หน้าหลัก / แฟนตาซี / Undisclosure / คนที่ปรับตัวได้

แชร์

คนที่ปรับตัวได้

ผู้เขียน: Jes/JinMingZin/Quendaya
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-12 15:28:17

วินาทีที่อเล็กซิสหันไปมอง เด็กคนนั้นมองกลับมาอย่างรวดเร็ว มันเป็นความรู้สึกที่ประหลาด เขามักจะมองกลับมาเร็วเสมอเหมือนรู้สึกตัวตลอดเวลาว่ามีคนมองอยู่ รูปลักษณ์ของเขาดึงดูดสายตาของอเล็กซิสได้สนิท ทั้งผมสีเงินและดวงตาสีฟ้าเข้ม สีหน้าของเขาเหมือนกับกระจกสะท้อนสีหน้าของอเล็กซิสเช่นกัน เธอสอดสงสัยไม่ได้ว่าเขามีเรดาร์ติดตัวหรืออย่างไร ในเมื่อเขาสามารถจับสายตาคนได้ตลอด เธอจำเด็กหนุ่มคนนี้ได้ตั้งแต่วันแรกที่มาถึงที่นี่ พวกเขาเหมือนรู้จักกันมาก่อน อันที่จริง ควรใช้คำว่า พอคุ้นหน้าคุ้นตามากกว่า

“เด็กคนนั้น” โนเอลพึมพำ “เขาไม่คุยกับใครเลย พวกเราพยายามจะเป็นเพื่อนกับเขา แต่เขากลับอยากอยู่คนเดียว เป็นเด็กที่แปลกจริง ๆ ไม่มีใครรู้ชื่อเขาเลยด้วย”

“ไมเคิล” อเล็กซิสตอบ

“เธอรู้จักเขาเหรอ” เวดถาม เริ่มกระวนกระวายขึ้นมาทันที

“อื้อ เราเคยเจอกันนานพอสมควร ฉันว่าเขาน่าจะเป็นคนขี้อายมาก ๆ ...หรือไม่ก็ ไม่ชอบเข้าสังคม ไม่สิ ไม่ชอบคน”

“แล้วไปรู้จักกันตอนไหน”

“ตอนที่ไปเทสต์หน้ากล้อง”

“งานอะไร”

อเล็กซิสข่มอารมณ์ “เล็กซี่ไง เขามาพร้อมกับผู้ชายคนหนึ่ง แต่ดูเหมือนว่าไม่อยากมา เหมือนถูกบังคับให้มาอะไรแบบนั้น พอรู้ว่าที่นั่นมีไว้สำหรับแคสต์นักแสดงถ่ายโฆษณา เขาโวยวายและพยายามจะหนีออกไปให้ได้ แต่เขาเด่นมากเลยนะ พวกผู้หญิงมองเป็นตาเดียว ฉันยังจำได้เลยว่าพอจอห์นเห็นเขาเท่านั้น ก็บอกให้ไมเคิลเป็นนักแสดงหลักทันที ส่วนจอห์นจะไปเป็นตัวประกอบแทน คือ ฉันรู้ว่าเขาเล่นมุกนะ แต่สายตาของจอห์นเหมือนอยากจะปั้นเด็กคนนั้นด้วยตัวเอง”

“แค่นี้เหรอ” เวดถามจี้

เธอทำเสียงจิ๊จ๊ะใส่นิสัยช่างซักของเพื่อนชาย

“เขาจ้องอเล็กซิสกลับด้วย” มินนี่ตั้งข้อสังเกต

“ใช่สิ เพราะพวกเราจำกันได้ ดูจากสีหน้าก็รู้ แต่เขาไม่พูดกับฉันเหมือนกัน เมื่อเช้านี้ฉันเจอเขาที่โรงอาหาร ก็เลยเข้าไปทักและชวนมานั่ง แต่แทนที่เขาจะตอบตกลงหรือปฏิเสธ กลับตอบด้วยการเดินหนี” อเล็กซิสหัวเราะในลำคอ

ตอนนี้เด็กหนุ่มคนนั้นหันกลับไปแล้ว

“ใช่ เขาเป็นแบบนี้แหละ พอใครคุยด้วยก็เดินหนี” โนเอลว่า “เจอเหมือนกัน”

“อ้อ ฉันว่า ก็แค่เด็กผู้ชายธรรมดา พวกพิลึกอะไรแบบนั้น” เวดทำราวกับเขาไม่สนใจ แต่ไม่อาจกลบน้ำเสียงอิจฉาได้

“เขาหล่อมาก...มากกว่านายหลายเท่าเลย” ถ้าจะพูด มินนี่ไม่สนใครทั้งนั้น เวดขยับตัว นิ่วหน้า “เขาเป็นหนึ่งในหนุ่มที่เทสซ่าปลื้มสุด ๆ ทั้งนาย เด็กคนนั้น แล้วก็...”

“มินนี่ อย่าเผาพี่ตัวเองสิ” โนเอลสั่นหัว

เด็กสาวไม่ได้พูดเกินจริงหรอก ไมเคิลเป็นเด็กหนุ่มที่พวกผู้หญิงลืมจอห์น ลีลอยด์ทันทีที่เขาปรากฏตัว เธอจำช่วงเวลานั้นได้ดี เพราะเหตุนี้จอห์นจึงหันมาแซวตัวเองก่อนที่ใครจะเริ่ม คงไม่เป็นการพูดเกินจริงถ้าจะเปรียบว่าไมเคิลงดงามราวกับเทพบุตรเลยทีเดียว อาจเป็นเพราะสีผมที่ต่างจากคนอื่น และอเล็กซิสยอมรับว่าเธอเองก็เป็นพวกผู้หญิงในกลุ่ม ที่ลืมจอห์นเสียสนิท

“เธอเป็นนางแบบด้วยเหรอ” มินนี่ถาม ท่าทางเหมือนสนใจ อเล็กซิสไม่แน่ใจว่าเธอควรดีใจหรือไม่ที่ทำให้มินนี่สนใจตัวเองได้

“ไม่เชิงหรอก ฉันยังเป็นมือสมัครเล่น พวกตัวประกอบนะ” อเล็กซิสตอบ

มินนี่ขยับตัวมานั่งปลายเบาะ เอามือเท้าคางจ้องหน้าเธอ “ถ้าอย่างนั้นคนนั้นก็เป็นนายแบบเหมือนกันใช่ไหม เขาเป็นสเป็กเธอหรือเปล่า ฉันเห็นว่าเขามอง ๆ เธออยู่ตั้งแต่พวกเราเข้ามาในนี้แล้ว”

“ไม่หรอก ไม่ใช่แบบนั้นหรอกมินนี่ เชื่อเถอะ” อเล็กซิสเม้มปาก ก่อนจะย้ำคำตัวเอง “ฉันเพิ่งบอกไปแล้วไงว่าพวกเราเคยเจอกันมาก่อน”

“แต่เขาไม่เคยมองเทสซ่าเกินห้าวินาทีเลยนะ เขามองเธอตั้งสิบวินาที”

โนเอลหัวเราะ “นี่น้องนับด้วยเหรอ” สายตาที่เขามองน้องสาวคนเล็กเหมือนกับเวลาที่พ่อมองชาร์ลี

มินนี่พยักหน้าหงึก ๆ

“เขาไม่ใช่สเป็กของอเล็กซิสหรอก” เวดสรุปเอาเอง

“อ้าว นายรู้ได้ยังไงล่ะ เขาน่ารักจะตาย” อเล็กซิสเผลอปากไว แต่มันเป็นความผิดมหันต์ เพราะเวดไม่ชอบใจที่เธอชมเด็กหนุ่มคนนั้น

“คือ ถ้าเปรียบเทียบกับแฟนเก่าของเธอนะ ผู้ชายจะต้องผมสีทอง ตัวสูง หล่อ แล้วก็เป็นนักกีฬา นิสัยดี อ่อนโยน”

“เวด...อย่าเริ่มได้ไหม ฉันไม่ใช่คาร์เตอร์” อเล็กซิสเกือบลืมไปแล้วว่าเวลาโดนมีดแทงข้างหลังมันเป็นอย่างไร แค่คิดถึงครอบครัวและเพื่อนมันทรมานน้อยเกินไปใช่ไหม ทำไมเขาต้องขุดเรื่องเก่า ๆ ขึ้นมาพูดให้เธอกระอักเลือดเล่น

“โทษ ก็แค่ตอบมินนี่เฉย ๆ” เขายักไหล่

“เปล่า นายไม่ได้จะตอบเธอ นายตั้งใจแกล้งฉันต่างหาก”

“นายหมายถึงตัวเองเหรอ ว่านายเป็นสเป็กของอเล็กซิส แต่ฉันว่านายไม่ใช่คนอ่อนโยนนะ” มินนี่ว่า ไม่สนใจว่าการใช้คำพูดของเธอนั้นมีปัญหา อย่างไรก็ตาม อเล็กซิสไม่คิดว่าเวดจะสนใจ เขาสมควรโดนซะบ้าง

“ใช่ มินนี่พูดถูก นายนิสัยไม่ดี” เธอย้ำคำมินนี่

“เด็ก ๆ ไม่ทะเลาะกันน่า” โนเอลแทรกขึ้น เขาทำตัวราวกับเป็นผู้เฒ่าของกลุ่ม “มินนี่ อย่าถามเรื่องส่วนตัวของคนอื่น” พอโดนพี่ชายปราม มินนี่จึงเอนหลังพิงไปกับพนักเก้าอี้ กลับไปนั่งมองคนในคลับด้วยสายตาช่างฝันเหมือนเดิม ไม่สนใจพวกเวดกับอเล็กซิสอีก

“ขอโทษ” เวดกระซิบบอก

“นายไม่ได้อยากขอโทษหรอก เพราะนายเป็นแบบนี้ทุกที” อเล็กซิสบ่น “ตั้งแต่พวกเรามาอยู่ที่นี่ นายก็ทำตัวเหมือน...”

“ก็แค่อยากรู้ว่าเธอลืมหมอนั่นแล้วหรือยัง” เวดไม่ยอมแพ้ “ถ้าเธอลืมเดวี่ได้แล้ว ทำไมเธอต้องหงุดหงิดใส่ฉันด้วยล่ะ”

“ฉันหงุดหงิดเพราะนิสัยนายต่างหาก แล้วฉันบอกเมื่อไหร่ว่าลืมเขาได้แล้ว”

โนเอลนั่งเงียบ เมื่อบทสนทนาที่คุยกันอยู่ดี ๆ กลายเป็นบททะเลาะ อเล็กซิสรู้ดีว่า ถึงเขาทำเป็นไม่สนใจ แต่กำลังฟังอยู่ “รู้อะไรไหม เวด ไปหาคาร์เตอร์ซะ ถ้านายอยากฝึกลับฝีปากล่ะก็ และถ้านายอยากรู้ ใช่ ฉันยังรักเดวี่อยู่ พอใจไหม”

พอฟังจบ เวดลุกขึ้นทันที เขาเดินไปหาเทสซ่าแล้วสั่งให้ออสโล่กลับมานั่งที่โต๊ะ ส่วนตัวเองก็เต้นกับผู้หญิงแทน ไม่สนใจว่าออสโล่จะรู้สึกอย่างไร เทสซ่าเองก็ยินดีที่เขามาแทนออสโล่

เพื่อนผมแดงเดินกลับมาที่โต๊ะแล้วนั่งลงข้าง ๆ อเล็กซิสด้วยท่าทางโล่งใจมากกว่าโกรธเคือง “เป็นอะไรของเขา นี่ทะเลาะกันอีกแล้วเหรอ”

พอไม่มีเบลินดา คาร์เตอร์ เวดจึงหาคนทะเลาะคนใหม่ ซึ่งก็คืออเล็กซิส เขาชอบกระตุ้นให้เธอโหยหาวันเก่า ๆ ทั้งที่พยายามใช้ชีวิตตามหลักการของเขาแล้ว แต่มันยากกว่าที่คิดไว้มาก เหตุการณ์แม้เพิ่งผ่านมาไม่นาน แต่กลับเหมือนผ่านมาเป็นปี ถึงกระนั้น อเล็กซิสยังจำได้ว่าเธอเสียใจขนาดไหนเมื่อรู้ว่าเดวี่กับจูนทำอะไรลับหลัง แต่ตอนนั้นอเล็กซิสยังมีครอบครัวและเพื่อนที่คอยให้กำลังใจ ไม่เหมือนตอนนี้

บางทีอาจเป็นเพราะความเหงา เธอคิดว่าลืมความเจ็บปวด แต่ยิ่งโหยหายิ่งเจ็บ

มันยากนะ ที่จะกลับไปเป็นตัวเองเหมือนเมื่อก่อน ในเมื่อฉันสูญเสียทุกอย่างไปแล้ว นายคิดว่าฉันต้องทำอย่างไรเหรอเวด คบกันนายทันทีอย่างงั้นเหรอ

“โอเค พวกเธอตีกันอีกแล้วจริง ๆ สินะ” ออสโล่สรุป เมื่อเธอไม่ตอบ

“นายก็รู้ เขาชอบย้ำแผลเก่าฉันอยู่เรื่อย” เธอฟ้องเพื่อน

“ก็เขาเป็นคนเอาแต่ใจตัวเองนี่นา” ออสโล่พูด “ฉันว่า แทนที่หมอนั่นจะทำตัวเป็นกูรูเรื่องความรัก เขาควรเรียนรู้ที่จะเป็นคนสุภาพอ่อนน้อม แล้วจีบเธอให้สำเร็จเสียก่อน”

“นี่แหละ ข้อเสียของความรักหนุ่มสาว มีแต่ใช้อารมณ์กันทั้งนั้น” โนเอลพึมพำลอย ๆ ขึ้นมา

อเล็กซิสไม่พอใจที่เขาใช้คำว่า ‘ความรักหนุ่มสาว’ จึงโต้ตอบไป “โธ่ คุณปู่ ความรักของเด็ก ๆ ไม่ได้หมายความว่ามันจะเป็นเรื่องไร้สาระไปทุกเรื่องหรอกนะ และระหว่างฉันกับเวดไม่ได้เรียกว่าความรักด้วย”

เขายกมือขึ้นทั้งสองข้าง ทำท่าเหมือนยอมแพ้ “ไม่เอาน่า ฉันไม่ทะเลาะกับพวกเธอหรอก ต้องไปทำหน้าที่พี่ชายก่อนแล้ว” จากนั้นโนเอลก็เดินอาด ๆ ตรงไปยังเวดกับเทสซ่าที่ดูเหมือนจะถึงเนื้อถึงตัวกันมากขึ้น

ออสโล่ถอนหายใจ “หมอนี่เด็กจริง ๆ พยายามเรียกร้องความสนใจจากเธออยู่นั่นแหละ”

“แล้วนายรู้สึกอย่างไรล่ะ ออสโล่” อเล็กซิสพยักพเยิดไปทางเพื่อนตัวเองกับสาวผมดำ

เขาหัวเราะ “เอาจริง ๆ นะ ฉันไม่รู้สึกอะไรเลย ไม่หึงหวง ไม่รู้สึกแย่กับเวดด้วย ฉันเพิ่งเจอเทสซ่านะ เธอสวยก็จริง แต่ว่า...ฉันยังคิดถึงคริสติน่าอยู่ เพราะอย่างนี้ ฉันถึงเข้าใจเธอไงล่ะ อเล็กซ์ ดังนั้น หลังจากนี้เลิกช่วยเขาจับคู่ให้ฉันได้แล้ว”

“เข้าใจแล้ว” อเล็กซิสตอบรับเสียงอ่อน

สถานการณ์ต่าง ๆ ทำให้เวด อเล็กซิส และออสโล่สนิทกันมากขึ้น ในขณะที่เบลินดาหาเพื่อนใหม่และต่างฝ่ายต่างทำเป็นไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ที่เหลืออีกสามคนจึงมักเกาะกลุ่มกัน สิ่งที่ทำให้อเล็กซิสอึดอัดคือการที่เวดคิดว่าเขากำลังจะกลายเป็นแฟนของเธอ เขาเป็นเพื่อนที่ดีมาก ยกเว้นนิสัยน่ารำคาญข้อนี้ข้อเดียว บางครั้ง จู่ ๆ เขายกเรื่องเดวี่กับจูนขึ้นมาพูดเพื่อดูปฏิกิริยาของเธอหน้าตาเฉย อเล็กซิสยอมรับว่า บาดแผลที่จูนกับเดวี่เทียบไม่ได้เลยกับบาดแผลที่พวกตำรวจและรัฐบาลทำกับเธอ แต่แผลเป็นก็คือแผลชนิดหนึ่ง มันอาจจะไม่เจ็บปวดเหมือนแผลสด แต่เมื่อคุณมองเห็นมัน คุณจะนึกออกว่าความเจ็บปวดแบบนั้นเคยทำร้ายคุณอย่างไร

โนเอลเดินกลับมาที่โต๊ะพร้อมกับเทสซ่า ใบหน้าของเธอแดงจัด และมันไม่ใช่เพราะเหล้า “ฉันไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะพี่!”

“แต่เธอทำตัวเป็นเด็กเอง อย่าเล่นหูเล่นตาไปทั่วได้ไหม เลิกเล่นได้แล้ว อย่ามาเล่นเกมอะไรแบบนี้”

“พี่ไม่ใช่พ่อสักหน่อย ฉันอยากจะทำอะไรก็ได้!”

“ฉันไปหาเครื่องดื่มเพิ่มดีกว่า” อเล็กซิสกระซิบบอกออสโล่แล้วรีบหนีออกมาจากจุดนั้น

“เฮ้ย รอด้วย” ออสโล่ตามมา “นี่มันวันอะไรวะเนี่ย วันทะเลาะแห่งชาติเหรอไง ไปทางไหนก็เจอแค่คนตีกัน”

พวกเขาสั่งไลต์เบียร์มาคนละแก้วและตัดสินใจนั่งแอบอยู่หลังน้ำพุไวน์ ทั้งสองคุยสัพเพเหระไปเรื่อย พอไม่มีเวด อเล็กซิสสามารถพูดความคิดของเธอออกมาให้ออสโล่ฟังได้มากกว่า ยกเว้นเสียแต่ว่า ถ้าเธอคิดจับคู่เรื่องเขากับเทสซ่าอีก ออสโล่ก็จะขายเธอทันที

“นั่นเบลินดานี่” ออสโล่ชี้

บทที่เกี่ยวข้อง

  • Undisclosure    เจ้าชายหมาป่า

    อเล็กซิสมองตาม เห็นอดีตประธานนักเรียนกำลังนั่งคุยอยู่กับเพื่อนกลุ่มใหม่อย่างสนุกสนาน เบลินดาปรับตัวกับสถานที่แห่งนี้ได้อย่างเป็นธรรมชาติเหมือนกับที่เวดทำได้ คงเป็นสิ่งเดียวที่พวกเขาเหมือนกัน เธอดูมีความสุขมากขึ้น หากนับจากวันที่ถูกจับมาด้วยกัน“นายยังคุยกับคาร์เตอร์อยู่ ฉันเห็น” อเล็กซิสพูด “นายไม่โกรธเธอเลยเหรอ”เขาสั่นหัว “หายโกรธไปแล้ว พวกเราลงเรือลำเดียวกันแล้วนี่นา ฉันค่อนข้างเห็นใจเบลนะ พวกเธอสองคนเย็นชาใส่เขามากไปหน่อย”อเล็กซิสจ้องตาออสโล่เขม็ง ชี้นิ้วไปที่หน้าตัวเอง “ฉันเนี่ยนะ เย็นชาเหรอ เขาตั้งใจจะให้ฉันถูกจับเลยนะ”“ฉันรู้ ๆ อย่างน้อยเธอก็แค่ไม่สนใจเบล ก็ยังดี ฉันก็ไม่ได้จะว่าเธอสักหน่อย”อเล็กซิสถอนหายใจอย่างแรง “ออสโล่ ฉันรู้ว่านายใจอ่อนง่าย โอเค ฉันอาจไม่บ่น ไม่กล่าวโทษคาร์เตอร์ แต่ฉันอดไม่ได้ที่จะเตือนนายให้ระวังคนแบบนี้ ฉันไม่รู้ว่าคาร์เตอร์คิดอะไรอยู่ แถมเธอยังไม่เคยขอโทษพวกเราเลยด้วยซ้ำ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านายยังคุยกับคนแบบนั้นได้ นับถือจริง ๆ”“

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-12
  • Undisclosure    ปีกหัก

    เครื่องตรวจจับควันถูกติดตั้งแทบทุกตารางนิ้ว ยกเว้นห้องใหม่ที่เพิ่งเปิด พวกเขานึกขอบคุณความสะเพร่าของเจ้าหน้าที่ติดตั้งระบบ เบนกับอเล็กซ์จึงได้โอกาสสูบกัญชาอัดปอดกันอย่างสนุกสนาน โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีสิ่งรบกวน น่าแปลกที่ว่า เบนควรรู้สึกว่าเป็นผู้ชนะ (ซึ่งตอนแรกก็รู้สึกแบบนั้น) ทว่าอารมณ์เริงร่ายินดีกับเรื่องนี้หมดลง เมื่อเพื่อนเพียงคนเดียวที่เขามีอยู่ทำตัวแปลกไป นับวันอเล็กซ์ยิ่งมีอาการแย่ลง แย่ลง เขาเอาแต่สิงอยู่ในท้องฟ้าจำลองตั้งแต่ที่พบว่ามันเป็นเขตปลอดเครื่องดักจับควัน คิดไปว่าห้องนี้คือพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง เบนมองว่าอเล็กซ์คงเลือกนอนตายในห้องนี้แน่นอนอเล็กซ์ค่อนข้างหงุดหงิดในช่วงแรกที่คนอื่นรู้ว่ามีห้องใหม่ แต่คนส่วนใหญ่ไม่ได้ชอบหรือตื่นเต้นไปกับดวงดาวเท่าไรนัก (เหมือนกับเบน) มีไม่เยอะนักที่จะมานั่งแช่นาน ๆ ดังนั้น ไม่กี่วันผ่านไปจึงเหลือไม่กี่คนที่เข้ามาดู อีกเหตุผลหนึ่งที่แขกมีจำนวนน้อย เพราะอเล็กซ์สูบบุหรี่ เมื่อเขาเริ่มจุด คนเริ่มทยอยหนีออกไป เพราะเหตุนี้ ห้องจึงมีกลิ่นกัญชาเกือบตลอดเวลา อเล็กซ์รู้วิธีไล่คนออกไปจากห้อง เขาต้องการยึดห้องนี้ไว้คนเดียว&

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-12
  • Undisclosure    ลูปแสนน่าเบื่อ

    เขาเดินเตร็ดเตร่ไปตามทาง พวกเขาอาจจะถูกปล่อยให้เน่าตายอยู่ในนี้ก็ได้ทั้งสองคนตกนรกมาเกือบเดือน มันเริ่มมาจากคืนนั้น เบน อเล็กซ์ และซาร่าห์ ดื่มมากเกินไปหน่อย หรืออาจจะเรียกว่า บริโภคแอลกอฮอล์ไปเกือบถัง ไม่ใช่ถังปกติ แต่ระดับถังกักเก็บน้ำก็เป็นได้ ปกติแล้ว เท่าที่เบนศึกษาจากตัวพวกเขาเอง มนุษย์ที่มีพรสวรรค์ต้านทานฤทธิ์แอลกอฮอล์และยาได้ดีกว่าคนทั่วไปมาก หรืออาจจะเรียกว่าของพวกนี้ทำอะไรเขาไม่ได้เลย อย่างไรก็ตาม ถ้าหากเขาสูบหรือดื่มในปริมาณขนาดนั้น สุดท้าย ร่างกายก็ยอมแพ้อยู่ดี เมื่อสมองถูกแอลกอฮอล์หรือยาสักชนิดเล่นงาน สติค่อย ๆ ลดลง มันเป็นความประมาทเลินเล่อของพวกเขาด้วย วันนั้น ในห้องเพนต์เฮาส์ของอเล็กซ์ (ของอเล็กซ์จริง ๆ ไม่ใช่ของครอบครัว) ด้วยปราศจากสติสัมปชัญญะ พวกเบนทำเรื่องโง่เง่าที่สุดลงไป นั่นก็คือแสดงพลังเพื่อข่มกันและกันเบนค้นพบความสามารถเหนือมนุษย์มาตั้งแต่เด็ก ส่วนอเล็กซ์ได้รับพลังพิเศษมาจากอุบัติเหตุ สำหรับซาร่าห์ เขาไม่แน่ใจว่าเธอได้มาได้อย่างไร เพราะเธอไม่เคยเล่าให้ฟัง วันนั้นพวกเขาเพียงแค่แสดงความสามารถที่มี ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าคนใกล้ชิดคิดทรยศ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-12
  • Undisclosure    เหล่าผู้ตกสรวงสวรรค์

    เขาพยายามคิดว่าอเล็กซิสจะอยู่ที่ไหน บางทีอาจเป็นห้องฉายภาพยนตร์ เท่าที่เห็น เด็กสาวดูไม่น่าจะชอบที่จอแจ หากเป็นพวกผู้หญิงที่ง่ายหน่อยก็ไม่ต้องใช้เวลามาก แต่กับอีกประเภท ชั้นเชิงเป็นสิ่งจำเป็น แต่เด็กคนนี้ยังเด็กอยู่เลย บางทีอาจไม่ต้องใช้เวลามากก็ได้มั้ง แค่ให้ไอ้หัวทองไปไกล ๆ ก็พออย่างไรก็ตาม เขาไม่เจออเล็กซิสอยู่ดี เขาเจอผู้หญิงอีกคนเขาไม่แปลกใจที่เห็นเธอยืนเหมือนรออยู่แล้ว หญิงสาวยืนพิงกำแพงส่งยิ้มงาม เธอเคยสวยกว่านี้ เบนคิด วันเวลา สภาพที่ถูกกักขังในสถานที่ปิดลดทอนความสดใสในตัวคน ซาร่าห์ตรงหน้าเขาไม่ต่างจากกุหลาบใกล้ตาย เธอบิดริมฝีปากกึ่งเหยียดกึ่งยินดีเมื่อเขายิ้มให้เธอ เขารู้ว่าเธอต้องการอะไร หญิงสาวอาจไม่ผ่านบททดสอบ และแม้ดอกไม้ดอกนี้กำลังแห้งเหี่ยว แต่มันก็ยังดูสวยสง่าในแบบของมัน“ตายแล้ว นี่คือแบตเตอรี่ที่กำลังเสื่อมสภาพหรือเปล่า” ปากเธอว่าอย่างนั้น แต่มือกลับคล้องคอเขา ไม่ว่าจะอยู่ระดับไหน อีตัวก็คืออีตัวอยู่วันยังค่ำ กลิ่นน้ำหอมของหญิงสาวแตะจมูก มันเป็นกลิ่นกุหลาบ“เธอเคยเห็นกระป๋องซุปข้าวโพดที่ไม่ม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-12
  • Undisclosure    สัญญาณจากนอกกล่อง

    อ้อ ไม่นับว่าหากเบนคนเดียวอยู่กับผู้หญิงมากกว่าหนึ่ง ข้อนี้ยกเว้น พวกเขาไม่สามารถมองหน้ากันระหว่างทำเรื่องแบบนี้ได้ เขาไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน ทั้งที่สามารถเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมกันได้แท้ ๆอเล็กซ์เลื่อนสายตามองไปทางอื่นเมื่อเห็นท่าทางยั่วยวนของซาร่าห์ “เอ่อ ล้อเล่น ช่างมันเถอะ คือ ฉันเพิ่งรู้ตัวว่าหิว ก็เลยออกมา แล้วจากนั้นก็ได้ยินเสียง...เสียงนั้นนั่นแหละ” เขาหรี่ตามองทั้งคู่พร้อมรอยยิ้มร้ายแน่นอนว่าอเล็กซ์ต้องคุ้นกับเสียงของซาร่าห์ พวกเขาคบหาเป็นคู่รักกันตั้งสองสามสัปดาห์ก่อนที่เบนจะทำลายความสัมพันธ์ลง อย่างน้อย ตอนนี้ทั้งสองต่างคุยกันอย่างปกติ เหมือนเพื่อนที่ดีต่อกัน“มันยากนักเหรอไง ที่จะหาผู้ชายสักคน” อเล็กซ์ถามอดีตแฟน “ที่ดีกว่าหมอนี่?”“ใช่” ซาร่าห์สารภาพระหว่างสางผมสีทองของตัวเอง “ที่นี่ไม่ได้มีหนุ่มฮอตเยอะแยะสักหน่อย แถมส่วนใหญ่ก็ดูจะไม่สนใจพวกผู้หญิงกันแล้ว...รวมถึงนายด้วย”“เปล่าซะหน่อย...” อเล็กซ์เม้มปาก “ก็พวกเรากลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-12
  • Undisclosure    แขกผู้มาเยือน

    เย็นวันหนึ่งของเดือนตุลาคม มาร์กาเร็ต ลูกสาวคนที่สองของครอบครัวสตีเว่นนั่งเป็นตัวเอกท่ามกลางสมาชิกครอบครัว พวกเขาต่างรับประทานอาหารพร้อมหน้าเพื่อเฉลิมฉลองวันเกิดครบหกขวบของเธอมันควรเป็นวันพิเศษวันหนึ่ง เพียงแต่ว่าความพิเศษถูกยกระดับไปอีกขั้น และมันไม่ใช่ระดับที่เธอพึงปรารถนาเลยสักนิดท่ามกลางกลิ่นอายแห่งความสุข เธอไม่ได้ล่วงรู้เลยว่ากำลังจะมีเหตุการณ์แย่ ๆ เกิดขึ้นในไม่ช้านี้สมาชิกทุกคนในครอบครัวสตีเว่นล้วนมีผมสีบลอนด์ทองหยักศกกับดวงตาสีเขียวดั่งหยก ขณะนั้นเด็กหญิงเจ้าของวันเกิดยิ้มจนปากแทบฉีกไปถึงแก้มวันนี้เป็นวันที่ดีที่สุดเลย เธอคิดในใจเด็กหญิงอาจลืมไปแล้วว่าเคยสัมผัสความสุขสนุกสนานแบบนี้ทุกปี ไม่แปลกหรอก เด็กอย่างเธอชอบงานปาร์ตี้ เค้ก และของขวัญ และเธอก็ไม่ได้ต่างจากเด็กคนอื่นเลย พ่อแม่จัดงานถูกใจเธอเสมอ ทั้งสองยังมอบของขวัญเป็นบ้านตุ๊กตาที่เพิ่งวางขายล่าสุด ของขวัญที่เด็กผู้หญิงทุกคนในโรงเรียนยังไม่ได้ครอบครอง และมาร์กาเร็ตจะเป็นคนแรกที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของ เด็กหญิงตัวน้อยคิดภาพเพื่อน ๆ รายล้อมดูของเล่นชิ้นใหม่ โดยลืมไปว่าเธอไม่มีทางขนของเล่นขนาดนี้ไปที่โรงเรียนได้ และที่สำค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-08
  • Undisclosure    พระเจ้าไม่มีอยู่จริง

    แม่เหยียดแขนกันทั้งสองคนไว้ “แหม ขอโทษนะแต่มอลลี่ไม่มีลักษณะเข้าข่ายว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงเลย เธอถูกพาตัวส่งโรงพยาบาลเพราะปอดบวมตั้งแต่แปดขวบ ช่วยตรวจสอบประวัติการรักษาให้ดีก่อนที่จะกล่าวหาลูกสาวที่รักของฉันดีกว่านะคะ” น้ำเสียงนั้นกระแทกกระทั้นมาร์กาเร็ตอมยิ้มขำท่าทางไม่เคยเกรงกลัวใครของแม่ ส่วนพ่อพยายามปลอบไม่ให้แม่พูดจารุนแรง แม่น่ะ สู้คนจะตาย เธอพยายามปิดปากไม่ให้หลุดขำออกมา เด็กหญิงวิ่งกลับเข้าไปในห้องอาหาร มอลลี่ยังคงสวาปามมันฝรั่งทอดของพ่อ ส่วนแมรี่กำลังเดินเมียงมองบ้านตุ๊กตาของเธออยู่“แมรี่ อย่ายุ่งกับบ้านของฉันนะ” เธอหวีดเสียงร้อง น้องสาวตัวดียิ้มยิงฟัน แววตาเหมือนจะใสซื่อ พ่อกับแม่ไม่รู้หรอก มอลลี่ก็ไม่รู้ว่ายายแมรี่ซ่อนความร้ายกาจไว้มากมาย เธอชอบขโมยของเล่นของมาร์กาเร็ตตลอด ยิ่งพวกเขาถูกจับให้อยู่ห้องเดียวกันเพราะอายุไม่ได้ห่างกันมาก เธอยิ่งปกป้องของเล่นไม่ได้ทั้งหมด“พี่แกะแล้วให้หนูเล่นด้วยสิ จูดี้อยากมีบ้านเหมือนกับลิซ่านะ”แต่ก่อนที่มาร์กาเร็ตจะตอบ มอลลี่หันมาถามว่า “พ่อกับแม่ทำอะไรน่ะ”“ตำรวจมา” เธอตอบเด็กสาวขมวดคิ้ว “ตำรวจเหรอ”“มอลลี่ ลูกมีอะไรจะบอกพ่อกับแม่ไหม” คำถามท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-08
  • Undisclosure    บทสนทนา

    30 ปีต่อมาปี 3012 เขตซานโบซ่า“ขอให้เดตวันนี้ราบรื่นนะ อีริน” คุณหมอกล่าวอวยพรนางพยาบาลคนหนึ่งในทีม พวกเขาเพิ่งเปลี่ยนชุดผ่าตัดเป็นชุดเครื่องแบบปกติเสร็จ“ขอบคุณค่ะคาเลบ ตื่นเต้นจังเลย กลับก่อนนะคะ”พอเห็นอีรินถลันวิ่งออกไป คนอื่นยิ่งพยายามสะกดกลั้นไม่ให้หัวเราะออกมาคาเลบหันไปจับมือและกล่าวขอบคุณสมาชิกคนอื่นในทีม ก่อนที่พวกเขาจะกลับไปยังห้องทำงานของแต่ละคนการผ่าตัดประสบความสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี เมื่อทีมแพทย์สามารถนำช้อนออกมาจากท้องของผู้ป่วยได้ ถึงแม้ว่าตอนนี้ ยังไม่มีใครทราบสาเหตุที่แท้จริงว่าเหตุใดช้อนเจ้ากรรมจึงไหลผ่านหลอดอาหารลงสู่ท้องของคนไข้ได้ก็ตามคาเลบ เดวิส วัยสี่สิบห้าปีเป็นคุณหมอประจำอยู่ที่โรงพยาบาลซานโบซ่า ซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาดเล็กในเมืองขนาดย่อม เขตซานโบซ่าอยู่ในรัฐอิดริน่า ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของสหพันธรัฐนิวโฮป เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่สงบสุขมาก ผู้คนส่วนใหญ่จึงรู้จักค่าหน้าค่าตากันเป็นอย่างดี อย่างคนไข้ที่คาเลบเพิ่งผ่าตัดเอาช้อนออกมาก็เป็นเจ้าของร้านอาหารที่เปิดขายอยู่ใจกลางตัวเมือง ร้านของเขาตั้งมานานหลายปี บริหารกิจการจากรุ่นสู่รุ่นเคสผ่าตัดแบบนี้ไม่ค่อยมีม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-08

บทล่าสุด

  • Undisclosure    สัญญาณจากนอกกล่อง

    อ้อ ไม่นับว่าหากเบนคนเดียวอยู่กับผู้หญิงมากกว่าหนึ่ง ข้อนี้ยกเว้น พวกเขาไม่สามารถมองหน้ากันระหว่างทำเรื่องแบบนี้ได้ เขาไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน ทั้งที่สามารถเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมกันได้แท้ ๆอเล็กซ์เลื่อนสายตามองไปทางอื่นเมื่อเห็นท่าทางยั่วยวนของซาร่าห์ “เอ่อ ล้อเล่น ช่างมันเถอะ คือ ฉันเพิ่งรู้ตัวว่าหิว ก็เลยออกมา แล้วจากนั้นก็ได้ยินเสียง...เสียงนั้นนั่นแหละ” เขาหรี่ตามองทั้งคู่พร้อมรอยยิ้มร้ายแน่นอนว่าอเล็กซ์ต้องคุ้นกับเสียงของซาร่าห์ พวกเขาคบหาเป็นคู่รักกันตั้งสองสามสัปดาห์ก่อนที่เบนจะทำลายความสัมพันธ์ลง อย่างน้อย ตอนนี้ทั้งสองต่างคุยกันอย่างปกติ เหมือนเพื่อนที่ดีต่อกัน“มันยากนักเหรอไง ที่จะหาผู้ชายสักคน” อเล็กซ์ถามอดีตแฟน “ที่ดีกว่าหมอนี่?”“ใช่” ซาร่าห์สารภาพระหว่างสางผมสีทองของตัวเอง “ที่นี่ไม่ได้มีหนุ่มฮอตเยอะแยะสักหน่อย แถมส่วนใหญ่ก็ดูจะไม่สนใจพวกผู้หญิงกันแล้ว...รวมถึงนายด้วย”“เปล่าซะหน่อย...” อเล็กซ์เม้มปาก “ก็พวกเรากลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว”

  • Undisclosure    เหล่าผู้ตกสรวงสวรรค์

    เขาพยายามคิดว่าอเล็กซิสจะอยู่ที่ไหน บางทีอาจเป็นห้องฉายภาพยนตร์ เท่าที่เห็น เด็กสาวดูไม่น่าจะชอบที่จอแจ หากเป็นพวกผู้หญิงที่ง่ายหน่อยก็ไม่ต้องใช้เวลามาก แต่กับอีกประเภท ชั้นเชิงเป็นสิ่งจำเป็น แต่เด็กคนนี้ยังเด็กอยู่เลย บางทีอาจไม่ต้องใช้เวลามากก็ได้มั้ง แค่ให้ไอ้หัวทองไปไกล ๆ ก็พออย่างไรก็ตาม เขาไม่เจออเล็กซิสอยู่ดี เขาเจอผู้หญิงอีกคนเขาไม่แปลกใจที่เห็นเธอยืนเหมือนรออยู่แล้ว หญิงสาวยืนพิงกำแพงส่งยิ้มงาม เธอเคยสวยกว่านี้ เบนคิด วันเวลา สภาพที่ถูกกักขังในสถานที่ปิดลดทอนความสดใสในตัวคน ซาร่าห์ตรงหน้าเขาไม่ต่างจากกุหลาบใกล้ตาย เธอบิดริมฝีปากกึ่งเหยียดกึ่งยินดีเมื่อเขายิ้มให้เธอ เขารู้ว่าเธอต้องการอะไร หญิงสาวอาจไม่ผ่านบททดสอบ และแม้ดอกไม้ดอกนี้กำลังแห้งเหี่ยว แต่มันก็ยังดูสวยสง่าในแบบของมัน“ตายแล้ว นี่คือแบตเตอรี่ที่กำลังเสื่อมสภาพหรือเปล่า” ปากเธอว่าอย่างนั้น แต่มือกลับคล้องคอเขา ไม่ว่าจะอยู่ระดับไหน อีตัวก็คืออีตัวอยู่วันยังค่ำ กลิ่นน้ำหอมของหญิงสาวแตะจมูก มันเป็นกลิ่นกุหลาบ“เธอเคยเห็นกระป๋องซุปข้าวโพดที่ไม่ม

  • Undisclosure    ลูปแสนน่าเบื่อ

    เขาเดินเตร็ดเตร่ไปตามทาง พวกเขาอาจจะถูกปล่อยให้เน่าตายอยู่ในนี้ก็ได้ทั้งสองคนตกนรกมาเกือบเดือน มันเริ่มมาจากคืนนั้น เบน อเล็กซ์ และซาร่าห์ ดื่มมากเกินไปหน่อย หรืออาจจะเรียกว่า บริโภคแอลกอฮอล์ไปเกือบถัง ไม่ใช่ถังปกติ แต่ระดับถังกักเก็บน้ำก็เป็นได้ ปกติแล้ว เท่าที่เบนศึกษาจากตัวพวกเขาเอง มนุษย์ที่มีพรสวรรค์ต้านทานฤทธิ์แอลกอฮอล์และยาได้ดีกว่าคนทั่วไปมาก หรืออาจจะเรียกว่าของพวกนี้ทำอะไรเขาไม่ได้เลย อย่างไรก็ตาม ถ้าหากเขาสูบหรือดื่มในปริมาณขนาดนั้น สุดท้าย ร่างกายก็ยอมแพ้อยู่ดี เมื่อสมองถูกแอลกอฮอล์หรือยาสักชนิดเล่นงาน สติค่อย ๆ ลดลง มันเป็นความประมาทเลินเล่อของพวกเขาด้วย วันนั้น ในห้องเพนต์เฮาส์ของอเล็กซ์ (ของอเล็กซ์จริง ๆ ไม่ใช่ของครอบครัว) ด้วยปราศจากสติสัมปชัญญะ พวกเบนทำเรื่องโง่เง่าที่สุดลงไป นั่นก็คือแสดงพลังเพื่อข่มกันและกันเบนค้นพบความสามารถเหนือมนุษย์มาตั้งแต่เด็ก ส่วนอเล็กซ์ได้รับพลังพิเศษมาจากอุบัติเหตุ สำหรับซาร่าห์ เขาไม่แน่ใจว่าเธอได้มาได้อย่างไร เพราะเธอไม่เคยเล่าให้ฟัง วันนั้นพวกเขาเพียงแค่แสดงความสามารถที่มี ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าคนใกล้ชิดคิดทรยศ

  • Undisclosure    ปีกหัก

    เครื่องตรวจจับควันถูกติดตั้งแทบทุกตารางนิ้ว ยกเว้นห้องใหม่ที่เพิ่งเปิด พวกเขานึกขอบคุณความสะเพร่าของเจ้าหน้าที่ติดตั้งระบบ เบนกับอเล็กซ์จึงได้โอกาสสูบกัญชาอัดปอดกันอย่างสนุกสนาน โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีสิ่งรบกวน น่าแปลกที่ว่า เบนควรรู้สึกว่าเป็นผู้ชนะ (ซึ่งตอนแรกก็รู้สึกแบบนั้น) ทว่าอารมณ์เริงร่ายินดีกับเรื่องนี้หมดลง เมื่อเพื่อนเพียงคนเดียวที่เขามีอยู่ทำตัวแปลกไป นับวันอเล็กซ์ยิ่งมีอาการแย่ลง แย่ลง เขาเอาแต่สิงอยู่ในท้องฟ้าจำลองตั้งแต่ที่พบว่ามันเป็นเขตปลอดเครื่องดักจับควัน คิดไปว่าห้องนี้คือพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง เบนมองว่าอเล็กซ์คงเลือกนอนตายในห้องนี้แน่นอนอเล็กซ์ค่อนข้างหงุดหงิดในช่วงแรกที่คนอื่นรู้ว่ามีห้องใหม่ แต่คนส่วนใหญ่ไม่ได้ชอบหรือตื่นเต้นไปกับดวงดาวเท่าไรนัก (เหมือนกับเบน) มีไม่เยอะนักที่จะมานั่งแช่นาน ๆ ดังนั้น ไม่กี่วันผ่านไปจึงเหลือไม่กี่คนที่เข้ามาดู อีกเหตุผลหนึ่งที่แขกมีจำนวนน้อย เพราะอเล็กซ์สูบบุหรี่ เมื่อเขาเริ่มจุด คนเริ่มทยอยหนีออกไป เพราะเหตุนี้ ห้องจึงมีกลิ่นกัญชาเกือบตลอดเวลา อเล็กซ์รู้วิธีไล่คนออกไปจากห้อง เขาต้องการยึดห้องนี้ไว้คนเดียว&

  • Undisclosure    เจ้าชายหมาป่า

    อเล็กซิสมองตาม เห็นอดีตประธานนักเรียนกำลังนั่งคุยอยู่กับเพื่อนกลุ่มใหม่อย่างสนุกสนาน เบลินดาปรับตัวกับสถานที่แห่งนี้ได้อย่างเป็นธรรมชาติเหมือนกับที่เวดทำได้ คงเป็นสิ่งเดียวที่พวกเขาเหมือนกัน เธอดูมีความสุขมากขึ้น หากนับจากวันที่ถูกจับมาด้วยกัน“นายยังคุยกับคาร์เตอร์อยู่ ฉันเห็น” อเล็กซิสพูด “นายไม่โกรธเธอเลยเหรอ”เขาสั่นหัว “หายโกรธไปแล้ว พวกเราลงเรือลำเดียวกันแล้วนี่นา ฉันค่อนข้างเห็นใจเบลนะ พวกเธอสองคนเย็นชาใส่เขามากไปหน่อย”อเล็กซิสจ้องตาออสโล่เขม็ง ชี้นิ้วไปที่หน้าตัวเอง “ฉันเนี่ยนะ เย็นชาเหรอ เขาตั้งใจจะให้ฉันถูกจับเลยนะ”“ฉันรู้ ๆ อย่างน้อยเธอก็แค่ไม่สนใจเบล ก็ยังดี ฉันก็ไม่ได้จะว่าเธอสักหน่อย”อเล็กซิสถอนหายใจอย่างแรง “ออสโล่ ฉันรู้ว่านายใจอ่อนง่าย โอเค ฉันอาจไม่บ่น ไม่กล่าวโทษคาร์เตอร์ แต่ฉันอดไม่ได้ที่จะเตือนนายให้ระวังคนแบบนี้ ฉันไม่รู้ว่าคาร์เตอร์คิดอะไรอยู่ แถมเธอยังไม่เคยขอโทษพวกเราเลยด้วยซ้ำ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านายยังคุยกับคนแบบนั้นได้ นับถือจริง ๆ”“

  • Undisclosure    คนที่ปรับตัวได้

    วินาทีที่อเล็กซิสหันไปมอง เด็กคนนั้นมองกลับมาอย่างรวดเร็ว มันเป็นความรู้สึกที่ประหลาด เขามักจะมองกลับมาเร็วเสมอเหมือนรู้สึกตัวตลอดเวลาว่ามีคนมองอยู่ รูปลักษณ์ของเขาดึงดูดสายตาของอเล็กซิสได้สนิท ทั้งผมสีเงินและดวงตาสีฟ้าเข้ม สีหน้าของเขาเหมือนกับกระจกสะท้อนสีหน้าของอเล็กซิสเช่นกัน เธอสอดสงสัยไม่ได้ว่าเขามีเรดาร์ติดตัวหรืออย่างไร ในเมื่อเขาสามารถจับสายตาคนได้ตลอด เธอจำเด็กหนุ่มคนนี้ได้ตั้งแต่วันแรกที่มาถึงที่นี่ พวกเขาเหมือนรู้จักกันมาก่อน อันที่จริง ควรใช้คำว่า พอคุ้นหน้าคุ้นตามากกว่า“เด็กคนนั้น” โนเอลพึมพำ “เขาไม่คุยกับใครเลย พวกเราพยายามจะเป็นเพื่อนกับเขา แต่เขากลับอยากอยู่คนเดียว เป็นเด็กที่แปลกจริง ๆ ไม่มีใครรู้ชื่อเขาเลยด้วย”“ไมเคิล” อเล็กซิสตอบ“เธอรู้จักเขาเหรอ” เวดถาม เริ่มกระวนกระวายขึ้นมาทันที“อื้อ เราเคยเจอกันนานพอสมควร ฉันว่าเขาน่าจะเป็นคนขี้อายมาก ๆ ...หรือไม่ก็ ไม่ชอบเข้าสังคม ไม่สิ ไม่ชอบคน”“แล้วไปรู้จักกันตอนไหน”“ตอนที่ไปเทสต์หน้ากล้อง”

  • Undisclosure    เพื่อนใหม่

    “หวัดดี พวกนาย!” เทสซ่าเดินเข้ามา สวยเด่นมาแต่ไกล พอมาถึงก็เอามือเท้าเอว ส่วนอีกข้างเกาะขอบเก้าอี้ไว้ เทสซ่าสวมเสื้อสายเดี่ยวสีดำครึ่งตัวกับกางเกงทหารสีกากี ศีรษะของเธออยู่ประมาณหูของอเล็กซิส“ได้เวลาพอดีเลย ลุยเลยเพื่อน!” เวดเชียร์เมื่อพวกพี่น้องโธมัสโผล่มาเทสซ่าอายุสิบเก้า เป็นเพื่อนคนแรกของพวกเขา เธอทำตัวเหมือนกับเป็นเจ้าของที่นี่ คอยให้คำแนะนำและพาเดินชมรอบ ๆ จนพวกอเล็กซิสรู้ว่าที่ไหนเป็นอะไรบ้าง พวกเทสซ่าแทบจะเป็นประชากรกลุ่มแรกเลยก็ว่าได้ เพราะอยู่ที่มาก่อนเด็กซานโบซ่าราว ๆ สามอาทิตย์ เธอเล่าว่า ตอนแรกมีคนไม่เยอะเท่าไรนัก แต่เมื่อมีหน้าใหม่เข้ามาเรื่อย ๆ ที่นี่ก็เริ่มแน่นขึ้นอย่างที่เห็น“อเล็กซิสจ๊ะ ฉันแอบเห็นเธอถามหาจอห์น ลีลอยด์ที่โรงหนังด้วยนะ ถ้าพวกฉันไม่เห็นเขา ก็ไม่มีใครเห็นแล้วล่ะ เชื่อเถอะ” เทสซ่าว่า สายตามองไปยังเสื้อแจ๊กเกตของเพื่อนสาว “ตัวนี้ก็สวยจัง”ส่วนอีกสองคนที่อยู่ข้างหลังเทสซ่าคือ มินนี่และโนเอล มินนี่เป็นน้องเล็กสุด อายุสิบเจ็ดปี แม้จะเป็นพี่น้องกัน แต่มินนี่ไม่เหมือนเทสซ่า เด็กสาว

  • Undisclosure    สวนอีเดน

    เสียงเพลงในเลานจ์ดังพอสมควร แม้ดนตรีจะเป็นแจ๊สแต่ก็ออกมาจากตู้เพลง หาใช่ฝีมือนักดนตรีไม่ ครั้งแรกที่เธอเข้ามาที่นี่อดทึ่งและประหลาดใจไม่ได้เมื่อเห็นทุกสิ่งทุกอย่างขับเคลื่อนอัตโนมัติ ปราศจากหุ่นยนต์หรือแรงงานมนุษย์คอยควบคุม หรืออาจจะอยู่เบื้องหลัง มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายคอยปรนเปรอ ทุกอย่างเหมือนดีกว่าที่คิดไว้ อย่างน้อยเธอยังมีเพื่อน ทว่าความเหงาไม่ได้ทุเลาลงเลยหากอยากฟังเพลงอะไร อยากดื่มอะไร เพียงใช้ปลายนิ้วสัมผัสหน้าจอหรือออกคำสั่งด้วยเสียง ไม่กี่วินาทีของที่สั่งก็ถูกนำมาเสิร์ฟ เธอเคยเห็นเทคโนโลยีแบบนี้แค่ในหนังเท่านั้น รัฐบาลโกหกประชาชนไว้หลายอย่าง พวกเขาปิดกั้นความรู้ไม่ให้ชาวนิวโฮปเข้าถึงดั่งอดัมกับอีฟ ทุกคนอยู่ในโลกอนาคต แต่กลับใช้ชีวิตเหมือนคนในยุคก่อน และความจริงที่เธอรับรู้ในตอนนี้อาจเป็นเพียงความจริงเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของความจริงทั้งหมดก็ได้ไม่มีใครให้คำตอบหรืออธิบายข้อสงสัยอะไรทั้งสิ้น คนที่ถูกจับทั้งหมดถูกทิ้งให้ใช้ชีวิตอยู่ในเกาะปลีกวิเวกสุดหรู อเล็กซิสเฝ้าถามตัวเองว่า ที่นี่มีไว้ทำอะไรกัน เธอไม่รู้ว่ามันอยู่ไกลกว่าบ้านหรือเปล่า หรือว่าอยู่ใน

  • Undisclosure    กัญชามิตร

    “เออ ไม่มีน่ะสิ”พวกเขาหยุดอยู่หน้าประตูโลหะสีดำ มันเป็นสีดำ เพราะอย่างนี้นี่เอง ห้องนี้จึงโดดเด่นขึ้นมาจากห้องอื่น เพราะสีที่ต่างกับที่อื่นทำให้เบนรู้สึกถูกใจขึ้นมาทันที แม้ยังไม่เห็นว่าข้างในเป็นอย่างไรก็ตาม สีดำเป็นสีคลาสสิกและสะท้อนรสนิยม เพราะสีดำมีสไตล์ในตัวมันเองอเล็กซ์เปิดประตูนำเข้าไป ดวงตาสีดำเปิดประกายเจิดจ้าขึ้นทันทีที่ก้าวเข้ามาอยู่ในห้องเหมือนเด็กที่เห็นของเล่นถูกใจ ที่แท้ ห้องนี้คือห้องท้องฟ้าจำลองขนาดใหญ่ ทรงกลม มีโปรเจ็คเตอร์ตั้งอยู่ตรงกลางห้อง พร้อมกับที่นั่งรอบกำแพงจำนวนสิบที่ ท้องฟ้าจำลองยามค่ำคืนอวดดวงดาวนับพันที่กำลังส่องแสงระยิบระยิบ ตรงข้ามกับอเล็กซ์ เบนกลับผิดหวังที่มันเป็นท้องฟ้าจำลอง เพราะเขาไม่ใช่คนที่สนใจดูดาวพวกนี้เลย ทั้งความเงียบและท้องฟ้ามืด ๆ ดาวอะไรก็ไม่รู้ เบนไม่รู้สึกว่ามันน่าตื่นเต้น เขายอมอยู่ในห้องฉายภาพยนตร์ที่มีแต่หนังโรแมนติกเก่า ๆ เล่าเรื่องราวความรักน้ำเน่ายังดีกว่า อเล็กซ์เดินวนไปวนมา จ้องมองท้องฟ้าข้างบนด้วยท่าทางครึกครื้น“นี่นะเหรอ...ที่ที่นายบอกว่าเจ๋ง”“เดี๋ยวสิวะ อ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status