Time & Lalin 5 - ความบังเอิญที่ตั้งใจ
ลลินไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องแบบนี้มาก่อนจะตื่นเต้นบ้างย่อมไม่ใช่เรื่องแปลก ทว่าอีกคนที่ช่ำชองเรื่องพรรค์นี้กลับรู้สึกประหม่า เพราะได้เจอของดีเข้าแล้ว
เขาอยากทะนุถนอมแต่ก็กลัวตัวเองจะอดใจไม่อยู่ เพราะเรือนร่างของเธอชอบทำให้เขาสติหลุด
“อยากเล่นกับมันไหม” ชายหนุ่มยกยิ้ม เมื่อเห็นคนใต้ร่างเอาแต่จ้องมองส่วนนั้นของเขาไม่วางตา
ไม่ถามเปล่ามือหนายังคว้ามือเรียวเข้ามาจับท่อนร้อนที่กำลังผงาดเต็มที่
“อ๊ะ” ลลินอุทานด้วยความตกใจ เมื่อมือตัวเองถูกนำไปจับหมับเข้าที่ลำกายใหญ่โตของเขา
“มือเธอนุ่มมาก” เสียงทุ้มแหบพร่าเอ่ยบอกเจ้าของมือนุ่ม เธอทำเขาเสียวกระสันจนแทบอยากจะเสร็จคามือ
“อื้อ” เสียงหวานร้องครางเมื่อใบหน้าหล่อซุกลงตรงซอกคอขาว พร้อมกับดูดเม้มสลับไปมาซ้ายขวาอย่างตามใจ
ด้านบนพรมจูบไป ส่วนด้านล่างมือหนาก็จับเข้าที่ข้อมือเล็ก สอนให้ชักรูดแก่นกายของเขาขึ้นลง ลลินเรียนรู้ได้รวดเร็ว มือเรียวขยับรูดรั้งแก่นกายร้อนขึ้นลงเป็นจังหวะ
“อ่า ฉันได้แตกคามือเธอแน่” ไทม์กระซิบข้างกกหูคนตัวเล็กด้วยน้ำเสียงแหบพร่า เมื่อเธอปรนเปรอเขา
ไม่ปล่อยให้อีกคนเสียเปรียบ มือหนาอีกข้างพลันล้วงเข้าไปในแพนตี้ตัวจิ๋ว
“อื้อออ” ส่งนิ้วแกร่งสะกิดหยอกเล่นกับจุดเสียวของคนตัวเล็ก จนเธอสะดุ้งตัวงอด้วยความเสียวซ่าน
“อ่า” เสียงร้องครางของไทม์ดังมอมเมาร่างบางข้างกกหู พร้อมกับนิ้วแกร่งที่กำลังสะกิดเล่นจุดเสียวไม่หยุดหย่อน
“อ๊ะ” เสียงหวานที่ร้องครางออกจากลำคอก็ช่างเร้าอารมณ์ได้เป็นอย่างดี ไหนจะมือนุ่มที่กำลังชักรูดแก่นกายของเขาอีก
สองร่างนัวเนียแนบชิด กระตุ้นอารมณ์ราคะให้ยิ่งทวีความร้อนรุ่ม เสียงร้องครางกระเส่าของทั้งสองคนคลอประสาน ต่างคนต่างปรนเปรอให้แก่กัน
“อื้อ อ๊ะ ค…คุณ ฉันรู้สึกแปลก ๆ ระ เร็วกว่านี้” ขาเรียวอ้าออกอัตโนมัติเมื่ออารมณ์วาบหวามพุ่งทะยาน เธอต้องการให้นิ้วแกร่งรุกล้ำเข้ามามากขึ้นจนเผลอกำท่อนร้อนแน่นยิ่งกว่าเดิมและชักมันถี่ระรัว
“อ่า ไม่ไหวแล้ว”
“อ๊ะ อื้อ / อะ อ่า”
หลายวันต่อมา...
“พี่ลลินคะ”
“อือ ว่าไง” ฉันเงยหน้ามองสายป่านที่เดินเข้ามาในห้องทำงานด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“มีบริษัทมาขอเทกโอเวอร์บริษัทเราอีกแล้วค่ะ”
ตั้งแต่แอปพลิเคชันที่ฉันสร้างขึ้นมาเปิดตัวให้ทดลองใช้อย่างเป็นทางการ ก็มีผู้คนให้ความสนใจใช้งานกันอย่างล้นหลาม จนกลายเป็นแอปพลิเคชันยอดนิยมอันดับหนึ่งในตอนนี้
บริษัทเราเป็นบริษัทเล็ก ๆ แต่กลับสร้างแอปพลิเคชันดี ๆ ออกมา บริษัทใหญ่ที่เห็นโอกาสตรงนี้จึงคิดเอาเงินมาฟาดเพื่อขอซื้อไปบริหารต่อ
“พี่บอกให้ปฏิเสธไปแล้วไม่ใช่เหรอ” นี่ไม่ใช่บริษัทแรกที่เข้ามาติดต่อเพื่อขอเทกโอเวอร์บริษัท แต่เป็นบริษัทที่สี่ที่ห้าได้แล้วมั้ง
“ใช่ค่ะ สายป่านก็ปฏิเสธไปแล้วแต่ว่า เขายังดื้อไม่เลิกค่ะ และอยากจะขอเจรจากับพี่แค่คนเดียวด้วย” คนตรงหน้าฉันทำท่าทางกระอักกระอ่วนใจ
ฉันเข้าใจสายป่านที่เป็นด่านหน้าดี คงจะโดนมาไม่น้อย...
“เจรจาไปก็เท่านั้น พี่ไม่ขาย”
“แต่ว่า เขามารออยู่ด้านนอกแล้วค่ะ” สายป่านคงโดนกดดันมาอีกที ฉันเข้าใจดี
“เฮ้อ อือ อีกห้านาทีเดี๋ยวพี่ออกไป” สุดท้ายก็ต้องถึงมือฉันสินะ
“ค่ะ” สายป่านยิ้มรับแห้ง ๆ และเดินออกไป
“เกลียดนักไอ้พวกชอบฉวยโอกาส พวกทำนาบนหลังคน ไอ้พวกสมองไม่มี คิดว่ามีเงินแล้วจะทำอะไรก็ได้งั้นสิ” เมื่อประตูปิดลงฉันก็พ่นคำด่าตามออกมาเป็นชุด เพราะมันอดกลั้นไว้ในใจไม่ได้จริง ๆ
ฉันสร้างมาแทบตาย จะมาชุบมือเปิบแบบนี้ได้ไง?!
ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห แทนที่ฉันจะเอาเวลาไปทำงาน แต่ต้องมาเสียเวลากับการไล่คนพวกนี้อีก คิดแล้วก็ยิ่งโมโห
ปัง!
ฉันวางปากกาในมือลงอย่างแรงไอ้เรามันเป็นพวกโมโหแล้วชอบใช้กำลังเสียด้วยสิ
“ได้เห็นดีกันแน่” ตอนนี้ฉันอารมณ์เดือดจนจะกินคนได้ทั้งคนอยู่แล้ว
เมื่อพร้อมฉันก็เดินออกมาด้านนอก มุ่งไปยังห้องที่ไว้สำหรับต้อนรับแขก
ปกติก็เอาไว้ต้อนรับแขกที่ได้รับเชิญเท่านั้นแต่วันนี้ต่างออกไป เพราะเป็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญ!
“ไม่ต้องเข้ามา พี่จัดการเอง” ฉันหันไปบอกกับสายป่านที่กำลังจะเดินตามเข้ามาด้านในห้อง
“สวัสดีค่ะ” เดินเข้ามาก็พบกับชายวัยกลางคนคนหนึ่งนั่งรออยู่
“สวัสดีครับคุณลลิน” คนตรงหน้าลุกขึ้นจากเก้าอี้ ก่อนจะเอ่ยทักทาย
“รู้จักชื่อฉันด้วยเหรอคะ” ฉันไม่ได้เดินเข้าไปนั่งแต่เลือกที่จะเดินเข้าไปใกล้เพื่อยืนคุย เพราะอีกไม่กี่นาทีฉันก็จะเดินออกไปแล้ว
“แหม ไม่ให้รู้จักได้ไงล่ะครับ แอปที่คุณสร้างออกข่าวดังเสียขนาดนั้น” คนตรงหน้าเอ่ยพร้อมรอยยิ้มเจื่อน คงเห็นแล้วว่าฉันมาด้วยสีหน้าที่ไม่ต้อนรับเขาเลยสักนิด
“ขอบคุณนะคะที่สนใจกับสิ่งที่ฉันสร้างมาเองกับมือ ทั้งลงทุน ลงแรง ลงเงินล้มเหลวไปตั้งกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง กว่าจะมีวันนี้ได้ไม่ง่ายเลยค่ะ” ฉันร่ายยาวอย่างไม่คิดหายใจอยากจะจบตรงนี้ให้เร็วที่สุด
“เอ่อ…” จนพูดจบคนตรงหน้าก็หน้าเหวอแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“ฉันต้องขอโทษคุณด้วยนะคะที่จะต้องพูดตรง ๆ ว่าฉันไม่ขายและไม่มีวันขาย” เขานิ่งไปในทันทีที่ฉันพูดจบ
“ถ้าเข้าใจแล้วฉันขอตัวนะคะ” ฉันจึงใช้โอกาสนี้ตัดจบและเดินออกมา
“สายป่าน ส่งแขกด้วย” อย่าหาว่าฉันไม่มีมารยาทเลยนะ แต่คนพวกนี้ไม่มีมารยาทกับฉันก่อนทำไม
ไม่ใช่ว่าฉันไม่เข้าใจเรื่องธุรกิจ ฉันเข้าใจดีเลยละเพราะธุรกิจกับการฉวยโอกาสนั้นเป็นของคู่กัน
แต่จะฉกฉวยกันดื้อ ๆ แบบนี้ก็ยากหน่อย
ก๊อก ก๊อก
“มีอะไร” พอฉันเห็นหน้าสายป่านเป็นรอบที่ร้อยของวันนี้ อารมณ์หงุดหงิดก็มาในทันที
“พี่ลลินคะ” สายป่านเดินเข้ามาใกล้ ๆ ด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วนเช่นเดิม
“มาอีกแล้วค่ะ” ก่อนจะเอ่ยในสิ่งที่ฉันก็คิดไว้อยู่แล้ว
“ฉันควรจะเปลี่ยนเลขาดีไหม สั่งแล้วทำไม่ได้แบบนี้” แค่คิดเล่น ๆ ไม่ได้จริงจัง แต่สายป่านก็หน้าเสียอยู่
“สายป่านก็ไล่ไปได้หมดเลยนะคะ แต่ว่า...คุณคนนี้เขาหล่อ...” พูดเสร็จก็บิดตัวไปมาอย่างเขินอายจนฉันมึนงง
นี่ฉันกำลังจริงจังอยู่นะเนี่ย
“แล้วก็ให้นามบัตรมาด้วยค่ะ บอกว่าถ้าพี่เห็นนามบัตรนี้ พี่ต้องเปลี่ยนใจออกไปหาเขาแน่ ๆ” พูดจบมือน้อยก็ยื่นนามบัตรสีดำสนิทตัดทองดูหรูหราในมือส่งมาให้ฉัน
Time & Lalin 6 - เจอกันอีกแล้วนะครับฉันมองหน้าสายป่าน ยังไม่ได้รับมันมาในทันที เพราะกำลังคิดสงสัยว่าทำไมฉันต้องออกไปเมื่อเห็นนามบัตรนี้“เฮ้อ” ฉันถอนหายใจให้กับคนตรงหน้า และเพื่อคลายความสงสัยก็รีบหยิบนามบัตรนั้นมาดูเมื่อนามบัตรมาอยู่ในมือแล้ว ฉันก็กวาดสายตาอ่านทุกตัวอักษร“บริษัทใหญ่นี่เอง” ฉันพึมพำออกมา นึกว่าจะเป็นคนรู้จักเสียอีก ที่แท้ก็เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่นี่เองคิดว่าฉันรู้แล้วจะยอมขายให้หรือไง เอาอะไรมามั่นใจขนาดนั้นพรึบฉันโยนนามบัตรนั่นลงบนโต๊ะอย่างไม่ไยดี“หือ” แต่แล้วบางอย่างก็ทำให้หยิบมันขึ้นมาใหม่ พอเพ่งดูชื่อผู้บริหารอีกทีแล้วก็ชวนให้เอะใจไทม์ งั้นหรือชื่อนี้ทำให้ฉันนึกถึงใครบางคนขึ้นมา“เขาบอกว่าไงนะ คนที่ให้นามบัตรนี้มา” ฉันชูนามบัตรขึ้นถามสายป่านถึงรายละเอียดอีกครั้ง“บอกว่าถ้าพี่ได้เห็นนามบัตรนี้ พี่ต้องออกไปหาเขาแน่นอนค่ะ” สายป่านยกยิ้ม พร้อมกับมองอย่างต้องการแซวฉันผ่านสายตา“รู้จักเหรอคะ” อีกฝ่ายยื่นหน้าเข้ามากระซิบถามใกล้ ๆ“ไม่รู้จัก” ฉันพูดออกไปนิ่ง ๆ เพื่อตัดบทไม่ใช่ว่าไม่รู้จัก แต่ยังไม่แน่ใจ...ว่าใช่เขาคนนั้นหรือเปล่า“หรือว่าเขากำลังตามจีบพี่อยู่” สายป่
Time & Lalin 7 - ถ้าอีกครั้งมันจะไม่ใช่วันไนต์แล้วละสิ@ผับ“มัวแต่อีโก้สูง ทำยังไงดีล่ะ ขนาดแค่เปิดให้ทดลองใช้ปัญหาก็มาเยอะแล้ว ถ้าเปิดให้ใช้งานจริง ๆ ฉันจะทำยังไง จะให้จ้างพนักงานเพิ่มทุนก็ไม่เหลือแล้ว”“เฮ้อ”“นี่เลิกกลุ้มเรื่องงานได้แล้ว” เสียงของเกลเพื่อนรักของฉันเอ่ยบอก เพราะฉันเอาแต่นั่งถอนหายใจมาสักพักใหญ่แล้วละ“ไม่ให้กลุ้มได้ไง ฉันยังคิดไม่ตกเลยว่าจะเอาไงต่อ” ตอนนี้ฉันนั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์ร้านเหล้าสุดหรูที่เพื่อนฉันทำงานอยู่ฉันมีเพื่อนที่สนิทเป็นเพื่อนรักและเพื่อนตายเพียงคนเดียว นั่นก็คือเกล เธอทำงานเป็นบาร์เทนเดอร์ในผับหรูแห่งนี้ คนละผับกับที่ไปเมื่อวันงานฉลองผับนั้นฉันไม่กล้าไปแล้วละ ปกติฉันไม่ค่อยเข้าผับบาร์เท่าไร แต่วันนี้ที่มาเพราะมีเรื่องกลุ้มใจและจะมาเมาท์คลายทุกข์ให้เพื่อนฟัง“ฉันสร้างมากับมือ จะให้ไอ้พวกฉวยโอกาสเอาไปได้ไง” ฉันยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาเพื่อตอกย้ำตัวเองว่าสองมือของฉันนี่แหละที่สร้างมา“แกก็หานายทุนสิ แบบเป็นแค่หุ้นส่วน ไม่ได้เสียหายอะไร บริษัทก็ยังเป็นของแก”“เออ จริงด้วย แต่ส่วนมากมีแต่จะมาขอเทกโอเวอร์กันทั้งนั้น” คำพูดของเกลทำฉันมีความหวังขึ้นอีก
Time & Lalin 8 - ไปคุยรายละเอียดที่ห้องผมไหม NC18+ “ไปทำอะไรมาหน้าแดง” เกลเอ่ยถามเมื่อฉันกลับมานั่งที่เดิม“แดงเหรอ” ฉันยกมือประกบสองแก้มของตัวเองเพื่อเช็กดู“อืม” เกลตอบออกมาเพียงเท่านั้น ก่อนจะไปทำหน้าที่ชงเครื่องดื่มให้ลูกค้าคนอื่น ๆและเมื่อชงเสร็จก็กลับมายืนอยู่ตรงหน้าฉันอีกครั้ง“เขาเจ้าชู้ใช่ไหม” เมื่อได้จังหวะที่เกลว่าง ฉันก็โพล่งถามออกไปในสิ่งที่อยากรู้“ใคร” แต่เพื่อนสาวนี่สิ“แกนี่ เราคุยถึงเรื่องใครค้างไว้ล่ะ”“อ้อ...” พอดุไปทีก็จำได้ขึ้นมาเชียว“...โอเค ๆ ก็ตามประสาคนโสดที่เป็นที่หมายปองของสาว ๆ นั่นแหละ” แสดงว่าเจ้าชู้หรือเปล่าแต่ถ้าโสดเอ๊ะ โสดสินะ“ทำไม ติดใจงั้นสิ” คำพูดของเพื่อนทำให้ฉันคิดหนักปฏิเสธไม่ได้เลยว่าฉันติดใจเขาอย่างที่เกลพูดออกมา“ไม่ได้หรอก เขาคือหนึ่งในคนที่มาขอเทกโอเวอร์บริษัทฉัน แกก็รู้ว่าฉันเกลียดพวกฉวยโอกาสมากแค่ไหน” และสุดท้ายฉันก็ตีกับตัวเอง“เรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวควรแยกกันสิ” เกลคงเห็นฉันคิดหนักจึงเอ่ยฉันแบบนั้น“แยกไม่ได้หรอก” เรื่องแบบนี้มันคงจะแยกกันได้หรอกเพราะงานคือทั้งชีวิตของฉันฉันเป็นเจ้าของบริษัทนี่นา“แน่ใจนะว่าจะไม่เสียดาย”“ก็ไม
Time & Lalin 9 - ชอบทุกอย่างที่เป็นคุณ Nc18+เผลอแป๊บเดียวมือหนาก็จัดการถอดชุดฉันโยนทิ้งมันไปอย่างง่ายดายและชำนาญ พร้อมกับผละริมฝีปากออกในทันที“คะ คุณ” ฉันร้องเรียกคนตรงหน้าด้วยใจที่เต้นระรัวทันทีที่ขนลุกซู่ไปทั้งตัวเมื่อร่างกายเปลือยเปล่าเหลือเพียงที่แปะจุกและจีสตริงตัวจิ๋วเขาหยัดกายขึ้นก่อนจะจัดการปลดกระดุมเสื้อของตัวเอง โดยสายตายังคงจ้องมองมาที่ฉันอยู่สายตาของเขาทำเอาฉันแทบอยากจะหยุดหายใจ ฉันกัดปากตัวเองอย่างไม่ทันรู้ตัว ได้สติอีกทีก็ตอนที่เขาจ้องมองริมฝีปากของฉันพร้อมยิ้มขบขันเขาทำฉันประหม่าไม่ได้สิลลิน เธอจะมาแสดงท่าทางแบบนี้ไม่ได้เมื่อคิดได้ดังนั้นฉันจึงหยัดกายขึ้น พิงกับหัวเตียงและจัดการแกะแผ่นปิดจุกออกและในตอนนั้นเองสายตาก็เหลือบไปเห็นสิ่งที่ทำตาฉันค้างโตได้อีกครั้งแก่นกายชายอันใหญ่โตนั่น คือสิ่งที่กำลังจะเข้าไปในตัวฉัน...ใช่ไหมในขณะที่ฉันกำลังจ้องมองสิ่งตรงหน้าพร้อมกับใจที่เต้นระรัว ด้วยลมหายใจที่กำลังหอบกระชั้นและติดขัดอยู่นั้นร่างหนาที่เต็มไปด้วยลอนกล้ามแข็งแรงก็ค่อย ๆ ทาบทับลงมาจนชิดกับอกอวบของฉัน“คืนนี้ผมจะทำให้คุณมีความสุขมากกว่าคืนก่อนแน่นอน” ใบหน้าหล่อก้มกร
Time & Lalin 10 - สู้ไหม Nc18+ฉันไม่เคยขัดความต้องการของเขา เมื่อนิ้วแกร่งแทรกเข้ามาในปากอีกครั้ง ฉันก็แลบลิ้นออกมาตามนิ้วร้อนและค่อย ๆ ก้มหน้าลงที่แก่นกายตรงหน้า“อ่าาา...” เสียงร้องครางสุดเสียว ดังใกล้ ๆ กกหู พร้อมกับมือหนาลูบศีรษะฉันเบาเมื่อลิ้นแตะสัมผัส ฉันก็จัดการลากไล้ขึ้นลงในจังหวะเนิบช้า ก่อนเลียวนไปโดยรอบอย่างละมุนละม่อมขณะที่ลิ้มรสแท่งร้อนสายตาฉันก็ช้อนมองขึ้นไปด้านบน เพราะต้องการเห็นใบหน้าเขายามเสียวซ่านเมื่อฉันหยุดทำ เขาก็ส่งยิ้มให้ฉันอย่างพอใจและดึงมือฉันจับที่แก่นกายของเขาเมื่อมือฉันสัมผัสกับแก่นกายร้อนนุ่มแต่แข็งขืน เขาก็กัดปากร้องซี้ดแสดงสีหน้าเหยเกออกมาก่อนจะยื่นมาจับข้อมือฉัน แล้วขยับขึ้นลงช้า ๆลิ้นร้อนแลบเลียริมฝีปากตัวเองไปมา ก่อนมือใหญ่จะเชยคางฉันขึ้น ประกบจูบแทรกเรียวลิ้นเข้ามามือฉันยังคงทำหน้าที่ชักรูดแก่นกายต่อไป พร้อมกับเรียวลิ้นที่กำลังโดนอีกคนเล่นงานไม่นานนักเขาก็ผละออก“แบบเมื่อกี้ที่หัว” เขาสั่งการพร้อมกับใช้มือหนากดหน้าฉันลงสติฉันกระเจิดกระเจิงไปไกลตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว พอได้ยินคำนี้ก็ก้มลงทำตามอย่างว่าง่ายอ้าปากงับเจ้าแท่งร้อนเข้าไป ดึงทุกอย่า
Time & Lalin 11 - มันเสียวมากเลยคุณตับ ตับ ตับเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้องแข่งกับเสียงหอบหายใจและเสียงริมฝีปากของเราสองจูบดูดดื่มยิ่งเนิ่นนานรสยิ่งหวานล้ำ ทำให้ฉันรู้สึกเสพติดและต้องการมันซ้ำแล้วซ้ำเล่า“อื้อออ” วันนี้เข้าใจแล้วว่าเสียวจนแทบขาดใจมันเป็นอย่างนี้นี่เองฉันอยู่ใต้อาณัติร่างแกร่งโดยที่ทำอะไรไม่ได้ นอกจากรอรับความเสียวซ่านที่เขามอบให้ยิ่งนานเอวสอบก็ยิ่งเร่งถี่ระรัว“อ่าาา/อ๊าาา” เราสองผละริมฝีปากออกจากกัน เมื่อเป็นอิสระกันทั้งคู่เราต่างก็ร้องครางออกมาอย่างอดกลั้นใบหน้าหล่อเหลายามโดนห้วงอารมณ์วาบหวามเล่นงานยิ่งดูเปี่ยมเสน่ห์น่ามองยิ่งตอนที่เขาเสยผม ฉันก็เผลอขมิบช่วงล่างอย่างลืมตัว“อ่า คุณ ผมจะเสร็จ อย่าตอดแรง”ฉันกัดปากแน่น หัวใจเต้นแรงและยิ่งเสียวกว่าเก่าเมื่อได้ยินคำนั้นพูดออกมาจากปากเขาตับ ตับ ตับคนตัวโตหยัดกายขึ้นเล็กน้อย ใช้มือหนาจับเข้าที่เอวคอดแล้วยึดให้มั่นปึก ปึก ปึกจากนั้นเอวสอบก็กระแทกเข้ามาอย่างไม่ยั้งแรง“อื้อ คุณ…” ฉันเอื้อมไปจับที่ข้อมือแกร่ง“จุก สะ…เสียว” แม้จะจุกจนอยากให้เขาหยุดโจนจ้วงเข้ามา แต่ในขณะเดียวกันก็เสียวซ่านจนใจแทบขาด ภายในหัวตีกันวุ่น
Time & Lalin 12 - อาการของคนโดนทิ้งหนึ่งชั่วโมงต่อมา...“ฉันกลับเองได้ค่ะ” เสียงหวานเอ่ยบอกทันทีที่เธอออกมาจากห้องน้ำ ดูเหมือนว่าชายหนุ่มเปลี่ยนมาใส่ชุดใหม่เพื่อไปส่งเธอเมื่อผ่านศึกอันเร่าร้อนที่พึงพอใจกันทั้งคู่ ลลินก็เข้าไปทำความสะอาดร่างกายพร้อมกับใส่ชุดเดิมออกมาอย่างเรียบร้อยเพื่อเตรียมตัวกลับ“ให้ผมไปส่งดีกว่า ดึกมากแล้ว มันอันตราย” ขายาวก้าวเข้ามาใกล้หญิงสาวมากขึ้นด้วยรอยยิ้มปริ่มสุขสายตาคมจ้องมองดวงตาคู่หวานตรงหน้า ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าแต่เธอในยามนี้กับตอนอยู่ใต้ร่างเขาเมื่อไม่กี่นาทีก่อนนั้นทั้งสายตา น้ำเสียง และคำพูดช่างต่างกันลิบลับจนอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาทำอะไรให้เธอโกรธเคืองหรือไม่“คุณจะไปส่งฉัน...กลับไปเอารถใช่ไหมคะ” เสียงหวานเอ่ยถาม พร้อมกับจ้องตากลับบอกถึงเจตนาอย่างชัดเจนด้วยใบหน้าสวยราบเรียบจำเป็นต้องถามย้ำเพราะกลัวเขาจะคิดว่าเธออยากให้ไปส่งถึงที่คอนโดเมื่อเสร็จสื้นในสิ่งที่ต้องการ เธอก็แยกแยะระหว่างเรื่องบนเตียงกับเรื่องชีวิตส่วนตัวเธออยากจบกับเขาเพียงแค่ในคืนนี้ และจะไม่มีคืนต่อไปหรือครั้งต่อไปอีกแล้ว...แม้จะเสียดายมากแค่ไหนก็ตาม“ครับ” สิ้นประโยคเมื่อครู
Time & Lalin 13 - อาการแปลก ๆ “อะไรของมัน” มาคัสมองเพื่อนชายที่กลับมาหยิบแก้วและเดินออกไปอีกครั้งอย่างไม่เข้าใจ“กูรู้สาเหตุแล้ว” เจย์ที่สังเกตเห็นแต่แรกก็รู้ได้ในทันทีเพราะเขาจำลลินได้ จึงสามารถปะติดปะต่อเรื่องราวได้ทั้งหมด“สงสัยเหยื่อจะไม่เล่นด้วย” เจย์สันนิษฐานในระหว่างที่สายตาก็จ้องเพื่อนด้วยความสงสาร“ไทม์คะ” เสียงหวานหยดเอ่ยเรียก ทำให้เขาหยุดเดินในตอนที่เหลือเพียงไม่กี่ก้าวจะได้เข้าไปประชิดกับลลิน“ไอวี่คิดถึงไทม์จังเลยค่ะ” เธอคนนั้นบอกพร้อมกับพุ่งเข้ามาหาเขา สองแขนจัดการกอดร่างแกร่งอย่างถือวิสาสะ“หาที่นั่งคุยกันก่อนไหม” ไทม์แกะมือปลาหมึกที่เอาแต่ลูบอกแกร่งของเขาไม่หยุด พร้อมทั้งส่งสายตาหยาดเยิ้มมองเขาอย่างเปิดเผย“ไอวี่แล้วแต่ไทม์ หรือว่าเราจะไปคุยกันต่อที่อื่นดีคะ” หญิงสาวถามหยั่งเชิง“ฉันกลับก่อนดีกว่า พรุ่งนี้ทำงานแต่เช้า” ลลินที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ โพล่งบอกเพื่อน การกระทำทั้งหมดของหญิงชายคู่นี้เธอได้ยินและเห็นหมดแล้วร่างบางลงจากเก้าอี้และเดินออกไป แม้กระทั่งตอนที่เธอเดินผ่านทั้งสอง สายตาก็ไม่แม้แต่จะเหลือบมองเขาด้วยซ้ำเมื่อลลินเดินผ่านไป ไทม์ก็รีบแกะมือหญิงสาวที่กำลังเกาะเ
Time & Lalin 38จากศัตรูทางธุรกิจสู่การเป็นลูกเขย (จบ) ไทม์ตักเข้าปาก โดยทุกคนก็ลุ้นไปกับเขาด้วย“เป็นไง ไข่เจียวไหม” ถ้าเขาทานไม่ได้ฉันก็ต้องไปเจียวไข่มาให้เขา“ไม่ต้อง อร่อยมากเลยครับ ที่จริงผมก็เคยกินตามร้านอาหารอีสานในห้างมาบ้าง แต่ไม่อร่อยเท่านี้เลยครับ” ประโยคแรกเขาเอ่ยกับฉันก่อนจะหันไปพูดกับพ่อและแม่ฉันรัว ๆฉันเข้าใจแล้ว ลืมไปว่าบ้านเขาเป็นถึงเจ้าของแบรนด์ไทม์ กรุ๊ป ที่มีร้านอาหารในเครือหลายร้าน ไม่แปลกที่เขาจะเคยกินอาหารอีสานมาบ้าง“ก็แน่อยู่แล้ว นี่มันรสมือคนอีสานแท้ ๆ” แม่ฉันก็ชอบใจใหญ่ที่เขาชม“อร่อยก็กินเยอะ ๆ นะ” และแล้วเราก็นั่งทานข้าวกันไป โดยที่พ่อและแม่ฉันก็เอาแต่นั่งตักอาหารให้ไทม์ปล่อยให้ฉันและน้องเป็นหมาหัวเน่าที่กำลังนั่งร่วมวงทานข้าวกับพวกเขาตกดึก“จะบอกให้ว่านายนอนกับฉันไม่ได้นะ” ฉันยืนขวางประตูห้องนอนตัวเอง เพราะไทม์ดูบอลกับน้องจนดึก พ่อและแม่ก็เข้านอนกันหมดแล้วด้วยเหลือเพียงเขาที่จะตีเนียนเข้ามานอนกับฉันในห้อง“ทำไม”“เพราะต่างจังหวัดเขาถือ นอนห้องเดียวกันมันจะดูไม่งาม”“แล้วให้ไทม์นอนไหนอะเธอ”“นอนกับลัน ไม่ก็...นอนที่กลางบ้าน” เพราะฉันเตรียมที่นอนให้แล้
Time & Lalin - 37 ลูกเขยสายเปย์ สามวันต่อมา...“แน่ใจนะว่าอยู่ได้ เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทัน” ฉันหันไปเอ่ยถามคนข้างกายที่กำลังทำหน้าที่ขับรถพาฉันกลับบ้านใช่ค่ะ ตอนนี้เรากำลังมุ่งหน้าไปทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือภาคอีสาน ซึ่งเป็นบ้านเกิดฉันเองตอนแรกฉันตั้งใจจะมาคนเดียว แต่สุดท้ายก็มีไทม์ที่ตื๊ออยากมาด้วย“แน่ใจสิ มีโอกาสมาเจอพ่อแม่แฟนทั้งที” ความแน่วแน่ของเขา ฉันจะไปขัดได้อย่างไรมันก็เป็นเรื่องที่ดีอย่างหนึ่ง แสดงว่าเขาคิดกับฉันจริงจังพอประมาณ ถึงขนาดอยากมาเจอพ่อแม่ฉัน“ใครแฟน เราไม่ได้เป็นแฟนกัน ลินยังไม่ได้ตอบตกลงคุณเลย” ตั้งแต่วันนั้นเขาก็ไม่เคยขอฉันคบขอฉันเป็นแฟนอีกเลยไม่รู้ว่าจะน้อยใจดีไหม หรือเราสองคนเลยการขอคบเป็นแฟนมาแล้วแล้วอย่างนี้จะนับวันครบรอบอย่างไร“เราเลยขั้นนั้นกันมานานแล้ว” คำตอบที่ได้ก็อย่างที่คาดแอบน้อยใจอยู่นิด ๆ ที่ความสัมพันธ์ของเรามันดูไม่เป็นจริงเป็นจังเท่าไรแล้วฉันจะเอาวันไหนเป็นวันครบรอบดีล่ะ....ฉันเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ ตื่นมาอีกทีก็เกือบจะถึงบ้านแล้วเหรอเนี่ยเพราะฉันตั้งจีพีเอสไว้ ไทม์เลยขับมาถูกไม่นานรถก็ขับเข้ามาในหมู่บ้านฉัน“เลี้ยวซ้ายข้างหน้า
Time & Lalin - 36 เดี๋ยวก็ชินไม่ไหว วันนี้ไม่ไหว พรุ่งนี้ค่อยมาสู้กับมันใหม่ วันนี้ขอกลับไปพักผ่อนก่อนแล้วกันคิดได้ดังนั้นฉันจึงล้วงเข้าไปในกระเป๋า และยื่นบัตรเครดิตให้สกาย“นี่บัตร ใช้รูดได้เลย”“ขอบคุณครับ” สกายก็รับไปทันที“พี่ไปก่อน ฝากส่งสาว ๆ ถึงห้องด้วย”“รับทราบครับ”หมดธุระของฉันแล้วก็รีบเดินออกมาอย่างไว เพราะเริ่มจะปวดหัวมากขึ้นเรื่อย ๆ กับแสงสีและเสียงที่ดังเกินพอดี“อายุก็ไม่ได้เยอะเท่าไร ทำไมถึงไม่ชอบที่แบบนี้เลย” ฉันเดินออกมาตรงโซนร้านอาหารที่เดิม ก่อนจะบ่นกับตัวเองรู้สึกไม่ชอบที่คนพลุกพล่านเลย ชอบที่สงบ ๆ มากกว่าก่อนจะก้มหน้าหาโทรศัพท์เพื่อโทรบอกไทม์ว่าขอตัวกลับก่อน ตอนนี้เธอไม่ไหวแล้ว รู้สึกปวดหัวเอามาก ๆแต่แล้ว...“ออกมาเร็วจัง” เสียงไทม์ดังขึ้นมาจากทางด้านหลังเสียก่อน“อ๋อ ลินรู้สึกปวดหัวน่ะ ก็เลยจะกลับก่อน” ฉันหันหลังไปหาไทม์ พร้อมกับเงยหน้าคุยกับเขาพอฉันบอกออกไปแบบนั้น ไทม์ก็ยกมือขึ้นสัมผัสหน้าผากฉันเบา ๆ“เป็นอะไรมากหรือเปล่า” และเอ่ยถามออกมาพร้อมสายตาและน้ำเสียงที่แสดงถึงความเป็นห่วง“วันนี้น่าจะเครียดเกินไป ไมเกรนเลยขึ้น”“ไทม์ไปส่งที่คอนโด”“ลินยังไปเองไ
Time & Lalin 35 – ควรทำตัวให้ชินงั้นเหรอก๊อก ก๊อก“คุยอะไรกับน้อง ๆ หน้าตาตื่นเต้นดีใจกันใหญ่เลย” ไทม์เปิดประตูเข้าพร้อมกับเอ่ยถามนึกว่าเขาไปแล้วเสียอีก“หึ จะอะไรอีกคะ นอกเสียจากได้ไปเที่ยวได้ออกไปฉลองกัน” ฉันมองผ่านไทม์ไปยังด้านหลังของเขาห้องฉันเป็นห้องกระจก ซึ่งเห็นเด็ก ๆ กำลังมองเข้ามาด้านในอย่างอยากรู้อยากเห็นคงจะปิดเรื่องของเราสองคนไม่ได้แล้วสินะ ไม่รู้ว่าน้อง ๆ จะคิดอย่างไรที่เห็นไทม์เข้ามาแบบนี้“ที่ไหนครับ” ไทม์ถามขึ้น ทำให้ฉันกลับมาโฟกัสที่เขาซึ่งตอนนี้แขนทั้งสองของเขากำลังค้ำยันที่โต๊ะ พร้อมใบหน้าหล่อเหลากำลังโน้มเข้ามาใกล้กับใบหน้าฉันที่กำลังเห่อร้อนขึ้น“ที่ที่เราเจอกันครั้งแรกค่ะ” ฉันตอบคำนี้ออกไปโดยไม่ได้คิดอะไรแต่พอพูดออกไปแล้วกลับเขินขึ้นมาเสียอย่างนั้นไทม์ได้ยินดังนั้นก็ส่งยิ้มกว้าง คงจะชอบใจน่าดูฉันที่เขินจนทำอะไรไม่ถูกก็ได้แต่กัดปากตัวเองแก้เขิน พร้อมกับหลบสายตาจากเขา“อย่ากัดปากสิคะ เดี๋ยวก็เป็นแผล” และเป็นอีกครั้งที่เสียงของไทม์เรียกสติฉันกลับมาน้ำเสียงน่ะดูเป็นห่วงนะ แต่สายตาที่จ้องมานั้น...“ไทม์ไปทำงานก่อนนะ คืนนี้เจอกัน” ไทม์กล่าวพลางละแขนที่ค้ำโต๊ะอ
Time & Lalin - 34 รอยยิ้ม“มีท่านอื่นอีกไหมคะ” ฉันละสายตาจากเสียงค้านเพียงหนึ่งเสียง มองไปรอบ ๆ ห้องแต่ก็ไม่มีใครค้านอีก“มติเป็นเอกฉันท์นะคะว่าบริษัทจะเข้าไปอยู่ในเครือไทม์ กรุ๊ป” ฉันจึงด่วนสรุปทันทีและในตอนนั้นเอง“ไม่ได้นะ” ภีมลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้เพื่อค้านฉันมองหน้าเขานิ่ง เช่นเดียวกับเขาที่กำลังจ้องมองฉันด้วยแววตาแข็งกร้าว ดูไม่สบอารมณ์อย่างมากก่อนที่สายตานั้นจะเลื่อนไปสบตากับไทม์“ประชุมวันนี้จบเพียงเท่านี้ค่ะ ท่านที่ต้องการค้านขอให้อยู่ต่อก่อนนะคะ” ฉันหันไปเอ่ยกับผู้ถือหุ้นที่เห็นด้วย ส่วนประโยคหลังฉันหันไปมองยังภีมและพ่อของเขาทุกคนเดินออกไปโดยมีสายป่านและหมิวหมิวเดินนำไปส่งเหลือแค่เพียง ฉัน ไทม์ รุก สกาย และทนาย ที่รอคิดบัญชีกับพวกเขาสองคนพ่อลูก“ทำแบบนี้ไม่ได้นะ” พ่อของภีมเอ่ยขึ้นทันทีด้วยแววตาคัดค้าน“เพราะอะไรคะ” ฉันเอ่ยถามถึงเหตุผล ทั้งที่รู้อยู่แล้วก็ตามว่าเพราะอะไรก็เพราะต้องการอยากจะได้บริษัทนี้เป็นของตัวเอง หากเข้าไปอยู่ในไทม์ กรุ๊ปแล้ว พวกเขาก็จะไม่มีโอกาสอีกต่อไป“ก็เพราะ…” พ่อของภีมอ้ำอึ้ง“ทำอย่างนี้มันไม่เหมาะสมหรือเปล่าครับ ไหนคุณค้านการเทกโอเวอร์บริษัท ทำ
Time & Lalin - 33 ไม่กลัวอะไรอีกแล้ว“งั้นพวกเราขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ”“อืม” เมื่อจบธุระเด็ก ๆ ก็เดินออกไป แต่ก็ไม่วายได้ยินเสียงซุบซิบนินทา“แกคิดอย่างฉันไหม”“ต้องมีอะไรแน่ ๆ”ลลินยิ้มแก้มแดงอย่างเขินอาย พร้อมกับส่ายหน้าให้กับความรู้ดีของพวกเขา“พี่ได้ยินนะ” ก่อนจะตะโกนออกไปนอกห้อง“ค่า”เธอส่ายหัวไม่หยุด ได้แต่คิดในใจว่าเธอจะปิดบังอะไรพวกนั้นได้บ้างสักเรื่องก็คงไม่ได้สินะตกเย็น“กลับบ้านกันดี ๆ นะเด็ก ๆ”“ค่า/ครับ” ลลินยืนส่งรุ่นน้องที่หน้าตึก ทุกคนขึ้นรถพากันกลับบ้านเพราะถึงเวลาเลิกงานแล้วโดยปกติเธอไม่ได้ออกมาส่งน้อง ๆ อย่างนี้หรอก เพียงแต่ครั้งนี้เธอมายืนรอไทม์และเจอเด็ก ๆ เข้าพอดีเมื่อรถน้อง ๆ ขับออกไปได้ไม่นาน รถไทม์ก็ขับเข้ามารับเธอ“มาตรงเวลาดีนะคะ” มือเรียวเปิดประตูรถหรู ก้าวขาขึ้นรถพร้อมกับเอ่ยแซวคนด้านในที่ใส่สูทมาอย่างเต็มยศเขาก็คงไปทำงานมา แต่กลับมารับเธอได้ตรงเวลาตามที่นัดเป๊ะ ๆ“ต้องตรงเวลาสิคะ คิดถึงเธอแทบแย่” มือหนาคว้ามือเรียวของลลินไปกอบกุม พร้อมบอกกับเธอด้วยแววตาซึ่งเผยความคิดถึงออกมาชัดเจนลลินเห็นดังนั้นก็ยิ้มหน้าแดง รู้อยู่หรอกว่าเขาเป็นคนที่คิดอะไรก็พูดออก
Time & Lalin 32 - ลูกแมวขี้อ้อน@บริษัทลลินเดินเข้ามายังบริษัทด้วยอาการปวดเนื้อเมื่อยตัวไปหมด เพราะเธอโดนเล่นงานจากเขาไปตั้งสามรอบ“คนอะไรเซ็กซ์จัดสุดๆ” ร่างบางเอ่ยพึมพำออกมาระหว่างที่เดินขึ้นบริษัทไทม์เป็นคนมาส่งเธอและจะมารับเธอกลับ ซึ่งเธอเห็นด้วยกับเขาเพราะวันนี้รู้สึกเพลียมาก ขืนขับรถมาเองมีหวังได้ไปคุยกับรากต้นมะม่วงแน่“พี่ลลินมาแล้ว” เมื่อน้อง ๆ เห็นเธอก็ดีใจกันใหญ่ เพราะทุกคนรอฟังข่าวดีจากเธอ อยากรู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นคนทำ“ทุกคนเข้ามาหาพี่ที่ห้อง” ลลินเดินผ่านทุกคนพร้อมกับเรียกให้ตามเข้าไปในห้องทำงาน“ค่ะ/ครับ” เด็ก ๆ รู้งานก็เดินตามกันเข้ามาเมื่อทุกคนนั่งประจำที่ลลินก็เอ่ยขึ้นในทันที“พี่ได้หลักฐานมาแล้ว และรู้แล้วด้วยว่าใครเป็นคนทำ สายป่าน เรียกประชุมผู้ถือหุ้นด่วนในวันพรุ่งนี้ให้พี่ด้วยนะ”“ค่ะพี่ลลิน” สายป่านรับคำอย่างกระตือรือร้นสีหน้าทุกคนตั้งใจฟังอย่างที่สุด“แล้วใครเป็นคนทำเหรอคะ” หมิวหมิวเอ่ยถามเพราะอยากรู้ใจจะขาด ดูจากที่ลลินเรียกประชุมผู้ถือหุ้นแล้วก็คงต้องเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นแน่ ๆ“คุณภีม” ลลินตอบเสียงเรียบแต่หนักแน่น ได้ยินชัดเต็มสองหูกันทุกคน“หา? ทำไมพี่
Time & Lalin 31 - หรือคุณไม่ไว้ใจผม “...ไทม์ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีนะ ถ้าลินมาอยู่ในเครือของไทม์ เราก็จะเปิดโปงมันได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกลัวว่าบริษัทลินจะเสียหายจนไม่มีใครกล้ามาลงทุนด้วย เพราะอยู่กับไทม์บริษัทลินไปได้ไกลแน่นอน ไม่ต้องคอยง้อไอ้พวกหุ้นส่วนหัวงูพวกนั้นด้วย” ไทม์บอกความคิดของเขาออกไปตามตรง“หึ อย่าเอาอารมณ์มาตัดสินสิ” คำพูดของไทม์ทำเอาลลินรีบหันมามองหน้าเขาในทันที“ไม่ใช่อารมณ์นะ แต่เป็นทั้งตาสองตานี้ต่างหาก...” สองนิ้วชี้ไปยังตาของเขา เพื่ออธิบายภาพให้เธอได้เห็นชัด“...วันงานเลี้ยงลงนามหุ้นส่วน ไทม์เห็นหมด ไทม์แอบดูเธอตลอด และยิ่งเป็นตอนที่ไอ้ภีมนั่นใส่ยาลงไปในแก้วลิน ไทม์ก็เห็นทั้งสองตาของไทม์”ลลินได้ยินดังนั้นก็อึ้งไป เธอไม่คิดเลยว่าเขาจะอยู่ข้าง ๆ เธอมาตลอด คอยช่วยเหลือเธอมาตลอดขนาดนี้“ลินว่าไง...” เมื่อเห็นลลินนิ่งไปเขาก็เอ่ยถามขึ้น“...หรือลินไม่ไว้ใจไทม์”“ไม่ใช่อย่างนั้น” ลลินหลุดออกจากภวังค์ เมื่ออีกคนเริ่มงอแง“แล้วยังไง” เขาเอ่ยเสียงนิ่ง ลุ้นกับคำตอบที่จะได้รับจากเธอ“ลินแค่ดีใจที่ไทม์ช่วยลินขนาดนี้...” นี่คือสิ่งที่เธอคิดกับเขาในตอนนี้“ขอบคุณไทม์นะ” ร่างบางแนบช
Time & Lalin 30 - ทวงคำตอบ NC++เขาทวงคำตอบอีกแล้ว“เราต้องศึกษานิสัยใจคอกันก่อนสิคะ” แต่ฉันไม่ตอบตกลงไปง่าย ๆ หรอกนะ ของอย่างนี้ต้องดูกันนาน ๆ ถึงแม้ว่าเราจะเห็นอะไรต่ออะไรของกันจนหมดแล้วก็ตามพอฉันพูดออกไปแบบนั้นเขานิ่งไปครู่ ก่อนจะเขยิบตัวเข้ามาใกล้ฉันยิ่งขึ้นกว่าเดิมพร้อมกับก้มลงมากระซิบที่ข้างกกหู“ถ้าลินต้องการอย่างนั้น ผมรอได้เสมอ” เสียงทุ้มแหบพร่าพ่นลมร้อนกระซิบทำฉันขนลุกซู่“อื้อ” และไม่ทันที่ฉันจะได้ตั้งตัว ท่อนร้อนของเขาก็ค่อย ๆ เข้ามาในตัวฉัน“อ่า” เขาเองก็ร้องครางกัดริมฝีปากตัวเองแน่นเราสองคนจ้องตากันอย่างลึกซึ้งไม่ละกันไปไหน“เสียวไหม” เมื่อเข้าสุดไทม์ก็ก้มมองจุดที่เชื่อมกันพร้อมกับเอ่ยถาม“เสียวที่สุดเลย” ฉันกัดริมฝีปากตัวเองแน่น ท่านี้มันเสียวยิ่งกว่าเมื่อคืน หรือเพราะแสงสว่างทำให้เห็นอะไรได้ชัดเจนกว่าเดิมฉันอ้าขารับเขาเข้ามากอด ยกแขนคล้องคอแกร่งเมื่อเขาเริ่มขยับสะโพก“ลินทำไทม์คลั่งเธอมากเลย รู้ตัวบ้างไหม” แขนแกร่งก็โอบกอดฉันด้วยเช่นกัน แต่ออกแรงโอบแน่นยิ่งกว่าฉัน“จริงเหรอคะ” ฉันเอ่ยถามพร้อมกับอ้าขากว้างรับเอวสอบยิ่งขึ้นกว่าเดิม“จริงสิ อ่า” เอวสอบตอกอัดเข้าตัวฉั