Beranda / วาย / The Contract Mafia (ป๋า-มิท) / รอบที่8 ผลลัพธ์

Share

รอบที่8 ผลลัพธ์

Penulis: Silver Fish
last update Terakhir Diperbarui: 2025-01-21 19:42:06

ไม่ต้องรอให้ลูเซียสสั่ง ไนท์รับหน้าที่ขับรถด้วยตัวเอง เหยียบคันเร่งเพื่อพาบอสไปโรงพยาบาลให้ไวที่สุด น่าเห็นใจก็แต่เหล่าลูกน้องที่ตามหลัง ทั้งสามคันต้องเร่งเครื่องกันสุดชีวิต ด้วยระดับฝีเท้าของมือขวาน่ากลัวว่าไปแข่งรถชิงที่หนึ่งได้สบายๆ

โรงพยาบาลที่ไมค์เลือกพามิทรี่มารักษา เป็นโรงพยาบาลเอกชนใกล้สถานที่เกิดเหตุมากที่สุด อีกทั้งลูเซียสยังเป็นหุ้นส่วนโรงพยาบาลแห่งนี้ด้วย นับว่าไมค์เลือกได้อย่างถูกต้อง หากเป็นโรงพยาบาลอื่น เรื่องที่มิทรี่โดนยาเสพติดเช่นนี้ จะกลายเป็นเรื่องใหญ่เสียเปล่าๆ

ทันทีที่รถดำเงาวับมาจอดเทียบหน้าอาคารหลัก ยามรีบกุลีกุจอเข้ามาหมายจะเปิดประตูให้ ไม่ทันจะถึงรถดีประตูก็เปิดออกพร้อมเจ้าของร่างสูงใหญ่ที่ก้าวออกมาปรายตามอง เขาโบกมือไล่ยามไปไกลๆ เวลานี้เขาไม่ใจเย็นพอจะนั่งรอเยี่ยงราชาให้ใครมาปูพรมหรือเปิดประตูให้

กลิ่นเลือดเจือจางที่ติดมากับตัวเหล่าชายชุดดำทำให้ยามอกสั่นขวัญผวา ก้มหน้าลงต่ำ พาลนึกในใจว่าตัวเองช่างซวยเหลือเกิน ตอนเขามาทำงานมีรุ่นพี่กับหัวหน้าเล่าให้ฟังว่าหุ้นส่วนของโรงพยาบาลเราไม่ใช่บุคคลธรรมดา หากเจอรถมาเป็นขบวนหรือกลุ่มคนในชุดสูทไม่ต้องแตกตื่น ให้บริการอย่างสุภาพที่สุดก็พอ

เขาไม่น่าแลกเวรกับเพื่อนอีกคนเลยจริงๆ

“กลับไปทำงานต่อเถอะ” ไนท์ออกปากใบหน้าเจือรอยยิ้ม สำหรับยามตัวเล็กๆ ภาพที่เห็นไม่ต่างจากปีศาจมาแยกเขี้ยวตรงหน้า เขาผงกหัวรับรีบวิ่งจากไปทันที

ลูเซียสไม่สนใจสายตาอยากรู้อยากเห็นของคนนอก สองเท้าก้าวเดินผ่านประตูอัตโนมัติ แอร์เย็นมาพร้อมกับกลิ่นยาฆ่าเชื้อ สำหรับลูเซียสที่เจอเรื่องเฉียดตายมาตั้งแต่จำความได้ สิ่งนี้เขาชินแล้ว

“บอส คุณไนท์” ไมค์ที่มายืนรอ พอเห็นพวกเขาเลยรีบตรงดิ่งเข้ามาเพื่อนำทางไปหาคนเจ็บ ระหว่างนั้นคอยรายงานอาการของมิทรี่เป็นระยะ

“คุณหนูมีแผลถลอกฟกช้ำตามร่างกาย หัวไหล่ขวาเคลื่อนเอกซเรย์แล้วอาการไม่ร้ายแรงสามารถรักษาได้ไม่มีปัญหาตามมาภายหลัง ส่วนเรื่องแผลถูกยิงที่ขา โชคดีกระสุนทะลุไม่มีเศษตกค้างภายในและไม่โดนจุดสำคัญอย่างกระดูกกับเส้นเอ็น หลังจากแผลหายสามารถกลับมาเดินวิ่งได้ตามปกติครับ”

ไมค์บอกรายละเอียดรวดเดียวจนครบ เหลืออย่างสุดท้ายที่เขายังไม่มั่นใจ ลูเซียสมองความคิดของลูกน้องออก เขาพยักหน้าเป็นเชิงให้พูดต่อ

“เรื่องฤทธิ์ยาแม้จะไม่มีผลค้างเคียงหรือแสดงอาการแพ้ เรื่องคุณหนูจะติดรึเปล่านั้น... คงต้องรอหลังจากที่ฟื้นแล้วครับ”

ไม่ต่างจากที่คิด ลูเซียสมองลูกน้องตัวเอง ตอบด้วยความมั่นใจ

“คนที่ฉันสนใจ ย่อมไม่เป็นทาสของยานรกนั่นแน่”

ได้ยินเสียงหนักแน่นจากบอสขนาดนี้ ไมค์รู้สึกพอใจที่เขาเลือกใช้คำเรียกแทนเด็กหนุ่มได้อย่างถูกต้อง ทีแรกที่เขาได้ยินเรื่องของเด็กคนนี้จากเพื่อนร่วมงาน เขาคาดเดาไปว่าบอสคงอยากเปลี่ยนบรรยากาศไม่นานก็เบื่อ พอกลับมาเจอกับตาตัวเองถึงได้รู้ว่าบอสให้ความสำคัญไม่ใช่เล่น

ตั้งแต่เขาเข้าแก๊งมายังไม่เคยเห็นใครได้เท่ามิทรี่มาก่อน แถมยังสั่งให้มือดีถึงสามคนอย่าง พี่อาคม หลงและเขาเป็นการ์ดส่วนตัวอีก ชักจะน่าสนใจซะแล้วสิ...

ไนท์ที่เดินรั้งท้ายสุดเฝ้ามองปฏิกิริยาทุกคนก้าวขึ้นมาบีบบ่าไมค์แล้วเตือนเสียงเบา

“อย่าคิดอะไรแผลงๆ จะดีกว่า คนนี้บอสหวงขนาดฉันยังไม่เว้น พูดแค่นี้น่าจะเข้าใจนะ”

แรงบีบที่บ่าทำให้ไมค์ยิ้มแห้ง ยกมือสองข้างเป็นเชิงยอมแพ้ไม่คิดหาเรื่องใส่ตัวเด็ดขาด ไนท์มองท่าทางนั้นอย่างพึงพอใจ ไมค์กับหลงนับเป็นสองคนที่ฝีมือดีอันดับต้นๆ ของแก๊ง นิสัยเสียๆ บางอย่างไม่ทิ้งห่างจากฝีมือเท่าไหร่นัก คนที่ยอมฟังคำสั่งก็มีแค่บอส ไนท์และอาคม โดยเฉพาะคนหลังดูจะหวั่นเกรงมากเป็นพิเศษ

มาคิดๆ ดู อาคมเลือกสองคนนี้แสดงว่าพอจะเห็นอนาคตรางๆ ไม่ต่างจากเขา ที่เหลือก็แค่เวลาว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะถูกพัฒนาไปในทางไหน

พวกเขามายืนอยู่หน้าห้องผ่าตัดเพื่อรอฟังผล ความจริงลูเซียสไม่จำเป็นต้องมายืนรอก็ได้ ทิ้งลูกน้องไว้สักคน พอรู้เรื่องค่อยไปรายงานทีหลัง แต่ในเวลานี้ลูเซียสต้องการฟังอาการของมิทรี่ด้วยตัวเองมากกว่า

พอไฟใช้งานห้องผ่าตัดปิดลง หมอผู้ทำการผ่าตัดเปิดประตูออกมาแอบผงะเล็กๆ กับชายต่างชาติสามคนยืนเป็นยักษ์ปักหลั่นอยู่นอกห้อง พยาบาลผู้ช่วยถึงกับตาโตถอยหลังไปหนึ่งก้าว

“ญาติผู้ป่วยใช่ไหมครับ”

คุณหมอดึงสติกลับมาเอ่ยถาม ลูเซียสพยักหน้ารับไม่มีความลังเลแม้เพียงเสี้ยววินาที

“ลูกชายผมเป็นยังไงบ้าง” สรรพนามที่หลุดออกมาเรียกสายตาสองคู่ให้หันขวับไปมอง ไนท์ทำหน้าไม่อยากเชื่อ ไมค์ถึงกับคิ้วขมวดรีบคิดย้อนกลับไปว่าเจ้านายเขาเคยไปทำสาวไหนท้องมารึเปล่า

ฝั่งหมอพอได้ยินว่าเป็นพ่อค่อยโล่งอก ตอนแรกเขาคิดว่าอีกฝ่ายเป็นคู่กรณีกับเด็กหนุ่มคนนั้นแล้ว ชายชาวต่างชาติสวมสูทดำดูยังไงก็ไม่ใช่นักธุรกิจธรรมดากับเด็กที่ถูกยิงแถมโดนยาอันตรายมันชวนให้คิดไปถึงไหนต่อไหน ถ้าบอกว่าเป็นพ่อ ทุกอย่างก็กระจ่าง พ่อเป็นผู้มีอิทธิพล ลูกมักโดนลูกหลงไม่ใช่เรื่องแปลก

ใจหมอเริ่มสงบ บอกอาการอย่างละเอียดซึ่งไม่ต่างจากที่ไมค์พูดนัก

“ผู้ป่วยต้องสังเกตอาการอยู่ในห้อง ICU สักระยะครับ ผู้ป่วยอายุยังน้อยสามารถฟื้นตัวได้เร็วกว่าผู้ใหญ่ ถึงยังไงหลังจากนี้รบกวนคุณพ่อช่วยดูแลลูกชายอย่างใกล้ชิดด้วยนะครับ”

คุณหมอวัยกลางคนกำชับตามนิสัยของแพทย์ที่เห็นผู้ป่วยเป็นสำคัญ ลูเซียสทำเพียงแค่พยักหน้ารับสมองครุ่นคิดเรื่องดูแลอีหนูต่อจากนี้ ที่เหลือจึงปล่อยให้ไมค์เป็นคนจัดการเรื่องค่ารักษาพยาบาลและอื่นๆ

ด้านคุณหมอที่เพิ่งเดินจากไป พยาบาลผู้ช่วยมองคนข้างกายด้วยสายตาชื่นชม

“สุดยอดไปเลยนะคะคุณหมอ กล้าพูดแบบนั้นด้วย”

มีพยาบาลวัยละอ่อนมาชมแบบนี้ชวนให้รู้สึกปลื้มเป็นธรรมดา

“ธรรมดาครับ มันเป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องน่าชื่นชมอะไร” ปากพูดใบหน้ายิ้มแย้ม หวังจะเอาเรื่องนี้ไปพูดอวดลูกสาวที่บ้านให้ชมพ่อตัวเองบ้าง

“ไม่ใช่เรื่องธรรมดานะคะ! คุณคนนั้นเป็นหุ้นส่วนรายใหญ่ของโรงพยาบาลแห่งนี้ แถม... เบื้องหลังเขาว่าเป็นมาเฟียที่มาทำธุรกิจในไทยด้วยค่ะ” ท้ายประโยคผู้ช่วยพยาบาลกระซิบเสียงค่อยราวกับกลัวว่าลูเซียสที่อยู่คนละทิศจะได้ยิน เห็นไม่มีปฏิกิริยาตอบรับจากเรื่องนี้ พอหันไปดูปรากฏว่าหมอหน้าซีดยืนโงนเงน

“คุณหมอคะ คุณหมอ!!”

“ผมจะเป็นลม”

“คุณหมอทำใจดีๆ ไว้ค่ะ ใครก็ได้มาช่วยหน่อย คุณหมอจะเป็นลมแล้ว!”

ความวุ่นวายเล็กๆ ช่างอยู่ห่างไกลการรับรู้ของลูเซียสที่ยังใจจดจ่อกับกำแพงสีขาวโพลนของโรงพยาบาล

“จ้องให้ทะลุก็มองไม่เห็นเจ้าหนูหรอก อยู่ใน ICU แบบนี้เข้าไปเยี่ยมก็ไม่ได้ กว่าจะออกมาคงไม่ต่ำกว่าสามวัน”

“กลับ มิทรี่ย้ายมาที่ห้องพักฟื้นเมื่อไหร่บอกไมค์ไปแจ้งฉันด้วย” ตัดสินใจง่ายดาย ไม่มีประโยชน์ให้อยู่ต่อ ที่สำคัญเขายังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องกลับไปสะสาง

4 วันผ่านไป คนป่วยถูกย้ายมาห้องพักฟื้น VIP ไม่มีอาการแทรกซ้อนใดๆ ให้กังวลสร้างความโล่งอกให้กับทุกคน เพราะในที่สุดบอสก็เลิกทำหน้าเหมือนอยากฆ่าคนตลอดเวลาสักที ไมค์ได้รับหน้าที่ในการดูแลมิทรี่ระหว่างอยู่โรงพยาบาล เนื่องจากอาคมยังหัวหมุนกับงานเก็บกวาด

มิทรี่ฟื้นขึ้นมาหลายครั้งแต่เพียงไม่นานก็หลับต่อด้วยฤทธิ์ยา กระทั่งเข้าวันที่หกสติกลับมาทีละน้อย ร่างกายเบาหวิวเหมือนกำลังล่องลอยอยู่บนอากาศ พอลืมตาขึ้น ทุกอย่างขาวโพลนไปหมด เจ้าตัวกะพริบตาถี่ๆ ภาพค่อยเด่นชัดขึ้นทีละน้อย สิ่งแรกที่เห็นไม่ใช่เพดานสีขาวแบบในหนังหรือหน้าคนที่รักเหมือนอย่างนิยาย แต่เป็น...

มือถือเครื่องหนึ่ง?

“ไมค์... นายลืมเปิดกล้อง”

เสียงแปร่งๆ ผ่านโทรศัพท์บ่งบอกความไม่พอใจระดับหนึ่ง เจ้าของเครื่องสะดุ้งโหยง รีบกดเปิดกล้องฉายให้เห็นใบหน้าของคนปลายสาย

“แน่ใจนะว่าฟื้นแล้ว” บอสใหญ่ถามอย่างไม่มั่นใจยามมองภาพอีหนูนอนตาปรือบนเตียงสีขาว

มือถือถูกเบนออกไปแทนที่ด้วยหน้าของฝรั่งหัวทอง

“ฟื้นแล้วนะครับบอส”

“อาการ?” ลูเซียสถามเสียงเรียบ ไมค์เข้าใจว่าบอสต้องการจะถามอะไร เขาจึงตอบเข้าประเด็นทันที

“คุณหนูไม่ติดยาแน่นอนผมรับประกัน” คำตอบของไมค์ทำให้ลูเซียสคลายความกังวลได้ทั้งหมด

ผมมองเจ้านายลูกน้องคุยกันตาปริบๆ สภาวะเบาหวิวในตอนแรกกลายเป็นหนักอึ้งไปทั่วร่างอย่างกับมีอะไรมาตอกยึดไว้กับเตียง ไหล่ซ้ายที่หลุดยังรู้สึกปวดตุบๆ โดยเฉพาะขาขวาที่ถูกยิงผมไม่อยากขยับมันแม้แต่นิดเดียว การเคลื่อนไหวของผมทำให้เสียงสนทนาหยุดลง

มือถือถูกหันหน้าจอมาตรงหน้าผมอีกครั้ง ดวงตาสีเข้มมองสำรวจผมอย่างละเอียด เกิดมาเพิ่งเคยเจอ เยี่ยมไข้ระยะไกล

“น้ำ...”

ลูเซียสไม่ทันอ้าปากพูด ผมร้องเรียกหาน้ำก่อนเป็นอันดับแรก ไม่รู้ตัวเองหลับไปกี่วัน รู้แค่ว่าตอนนี้คอแห้งมาก น้ำลายเหนียวไปหมด ต้องการน้ำด่วน

“ดูแลดีๆ เดี๋ยวฉันไป” เสียงแหบแห้งทำให้ลูเซียสขมวดคิ้ว สั่งลูกน้องบริการคนป่วย ตัวเองกดวางสายลากคอไนท์มาโรงพยาบาล

ฝ่ายชายผมทองเก็บมือถือเข้ากระเป๋าแล้วหยิบแก้วน้ำที่เตรียมไว้พร้อมหลอดมาให้

“จิบทีละนิดนะครับ คุณหนูหลับไปหลายวัน ร่างกายต้องปรับตัวเวลามีอะไรเข้ากระเพาะอาหาร”

ผมค่อยๆ จิบตามที่อีกฝ่ายบอก ทุกการเคลื่อนไหวของผมอยู่ในสายตาของเขาตลอด ราวกับว่าหากผมมีอะไรผิดปกติแม้แต่นิดเดียวเขาพร้อมจะเข้ามาช่วยผมทุกเมื่อ เจอสายตาแบบนี้ทันทีที่ฟื้นมาผมก็อดเกร็งไม่ได้

“ไม่ต้องจ้องขนาดนั้นก็ได้ครับ”

“อ่า ขอโทษที พอดีบอสสั่งให้ดูแลคุณหนูอย่างดีผมเลยเผลอไปหน่อย” เจ้าตัวยิ้มแล้วแนะนำตัว “ผมไมค์ จะมาเป็นการ์ดของคุณหนูตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปครับ ความจริงมีอีกคน แต่เจ้านั่นมันช่วยงานพ่ออาคมอยู่”

ผมเลิกคิ้ว แปลกใจสรรพนามที่ใช้เรียกพี่อาคม แต่คิดอีกที ท่ามกลางมาเฟียแบบนี้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ ช่างมันแล้วกัน ไม่อยากหาเรื่องใส่หัวเพิ่ม ผมเลยตอบสั้นๆ “ครับ ฝากตัวด้วย” ก็นะ เกิดเรื่องขนาดนี้จะให้ผมเบิกบานอยู่ผมคงไม่ใช่คน มีคนเคยบอกว่า เวลาคนเราเจอเรื่องแย่ๆ มักจะคิดแต่เรื่องด้านลบซะเป็นส่วนใหญ่ ผมเองก็กำลังเป็นแบบนั้น

ชีวิตแต่เดิมก็บัดซบอยู่แล้ว พอมาเจอลูเซียสทุกอย่างเหมือนจะดีขึ้นและแย่ลงในเวลาเดียวกัน บอกตามตรงสภาพแวดล้อมกดดันผมมาก ผมเป็นแค่ผู้ชายคนหนึ่งที่อายุยังไม่ถึงยี่สิบเลยด้วยซ้ำ แม่เพียงคนเดียวที่รักและดูแลผมอย่างดีต้องป่วยหนักเพราะโหมทำงานมากเกินไป ญาติทางฝั่งแม่เลยบังคับพาแม่กลับไปรักษา

แม่อยากจะพาผมไปด้วย แต่ตัวผมเป็นสิทธิ์ของพ่อ จนกว่าผมจะอายุยี่สิบถึงสามารถจัดการทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง ที่ผ่านมาเรื่องโรงเรียนผมอาศัยปลอมลายเซ็นเอาตลอด ช่วงแรกแม่ยังคงส่งเงินมาเป็นระยะ พอแม่ทรุดหนักเงินที่ได้จึงขาดไป โชคดีที่ผมยังพอมีเงินเก็บจากการทำงานพิเศษเลยพอถูๆ ไถๆ ไปบ้าง

แต่ใครจะรู้ ญาติฝั่งแม่เองก็หมดเงินที่จะใช้รักษา ผมต้องหาทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้เงินมาส่งตัวเองเรียนและส่งให้แม่ ทีแรกผมไม่ได้ทำงานแบบนี้หรอก ผมเริ่มจากเด็กเสิร์ฟ พนักงานเซเว่น แต่เงินที่ได้มันไม่พอ จนกระทั่งวันหนึ่งผมไปหาคู่นอนในผับอย่างทุกที เพื่อนคนนี้แนะนำให้ผมลองทำงานทำนองนี้ดู

ผมเองไม่ใช่ผู้หญิง แถมที่ผ่านมาก็ใช่จะไม่เคยนอนกับใคร สุดท้ายเลยตัดสินใจทำผสมกับหารายได้อื่นเล็กๆ น้อยๆ ไปด้วย ผมรู้ ทำแบบนี้มันไม่ใช่ทางออกที่ดีนัก แต่ในเมื่อไม่มีทางเลือกผมก็ต้องทำ

สิ่งที่พอยึดเหนี่ยวตัวผมไว้ไม่ออกนอกลู่นอกทาง คงเป็นภาพแห่งความสุขในวัยเด็ก แม่ที่ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน พ่อที่กอดผมอย่างอบอุ่น พวกเราสามคนเคยเป็นครอบครัวที่น่าอิจฉา ไม่มีเงินมากมาย แต่ก็ไม่ขาดแคลน ถ้าหากพ่อไม่หลงไปกับคำชวนของเพื่อน ชีวิตผมคงเหมือนกับพวกซัน

พ่อเริ่มติดการพนัน ทีแรกยังเล่นแค่เล็กน้อยบอกว่าเป็นการผ่อนคลายหลังจากเครียดกับงาน แม่เข้าใจว่าพ่อเหนื่อยต้องมีที่ระบายบ้างจึงไม่ขัดอะไร ใครจะรู้ล่ะว่านับวันพ่อยิ่งเล่นมากขึ้นทุกทีจนต้องไปกู้หนี้ยืมสิน บ้านที่เคยเป็นของเราถูกเอาไปค้ำประกันกับธนาคาร

กู้หนี้ในระบบยังไม่พอ พ่อดันตามเพื่อนไปกู้หนี้นอกระบบ อาศัยกู้ตรงนั้นมาโปะตรงนี้ อาการหนักมากจนบริษัทต้องเชิญออก สุดท้ายพ่อก็ไม่มีงานทำ ส่วนแม่ต้องออกหางานเพื่อหาเงินมาใช้จ่าย ความเครียดทำให้พ่อเริ่มพึ่งแอลกอฮอล์ เวลาเมาก็อาละวาดโทษคนอื่นไปทั่วทั้งที่ตัวเองเป็นคนทำให้ทุกอย่างมันแย่

พวกเราต้องคอยหนีเจ้าหนี้ไม่เคยอยู่ที่ไหนได้นานเกินสองเดือน ผมถูกย้ายโรงเรียนเป็นว่าเล่น ในที่สุดทุกอย่างก็พังทลาย...

แม่ที่อยู่เคียงข้างป่วยต้องไปอยู่ในที่ห่างไกล พ่อที่มีแต่สร้างปัญหาพึ่งพาอะไรไม่ได้ แม้แต่เพื่อนผมยังไม่มีเลยสักคน เคว้งคว้างอยู่เพียงลำพัง หันไปทางไหนก็ไม่มีใคร ไขว่คว้าจับมือใครก็ไม่ได้ หากไม่มีแม่เป็นที่ยึดเหนี่ยวผมคงจะฆ่าตัวตายมันให้พ้นๆ

แล้วยังเรื่องที่เกิดขึ้นอีก ผมมีทางเลือกที่ไหน ถูกบังคับมาเป็นเด็กเลี้ยง มีเงินใช้แต่ไร้ความอิสระ พอจะขัดขืนให้รู้ว่าผมยังมีความเป็นมนุษย์อยู่บ้าง ไม่ใช่สัตว์เลี้ยงที่อยากเรียกหาเมื่อไหร่ก็เรียก ผลที่ตามมากลายเป็นแบบนี้ ผมถูกจับเพราะเป็นเด็กของลูเซียส โดนทำร้ายอย่างแสนสาหัส

สิ่งที่ได้รับตอนโดนยามันเหมือนกับชีวิตผมได้รับการปลดปล่อย ล่องลอยไม่มีภาระ ไร้ความกังวลใดๆ ผมเกือบจะปล่อยตัวปล่อยใจไปกับมันแล้ว หากใบหน้าของแม่ไม่มาดึงตัวผมเอาไว้

ถ้าผมเป็นอะไรไปใครจะหาเงินค่ารักษา และถ้าเกิดอะไรขึ้นกับผมแม่คงจะเสียใจมาก ไม่แน่อาจจะอาการทรุดลงก็ได้

แม่เท่านั้น... แค่แม่เพียงคนเดียวที่ผมจะไม่ยอมเสียไปเด็ดขาด

ช่วงที่ใครบางคนกำลังเหม่อลอย มีคนเปิดประตูเข้ามา พอไมค์เห็นว่าเป็นใคร เขาแสดงสีหน้าโล่งอก ก้มหัวให้ผู้มาใหม่เล็กน้อยแล้วปลีกตัวออกไปยืนเฝ้าด้านนอกแทน ให้เวลาทั้งคู่อยู่กันตามลำพัง

ในสายตาของลูเซียส เด็กที่เห็นอยู่เบื้องหน้า ไม่ใช่เด็กหนุ่มอย่างเช่นวันวาน มันเหมือนกับลูกสัตว์ตัวน้อยที่ได้รับความทรมานอย่างแสนสาหัส ราวกับจะแตกสลายไปได้ทุกเมื่อ ความรู้สึกผิดเข้าเกาะกุมจิตใจทันที นานเท่าไหร่แล้วที่ลูเซียสไม่ได้รู้สึกแบบนี้ คงตั้งแต่เรื่องอาผู้เป็นที่รักของเขาประสบอุบัติเหตุ

มือหนายื่นไปลูบกลุ่มผมนุ่มแผ่วเบาทะนุถนอมคล้ายกับการสัมผัสสิ่งเปราะบาง มิทรี่สะดุ้งเล็กน้อย หันมามองนิ่ง ทั้งคู่ไม่มีใครเอ่ยปากแม้แต่คำเดียว ต่างคนต่างจมอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง

เขาคงลืมไปจริงๆ เด็กคนนี้แตกต่างจากเด็กคนอื่น ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันทำให้ลูเซียสพอจะสังเกตได้ว่ามิทรี่มีอะไรบางอย่างอยู่ในใจ ภาระหนักอึ้งที่อยู่บนบ่าเล็กๆ ถึงเขาจะไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร แต่พอจะเดาได้ว่ามันต้องสำคัญกับอีกฝ่ายมากแน่ๆ

ครั้งนี้เขาประมาทเกินไป เป็นความผิดของเขาเอง

“ขอโทษ...”

คำที่ไม่คิดว่าจะหลุดออกมาจากปากอีกฝ่ายทำให้คนฟังเบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ เจ้าตัวคิดว่าลูเซียสคงจะโดนไนท์พูดอะไรมาอีกแน่ๆ ถึงได้มาขอโทษกันแบบนี้ แต่พอสบเข้าไปในดวงตาคมคู่นั้น มันมีความรู้สึกผิด และประกายความมุ่งมั่นบางอย่างแฝงอยู่

“ฉันไม่ควรปล่อยให้เธอเจอเรื่องแบบนี้ ฉันขอโทษ... ต่อไปเธอไม่ต้องห่วง ฉันจะดูแลเธออย่างดี ส่งเสียจนกว่าจะเรียนจบ เรื่องเงินไม่จำเป็นต้องเอามาคืน ขอแค่เธอมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ก็พอ”

สิ่งที่อยู่ในใจตลอดห้าวันพรั่งพรูออกมา ทุกถ้อยคำ ทุกวาจากระทบจิตใจของคนฟังอย่างจัง

“ทำไม...” เสียงแหบแห้งหลุดออกมาจากปากซีดเซียว ดวงตาของลูเซียสทอประกายอ่อนลงไม่กดดันอย่างทุกที

“คงเพราะฉันไม่อยากทำพลาดอีกเป็นครั้งที่สอง ชีวิตของฉันทำร้ายคนใกล้ตัวแค่ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว”

ผมมองลูเซียสด้วยความสับสน ระหว่างที่ผมกำลังดำดิ่งอยู่กับความคิดด้านลบ เขาก็เข้ามาลูบหัวบอกว่าขอโทษ พูดเหมือนว่าต่อให้เบื่อหรือผมไม่ได้เป็นเด็กเลี้ยงอีกก็จะอุปการะดูแลจนกว่าผมจะตั้งตัวได้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น

ความใจดีของลูเซียส นอกเหนือจากคำว่าเอ็นดูมันมีเงาของใครบางคนอยู่ สร้างความสงสัยให้แก่ผม ถ้างั้น ชีวิตผมจะเป็นแบบคนนั้นรึเปล่า ผมอยากรู้

“เกิดอะไรขึ้นกับ... คนคนนั้น”

ลูเซียสยิ้มมุมปาก เปลี่ยนท่าทีจากผู้ใหญ่ที่กำลังจะอุปการะเด็กเป็นนักธุรกิจเขี้ยวลากดิน

“ตอนนี้เธอยังไม่จำเป็นต้องรู้ เอาไว้เธออยู่กับฉันไปนานๆ แล้วเราค่อยมาคุยกันว่าสิ่งที่อยู่ในใจคืออะไร ฉันรอเธอบอกอยู่นะมิทรี่”

ปากบอกว่ามาแลกเปลี่ยน แต่จงใจให้ผมบอกก่อนชัดๆ ผมหลับตาเอนกายพิงอกคนข้างเตียง ถึงตะกอนภายในใจของผมจะไม่ถูกกำจัดออกจนหมด แต่ก็ลดลงไปได้บ้าง อย่างน้อยๆ ก็ในตอนนี้

ลูเซียสเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น สิ่งใดที่ลั่นวาจาออกไปแล้ว เขาไม่มีวันคืนคำเด็ดขาดและจะทำให้สำเร็จตามที่พูดไว้

วงแขนใหญ่กอดผมเบาๆ ระวังไม่ให้กระทบกับร่างกายที่บอบช้ำ ไม่นานผมก็เริ่มเคลิ้มและผล็อยหลับไป ในอ้อมกอดนี้ เป็นสถานที่ที่ทำให้ผมหลับตาลงอย่างวางใจได้มากที่สุด...

ผมตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพราะเสียงทะเลาะกันแบบลดโวลุ่มเหมือนเสียงยุงบิน คำด่าภาษารัสเซียที่ได้ยินจนชินหูอยู่ทุกวันทำให้ผมหลุดยิ้ม

“บอสครับ คุณหนูตื่นแล้ว” เสียงที่ไม่เคยได้ยิน? ใครอีกล่ะเนี่ย

บอสกับมือขวาที่กำลังเถียงกันหน้าดำหน้าแดงด้วยเสียงเบาหวิวหันหาคนป่วยที่กำลังนอนมองตาใส บอสใหญ่โยนงานทิ้งให้มือขวาแล้วตรงดิ่งมาที่เตียง

“หลับสบายดีไหม เธอน่าจะนอนต่ออีกสักหน่อยนะ”

“ใครจะไปนอนได้กัน บอกแล้วให้กลับไปทำงานที่ตึกค่อยมาเยี่ยม นี่อะไร ขนงานมาทำที่นี่หมด คิดจะเปลี่ยนห้องพักฟื้นเป็นห้องทำงานรึไงไม่ทราบ”

“ไหนๆ ก็อยู่โรงพยาบาล ฉันว่านายน่าจะไปเช็กหูสักหน่อยนะ บอกแล้วว่าจะอยู่เฝ้า”

เอาเป็นว่าผมพอจับใจความได้แล้วล่ะว่าสองคนนี้ทะเลาะเรื่องอะไรกันอีก

“เป็นยังไงบ้างครับคุณหนู ปวดตรงไหนรึเปล่า ให้ผมช่วยเรียกพยาบาลไหม” พี่อาคมยังเป็นผู้ใหญ่ที่สุดเหมือนเคย เขาทำเป็นไม่เห็นไม่ได้ยินสองคนนั้นอย่างมืออาชีพ เอ่ยถามผมอย่างเป็นห่วง ความจริงใจที่แสดงออกมาทำให้ผมยิ้มได้

“ต้องปวดอยู่แล้วสิครับ แต่ผมหิวมากกว่า”

“พ่อ นี่ไงซุปข้นที่นางพยาบาลหุ่นสะบึมเอามาให้” ชายคนแรกที่เห็นว่าผมตื่นส่งถ้วยซุปมาให้พี่อาคม ผู้ชายคนนี้คงจะเป็นคนที่ไมค์เคยพูดถึงว่าจะมาดูแลผมคู่กับเขา

“พูดจาดีๆ หน่อยหลง อยู่ต่อหน้าคุณหนูนะ” ไมค์ปรามแต่ตามองพี่อาคม ถ้าจะพูดเพื่อเอาใจพี่อาคมล่ะก็ไม่ต้องอ้างชื่อผมก็ได้ สองคนนี้อย่างกับเด็กแย่งความรักจากผู้ปกครอง

“กินซุปครับ เดี๋ยวผมป้อนให้” พี่อาคมยังคงเมินเสียงรบกวนรอบข้างได้อย่างน่าชื่นชม

“ไม่เป็นไร ผมกินเองได้” ผมขยับแขนขวาให้ดู พี่อาคมเลยลากโต๊ะมาใกล้เตียงวางถ้วยให้ผมตักกิน โต๊ะสำหรับกินข้าวของผู้ป่วยในโรงพยาบาล มันจะเหมือนกับโต๊ะที่มีขาเดียวติดล้อเพื่อพาดบนเตียงและเข็นไปไหนมาไหนได้สะดวก

“ผมขอถือโอกาสนี้แนะนำตัวเลยแล้วกัน ผมชื่อหลง จะมาเป็นการ์ดให้กับคุณหนูตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปครับ”

คนหนึ่งหน้าตาแบบไทยแท้ อีกคนฝรั่งจ๋า คนสุดท้ายมาแนวจีนชัดเจน ที่เหมือนกันคือพวกเขาตัวสูงและหน้าตาดีมาก ถึงงั้นพี่เดฟก็ยังเป็นที่หนึ่งในใจผมนะ อาหารฝีมือพี่ท่านอร่อยมากจริงๆ

“ฝากตัวด้วยครับ” ผมผงกหัวรับแล้วนั่งกินต่อ พี่อาคมเรียกไมค์กับหลงไปเทศนาอยู่มุมห้อง เปิดช่องให้ลูเซียสกับไนท์มาล้อมเตียง ห้องพักฟื้นผมช่างครึกครื้นเหลือเกิน

“ฟาดเคราะห์ไปนะเจ้าหนู” ผมมองไนท์ตาปริบๆ รู้จักคำแบบนี้ด้วย พี่อาคมสอนชัวร์

“กินเสร็จอยากเดินเล่นไหม เดี๋ยวฉันพาไป” ลูเซียสถาม

“ไป” ผมตอบแบบไม่คิดอะไร อยู่ห้องอย่างเดียวก็น่าเบื่อ ออกไปดูนั่นดูดีหน่อยก็ดีเหมือนกัน ใครจะไปรู้ล่ะว่า บอสใหญ่จะเป็นคนจัดการเองทุกอย่างตั้งแต่ติดต่อขอรถเข็น อุ้มผมลงจากเตียง เข็นผมไปชมสวนผ่านหน้าเหล่าการ์ดที่โค้งคำนับใช้สายตาลอบมองผมส่งรอยยิ้มเป็นมิตรให้

ถือเป็นข้อดีหลังจากเกิดเรื่องแย่ๆ ความซื่อสัตย์ไม่ทรยศลูเซียสช่วยทำให้ลูกน้องทุกคนเปิดใจรับผมมากขึ้น อนาคตหลังจากนี้ผมคงไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป ควรจะดีใจไหมนะ มาเฟียที่ผมพยายามหลีกหนีที่สุดในชีวิต ตอนนี้กลายเป็นขุมกำลังแสนยิ่งใหญ่ของผมไปแล้ว

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • The Contract Mafia (ป๋า-มิท)   รอบที่9 บอก

    อาการบาดเจ็บทำให้ผมนอนเป็นง่อยอยู่บนเตียงฟังเสียงลูเซียสคุยงานกับไนท์ มีพี่อาคมเข้าๆ ออกๆ มารายงานเป็นระยะ ทำไมนะผมรู้สึกว่ามันไม่ต่างจากตอนผมอยู่ที่ตึกลูเซียสเลย จะไม่เหมือนก็แค่ตอนนั้นผมนอนเปื่อยเพราะทำหน้าที่หนักเกินไป คงเห็นผมนอนมองตาปริบๆ มานาน ในที่สุดลูเซียสก็วางงานในมือลุกขึ้นมาหาผมข้างเตียง “เบื่อเหรอ แขนแบบนี้จะอ่านหนังสือก็ไม่ได้ อยากออกไปสูดอากาศข้างนอกไหม” ปกติผมอยู่ห้องลูเซียสถ้าไม่มีอะไรทำผมจะนั่งอ่านหนังสือ แขนผมยังไม่หายร้อยเปอร์เซ็นต์ คุณป๋ากับพี่เลี้ยงคนอื่นเลยพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอย่าเพิ่งให้ผมใช้แขนจะดีกว่า เป็นคนอื่นอาจจะดื้อเพราะความเบื่อหน่าย แต่กับผมที่น้อยนักจะได้รับความเป็นห่วงแบบนี้ อย่างมากก็ได้แค่กับเพื่อนซึ่งมันต่างกัน พวกนั้นวัยเรียน คนตรงหน้าผมคือผู้ใหญ่ที่ผมสามารถพึ่งได้ ผมเลยยอมทำตามอย่างเต็มใจ เจอเรื่องนี้เข้าไปถึงกับหงอ เข็ด ไม่อยากดื้อหาเรื่องใส่ตัวอีก “ไม่ดีกว่า ผมยังไม่อยากโดนไนท์แหกอก” ผมไม่ได้โกหกนะ ดูสายตาร้อนแรงที่ไนท์จ้องมาสิ ไม่ได้หึงหวงลูเซีย

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-21
  • The Contract Mafia (ป๋า-มิท)   รอบที่10 พ่อลูก

    “เบื่ออะ” บ่นเป็นรอบที่ร้อยของวันในห้องพักรวมของเหล่าการ์ด มองพวกเขาเตะต่อยกันแบบขำๆ ถามว่าทำไมผมไม่อยู่ในห้องลูเซียส? พอดีผมประท้วงน่ะเลยหนีออกมา... จริงก็บ้าแล้ว! อย่างลูเซียสไม่สนหรอกกับการประท้วงไร้สาระแบบนี้ เห็นลูเซียสคุยงานกับไนท์และพี่อาคมผมเลยปลีกตัวออกมา เพราะอยู่ห้องนั่นก็ไม่รู้จะทำอะไร หนังสือก็เบื่อที่จะอ่าน มือถือมีแต่แบบเดิมๆ มาป่วนการ์ดดีกว่า เห็นพวกนี้ทำหน้าปูเลี่ยนๆ สนุกดี หน้าออกจะโหดซะเปล่า หมดกันๆ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ผมเพิ่งค้นพบหลังกลับมาจากโรงพยาบาลใหม่ๆ เพราะหลงนึกสนุก พาผมบุกถิ่นเหล่าการ์ดที่อยู่ชั้นล่างลับหลังลูเซียส ก่อนจะทิ้งผมไว้แบบนั้นเนื่องจากเจ้าตัวงานเข้ากะทันหัน พวกการ์ดก็นิ่งอย่างคนทำอะไรไม่ถูก ผมเลยลองใช้ความสามารถในการเข้าหาคนอื่น ทำความรู้จักกับพวกเขาดู ยังไงซะชะตากรรมของผมคงคลุกคลีอยู่ที่นี่ไปอีกนาน ทำให้ผมรู้ว่าพวกเขาไม่ได้แย่เหมือนที่คิด ก็แค่คนธรรมดาที่ผ่านโลกมามากเลยไว้ใจคนยาก พอรู้เรื่องราวของผมจากที่ไหนสักที่ ท่าทีเลยอ่อนลงกลายเป็นเห็นอกเห็นใจแกมเอ็นดู พร้อมกับบอกว่าพวกเขามีอดี

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-21
  • The Contract Mafia (ป๋า-มิท)   รอบที่11 สิ่งที่อยู่ในใจ

    คล้อยหลังอีหนูไป เหล่าหนุ่มใหญ่นั่งประจันหน้ากันในห้อง แข่งกันสร้างบรรยากาศอึมครึม จนกระทั่งลูเซียสเป็นฝ่ายถอนหายใจทำลายความเงียบก่อน ร่างใหญ่เอนหลังบนเก้าอี้อย่างผ่อนคลาย ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นเพื่อนสนิทควบตำแหน่งน้องเขย ก็ไม่จำเป็นต้องรักษามาด พวกการ์ดจากทั้งสองฝั่งเองก็รู้จักกันดี เคยร่วมงานกันมาแล้วด้วยซ้ำ ถึงได้ส่งสายตาทักทายกันลับหลังนาย “มีเรื่องอะไรก็พูดมา” หนุ่มอังกฤษเป็นคนแสดงท่าทีเองนะว่ามีเรื่องอยากจะพูดด้วย ลูเซียสถึงให้อีหนูออกไปทั้งที่ไม่อยากปล่อยให้ห่างสายตา “ก็อย่างที่บอกไปตอนแรก ฉันแวะมาหานายกะทันหัน คนของฉันเลยไม่พอ...” “ไม่พอแล้วยังไง” คิ้วเข้มขมวด เพื่อนเขาไม่ใช่พวกหัวหดในกระดองหลบหลังการ์ดตลอดเวลา อเล็กเซย์เข้าใจสิ่งที่ลูเซียสคิดเลยยิ้มกว้าง “พอดีมีคนตามฉันมาตั้งแต่คุยธุรกิจ ตอนนี้ก็ยังหาจังหวะจัดการฉันอยู่ ที่สำคัญ น่าจะอยู่บนเรือลำนี้แล้วด้วย” เกิดความเงียบปกคลุมชั่วขณะ คนโดนหมายหัวยังคงยิ้มหน้าระรื่น ส่วนบอสใหญ่ยกมือกุมขมับพลางปรายตามองอาคมที่โค้งรับอย่า

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-21
  • The Contract Mafia (ป๋า-มิท)   รอบที่12 อเล็กเซย์

    บางทีผมก็ไม่ค่อยเข้าใจลูเซียส ไม่สิ ผมไม่เคยเข้าใจเขาเลยมากกว่า... ก่อนหน้านี้ผมถูกพาไปกินมื้อค่ำแบบฟูลคอร์สกะทันหัน มาคราวนี้ผมกำลังอยู่ท่ามกลางความไฮโซอันน่าเบื่อหน่าย เด็กหนุ่มในชุดสูทสีเทาพอดีตัวเผยสัดส่วนน่าดึงดูด เรือนผมถูกเสยไปด้านหลังเหลือปอยเล็กน้อยขับใบหน้าชวนมองต้องตาใครต่อใคร มือหนึ่งถือแก้วทรงสูงแต่ภายในบรรจุน้ำผลไม้แท้100% มีฉากประกอบเป็นงานราตรีหรูหรา โคมไฟระย้างดงามเข้ากับการตกแต่งสไตล์ตะวันตก บนผนังประดับรูปวาดราคาแพง อาหารบนโต๊ะทุกอย่างดูสวยงามไม่ต่างจากผลงานศิลปะ มูลค่าและรสชาติยิ่งไม่ต้องพูดถึง มิทรี่คงจะมีคนมาสานไมตรีไม่ขาดแน่ หากเจ้าตัวไม่ได้นั่งอยู่บนรถเข็น รายล้อมด้วยการ์ดตัวสูงใหญ่แผ่ออร่าน่าถอยหนี สายตาสนใจของคนรอบข้างเลยกลายเป็นความสงสัยใคร่รู้มากกว่า ว่าเด็กหนุ่มผู้พิการคนนี้เหตุใดจึงมาร่วมงานพร้อมกับเหล่าการ์ดมือดีราวกับเป็นบุคคลสำคัญ “ผมดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้จริงๆ เหรอพี่ไมค์” ส่งเสียงอ้อนใส่หมอควบตำแหน่งการ์ดส่วนตัวไม่อาจเรียกความเห็นใจได้ “อาหารเครื่องดื่มนอกจาก

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-21
  • The Contract Mafia (ป๋า-มิท)   รอบที่13 กลับสู่ความจริง

    “คุณอเล็กเซย์...” ผมเค้นเสียงเรียกชื่ออีกฝ่ายอย่างยากเย็น มือเท้าเย็นเฉียบกับสถานการณ์ในปัจจุบัน... ย้อนกลับไปเล็กน้อย หลังจากที่อเล็กเซย์เข็นผมออกมารับลมทะเล เขาเอาแต่ชวนคุยเรื่องดินฟ้าอากาศ ไม่มีทีท่าว่าจะถามเรื่องเกี่ยวกับลูเซียสเลยสักนิด ทั้งที่ตัวเองบอกตอนแรกว่าอยากจะถามเรื่องลูเซียสจากปากผมแท้ๆ แล้วรอบข้างก็เป็นใจซะเหลือเกิน ไม่มีใครเลยนอกจากพวกเรา จนกระทั่งอเล็กเซย์หยุดบทสนทนาลง ยังไม่ทันจะได้สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น วีลแชร์ของผมถูกอเล็กเซย์หมุนเปลี่ยนทิศกะทันหันพร้อมเสียงดังปัง! ข้างหู รู้สึกกระแสลมไหลผ่าน มองตามไปเห็นพื้นไม้เป็นรู ชัดเจนแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น “ปกป้องพวกเขาเร็ว!” ไมค์ตะโกน การ์ดสามคนยืนล้อมผมกับอเล็กเซย์ไว้ ส่วนเจ้าตัวหยิบปืนที่ซ่อนไว้ในสูทยิงสวนกลับไป ทางนั้นดูจะไม่ยอมรามือง่ายๆ ทั้งที่ยิงนัดแรกพลาด ไมค์เข้าใจสถานการณ์ดี อเล็กเซย์เป็นคนระดับไหน โอกาสน้อยมากที่จะเข้าถึงและมีช่องว่างขนาดนี้ ไม่แปลกที่อีกฝ่ายคิดจะจัดการให้สำเร็จ เจ้าต้นตอแห่งความวุ่นวาย แทนที่จะเดือดร้อนกับเหตุการณ์ที่เกิดข

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-21
  • The Contract Mafia (ป๋า-มิท)   รอบที่14 ผลตรวจ

    ด้านนอกปรับความเข้าใจพูดคุยกันได้ด้วยดี ส่วนด้านในห้องกำลังร้อนระอุสลับเย็นเยือกได้ที่ เหล่าการ์ดรู้สึกอยากปลีกตัวไปขอยาพาราสักเม็ดเพราะเกรงว่าจะป่วยกันเสียก่อน คงมีเพียงผู้อาวุโสอย่างอาคมกับคนสนิทซ้ายขวาของอเล็กเซย์ ที่ยังยืนนิ่งไม่สะทกสะท้านกับบรรยากาศเหล่านี้ ชายมากอำนาจนั่งไขว่ห้างจ้องเพื่อนตัวเองเขม็ง อเล็กเซย์ยังคงยิ้มแม้เหงื่อจะผุดตรงขมับ มือสวยยกปิดปากกระแอมไออย่างไว้มาด ดูสง่าดุจเจ้าชายผู้เผชิญหน้ากับซาตาน “เลิกจ้องแบบนั้นสักที ฉันจะยอมบอกก็ได้” หลังจากเล่นสงครามประสาทกันมาสักพัก อเล็กเซย์เป็นฝ่ายยกมือยอมแพ้เพราะครั้งนี้เขาล้ำเส้นเพื่อนสนิทมากเกินไป มั่นใจได้เลยว่าหากเปลี่ยนคนอื่นมานั่งตรงนี้คงถูกลูเซียสยิงดับโยนลงทะเลให้ฉลามกินไปแล้ว! “ฉันก็แค่อยากรู้ว่าเด็กคนนั้นมีความสำคัญกับนายยังไง เลยวางแผนอะไรนิดหน่อยพร้อมกำจัดหนอนแมลงไปในคราวเดียว…” พออเล็กเซย์เงยหน้ามองเพื่อนถึงกับสะดุ้ง “ไม่เอาน่า นายก็รู้ดีว่าฉันทำอะไรรอบคอบเสมอ ทุกอย่างอยู่ในการคาดเดาของฉันหมดแล้ว ฉันไม่ปล่อยให้คนของนายกับเด็กคนนั้นตายเพราะเรื่องของตั

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-21
  • The Contract Mafia (ป๋า-มิท)   รอบที่15 เปิดตัวคนรัก!?

    ผมคิดว่าเรื่องอาการบาดเจ็บของตัวเองเซอร์ไพรส์แล้วนะ แต่ก็ยังไม่เท่ากับเรื่องของไนท์ รถสีดำเงาวับบ่งบอกยี่ห้อเจ้าของแล่นจอดในลาน พร้อมกับเหล่าการ์ดกรูออกมายืนล้อมรอบ ไมค์รับหน้าที่ยกรถเข็นกางรอ ลูเซียสลงจากรถเป็นรายถัดมา ก่อนโน้มตัวอุ้มลูกบุญธรรมมานั่งบนรถเข็นพร้อมกับเป็นคนเข็นด้วยตัวเอง บรรดาลูกน้องที่อยู่เฝ้าตึกเป็นเพื่อนไนท์ส่งเสียงต้อนรับบอสใหญ่กับคุณหนู ผมกวาดตามองการ์ดคุ้นหน้าแล้วหยุดชะงักตรงคนที่ยืนอยู่ข้างไนท์ หนุ่มร่างเล็กผิวขาว ใบหน้าบ่งบอกว่าเป็นคนเอเชีย เรือนผมสีดำระคอ ดวงตาฉายแววโศกปนประหม่า สวมเสื้อยืดตัวหลวมกับกางเกงยาวมิดชิดช่างไม่เหมาะกับอากาศในเมืองไทย ลูเซียสคงสงสัยเรื่องเดียวกันกับผม แต่ตอนนี้ไม่ใช่จังหวะที่จะมาพูดอะไรมาก บอสใหญ่เลยพยักหน้ารับลูกน้องแล้วพาผมเข้าไปตากแอร์ในห้องด้านใน ไนท์เข้าใจว่าลูเซียสต้องการอะไร เขายกมือโอบบ่าร่างบางข้างกายพาเข้าไปด้วยกัน ตามหลังมาด้วยไมค์ ส่วนหลงถูกลูเซียสสั่งให้ขึ้นเครื่องกลับรัสเซียไปแล้ว เพราะดูเหมือนว่าทางนั้นต้องการตัวหลงไปช่วยงานกะทันหัน ตอนนี้เลยเหลือแค่พวกเรา

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-21
  • The Contract Mafia (ป๋า-มิท)   รอบที่16 นกน้อยของอัศวิน

    การเรียนมารยาทกับเดฟจบคอร์สแล้ว เรื่องเรียนภาษากับลูเซียส...ผมขอทิ้งช่วงไปยาวๆ ด้วยเหตุนี้ทำให้ผมมีเวลาว่างมากพอที่จะฝึกการต่อสู้กับไนท์แบบเต็มตัว กิจวัตรประจำวันของผมคือ ตื่นตั้งแต่เช้ามืดเพื่อวิ่งออกกำลังกายรอบตึกสลับหยุดพัก และวอร์มร่างกายเป็นระยะ เพื่อเพิ่มความทนทานของร่างกายแถมเสริมสร้างกล้ามเนื้อไปในตัว เสร็จแล้วก็ขึ้นมากินข้าวเช้ากับลูเซียส แล้วอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ามาเรียนการใช้มีดและปืนจากไนท์ ไนท์เลือกมีดพกมาให้ เพราะพกพาสะดวก แถมหยิบออกมาใช้งานตอนไหนก็ได้ โดยเริ่มจากให้ผมควงจนกว่าจะชินมือและใช้เวลาหยิบออกมาน้อยที่สุด ตามด้วยสอนเทคนิคการหลอกล่อด้วยมีด โจมตีเข้าจุดสำคัญ อาศัยขนาดร่างกายและการเคลื่อนไหวให้เป็นประโยชน์ ต่อมาเป็นปืน แน่นอนว่าเป็นปืนพกเช่นกัน สภาพผมไม่มีทางแบกปืนใหญ่วิ่งใจกลางเมือง อีกทั้งผมไม่ได้มีหุ่นที่หนาใหญ่ถึกทนต่อแรงถีบปืนได้ เลยต้องเลือกแบบใช้งานง่าย น้ำหนักเบาสำหรับป้องกันตัวเท่านั้น พวกปืนรุ่นใหญ่ทั้งหลาย ไนท์สอนแค่ภาคทฤษฎีให้พอมีความรู้ประดับสมอง ส่วนสถานที่ฝึกก็สนามยิงปืนชั

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-21

Bab terbaru

  • The Contract Mafia (ป๋า-มิท)   รอบพิเศษ พ่อครัวหน้ายิ้ม

    ‘ดาวิดอฟ เฟรคดริก คอลลินส์’ หรือ ‘เดฟ’ คือชื่อของผม ผมเกิดที่รัสเซีย เป็นลูกคนเล็กมีพี่ชายพี่สาวอย่างละคน จบปริญญาตรีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งด้านโภชนาการที่มอสโก เรื่องรูปร่างหน้าตาก็ปกติธรรมดา(?) ไม่มีส่วนไหนขาดเกิน เส้นผมสีทองเหลือบเงิน ดวงตาสีฟ้าอมเขียว ผิวขาวจัดแม้ตอนนี้จะเริ่มคล้ำจากแดดในเมืองไทยก็ตาม ส่วนสูงก็...193 cm. สิ่งที่ชอบคืออาหารอร่อย ดอกไม้และคนฉลาด ผมเกลียดพวกไม่รู้คุณค่าของอาหาร กินทิ้งกินขว้างกับคนโง่มากที่สุด อาหารที่ถนัดคือ ซุปโบร์ช (Borshch) , โปลฟ (Pilaf) , ไก่เคียฟ (Chicken Kiev) อาหารรัสเซียและอาหารฝรั่ง ตอนนี้มีความสนใจอาหารไทย ปัจจุบันอายุ 25 ปี ทำงานให้กับบอสลูเซียส มิไรฮอฟ ตระกูลเก่าแก่ที่มีอำนาจมากมายจนน่าตกใจ ถามว่ามาทำงานให้บอสได้ยังไงเหรอ? เรื่องมันเป็นแบบนี้ หลังเรียนจบได้ผลการเรียนที่น่าพอใจ ผมถูกจองตัวจากหลายโรงแรมมีชื่อในมอสโก แต่ผมชอบทำอาหารให้คนที่รักการกินมากกว่าทำเพื่อเอาหน้าตาเลยปฏิเสธงานเหล่านั้นไป แล้วเลือกมาทำงานในร้านอาหารแห่งหนึ่งแทน ร้านนี้มีความเข้มงวดสูงมาก ไม่

  • The Contract Mafia (ป๋า-มิท)   รอบพิเศษ นกน้อยกับอัศวิน

    ภายใต้ความหอมหวานของอำนาจ คือความเน่าเฟะที่น่ารังเกียจ... เมื่อพ่อให้ความสำคัญกับธุรกิจเป็นอันดับหนึ่ง จึงไม่แปลกที่พ่อจะแต่งงานกับแม่เพื่อผลประโยชน์ ทั้งที่ตัวเองมีคนรักอยู่แล้ว ก่อนจะพาคนรักเข้ามาหลังจากที่แม่ตรอมใจตาย ฟังดูเหมือนพล็อตของบทละครน้ำเน่า แต่เชื่อเถอะว่า สิ่งเหล่านั้นล้วนอิงมาจากชีวิตจริง เขาเกลียดชังพ่อ รังเกียจผู้หญิงคนนั้น และขยะแขยงครอบครัวของตัวเอง เลยตัดสินใจเข้าโรงเรียนประจำ พอปิดเทอมหากไม่เที่ยวก็หางานพิเศษทำ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องกลับบ้าน ระหว่างนั้นก็ใช้ทรัพย์สินจากพินัยกรรมของแม่ผ่านทางผู้ดูแลที่แม่เลือกมาด้วยตัวเอง ต่อมา เขาสอบเข้าโรงเรียนตำรวจ ติดอันดับหนึ่งของรุ่นจนเรียนจบแล้วเริ่มทำงานจากตำแหน่งระดับล่าง กระทั่งบรรจุเข้าหน่วยปราบปรามและพบลูเซียสระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ลูเซียสในตอนนั้นยังอยู่ในช่วงเริ่มก่อตั้งแก๊ง มีคนติดตามอยู่ไม่กี่คนและเกิดสนใจฝีมือของเขาขึ้นมา เลยยื่นข้อเสนอให้มาทำงานด้วยกัน แน่นอนว่าเขาปฏิเสธ ไม่ใช่ว่ารักในอาชีพของตัวเอง แต่เขาไม่เคยมีความคิดที

  • The Contract Mafia (ป๋า-มิท)   รอบพิเศษ พ่อที่แย่

    ชีวิตของลูกผู้ชายคนหนึ่ง มีเรื่องที่เสียใจหนักๆ อยู่ไม่กี่อย่าง เรื่องแรกคือการจากไปของพ่อแม่ด้วยวัยชรา เรื่องที่สองคือความล้มเหลวในฐานะหัวหน้าครอบครัว ระหว่างที่ผมเป็นทหารทำตามความตั้งใจของตัวเองก็ทิ้งลูกเมียไว้ด้านหลังโดยไม่นึกถึงใจของคนเฝ้ารอ กระทั่งวันหนึ่ง ภรรยาที่แต่งงานกันมาหลายปีเป็นฝ่ายขอหย่า เธอร้องไห้ พร่ำบอกว่าขอโทษที่อดทนรอต่อไปไม่ได้ เธอเข้าใจความต้องการของผม แต่เธอที่มีลูกอ่อนก็ต้องการได้รับการดูแลเอาใจใส่เช่นกัน ผมไม่เคยโทษเธอเลยที่เริ่มมองหาผู้ชายที่ดีกว่า ดังนั้นผมเลยดึงเธอเข้ามากอด ลูบผมเบาๆ พร้อมกระซิบปลอบโยนเธอว่าไม่เป็นไร ทุกอย่างเป็นความผิดของผมเอง ‘ชนิศา’ เป็นผู้หญิงที่เข้มแข็ง การที่เธอเลือกทางนี้แสดงว่าทุกอย่างมันถึงที่สุดแล้วจริงๆ พอเป็นแบบนี้ก็ไม่อาจฝืนอยู่ด้วยกันอีกต่อไป ผมเลยยอมรับการตัดสินใจของเธอ และมอบสิทธิ์การเลี้ยงดูให้เธอไป หลังจากนั้นไม่กี่ปีผมก็ลาออกจากราชการทหารเพื่อหางานที่มีรายได้มากกว่าส่งเสียให้ลูกชายได้เรียนโรงเรียนดีๆ ระหว่างนั้นก็ติดต่อกันบ้างเป็นครั้งคราว วันไหนผมมีวันหยุดก็จ

  • The Contract Mafia (ป๋า-มิท)   รอบพิเศษ ผมชื่อ ‘หลง’

    ผมเกิดในซ่อง เติบโตในสลัม มีแม่เป็นโสเภนีที่หลังจากคลอดผมเสร็จก็เอาผมไปทิ้งแถวถังขยะ ก่อนที่คนจรจัดเก็บไปเลี้ยงดูด้วยหวังว่าจะให้ผมดูแลเขาต่ออีกที แต่เขาไม่ได้มอบความรักความเอาใจใส่อย่างที่คนใจบุญพึงกระทำ เพราะเขาเลี้ยงผมเหมือนสุนัขตัวหนึ่ง ถ้ามีอาหารเหลือพอก็จะโยนให้ผมกิน พอแค่ผมไม่ตายไปก่อนที่จะได้ใช้งานเท่านั้น จนบางทีผมก็สงสัยว่าความตายอาจจะดีกว่ารึเปล่า ไม่ต้องทนอดอยากหิวโหย โดนทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ ผมเคยคิดที่จะตายอยู่หลายครั้ง หากไม่ติดว่าคนจรจัดที่เก็บผมมาเลี้ยงจะช่วยผมไว้ทันตลอด แล้วจัดการลงโทษอย่างหนักเมื่อผมพ้นขีดอันตราย ให้อดข้าวบ้าง จับขังบ้างหรือบางทีก็โดนซ้อมเป็นเครื่องระบายอารมณ์ แน่นอนว่าการรักษาแต่ละครั้งไม่ได้ไปหาหมอในโรงพยาบาล แต่เป็นหมอเถื่อนที่ไม่มีใบรับรองแถวสลัม ไม่ก็รักษาเอาตามมีตามเกิด และผมดันดวงแข็งจนรอดมาได้เสียทุกครั้ง จะตายก็ตายไม่ได้ จะอยู่ก็แสนลำบาก สุดท้ายได้แต่ฝืนทนกับสิ่งที่เป็น กระทั่งอายุหกปี ชายแก่ที่เลี้ยงดูผมดันไปขัดขานักเลงวัยรุ่นเข้า เลยถูกพวกนั้นซ้อมอย่างคึกคะนอง เสียงตาแก่โหยหวนด้วยความเจ็บปวด ผสมเสียงตุบต

  • The Contract Mafia (ป๋า-มิท)   รอบที่พิเศษ ผู้ช่วย

    เรื่องราวต่อจากนี้เป็นเรื่องหลังจากที่ผมเรียนจบมหา’ลัย กรุณาอย่าถามถึงเกียรตินิยม แค่ผมเรียนจบได้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว ส่วนเพื่อนๆ ก็แยกย้ายกันไปตามหน้าที่การงานของตัวเอง ตัวผมเองก็เช่นกัน เพราะผมตัดสินใจแล้วว่าจะเดินไปบนเส้นทางเดียวกับลูเซียส แต่ดูเจ้าตัวจะไม่ค่อยเห็นด้วยสักเท่าไหร่ สำหรับคนที่คลุกคลีอยู่ในวงการนี้มาตั้งแต่เกิด ย่อมเห็นตื้นลึกหนาบางจนหมดสิ้น เลยอยากให้ผมที่มีโอกาสเลือกเส้นทางของตัวเองหลีกหนีให้ไกลจากมันที่สุด แน่นอนว่ามันเป็นไปไม่ได้ นับตั้งแต่วันที่ผมเลือกทำงานไซด์ไลน์และกลายเป็นเด็กเลี้ยงของลูเซียส ตัวผมก็ก้าวเข้ามาอยู่ในวงการนี้ครึ่งตัวแล้ว ในเมื่อไม่มีทางเลือก ลูเซียสเลยสั่งให้ผมเรียนต่อปริญญาโทด้านการบริหารเพื่อมาช่วยดูแลธุรกิจที่ไทยแทน ซึ่งงานนี้ลูเซียสให้ผมเรียนต่อที่รัสเซีย ทุกคนเลยถือโอกาสนี้กลับรัสเซียกันยกทีม เหลือแค่พวกการ์ดอยู่เฝ้าตึกจำนวนหนึ่งเท่านั้น เรื่องพ่ออย่าไปพูดถึง ล่าสุดเห็นว่าออกจากคุกแล้ว แต่จะไปทำอะไรที่ไหนอยู่ยังไงผมไม่สนเพราะอยู่กันคนละประเทศ ส่วนแม่ผมไม่ต้องเป็นห่วง ปัจจุบันร่างกาย

  • The Contract Mafia (ป๋า-มิท)   รอบพิเศษ ป๊อกกี้เดย์

    คุณคิดว่าคนคนหนึ่งจะทำเรื่องราวซ้ำๆ กันทุกวันโดยไม่เบื่อได้รึเปล่า ผมคิดว่าได้แต่ยาก เพราะต่อให้กินข้าวอาบน้ำ ทำกิจวัตรประจำวันเหมือนเดิม ระหว่างนั้นก็ยังต้องมีอะไรแปลกใหม่เข้ามาในชีวิตบ้าง อย่างการเปลี่ยนเมนูอาหาร ลองเปลี่ยนกลิ่นสบู่หรือแชมพูใหม่ ดังนั้นไม่แปลกที่มนุษย์จะสรรหาความแปลกใหม่แม้มันจะไม่มีสาระอะไรเลยก็ตาม อย่างในโซเชียลตอนนี้ ไม่รู้เริ่มฮิตวันป๊อกกี้เดย์ตามประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้อีกทีผมก็เห็นของพวกนี้ตามมาหลอกหลอนแล้ว แต่บังเอิญว่าผมไม่สนใจ ความคึกคักของเทศกาลนี้เลยถูกผมลืมเลือนไปซะสนิท เพิ่งจะนึกขึ้นได้ตอนเห็นภาพย้อนหลังวันนี้นี่แหละ มิน่าล่ะทำไมเมื่อวานพี่โทริถึงซื้อป๊อกกี้มาให้ หนึ่งในนั้นมีรสมะพร้าวของโปรดผมที่กินหมดไปตั้งแต่เมื่อวาน จะเหลือก็แค่ป๊อกกี้รสดาร์คช็อกที่คาดว่าอยากจะให้ใครบางคนแต่ไม่กล้าเลยต้องส่งผ่านผม ไหนๆ ก็ไหนๆ ป๋าทำงานเครียดๆ ผมควรทำหน้าที่อีหนูที่ดี เป็นลูกชายชั้นยอดด้วยการเข้าไปป่วน แฮ่ม! เข้าไปผ่อนคลายอารมณ์ป๋าดีกว่า “พี่อาคม ป๋าไม่ได้ทำงานสำคัญอยู่ใช่มั้ย” ผมกระซิบถามพี่อาคมท

  • The Contract Mafia (ป๋า-มิท)   รอบพิเศษ ลอยกระทง

    วันนี้วันลอยกระทง แถมยังเป็นวันซูเปอร์มูน พระจันทร์เต็มดวงและเข้าใกล้โลกมากที่สุด สิ่งที่ผู้คนควรทำคือเตรียมตัวไปลอยกระทงกันตั้งแต่หัวค่ำ แล้วเดินเที่ยวเล่นชมความงามของพระจันทร์กับเพื่อนฝูง ครอบครัวไม่ก็คนรัก ตัวผมน่ะเหรอ? นั่งไถมือถือด้วยความเบื่อหน่าย... ไม่ใช่ว่าเพื่อนไม่คบ แต่เพื่อนมันดันไปลอยกับแฟนกันหมดเท่านั้นยังไม่พอ ยังมีหน้าถ่ายรูปมาเยาะเย้ยอีกต่างหาก เฮียเฟย์ถ่ายรูปปอนด์ถือกระทงยืนคู่กับแม่ โดยมีฉากหลังเป็นผู้คนกับผืนน้ำที่มีกระทงลอยอยู่เต็มไปหมด เกิดเป็นดวงไฟสีส้มระยิบระยับ ซันโป้ ไอ้คู่ผัวเมียฮาร์ดคอ โป้มันถ่ายรูปเท้าตัวเองทำท่าจะยันก้นซันลงน้ำ ขณะที่ซันกำลังนั่งอธิษฐาน ริวถ่ายภาพกระทงสองอัน เห็นชายเสื้อชอปประจำสาขามันแวบๆ แสดงว่ามันไปลอยกับพี่ธันชัวร์ ภาพของวาเล่นับว่าเด็ดสุด เล่เซลฟี่ระหว่างหอมแก้มวาที่ทำหน้าเซ็งถือกระทง ด้านหลังสองคนนั้นเป็นท้องฟ้าสีดำที่มีโคมลอยมากมาย ดูบรรยากาศคึกคักสมเป็นภาคเหนือ พูดถึงลอยกับครอบครัวยิ่งหดหู่ พ่อผมไม่รู้เป็นตายร้ายดียังไงขี

  • The Contract Mafia (ป๋า-มิท)   รอบที่32 คนเดียว

    ปากเก่งไปแบบนั้นแต่ผมก็ยังหนีความจริงเรื่องที่ตัวเองยังอยู่ในวัยเรียนไม่พ้น ดังนั้นผมเลยทำตัวให้สมวัยด้วยการอยู่ดูแลแม่ในระหว่างที่ลูเซียสเคลียร์งานที่รัสเซียตามคำแนะนำของอดีตพาคาน ทำให้ช่วงนั้นผมกับลูเซียสห่างกันอีกรอบ ด้วยตัวตนของลูเซียสไม่สะดวกมาที่โรงพยาบาลบ่อยอยู่แล้ว เลยได้แต่ส่งบรรดาการ์ดมาเฝ้า “แน่ใจนะว่าไม่มีอะไรจริงๆ” ป้านาเดียร่างท้วมมีเค้าโครงของแม่เอ่ยถามเป็นรอบที่ห้าของวัน เมื่อเข้ามาเจอผมนั่งเล่นไพ่กับไมค์ระหว่างแม่พักผ่อนหลังทานยา อันที่จริงไมค์เองก็ไม่ได้ตัวหนาหุ่นบึกเท่ากับการ์ดคนอื่นๆ แต่เทียบกับคนธรรมดาแล้วก็ยังดูตัวสูงใหญ่กว่าอยู่ดี น่าจะตัวหนากว่าหลงไม่เท่าไหร่ แถมยังเป็นหมอบรรยากาศรอบตัวเลยไม่เยือกเย็นเท่าหลง ถึงแบบนั้นป้านาเดียก็ยังแสดงทีท่าระแวงชัดเจน ในขณะที่ผมสุดแสนจะชิลหรือเป็นเพราะผมเจอแต่พวกหุ่นหมีจนชินแล้วก็ไม่ทราบ “อย่าห่วงเลยป้านาเดีย พี่ไมค์เป็นคนที่พ่อบุญธรรมส่งมาเพื่อดูแลผม เห็นแบบนี้เขาเป็นหมอนะ” ผมตบมือป้าที่วางบนแขนเบาๆ เป็นเชิงปลอบ หลังป้ารีบถลาเข้ามาคว้าตัวผมไปหลบทั้งที่ตัวเองก็กลัว

  • The Contract Mafia (ป๋า-มิท)   รอบที่31 เรื่องเล่า

    หลังจากการแนะนำตัวกันแบบง่ายๆ ก็เกิดความเงียบเข้าปกคลุมชั่วขณะ กระทั่งเสียงหายใจแฮ่กๆ ของเจ้าหมาก็ไม่อาจทำลายความเงียบนี้ลงได้ ผมยืนตัวเกร็งจนตะคริวแทบกิน นอกจากลูเซียสจะไม่ช่วยแล้วยังจะร่วมด้วยช่วยกันจ้อง แม้ภายนอกสองอาหลานจะไม่เหมือนกันเลย แต่แววตาเหมือนถอดพิมพ์กันมา ผมเลยเกร็งคูณสอง พอเหลือบสายตามองด้านหลังไม่เห็นเงาพี่อาคม คาดว่าน่าจะรออยู่ในรถไม่ได้ลงมาด้วย ยิ่งบ่งบอกความสำคัญของผู้ที่อยู่บนรถเข็น สถานการณ์แบบนี้ผมควรทำยังไงดี... “เด็กเลี้ยง?” อาคนงามแม้อายุจะล่วงเลยถึงเลขห้าเงยหน้าถามหลานชายตัวเอง ในขณะที่คนฟังแทบจะโห่ร้อง ในที่สุดก็ไม่เงียบแล้ว แม้จะเป็นประเด็นอ่อนไหวก็ตาม! ลูเซียสก้มตอบด้วยรอยยิ้มจาง “ครับ ทั้งเลี้ยงและเอ็นดู” ดวงตาสีน้ำเงินสวยสองคู่ สัญลักษณ์ของสายเลือดมิไรฮอฟมองสบตากันสื่อความนัย “ติดใจลีลาบนเตียง?” “ครับ” “สมกับเป็นหลานฉันจริงๆ” ผมอึ้ง นี่มันบทสนทนาอะไรกัน บรรยากาศที่กดดันตอนแรกก็แปรเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เหมือนเป็นเพียงแค่หลานชายมาพบญาติผู้ใหญ่ของตั

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status