Time & Lalin - 34 รอยยิ้ม“มีท่านอื่นอีกไหมคะ” ฉันละสายตาจากเสียงค้านเพียงหนึ่งเสียง มองไปรอบ ๆ ห้องแต่ก็ไม่มีใครค้านอีก“มติเป็นเอกฉันท์นะคะว่าบริษัทจะเข้าไปอยู่ในเครือไทม์ กรุ๊ป” ฉันจึงด่วนสรุปทันทีและในตอนนั้นเอง“ไม่ได้นะ” ภีมลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้เพื่อค้านฉันมองหน้าเขานิ่ง เช่นเดียวกับเขาที่กำลังจ้องมองฉันด้วยแววตาแข็งกร้าว ดูไม่สบอารมณ์อย่างมากก่อนที่สายตานั้นจะเลื่อนไปสบตากับไทม์“ประชุมวันนี้จบเพียงเท่านี้ค่ะ ท่านที่ต้องการค้านขอให้อยู่ต่อก่อนนะคะ” ฉันหันไปเอ่ยกับผู้ถือหุ้นที่เห็นด้วย ส่วนประโยคหลังฉันหันไปมองยังภีมและพ่อของเขาทุกคนเดินออกไปโดยมีสายป่านและหมิวหมิวเดินนำไปส่งเหลือแค่เพียง ฉัน ไทม์ รุก สกาย และทนาย ที่รอคิดบัญชีกับพวกเขาสองคนพ่อลูก“ทำแบบนี้ไม่ได้นะ” พ่อของภีมเอ่ยขึ้นทันทีด้วยแววตาคัดค้าน“เพราะอะไรคะ” ฉันเอ่ยถามถึงเหตุผล ทั้งที่รู้อยู่แล้วก็ตามว่าเพราะอะไรก็เพราะต้องการอยากจะได้บริษัทนี้เป็นของตัวเอง หากเข้าไปอยู่ในไทม์ กรุ๊ปแล้ว พวกเขาก็จะไม่มีโอกาสอีกต่อไป“ก็เพราะ…” พ่อของภีมอ้ำอึ้ง“ทำอย่างนี้มันไม่เหมาะสมหรือเปล่าครับ ไหนคุณค้านการเทกโอเวอร์บริษัท ทำ
Time & Lalin 35 – ควรทำตัวให้ชินงั้นเหรอก๊อก ก๊อก“คุยอะไรกับน้อง ๆ หน้าตาตื่นเต้นดีใจกันใหญ่เลย” ไทม์เปิดประตูเข้าพร้อมกับเอ่ยถามนึกว่าเขาไปแล้วเสียอีก“หึ จะอะไรอีกคะ นอกเสียจากได้ไปเที่ยวได้ออกไปฉลองกัน” ฉันมองผ่านไทม์ไปยังด้านหลังของเขาห้องฉันเป็นห้องกระจก ซึ่งเห็นเด็ก ๆ กำลังมองเข้ามาด้านในอย่างอยากรู้อยากเห็นคงจะปิดเรื่องของเราสองคนไม่ได้แล้วสินะ ไม่รู้ว่าน้อง ๆ จะคิดอย่างไรที่เห็นไทม์เข้ามาแบบนี้“ที่ไหนครับ” ไทม์ถามขึ้น ทำให้ฉันกลับมาโฟกัสที่เขาซึ่งตอนนี้แขนทั้งสองของเขากำลังค้ำยันที่โต๊ะ พร้อมใบหน้าหล่อเหลากำลังโน้มเข้ามาใกล้กับใบหน้าฉันที่กำลังเห่อร้อนขึ้น“ที่ที่เราเจอกันครั้งแรกค่ะ” ฉันตอบคำนี้ออกไปโดยไม่ได้คิดอะไรแต่พอพูดออกไปแล้วกลับเขินขึ้นมาเสียอย่างนั้นไทม์ได้ยินดังนั้นก็ส่งยิ้มกว้าง คงจะชอบใจน่าดูฉันที่เขินจนทำอะไรไม่ถูกก็ได้แต่กัดปากตัวเองแก้เขิน พร้อมกับหลบสายตาจากเขา“อย่ากัดปากสิคะ เดี๋ยวก็เป็นแผล” และเป็นอีกครั้งที่เสียงของไทม์เรียกสติฉันกลับมาน้ำเสียงน่ะดูเป็นห่วงนะ แต่สายตาที่จ้องมานั้น...“ไทม์ไปทำงานก่อนนะ คืนนี้เจอกัน” ไทม์กล่าวพลางละแขนที่ค้ำโต๊ะอ
Time & Lalin - 36 เดี๋ยวก็ชินไม่ไหว วันนี้ไม่ไหว พรุ่งนี้ค่อยมาสู้กับมันใหม่ วันนี้ขอกลับไปพักผ่อนก่อนแล้วกันคิดได้ดังนั้นฉันจึงล้วงเข้าไปในกระเป๋า และยื่นบัตรเครดิตให้สกาย“นี่บัตร ใช้รูดได้เลย”“ขอบคุณครับ” สกายก็รับไปทันที“พี่ไปก่อน ฝากส่งสาว ๆ ถึงห้องด้วย”“รับทราบครับ”หมดธุระของฉันแล้วก็รีบเดินออกมาอย่างไว เพราะเริ่มจะปวดหัวมากขึ้นเรื่อย ๆ กับแสงสีและเสียงที่ดังเกินพอดี“อายุก็ไม่ได้เยอะเท่าไร ทำไมถึงไม่ชอบที่แบบนี้เลย” ฉันเดินออกมาตรงโซนร้านอาหารที่เดิม ก่อนจะบ่นกับตัวเองรู้สึกไม่ชอบที่คนพลุกพล่านเลย ชอบที่สงบ ๆ มากกว่าก่อนจะก้มหน้าหาโทรศัพท์เพื่อโทรบอกไทม์ว่าขอตัวกลับก่อน ตอนนี้เธอไม่ไหวแล้ว รู้สึกปวดหัวเอามาก ๆแต่แล้ว...“ออกมาเร็วจัง” เสียงไทม์ดังขึ้นมาจากทางด้านหลังเสียก่อน“อ๋อ ลินรู้สึกปวดหัวน่ะ ก็เลยจะกลับก่อน” ฉันหันหลังไปหาไทม์ พร้อมกับเงยหน้าคุยกับเขาพอฉันบอกออกไปแบบนั้น ไทม์ก็ยกมือขึ้นสัมผัสหน้าผากฉันเบา ๆ“เป็นอะไรมากหรือเปล่า” และเอ่ยถามออกมาพร้อมสายตาและน้ำเสียงที่แสดงถึงความเป็นห่วง“วันนี้น่าจะเครียดเกินไป ไมเกรนเลยขึ้น”“ไทม์ไปส่งที่คอนโด”“ลินยังไปเองไ
Time & Lalin - 37 ลูกเขยสายเปย์ สามวันต่อมา...“แน่ใจนะว่าอยู่ได้ เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทัน” ฉันหันไปเอ่ยถามคนข้างกายที่กำลังทำหน้าที่ขับรถพาฉันกลับบ้านใช่ค่ะ ตอนนี้เรากำลังมุ่งหน้าไปทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือภาคอีสาน ซึ่งเป็นบ้านเกิดฉันเองตอนแรกฉันตั้งใจจะมาคนเดียว แต่สุดท้ายก็มีไทม์ที่ตื๊ออยากมาด้วย“แน่ใจสิ มีโอกาสมาเจอพ่อแม่แฟนทั้งที” ความแน่วแน่ของเขา ฉันจะไปขัดได้อย่างไรมันก็เป็นเรื่องที่ดีอย่างหนึ่ง แสดงว่าเขาคิดกับฉันจริงจังพอประมาณ ถึงขนาดอยากมาเจอพ่อแม่ฉัน“ใครแฟน เราไม่ได้เป็นแฟนกัน ลินยังไม่ได้ตอบตกลงคุณเลย” ตั้งแต่วันนั้นเขาก็ไม่เคยขอฉันคบขอฉันเป็นแฟนอีกเลยไม่รู้ว่าจะน้อยใจดีไหม หรือเราสองคนเลยการขอคบเป็นแฟนมาแล้วแล้วอย่างนี้จะนับวันครบรอบอย่างไร“เราเลยขั้นนั้นกันมานานแล้ว” คำตอบที่ได้ก็อย่างที่คาดแอบน้อยใจอยู่นิด ๆ ที่ความสัมพันธ์ของเรามันดูไม่เป็นจริงเป็นจังเท่าไรแล้วฉันจะเอาวันไหนเป็นวันครบรอบดีล่ะ....ฉันเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ ตื่นมาอีกทีก็เกือบจะถึงบ้านแล้วเหรอเนี่ยเพราะฉันตั้งจีพีเอสไว้ ไทม์เลยขับมาถูกไม่นานรถก็ขับเข้ามาในหมู่บ้านฉัน“เลี้ยวซ้ายข้างหน้า
Time & Lalin 38จากศัตรูทางธุรกิจสู่การเป็นลูกเขย (จบ) ไทม์ตักเข้าปาก โดยทุกคนก็ลุ้นไปกับเขาด้วย“เป็นไง ไข่เจียวไหม” ถ้าเขาทานไม่ได้ฉันก็ต้องไปเจียวไข่มาให้เขา“ไม่ต้อง อร่อยมากเลยครับ ที่จริงผมก็เคยกินตามร้านอาหารอีสานในห้างมาบ้าง แต่ไม่อร่อยเท่านี้เลยครับ” ประโยคแรกเขาเอ่ยกับฉันก่อนจะหันไปพูดกับพ่อและแม่ฉันรัว ๆฉันเข้าใจแล้ว ลืมไปว่าบ้านเขาเป็นถึงเจ้าของแบรนด์ไทม์ กรุ๊ป ที่มีร้านอาหารในเครือหลายร้าน ไม่แปลกที่เขาจะเคยกินอาหารอีสานมาบ้าง“ก็แน่อยู่แล้ว นี่มันรสมือคนอีสานแท้ ๆ” แม่ฉันก็ชอบใจใหญ่ที่เขาชม“อร่อยก็กินเยอะ ๆ นะ” และแล้วเราก็นั่งทานข้าวกันไป โดยที่พ่อและแม่ฉันก็เอาแต่นั่งตักอาหารให้ไทม์ปล่อยให้ฉันและน้องเป็นหมาหัวเน่าที่กำลังนั่งร่วมวงทานข้าวกับพวกเขาตกดึก“จะบอกให้ว่านายนอนกับฉันไม่ได้นะ” ฉันยืนขวางประตูห้องนอนตัวเอง เพราะไทม์ดูบอลกับน้องจนดึก พ่อและแม่ก็เข้านอนกันหมดแล้วด้วยเหลือเพียงเขาที่จะตีเนียนเข้ามานอนกับฉันในห้อง“ทำไม”“เพราะต่างจังหวัดเขาถือ นอนห้องเดียวกันมันจะดูไม่งาม”“แล้วให้ไทม์นอนไหนอะเธอ”“นอนกับลัน ไม่ก็...นอนที่กลางบ้าน” เพราะฉันเตรียมที่นอนให้แล้
Intro - Time & Lalin“พี่ลลิน ทางนี้ค่ะ”ท่ามกลางแสงสีเสียงที่ดังกระหึ่มของสถานบันเทิงชื่อดัง สายตาหวานสาดส่องเพ่งมองหาที่มาของเสียงใบหน้าหวานด้วยเครื่องหน้าที่สมบูรณ์ จมูกเรียวรั้นเชิดรับกับริมฝีปากอวบอิ่ม ดวงตาคู่สวยพลันโค้งเป็นรูปสระอิ เมื่อพบกับมือเล็กของเลขาสาวที่กำลังโบกเรียก ท่ามกลางแสงไฟที่คอยเปลี่ยนสีชวนให้มึนหัว ขาเรียวยาวบนรองเท้าส้นสูงสามนิ้วก็รีบมุ่งเดินไปยังโต๊ะซึ่งเป็นจุดหมายหญิงสาวในชุดเดรสรัดรูปอวดทรวดทรงบั้นท้ายงามงอน เชื้อเชิญสายตาหนุ่ม ๆ ในผับให้จ้องมองตามร่างอรชรที่เดินผ่านอย่างโดนสะกด ผิวขาวผ่องตัดกับชุดสีดำช่วยขับผิวได้เป็นอย่างดี แม้จะตัวเล็กด้วยความสูงมาตรฐานหญิงไทยเพียงร้อยหกสิบต้น ๆ แต่ในขณะเดียวกันก็แฝงความเซ็กซี่ด้วยชุดเปิดหลังโชว์ผิวเนื้อเนียน ผมดำยาวตรงสลวยพลิ้วไสวไปตามจังหวะก้าวเดิน ไม่ว่าใครได้มองถึงกับต้องมนตร์สะกดไปตาม ๆ กัน“มาช้าแป๊บเดียว นี่สั่งกันเต็มโต๊ะแล้วเหรอเนี่ย” เสียงหวานเอ่ยแซวเมื่อเห็นลูกน้องสี่คนนั่งดื่มกันไปก่อนแล้ว แถมเครื่องดื่มยังวางเรียงอย่างจัดเต็ม“ฉลองให้กับบริษัทเราทั้งทีก็ต้องยิ่งใหญ่สิคะ” เลขาสาวเอ่ยขึ้นด้วยยิ้มหวานหยดกว่า
Time & Lalin 1 - เกมล่าเหยื่อ“ผู้หญิงคนนั้นตรงสเปกมึงหรือไง” เจย์เอ่ยถามเพื่อนชายที่เอาแต่จ้องมองยังหญิงสาวโต๊ะตรงข้ามไม่กะพริบตา“ใช่ ตรงแบบ โดนใจกูมาก ๆ เลยละ” เสียงทุ้มตอบเพื่อนที่นั่งข้างกัน หากแต่สายตายังคงจับจ้องตาหวานที่มองมายังเขาไม่ละสายตาเธอไม่หลบตาเขาสักนิด แถมยังจ้องกลับอย่างสู้สายตาไทม์ ยกยิ้มมุมปาก พร้อมกับส่งแววตาเจ้าเล่ห์สองสายตาสบจ้องมองกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใคร ในแววตาของทั้งคู่ดูเหมือนกำลังต่างคนต่างเชิญชวน“แล้วจะมัวรออะไรอยู่วะ เข้าไปทำความรู้จักเลยดิ” มาคัสเพื่อนร่วมโต๊ะอีกคนที่นั่งอยู่เอ่ยยุเมื่อเห็นว่าทั้งสองคนแสดงความต้องการกันและกันผ่านทางสายตาเสียขนาดนั้น จะมัวรั้งรออะไรอยู่อีก“กูเข้าไปแน่ แต่รอ...ให้เธอสนุกให้เต็มที่กว่านี้ก่อน” มือแกร่งยกแก้วเหล้าขึ้นกระดกดื่มรวดเดียวอย่างคนมีแผนก็เขามีแผนจริง ๆ แผนที่ว่าคือการรอให้เธอได้ดื่มเครื่องดื่มในมือให้มึนเมาไปมากกว่านี้ก่อน เพราะมันจะง่าย...ต่อการหลอกล่อเหยื่อให้มาติดกับ“ไอ้นี่ มันรู้งานว่ะ” เจย์เอ่ยชมอย่างชอบใจในความคิดอันชาญฉลาดของเพื่อน“แม่งแผนสูงใช้ได้ว่ะ” ไม่ต่างจากมาคัสที่คิดไม่ถึงกับแผนการแบบนี้ขอ
Time & Lalin 2 - มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ“ครั้งแรกเลยนะคะที่เราได้มาดื่มกันแบบนี้” เสียงหวานสดใสในคราแรกของหมิวหมิวกลับกลายเป็นยานยืดด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ เธอตะโกนพูดคุยแข่งกับเสียงเพลง พร้อมกับโยกย้ายร่างกายไปมาตามจังหวะคึกคัก“แก้มพี่ลลินแดงมากเลยค่ะ” ลลินรีบแตะหน้าตัวเองเมื่อโดนน้อง ๆ ชี้และหัวเราะให้กับเธอ“พี่ไม่เคยดื่มเลยเมาง่ายน่ะ” ลลินที่นั่งอยู่บนเก้าอี้บอกกับน้อง ๆ ที่กำลังส่ายสะโพกโยกกันไปมาอย่างสนุกสนานและสุดเหวี่ยงอย่าว่าแต่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เลย แม้แต่สถานที่แบบนี้เธอก็ไม่เคยมาเลยสักครั้งนี่เป็นครั้งแรกของเธอที่มาที่แบบนี้“คนแรกเลยนะคะ ที่คนเมาแล้วจะยอมรับว่าตัวเองเมา...” สายป่านพูดขึ้นด้วยเสียงยานคางเช่นกัน“…ไม่เหมือน” ก่อนจะหันไปจ้องอีกสองหนุ่มกำลังคล้องคอกอดกันเต้นอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย“อะไร มองมาทางนี้ทำไม” รุกที่เห็นสายตาของสายป่านหันไปมองยังพวกเขา ก็โพล่งอย่างกับจะเอาเรื่องกัน“ใช่ พวกฉันยังโอเค” สกายก็พูดเสริม“สภาพ นี่เรียกโอเคแล้วเหรอ แน่ใจนะ” สายป่านยืนเท้าสะเอวชี้หน้าทั้งสองหนุ่มอย่างเอาเรื่อง“นั่นสิ ยืนยังไม่ตรงเลย” ตามด้วยประโยคสำทับจากหมิวหมิว“พวกเ
Time & Lalin 38จากศัตรูทางธุรกิจสู่การเป็นลูกเขย (จบ) ไทม์ตักเข้าปาก โดยทุกคนก็ลุ้นไปกับเขาด้วย“เป็นไง ไข่เจียวไหม” ถ้าเขาทานไม่ได้ฉันก็ต้องไปเจียวไข่มาให้เขา“ไม่ต้อง อร่อยมากเลยครับ ที่จริงผมก็เคยกินตามร้านอาหารอีสานในห้างมาบ้าง แต่ไม่อร่อยเท่านี้เลยครับ” ประโยคแรกเขาเอ่ยกับฉันก่อนจะหันไปพูดกับพ่อและแม่ฉันรัว ๆฉันเข้าใจแล้ว ลืมไปว่าบ้านเขาเป็นถึงเจ้าของแบรนด์ไทม์ กรุ๊ป ที่มีร้านอาหารในเครือหลายร้าน ไม่แปลกที่เขาจะเคยกินอาหารอีสานมาบ้าง“ก็แน่อยู่แล้ว นี่มันรสมือคนอีสานแท้ ๆ” แม่ฉันก็ชอบใจใหญ่ที่เขาชม“อร่อยก็กินเยอะ ๆ นะ” และแล้วเราก็นั่งทานข้าวกันไป โดยที่พ่อและแม่ฉันก็เอาแต่นั่งตักอาหารให้ไทม์ปล่อยให้ฉันและน้องเป็นหมาหัวเน่าที่กำลังนั่งร่วมวงทานข้าวกับพวกเขาตกดึก“จะบอกให้ว่านายนอนกับฉันไม่ได้นะ” ฉันยืนขวางประตูห้องนอนตัวเอง เพราะไทม์ดูบอลกับน้องจนดึก พ่อและแม่ก็เข้านอนกันหมดแล้วด้วยเหลือเพียงเขาที่จะตีเนียนเข้ามานอนกับฉันในห้อง“ทำไม”“เพราะต่างจังหวัดเขาถือ นอนห้องเดียวกันมันจะดูไม่งาม”“แล้วให้ไทม์นอนไหนอะเธอ”“นอนกับลัน ไม่ก็...นอนที่กลางบ้าน” เพราะฉันเตรียมที่นอนให้แล้
Time & Lalin - 37 ลูกเขยสายเปย์ สามวันต่อมา...“แน่ใจนะว่าอยู่ได้ เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทัน” ฉันหันไปเอ่ยถามคนข้างกายที่กำลังทำหน้าที่ขับรถพาฉันกลับบ้านใช่ค่ะ ตอนนี้เรากำลังมุ่งหน้าไปทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือภาคอีสาน ซึ่งเป็นบ้านเกิดฉันเองตอนแรกฉันตั้งใจจะมาคนเดียว แต่สุดท้ายก็มีไทม์ที่ตื๊ออยากมาด้วย“แน่ใจสิ มีโอกาสมาเจอพ่อแม่แฟนทั้งที” ความแน่วแน่ของเขา ฉันจะไปขัดได้อย่างไรมันก็เป็นเรื่องที่ดีอย่างหนึ่ง แสดงว่าเขาคิดกับฉันจริงจังพอประมาณ ถึงขนาดอยากมาเจอพ่อแม่ฉัน“ใครแฟน เราไม่ได้เป็นแฟนกัน ลินยังไม่ได้ตอบตกลงคุณเลย” ตั้งแต่วันนั้นเขาก็ไม่เคยขอฉันคบขอฉันเป็นแฟนอีกเลยไม่รู้ว่าจะน้อยใจดีไหม หรือเราสองคนเลยการขอคบเป็นแฟนมาแล้วแล้วอย่างนี้จะนับวันครบรอบอย่างไร“เราเลยขั้นนั้นกันมานานแล้ว” คำตอบที่ได้ก็อย่างที่คาดแอบน้อยใจอยู่นิด ๆ ที่ความสัมพันธ์ของเรามันดูไม่เป็นจริงเป็นจังเท่าไรแล้วฉันจะเอาวันไหนเป็นวันครบรอบดีล่ะ....ฉันเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ ตื่นมาอีกทีก็เกือบจะถึงบ้านแล้วเหรอเนี่ยเพราะฉันตั้งจีพีเอสไว้ ไทม์เลยขับมาถูกไม่นานรถก็ขับเข้ามาในหมู่บ้านฉัน“เลี้ยวซ้ายข้างหน้า
Time & Lalin - 36 เดี๋ยวก็ชินไม่ไหว วันนี้ไม่ไหว พรุ่งนี้ค่อยมาสู้กับมันใหม่ วันนี้ขอกลับไปพักผ่อนก่อนแล้วกันคิดได้ดังนั้นฉันจึงล้วงเข้าไปในกระเป๋า และยื่นบัตรเครดิตให้สกาย“นี่บัตร ใช้รูดได้เลย”“ขอบคุณครับ” สกายก็รับไปทันที“พี่ไปก่อน ฝากส่งสาว ๆ ถึงห้องด้วย”“รับทราบครับ”หมดธุระของฉันแล้วก็รีบเดินออกมาอย่างไว เพราะเริ่มจะปวดหัวมากขึ้นเรื่อย ๆ กับแสงสีและเสียงที่ดังเกินพอดี“อายุก็ไม่ได้เยอะเท่าไร ทำไมถึงไม่ชอบที่แบบนี้เลย” ฉันเดินออกมาตรงโซนร้านอาหารที่เดิม ก่อนจะบ่นกับตัวเองรู้สึกไม่ชอบที่คนพลุกพล่านเลย ชอบที่สงบ ๆ มากกว่าก่อนจะก้มหน้าหาโทรศัพท์เพื่อโทรบอกไทม์ว่าขอตัวกลับก่อน ตอนนี้เธอไม่ไหวแล้ว รู้สึกปวดหัวเอามาก ๆแต่แล้ว...“ออกมาเร็วจัง” เสียงไทม์ดังขึ้นมาจากทางด้านหลังเสียก่อน“อ๋อ ลินรู้สึกปวดหัวน่ะ ก็เลยจะกลับก่อน” ฉันหันหลังไปหาไทม์ พร้อมกับเงยหน้าคุยกับเขาพอฉันบอกออกไปแบบนั้น ไทม์ก็ยกมือขึ้นสัมผัสหน้าผากฉันเบา ๆ“เป็นอะไรมากหรือเปล่า” และเอ่ยถามออกมาพร้อมสายตาและน้ำเสียงที่แสดงถึงความเป็นห่วง“วันนี้น่าจะเครียดเกินไป ไมเกรนเลยขึ้น”“ไทม์ไปส่งที่คอนโด”“ลินยังไปเองไ
Time & Lalin 35 – ควรทำตัวให้ชินงั้นเหรอก๊อก ก๊อก“คุยอะไรกับน้อง ๆ หน้าตาตื่นเต้นดีใจกันใหญ่เลย” ไทม์เปิดประตูเข้าพร้อมกับเอ่ยถามนึกว่าเขาไปแล้วเสียอีก“หึ จะอะไรอีกคะ นอกเสียจากได้ไปเที่ยวได้ออกไปฉลองกัน” ฉันมองผ่านไทม์ไปยังด้านหลังของเขาห้องฉันเป็นห้องกระจก ซึ่งเห็นเด็ก ๆ กำลังมองเข้ามาด้านในอย่างอยากรู้อยากเห็นคงจะปิดเรื่องของเราสองคนไม่ได้แล้วสินะ ไม่รู้ว่าน้อง ๆ จะคิดอย่างไรที่เห็นไทม์เข้ามาแบบนี้“ที่ไหนครับ” ไทม์ถามขึ้น ทำให้ฉันกลับมาโฟกัสที่เขาซึ่งตอนนี้แขนทั้งสองของเขากำลังค้ำยันที่โต๊ะ พร้อมใบหน้าหล่อเหลากำลังโน้มเข้ามาใกล้กับใบหน้าฉันที่กำลังเห่อร้อนขึ้น“ที่ที่เราเจอกันครั้งแรกค่ะ” ฉันตอบคำนี้ออกไปโดยไม่ได้คิดอะไรแต่พอพูดออกไปแล้วกลับเขินขึ้นมาเสียอย่างนั้นไทม์ได้ยินดังนั้นก็ส่งยิ้มกว้าง คงจะชอบใจน่าดูฉันที่เขินจนทำอะไรไม่ถูกก็ได้แต่กัดปากตัวเองแก้เขิน พร้อมกับหลบสายตาจากเขา“อย่ากัดปากสิคะ เดี๋ยวก็เป็นแผล” และเป็นอีกครั้งที่เสียงของไทม์เรียกสติฉันกลับมาน้ำเสียงน่ะดูเป็นห่วงนะ แต่สายตาที่จ้องมานั้น...“ไทม์ไปทำงานก่อนนะ คืนนี้เจอกัน” ไทม์กล่าวพลางละแขนที่ค้ำโต๊ะอ
Time & Lalin - 34 รอยยิ้ม“มีท่านอื่นอีกไหมคะ” ฉันละสายตาจากเสียงค้านเพียงหนึ่งเสียง มองไปรอบ ๆ ห้องแต่ก็ไม่มีใครค้านอีก“มติเป็นเอกฉันท์นะคะว่าบริษัทจะเข้าไปอยู่ในเครือไทม์ กรุ๊ป” ฉันจึงด่วนสรุปทันทีและในตอนนั้นเอง“ไม่ได้นะ” ภีมลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้เพื่อค้านฉันมองหน้าเขานิ่ง เช่นเดียวกับเขาที่กำลังจ้องมองฉันด้วยแววตาแข็งกร้าว ดูไม่สบอารมณ์อย่างมากก่อนที่สายตานั้นจะเลื่อนไปสบตากับไทม์“ประชุมวันนี้จบเพียงเท่านี้ค่ะ ท่านที่ต้องการค้านขอให้อยู่ต่อก่อนนะคะ” ฉันหันไปเอ่ยกับผู้ถือหุ้นที่เห็นด้วย ส่วนประโยคหลังฉันหันไปมองยังภีมและพ่อของเขาทุกคนเดินออกไปโดยมีสายป่านและหมิวหมิวเดินนำไปส่งเหลือแค่เพียง ฉัน ไทม์ รุก สกาย และทนาย ที่รอคิดบัญชีกับพวกเขาสองคนพ่อลูก“ทำแบบนี้ไม่ได้นะ” พ่อของภีมเอ่ยขึ้นทันทีด้วยแววตาคัดค้าน“เพราะอะไรคะ” ฉันเอ่ยถามถึงเหตุผล ทั้งที่รู้อยู่แล้วก็ตามว่าเพราะอะไรก็เพราะต้องการอยากจะได้บริษัทนี้เป็นของตัวเอง หากเข้าไปอยู่ในไทม์ กรุ๊ปแล้ว พวกเขาก็จะไม่มีโอกาสอีกต่อไป“ก็เพราะ…” พ่อของภีมอ้ำอึ้ง“ทำอย่างนี้มันไม่เหมาะสมหรือเปล่าครับ ไหนคุณค้านการเทกโอเวอร์บริษัท ทำ
Time & Lalin - 33 ไม่กลัวอะไรอีกแล้ว“งั้นพวกเราขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ”“อืม” เมื่อจบธุระเด็ก ๆ ก็เดินออกไป แต่ก็ไม่วายได้ยินเสียงซุบซิบนินทา“แกคิดอย่างฉันไหม”“ต้องมีอะไรแน่ ๆ”ลลินยิ้มแก้มแดงอย่างเขินอาย พร้อมกับส่ายหน้าให้กับความรู้ดีของพวกเขา“พี่ได้ยินนะ” ก่อนจะตะโกนออกไปนอกห้อง“ค่า”เธอส่ายหัวไม่หยุด ได้แต่คิดในใจว่าเธอจะปิดบังอะไรพวกนั้นได้บ้างสักเรื่องก็คงไม่ได้สินะตกเย็น“กลับบ้านกันดี ๆ นะเด็ก ๆ”“ค่า/ครับ” ลลินยืนส่งรุ่นน้องที่หน้าตึก ทุกคนขึ้นรถพากันกลับบ้านเพราะถึงเวลาเลิกงานแล้วโดยปกติเธอไม่ได้ออกมาส่งน้อง ๆ อย่างนี้หรอก เพียงแต่ครั้งนี้เธอมายืนรอไทม์และเจอเด็ก ๆ เข้าพอดีเมื่อรถน้อง ๆ ขับออกไปได้ไม่นาน รถไทม์ก็ขับเข้ามารับเธอ“มาตรงเวลาดีนะคะ” มือเรียวเปิดประตูรถหรู ก้าวขาขึ้นรถพร้อมกับเอ่ยแซวคนด้านในที่ใส่สูทมาอย่างเต็มยศเขาก็คงไปทำงานมา แต่กลับมารับเธอได้ตรงเวลาตามที่นัดเป๊ะ ๆ“ต้องตรงเวลาสิคะ คิดถึงเธอแทบแย่” มือหนาคว้ามือเรียวของลลินไปกอบกุม พร้อมบอกกับเธอด้วยแววตาซึ่งเผยความคิดถึงออกมาชัดเจนลลินเห็นดังนั้นก็ยิ้มหน้าแดง รู้อยู่หรอกว่าเขาเป็นคนที่คิดอะไรก็พูดออก
Time & Lalin 32 - ลูกแมวขี้อ้อน@บริษัทลลินเดินเข้ามายังบริษัทด้วยอาการปวดเนื้อเมื่อยตัวไปหมด เพราะเธอโดนเล่นงานจากเขาไปตั้งสามรอบ“คนอะไรเซ็กซ์จัดสุดๆ” ร่างบางเอ่ยพึมพำออกมาระหว่างที่เดินขึ้นบริษัทไทม์เป็นคนมาส่งเธอและจะมารับเธอกลับ ซึ่งเธอเห็นด้วยกับเขาเพราะวันนี้รู้สึกเพลียมาก ขืนขับรถมาเองมีหวังได้ไปคุยกับรากต้นมะม่วงแน่“พี่ลลินมาแล้ว” เมื่อน้อง ๆ เห็นเธอก็ดีใจกันใหญ่ เพราะทุกคนรอฟังข่าวดีจากเธอ อยากรู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นคนทำ“ทุกคนเข้ามาหาพี่ที่ห้อง” ลลินเดินผ่านทุกคนพร้อมกับเรียกให้ตามเข้าไปในห้องทำงาน“ค่ะ/ครับ” เด็ก ๆ รู้งานก็เดินตามกันเข้ามาเมื่อทุกคนนั่งประจำที่ลลินก็เอ่ยขึ้นในทันที“พี่ได้หลักฐานมาแล้ว และรู้แล้วด้วยว่าใครเป็นคนทำ สายป่าน เรียกประชุมผู้ถือหุ้นด่วนในวันพรุ่งนี้ให้พี่ด้วยนะ”“ค่ะพี่ลลิน” สายป่านรับคำอย่างกระตือรือร้นสีหน้าทุกคนตั้งใจฟังอย่างที่สุด“แล้วใครเป็นคนทำเหรอคะ” หมิวหมิวเอ่ยถามเพราะอยากรู้ใจจะขาด ดูจากที่ลลินเรียกประชุมผู้ถือหุ้นแล้วก็คงต้องเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นแน่ ๆ“คุณภีม” ลลินตอบเสียงเรียบแต่หนักแน่น ได้ยินชัดเต็มสองหูกันทุกคน“หา? ทำไมพี่
Time & Lalin 31 - หรือคุณไม่ไว้ใจผม “...ไทม์ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีนะ ถ้าลินมาอยู่ในเครือของไทม์ เราก็จะเปิดโปงมันได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกลัวว่าบริษัทลินจะเสียหายจนไม่มีใครกล้ามาลงทุนด้วย เพราะอยู่กับไทม์บริษัทลินไปได้ไกลแน่นอน ไม่ต้องคอยง้อไอ้พวกหุ้นส่วนหัวงูพวกนั้นด้วย” ไทม์บอกความคิดของเขาออกไปตามตรง“หึ อย่าเอาอารมณ์มาตัดสินสิ” คำพูดของไทม์ทำเอาลลินรีบหันมามองหน้าเขาในทันที“ไม่ใช่อารมณ์นะ แต่เป็นทั้งตาสองตานี้ต่างหาก...” สองนิ้วชี้ไปยังตาของเขา เพื่ออธิบายภาพให้เธอได้เห็นชัด“...วันงานเลี้ยงลงนามหุ้นส่วน ไทม์เห็นหมด ไทม์แอบดูเธอตลอด และยิ่งเป็นตอนที่ไอ้ภีมนั่นใส่ยาลงไปในแก้วลิน ไทม์ก็เห็นทั้งสองตาของไทม์”ลลินได้ยินดังนั้นก็อึ้งไป เธอไม่คิดเลยว่าเขาจะอยู่ข้าง ๆ เธอมาตลอด คอยช่วยเหลือเธอมาตลอดขนาดนี้“ลินว่าไง...” เมื่อเห็นลลินนิ่งไปเขาก็เอ่ยถามขึ้น“...หรือลินไม่ไว้ใจไทม์”“ไม่ใช่อย่างนั้น” ลลินหลุดออกจากภวังค์ เมื่ออีกคนเริ่มงอแง“แล้วยังไง” เขาเอ่ยเสียงนิ่ง ลุ้นกับคำตอบที่จะได้รับจากเธอ“ลินแค่ดีใจที่ไทม์ช่วยลินขนาดนี้...” นี่คือสิ่งที่เธอคิดกับเขาในตอนนี้“ขอบคุณไทม์นะ” ร่างบางแนบช
Time & Lalin 30 - ทวงคำตอบ NC++เขาทวงคำตอบอีกแล้ว“เราต้องศึกษานิสัยใจคอกันก่อนสิคะ” แต่ฉันไม่ตอบตกลงไปง่าย ๆ หรอกนะ ของอย่างนี้ต้องดูกันนาน ๆ ถึงแม้ว่าเราจะเห็นอะไรต่ออะไรของกันจนหมดแล้วก็ตามพอฉันพูดออกไปแบบนั้นเขานิ่งไปครู่ ก่อนจะเขยิบตัวเข้ามาใกล้ฉันยิ่งขึ้นกว่าเดิมพร้อมกับก้มลงมากระซิบที่ข้างกกหู“ถ้าลินต้องการอย่างนั้น ผมรอได้เสมอ” เสียงทุ้มแหบพร่าพ่นลมร้อนกระซิบทำฉันขนลุกซู่“อื้อ” และไม่ทันที่ฉันจะได้ตั้งตัว ท่อนร้อนของเขาก็ค่อย ๆ เข้ามาในตัวฉัน“อ่า” เขาเองก็ร้องครางกัดริมฝีปากตัวเองแน่นเราสองคนจ้องตากันอย่างลึกซึ้งไม่ละกันไปไหน“เสียวไหม” เมื่อเข้าสุดไทม์ก็ก้มมองจุดที่เชื่อมกันพร้อมกับเอ่ยถาม“เสียวที่สุดเลย” ฉันกัดริมฝีปากตัวเองแน่น ท่านี้มันเสียวยิ่งกว่าเมื่อคืน หรือเพราะแสงสว่างทำให้เห็นอะไรได้ชัดเจนกว่าเดิมฉันอ้าขารับเขาเข้ามากอด ยกแขนคล้องคอแกร่งเมื่อเขาเริ่มขยับสะโพก“ลินทำไทม์คลั่งเธอมากเลย รู้ตัวบ้างไหม” แขนแกร่งก็โอบกอดฉันด้วยเช่นกัน แต่ออกแรงโอบแน่นยิ่งกว่าฉัน“จริงเหรอคะ” ฉันเอ่ยถามพร้อมกับอ้าขากว้างรับเอวสอบยิ่งขึ้นกว่าเดิม“จริงสิ อ่า” เอวสอบตอกอัดเข้าตัวฉั