วันนี้มนันย์ตื่นตั้งแต่เช้าและเข้าเมืองไปสอบ ความรักสวยงามและไม่แน่อาจไม่มีอยู่จริง แต่การศึกษาคือใบเบิกทางเป็นของจริง เขาสลัดความฝันฟุ้งเฟ้อออกไปก่อนจะเข้าสนามสอบไปด้วยความมั่นใจ แม้พิรชัชจะสูญเสียการมองเห็นแต่สมองยังใช้งานได้ดีเหมือนเดิม แถมยังพ่วงปริญญาเอกมาจากสถาบันชื่อดังยิ่งการันตีความสามารถของเขา ก่อนนอนก็ใช้เวลาติวหนังสือให้มนันย์ทุกคืน ส่วนไหนที่มักจะออกสอบ ส่วนไหนที่ไม่สำคัญ ยิ่งไปกว่านั้นหากเขาตอบถูกจะได้รางวัล หากตอบผิดจะถูกทรมานจนดิ้นพล่าน สองแก้มแดงด้วยความเขินอายเมื่อนึกถึงข้อที่เขาตอบผิด ไหนจะเรียงความ Essay ต่าง ๆ ที่เขาเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี การสอบกินเวลา 6 ชั่วโมงพริบตาเดียวสำหรับคนสอบ แต่คนที่นั่งรออยู่ที่บ้านหงุดหงิดจนนั่งไปติดที่ ออกมานั่งรอลานบ้านตั้งแต่เที่ยง พิรชัชรู้ว่าใช้เวลาสอบนานแต่ก็อดที่จะเงี่ยหูฟังเสียงรถยนต์ไม่ได้ เมื่อมีเสียงรถยนต์เข้ามาพลันได้ยินเสียงที่คุ้นเคย แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยปากถามเสียงของอีกฝ่ายก็ดังขึ้นมาก่อน“ตาชัชเป็นยังไงบ้างลูก” พรรำไพแผดเสียงร้องออกมาอย่างยินดีเมื่อเห็นหน้าลูกชายอีกครั้งหล่อนสวมกอดพลางสำรวจลูบหน้าตาของลูกชายสำรวจจนพิรชัชอ
‘ไปได้ก็ดี’ เจ็บเจ็บเหลือเกินคำพูดแค่สี่คำแต่เหมือนเข็มพิษนับหมื่นที่ทิ่มแทงหัวใจให้ขาดวิ่นแต่ก็ช่วยไม่ได้ในเมื่อเขาเลือกที่จะกลืนยาพิษด้วยตัวเองตอนสมัยยังเด็กเคยถูกพี่เลี้ยงแกล้งให้อมบอระเพ็ดแลกกับน่องไก่ที่เหลือกินจากบ้านใหญ่เพราะความอดอยากและหิวโหยจึงไม่ปริปากและไม่กล้าคายแม้จะขมแค่ไหนก็ตามย้อนกลับไปตอนนั้นเขามันตัวโง่งมจริงๆยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อิ่มท้องตอนนี้ก็ไม่ต่างกันเขารับปากท่านเจ้าสัวเพื่อแลกกับอิสรภาพรู้ทั้งรู้ว่าไม่ควรถลำลึกและสุดท้ายรู้ดีว่าจุดจบจะเป็นแบบไหนแต่เขาก็เลือกที่จะลิ้มลองรสชาติของความใคร่ความรักแม้มันจะขมกว่าบอระเพ็ดที่เคยลิ้มลองมาหลายเท่าความคิดโอเมก้าล่องลอยจนได้ยินเสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้ก่อนจะลุกขึ้นแล้วลงไปนั่งพับเพียบข้างล่างอย่างรู้ตัว“ขึ้นมานั่งด้วยกันสิ”“ครับ” มนันย์นั่งเว้นระยะห่างกับท่านเจ้าสัวพอสมควร“ฉันจะไม่ถามว่าเกิดอะไรขึ้นเธอคงรู้ดีเรื่องข้อตกลงของเรา”“ครับ”“ขอบคุณที่ดูแลเจ้าชัชเป็นอย่างดี”“เป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วครับ” มนันย์ก้มหน้าตอบเสียงเรียบ“ส่วนเงินฉันโอนให้เธอตามที่ได้รับปากไว้และนี่” มนันย์เหลือบมองกล่องสีแดงกำมะหยี่กล่องขนาดสองฝ
สภาพของมนันย์ดูย่ำแย่เป็นอย่างมาก เมื่อสองเท้าลงจากเครื่องบินมายังอีกซีกโลกหนึ่ง เพราะคิดจะเดินออกจากใต้ปีกท่านเจ้าสัวจึงเลือกมหาลัยและเมืองอื่น ไม่ได้เลือกตามที่บอกท่านเจ้าสัวไปตั้งแต่แรก เมืองที่ท่านเจ้าสัวแนะนำเป็นเมืองใหญ่แถมยังเป็นมหา’ ลัยเดียวกับลูกชายของท่านอีก แต่มนันย์คิดดีแล้ว ถึงที่นี่จะเป็นเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในยุโรป ประชากรโอเมก้ามีไม่มากแต่ก็ได้รับสวัสดิการต่าง ๆ ไม่น้อยกว่าเมืองใหญ่ ๆ ในแถบทวีปอื่น ๆ เมืองเล็กค่อนข้างเงียบเหงาแต่ก็เงียบสงบเหมาะกับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ รออะไรเข้าที่เข้าทางเขาจะไปผ่าตัดเอาพันธะที่หลังคอออก คุณชัชคงรู้สึกไม่ดีมากนักหากรู้ว่าทำพันธะกับโอเมก้าที่ตนเกลียดโดยไม่ได้ตั้งใจผ่านเหตุการณ์นั้นมาร่วม 3 เดือนแต่มนันย์ก็นอนไม่หลับมาจนถึงทุกวันนี้ตอนแรกคิดว่าเป็นเพราะเครียดลงกระเพาะหรือเพราะ Jet lag จึงทำให้เวียนหัวคลื่นไส้ไม่หยุดอาการเหล่านั้นจะเป็นหนักโดยเฉพาะหลังตื่นนอนแต่ละคืนเขาต้องจุดเทียนหอมกลิ่นหนึ่งเป็นกลิ่นที่เขาทำขึ้นเองเพื่อช่วยให้นอนหลับสนิทตลอดทั้งคืนพอนับๆดูแล้วระยะเวลาไม่กี่เดือนเสียค่าเทียนหอมไปไม่น้อยรวมๆเกือบร้อยแก้วได้กลิ่นของมันเหม
“นี่นันไม่น่าเชื่อว่าอายุแค่นี้ทำอาหารเก่งและประยุกต์ได้เก่งมากถ้านันอยู่กับแฟนพี่นึกว่านันท้องนะเนี่ยเหมือนพี่ตอนหนุ่มๆไม่มีผิดอยากกินแต่อะไรไม่รู้” ลลนาพูดเจื้อยแจ้วอย่างเป็นกันเองก้มหน้าก้มตากินอาหารตรงหน้าอย่างเพลิดเพลินไม่ได้สนใจสีหน้าคนตรงข้ามแม้แต่น้อยหลังจากเก็บร้านก่อนจะบอกลาเพื่อนร่วมงานแล้วลลนาแล้วรอยยิ้มก่อนหน้าหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อนึกถึงคำพูดของลลนาเขาลูบท้องน้อยอย่างเหม่อลอยคงไม่หรอกมั้งฉีดยาคุมแล้วแต่เมื่อนึกถึงพฤติกรรมของตัวเองหลายเดือนที่ผ่านมาก็อดฉุกคิดไม่ได้ถ้าท้องขึ้นมาจริงๆล่ะ….วันนี้มนันย์ตื่นนอนด้วยอาการคลื่นไส้อาเจียนเหมือนทุกเช้าจึงตัดสินใจออกไปซื้อที่ตรวจครรภ์ที่ร้านขายยาข้างล่างมนันย์นั่งลุ้นยิ่งกว่าตอนประกาศทุน E เสียอีกมีความคิดสองแบบขึ้นมาในหัวไม่ท้องก็ดีเพราะพวกเขาเหมือนเส้นขนานที่ไม่อาจบรรจบกันอีกทั้งคุณชัชยังเกลียดเขาขนาดนั้นถ้าท้องขึ้นมาล่ะ… ความคิดมากมายตีกันในหัวจนเวลาครบจึงหยิบแท่งตรวจขึ้นมาด้วยความหนักอึ้งแถบสีแดงสองขีดทำเอามนันย์อ้าปากค้างเขากำลังจะเป็นแม่คนและที่ท่านเจ้าสัวเคยพูดว่าไม่อยากให้อดีตซ้ำรอยเพราะเขากำลังจะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวและลูกที
“โถ่คุณแม่มานึกเสียดายเอาป่านนี้ไม่ช้าไปเหรอครับผมบอกแล้วว่าเจ้าแก้มยุ้ยน่ารักจะตายแม่กับพี่ชัชก็มัวแต่อคติชีวิตวัยเด็กของมนันย์นั้นไม่ง่ายเลยนะครับ”เมื่อพิรภพพูดขึ้นมาบรรยากาศครึกครื้นก่อนหน้าเงียบลงทันตาพรรำไพและท่านเจ้าสัวก็คงจะรู้สึกผิดไม่น้อยตลอดระยะเวลา 20 ปีที่อาศัยอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้ไม่ต่างจากคุกไม่มีอิสระไม่มีเพื่อนฝูงวัยเยาว์ถูกพรากไปเพียงเพราะกำพร้าและถูกตราหน้าว่าเป็นลูกโสเภณีมนันย์ไม่เคยได้ออกไปเล่นที่ไหนเลยจริงๆตั้งแต่จำความได้เพื่อนเล่นของเด็กน้อยมีเพียงแต่ต้นไม้ใบหญ้าเท่านั้น“ภพรู้ว่ามนันย์เป็นโอเมก้าตั้งแต่เมื่อไหร่” พรรำไพถามออกมาด้วยความสงสัยเพราะเหมือนมีแต่เธอที่แตกตื่น“ตั้งแต่ได้กลิ่น—”“แกได้กลิ่นอะไร” เสียงดุดันของพิรชัชที่ถามขึ้นก่อนจะก้าวเท้าเข้ามาในห้องนั่งเล่นแววตาดุดันทำเอาพิรภพไม่กล้าสู้หน้าหลังผ่าตัดพี่ชายเขาคล้ายอารมณ์ไม่คงที่หนึ่งนาทีหกอารมณ์เห็นจะได้ทำเอาพนักงานกลัวจนหัวหดกันหมดเป็นพรรำไพที่เอ่ยปากทำลายบรรยากาศเมื่อสองพี่น้องทำท่าจะต่อล้อต่อเถียงกันขึ้นมาเพราะเรื่องของมนันย์อีกเช่นเคย“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ลูก”“สักพักแล้วครับ”“เอ่อ…งั้นไปล้างม
“นี่ลูกใครน่ารักมาก”ตอนแรกพิรชัชไม่ได้สนใจแต่เพราะเพื่อนของเขาที่น้องสาวกำลังเรียนอยู่ต่างประเทศโพสต์ตลอดจนทำเอาที่บ้านตกอกตกใจนึกว่าน้องสาวแอบไปคลอดลูกโดยไม่บอกที่บ้านทางเมืองไทยที่ไหนได้เป็นรุ่นพี่โอเมก้าป.โทคนหนึ่งแม้เห็นหน้าไม่ชัดแต่ก็เดาได้ไม่ยากว่าหน้าตาดีไม่น้อยดูจากผิวพรรณแม้ไม่เห็นหน้าตาเด็กทั้งสองแต่ขาและแขนเป็นปล้องจ้ำม่ำทำให้ธีรธรอดเป็น FC อีกคนไปด้วยไม่ได้เพื่อนๆในวงสนทนาต่างก็มุ่งสายตาไปเป็นจุดเดียวก้อนแป้งน้อยที่นอนหลับตาพริ้มบนเตียงหน้าตาถูกเบลอเพราะกฎหมาย PDA แขนขาเป็นมัดๆเหมือนขนมปังจนอยากจะกัดสักคำ“เห็นว่าเป็นโอเมก้าแม่เลี้ยงเดี่ยว” ใครคนหนึ่งโพล่งออกมาจากนั้นก็มีคนผสมโรงจากนัดมากินเหล้าสนทนาตามประสาเพื่อนที่ไม่พูดคุยกันมานานหัวข้อวันนี้ต่างมุ่งไปที่เด็กน้อยทั้งสอง“น่าสงสารออก”“อาจจะทำตัวไม่ดีก็ได้เค้าถึงต้องได้เลี้ยงลูกคนเดียว” พิรชัชตอบออกไปอย่างไม่ใส่ใจ“แกก็อคติเกินในโลกนี้มีทั้งคนดีและเลวไม่ว่าจะเพศรองไหนอีกทั้งตอนนี้โอเมก้าเองก็เป็นที่ยอมรับของสังคมมากขึ้นแล้วบริษัทนายเองก็ปรับการรับโอเมก้าเข้าทำงานมากขึ้นไม่ใช่เหรอ”“เห็นว่าที่บ้านนายเคยรับอุปการะโอเมก้า
“มาครับเด็กๆวันนี้เป็นชั่วโมงกิจกรรมสีเทียน-”“นิรันดร์ไม่เอาสีเทียนเข้าปากนะครับ”“ปะปะ” สองพี่น้องสวมเพียงผ้าอ้อมสำเร็จรูปบนกระดาษสีขาวผืนใหญ่สองมือน้อยต่างถือสีเทียนไว้ในมือต่างก็ขีดเขียนไปตามประสาหลังจากนั้นมนันย์ก็จะแต่งเติมจินตนาการนั้นให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาอีกที“อนันต์วาดอะไรครับ”“มะหมา”“น้องหมาเหรอครับ” มนันย์ยิ้มให้แฝดพี่ก่อนจะลูบหัวด้วยความเอ็นดูเด็กน้อยที่หน้าตาถอดแบบเหมือนใครอีกคนสายตาสีนิลคู่นั้นทำเอาคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวโอเมก้าเผลอตกอยู่ในภวังค์หลายครั้ง‘ป่านนี้คุณชัชคงจะหายดีเป็นปกติไม่แน่อาจจะมีคนรักใหม่ไปแล้วก็ได้’ มนันย์เม้มปากปัดความคิดฟุ้งซ่านที่อยู่ในหัวออกไปจ้องมองเด็กน้อยทั้งสองที่เปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจของเขาโอเมก้าที่ขาดความรักความเอาใจใส่จากบิดามารดารู้ดีว่ามันเจ็บปวดแค่ไหนถึงแม้เด็กทั้งสองจะเติบโตโดยปราศจากบิดาผู้ให้กำเนิดแต่มนันย์สัญญากับตัวเองว่าเขาจะเลี้ยงดูเด็กอัลฟ่าน้อยทั้งสองให้ดีไม่ให้ขาดความอบอุ่นแม้แต่เสี้ยวเดียวครอบครัวที่สมบูรณ์ไม่จำเป็นต้องมีทั้งพ่อและแม่ยิ่งพ่อแม่ที่ไม่ได้มีความรักให้กันด้วยแล้วจะเผื่อแผ่มาถึงลูกๆได้อย่างไรความทรมานจากการทำพ
“ทำอะไรอยู่เด็กๆมากินของว่างเร็ว” วรวิทย์กลายเป็นคุณตาที่ติดหลานเอามากๆกิจวัตรประจำวันของคนแก่ไม่มีอะไรมากนอกจากงานที่บริษัทแล้วก็กลับมาฟัดเด็กๆทั้งสองนี่แหละมนันย์ไม่ได้เอ่ยถึงพ่อของเด็กๆวรวิทย์เองก็ไม่คิดก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของบุตรชายเขาเป็นผู้ใหญ่ที่พบเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้มาก่อน‘รักแรกมักไม่สมหวังและมักจะฝังใจ’ไม่งั้นบุตรชายโอเมก้าคงไม่คิดตัดใจตัดสัมพันธ์ถึงขั้นผ่าตัดเอาพันธะที่ตรงหลังคอออกแม้จะมีผลข้างเคียงมากมายแต่อีกนัยหนึ่งถ้ามนันย์ไม่ผ่าตัดเอาพันธะตรงหลังคอออกวรวิทย์อาจไม่มีโอกาสพบเจอกับบุตรชายโอเมก้าของเขาโดยบังเอิญขนาดนี้วรวิทย์เชื่อว่าในโลกนี้ไม่มีความบังเอิญมีแต่ถูกที่ถูกเวลาเท่านั้นไม่ว่าเชื่อว่าอีกฝ่ายอยู่จุดไต้ตำตออยู่ในความดูแลของเจ้าสัวพิสิฐชัยไม่แปลกที่เขาจะหาไม่เจอทั้งๆที่สองครอบครัวก็ต่างก็พบปะสังสรรค์กันตามงานเลี้ยงงานสังคมอีกทั้งยังใช้ซัพพลายเออร์ที่เดียวกันแต่อย่างว่าบทจะเจอก็เจอกันได้ง่ายๆแบบนี้“มาดูเร็วตาซื้อมาเยอะแยะเลยไปล้างมือแล้วค่อยมากินนะ” วรวิทย์พูดพลางก้มลงไปหอมแก้มยุ้ยของหลานทั้งสองดังฟอดฟอด“ตามใจกันแบบนี้สองแฝดเหลิงแย่เลยครับ” มนันย์บ่นอุบอิบ“
เพราะอายุห่างกันเกือบ 15 ปีทำให้นับนิรันดร์นับอนันต์แทบจะกลายมาเป็นพ่อของนับกัลป์อีกคนพ่ออย่างพิรชัชกลับกลายเป็นสปอยลูกสาวแต่ความเด็ดขาดกลับตกอยู่ที่สองแฝดพวกเขาต่างก็สรรหาสิ่งของดีๆมาให้แถมยังหวงน้องสาวมากๆด้วยนับกัลป์ที่ตอนนี้อายุ 3 ขวบแล้วหน้าตาสะสวยแต่เด็กเลยเชียวผมสีน้ำตาลอ่อนกว่าของสองแฝดอีกเมื่อเด็กน้อยเข้าโรงเรียนสองแฝดก็ทำหน้าที่เป็นผู้ปกครองเทียวรับเทียวส่งเพราะว่าอยู่โรงเรียนเดียวกันสองแฝดเป็นรุ่นพี่ม. 6 เด็กๆห้องอนุบาลหมีน้อยต่างก็รู้ดีว่าพี่ชายของนับกัลป์ดุเหมือนยักษ์หากมีคนแกล้งให้เด็กน้อยร้องไห้ละก็จะต้องถูกดุแน่ๆสองแฝดนั้นน่ากลัวกว่าพ่อแม่ของพวกเขาเสียอีก ส่วนนับกัลป์นั้นได้แต่ทำหน้าเซ็งเพราะสองแฝดทำตัวแบบนี้เลยไม่มีใครอยากเล่นกับเขาเลยสักคน“แม่คะหนูไม่อยากให้พี่ๆไปรับที่โรงเรียนเลย” เมื่ออยู่พร้อมหน้ามื้อเช้าของวันเด็กน้อยก็รายงานพ่อแม่ทันที“ทำไมละคะ” มนันย์เอ่ยถามส่วนพิรชัชที่สวมชุดกันเปื้อนจัดแจงข้าวเช้าให้ลูกๆอดส่งสายตาไปปรามสองแฝดไม่ได้ไม่ใช่ครั้งแรกที่นบกัลป์บ่นเรื่องความขี้หวงของสองแฝด“ก็ไม่มีใครอยากเล่นกับหนู”“ไม่เห็นต้องแคร์เลยเด็กน้อยเธออย่าลืมว่ามีพวกเ
มนันย์ยิ้มให้กับสามีของตัวเองไม่คาดคิดว่าคุณชัชจะมีมุมที่น่ารักขี้อ้อนอย่างนี้อยู่ด้วยโอเมก้ารู้ว่าอีกฝ่ายกำลังปล่อยฟีโรโมนปลอบประโลมคล้ายกับว่ามีสายลมอุ่นๆห้อมล้อมสองแม่ลูกเอาไว้ตั้งครรภ์ที่สองนี้มนันย์ไม่ได้ทำรังจนกองเสื้อผ้าสุมกันเป็นกองใหญ่เหมือนท้องแรกไม่รู้เพราะมีคู่อยู่ข้างกายหรือเปล่าเขาติดกลิ่นของอีกฝ่ายมากกว่าแม้ไม่ได้กลิ่นฟีโรโมนแต่ติดกลิ่นกายอีกทั้งอ้อมกอดนี้ก็เหมือนปราการใหญ่ที่ให้เขาได้ซุกตัวคุณแม่โอเมก้ารู้สึกอุ่นใจและปลอดภัยทุกครั้งที่ได้ซุกตัวอยู่ในอ้อมอกอุ่นนี้“คิดถึงสองแฝดจังครับไม่โทรมาเลย” พิรชัชอดหัวเราะไม่ได้“จะเอาเวลาที่ไหนมาโทรคุณลืมไปแล้วเหรอว่าคุณปู่คุณย่าสปอยสองแสบนั้นแค่ไหนกว่าจะกลับมาก็เดือนหน้านู้นแหละอีกอย่างช่วงนี้คุณก็จะได้มีเวลาพักผ่อนอย่างเต็มที่ด้วย”“คุณมากกว่าน่ะซิครับที่ได้พักผ่อนผมรู้นะว่าคุณกับสองแฝดทะเลาะกันตลอด”“เอ้า…ผมไม่ผิดนะสองแสบนั่นติดคุณแจแถมอยากจะนอนกล่อมน้องทั้งคืนคุณเอาผมไปไว้ที่ไหน”มนันย์ส่ายหน้าให้สามีอัลฟ่าอย่างอ่อนใจ “นั่นก็ลูกคุณนะ” “ไม่เกี่ยวคุณน่ะเมียผมสองแฝดนั้นกีดกันผมกับคุณชัดๆ” มนันย์ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายสองแฝดน
เสียงโอ๊กอ๊ากยามเช้าภายในห้องน้ำทำเอาพิรชัชรู้สึกกระวนกระวายไปหมดหลายวันมาแล้วที่มนันย์ทำตัวแปลกไปก่อนหน้านี้พวกเขาสองคนตัวติดกันแทบทุกวันแต่ช่วงนี้ไม่รู้ว่าเขารู้สึกไปเองหรือเปล่าว่ามนันย์ไม่เหมือนเดิมหรือว่าเพราะเขายังทำตัวไม่ดีพออัลฟ่าอย่างพิรชัชได้แต่เกาะหน้าประตูห้องน้ำได้แต่ตะโกนถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง“คุณเป็นอะไรหรือเปล่าให้ผมเข้าไปไหม”“ไม่—เป็นไรครับ” แล้วก็ตามมาด้วยเสียงอาเจียนอย่างรุนแรงอัลฟ่าหางลู่หูตกได้แต่เดินวนเวียนอยู่ภายในห้องนอนด้วยความวิตกกังวลต่างๆนานาๆพวกเขาเพิ่งจะได้ใช้ชีวิตคู่เป็นครอบครัวสมบูรณ์พร้อมหน้าได้ไม่นานอย่าให้มีเรื่องราวร้ายๆเกิดขึ้นในตอนนี้เลยก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปประคองโอเมก้าที่หน้าซีดเผือดประคองให้นั่งลงบนเตียงกว้างอย่างช้าๆ “ไปหาหมอไหมหืมเป็นอะไรไปอย่าเก็บไว้คนเดียวคุณยังมีผมและลูกๆนะ” มนันย์เห็นสามีตัวเองในเวย์นี้ก็อดที่จะอมยิ้มไม่ได้ไม่พูดเปล่าแถมยังเกลี่ยแก้มใสนั้นอย่างเบามือ “ช่วงนี้โหมงานหนักไปหรือเปล่าเหมือนว่าคุณจะเบื่ออาหารนะออกไปทานนอกบ้านกันไหมจะได้เปลี่ยนบรรยากาศด้วย” มนันย์ส่ายหน้าแทนคำตอบก่อนจะหยิบสิ่งที่เขาซ่อนไว้ในกระเป๋ากางเกงออกมาก
สองร่างเปลือยเปล่าต่างกกกอดนัวเนียกันด้วยความกระหายและต้องการเติมเต็มซึ่งกันและกัน ช่องทางหลังโอเมก้าหยาดเยิ้มไปด้วยน้ำหล่อลื่นเนื่องจากช่วงฮีท การเตรียมพร้อมช่องทางหลังที่ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปทำให้การสอดใส่ไม่ติดขัด ส่วนปลายตอกลึกเข้าไปจนถึงปากถุงครรภ์ “อ๊ะอื้อ” โอเมก้าแหงนหน้าไปทางข้างหลังพร้อมร่างกายที่บิดพริ้วไปด้วยความกระสันจังหวะเนิบนาบก่อนหน้าหยุดลงเมื่อเห็นปฏิกิริยาคนใต้ร่าง“คุณเจ็บเหรอถ้าเจ็บก็ให้บอก…อย่าทน” พิรชัชพูดพร้อมกับแช่แกนกายไว้อยู่อย่างนั้นสักพักมันอึดอัดพร้อมกับความรู้สึกบางอย่างจนทำเอาคุณแม่โอเมก้าทนแทบไม่ไหว“คะคุณขยับสักทีมันทรมาน” อัลฟ่าเองก็กัดฟันกรอดเช่นกันช่องทางคล้ายกำลังดูดกลืนท่อนลำของเขาอย่างหื่นกระหาย“ซี้ด… ผมขยับแทบไม่ได้” มันทั้งคับทั้งบีบแน่นแบบนี้ไม่รู้เพราะอารมณ์ที่พุ่งกระฉุดหรือเพราะความปราถนาลึกๆเรื่องตั้งครรภ์ของโอเมก้ากันแน่ที่ทำให้คนที่ไม่ประสีประสาและอับอายเรื่องอย่างว่ากลายมาเป็นผู้ควบขี่อยู่ตอนนี้“อื้ออะ” จังหวะและแรงกระแทกลงมาทำเอาอัลฟ่าแทบจะถึงปลายทางอยู่ร่อมร่อพิรชัชปล่อยให้คุณแม่ได้ควบขี่เขาตามอำเภอใจภาพที่เห็นทำเอาอัลฟ่าแทบลืมหายใจใ
“ขอบคุณมากครับ”“คุณเก่งมากหากเป็นผมไม่รู้ว่าจะผ่านคืนวันที่ยากลำบากเหล่านั้นไปได้ไหมที่ผ่านมาผมมองไม่เห็นถึงความลำบากที่คุณเคยได้รับมาก่อนเลย”“อย่าพูดถึงมันอีกเลยครับเรื่องราวมันผ่านมาแล้วแถมต้องขอบคุณเรื่องราวเหล่านั้นที่ทำให้ผมได้เติบโตและเข้มแข็งอย่างทุกวันนี้”“ยินดีด้วยนะครับแม่แม่เก่งที่สุดเลย” สองแฝดแม้จะอายุ 10 ขวบแต่ก็ยังมีนิสัยขี้อ้อนเหมือนเด็กน้อยไม่มีผิดต่างก็เข้ามาสวมกอดแสดงความยินดี“ขอบคุณครับ” ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มนันย์ได้ถ่ายภาพร่วมกับครอบครัวของตัวเองรวมไปถึงโอเมก้าในปกครองข้างหลังที่ต่างก็ได้รับโอกาสการสนับสนุนทุกการศึกษาจนได้มีหน้าที่การงานมั่นคงส่งต่อความฝันและอนาคตให้กับโอเมก้าที่ขาดโอกาสต่อไปมนันย์ยิ้มทั้งน้ำตาภาพที่เขาได้วาดฝันไว้กลายเป็นจริงเสียทีความหมายของชื่อมนันย์ควรค่าแก่การสรรเสริญและมานัสที่ล่วงลับไปนั้นตัดสินใจไม่ผิดที่ให้บุตรชายได้ใช้ชื่อนี้เพราะโอเมก้าคนนี้กลายเป็นผู้ให้กลายเป็นที่รักของผู้คนมากหน้าหลายตาและควรค่าต่อการสรรเสริญอย่างแท้จริงหลังจากจัดงานแต่งงานมนันย์และพิรชัชก็ได้มาใช้ชีวิตคู่ร่วมกันตอนนี้ก็ผ่านมา 2 ปีแล้วที่พวกเขาต่างก็เข้านอน
มนันย์และครอบครัวกลับมาที่ประเทศไทยอีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้กลับมาตลอดระยะเวลา 10 ปี ก่อนหน้านั้นโอเมก้าเองคิดว่าไม่มีที่ให้เขาได้กลับไป อีกทั้งไม่มีใครที่เขาจะต้องอาลัยอาวรณ์อีก แต่ว่าตอนนี้เขากลับมีคนรักมากมายถึงเพียงนี้ มนันย์เองไม่เคยคิดคาดฝันมาก่อนเช่นกัน การเป็นที่รักและถูกรักมันคือความรู้สึกอย่างนี้เองเพราะเป็นโอเมก้าอีกทั้งยังกำพร้าแต่เด็กด้วยโอกาสต่างๆในชีวิตหากเขาไม่รักดีและไขว่คว้ามาด้วยตัวเองก็คงไม่ได้เห็นตัวเองในอย่างตอนนี้ตอนนี้มนันย์กลายเป็นหนึ่งในโอเมก้า 100 ลำดับที่มีอิทธิพลของโลกที่ขึ้นนิตยสารชื่อดังการกระทำของเขาส่งผลต่อการขับเคลื่อนของสังคมเป็นอย่างมากไม่ว่าจะเรื่องการออกมาเรียกร้องให้มีการแก้กฎหมายและเพิ่มบทลงโทษแก่อัลฟ่าที่คุกคามโอเมก้าสวัสดิการปัจจัย 4 ที่โอเมก้าถูกกีดกัดก่อนหน้าและการมายืนอยู่จุดนี้ก็เพื่ออยากให้ทุกคนตระหนักถึงความเป็นมนุษย์ไม่ว่าจะเพศรองไหนก็ไม่ควรจะถูกกีดกันและเหยียดหยามเราต่างก็อยู่ร่วมกันได้อย่างสันติมนันย์เป็นเจ้าของมูลนิธิถึง 3 แห่งเพราะเขาตระหนักดีถึงเรื่องการศึกษา ‘การศึกษาเปลี่ยนชีวิต’การศึกษามันเปลี่ยนอนาคตได้จริงๆไม่ว่าคุณจะเกิดมายา
สองฝาแฝดที่แกล้งหลับโทรหาคุณตาและลุงๆของเขาที่ต่างก็ช่วยกันวางแผนนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีนับอนันต์และนับนิรันดร์โตพอที่จะเข้าใจว่าระหว่างพ่อและแม่ของพวกเขาต่างก็มีเส้นใยบางๆที่คอยกั้นระหว่างความสัมพันธ์นั้นในอดีตพวกเขาต่างก็ไม่รู้ว่าเกิดปัญหาอะไรแต่เด็กทั้งสองรวมถึงวรวิทย์และมาวินเองต่างก็มองออกว่าทั้งสองคนต่างมีเยื่อใยให้กันอยู่โอเมก้าอย่างมนันย์เองแม้จะไร้กลิ่นแต่ทว่าไม่ได้ไร้เสน่ห์ไปเสียหมดเป็นเจ้าตัวเองที่ปิดกั้นไม่ให้อัลฟ่าหน้าไหนได้เข้ามาทำความรู้จักพิรชัชเองก็เช่นกันสายตาของพวกเขาต่างก็คอยมองกันและกันอยู่ตลอดเวลา 5 ปีที่ผ่านมาพิรชัชเองก็ได้พิสูจน์ให้พ่อตาอย่างวรวิทย์ได้เห็นความจริงใจและความรู้สึกผิดกับอดีตที่ผ่านมาระยะเวลาล่วงเลยมาป่านนี้แทนที่จะมีหลานให้ตาอย่างเขาอีกสัก 2-3 คนปัดโธ่เอ้ยอดที่จะสุมหัวกับหลานๆจัดฉากให้ไม่ได้แล้วก็สำเร็จเมื่อเวลาผ่านไปค่อนคืนก็ยังไม่เห็นมนันย์กลับมาตาหลานเฮลั่นกระโดดกอดกันจนตัวกลมก่อนจะแยกย้ายกันไปนอนทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทางนันธ์เดชภาคย์เองก็ได้รับข่าวคราวเช่นเดียวกันมนันย์ไม่ได้กีดกันหากปู่หลานจะโทรคุยกันบ้างเป็นครั้งคราวยังไงเด็กทั้งสองก็มี
“ผมเจอแล้วและคนคนนั้นก็คือคุณ” ใบหน้าสวยหวานของโอเมก้าแดงก่ำด้วยความเขินอายความรู้สึกครั้งนี้แตกต่างกับที่อยู่ด้วยกันบนบ้านพักบนเขาอย่างสิ้นเชิงตอนนั้นมนันย์สวมบทเป็นพยาบาลจำเป็นที่ชื่อมีนาแต่ทว่าคราวนี้พวกเขาทั้งสองต่างก็ยอมรับและมองเห็นตัวตนของกันและกันอย่างชัดเจนสายตาสีนิลที่จ้องมองมาทำเอาโอเมก้าทำตัวไม่ถูกพิรชัชจุมพิตที่หลังคอนั้นอย่างแผ่วเบารอยแผลเป็นนั้นเป็นเครื่องย้ำเตือนว่าอัลฟ่าอย่างเขาระยำเพียงใดนิ้วมือเรียวยาวสัมผัสรอยแผลนั้นด้วยความรู้สึกเสียใจและละอายใจเป็นที่สุด“เจ็บไหม”“ไม่แล้วครับ”“ตอนที่ผ่าเอามันออกล่ะเจ็บมากไหม”“การมีอยู่ของมันทำให้ผมเจ็บปวดมากกว่าในตอนนั้นโอเมก้าที่ตั้งครรภ์ต้องการฟีโรโมนของคู่มากยิ่งโอเมก้าที่ถูกทำพันธะจะทุรนทุรายเมื่อห่างจากคู่ผมในตอนนั้นไม่กล้าคาดหวังอะไรอีกอีกทั้งผมเองก็มีส่วนผิดที่โกหกคุณตั้งแต่แรก—”“อย่าโทษตัวเองอีกเลยคุณเจ็บปวดมามากพอแล้วต่อจากนี้อย่าเจ็บปวดเพราะมันอีกเลยต่อให้คุณจะไร้กลิ่นผมก็ยังจะรักคุณมีเพียงคุณจะทะนุถนอมคุณเป็นอย่างดี” ริมฝีปากหนาจุมพิตหน้าผากมนด้วยความรักและปล่อยฟีโรโมนเพื่อปลอบประโลมคู่ของตนแม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่สามารถ
“ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาคุณผ่านช่วงรัทไปได้ยังไงครับ”“ออกไปเถอะผมขอร้อง”เตียงที่ยวบข้างหลังทำเอาร่างกายอัลฟ่าแข็งค้างก่อนจะพลิกตัวหันมา “จะทำอะไร!”“ผมรู้ว่าคุณทรมานแต่ว่าคุณไม่ต้องอดกลั้นขนาดนี้ก็ได้เราต่างก็ไม่ใช่เจ้าของซึ่งกันและกันอีกทั้ง…หากคุณจะมีใครสักคนผมก็ยินดีและเชื่อว่าลูกๆต่างก็ยินดีด้วยเช่นกันเพราะฉะนั้นที่ผมจะบอกคุณก็คือตลอด 5 ปีที่ผ่านมาคุณทำหน้าที่พ่อได้ดีมากมากจนเกินกว่าที่ผมจินตนาการเอาไว้มากและผมไม่คิดว่าคุณจะทำมันมาได้นานจนถึงทุกวันนี้” มนันย์บิดผ้าขนหนูในอ่างขึ้นมาเช็ดหน้าให้อัลฟ่าที่นอนนิ่งให้เขาเช็ดหน้าให้อย่างไม่ขัดขืน“เราต่างก็ไม่มีอะไรติดค้างกันตั้งนานแล้วนะครับคุณควรจะเริ่มต้นใหม่ได้แล้ว”“ผมทำไม่ได้” มือหนาจับมือขาวที่กำลังเช็ดหน้าไว้พลางจ้องมองใบหน้าสวยหวานไล่ตั้งแต่หน้าผากมนสันจมูกจนมาถึงริมฝีปากบางก่อนจะหลับตาพร้อมกอบกุมมือขาวนั้นแนบกับใบหน้าตัวเองอย่างถวิลหาเพราะที่ผ่านมาเขาทำได้เพียงโอบกอดคนตรงหน้าเพียงความฝันเขาอยากทะนุถนอมโอเมก้าตรงหน้าให้มากที่สุดไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้สึกโกรธหรือเกลียดตัวเองไปมากกว่านี้ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาแม้จะยากลำบากสักเพียงไหนเขาก็ไม่เ