Pream Part.“แค่ก! แค่ก!”ซ่า“ทำไมมันเวียนหัวขนาดนี้” ฉันทิ้งร่างลงบนพื้นห้องน้ำอย่างหมดแรงหลังจากล้างหน้าล้างตาจนรู้สึกสดชื่นขึ้นมาบ้าง สองสามวันมานี้ฉันลุกขึ้นมาอาเจียนตอนตีสี่ตีห้าทุกวัน ได้กลิ่นอาหารอะไรก็เหม็นไปหมด ตอนแรกคิดว่าเพราะพักผ่อนน้อย แต่พอลองนอนเยอะ ๆ เกินแปดชั่วโมงต่อวันแล้วก็ยังเป็นเหมือนเดิม หรือว่าฉันกำลังป่วยเป็นอะไรร้ายแรงเพราะความคิดในแง่ลบนั้นทำให้ฉันพาร่างที่ไร้เรี่ยวแรงมาถึงโรงพยาบาลจนได้ และเพราะเป็นโรงพยาบาลเอกชนจึงไม่ต้องรอคิวนานก็ได้เข้าตรวจ“สวัสดีครับ”“สวัสดีค่ะ”“หน้าคนไข้ดูไม่ค่อยดีเลยนะครับ” แม้แต่หมอยังเอ่ยทัก ตอนนี้ฉันคงดูไม่จืดจริง ๆ “จากที่คนไข้แจ้งพยาบาลไว้คือเวียนหัว เบื่ออาหาร อาเจียน แค่นี้เหรอครับ”“ใช่ค่ะ”“ไม่ได้มีอาการท้องเสียร่วมด้วยใช่ไหมครับ”“ไม่มีค่ะ”“ประจำเดือนมาครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ครับ”“ประจำเดือนหรือคะ” ฉันรู้สึกกระดากขึ้นมาดื้อ ๆ เมื่อถูกถามแบบนั้น แต่สุดท้ายก็ยอมตอบออกไปแต่โดยดี “น่าจะสองเดือนที่แล้วค่ะ”“งั้นรบกวนคนไข้เก็บปัสสาวะมาให้หมอ จะได้ตรวจหาสาเหตุของอาการพวกนี้ได้มากขึ้น”“คะ...ค่ะ” ฉันรับคำอย่างงง ๆ แต่ไม่ได้ติดใ
Pream Part.“อันนี้ถุงที่มีน้องอยู่นะคะ”ฉันมองตามที่คุณหมอชี้ ภาพขาวดำที่ปรากฏขึ้นบนจอเหมือนเป็นคำยืนยันทุกอย่าง ในท้องฉันมีเด็กคนหนึ่งกำลังเจริญเติบโตอยู่จริง ๆฉันขยำผ้าปูเตียงด้วยความรู้สึกสับสน ไม่รู้ว่าควรรู้สึกยังไง ดีใจ หรือเสียใจ ถ้าฉันท้องเพราะมีคนรักหรือมีสามีอยู่แล้วคงไม่รู้สึกแบบนี้ แต่นี่ฉันท้องทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครเลย ท้องเพราะความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากคืนนั้นคืนเดียว....“เอ๋...”“อะไรเหรอคะคุณหมอ” ฉันข่มความรู้สึกทั้งหมดและถามออกไป เมื่อคุณหมอจ้องจอนั้นด้วยความสงสัย“เหมือนว่า...จะมีสองถุงนะคะ”“หมายความว่ายังไงคะ”“คุณพริมาตามีน้องอยู่สองคนในท้องค่ะ ยินดีด้วยนะคะ คุณกำลังตั้งครรภ์ลูกแฝด”“ระ...เรื่องจริงหรือคะ”“จริงค่ะ ดูนี่สิคะ” คุณหมอชี้ไปที่บนจอซึ่งปรากฏถุงเล็ก ๆ สองถุงที่ถูกกั้นด้วยผนังบาง ๆ “มีสองถุง แปลว่าท้องแฝดค่ะ”“...” ฉันพูดไม่ออกและเผลอกัดปากตัวเองจนเจ็บ ถุงที่หมอชี้ให้ดูมีก้อนเล็ก ๆ นอนนิ่งอยู่ในนั้น มันมีทั้งหมดสองถุงอย่างที่หมอบอกจริง ๆ“เหมือนว่าจะได้ยินเสียงหัวใจแล้วนะคะ คุณพริมาตาจะฟังเสียงหัวใจน้องไหมคะ”“ฟังค่ะ...”ตึก ตึก ตึก“นี่เป็นเสียงของคนขวา
Chris Part.“รับทราบครับหม่าม้า คร้าบ” ผมรับคำหม่าม้าก่อนจะเก็บมือถือเข้ากระเป๋า และมุดรถเข้าไปหยิบของที่เตรียมมาด้วยความทุลักทุเลผมชื่อคริส อายุยี่สิบสองปี เป็นลูกครึ่งไทยจีนที่ได้ยีนส์เด่นจากทั้งสองเชื่อชาติมาอย่างลงตัว จนผมอยากจะกราบขอบคุณป๊าและหม่าม้างาม ๆ ที่ปั้นลูกชายออกมาได้ดีขนาดนี้ พูดไปก็จะหาว่าอวยตัวเองส่วนวันนี้ผมมาเยี่ยมญาติห่าง ๆ ที่เข้าโรงพยาบาลแทนป๊าและม้า จะบอกว่ามาเยี่ยมแทนก็ไม่ถูกซะทีเดียว เพราะผมมาของผมเองไม่มีใครสั่ง อันที่จริงแล้วสองบ้านนี้ไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่ ทั้งป๊า ม้า และน้องสาวของผมไม่อยากเข้าใกล้ครอบครัวนี้ มีแค่ผมคนเดียวที่ไม่สนใจความบาดหมางและตัดสินใจมาเยี่ยมเขาด้วยตัวเอง ไม่อย่างนั้นคงโดนคนครหาว่าตระกูลผมมันแล้งน้ำใจ คนคุ้นเคยกันเจ็บป่วยเข้าโรงพยาบาลแท้ ๆ แต่ไม่คิดจะมาดูดำดูดีเลย และพอหม่าม้ารู้เข้าก็โทรมาสวดจนหูชา แถมย้ำนักย้ำหนาว่าให้รีบเยี่ยมรีบกลับ“ประเทศไทยแม่งโคตรร้อน” ผมบ่นกับตัวเองทันทีที่ได้เข้ามาสัมผัสแอร์เย็น ๆ ในโรงพยาบาล เมื่อกี้ตอนอยู่ข้างนอกเหมือนอยู่ในเตาอบ แค่ไม่กี่นาทีเล่นเอาเหงื่อไหลออกมาเหมือนน้ำ ทั้ง ๆ ที่ตอนนี้เป็นช่วงกลางเดือน
“อา...” “ดีไหมครับ” “อื้อ” ใบหน้าหวานที่พยักหน้ารับหงึกหงักทำให้ชายหนุ่มยิ้มกว้าง ก่อนจะก้มลงไปมอบความสุขให้อีกฝ่ายอีกครั้ง ริมฝีปากร้อนครอบครองยอดอกสีสวยซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างชอบใจ เพราะเม็ดสีชมพูดเล็ก ๆ นั่นมันแข็งชันสู้ลิ้นเขาดีเหลือเกิน ส่วนร่างบอบบางก็บิดเร้าไปมา มือเรียวกดศีรษะอีกฝ่ายไว้ไม่ยอมปล่อย ทำให้รู้ว่าเธอเองก็ชอบสัมผัสที่ได้รับมากเหมือนกัน “คนสวย ขอผมสำรวจความพร้อมคุณหน่อยนะ” เสียงทุ้มเอ่ยชิดใบหูขาวสะอาด ก่อนที่มือหนาจะค่อย ๆ แยกขาเรียวออกจากกัน เหมือนว่าหญิงสาวใต้ร่างจะขัดขืนนิดหน่อย แต่จะปฏิเสธตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว เพลย์บอยหนุ่มใช้ชั้นเชิงที่ฝึกปรือมานานเล้าโลมจนหญิงสาวยอมอ้าขาออกแต่โดยดี เขายิ้มมุมปากอย่างพอใจ ก่อนที่จะใช้มือล้วงเข้าไปในชั้นในของอีกฝ่าย “อ๊า ไม่เอา” “คนสวย เธอพร้อมขนาดนี้เลยเหรอ” เพลย์บอยหนุ่มยิ้มกริ่ม เมื่อสัมผัสได้ถึงความเปียกลื่นของอีกฝ่าย พร้อมขนาดนี้ก็ดีเหมือนกัน เพราะเขาทนไม่ไหวแล้ว อยากเข้าไปในตัวของอีกฝ่ายจะแย่ คิดได้แบบนั้นชายหนุ่มก็ผละออกไปถอดเสื้อผ้าของตัวเอง และกลับขึ้นเตียงนุ่มอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะหยิบเครื่องป้องกันออกมาจากกร
Chris Part.“รับทราบครับหม่าม้า คร้าบ” ผมรับคำหม่าม้าก่อนจะเก็บมือถือเข้ากระเป๋า และมุดรถเข้าไปหยิบของที่เตรียมมาด้วยความทุลักทุเลผมชื่อคริส อายุยี่สิบสองปี เป็นลูกครึ่งไทยจีนที่ได้ยีนส์เด่นจากทั้งสองเชื่อชาติมาอย่างลงตัว จนผมอยากจะกราบขอบคุณป๊าและหม่าม้างาม ๆ ที่ปั้นลูกชายออกมาได้ดีขนาดนี้ พูดไปก็จะหาว่าอวยตัวเองส่วนวันนี้ผมมาเยี่ยมญาติห่าง ๆ ที่เข้าโรงพยาบาลแทนป๊าและม้า จะบอกว่ามาเยี่ยมแทนก็ไม่ถูกซะทีเดียว เพราะผมมาของผมเองไม่มีใครสั่ง อันที่จริงแล้วสองบ้านนี้ไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่ ทั้งป๊า ม้า และน้องสาวของผมไม่อยากเข้าใกล้ครอบครัวนี้ มีแค่ผมคนเดียวที่ไม่สนใจความบาดหมางและตัดสินใจมาเยี่ยมเขาด้วยตัวเอง ไม่อย่างนั้นคงโดนคนครหาว่าตระกูลผมมันแล้งน้ำใจ คนคุ้นเคยกันเจ็บป่วยเข้าโรงพยาบาลแท้ ๆ แต่ไม่คิดจะมาดูดำดูดีเลย และพอหม่าม้ารู้เข้าก็โทรมาสวดจนหูชา แถมย้ำนักย้ำหนาว่าให้รีบเยี่ยมรีบกลับ“ประเทศไทยแม่งโคตรร้อน” ผมบ่นกับตัวเองทันทีที่ได้เข้ามาสัมผัสแอร์เย็น ๆ ในโรงพยาบาล เมื่อกี้ตอนอยู่ข้างนอกเหมือนอยู่ในเตาอบ แค่ไม่กี่นาทีเล่นเอาเหงื่อไหลออกมาเหมือนน้ำ ทั้ง ๆ ที่ตอนนี้เป็นช่วงกลางเดือน
Pream Part.“อันนี้ถุงที่มีน้องอยู่นะคะ”ฉันมองตามที่คุณหมอชี้ ภาพขาวดำที่ปรากฏขึ้นบนจอเหมือนเป็นคำยืนยันทุกอย่าง ในท้องฉันมีเด็กคนหนึ่งกำลังเจริญเติบโตอยู่จริง ๆฉันขยำผ้าปูเตียงด้วยความรู้สึกสับสน ไม่รู้ว่าควรรู้สึกยังไง ดีใจ หรือเสียใจ ถ้าฉันท้องเพราะมีคนรักหรือมีสามีอยู่แล้วคงไม่รู้สึกแบบนี้ แต่นี่ฉันท้องทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครเลย ท้องเพราะความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากคืนนั้นคืนเดียว....“เอ๋...”“อะไรเหรอคะคุณหมอ” ฉันข่มความรู้สึกทั้งหมดและถามออกไป เมื่อคุณหมอจ้องจอนั้นด้วยความสงสัย“เหมือนว่า...จะมีสองถุงนะคะ”“หมายความว่ายังไงคะ”“คุณพริมาตามีน้องอยู่สองคนในท้องค่ะ ยินดีด้วยนะคะ คุณกำลังตั้งครรภ์ลูกแฝด”“ระ...เรื่องจริงหรือคะ”“จริงค่ะ ดูนี่สิคะ” คุณหมอชี้ไปที่บนจอซึ่งปรากฏถุงเล็ก ๆ สองถุงที่ถูกกั้นด้วยผนังบาง ๆ “มีสองถุง แปลว่าท้องแฝดค่ะ”“...” ฉันพูดไม่ออกและเผลอกัดปากตัวเองจนเจ็บ ถุงที่หมอชี้ให้ดูมีก้อนเล็ก ๆ นอนนิ่งอยู่ในนั้น มันมีทั้งหมดสองถุงอย่างที่หมอบอกจริง ๆ“เหมือนว่าจะได้ยินเสียงหัวใจแล้วนะคะ คุณพริมาตาจะฟังเสียงหัวใจน้องไหมคะ”“ฟังค่ะ...”ตึก ตึก ตึก“นี่เป็นเสียงของคนขวา
Pream Part.“แค่ก! แค่ก!”ซ่า“ทำไมมันเวียนหัวขนาดนี้” ฉันทิ้งร่างลงบนพื้นห้องน้ำอย่างหมดแรงหลังจากล้างหน้าล้างตาจนรู้สึกสดชื่นขึ้นมาบ้าง สองสามวันมานี้ฉันลุกขึ้นมาอาเจียนตอนตีสี่ตีห้าทุกวัน ได้กลิ่นอาหารอะไรก็เหม็นไปหมด ตอนแรกคิดว่าเพราะพักผ่อนน้อย แต่พอลองนอนเยอะ ๆ เกินแปดชั่วโมงต่อวันแล้วก็ยังเป็นเหมือนเดิม หรือว่าฉันกำลังป่วยเป็นอะไรร้ายแรงเพราะความคิดในแง่ลบนั้นทำให้ฉันพาร่างที่ไร้เรี่ยวแรงมาถึงโรงพยาบาลจนได้ และเพราะเป็นโรงพยาบาลเอกชนจึงไม่ต้องรอคิวนานก็ได้เข้าตรวจ“สวัสดีครับ”“สวัสดีค่ะ”“หน้าคนไข้ดูไม่ค่อยดีเลยนะครับ” แม้แต่หมอยังเอ่ยทัก ตอนนี้ฉันคงดูไม่จืดจริง ๆ “จากที่คนไข้แจ้งพยาบาลไว้คือเวียนหัว เบื่ออาหาร อาเจียน แค่นี้เหรอครับ”“ใช่ค่ะ”“ไม่ได้มีอาการท้องเสียร่วมด้วยใช่ไหมครับ”“ไม่มีค่ะ”“ประจำเดือนมาครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ครับ”“ประจำเดือนหรือคะ” ฉันรู้สึกกระดากขึ้นมาดื้อ ๆ เมื่อถูกถามแบบนั้น แต่สุดท้ายก็ยอมตอบออกไปแต่โดยดี “น่าจะสองเดือนที่แล้วค่ะ”“งั้นรบกวนคนไข้เก็บปัสสาวะมาให้หมอ จะได้ตรวจหาสาเหตุของอาการพวกนี้ได้มากขึ้น”“คะ...ค่ะ” ฉันรับคำอย่างงง ๆ แต่ไม่ได้ติดใ
Pream Part.“อึก!”“คุณพรีม! ไหวไหมคะ นั่งก่อนค่ะ”“ไหวค่ะแม่เพียร” ฉันนั่งลงบนเก้าอี้ก่อนจะเอ่ยตอบอีกฝ่าย “สงสัยจะนอนน้อยไป”“ก็คุณพรีมเล่นไปเยี่ยมคุณนงนาถเธอทุกวัน ไหนจะต้องไปทำงานอีก พักผ่อนน้อยถึงได้แบบนี้น่ะสิคะ” แม่เพียรบ่น ฉันได้แต่ส่งยิ้มให้อีกฝ่ายบาง ๆ เพราะไม่รู้จะแก้ตัวยังไงดีเพียรหรือแม่เพียรที่ฉันเรียก เป็นแม่นมที่เลี้ยงดูฉันมาตั้งแต่เด็กจนฉันติดเรียกว่าแม่ไปแล้ว ส่วนคุณนงนาถที่แม่เพียรเอ่ยถึงก็หมายถึงคุณย่าของพี่มาเฟีย ที่ตอนนี้กำลังรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลหลังจากผ่าตัดเส้นเลือดในสมองที่แตกเมื่อเดือนก่อน อีกสองอาทิตย์ท่านก็จะออกจากโรงพยาบาลแล้ว แม้ว่าช่วงนี้ท่านจะมีนับดาว แฟนของพี่มาเฟียคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง แต่ฉันก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปเยี่ยมท่านทุกวัน คุณย่าเปรียบเสมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง ท่านดีกับฉันมาก แม้ตอนนี้ตระกูลของเราคงไม่ได้เกี่ยวดองกันแล้วแต่ฉันก็ยังเคารพนับถือท่านเหมือนเดิมและพี่มาเฟียที่ฉันพูดถึงก็คือคู่หมั้นของฉันเองส่วนฉัน พริมาตา หรือพรีม อายุยี่สิบเอ็ดปี แต่ตอนนี้เรียนจบแล้วจากออสเตรเลีย ที่ฉันเรียนจบไวเพราะฉันเข้าเรียนไวกว่าเกณฑ์ พอเรียนจบก็ถูกแนะนำให้ทำงา
“อา...” “ดีไหมครับ” “อื้อ” ใบหน้าหวานที่พยักหน้ารับหงึกหงักทำให้ชายหนุ่มยิ้มกว้าง ก่อนจะก้มลงไปมอบความสุขให้อีกฝ่ายอีกครั้ง ริมฝีปากร้อนครอบครองยอดอกสีสวยซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างชอบใจ เพราะเม็ดสีชมพูดเล็ก ๆ นั่นมันแข็งชันสู้ลิ้นเขาดีเหลือเกิน ส่วนร่างบอบบางก็บิดเร้าไปมา มือเรียวกดศีรษะอีกฝ่ายไว้ไม่ยอมปล่อย ทำให้รู้ว่าเธอเองก็ชอบสัมผัสที่ได้รับมากเหมือนกัน “คนสวย ขอผมสำรวจความพร้อมคุณหน่อยนะ” เสียงทุ้มเอ่ยชิดใบหูขาวสะอาด ก่อนที่มือหนาจะค่อย ๆ แยกขาเรียวออกจากกัน เหมือนว่าหญิงสาวใต้ร่างจะขัดขืนนิดหน่อย แต่จะปฏิเสธตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว เพลย์บอยหนุ่มใช้ชั้นเชิงที่ฝึกปรือมานานเล้าโลมจนหญิงสาวยอมอ้าขาออกแต่โดยดี เขายิ้มมุมปากอย่างพอใจ ก่อนที่จะใช้มือล้วงเข้าไปในชั้นในของอีกฝ่าย “อ๊า ไม่เอา” “คนสวย เธอพร้อมขนาดนี้เลยเหรอ” เพลย์บอยหนุ่มยิ้มกริ่ม เมื่อสัมผัสได้ถึงความเปียกลื่นของอีกฝ่าย พร้อมขนาดนี้ก็ดีเหมือนกัน เพราะเขาทนไม่ไหวแล้ว อยากเข้าไปในตัวของอีกฝ่ายจะแย่ คิดได้แบบนั้นชายหนุ่มก็ผละออกไปถอดเสื้อผ้าของตัวเอง และกลับขึ้นเตียงนุ่มอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะหยิบเครื่องป้องกันออกมาจากกร