วันนี้มนันย์ตื่นตั้งแต่เช้าและเข้าเมืองไปสอบ ความรักสวยงามและไม่แน่อาจไม่มีอยู่จริง แต่การศึกษาคือใบเบิกทางเป็นของจริง เขาสลัดความฝันฟุ้งเฟ้อออกไปก่อนจะเข้าสนามสอบไปด้วยความมั่นใจ แม้พิรชัชจะสูญเสียการมองเห็นแต่สมองยังใช้งานได้ดีเหมือนเดิม แถมยังพ่วงปริญญาเอกมาจากสถาบันชื่อดังยิ่งการันตีความสามารถของเขา ก่อนนอนก็ใช้เวลาติวหนังสือให้มนันย์ทุกคืน ส่วนไหนที่มักจะออกสอบ ส่วนไหนที่ไม่สำคัญ ยิ่งไปกว่านั้นหากเขาตอบถูกจะได้รางวัล หากตอบผิดจะถูกทรมานจนดิ้นพล่าน สองแก้มแดงด้วยความเขินอายเมื่อนึกถึงข้อที่เขาตอบผิด ไหนจะเรียงความ Essay ต่าง ๆ ที่เขาเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี การสอบกินเวลา 6 ชั่วโมงพริบตาเดียวสำหรับคนสอบ แต่คนที่นั่งรออยู่ที่บ้านหงุดหงิดจนนั่งไปติดที่ ออกมานั่งรอลานบ้านตั้งแต่เที่ยง พิรชัชรู้ว่าใช้เวลาสอบนานแต่ก็อดที่จะเงี่ยหูฟังเสียงรถยนต์ไม่ได้ เมื่อมีเสียงรถยนต์เข้ามาพลันได้ยินเสียงที่คุ้นเคย แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยปากถามเสียงของอีกฝ่ายก็ดังขึ้นมาก่อน“ตาชัชเป็นยังไงบ้างลูก” พรรำไพแผดเสียงร้องออกมาอย่างยินดีเมื่อเห็นหน้าลูกชายอีกครั้งหล่อนสวมกอดพลางสำรวจลูบหน้าตาของลูกชายสำรวจจนพิรชัชอ
‘ไปได้ก็ดี’ เจ็บเจ็บเหลือเกินคำพูดแค่สี่คำแต่เหมือนเข็มพิษนับหมื่นที่ทิ่มแทงหัวใจให้ขาดวิ่นแต่ก็ช่วยไม่ได้ในเมื่อเขาเลือกที่จะกลืนยาพิษด้วยตัวเองตอนสมัยยังเด็กเคยถูกพี่เลี้ยงแกล้งให้อมบอระเพ็ดแลกกับน่องไก่ที่เหลือกินจากบ้านใหญ่เพราะความอดอยากและหิวโหยจึงไม่ปริปากและไม่กล้าคายแม้จะขมแค่ไหนก็ตามย้อนกลับไปตอนนั้นเขามันตัวโง่งมจริงๆยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อิ่มท้องตอนนี้ก็ไม่ต่างกันเขารับปากท่านเจ้าสัวเพื่อแลกกับอิสรภาพรู้ทั้งรู้ว่าไม่ควรถลำลึกและสุดท้ายรู้ดีว่าจุดจบจะเป็นแบบไหนแต่เขาก็เลือกที่จะลิ้มลองรสชาติของความใคร่ความรักแม้มันจะขมกว่าบอระเพ็ดที่เคยลิ้มลองมาหลายเท่าความคิดโอเมก้าล่องลอยจนได้ยินเสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้ก่อนจะลุกขึ้นแล้วลงไปนั่งพับเพียบข้างล่างอย่างรู้ตัว“ขึ้นมานั่งด้วยกันสิ”“ครับ” มนันย์นั่งเว้นระยะห่างกับท่านเจ้าสัวพอสมควร“ฉันจะไม่ถามว่าเกิดอะไรขึ้นเธอคงรู้ดีเรื่องข้อตกลงของเรา”“ครับ”“ขอบคุณที่ดูแลเจ้าชัชเป็นอย่างดี”“เป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วครับ” มนันย์ก้มหน้าตอบเสียงเรียบ“ส่วนเงินฉันโอนให้เธอตามที่ได้รับปากไว้และนี่” มนันย์เหลือบมองกล่องสีแดงกำมะหยี่กล่องขนาดสองฝ
สภาพของมนันย์ดูย่ำแย่เป็นอย่างมาก เมื่อสองเท้าลงจากเครื่องบินมายังอีกซีกโลกหนึ่ง เพราะคิดจะเดินออกจากใต้ปีกท่านเจ้าสัวจึงเลือกมหาลัยและเมืองอื่น ไม่ได้เลือกตามที่บอกท่านเจ้าสัวไปตั้งแต่แรก เมืองที่ท่านเจ้าสัวแนะนำเป็นเมืองใหญ่แถมยังเป็นมหา’ ลัยเดียวกับลูกชายของท่านอีก แต่มนันย์คิดดีแล้ว ถึงที่นี่จะเป็นเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในยุโรป ประชากรโอเมก้ามีไม่มากแต่ก็ได้รับสวัสดิการต่าง ๆ ไม่น้อยกว่าเมืองใหญ่ ๆ ในแถบทวีปอื่น ๆ เมืองเล็กค่อนข้างเงียบเหงาแต่ก็เงียบสงบเหมาะกับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ รออะไรเข้าที่เข้าทางเขาจะไปผ่าตัดเอาพันธะที่หลังคอออก คุณชัชคงรู้สึกไม่ดีมากนักหากรู้ว่าทำพันธะกับโอเมก้าที่ตนเกลียดโดยไม่ได้ตั้งใจผ่านเหตุการณ์นั้นมาร่วม 3 เดือนแต่มนันย์ก็นอนไม่หลับมาจนถึงทุกวันนี้ตอนแรกคิดว่าเป็นเพราะเครียดลงกระเพาะหรือเพราะ Jet lag จึงทำให้เวียนหัวคลื่นไส้ไม่หยุดอาการเหล่านั้นจะเป็นหนักโดยเฉพาะหลังตื่นนอนแต่ละคืนเขาต้องจุดเทียนหอมกลิ่นหนึ่งเป็นกลิ่นที่เขาทำขึ้นเองเพื่อช่วยให้นอนหลับสนิทตลอดทั้งคืนพอนับๆดูแล้วระยะเวลาไม่กี่เดือนเสียค่าเทียนหอมไปไม่น้อยรวมๆเกือบร้อยแก้วได้กลิ่นของมันเหม
“นี่นันไม่น่าเชื่อว่าอายุแค่นี้ทำอาหารเก่งและประยุกต์ได้เก่งมากถ้านันอยู่กับแฟนพี่นึกว่านันท้องนะเนี่ยเหมือนพี่ตอนหนุ่มๆไม่มีผิดอยากกินแต่อะไรไม่รู้” ลลนาพูดเจื้อยแจ้วอย่างเป็นกันเองก้มหน้าก้มตากินอาหารตรงหน้าอย่างเพลิดเพลินไม่ได้สนใจสีหน้าคนตรงข้ามแม้แต่น้อยหลังจากเก็บร้านก่อนจะบอกลาเพื่อนร่วมงานแล้วลลนาแล้วรอยยิ้มก่อนหน้าหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อนึกถึงคำพูดของลลนาเขาลูบท้องน้อยอย่างเหม่อลอยคงไม่หรอกมั้งฉีดยาคุมแล้วแต่เมื่อนึกถึงพฤติกรรมของตัวเองหลายเดือนที่ผ่านมาก็อดฉุกคิดไม่ได้ถ้าท้องขึ้นมาจริงๆล่ะ….วันนี้มนันย์ตื่นนอนด้วยอาการคลื่นไส้อาเจียนเหมือนทุกเช้าจึงตัดสินใจออกไปซื้อที่ตรวจครรภ์ที่ร้านขายยาข้างล่างมนันย์นั่งลุ้นยิ่งกว่าตอนประกาศทุน E เสียอีกมีความคิดสองแบบขึ้นมาในหัวไม่ท้องก็ดีเพราะพวกเขาเหมือนเส้นขนานที่ไม่อาจบรรจบกันอีกทั้งคุณชัชยังเกลียดเขาขนาดนั้นถ้าท้องขึ้นมาล่ะ… ความคิดมากมายตีกันในหัวจนเวลาครบจึงหยิบแท่งตรวจขึ้นมาด้วยความหนักอึ้งแถบสีแดงสองขีดทำเอามนันย์อ้าปากค้างเขากำลังจะเป็นแม่คนและที่ท่านเจ้าสัวเคยพูดว่าไม่อยากให้อดีตซ้ำรอยเพราะเขากำลังจะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวและลูกที
“โถ่คุณแม่มานึกเสียดายเอาป่านนี้ไม่ช้าไปเหรอครับผมบอกแล้วว่าเจ้าแก้มยุ้ยน่ารักจะตายแม่กับพี่ชัชก็มัวแต่อคติชีวิตวัยเด็กของมนันย์นั้นไม่ง่ายเลยนะครับ”เมื่อพิรภพพูดขึ้นมาบรรยากาศครึกครื้นก่อนหน้าเงียบลงทันตาพรรำไพและท่านเจ้าสัวก็คงจะรู้สึกผิดไม่น้อยตลอดระยะเวลา 20 ปีที่อาศัยอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้ไม่ต่างจากคุกไม่มีอิสระไม่มีเพื่อนฝูงวัยเยาว์ถูกพรากไปเพียงเพราะกำพร้าและถูกตราหน้าว่าเป็นลูกโสเภณีมนันย์ไม่เคยได้ออกไปเล่นที่ไหนเลยจริงๆตั้งแต่จำความได้เพื่อนเล่นของเด็กน้อยมีเพียงแต่ต้นไม้ใบหญ้าเท่านั้น“ภพรู้ว่ามนันย์เป็นโอเมก้าตั้งแต่เมื่อไหร่” พรรำไพถามออกมาด้วยความสงสัยเพราะเหมือนมีแต่เธอที่แตกตื่น“ตั้งแต่ได้กลิ่น—”“แกได้กลิ่นอะไร” เสียงดุดันของพิรชัชที่ถามขึ้นก่อนจะก้าวเท้าเข้ามาในห้องนั่งเล่นแววตาดุดันทำเอาพิรภพไม่กล้าสู้หน้าหลังผ่าตัดพี่ชายเขาคล้ายอารมณ์ไม่คงที่หนึ่งนาทีหกอารมณ์เห็นจะได้ทำเอาพนักงานกลัวจนหัวหดกันหมดเป็นพรรำไพที่เอ่ยปากทำลายบรรยากาศเมื่อสองพี่น้องทำท่าจะต่อล้อต่อเถียงกันขึ้นมาเพราะเรื่องของมนันย์อีกเช่นเคย“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ลูก”“สักพักแล้วครับ”“เอ่อ…งั้นไปล้างม
"พีโอนีดอกนี้ผลิบานมิใช่เพียงล่อลวงหมู่แมลง แต่เบ่งบานเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี และปรารถนาให้ผู้ที่พบเห็นมันได้พานพบคู่แท้ มีชีวิตรักที่สมบูรณ์พูนสุข"พิรชัชเกลียดโอเมก้าอย่างมนันย์ เพราะการมีอยู่ของเด็กคนนี้ทำเอาครอบครัวของเขาเกือบพัง สามีภรรยาที่รักกันอย่างหวานชื่นกลับหมางเมินใส่กันตั้งแต่ที่พ่อเขาอุ้มเด็กคนนี้เข้ามาในบ้าน แต่แล้ววันหนึ่งโชคชะตาพลิกผัน อัลฟ่าอย่างพิรชัชเกิดอุบัติเหตุจนทำให้ความทรงจำบางส่วนขาดหาย การรับกลิ่น การรับรสเปลี่ยนไปจากเดิม ชีวิตที่มืดมนกลับมาสว่างไสวเพราะพยาบาลจำเป็นที่ชื่อมีนาอีกครั้ง"คุณรู้สึกดีกับผมเพราะว่าคุณสามารถจินตนาการผมในรูปแบบต่าง ๆ ในแบบที่คุณชอบ หรือเป็นอะไรก็ได้ในแบบที่คุณอยากให้เป็น แต่หากสักวันหนึ่งคุณสามารถมองเห็นผมด้วยสองตาของคุณเอง คุณอาจจะไม่ชอบผมอีกแล้วก็ได้ เพราะบางทีตัวตนของผมจริง ๆ อาจจะมีแต่สิ่งที่คุณไม่ชอบเต็มไปหมด"ถ้าหากมีนาหรือมนันย์คือคนคนเดียวกัน พิรชัชจะทำเช่นไร เพราะคนที่เขาคิดจะเปิดใจหลังจากเลิกรากับแคทเทอลีนก็คือพยาบาลจำเป็นอย่างมีนา เขารักมีนาแต่เกลียดมนันย์ ส่วนมนันย์รู้อยู่เต็มอกว่าพิรชัชเกลียดตนยังกะอะไรดี หากไม
ในเมืองที่ศิวิไลแสงไฟส่องระยิบระยับสมกับเป็นเมืองในฝันของใครหลายๆคนเมืองที่พรั่งพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีและความสะดวกสบายตามประสาเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานครเมืองที่ไม่เคยหลับใหลไปตามกาลเวลาแต่ทว่าผู้คนต่างแบ่งแยกความเป็นมนุษย์เพียงแค่ชนชั้นอัลฟ่าเบต้าและโอเมก้าหนึ่งในตระกูลมั่งคั่งร่ำรวยระดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่าง ‘นันท์เดชภาคย์’ ที่ผู้คนต่างใฝ่ฝันได้รับการตอบรับเข้าทำงานกับบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับเอเชียที่แตกบริษัทย่อยออกไปหลายสิบสาขารวมไปถึงสินค้าอุปโภคบริโภคหลายชนิดเป็นหนึ่งในตระกูลอันมั่งคั่งระดับล้านล้านบาทควบกิจการทุกอย่างตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำแม้แต่รัฐบาลกลางยังต้องเกรงใจอยู่หลายส่วนหากคุณเกิดมาเป็นอัลฟ่าหรือเบต้าบริษัทพวกนี้จะอ้าแขนตอบรับคุณได้ไม่ยากไม่เหมือนกับโอเมก้าชนชั้นโอเมก้านั้นเปรียบเสมือนสิ่งมีชีวิตที่ต่ำต้อยที่สุดในห่วงโซ่อาหารของเพศรองพวกเขามีร่างกายที่พิเศษเป็นเพศชายที่สามารถท้องได้มีอาการฮีทหรือเรียกว่า ‘ฤดูผสมพันธุ์’ มีกลิ่นฟีโรโมนดึงดูดหลอกล่ออัลฟ่าให้ติดกับมัวเมาในกามาหากพลาดท่าอาจถูกตีตราเป็นเจ้าของโดยไม่เต็มใจเพราะฟีโรโมนยั่วเย้านั้นต่างก็ทำให้อัลฟ่าชั้นสูงไม
มนันย์โอเมก้าน้อยนอนหลับตาพริ้มข้างมารดา ที่ตอนนี้มีแต่สายระโยงระยางเพื่อต่อลมหายใจให้เจ้าของร่างที่อยู่ปากปล่องหุบเหวแห่งความตาย ‘มานัส’ เป็นโอเมก้าชายรุ่นน้อง เป็นน้องรหัสโอเมก้าเพียงคนเดียวของเจ้าสัวพิสิฐชัย สมัยตอนเรียนมหา’ ลัยทั้งสองเป็นพี่น้องสายรหัสที่คอยช่วยเหลือเกื้อกูลกันอยู่เสมอมา ตั้งแต่เรียนจบก็ไม่ได้พบเจอกันอีกเลยจนกระทั่งไม่กี่สัปดาห์ก่อน พิสิฐชัยได้รับสายจากเบอร์แปลกที่เขาไม่คุ้นเคย ก่อนจะกดรับสายเผื่อว่าเป็นคู่ค้าแต่ทว่ากลับต้องตกใจเมื่อปลายสายเอ่ยแนะนำตัวพร้อมเอ่ยขอร้องเสียงกระท่อนกระแท่นขาดหายแทบฟังไม่ได้ศัพท์เมื่อเจ้าสัวพิสิฐชัยเดินทางมาถึงโรงพยาบาลก็ต้องพบกับความอดสูร่างกายโอเมก้าที่เคยเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลบัดนี้เหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกผมที่เคยดกดำนิ่มสลวยไม่กี่ปีก่อนหน้าเหลือเพียงไม่กี่หย่อมดวงหน้าตอบตาลึกโบ๋หายใจอ่อนแรงใกล้ร่วงโรยเต็มทีพิสิฐชัยจำได้ว่าน้องรหัสมาจากครอบครัวคนชั้นกลางแต่หลังจากเรียนจบก็ไม่ได้ติดต่อไปมาหาสู่กันอีกไม่คิดว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เจอเขาจึงตัดสินใจรับเด็กทารกที่ลืมตาดูโลกเพียงไม่กี่วันมาอุปการะ“ฝะ…ฝากดูแลมนันย์ด้วยนะครับ” ลำ
“โถ่คุณแม่มานึกเสียดายเอาป่านนี้ไม่ช้าไปเหรอครับผมบอกแล้วว่าเจ้าแก้มยุ้ยน่ารักจะตายแม่กับพี่ชัชก็มัวแต่อคติชีวิตวัยเด็กของมนันย์นั้นไม่ง่ายเลยนะครับ”เมื่อพิรภพพูดขึ้นมาบรรยากาศครึกครื้นก่อนหน้าเงียบลงทันตาพรรำไพและท่านเจ้าสัวก็คงจะรู้สึกผิดไม่น้อยตลอดระยะเวลา 20 ปีที่อาศัยอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้ไม่ต่างจากคุกไม่มีอิสระไม่มีเพื่อนฝูงวัยเยาว์ถูกพรากไปเพียงเพราะกำพร้าและถูกตราหน้าว่าเป็นลูกโสเภณีมนันย์ไม่เคยได้ออกไปเล่นที่ไหนเลยจริงๆตั้งแต่จำความได้เพื่อนเล่นของเด็กน้อยมีเพียงแต่ต้นไม้ใบหญ้าเท่านั้น“ภพรู้ว่ามนันย์เป็นโอเมก้าตั้งแต่เมื่อไหร่” พรรำไพถามออกมาด้วยความสงสัยเพราะเหมือนมีแต่เธอที่แตกตื่น“ตั้งแต่ได้กลิ่น—”“แกได้กลิ่นอะไร” เสียงดุดันของพิรชัชที่ถามขึ้นก่อนจะก้าวเท้าเข้ามาในห้องนั่งเล่นแววตาดุดันทำเอาพิรภพไม่กล้าสู้หน้าหลังผ่าตัดพี่ชายเขาคล้ายอารมณ์ไม่คงที่หนึ่งนาทีหกอารมณ์เห็นจะได้ทำเอาพนักงานกลัวจนหัวหดกันหมดเป็นพรรำไพที่เอ่ยปากทำลายบรรยากาศเมื่อสองพี่น้องทำท่าจะต่อล้อต่อเถียงกันขึ้นมาเพราะเรื่องของมนันย์อีกเช่นเคย“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ลูก”“สักพักแล้วครับ”“เอ่อ…งั้นไปล้างม
“นี่นันไม่น่าเชื่อว่าอายุแค่นี้ทำอาหารเก่งและประยุกต์ได้เก่งมากถ้านันอยู่กับแฟนพี่นึกว่านันท้องนะเนี่ยเหมือนพี่ตอนหนุ่มๆไม่มีผิดอยากกินแต่อะไรไม่รู้” ลลนาพูดเจื้อยแจ้วอย่างเป็นกันเองก้มหน้าก้มตากินอาหารตรงหน้าอย่างเพลิดเพลินไม่ได้สนใจสีหน้าคนตรงข้ามแม้แต่น้อยหลังจากเก็บร้านก่อนจะบอกลาเพื่อนร่วมงานแล้วลลนาแล้วรอยยิ้มก่อนหน้าหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อนึกถึงคำพูดของลลนาเขาลูบท้องน้อยอย่างเหม่อลอยคงไม่หรอกมั้งฉีดยาคุมแล้วแต่เมื่อนึกถึงพฤติกรรมของตัวเองหลายเดือนที่ผ่านมาก็อดฉุกคิดไม่ได้ถ้าท้องขึ้นมาจริงๆล่ะ….วันนี้มนันย์ตื่นนอนด้วยอาการคลื่นไส้อาเจียนเหมือนทุกเช้าจึงตัดสินใจออกไปซื้อที่ตรวจครรภ์ที่ร้านขายยาข้างล่างมนันย์นั่งลุ้นยิ่งกว่าตอนประกาศทุน E เสียอีกมีความคิดสองแบบขึ้นมาในหัวไม่ท้องก็ดีเพราะพวกเขาเหมือนเส้นขนานที่ไม่อาจบรรจบกันอีกทั้งคุณชัชยังเกลียดเขาขนาดนั้นถ้าท้องขึ้นมาล่ะ… ความคิดมากมายตีกันในหัวจนเวลาครบจึงหยิบแท่งตรวจขึ้นมาด้วยความหนักอึ้งแถบสีแดงสองขีดทำเอามนันย์อ้าปากค้างเขากำลังจะเป็นแม่คนและที่ท่านเจ้าสัวเคยพูดว่าไม่อยากให้อดีตซ้ำรอยเพราะเขากำลังจะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวและลูกที
สภาพของมนันย์ดูย่ำแย่เป็นอย่างมาก เมื่อสองเท้าลงจากเครื่องบินมายังอีกซีกโลกหนึ่ง เพราะคิดจะเดินออกจากใต้ปีกท่านเจ้าสัวจึงเลือกมหาลัยและเมืองอื่น ไม่ได้เลือกตามที่บอกท่านเจ้าสัวไปตั้งแต่แรก เมืองที่ท่านเจ้าสัวแนะนำเป็นเมืองใหญ่แถมยังเป็นมหา’ ลัยเดียวกับลูกชายของท่านอีก แต่มนันย์คิดดีแล้ว ถึงที่นี่จะเป็นเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในยุโรป ประชากรโอเมก้ามีไม่มากแต่ก็ได้รับสวัสดิการต่าง ๆ ไม่น้อยกว่าเมืองใหญ่ ๆ ในแถบทวีปอื่น ๆ เมืองเล็กค่อนข้างเงียบเหงาแต่ก็เงียบสงบเหมาะกับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ รออะไรเข้าที่เข้าทางเขาจะไปผ่าตัดเอาพันธะที่หลังคอออก คุณชัชคงรู้สึกไม่ดีมากนักหากรู้ว่าทำพันธะกับโอเมก้าที่ตนเกลียดโดยไม่ได้ตั้งใจผ่านเหตุการณ์นั้นมาร่วม 3 เดือนแต่มนันย์ก็นอนไม่หลับมาจนถึงทุกวันนี้ตอนแรกคิดว่าเป็นเพราะเครียดลงกระเพาะหรือเพราะ Jet lag จึงทำให้เวียนหัวคลื่นไส้ไม่หยุดอาการเหล่านั้นจะเป็นหนักโดยเฉพาะหลังตื่นนอนแต่ละคืนเขาต้องจุดเทียนหอมกลิ่นหนึ่งเป็นกลิ่นที่เขาทำขึ้นเองเพื่อช่วยให้นอนหลับสนิทตลอดทั้งคืนพอนับๆดูแล้วระยะเวลาไม่กี่เดือนเสียค่าเทียนหอมไปไม่น้อยรวมๆเกือบร้อยแก้วได้กลิ่นของมันเหม
‘ไปได้ก็ดี’ เจ็บเจ็บเหลือเกินคำพูดแค่สี่คำแต่เหมือนเข็มพิษนับหมื่นที่ทิ่มแทงหัวใจให้ขาดวิ่นแต่ก็ช่วยไม่ได้ในเมื่อเขาเลือกที่จะกลืนยาพิษด้วยตัวเองตอนสมัยยังเด็กเคยถูกพี่เลี้ยงแกล้งให้อมบอระเพ็ดแลกกับน่องไก่ที่เหลือกินจากบ้านใหญ่เพราะความอดอยากและหิวโหยจึงไม่ปริปากและไม่กล้าคายแม้จะขมแค่ไหนก็ตามย้อนกลับไปตอนนั้นเขามันตัวโง่งมจริงๆยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อิ่มท้องตอนนี้ก็ไม่ต่างกันเขารับปากท่านเจ้าสัวเพื่อแลกกับอิสรภาพรู้ทั้งรู้ว่าไม่ควรถลำลึกและสุดท้ายรู้ดีว่าจุดจบจะเป็นแบบไหนแต่เขาก็เลือกที่จะลิ้มลองรสชาติของความใคร่ความรักแม้มันจะขมกว่าบอระเพ็ดที่เคยลิ้มลองมาหลายเท่าความคิดโอเมก้าล่องลอยจนได้ยินเสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้ก่อนจะลุกขึ้นแล้วลงไปนั่งพับเพียบข้างล่างอย่างรู้ตัว“ขึ้นมานั่งด้วยกันสิ”“ครับ” มนันย์นั่งเว้นระยะห่างกับท่านเจ้าสัวพอสมควร“ฉันจะไม่ถามว่าเกิดอะไรขึ้นเธอคงรู้ดีเรื่องข้อตกลงของเรา”“ครับ”“ขอบคุณที่ดูแลเจ้าชัชเป็นอย่างดี”“เป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วครับ” มนันย์ก้มหน้าตอบเสียงเรียบ“ส่วนเงินฉันโอนให้เธอตามที่ได้รับปากไว้และนี่” มนันย์เหลือบมองกล่องสีแดงกำมะหยี่กล่องขนาดสองฝ
วันนี้มนันย์ตื่นตั้งแต่เช้าและเข้าเมืองไปสอบ ความรักสวยงามและไม่แน่อาจไม่มีอยู่จริง แต่การศึกษาคือใบเบิกทางเป็นของจริง เขาสลัดความฝันฟุ้งเฟ้อออกไปก่อนจะเข้าสนามสอบไปด้วยความมั่นใจ แม้พิรชัชจะสูญเสียการมองเห็นแต่สมองยังใช้งานได้ดีเหมือนเดิม แถมยังพ่วงปริญญาเอกมาจากสถาบันชื่อดังยิ่งการันตีความสามารถของเขา ก่อนนอนก็ใช้เวลาติวหนังสือให้มนันย์ทุกคืน ส่วนไหนที่มักจะออกสอบ ส่วนไหนที่ไม่สำคัญ ยิ่งไปกว่านั้นหากเขาตอบถูกจะได้รางวัล หากตอบผิดจะถูกทรมานจนดิ้นพล่าน สองแก้มแดงด้วยความเขินอายเมื่อนึกถึงข้อที่เขาตอบผิด ไหนจะเรียงความ Essay ต่าง ๆ ที่เขาเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี การสอบกินเวลา 6 ชั่วโมงพริบตาเดียวสำหรับคนสอบ แต่คนที่นั่งรออยู่ที่บ้านหงุดหงิดจนนั่งไปติดที่ ออกมานั่งรอลานบ้านตั้งแต่เที่ยง พิรชัชรู้ว่าใช้เวลาสอบนานแต่ก็อดที่จะเงี่ยหูฟังเสียงรถยนต์ไม่ได้ เมื่อมีเสียงรถยนต์เข้ามาพลันได้ยินเสียงที่คุ้นเคย แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยปากถามเสียงของอีกฝ่ายก็ดังขึ้นมาก่อน“ตาชัชเป็นยังไงบ้างลูก” พรรำไพแผดเสียงร้องออกมาอย่างยินดีเมื่อเห็นหน้าลูกชายอีกครั้งหล่อนสวมกอดพลางสำรวจลูบหน้าตาของลูกชายสำรวจจนพิรชัชอ
สองมือสอดประสานกันแน่นอัลฟ่าโน้มกายแตะหน้าผากเนียนของอีกฝ่ายเหมือนต้องการจะส่งผ่านความจริงใจและความรู้สึกที่มีไปถึงอีกคนมนันย์ปล่อยให้น้ำตาไหลหลั่งไหล่อยู่อย่างนั้น‘นี่คุณชัชกำลังร้องขอความรักจากเขาอย่างนั้นเหรอ’สัมผัสจุมพิตแผ่วเบาที่เปลือกตาไล่ลงมาถึงโหนกแก้มก่อนจะจรดแนบริมฝีปากบางคล้ายต้องการสื่อถึงความรู้สึกบางอย่างเรียวลิ้นกวาดต้อนไปทั่วโพรงปากก่อนจะเปลี่ยนจังหวะเป็นจูบที่โหยหารุนแรงทำเอาโอเมก้าหอบหายใจแทบไม่ทัน“อื้อ” เสียงเฉอะแฉะของน้ำลายดังก้องไปทั่วห้องครัวอันคับแคบมนันย์ถูกอุ้มขึ้นมาตรงเค้าเตอร์โดยไม่รู้ตัวรู้แต่ว่าจูบครั้งนี้ทำให้เขาล่องลอยคล้ายตกอยู่ในห้วงฝันที่ไม่กล้าฝันและคิดว่ามีอยู่จริงสองแขนกอดรอบคออัลฟ่าอย่างหวงแหนปรับองศาของใบหน้าเพื่อให้สองลิ้นได้เกี่ยวกระหวัดซึมซับความหอมหวานของกันและกัน“อาหารเช้าเดี๋ยวค่อยอุ่นใหม่ละกัน” พิรชัชกระซิบที่ใบหูขาวที่ระเรื่อด้วยสีแดงอย่างหยอกเย้า“อะไรนะครับ”“เพราะฉันจะกินนายก่อน”“อื้อ”“ไม่ครับเดี๋ยวป้ามะลิมาเห็นเอา”ฝ่ามือร้อนลากไล้และบีบเคล้นก้นนุ่มอย่างมันมือไล่ผ่านเข้าไปในสาบเสื้อปัดป่ายตุ่มเชอร์รี่ไปมาสร้างความรัญจวนแก่โอเมก้
มนันย์ตื่นแต่เช้าออกมาเข้าครัวเตรียมอาหารให้พิรชัชตามปกติสองแขนกำลังจัดเรียงข้าวต้มและกาแฟลงบนโต๊ะแต่ก็ต้องสะดุ้งเมื่อรับรู้ถึงสองแขนที่โอบรัดบั้นเอวพร้อมกับแก้มขาวที่ถูกหอมไปหนึ่งฟอด“คุณพิรชัช”“ปล่อยเถอะครับเดี๋ยวมีใครมาเห็นเข้ามันจะไม่ดี” มนันย์ขัดขืนเพราะกลัวว่าป้ามะลิจะขึ้นมาเห็นแต่แรงกอดรัดทางด้านหลังทำให้เขาไม่สามารถขัดขืนได้อย่างเต็มที่“ไม่ดียังไง…หืม” ไม่ถามเปล่าแถมยังก้มลงหอมซอกคอไปอีกหนึ่งฟอดนิ้วเรียวยาวสัมผัสเข้ากับแผ่นแปะตรงหลังคอของโอเมก้าทำเอาเจ้าตัวตกใจจนตัวชาวาบ“นี่แผ่นอะไร”“คือ…เป็นแผ่นแปะปวดน่ะครับ” มนันย์ตอบไม่เต็มเสียงกลัวว่าพิรชัชจะจับได้“ปวดมากเลยเหรอฉันนวดให้เอาไหม”“อื้อ” สัมผัสนั้นแผ่วเบาแต่ทว่าทำให้โอเมก้าใจสั่นระรัวฟีโรโมนบางเบาสายหนึ่งปล่อยออกมาอบอวลล้อมรอบเจ้าของร่าง“กลิ่นนี่มัน…”มนันย์เบี่ยงตัวออกจากอ้อมแขนแกร่งนั้นออกมายืนตรงข้ามทันที“คุณพิรชัชมานั่งตรงนี้เถอะครับผมเตรียมเสร็จแล้วจะได้ทานตอนร้อนๆ”“ทานก่อนเลยนะครับผมขอเข้าเป็นดูในครัวสักหน่อย” มนันย์เดินหนีเข้าไปสงบจิตใจในห้องครัวอยู่สักครู่สองมือเย็นชืดบีบเข้าหากันด้วยใจความรู้สึกกระวนกระวายแม้
หลังจากคุณหญิงพรรำไพประสบอุบัติเหตุพักผ่อนในกรุงเทพหายดีแล้วจึงคิดไปเยี่ยมเยียนลูกชายหัวแก้วหัวแหวนตั้งใจกะว่าจะไปเซอร์ไพรส์จัดงานเลี้ยงฉลองกินกันพร้อมหน้าก่อนที่พิรชัชจะเข้ารับการผ่าตัดอีกครั้งลูกชายคนเล็กหลังจากหายดีก็ออกไปอยู่คอนโดข้างนอกเพื่อย่นระยะในการไปกลับและพักผ่อนมากขึ้นพิรภพเข้ามามีบทบาทในนามผู้บริหารอย่างเต็มตัวเขาดูแลกิจการหลายอย่างจนหัวหมุนไปหมดไหนจะพิษสงครามการค้าและเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยจะดีนักจนต้องโหมทำงานอย่างหนักรวมไปถึงท่านเจ้าสัวด้วยเช่นกันครอบครัวเลยไม่ค่อยได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันสักเท่าไหร่ป้ามะลิคนเก่าคนแก่ของเธอที่คอยดูแลลูกชายก็ไม่ใช่คนช่างคุยสักเท่าไหร่ถามคำตอบคำไม่รู้ว่ามนันย์ดูแลลูกชายของเธอยังไงบ้างแม้จะมีรสมือในการทำอาหารเป็นเลิศแต่ลูกชายเธอก็ยังอคติอยู่ดีไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะใช้เวลานี้มากลั่นแกล้งอะไรหรือเปล่าแม้ว่ามนันย์จะไม่ใช่คนแบบนั้นก็เถอะความคิดของเธอฟุ้งซ่านเป็นตุเป็นตะก่อนจะปรึกษากับท่านเจ้าสัวพิสิฐชัยเรื่องการเดินทางไปเยี่ยมพิรชัชที่บ้านพักต่างจังหวัดสักหน่อยอีกห้าวันก็จะถึงวันเดินทางกลับชีวิตของพิรชัชมีชีวิตชีวามากขึ้นเมื่อได้มีนาเป็นคนดูแลพวกเข
เหมือนทั้งสองจะรู้ว่าเวลาแห่งความสุขเหลือลงน้อยลงไปทุกทีอัลฟ่าอย่างพิรชัชเองก็มีเรื่องราวให้ขบคิดมากเช่นกันการเข้ารับการผ่าตัดในครั้งนี้ไม่รู้ว่าจะเกิดผลข้างเคียงอะไรอีกไหมการรับกลิ่นการรับรสสุดท้ายถือการกลับมามองเห็นได้เหมือนเดิมและสิ่งที่พิรชัชกังวลก็คือตอนนี้เขาชินกับกลิ่นดอกพีโอนีไปเสียแล้วอีกทั้งมันยังเป็นกลิ่นประจำกายของใครบางคนเป็นกลิ่นที่ทำให้เขารู้สึกดีทุกครั้งเมื่ออยู่ใกล้ไม่เหมือนกับกลิ่นของทุ่งพีโอนีในสวนมันหอมหวานละมุนและอธิบายออกมาไม่ได้ว่าคล้ายคลึงกับกลิ่นอะไรความวิตกกังวลที่มีทำให้พิรชัชอ่อนโยนกับมีนาหรือมนันย์โดยไม่รู้ตัวอัลฟ่าเป็นเพศรองที่หวงถิ่นหวงของสิ่งเดียวที่เขาทำได้ตอนนี้ก็คือไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายสบโอกาสตีตัวออกหากเขาเอาตัวเองไปพัวพันและผูกติดกับมีนาทุกย่างก้าวพิรชัชที่ผ่านการคบหาดูใจกับใครมาต่อหลายคนแม้แต่แคทเทอลีนที่วางอนาคตจะใช้ชีวิตร่วมกันยังไม่สามารถสั่นคลอนความรู้สึกของเขาได้เท่ามีนาอัลฟ่าอย่างเขาไม่เคยเอาชีวิตอิสระไปผูกติดไว้กับใครเว้นช่องว่างให้กันและกันเสมอมาไม่เคยมีใครมีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตของเขาได้เท่าคนคนนี้อีกแล้วแปลก! แต่พิรชัชก็หาคำตอบให้ตัวเองไม่