเตือน

“ฉันจะเอากับศพมันนี่แหละ”

“พอแล้ว คาเมรอน”

“มีใครโผล่หัวมาเหรอไงวะ”

“เปล่า ไม่ได้ยินเสียงไร”

“แกก็เอาอีนั่นซะทีสิ”

ราวกับเป็นทาสเมื่อหลายพันปีก่อน ผู้มีอำนาจไม่ใช่แค่ทำลายชีวิตเธอ แต่ยังลดระดับความเป็นมนุษย์ในตัวเธอด้วย จะมีเหยื่ออีกกี่คนที่ถูกพวกเลวระยำพวกนี้ปฏิบัติราวกับเป็นสิ่งของไร้ค่า

“ฉันไม่อยากเอากับศพโว้ย” บรูซจับไหล่คาเมรอนเพื่อหยุดไม่ให้เขาทำร้ายเด็กสาวจนถึงตาย พวกเขาปล่อยให้อเล็กซิสมีเวลาได้หายใจ ความเจ็บปวดครอบงำไปทั่วร่าง ทั้งสองคนทะเลาะกันเอง

“เอาเธอกลับไปห้องขังก่อน ถ้าพวกมันนั้นมาเห็น พวกเราตายแน่”

นี่คือนรกบนดินเหรอ อเล็กซิสพยายามจะคลานหนี

“ไม่เร็วเท่าไรนะ” คาเมรอนดึงผมเธอไว้ “มาช่วยฉันถอดไอ้กางเกงเวรนี่ทีสิวะ”

“หยุดได้แล้วคาเมรอน โจเซฟกับเฮลก้าอาจจะไม่ได้ยิน แต่อย่าลืมว่าไซลาสกับโรเจอร์อาจจะได้ยินก็ได้!”

ปัง!

แสงปาฏิหาริย์สาดส่องเข้ามาในห้องพร้อมกับที่ร่างสัตว์ร้ายที่ชื่อคาเมรอนลอยลิ่วไปกระแทกกำแพงฝั่งตรงข้ามเพราะถูกลูกถีบเข้าอย่างจัง บทสนทนานั้นเงียบลงทันที

บรูซผงะ เมื่อเห็นโจเซฟจัดการเพื่อนตัวเองไป

“พวกแกทำบ้าอะไรวะ”

อเล็กซิสได้ยินเสียงนายตำรวจหนุ่ม แต่เธอมองไม่เห็นเขา “ช่วย...ด้วย” เด็กสาวได้แต่ร้องขอความช่วยเหลือ

“เซฟ ใจเย็น ๆ สิวะ ค่อย ๆ คุยกันดีกว่า พวกเราสนุกกับเด็กสองคนนี้ด้วยกันก็ได้นะ นายว่าดีไหมล่ะ” คาเมรอนค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน พยายามจะเจรจากับเพื่อนอีกคน

“พวก...แก...ทำบ้าอะไรวะ!” มันไม่ใช่คำถาม อเล็กซิสค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบาก เธอเกาะขาโต๊ะราวกับเป็นขอนไม้ในทะเล

“ถ้าแกไม่เข้าใจก็อย่าโกรธฉันละกัน” คาเมรอนเอื้อมมือไปหยิบปืนแต่ช้าเกินไป โจเซฟยิงไปหนึ่งนัด กระสุนเจาะเข้าที่ต้นขา ชายร่างเปลือยล้มลงร้องโหยหวนเหมือนสุนัขข้างถนน

บรูซ จอมขี้ขลาด ยกมือสองข้าง ไม่กล้าสู้ “ไอ้เวรนี่มันบังคับฉัน!” แต่โจเซฟไม่เชื่อ กระสุนอีกนัดดังขึ้น บรูซล้มลงทับตัวคาเมรอน โจเซฟตรงเข้าฟาดไม้กระบองใส่เพื่อนตัวเองจนเลือดกระเซ็นไปทั่วตัว ดวงตาเย็นชาสีฟ้าคู่นั้น ในเวลานี้ละลายกลายเป็นทะเลเพลิง

“แก ควร ปก ป้อง พวก เขา ไม่ ใช่ ทำ ร้าย พวก เขา ทำ ได้ ไง วะ”

เขายั้งมือตัวเอง ปล่อยบรูซและคาเมรอนที่นอนใกล้ตายทิ้งไว้เพื่อหันมาดูเหยื่อสาว ใบหน้าของโจเซฟเต็มไปด้วยหยดเลือดกระเซ็น อเล็กซิสที่เห็นเหตุการณ์อยู่ตลอดกลัวถึงขีดสุด เข้าใจแล้วว่าทำไมบรูซดูพะวงว่าคนคนนี้จะได้ยินเสียง เขาตัวสูงใหญ่และมีกำลังมากที่สุดจนขนาดสองคนนี้สู้ไม่ได้ และเป็นโชคดีที่เขาไม่เข้าร่วมกับพวกเวรระยำสองตัวนี้ กระนั้นเธอยังคงกลัว จึงมุดลอดใต้โต๊ะ อเล็กซิสตกอยู่ในอาการหวาดผวาอย่างรุนแรง กลัวทุกสิ่งแม้กระทั่งคนช่วยชีวิต

“เกิดอะไรขึ้น” คู่หูสาวของเขาวิ่งเข้ามาแล้วยกมือปิดปากตัวเองเมื่อเห็นร่างบรูซกับ

คาเมรอนนอนจมกองเลือด

“เฮลก้า พวกเขาพยายามที่จะ...” โจเซฟหลบตาเด็กหญิง “ดูเอาเองเถอะ”

“สารเลว!” เฮลก้าด่าอยู่สองสามคำ จากนั้นเอื้อมมือมาที่อเล็กซิสที่แอบอยู่ใต้โต๊ะ พอเห็นท่าทางเป็นห่วงเป็นใย อเล็กซิสจึงกล้าออกมาจากที่กำบังชั่วคราว ตำรวจสาวโอบกอดเด็กสาวด้วยท่าทางปกป้อง “ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไรแล้วนะ” ความอ่อนโยนแรกที่เธอมอบให้กับผู้ที่ถูกจับกุม อเล็กซิสค่อย ๆ เหลือบตามองผู้ช่วยชีวิต แต่เขายังคงหลบตาเธอ ท่าทางที่เขาทำเวลาเจอพวกวัยรุ่นที่ถูกจับ วินาทีนั้น อเล็กซิสเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงทำหน้านิ่งแบบนั้นตลอดเวลา

ปกป้องไม่ใช่ทำร้าย

“ฉันจะปลดโซ่ออก แต่เธอต้องสัญญากับฉันนะว่าจะไม่ทำอันตรายพวกเรา ฉันจะส่งเธอไปโรงพยาบาล ครอบครัวของเธอจะไปที่นั่นด้วย ตกลงไหม” เขาพูดกับซอนย่าที่ถูกล่ามไว้อยู่

“เซฟ เด็กคนนั้นอันตรายกว่าที่คิดนะ” เฮลก้าค้าน

“เด็กได้รับบาดเจ็บ เธอรู้ว่าฉันหมายความว่ายังไงเฮลก้า ไม่น่าให้ไอ้เวรสองตัวนี้เฝ้าเลย...ถ้าฉันรู้ว่าพวกมันเป็นปีศาจในคราบมนุษย์ละก็”

อเล็กซิสเห็นเขาค่อย ๆ ปลดโซ่ออกอย่างระมัดระวังมือ เหมือนกลัวว่าจะทำให้ซอนย่าเจ็บ พอโซ่หลุดออกจากตัว ซอนย่าล้มลงในอ้อมกอดนายตำรวจหนุ่ม เขาปลดผ้าปิดตาและดึงเทปออกจากปากเธอเบา ๆ ซอนย่ามองไปรอบ ๆ เหมือนหาอะไรบางอย่าง จนมาหยุดที่อเล็กซิสและเฮลก้า

“เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม” เด็กสาวถามเสียงแหบแห้ง

อเล็กซิสพยักหน้าช้า ๆ น้ำตาไหลเงียบ ๆ

“ฉันได้ยิน...เธอ...พยายาม...ช่วยฉัน...”

“ไม่ต้องพูดแล้วสาวน้อย ฉันจะพาเธอไปหาหมอนะ อย่ากลัวไปเลย คนพวกนั้นทำอะไรเธอไม่ได้อีกแล้ว”

เด็กสาวหัวเราะทั้งน้ำตา ทันใดนั้น เธอเงยหน้ามองไปยังหลอดไฟในห้อง

“เซฟ!” เฮลก้ากดศีรษะอเล็กซิสลงกับอกของตัวเองทันที ทุกอย่างเงียบฉับพลัน ความร้อนเลียวาบทั่วแขน พร้อมกับเสียงร้องเจ็บปวด เป็นเวลากว่าหลายนาทีกว่าที่ตำรวจสาวจะยอมปล่อยให้อเล็กซิสเงยหน้าขึ้นดูว่าเกิดอะไรขึ้น หลอดไฟสองหลอดแตกคาเพดาน แขนทั้งสองข้างของเฮลก้าแดงเถือกเหมือนถูกแดดเผารุนแรง เมื่ออเล็กซิสมองไปที่โจเซฟ ใบหน้าของเขาซีกหนึ่งแดงเหมือนกับแขนของเฮลก้า ส่วนซอนย่านอนตายในอ้อมแขนที่แดงเถือก ใบหน้าของเด็กสาวมีรอยไหม้รุนแรง แต่ที่น่ากลัวคือดวงตาเหมือนถูกไฟจี้ทั้งสองข้าง มันบอดสนิท รวมทั้งลมหายใจของเธอด้วย ไม่มีใครได้รับอันตรายร้ายแรงถึงขั้นชีวิตหรือพิการ ยกเว้นโจเซฟที่เหมือนจะได้รับบาดเจ็บคล้ายไฟลวกหนักกว่าคนอื่น อเล็กซิสมองไม่เห็นว่าซอนย่าทำอะไรก็จริง แต่เธอรับรู้ว่ามันเป็นแบบไหน

“พระเจ้าช่วย! เซฟ นายเป็นอะไรหรือเปล่า” เฮลก้าตกใจกับสภาพคู่หูหนุ่ม

เขาส่ายหน้า ไม่ได้สนใจผิวแดงไหม้น่ากลัวที่แขนเลยสักนิด “เธอฆ่าตัวตายแล้ว” ทั้งสองมองหน้ากัน เหมือนจะพูดไม่ออกไปชั่วขณะ “เราต้องรายงานบอส ฉันจะเรียกไซลาสกับโรเจอร์มาช่วยจัดการไอ้เวรพวกนี้ ส่วนเธอพาเด็กคนนั้นกลับห้องขัง”

“แต่เธอก็บาดเจ็บนะ”

“เอาที่เธอเห็นควร อ้อ...เฮลก้า เธอต้องติดต่อครอบครัวโรมูลเลอร์กับครอบครัวเดวิสด้วย”

“อย่า” อเล็กซิสโพล่งออกมา

“อะไร” เขาดูผงะ

“พวกเขาเป็นห่วงฉันมากพอแล้ว” อเล็กซิสบอก แม่...แม่ไม่เป็นอันทำอะไรแน่

เฮลก้าส่ายหน้า “ยังไงพวกเขาต้องรู้อยู่ดี มากับฉันเถอะ เดวิส”

อเล็กซิสหมดสิ้นกำลังทุกอย่าง แม้แต่เพื่อคร่ำครวญ แม้น้ำตายังคงไหลเอื่อย ๆ อาบแก้มอยู่ก็ตาม ซอนย่า...ฆ่าตัวตาย ไฟโมหะลุกไหม้อยู่ภายในใจเด็กสาว ในหัวมีแต่คำถามว่า ‘ทำไม’ มากมาย ลึก ๆ แล้ว อเล็กซิสเข้าใจเหตุผลของซอนย่าที่ตัดสินใจเช่นนี้ คนพวกนั้นรังแกซอนย่าในสภาพนั้น ถูกล่ามโซ่ ไร้ซึ่งหนทางสู้ เพียงแค่นึกก็เหมือนเห็นทุกอย่าง อเล็กซิสรู้สึกเหมือนมีก้อนอาเจียนไหลขึ้นมาจากคอ เธออยากจะอ้วกออกมา

เฮลก้าพาเธอไปยังห้องพยาบาล แขนทั้งสองข้างของอเล็กซิสเต็มไปด้วยรอยช้ำและแผลเล็ก ๆ มากมาย ตำรวจสาวนึกอยากส่งเธอไปโรงพยาบาลแต่เปลี่ยนใจไม่พาไป อเล็กซิสมองดูตัวเองในกระจก เธอไม่ใช่อเล็กซิสคนเดิมที่ตัวเองรู้จักอีกแล้ว เด็กผู้หญิงที่อยู่ในกระจกนั้นอยู่ในสภาพที่เลวร้ายที่สุด ทั้งร่างกายและจิตใจ

“พระเจ้า เกิดอะไรขึ้น” ออสโล่ถามทันทีที่เห็นเธอกลับมา เวดกับเบลินดาเพิ่งตื่น พอทั้งสองเห็นสภาพอเล็กซิสต่างอ้าปากค้างด้วยกันทั้งคู่

“ทำไมต้องทรมานเธอด้วย” เพื่อนนักกีฬาวิ่งเข้าหาลูกกรง ยื่นแขนชูกำปั้นใส่ตำรวจสาว “คุณทำไปเพื่ออะไร!”

“เปล่า เธอไม่ได้ทำ” อเล็กซิสบอกเขา

เฮลก้าส่ายหน้าเบื่อหน่ายคำต่อว่าของเวด พออเล็กซิสเข้าห้องขังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หญิงสาวเดินจากไปทันที เวดประคองเธออย่างระมัดระวังราวกับอเล็กซิสเป็นถ้วยกระเบื้องเคลือบ “เป็นอะไรไหม ทำไมพวกเขาไม่ส่งเธอไปโรงพยาบาล”

“เธอมองว่ามีแค่รอยช้ำกับแผลเล็ก ๆ เลยขอดูอาการก่อน” อเล็กซิสอวดแขนที่เต็มไปด้วยรอยแผลและยาให้เพื่อนดู “นายมีเพื่อนแล้วล่ะ เวด”

“เขาทำเหรอ” ออสโล่ขมวดคิ้ว “บรูซใช่ไหม”

อเล็กซิสพยักหน้า “ซอนย่าตายแล้ว ถูกล่ามโซ่ไว้ในห้องเก็บของ มีตำรวจเฝ้าเธออยู่ และ

บรูซกับเวรยามคนนั้น...”อเล็กซิสหยุด ไม่อยากพูดถึงมัน

“พวกเขาปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไง อเล็กซ์...แล้วเธอ...”

อเล็กซิสส่ายหน้าให้เวด “พวกเขาเอาแต่ตี...ไว้ค่อยเล่าทีหลังได้ไหม ฉันไม่ไหวแล้ว”

เวดกับออสโล่พยักหน้า “ได้เลย เอาที่เธอสบายใจก่อน” เด็กหนุ่มทั้งสองช่วยกันจับเธอนั่งลงช้า ๆ อเล็กซิสรับรู้ความห่วงใยของเพื่อนทั้งสองเป็นอย่างดี เธอนึกขอบคุณในใจ

“ฉันไม่ง่วงแล้วล่ะ เธอนอนบนตักฉันก็แล้วกันนะ นอนบนพื้นไม่ดีหรอก” เวดเสนอ

“ไม่เป็นไร นอนได้”

“ไม่หรอก ๆ เขาพูดถูกนะ ตอนนี้เธอบาดเจ็บอยู่”

“ก็ได้ ขอบคุณพวกนายทั้งสองมากนะ”

ทันทีที่อเล็กซิสปิดตาลง เธอเอนศีรษะนอนบนตักของเวดในที่สุด ขณะนั้นนึกถึงเสียงคนที่สนทนากันเมื่อคืนก่อนได้แล้ว

“อย่าแตะต้องพวกเขานะ”

“พวกเธอจะมาแทนไหมล่ะ”

สองคนนั้น คือ บรูซกับครูโดบี้ส์นี่เอง

Related chapters

  • Undisclosure    ไร้ปาฏิหาริย์

    อากาศวันนี้สดใส ปกติแล้วท้องฟ้าในหน้าร้อนมักเป็นแบบนี้เสมอ ปลอดโปร่งปราศจากเมฆสีดำ มีเพียงปุยเมฆสีขาวช่วยแต่งแต้มลวดลายบนพื้นนภาสีฟ้า เธอรู้สึกราวกับว่าไม่ได้เห็นท้องฟ้าแบบนี้มาเป็นแรมปี เหมือนวันเวลาที่ผ่านมา เธอเอาแต่นั่งจ้องเพดานโล่ง ๆ อยู่ในห้องขัง ไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวัน แสงอาทิตย์ด้านนอกเจิดจ้า โชคดีที่มีลมเย็นสบายพัดผ่าน แสงสีทองจึงทำได้เพียงส่งไออุ่นมากกว่าทำให้บรรยากาศร้อนอบอ้าว เพราะลมได้บรรเทาความร้อนไปแล้ว“Head homeward, little bird,Fly up high, Thou art free,Misery is no more,Time means not to thee”“ทำไมฉันถึงได้ยินเสียงคนร้องเพลง มีคณะประสานเสียงของโรงเรียนมาด้วยเหรอ”“เปล่า ครอบครัวโรมูลเลอร์ขอให้คณะประสานเสียงจากในโบสถ์มาร้องเพลงที่นี่ ร้องให้กับเด็กที่ตาย พวกเขาคิดว่า วิธีนี้จะช่วยนำพาจิตวิญญาณของเธอไปยังที่ที่ควรไป”“ไม่เคยได้ยินอะไรแบบนี้เลยแฮะ”ไบรซ์ยักไหล่ขึ้น “จะให้พวกเขาทำอะไรเพื่อคนตายล่ะ พวกเราไม่รู้วิธีสื่อส

    Last Updated : 2025-02-12
  • Undisclosure    การจากลา

    สิ่งแรกที่เธอเห็นคือรถตู้ตำรวจที่จอดรออยู่ แม้ว่ามันจะจอดไกลจากจุดที่เธอยืนอยู่มากก็ตาม แต่เพราะว่าเธอเห็นครอบครัวโรมูลเลอร์อยู่แถวนั้นด้วย สายตาเลยเหลือบไปเห็นเจ้าพาหนะที่จะพาเธอไปยังสถานที่หนึ่ง เมื่อพ่อแม่ของซอนย่าเห็นอเล็กซิส พวกเขาโน้มคอลงเหมือนจะกล่าวทักทาย และรีบเดินจากไปสองวันหลังจากเกิดเหตุการณ์นั้น บรูซกับคาเมรอนถูกส่งตัวไปยังศาลปกครองที่เมืองฟิวเจอร์ริสติก เมโทรโพลิสทันที เมืองเดียวกับที่นางพยาบาลสตีเว่นและครูโดบี้ส์ถูกส่งตัวไปสำเร็จโทษ อเล็กซิสได้ยินมาว่าสามีของเธอพาลูก ๆ ตามไปด้วย น่าสงสารทั้งคุณโดบี้ส์ และลูก ๆ ของพวกเขา เด็ก ๆ ยังเล็กเกินกว่าที่จะสูญเสียแม่ส่วนตัวฉัน ก็ยังเด็กเกินไปที่จะสูญสิ้นทุกอย่าง เธอไม่เคยลืมใบหน้าของซอนย่าในตอนนั้นเลย ผิวของเธอไหม้เกรียม ทำให้บางส่วนปริลอกออกมาจนเห็นเนื้อสดสีแดงข้างใน ดวงตาทั้งสองข้างไหม้ดำ ไม่ว่าเธออยากจะลืมภาพนั้นเท่าไร แต่อเล็กซิสรู้ดีว่าใบหน้าตอนตายของซอนย่าจะติดตัวเธอไปตลอด ยกเว้นแต่ว่า ลมหายใจเธอจะดับสิ้น“ลูกอยากได้อะไรเพิ่มหรือเปล่า” พ่อถาม เขายืนรออยู่กับแม่และเ

    Last Updated : 2025-02-12
  • Undisclosure    ปฐมกาลครั้งใหม่

    เขามองเธอแป๊บเดียวแล้วผลักเธอขึ้นรถ จากนั้นไปช่วยเฮลก้าจัดการกับเวด ทั้งสองช่วยกันลากเด็กหนุ่มขึ้นรถอย่างทุลักทุเล เป็นงานหินสำหรับพวกเขามาก เพราะเวดนั้นตัวโตกว่าคนทั้งคู่ และที่สำคัญ เขาขืนตัวสุดกำลัง “โอ๊ย ให้เวลามากกว่านี้หน่อยสิ ปล่อยสิวะ ไปไกล ๆ เลยแม่ง” แต่สุดท้ายเวดก็ถูกผลักเข้ามาจนได้ แถมยังล้มทับอเล็กซิสกับออสโล่ที่อยู่ข้างในด้วยเบลินดาเข้ามาเป็นคนสุดท้าย เธอเดินเข้ามาด้วยตัวเอง ไม่ต้องให้ใครลากเข้ามา ท่าทางสงบลงมากกว่าวันที่ถูกตัดสินว่ากระทำผิด เธอเป็นคนเดียวที่บอกลาทุกคนด้วยท่วงท่าสงบนิ่งและสง่างามกว่าใครเพื่อนประตูรถค่อย ๆ ปิดลงและพวกเขายังคงพยายามมองหาครอบครัวตัวเอง เมื่อประตูถูกปิดสนิท พวกเขาได้ยินแต่เสียงเรียกเท่านั้น“นี่...ฉันคิดว่าที่ผ่านมากำลังฝันอยู่เลยนะเนี่ย แบบหลับยาวเป็นอาทิตย์อะไรแบบนั้น” เวดสารภาพ “คิดว่า...มันต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดสักอย่างแหง ๆ ...”“ฉันอยากให้ใครสักคนตบหน้าฉันแรง ๆ แฮะ ฉันมันคนขี้เซา แม่ต้องตบหลังทุกครั้งเลยเพื่อปลุกให้ตื่น” ออสโล่เสริม หัวเราะเสียงแห้ง

    Last Updated : 2025-02-12
  • Undisclosure    โลกในกล่อง

    ชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังนั่งเช็กซองบุหรี่ที่บรรจุอยู่ในกระเป๋าทรงดัฟเฟิลทำจากหนังแท้อย่างดี ตัวกระเป๋าเป็นรุ่นพรีเมี่ยมออกแบบโดยดีไซเนอร์ชื่อดัง ฟลาเวีย นีโร พอนับหมดแล้วพบว่ายังเหลืออยู่ครบยี่สิบซอง เทียบจากครั้งก่อน แสดงว่าไม่มีใครขโมยไป“นับทำไมวะ ใช้ไม่ได้อยู่ดี”เจ้ากระเป๋าใบนี้ถูกนำมาใช้เฉพาะกิจเพื่อเก็บแพ็กบุหรี่ยี่ห้อ ‘เบสต์ อามี’ ที่เขาหวงแหน มันเป็นยี่ห้อบุหรี่ที่ดีที่สุดในโลกก็ว่าได้ (ถึงแม้ว่าจะยัดไส้พิเศษก็ตาม) มันเข้าคู่กับไฟแช็กแฮนด์เมดที่ทำจากทองคำขาวบริสุทธิ์ตกแต่งด้วยเพชรรูปไข่ขนาดเล็กรายล้อม บนตัวไฟแช็กมีอักษรย่อสลัก ‘บี.อาร์.’ เขาอยากจุดบุหรี่ขึ้นสูบเหลือเกิน อยากเห็นบุหรี่ในมือค่อย ๆ มอดไหม้พร้อมกับสูดควันศักดิ์สิทธิ์เข้าปอด แต่เมื่อนึกถึงผลที่จะตามมา เขาจำต้องเก็บมันไว้ในกระเป๋าเสื้อแทน หนทางที่จะได้สูบมันอีกครั้งอาจจะยังมีอยู่...หรือไม่มีวันนั้นแล้วก็ได้ พอคิดแบบนี้ เขาถอนหายใจด้วยความเสียดายของถ้าเลือกได้ เบนอยากสูบบุหรี่ให้หมดไปมากกว่าทิ้งมันไว้แบบนี้ บุหรี่พวกนี้ไม่สมควรถูกเก็บไว้ประหนึ่งของดูต่างหน้าในพ

    Last Updated : 2025-02-12
  • Undisclosure    หนุ่มขี้เซา

    เบนไม่มีโอกาสเห็นท้องฟ้าสีครามอีกเลยตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ เขาลุกขึ้น เก็บถาดแล้วทิ้งลงในกล่องที่เขียนแจ้งว่า ‘ถังขยะ’ จากนั้นเดินตามกลุ่มเด็กทั้งสามไป เขาอยากรู้จักเด็กคนนั้นตรงข้ามห้องอาหารมีจอสีดำขนาดยักษ์ติดอยู่ตรงกำแพง แต่ไม่มีข้อความอะไรประกาศทิ้งไว้ หรือพูดให้ถูกก็คือ หน้าจอนั้นดำมืดตั้งแต่วันที่เขาเข้ามาอยู่ที่นี่แล้วรัฐบาลใช้สถานที่แห่งนี้จัดโปรแกรมบำบัดสำหรับกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มต้องสงสัย ทว่าผู้คนที่อยู่ในนี้เรียกว่า ‘หอพัก’ ไม่มีการรักษาใด ๆ ทั้งนั้น ไม่มีพนักงาน หมอ หรือเจ้าหน้าที่เลยสักคน ไม่มีแม้แต่ตารางเวลากำหนดกิจกรรมต่าง ๆ พวกเขาทั้งหมดอาศัยอยู่กันอย่างอิสระ ทว่าเป็นอิสระในเชิงพิลึก ก็แค่สามารถทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจภายในคุกประหลาดแห่งนี้มากกว่าหอพักแห่งนี้เปรียบเสมือนกับชุมชนขนาดย่อม คนที่อยู่อาศัยสามารถใช้สิ่งอำนวยความสะดวกได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ สปา ฟิตเนสยิม สนามกีฬา ผับ เลานจ์ โรงภาพยนตร์ขนาดเล็กที่มักเล่นหนังโรแมนติกสมัยรุ่นคุณย่าคุณยาย เรียกได้ว่ามีทุกสิ่งที่สามารถพบเจอในโรงแรมหรู ยกเว้นแต่ว่าไม่มีห้องสมุดแ

    Last Updated : 2025-02-12
  • Undisclosure    กัญชามิตร

    “เออ ไม่มีน่ะสิ”พวกเขาหยุดอยู่หน้าประตูโลหะสีดำ มันเป็นสีดำ เพราะอย่างนี้นี่เอง ห้องนี้จึงโดดเด่นขึ้นมาจากห้องอื่น เพราะสีที่ต่างกับที่อื่นทำให้เบนรู้สึกถูกใจขึ้นมาทันที แม้ยังไม่เห็นว่าข้างในเป็นอย่างไรก็ตาม สีดำเป็นสีคลาสสิกและสะท้อนรสนิยม เพราะสีดำมีสไตล์ในตัวมันเองอเล็กซ์เปิดประตูนำเข้าไป ดวงตาสีดำเปิดประกายเจิดจ้าขึ้นทันทีที่ก้าวเข้ามาอยู่ในห้องเหมือนเด็กที่เห็นของเล่นถูกใจ ที่แท้ ห้องนี้คือห้องท้องฟ้าจำลองขนาดใหญ่ ทรงกลม มีโปรเจ็คเตอร์ตั้งอยู่ตรงกลางห้อง พร้อมกับที่นั่งรอบกำแพงจำนวนสิบที่ ท้องฟ้าจำลองยามค่ำคืนอวดดวงดาวนับพันที่กำลังส่องแสงระยิบระยิบ ตรงข้ามกับอเล็กซ์ เบนกลับผิดหวังที่มันเป็นท้องฟ้าจำลอง เพราะเขาไม่ใช่คนที่สนใจดูดาวพวกนี้เลย ทั้งความเงียบและท้องฟ้ามืด ๆ ดาวอะไรก็ไม่รู้ เบนไม่รู้สึกว่ามันน่าตื่นเต้น เขายอมอยู่ในห้องฉายภาพยนตร์ที่มีแต่หนังโรแมนติกเก่า ๆ เล่าเรื่องราวความรักน้ำเน่ายังดีกว่า อเล็กซ์เดินวนไปวนมา จ้องมองท้องฟ้าข้างบนด้วยท่าทางครึกครื้น“นี่นะเหรอ...ที่ที่นายบอกว่าเจ๋ง”“เดี๋ยวสิวะ อ

    Last Updated : 2025-02-12
  • Undisclosure    สวนอีเดน

    เสียงเพลงในเลานจ์ดังพอสมควร แม้ดนตรีจะเป็นแจ๊สแต่ก็ออกมาจากตู้เพลง หาใช่ฝีมือนักดนตรีไม่ ครั้งแรกที่เธอเข้ามาที่นี่อดทึ่งและประหลาดใจไม่ได้เมื่อเห็นทุกสิ่งทุกอย่างขับเคลื่อนอัตโนมัติ ปราศจากหุ่นยนต์หรือแรงงานมนุษย์คอยควบคุม หรืออาจจะอยู่เบื้องหลัง มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายคอยปรนเปรอ ทุกอย่างเหมือนดีกว่าที่คิดไว้ อย่างน้อยเธอยังมีเพื่อน ทว่าความเหงาไม่ได้ทุเลาลงเลยหากอยากฟังเพลงอะไร อยากดื่มอะไร เพียงใช้ปลายนิ้วสัมผัสหน้าจอหรือออกคำสั่งด้วยเสียง ไม่กี่วินาทีของที่สั่งก็ถูกนำมาเสิร์ฟ เธอเคยเห็นเทคโนโลยีแบบนี้แค่ในหนังเท่านั้น รัฐบาลโกหกประชาชนไว้หลายอย่าง พวกเขาปิดกั้นความรู้ไม่ให้ชาวนิวโฮปเข้าถึงดั่งอดัมกับอีฟ ทุกคนอยู่ในโลกอนาคต แต่กลับใช้ชีวิตเหมือนคนในยุคก่อน และความจริงที่เธอรับรู้ในตอนนี้อาจเป็นเพียงความจริงเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของความจริงทั้งหมดก็ได้ไม่มีใครให้คำตอบหรืออธิบายข้อสงสัยอะไรทั้งสิ้น คนที่ถูกจับทั้งหมดถูกทิ้งให้ใช้ชีวิตอยู่ในเกาะปลีกวิเวกสุดหรู อเล็กซิสเฝ้าถามตัวเองว่า ที่นี่มีไว้ทำอะไรกัน เธอไม่รู้ว่ามันอยู่ไกลกว่าบ้านหรือเปล่า หรือว่าอยู่ใน

    Last Updated : 2025-02-12
  • Undisclosure    เพื่อนใหม่

    “หวัดดี พวกนาย!” เทสซ่าเดินเข้ามา สวยเด่นมาแต่ไกล พอมาถึงก็เอามือเท้าเอว ส่วนอีกข้างเกาะขอบเก้าอี้ไว้ เทสซ่าสวมเสื้อสายเดี่ยวสีดำครึ่งตัวกับกางเกงทหารสีกากี ศีรษะของเธออยู่ประมาณหูของอเล็กซิส“ได้เวลาพอดีเลย ลุยเลยเพื่อน!” เวดเชียร์เมื่อพวกพี่น้องโธมัสโผล่มาเทสซ่าอายุสิบเก้า เป็นเพื่อนคนแรกของพวกเขา เธอทำตัวเหมือนกับเป็นเจ้าของที่นี่ คอยให้คำแนะนำและพาเดินชมรอบ ๆ จนพวกอเล็กซิสรู้ว่าที่ไหนเป็นอะไรบ้าง พวกเทสซ่าแทบจะเป็นประชากรกลุ่มแรกเลยก็ว่าได้ เพราะอยู่ที่มาก่อนเด็กซานโบซ่าราว ๆ สามอาทิตย์ เธอเล่าว่า ตอนแรกมีคนไม่เยอะเท่าไรนัก แต่เมื่อมีหน้าใหม่เข้ามาเรื่อย ๆ ที่นี่ก็เริ่มแน่นขึ้นอย่างที่เห็น“อเล็กซิสจ๊ะ ฉันแอบเห็นเธอถามหาจอห์น ลีลอยด์ที่โรงหนังด้วยนะ ถ้าพวกฉันไม่เห็นเขา ก็ไม่มีใครเห็นแล้วล่ะ เชื่อเถอะ” เทสซ่าว่า สายตามองไปยังเสื้อแจ๊กเกตของเพื่อนสาว “ตัวนี้ก็สวยจัง”ส่วนอีกสองคนที่อยู่ข้างหลังเทสซ่าคือ มินนี่และโนเอล มินนี่เป็นน้องเล็กสุด อายุสิบเจ็ดปี แม้จะเป็นพี่น้องกัน แต่มินนี่ไม่เหมือนเทสซ่า เด็กสาว

    Last Updated : 2025-02-12

Latest chapter

  • Undisclosure    สัญญาณจากนอกกล่อง

    อ้อ ไม่นับว่าหากเบนคนเดียวอยู่กับผู้หญิงมากกว่าหนึ่ง ข้อนี้ยกเว้น พวกเขาไม่สามารถมองหน้ากันระหว่างทำเรื่องแบบนี้ได้ เขาไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน ทั้งที่สามารถเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมกันได้แท้ ๆอเล็กซ์เลื่อนสายตามองไปทางอื่นเมื่อเห็นท่าทางยั่วยวนของซาร่าห์ “เอ่อ ล้อเล่น ช่างมันเถอะ คือ ฉันเพิ่งรู้ตัวว่าหิว ก็เลยออกมา แล้วจากนั้นก็ได้ยินเสียง...เสียงนั้นนั่นแหละ” เขาหรี่ตามองทั้งคู่พร้อมรอยยิ้มร้ายแน่นอนว่าอเล็กซ์ต้องคุ้นกับเสียงของซาร่าห์ พวกเขาคบหาเป็นคู่รักกันตั้งสองสามสัปดาห์ก่อนที่เบนจะทำลายความสัมพันธ์ลง อย่างน้อย ตอนนี้ทั้งสองต่างคุยกันอย่างปกติ เหมือนเพื่อนที่ดีต่อกัน“มันยากนักเหรอไง ที่จะหาผู้ชายสักคน” อเล็กซ์ถามอดีตแฟน “ที่ดีกว่าหมอนี่?”“ใช่” ซาร่าห์สารภาพระหว่างสางผมสีทองของตัวเอง “ที่นี่ไม่ได้มีหนุ่มฮอตเยอะแยะสักหน่อย แถมส่วนใหญ่ก็ดูจะไม่สนใจพวกผู้หญิงกันแล้ว...รวมถึงนายด้วย”“เปล่าซะหน่อย...” อเล็กซ์เม้มปาก “ก็พวกเรากลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว”

  • Undisclosure    เหล่าผู้ตกสรวงสวรรค์

    เขาพยายามคิดว่าอเล็กซิสจะอยู่ที่ไหน บางทีอาจเป็นห้องฉายภาพยนตร์ เท่าที่เห็น เด็กสาวดูไม่น่าจะชอบที่จอแจ หากเป็นพวกผู้หญิงที่ง่ายหน่อยก็ไม่ต้องใช้เวลามาก แต่กับอีกประเภท ชั้นเชิงเป็นสิ่งจำเป็น แต่เด็กคนนี้ยังเด็กอยู่เลย บางทีอาจไม่ต้องใช้เวลามากก็ได้มั้ง แค่ให้ไอ้หัวทองไปไกล ๆ ก็พออย่างไรก็ตาม เขาไม่เจออเล็กซิสอยู่ดี เขาเจอผู้หญิงอีกคนเขาไม่แปลกใจที่เห็นเธอยืนเหมือนรออยู่แล้ว หญิงสาวยืนพิงกำแพงส่งยิ้มงาม เธอเคยสวยกว่านี้ เบนคิด วันเวลา สภาพที่ถูกกักขังในสถานที่ปิดลดทอนความสดใสในตัวคน ซาร่าห์ตรงหน้าเขาไม่ต่างจากกุหลาบใกล้ตาย เธอบิดริมฝีปากกึ่งเหยียดกึ่งยินดีเมื่อเขายิ้มให้เธอ เขารู้ว่าเธอต้องการอะไร หญิงสาวอาจไม่ผ่านบททดสอบ และแม้ดอกไม้ดอกนี้กำลังแห้งเหี่ยว แต่มันก็ยังดูสวยสง่าในแบบของมัน“ตายแล้ว นี่คือแบตเตอรี่ที่กำลังเสื่อมสภาพหรือเปล่า” ปากเธอว่าอย่างนั้น แต่มือกลับคล้องคอเขา ไม่ว่าจะอยู่ระดับไหน อีตัวก็คืออีตัวอยู่วันยังค่ำ กลิ่นน้ำหอมของหญิงสาวแตะจมูก มันเป็นกลิ่นกุหลาบ“เธอเคยเห็นกระป๋องซุปข้าวโพดที่ไม่ม

  • Undisclosure    ลูปแสนน่าเบื่อ

    เขาเดินเตร็ดเตร่ไปตามทาง พวกเขาอาจจะถูกปล่อยให้เน่าตายอยู่ในนี้ก็ได้ทั้งสองคนตกนรกมาเกือบเดือน มันเริ่มมาจากคืนนั้น เบน อเล็กซ์ และซาร่าห์ ดื่มมากเกินไปหน่อย หรืออาจจะเรียกว่า บริโภคแอลกอฮอล์ไปเกือบถัง ไม่ใช่ถังปกติ แต่ระดับถังกักเก็บน้ำก็เป็นได้ ปกติแล้ว เท่าที่เบนศึกษาจากตัวพวกเขาเอง มนุษย์ที่มีพรสวรรค์ต้านทานฤทธิ์แอลกอฮอล์และยาได้ดีกว่าคนทั่วไปมาก หรืออาจจะเรียกว่าของพวกนี้ทำอะไรเขาไม่ได้เลย อย่างไรก็ตาม ถ้าหากเขาสูบหรือดื่มในปริมาณขนาดนั้น สุดท้าย ร่างกายก็ยอมแพ้อยู่ดี เมื่อสมองถูกแอลกอฮอล์หรือยาสักชนิดเล่นงาน สติค่อย ๆ ลดลง มันเป็นความประมาทเลินเล่อของพวกเขาด้วย วันนั้น ในห้องเพนต์เฮาส์ของอเล็กซ์ (ของอเล็กซ์จริง ๆ ไม่ใช่ของครอบครัว) ด้วยปราศจากสติสัมปชัญญะ พวกเบนทำเรื่องโง่เง่าที่สุดลงไป นั่นก็คือแสดงพลังเพื่อข่มกันและกันเบนค้นพบความสามารถเหนือมนุษย์มาตั้งแต่เด็ก ส่วนอเล็กซ์ได้รับพลังพิเศษมาจากอุบัติเหตุ สำหรับซาร่าห์ เขาไม่แน่ใจว่าเธอได้มาได้อย่างไร เพราะเธอไม่เคยเล่าให้ฟัง วันนั้นพวกเขาเพียงแค่แสดงความสามารถที่มี ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าคนใกล้ชิดคิดทรยศ

  • Undisclosure    ปีกหัก

    เครื่องตรวจจับควันถูกติดตั้งแทบทุกตารางนิ้ว ยกเว้นห้องใหม่ที่เพิ่งเปิด พวกเขานึกขอบคุณความสะเพร่าของเจ้าหน้าที่ติดตั้งระบบ เบนกับอเล็กซ์จึงได้โอกาสสูบกัญชาอัดปอดกันอย่างสนุกสนาน โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีสิ่งรบกวน น่าแปลกที่ว่า เบนควรรู้สึกว่าเป็นผู้ชนะ (ซึ่งตอนแรกก็รู้สึกแบบนั้น) ทว่าอารมณ์เริงร่ายินดีกับเรื่องนี้หมดลง เมื่อเพื่อนเพียงคนเดียวที่เขามีอยู่ทำตัวแปลกไป นับวันอเล็กซ์ยิ่งมีอาการแย่ลง แย่ลง เขาเอาแต่สิงอยู่ในท้องฟ้าจำลองตั้งแต่ที่พบว่ามันเป็นเขตปลอดเครื่องดักจับควัน คิดไปว่าห้องนี้คือพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง เบนมองว่าอเล็กซ์คงเลือกนอนตายในห้องนี้แน่นอนอเล็กซ์ค่อนข้างหงุดหงิดในช่วงแรกที่คนอื่นรู้ว่ามีห้องใหม่ แต่คนส่วนใหญ่ไม่ได้ชอบหรือตื่นเต้นไปกับดวงดาวเท่าไรนัก (เหมือนกับเบน) มีไม่เยอะนักที่จะมานั่งแช่นาน ๆ ดังนั้น ไม่กี่วันผ่านไปจึงเหลือไม่กี่คนที่เข้ามาดู อีกเหตุผลหนึ่งที่แขกมีจำนวนน้อย เพราะอเล็กซ์สูบบุหรี่ เมื่อเขาเริ่มจุด คนเริ่มทยอยหนีออกไป เพราะเหตุนี้ ห้องจึงมีกลิ่นกัญชาเกือบตลอดเวลา อเล็กซ์รู้วิธีไล่คนออกไปจากห้อง เขาต้องการยึดห้องนี้ไว้คนเดียว&

  • Undisclosure    เจ้าชายหมาป่า

    อเล็กซิสมองตาม เห็นอดีตประธานนักเรียนกำลังนั่งคุยอยู่กับเพื่อนกลุ่มใหม่อย่างสนุกสนาน เบลินดาปรับตัวกับสถานที่แห่งนี้ได้อย่างเป็นธรรมชาติเหมือนกับที่เวดทำได้ คงเป็นสิ่งเดียวที่พวกเขาเหมือนกัน เธอดูมีความสุขมากขึ้น หากนับจากวันที่ถูกจับมาด้วยกัน“นายยังคุยกับคาร์เตอร์อยู่ ฉันเห็น” อเล็กซิสพูด “นายไม่โกรธเธอเลยเหรอ”เขาสั่นหัว “หายโกรธไปแล้ว พวกเราลงเรือลำเดียวกันแล้วนี่นา ฉันค่อนข้างเห็นใจเบลนะ พวกเธอสองคนเย็นชาใส่เขามากไปหน่อย”อเล็กซิสจ้องตาออสโล่เขม็ง ชี้นิ้วไปที่หน้าตัวเอง “ฉันเนี่ยนะ เย็นชาเหรอ เขาตั้งใจจะให้ฉันถูกจับเลยนะ”“ฉันรู้ ๆ อย่างน้อยเธอก็แค่ไม่สนใจเบล ก็ยังดี ฉันก็ไม่ได้จะว่าเธอสักหน่อย”อเล็กซิสถอนหายใจอย่างแรง “ออสโล่ ฉันรู้ว่านายใจอ่อนง่าย โอเค ฉันอาจไม่บ่น ไม่กล่าวโทษคาร์เตอร์ แต่ฉันอดไม่ได้ที่จะเตือนนายให้ระวังคนแบบนี้ ฉันไม่รู้ว่าคาร์เตอร์คิดอะไรอยู่ แถมเธอยังไม่เคยขอโทษพวกเราเลยด้วยซ้ำ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านายยังคุยกับคนแบบนั้นได้ นับถือจริง ๆ”“

  • Undisclosure    คนที่ปรับตัวได้

    วินาทีที่อเล็กซิสหันไปมอง เด็กคนนั้นมองกลับมาอย่างรวดเร็ว มันเป็นความรู้สึกที่ประหลาด เขามักจะมองกลับมาเร็วเสมอเหมือนรู้สึกตัวตลอดเวลาว่ามีคนมองอยู่ รูปลักษณ์ของเขาดึงดูดสายตาของอเล็กซิสได้สนิท ทั้งผมสีเงินและดวงตาสีฟ้าเข้ม สีหน้าของเขาเหมือนกับกระจกสะท้อนสีหน้าของอเล็กซิสเช่นกัน เธอสอดสงสัยไม่ได้ว่าเขามีเรดาร์ติดตัวหรืออย่างไร ในเมื่อเขาสามารถจับสายตาคนได้ตลอด เธอจำเด็กหนุ่มคนนี้ได้ตั้งแต่วันแรกที่มาถึงที่นี่ พวกเขาเหมือนรู้จักกันมาก่อน อันที่จริง ควรใช้คำว่า พอคุ้นหน้าคุ้นตามากกว่า“เด็กคนนั้น” โนเอลพึมพำ “เขาไม่คุยกับใครเลย พวกเราพยายามจะเป็นเพื่อนกับเขา แต่เขากลับอยากอยู่คนเดียว เป็นเด็กที่แปลกจริง ๆ ไม่มีใครรู้ชื่อเขาเลยด้วย”“ไมเคิล” อเล็กซิสตอบ“เธอรู้จักเขาเหรอ” เวดถาม เริ่มกระวนกระวายขึ้นมาทันที“อื้อ เราเคยเจอกันนานพอสมควร ฉันว่าเขาน่าจะเป็นคนขี้อายมาก ๆ ...หรือไม่ก็ ไม่ชอบเข้าสังคม ไม่สิ ไม่ชอบคน”“แล้วไปรู้จักกันตอนไหน”“ตอนที่ไปเทสต์หน้ากล้อง”

  • Undisclosure    เพื่อนใหม่

    “หวัดดี พวกนาย!” เทสซ่าเดินเข้ามา สวยเด่นมาแต่ไกล พอมาถึงก็เอามือเท้าเอว ส่วนอีกข้างเกาะขอบเก้าอี้ไว้ เทสซ่าสวมเสื้อสายเดี่ยวสีดำครึ่งตัวกับกางเกงทหารสีกากี ศีรษะของเธออยู่ประมาณหูของอเล็กซิส“ได้เวลาพอดีเลย ลุยเลยเพื่อน!” เวดเชียร์เมื่อพวกพี่น้องโธมัสโผล่มาเทสซ่าอายุสิบเก้า เป็นเพื่อนคนแรกของพวกเขา เธอทำตัวเหมือนกับเป็นเจ้าของที่นี่ คอยให้คำแนะนำและพาเดินชมรอบ ๆ จนพวกอเล็กซิสรู้ว่าที่ไหนเป็นอะไรบ้าง พวกเทสซ่าแทบจะเป็นประชากรกลุ่มแรกเลยก็ว่าได้ เพราะอยู่ที่มาก่อนเด็กซานโบซ่าราว ๆ สามอาทิตย์ เธอเล่าว่า ตอนแรกมีคนไม่เยอะเท่าไรนัก แต่เมื่อมีหน้าใหม่เข้ามาเรื่อย ๆ ที่นี่ก็เริ่มแน่นขึ้นอย่างที่เห็น“อเล็กซิสจ๊ะ ฉันแอบเห็นเธอถามหาจอห์น ลีลอยด์ที่โรงหนังด้วยนะ ถ้าพวกฉันไม่เห็นเขา ก็ไม่มีใครเห็นแล้วล่ะ เชื่อเถอะ” เทสซ่าว่า สายตามองไปยังเสื้อแจ๊กเกตของเพื่อนสาว “ตัวนี้ก็สวยจัง”ส่วนอีกสองคนที่อยู่ข้างหลังเทสซ่าคือ มินนี่และโนเอล มินนี่เป็นน้องเล็กสุด อายุสิบเจ็ดปี แม้จะเป็นพี่น้องกัน แต่มินนี่ไม่เหมือนเทสซ่า เด็กสาว

  • Undisclosure    สวนอีเดน

    เสียงเพลงในเลานจ์ดังพอสมควร แม้ดนตรีจะเป็นแจ๊สแต่ก็ออกมาจากตู้เพลง หาใช่ฝีมือนักดนตรีไม่ ครั้งแรกที่เธอเข้ามาที่นี่อดทึ่งและประหลาดใจไม่ได้เมื่อเห็นทุกสิ่งทุกอย่างขับเคลื่อนอัตโนมัติ ปราศจากหุ่นยนต์หรือแรงงานมนุษย์คอยควบคุม หรืออาจจะอยู่เบื้องหลัง มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายคอยปรนเปรอ ทุกอย่างเหมือนดีกว่าที่คิดไว้ อย่างน้อยเธอยังมีเพื่อน ทว่าความเหงาไม่ได้ทุเลาลงเลยหากอยากฟังเพลงอะไร อยากดื่มอะไร เพียงใช้ปลายนิ้วสัมผัสหน้าจอหรือออกคำสั่งด้วยเสียง ไม่กี่วินาทีของที่สั่งก็ถูกนำมาเสิร์ฟ เธอเคยเห็นเทคโนโลยีแบบนี้แค่ในหนังเท่านั้น รัฐบาลโกหกประชาชนไว้หลายอย่าง พวกเขาปิดกั้นความรู้ไม่ให้ชาวนิวโฮปเข้าถึงดั่งอดัมกับอีฟ ทุกคนอยู่ในโลกอนาคต แต่กลับใช้ชีวิตเหมือนคนในยุคก่อน และความจริงที่เธอรับรู้ในตอนนี้อาจเป็นเพียงความจริงเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของความจริงทั้งหมดก็ได้ไม่มีใครให้คำตอบหรืออธิบายข้อสงสัยอะไรทั้งสิ้น คนที่ถูกจับทั้งหมดถูกทิ้งให้ใช้ชีวิตอยู่ในเกาะปลีกวิเวกสุดหรู อเล็กซิสเฝ้าถามตัวเองว่า ที่นี่มีไว้ทำอะไรกัน เธอไม่รู้ว่ามันอยู่ไกลกว่าบ้านหรือเปล่า หรือว่าอยู่ใน

  • Undisclosure    กัญชามิตร

    “เออ ไม่มีน่ะสิ”พวกเขาหยุดอยู่หน้าประตูโลหะสีดำ มันเป็นสีดำ เพราะอย่างนี้นี่เอง ห้องนี้จึงโดดเด่นขึ้นมาจากห้องอื่น เพราะสีที่ต่างกับที่อื่นทำให้เบนรู้สึกถูกใจขึ้นมาทันที แม้ยังไม่เห็นว่าข้างในเป็นอย่างไรก็ตาม สีดำเป็นสีคลาสสิกและสะท้อนรสนิยม เพราะสีดำมีสไตล์ในตัวมันเองอเล็กซ์เปิดประตูนำเข้าไป ดวงตาสีดำเปิดประกายเจิดจ้าขึ้นทันทีที่ก้าวเข้ามาอยู่ในห้องเหมือนเด็กที่เห็นของเล่นถูกใจ ที่แท้ ห้องนี้คือห้องท้องฟ้าจำลองขนาดใหญ่ ทรงกลม มีโปรเจ็คเตอร์ตั้งอยู่ตรงกลางห้อง พร้อมกับที่นั่งรอบกำแพงจำนวนสิบที่ ท้องฟ้าจำลองยามค่ำคืนอวดดวงดาวนับพันที่กำลังส่องแสงระยิบระยิบ ตรงข้ามกับอเล็กซ์ เบนกลับผิดหวังที่มันเป็นท้องฟ้าจำลอง เพราะเขาไม่ใช่คนที่สนใจดูดาวพวกนี้เลย ทั้งความเงียบและท้องฟ้ามืด ๆ ดาวอะไรก็ไม่รู้ เบนไม่รู้สึกว่ามันน่าตื่นเต้น เขายอมอยู่ในห้องฉายภาพยนตร์ที่มีแต่หนังโรแมนติกเก่า ๆ เล่าเรื่องราวความรักน้ำเน่ายังดีกว่า อเล็กซ์เดินวนไปวนมา จ้องมองท้องฟ้าข้างบนด้วยท่าทางครึกครื้น“นี่นะเหรอ...ที่ที่นายบอกว่าเจ๋ง”“เดี๋ยวสิวะ อ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status