1 คอนเมนต์ เท่ากับ 1 กำลังใจนะคะ
EP.9ขวัญพิชชาแปลกใจในคำพูดของรามิล แต่นั่นก็ใช่ว่าเธอจะใส่ใจมากนัก มาเฟียคงชอบพูดไปเรื่อยละมั้ง เธอเลยไม่อยากต่อปากต่อคำ นั่งสงบนิ่งจนกว่าจะถึงมูลนิธิเมื่อถึงที่หมาย ขวัญพิชชาก้าวลงจากรถพร้อมกับรามิล ตอนนี้เป็นเวลา 7 โมงเช้า ขวัญพิชชาเดินนำเขาอยู่หลายก้าว แลหันซ้ายมองขวา ว่ามีใครเห็นหรือไม่ เธอทำตัวมีพิรุธจนรามิลรู้สึกรำคาญตาสองมือสอดเข้ากระเป๋ากางเกงเดินปล่อยตัวสบาย ๆ ก่อนจะหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ สายตาคมชำเลืองมองสาวสวยที่เดินอยู่หน้าตน และจู่ ๆ ขวัญพิชชาก็หยุดเดิน“ที่นี่ห้ามสูบบุหรี่นะคะ” เธอเหลียวหลังมามอง ดวงตาหวานจ้องไปที่บุหรี่ แล้วต่อว่าเขา“รู้ แต่จะสูบ”“งั้นคุณก็ไม่ต้องตามเบลมาแล้วค่ะ”“จะตาม มีปัญหาอะไรอีก”“คุณเคนโซไม่เห็นป้ายเหรอคะ ช่วยดับมันด้วยค่ะ เบลเหม็น” เธอชี้ไปยังป้ายที่ติดคำว่าเขตปลอดบุหรี่ เตือนสติให้เขาอ่านมันชัด ๆ“นี่เธอกำลังสั่งฉันอีกแล้วนะมาเบล” รามิลพุ่งตรงไปหาเธอด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง ก่อนจะโยนบุหรี่ทิ้งลงบนพื้น ฝ่ามือใหญ่ตะปบลำคอเธอ เขาออกแรงบีบไม่หนักไม่เบา พอให้เธอรู้สึกเพื่อสั่งสอน รามิลไม่พอใจที่เธอพูดสั่งให้เขาห้ามทำอย่างนั้นอย่างนี้“อึก ปล่อยเบลนะ”
EP.10อคิราห์ขับรถถึงมูลนิธิในช่วงเวลาเก้าโมงตรง เขามารอรับขวัญพิชชาเพื่อพาเธอไปสอนพิเศษให้กับลูกสาวบุญธรรม ชายหนุ่มจอดรถอยู่ที่ลานจอดเช่นเคย ใบหน้าหล่อเหลาระบายยิ้มอย่างอารมณ์ดี ต่อสายโทรหาขวัญพิชชาในทันที จะบอกกับเธอว่าเขารออยู่ที่ข้างล่างแล้วเสียงแรกที่เขาอยากได้ยิน เมื่ออีกฝ่ายกดรับสาย กลับไม่ใช่ขวัญพิชชา ใบหน้าหล่อจากที่เคยเปื้อนยิ้มเปลี่ยนเป็นบึ้งตึง[ ไง ไอ้เพื่อนรัก ] น้ำเสียงหยอกเย้ากึ่งดุดัน เอ่ยกับคนในปลายสายที่ได้ขึ้นชื่อว่าเคยเป็นเพื่อนรักกันมา“ไอ้เคนโซ”[ ยังจำกันได้สินะ ]“มึงมารับโทรศัพท์เธอได้ยังไง”[ กูชอบน้ำเสียงมึงตอนนี้จัง ดูร้อนรนดี ]อคิราห์ยืนเสยผมตัวเองแรง ๆ เดินวนไปมาอยู่รอบรถของตัวเอง ก่อนจะมองไปยังตึกใหม่ที่ขวัญพิชชาทำงาน สองเท้าก้าวยาวด้วยความเร็ว แล้วหยุดยืนที่หน้าตึก เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขาไม่รู้ชั้นที่เธอทำงานอยู่ชั้นอะไรชายหนุ่มหลับตาผ่อนลมหายใจเข้าออกช้า ๆ แล้วก้าวถอยหลังออกมาบอกกับคนในสาย“กูขอสายเบล”[ ถ้าให้กูเดา ตอนนี้มึงคงยืนอยู่หน้าตึก ]“กูมารับเธอ”[ แต่โทษทีว่ะ มาเบลเป็นผู้หญิงของกู ]“มึงบังคับอะไรเธอ”[ รอกูอยู่ตรงนั้น ]ก่อนหน้านี้ หลังจาก
EP11รามิลสั่งคนขับให้ขับตามรถทะเบียนคันข้างหน้า ดูเหมือนว่ารถอคิราห์จะขับออกนอกเส้นทางไปไกล รามิลรู้ว่าเธอกับอคิราห์จะไปไหน จึงไม่ได้สนใจเส้นทางเท่าไหร่นักจนกระทั่งถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เป็นบ้านเดี่ยวสองชั้น รถอคิราห์เลี้ยวซ้ายขับเข้าไป“หลังนี้ครับนาย” ฟาร์มชี้ให้รามิลทราบว่าคือหลังไหน เขาเคยมาดูลาดเลาเมื่อวาน แต่วันนี้นายเขากลับลงพื้นที่ด้วยตัวเอง“พวกมึงดูกันไป ถ่ายรูปด้วย กูจะนอน” เมื่อคืนรามิลไม่ได้หลับเลยสักงีบ ออกจากคลับก็เกือบเช้าแล้วตรงไปหาขวัญพิชชาที่อะพาร์ตเมนต์ทันที“อ่าวนาย” ฟาร์มจึงต้องรับหน้าที่คอยเฝ้าสังเกตการณ์อีกเช่นเคย ตามคำสั่งของมาเฟียหนุ่มขวัญพิชชากำลังเตรียมการสอนให้กับนาเดียเด็กน้อยวัย 8 ปี อคิราห์นั่งข้างลูกสาวคอยดูการเรียนการสอนของผู้หญิงต่างวัยสองคน แต่ดูท่าแล้วอคิราห์จะมองความสวยของขวัญพิชชานานเกินไป นาเดียเรียกปะป๊าอยู่ตั้งนานอคิราห์ก็ไม่ขานรับ ขวัญพิชชาเองก็ช่วยเรียก อคิราห์ก็เอาแต่มองเธอ ใบหน้าสวยหวานขึ้นสีระเรื่อ เมื่อถูกจ้องนาน“คุณซีนายคะ”“...ครับ”“ปะป๊าชอบคุณครูของนาเดียมากเลยใช่ไหมคะ”“เอ่อ นาเดียคะ เมื่อวานเราสอนกันไปถึงไหนน๊า” ขวัญพิชชาเบี่ยงค
EP.12รามิลหมุนไหล่ขวัญพิชชาให้หันมองอคิราห์ที่โดนลูกน้องรามิลจับไว้แล้วนั่งลงคุกเข่า“บอกลามัน”“คุณ...” น้ำตาสีใสรื้นอยู่รอบตา มันกลิ้งไปมาแทบจะหยดลงเป็นสายธาร เมื่อเห็นอคิราห์ถูกชายฉกรรจ์จับเขากดเอาไว้ เธอเองก็ช่วยอะไรเขาไม่ได้ รู้สึกสงสารเขาจับใจ ขวัญพิชชาไม่เคยรู้อดีตของอคิราห์และรามิล ว่าเขาสองคนนั้นมีปัญหาอะไรรามิลเหยียดยิ้มมองอคิราห์ที่ไร้หนทางสู้ มาเฟียหนุ่มโน้มใบหน้าลงกระซิบข้างหูขวัญพิชชา ขณะที่สายตายังคงจับจ้องอคิราห์อย่างเย้ยหยัน “ฉันสั่ง” สิ้นคำ รามิลใช้วงแขนกอดรัดขวัญพิชชาไว้กับตัวจนเธอแทบจะฝังตัวเข้าไปอยู่ในร่างเขา“คุณซี...”“ฉันบอกให้ลามัน ไม่ใช่ให้เรียกชื่อมัน” เธอพูดไปแค่สองคำ ก็ถูกแทรกด้วยเสียงทุ้มเข้มอย่างไม่พอใจเมื่อเธอไม่ทำตามคำสั่ง“ละ ลาก่อน”“ไม่บอกลาเธอด้วยล่ะ มารยาทน่ะ” ริมฝีปากเหยียดยิ้ม รามิลยื้อเวลาไว้อีกหน่อย เขาจะดึงเธอกลับเลยก็ได้ แต่มาเพื่อแค่นี้มันจะไปสนุกอะไรมาเฟียหนุ่มอยากเห็นภาพสะใจก่อนไป รามิลหวังต้องการใช้มือณิลิน สั่งสอนผู้หญิงโง่ ๆ อย่างขวัญพิชชา เธอจะได้หูตาสว่าง แถมได้รวบยอดความแค้นที่เคยสะสมในอดีต เห็นผัวเมียที่เคยเป็นทั้งเพื่อนรัก และแ
EP.13ความรู้สึกผิดหวังถาโถมใส่กลางใจ ดวงตาแสบร้อนกลั่นเอาหยาดน้ำอุ่น ๆ เอ่อคลอขึ้นมา แล้วกลายเป็นเม็ดละอองหยดน้ำไหลลงสองข้างแก้ม ตั้งแต่รถตู้คันสีดำขับออกจากหมู่บ้าน ขวัญพิชชายังคงร้องสะอื้นมาตลอดทาง นัยน์ตาหวานเหม่อลอยมองยังนอกหน้าต่างมีเพียงน้ำตาที่ปิดกั้นทัศนียภาพในเมืองกรุง ถึงแม้รถราจะวิ่งผ่านไปมาเพียงใด เธอก็มองไม่เห็นรถเหล่านั้นอยู่ดีมือบางยกขึ้นสัมผัสตรงส่วนที่ยังรู้สึกชาบนหน้าแก้ม เมื่อเธอโดนภรรยาอคิราห์ตบแรงขวัญพิชชาแทบอยากขุดหลุมกับคำว่าเมียน้อยลงใต้พื้นธุลี เธอไม่เคยเป็นและไม่ได้อยากเป็นเมียน้อยใคร ความรู้สึกดี ๆ ที่เคยมีต่ออคิราห์แทบจะหมดลงเมื่อภรรยาเขามาแสดงตัวเสียงก้อนสะอื้นลูกสุดท้ายได้หยุดลง ขวัญพิชชาปาดน้ำตาลวก ๆ บนหน้าแก้มจนเกือบแห้ง แล้วหันไปมองคนข้าง ๆ เมื่อไม่ได้ยินเสียงเขาไม่รู้ว่าเพราะหลับจริง หรือแค่พักสายตา จนกระทั่งเรียวปากหยักเปิดปากขึ้นมา รามิลรับรู้ได้ว่ากำลังถูกมอง“อยากร้องก็ร้องไป ไม่ได้ว่าอะไร” ตอบทั้งที่ยังคงปิดเปลือกตาสนิท ถึงจะบอกไปอย่างนั้น แต่ความจริงแล้วเขาเองก็รำคาญ“ไม่ร้องแล้วค่ะ”“เหรอ” รามิลลืมตาขึ้นเมื่อสิ้นสุดคำพูดเธอ “รู้สึกยังไงล่
EP.14ริมทางฟุตบาทมีรถเข็นพ่อค้าแม่ค้าตั้งเรียงราย อีกทั้งเมนูหลากหลาย ผู้คนเดินขวักไขว่กันในยามค่ำ บ้างก็ซื้ออาหารกลับบ้าน บ้างก็นั่งทานที่ร้านเสียงผัดในกระทะดังฉ่า ขึ้นเป็นไฟลุกท่วมคงจะหนีไม่พ้นเมนูผัดผักบุ้งไฟแดงที่ทานคู่กับข้าวต้มอร่อยอย่าบอกใครขวัญพิชชาถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ เมื่อพ่อค้าโชว์ลีลาการทำอาหาร กลิ่นมันช่างหอมเย้ายวนใจ ชวนให้น้ำลายสอ ขวัญพิชชาอยากจะสั่งอาหารมาทาน แต่ติดที่เธอไม่มีเงินติดตัวเลยสักบาท“หิวจัง” มือน้อย ๆ ลูบท้องตัวเองเพราะความหิว ขวัญพิชชาเดินตัวเปล่า พยายามคลำตามตัวเผื่อจะมีเศษเงินติดตัว มือบางสอดเข้ากระเป๋ากางเกงทั้งหน้าหลังขวัญพิชชาระบายยิ้มอย่างมีหวัง เมื่อเจอบางอย่างในกระเป๋ากางเกง เธอหยิบขึ้นมาเป็นแบงก์สีแดงจำนวนหนึ่งใบ“กินรองท้องสักนิดก็แล้วกัน”ขวัญพิชชาเลือกนั่งทานที่ร้าน สั่งข้าวต้มหนึ่งถ้วยกับผัดผักบุ้งไฟแดง ในงบหนึ่งร้อยเธอคงกินไปไม่ได้มากกว่านี้ระหว่างที่กำลังนั่งทานข้าวต้มอยู่นั่น จู่ ๆ ก็มีผู้ชายมานั่งร่วมโต๊ะกับเธอ“รีบ ๆ กิน จะได้รีบกลับ” รามิลคอยแอบดูเธออยู่ในรถ เขาทนสภาพเห็นเธอคล้ายเหมือนคนขอทานไม่ไหว เลยตัดสินใจลงมานั่งเป็นเพื่อนเธอ
EP.15ความขุ่นเคืองทำให้ขวัญพิชชาต้องพยายามกลั้นหายใจ ถ้าเขาคิดว่าเธอไม่ใช่คนในระดับเดียวกัน แล้วจะมายุ่งวุ่นวายกับเธอไปทำไม เธอแค่อยากใช้ชีวิตของตัวเอง ถึงได้กล้าออกมาเผชิญกับโลกภายนอกเธอรู้ว่าโลกนี้ไม่ได้ใจดีกับทุกคน แต่เธอก็มีสิทธิเลือกทุกอย่างด้วยตัวเอง ไม่ต้องการให้ใครมาเลี้ยงดู แล้วใช้ถ้อยคำดูถูกกับคนที่ต่ำต้อยกว่าตน“เรื่องสอนพิเศษ เธอคงไม่คิดจะตากหน้าไปที่บ้านนั้นอีกแล้วใช่ไหม”“ค่ะ เบลไม่ไปแล้ว”“งั้นเธอก็ไปอยู่กับฉัน หรืออยากได้คอนโดสักหลัง ฉันก็ซื้อให้เธอได้”“ถึงเบลจะไม่ได้สอนพิเศษที่นั่นแล้ว เบลก็ไม่ไปอยู่กับคุณอยู่ดีค่ะ” แววตาขวัญพิชชากำลังมองเขาอย่างต่อต้าน คำพูดออกจากเรียวปากได้รูปก็ดูจะเป็นคำตอบที่รามิลไม่ค่อยพอใจเสียเท่าไหร่“หรือว่าเธออยากจะไปอยู่กับผัวคนอื่นล่ะ” รามิลยิ้มประชดใส่ดวงตาเธอ มาเฟียหนุ่มเข้าใจแบบนั้น เพราะเธอเอาแต่ปฏิเสธเขามาตลอด สนใจแต่มัน เตือนแล้วยังไม่ฟัง แล้วถ้าเธอกับมันมีโอกาสได้เจอกันอีก อาจจะพากันหนีไปก็ได้ ใครจะรู้“เบลไม่ได้อยากเป็นเมียน้อยใครนะคะ”“รู้ แต่ว่ามีคนอยากเป็นผัวเธอไง ไอ้คนที่มันเพิ่งกลับไปเมื่อกี้“เลิกพูดเถอะค่ะ เบลไม่อยากฟัง”“แ
EP.16ณิลินรนหาที่ตายไม่รู้ตัว หญิงสาวปากสั่นตัวสั่น เมื่อเขาหยิบปืนสั้นหันปลายกระบอกปืนจิ้มตรงกลางหน้าผากเธอ“ฉันสั่งลูกน้องให้ไล่เธอกลับไป แต่เธอก็ไม่กลับ” รามิลยิ้มน้อย ๆ ยิ้มแบบขนาดที่ว่าคนมองมองแล้วก็สัมผัสถึงความน่ากลัวรามิลจับเธอลุกขึ้นแล้วณิลินเหวี่ยงไปยังโซฟาอย่างไม่ถนอม จนตัวเธอกระเด้ง“โอ๊ย”“อย่าคิดว่าจะออกไปจากที่นี่ง่าย ๆ” รามิลยกเท้าขึ้นวางบนเบาะโซฟาข้างตัวเธอ โน้มตัวลงช้า ๆ ยกข้อศอกมาวางบนหน้าขา ใช้ปลายกระบอกเคาะลงบนฝ่ามืออีกข้าง ก่อนจะไปจ่ออยู่ที่ใต้คาง“ลินไม่ได้อยากเล่นเกมบ้า ๆ นี่นะ”“เกมสนุกจะตายไป จะอยู่หรือตายก็ขึ้นอยู่กับกระสุนเม็ดเดียว หรือถ้ากลัวว่าเล่นสองคนแล้วจะไม่สนุก ฉันไปลากไอ้นายมาเล่นด้วยดีหรือเปล่า เผื่อจะได้สั่งลากันทีเดียว”“ไอ้คนชั่ว...อ๊าย”สิ้นคำจากอดีตแฟนสาว ณิลินถูกรามิลตบด้วยปืน สันกรามขบเข้าหากันจนขึ้นเป็นสันนูน กล้ามเนื้อทุกส่วนบนร่างกายเกิดความโทสะ มาเฟียหนุ่มตวาดเสียงกร้าว“ฉันควรเป็นคนที่ต้องพูดประโยคนี้ ไม่ใช่เธอ” รามิลเอื้อมมือจับปลายคางแล้วออกแรงบีบให้อีกฝ่ายรู้สึกเจ็บ ณิลินพยายามจับปลายนิ้วเขาออก แต่เพราะเขามีแรงมากกว่า เธอจึงทำอะไรเ
SPECIAL 3“สวัสดีค่ะคุณลุง เมื่อไหร่คุณลุงจะมาหาวีนัสคะ วีนัสคิดถึงคุณลุงม๊ากมากค่ะ วีนัสอยากอยู่กับคุณลุง วีนัสอยากไปเที่ยวเกาะค่ะ”[ ไม่น่าจะอยากมาหาลุงหรอก อยากมาเล่นน้ำมากกว่า ถามคุณพ่อหนูก่อนไหม ว่าอนุญาตหรือเปล่า ]อาชวะโดนหลานสาวตัวน้อยออดอ้อน มีเหรออาชวะจะไม่ใจอ่อน แค่เธอเปิดปากขอ อาชวะก็จัดหาให้ได้ทุกอย่าง แต่จะมีสิ่งมีชีวิตอยู่คนหนึ่งที่ชอบมาขัดขวาง เหตุเพราะกลัวลูกไม่รักตัวเอง แล้วมารักเขามากกว่า“พ่อไม่ให้หนูไปไหนทั้งนั้นค่ะ” พูดไม่ทันไร เสียงรามิลก็ลอยมาให้คนในสายได้ยินเต็มสองหู วีนัสหันไปมองค้อนคุณพ่อ ก่อนจะฟ้องอาชวะ“คุณพ่อไม่น่ารักเลยค่ะ แต่วีนัสอนุญาตให้คุณลุงมารับนะคะ พรุ่งนี้เลย”สิ้นคำลูกสาว รามิลแย่งโทรศัพท์จากมือวีนัสแล้วตัดสายทิ้ง ลูกสาวโวยวายลั่นทุบตีคนเป็นพ่อ ร้องไห้อาละวาดหนัก เธอรักคุณลุงอาชวะมาก เพราะตามใจเธอทุกอย่าง แถมคุณลุงของเธอก็หล่อมาก ๆ ด้วย“ฮือ คุณพ่อนิสัยไม่ดี”“วีนัส หนูตีคุณพ่อไม่ได้นะคะ ขอโทษคุณพ่อเดี๋ยวนี้” ขวัญพิชชาจับลูกสาวตัวน้อยมาสงบสติอารมณ์ แล้วสั่งสอนวีนัสพร้อมกับให้เธอเข้ามุม“ยิ่งโต ก็ยิ่งเอาแต่ใจ เหมือนใครคะ” ลูกทั้งสองถูกตามใจตลอด มี
SPECIAL 2วิคเตอร์ลูกชายคนโตวัย 8 ปี เดินเท้ามาพร้อมกับคุณพ่อ วัย 38 ปี ทั้งท่วงท่าและการเดิน หรือแม้แต่ใบหน้าทุกส่วนที่จัดวางเรียงเหมือนคนเป็นพ่อไม่มีผิดเพี้ยน ตอนนี้สองพ่อลูกหยุดยืนอยู่ต่อหน้าบอดี้การด์นับสิบ พวกเขาแบ่งกันเป็นสองฝั่ง แต่ทว่ากลับมีบุคคลหนึ่ง นั่งคุกเข่่าสวมหมวกไอ้โม่งอยู่ตรงหน้า โดยมีบอดี้การ์ดจับตัวมันไว้ เพื่อเค้นเอาความจริงออกจากปาก ว่าใครเป็นคนสั่งให้มันกล้้ารุกล้ำเข้าพื้นที่ส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต“ใครใช้แกมา”“ไม่มี”“ฉันไม่เชื่อ”“ก็บอกไปหมดแล้ว”“โกหก! ถ้าแกยังไม่ยอมบอก ฉันจะใช้ดาบสตาวอร์ฟันหัวแกเดี๋ยวนี้” แสงของดาบฉายประกายไฟเป็นสีเรืองแสงออกมา เมื่อเจ้าของดาบชูขึ้นสูงแล้วตั้งท่าด้วยความมุ่งมั่นและจริงจัง มองไปยังคนร้ายที่นั่งอยู่ตรงหน้า“ยะ อย่านะ อย่า...เฮือก~” ปลายดาบถูกตวัดลงบนลำคอคนร้ายแล้วเฉือนถูกอวัยสิ่งนั้นอย่างช้า ๆ ชายที่สวมหมวกไอ้โมง ค่อย ๆ เอนตัวล้มบนพื้นเมื่อถูกฆ่า“เป็นไงครับพ่อ ผมเก่งไหม” วิคเตอร์กระโดดดีใจหันไปถามผู้เป็นพ่อด้วยสีหน้าตื่นเต้น วันนี้ลูกชายคนโตและคุณพ่อ สวมบทบาทเป็นมาเฟียสุดโหดส่วนไอ้โม่งก็คือฟาร์มลูกน้องคนสนิทของรามิล รับบทเ
SPECIAL 1ย้อนเหตุการณ์ไปเมื่อก่อน รามิลรู้ข่าวของอคิราห์และณิลินเมื่อคนที่เคยรักหักหลังกำลังจะไปหย่ากันที่เขต ลูกน้องถ่ายภาพส่งมารายงาน ในระหว่างที่เขากำลังเดินทางไปสนามบิน“ในที่สุด” เสียงทุ้มเรียบเย็นเอ่ยขึ้นเบา ๆ มองภาพคู่รักที่เพิ่งแตกหักกันสด ๆ ร้อน ๆแต่ในขณะเดียวกัน เขาเองก็คิดเรื่องขวัญพิชชา ในช่วง 3 วันที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศนั้น รามิลต้องการตัดช่องทางการสื่อสารกับเธอ แต่มันติดอยู่ที่ว่า...เขารักเธอไปแล้ว รามิลรู้สึกเจ็บที่อกซ้ายยังไงไม่รู้ ยามที่คิดว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องปล่อยเธอไป“ไอ้ฟาร์ม มึงว่ากูจะรักเบลได้ไหมวะ”“ผมคิดว่านายรักคุณมาเบลอยู่แล้วนะครับ” คำตอบของลูกน้องทำให้เขาต้องตระหนักกับเรื่องที่ผ่านมาเขารักเธอมาก่อนแล้วอย่างนั้นเหรอ“ถ้าเธอรู้ความจริงว่าทุกอย่างที่ผ่านมากูหลอกเธอ เธอจะรักกูได้อยู่อีกเหรอ”“แต่คุณมาเบลก็รักนายมาก ๆ นะครับ”“กูรู้”“แล้วนายล่ะครับ รักคุณมาเบลแค่ไหน”รัก ? “ตอบยากแฮะ”“นายไม่รักเธอเหรอครับ”“ถ้าปล่อยเธอให้ไปเจอคนที่ดีกว่ากู เธอคงจะมีความสุขกว่านี้”“แล้วนายจะไม่ทุกข์ ?” ที่เขากล้าถามเพราะอยู่กับรามิลมานาน แต่ต้องดูอารมณ์ตามสถานการณ
EP.58อีก 7 เดือนต่อมา ขวัญพิชชาท้องใหญ่ขึ้นมาก ถ้าเธอจะลุกเดินไปไหนต้องมีวิวแชร์คอยช่วย เนื่องจากมือเท้าที่บวมขึ้นมาก เวลาทำอะไรก็ลำบาก เธอรู้สึกหน่วง ๆ ท้อง มันจะปวดเป็นพัก ๆ เพราะอีกแค่เดือนเดียวก็ถึงกำหนดคลอดก่อนหน้านี้ รามิลขอให้เธอเลิกเป็นครูสอนพิเศษที่มูลนิธิ เขาไม่ยอมทนเห็นเมียท้องโย้เดินทำงานแน่ เมื่อเขาเป็นลูกชายเจ้าของมูลนิธิ และเป็นมาเฟีย ปล่อยให้เมียเดินทำงานจนถึงวันคลอด เขาคงเป็นสามีที่แย่มาก ๆ“เบลเจ็บท้องจังเลยค่ะ” แต่วันนี้มันกลับปวดมากกว่าทุกวัน“จะคลอดแล้วหรือเปล่า แต่หมอบอกคลอดช่วงสิ้นเดือน”“แต่หมอบอกว่าถ้าเจ็บมาก ๆ ให้รีบมาโรงพยาบาล แต่ตอนนี้เบลเจ็บแบบไม่ไหวแล้ว มันปวดท้องมาก ๆ ด้วย ปวดเหมือนมีอะไรบีบรัด พาเบลไปโรงพยาบาลที”เมียรักทนไม่ไหว เขาก็ยิ่งทำอะไรไม่ถูก ไม่รู่ว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง เขาจึงโทรหาธิติมาให้ท่านช่วยเตรียมของช่วงคลอดให้ขวัญพิชชา เวลานี้เขาต้องพาภรรยาไปหาหมอเป็นการด่วน“นี่เธอฉี่เหรอ”“ไม่ใช่ค่ะ ถุงน้ำคร่ำแตกแล้ว เบลจะคลอดลูก” คราวนี้ล่ะ ฉิบหายหนักกว่าเดิม คุณพ่อมือใหม่ทำอะไรไม่ถูก รามิพยุงเธอไปยังรถตู้ สั่งลูกน้องให้รีบขับไปโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน
EP.57 จากแค่ผู้หญิงกำพร้าคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตตัวคนเดียวมาตลอด 23 ปี ตอนนี้กลายเป็นเมียมาเฟียที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในประเทศ ขวัญพิชชาไม่เคยคิดว่าเธอจะมีวันนี้ วันที่เธอมีพร้อมได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะความรัก หรือความอบอุ่นจากผู้มีพระคุณ ก็คือคุณพ่อคุณแม่ของชายที่เธอรักงานแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ อีกทั้งแขกเหรื่อในงานก็มีแต่แวดวงไฮโซ และผู้มีอิทธิพลรวมตัวกันอยู่ในงานนี้แขกประมาณพันคนที่ถูกเรียนเชิญกำลังทยอยเข้างาน บ่าวสาวยืนต้อนรับแขกอยู่หน้างาน กระทั่งมีใครบางคนเดินเข้ามาแสดงความยินดี“ไม่คิดว่างานจะจัดไวขนาดนี้” อาชวะหนุ่มเมืองใต้ ถูกขวัญพิชชาเชิญมาเป็นแขกในงานและยังเป็นคนสำคัญสำหรับเธอในฐานะ ‘ผู้ใหญ่’ แน่นอนว่าเขาตกลงและยินดีที่ได้มาร่วมงานมงคลสมรสในวันนี้แต่กลับมีชายคนหนึ่งที่ดูคล้ายจะไม่พอใจเสียเท่าไหร่ เมื่อได้เห็นหน้าพ่อเลี้ยงเมืองใต้ รามิลโอบไหล่ขวัญพิชชาไว้กับตัวไม่ปล่อย ได้ข่าวว่ามาเฟียหนุ่มคนนี้หวงเมียราวกับหมาหวงกระดูก แล้วยังรู้มาอีกว่า ขวัญพิชชาก็กำลังตั้งครรภ์อ่อน ๆ“ถ้ารู้เพศแล้วบอกด้วย”“บอกทำไม ไม่ใช่ญาติ” เป็นเสียงของรามิลเอ่ยขึ้นมาระหว่างที่ขวัญพิชชาและอาชวะกำลังส
EP.56รามิลออกจากโรงพยาบาลก็พาเธอไปเก็บกระเป๋าที่คอนโดทันที แล้วย้ายกลับมาอยู่ด้วยกันกับเขาที่เพนท์เฮาส์เหมือนเดิม“พูดอะไรกับฉันไว้ หวังว่าเธอยังจำได้”“จำได้สิคะ”เปียโนหลังใหญ่เธอเห็นว่าถูกวางไว้อยู่หลังประตูห้อง และนั่นคือห้องลับระหว่างเขาและเธอ ขวัญพิชชาปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกช้า ๆ อวดเรือนร่างให้เขามองเป็นอาหารตา“สวยมาก” ดวงตาคมไล่พินิจตั้งแต่ใบหน้าเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า แล้วย่างกรายเข้าไปหาพร้อมกับยกขวัญพิชชาวางไว้บนหลังเปียโน“อยากทำตรงนี้เหรอคะ”“ลองอะไรใหม่ ๆ ดูก็ไม่เสียหายเท่าไหร่นี่ว่าไหม”“แล้วแต่คุณค่ะ”รามิลถอดเสื้อผ้าออกจนครบทุกชิ้น แล้วจับขาเธออ้าให้กว้าง ๆ รามิลนั่งบนเก้าอี้เปียโน มองเห็นความอวบชมพูอยู่ในระดับสายตาใบหน้าหล่อเคลื่อนเข้ามาใกล้ ๆ สองเท้าเล็กวางอยู่บนตัวโน๊ต ปลายเท้าจิกเกร็งยามที่เขาสอดเรียวลิ้นเข้าช่องทางแคบ“อ๊า~” ใบหน้าหวานเชิดขึ้น มือบางจิกกลุ่มเส้นผมของเขาที่อยู่ตรงหน้าเธอ รามิลชำแรกลิ้นแล้วตวัดปลายระรัวในจุดอ่อนไหว เสียงร้องหวาน ๆ ครางพร่าออกมาเป็นชื่อเขา“คุณเคนขา อื้อ”ไม่เพียงแค่ใช้ลิ้น ปลายนิ้วกดสัมผัสจุดกระสัน แล้วสอดเข้าไปในรูสีหวาน กระดก
EP.55เสียงผะแผ่วเบาพูดขึ้นผ่านริมฝีปากแห้ง รามิลเริ่มรู้สึกตัวแล้ว ตอนนี้ทุกคนยืนรายล้อมเตียงเพื่อมาดูให้เห็นกับตา กระทั่งคุณหมอประจำตัวก็เข้าห้องมาเพื่อตรวจอาการให้กับคนไข้“คงต้องให้คุณเคนพักที่โรงพยาบาลอีกสัก 3-4 วัน นะครับ อาหารก็ยังให้ทานอ่อน ๆ อยู่ เดี๋ยวพยาบาลเราจะนำมาให้”“ค่ะ ขอบคุณคุณหมอมาก ๆ เลยนะคะ”ทันทีที่คุณหมอออกไป พร้อมกับเปลี่ยนขวดน้ำเกลือใหม่ เสียงแรกของรามิลเอ่ยชื่อเธอซ้ำ ๆ และค่อย ๆ ดังขึ้นเรื่อย ๆ“เบล เบลใช่ไหม”“โห! เพื่อนยืนหัวโด่อยู่ตั้งสองคน เรียกแค่เมีย แล้วแม่งพูดครับด้วย ขนลุกว่ะ” ไมเลสเอ่ยแกล้ง ๆ ตามประสา เขาเลยโดนแก้มใสหยิกเข้าที่เอว เมื่อเขาเล่นไม่ดูเวลาร่ำเวลา“เบลอยู่นี่ค่ะ คุณจะเอาอะไร”“เธอจริงเหรอ ใช่เธอจริง ๆ ใช่ไหม”“จริงสิคะ”ขวัญพิชชาระบายยิ้มไปถึงดวงตา พลางจับมือเขาขึ้นมาให้รามิลได้สัมผัสว่าเป็นเธอจริง ๆ”“เธอกลับมาหาฉันแล้วใช่ไหม”“ค่ะ” รามิลค่อย ๆ ขยับกายลุกขึ้นนั่ง มีขวัญพิชชาอยู่ประคอง เขาอยากเห็นเธอให้แน่ใจว่าไม่ใช่ฝัน“เชื่อหรือยังคะ”“ขอกอดได้ไหม” สิ้นคำสุดท้าย ขวัญพิชชาโผกอดเขาด้วยหัวใจ กระชับกอดร่างกายที่ซูบผอมเอาไว้ รามิลกดจมูกหอมท
EP.54ที่โรงพยาบาลเกิดความชุลมุนวุ่นวาย เมื่อลูกชายมาเฟียผู้ทรงอิทธิพล ได้เกิดหมดสติลง ตอนนี้รามิลกำลังได้เข้ารับการรักษา เขาอยู่ในห้องไอซียู มีครอบครัวรออยู่ด้านนอก อีกทั้งบอดี้การ์ดอีกจำนวนหนึ่ง“เพราะคุณ” ธิติมาส่งเสียงสะอื้นพลางทุบตีสามีของตน เขาจับลูกชายขังมานับเดือน จนลูกต้องกลายเป็นคนติดแอลกอฮอล์หนัก เพียงเพราะผู้หญิงคนนั้น“อย่างน้อยคุณก็ควรปล่อยลูกให้ออกมาบ้าง ตอนนี้ลูกหมดสติ ไม่รู้จะเป็นยังไง”“คุณเลิกตีผมได้แล้ว เป็นเพราะมันทำตัวเอง” เมธัสจับมือภรรยาออก แล้วบอกกับธิติมา “แต่ผมก็ผิดเหมือนกัน ที่ปล่อยให้มันอยู่ในสภาพนั้น แต่ถ้าเกิดปล่อยมันออกมา มันก็ไปอาละวาดอีก ผมไม่อยากให้มันไปทำร้ายใคร”“แล้วผู้หญิงคนนั้นว่ายังไงบ้าง เธอจะยอมกลับมาหาลูกเราหรือเปล่า”“ไม่...” ที่เขาเรียกขวัญพิชชามาวันนี้ เพราะอยากให้เธอเห็นอาการของลูกชาย มันร้องคร่ำครวญแทบเป็นแทบตาย อยากให้เธอได้เจอหน้าลูกชายเขาสักครั้ง หวังว่ามันจะมีอาการดีขึ้น แต่เธอก็ไม่ยอม ขวัญพิชชาใจแข็งมากกว่าที่เขาคิดทางขวัญพิชชาตอนนี้เธอเพิ่งถึงโรงพยาบาล เธอได้รับข้อความจากฟาร์มว่าตอนนี้เขาอยู่ห้องไอซียู“คุณท่าน...”“เธอ”เมธัสและ
EP.53เรียวคิ้วสวยขมวดเข้าหากันเพราะเหมือนรู้สึกว่าเมธัสกำลังขอร้องเธอด้วยเรื่องอะไรบางอย่าง แต่ถ้าให้เดาแบบไม่ต้องเสียเวลา ก็คงไม่พ้นลูกชายเขาเป็นแน่และในขณะที่ฟังคนในสายพูดอยู่นั้น ขวัญพิชชาได้ยินเสียงร้องโหยหวนเหมือนกำลังทุกข์ทรมานคล้ายกับสัตว์ที่กำลังถูกฆ่า“นั่นเสียงอะไรคะ”[ ไม่มีอะไร เธอรีบมาเถอะ ฉันมีเรื่องด่วน ]เมธัสชิงตัดสายไป ยังไม่ทันที่ขวัญพิชชาจะตอบตกลง เขามัดมือชกเธอ หญิงสาวจึงไม่มีทางเลือก เมธัสบังคับเธอทางอ้อม“ว่ายังไงครับ มีอะไร” อาชวะถามอย่างใคร่รู้“คุณท่านให้เบลไปหาที่บ้านค่ะ”“แล้วคุณจะไป”“อยากจะเลี่ยงไม่ไปค่ะ แต่ท่านก็ชิงตัดสายไปเลย” นั่นเท่ากับเธอต้องไปภายในห้องนอนที่มืดสนิท มีเพียงแสงไฟเล็ดลอดมาจากทางใต้ประตูห้อง ชายหนุ่มร่างกำยำในสภาพท่อนบนเปลือยเปล่า เขานั่งอยู่ปลายเตียงในท่าเดิมนานนับวัน ถอดถอนหายใจแรงถี่ ๆ ราวกับคนวิตกกังวลกับอะไรบางอย่าง ดวงตาคมลุ่มลึกเหี้ยมเกรียมปรากฏใยบาง ๆ ของความเศร้า ชายหนุ่มนั่งกระสับกระส่าย ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว“แม่งเอ้ย” คำสบถหยาบถูกตะเบงออกจากลำคอ ปลดปล่อยอารมณ์ที่แสนจะอึดอัดและกดดัน มือหนาลูบหน้าตัวเองแรง ๆ พลางก้มมองที่