หลังจากที่เคลียร์ทุกอย่างที่กรุงเทพเสร็จหมดเรียบร้อยแล้ว กชกรก็พาตัวเองย้ายมาที่เขาใหญ่ในเวลาต่อมา คอนโดของเธอนั้นไม่ได้ถูกขาย ส่วนหนึ่งข้าวของที่เก็บเอาไว้ยังคงอยู่ที่นั่นเป็นส่วนมาก ส่วนกระเป๋าที่ติดตัวมาที่นี่มีเพียงสองกระเป๋าเดินทางใบใหญ่เท่านั้นที่เธอยัดใส่หลังรถมา โดยณภัทรบอกว่าให้เธอย้ายมาอาศัยอยู่ที่บ้านพักของเขาได้เลย ที่นี่มีที่พักให้พร้อมถ้าหากว่าเธอไม่ติด เพราะช่วงหลังๆมานี้เขาเองต้องเลี้ยงลูกเองคนเดียว เด็กหญิงณรายาก็เลยค่อนข้างติดเขา เขาก็เลยอยากให้ลูกอยู่ในสายตาตลอด ซึ่งนั่นกชกรคิดว่าก็เป็นเรื่องดีเสียอีกที่เธอจะได้มีโอกาสได้กลับมาอยู่ใกล้กับณภัทรกชกรใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงกว่าในการขับพาตัวเองมาถึงยังอาณาบริเวณที่ตั้งของโรงแรมหรูขนาดใหญ่ใจกลางเขาใหญ่ โรงแรมแห่งนี้เธอเองก็เคยพอได้เห็นผ่านตามาบ้าง แต่ไม่คิดว่ามันจะเป็นหนึ่งในธุรกิจของบิดาณภัทร ทันทีที่รถยนต์ของเธอขับเลี้ยวเข้ามาจอดยังส่วนที่เป็นบ้านพักสไตล์โมเดิร์น ซึ่งอยู่เลยมาทางส่วนที่เป็นโรงแรมไกลอยู่พอสมควร กชกรก็ได้แต่ตกตะลึงในความงามของบ้านและทัศนียภาพที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขา โดยบ้านพักที่อยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้เป็นบ้า
เช้านี้กชกรตื่นมาตั้งแต่หกโมงเช้าเพื่อมาเตรียมตัวในทำหน้าที่ใหม่ เมื่อคืนณภัทรเอาณรายาไปนอนด้วยเพราะอยากให้เธอได้หายเหนื่อยและมีเวลาปรับตัวก่อน เธอจึงได้มีโอกาสได้นอนหลับอย่างสบายๆ เช้านี้จึงได้ม้แรงลุกขึ้นมาเตรียมอาหารเช้าให้สองพ่อลูกแต่เช้า แล้วจึงตั้งใจว่าจะเข้าไปปลุกทั้งสองคนขณะที่ทำอาหารเช้าไป ในใจก็รู้สึกปลื้มปรีติอยู่ไม่น้อย ประหนึ่งว่าหน้าที่นี้ทำให้เธอแอบรู้สึกว่าตัวเองกำลังทำหน้าที่ดูแลสามีและลูกเล็กอยู่ก็ไม่ปาน ทั้งๆที่ความเป็นจริงแล้วเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่มันเกิดจากการมโนของเธอเองล้วนๆ หลังจากเตรียมอาหารเสร็จก็เดินเข้าไปเคาะห้องอยู่สองสามที จากนั้นณภัทรก็เปิดประตูอุ้มลูกออกมาด้วยสภาพที่พึ่งตื่นด้วยกันทั้งคู่ จนเธอเห็นแล้วก็อดขำกับภาพที่เห็นไม่ได้"มอนิ่ง ได้เวลาตื่นนอนแล้วค่ะคุณพ่อคุณลูก อาหารเช้าเสร็จแล้ว เชิญที่โต๊ะกันได้เลยค่ะ""ตื่นเช้าจังเลยกั้ง นี่เราไม่ได้จ้างกั้งให้มาเริ่มงานตั้งแต่หกโมงเช้าขนาดนี้นะ""อันนี้กั้งไม่ได้ถือว่าทำงานหรอก นะบอกเองไม่ใช่เหรอว่าเราเริ่มงานแปดโมงครึ่ง แต่นี่พึ่งเจ็ดโมงกว่าเอง ตอนนี้ถือว่าเราทำหน้าที่เพื่อนก็แล้วกันนะ"ว่าแล้วกชกรก็ยื่นมือ
หนึ่งเดือนผ่านไปไวเหมือนโกหก อยู่ๆไปๆมาๆเธอก็กลายเป็นพี่เลี้ยงเด็กได้สี่อาทิตย์แล้ว ทุกอย่างก็ดูว่าจะเป็นไปได้ด้วยดี เธอเริ่มรู้ใจณรายามากขึ้น จนทุกวันนี้ณภัทรส่งตัวลูกสาวมานอนด้วยกันกับเธอแทบจะทุกคืน เพราะบางคืนเขาเองก็เลิกงานดึก บอกว่ามีงานเลี้ยง ยิ่งช่วงนี้เป็นไฮซีซั่น ณภัทรบอกว่างานที่โรงแรมค่อนข้างจะยุ่ง เลยอยากจะขอฝากณรายาไว้เพิ่มกับเธอมากขึ้นโดยที่เขายินยอมที่จะจ่ายโอทีให้แบบงามๆ เรื่องเลี้ยงลูกสาวให้เขานั้นเธอเองก็ไม่ได้มีปัญหา มัดรวมทั้งหน้าที่พี่เลี้ยงและเพื่อนสนิทรวมกันเข้าไป ดูแลเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆแค่นี้ถือว่าชิวมากอยู่แล้วแต่..หลังจากเมื่อเช้าที่เธอเปิดประตูพาณรายาออกไป หัวใจของเธอเองก็แทบจะหยุดเต้น เมื่อภาพที่เห็นเบื้องหน้าคือณภัทรนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเดินออกมาส่งผู้หญิงคนหนึ่งออกประตูบ้านไป ทันทีที่เขาเห็นเธอก็หน้าเจื่อนลงคล้ายกับว่าตกใจ แต่เธอนี่สิที่ตกใจกว่า หัวใจที่เคยเบิกบานถึงกับเหี่ยวแฟบลงจนแทบจะหยุดเต้น ขนาดว่าอยากจะร้องไห้ แต่ก็กลับไม่มีน้ำตา จากนั้นณภัทรก็ขอตัวกลับเข้าห้องไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วจึงกลับออกมา กชกรเองยอมรับว่าเธอเองก็ไม่รู้ว่าควรจะทำหน้าแบบไหน รู้เ
กชกรใช้เวลาในการว่ายน้ำอยู่ราวๆเกือบสองชั่วโมง พอเริ่มรู้สึกว่าแสงของพระอาทิตย์แรงขึ้นแยงตา จึงได้ขึ้นจากสระว่ายน้ำแล้วพาตัวเองกลับเข้าบ้านไป จากนั้นก็หามื้อเช้าใส่ท้องให้ตัวเองด้วยอะไรง่ายๆ พวกขนมปังปิ้งอาหารเช้าแบบอเมริกันที่แสนคุ้นเคย ก่อนจะแต่งตัวแล้วขับรถออกไปในเมืองเพื่อซื้อของกินของใช้ วันนี้ไหนๆก็ว่างแล้วก็เลยจะขอใช้เวลาในวันหยุดกับตัวเองให้เต็มที่สักหน่อย เพราะตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่ หน้าที่การดูแลณรายาทั้งกลางวันและกลางคืนก็ตกมาอยู่ที่เธออย่างสมบูรณ์แบบ บางคืนณภัทรก็แอบไม่กลับบ้านบ้าง เธอเองก็ไม่ใช่คนโง่ที่จะไม่รู้ว่าเขาหายไปไหน แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อเธอเต็มใจ และพอยิ่งอยู่นานไปก็เริ่มเกิดความรู้สึกผูกพันกับเด็กหญิงตัวน้อยขึ้นมาราวกับว่าเป็นลูกเป็นหลานตัวเองแท้ๆพอมาถึงในเมืองกชกรก็เริ่มจากเข้าร้านทำเล็บ นวดตัวทำสปา ปกติตอนที่อยู่กรุงเทพเธอก็มักจะทำอะไรแบบนี้อยู่บ้าง ถึงจะไม่บ่อยก็ตกเดือนละครั้งสองครั้งได้ แต่พอตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่กลับยังไม่มีโอกาสได้ทำแบบนี้เลย วันนี้จึงนับได้ว่าเป็นโอกาสที่ดีหลังจากใช้บริการด้านความงามเสร็จก็พาตัวเองขับแวะต่อเข้าห้างสรรพสินค้าเพื่อห
"สวัสดีดีค่ะพี่น่าน ยี่หวาคิดถึงจังเลย"กชกรได้แต่แอบเบะปากด้วยความหมั่นไส้อยู่ในใจ ใครจะว่าเธอนิสัยไม่ดีก็ได้ เพราะเธออยากจะทำแบบนั้นจริงๆ เมื่อคนสองคนตรงหน้าทำราวกับว่าพึ่งจะได้กลับมาพบหน้ากันหลังจากที่ต้องห่างกันไกล เอาแต่กอดรัดฟัดเหวี่ยงโดยที่ไม่ได้คิดจะสนใจเลยว่าที่ตรงนี้มันยังมีคนอื่นอยู่ด้วยหรือเปล่า ทำอย่างกับว่าทั้งสองคนนั้นไม่ได้นึกแคร์เลยว่าเธอและณภัทรยืนอยู่ตรงนี้ ราวกับว่าโลกทั้งใบมีเพียงแค่เขาสองคน"ขอโทษทีค่ะยี่หวาคิดถึงพี่น่านมากไปหน่อย สวัสดีนะคะพี่นะ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะตั้งแต่ขายคอนโด แล้วก็ เอ่อ นี่ใครเหรอคะ"สายตาดูร้าย! กชกรลอบประเมินดูสถานะการณ์จากหญิงสาวที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามมาสักพักแล้ว ผู้หญิงที่หน้าตาสะสวย แต่งตัวจัดเต็มแบบขาดๆ เกาะอกยีนต์สีซีดโชว์สะดือกับกระโปรงยีนต์เข้าชุดสีเดียวกันเกือบสั้นเสมอต้นขาที่แอบเหลือบสายตามามองเธอสองสามหนตั้งแต่วินาทีแรกที่เหยียบย่างเข้ามา"สวัสดียี่หวา นี่กั้งเพื่อนสนิทพี่เอง แล้วก็ตอนนี้พ่วงตำแหน่งพี่เลี้ยงกิตติมศักดิ์ของลูกสาวพี่ด้วย""อ๋อเหรอคะ เพื่อนสนิทพี่นะงั้นก็แสดงว่าอายุมากกว่ายี่หวาสินะคะ พี่เขาดูหน้าเด็กมากเลย ตอนแร
"คนอื่นมั้งครับ ถ้าน้องกั้งเขาไม่ได้อยากจะรู้สึกว่าพี่เป็นพี่ชายเพื่อนสนิทตัวเอง งั้นก็คงอยากให้พี่เป็นแค่..คนอื่นมากกว่า"ถ้าหากว่าไม่ใช่เธอแล้วกชกรคิดว่ายังไงเสียทั้งณภัทรและหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆเขาก็คงจะไม่มีทางเข้าใจความในที่เขาต้องการจะสื่อ แต่สำหรับเธอที่พอจะได้รู้จักบางมุมของเขามาแล้ว แม้ว่าจะครั้งสองครั้ง แต่กชกรเองมั่นใจดีว่าเขาต้องการสื่อถึงอะไร"เหรอคะ พี่กั้ง จริงอย่างที่พี่น่านพูดหรือเปล่าคะว่าพี่กั้งไม่อยากให้พี่น่านเป็นพี่ชาย พี่กั้งอยากให้พี่น่านเป็นแค่คนอื่นเหรอคะ ทำไมล่ะคะ"เด็กนี่กำลังอยากจ้องจะจับผิดเธอ สายตาท่าทาง คำพูดและน้ำเสียงที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่ากำลังหวง 'ของ' ก็แหงล่ะสิ เธอยังจำได้ดีหรอกว่าเด็กนี่พูดอะไรตอนที่ยืนคุยโทรศัพท์ในห้องน้ำบ้าง ถ้าหากว่าเป็นไปได้กชกรก็อยากที่จะตะโกนใส่ว่าผู้ชายที่เจ้าหล่อนหวงนักหนานั้นเธอไม่เคยอยากได้"ก็ไม่ทำไมนี่คะ แค่พี่เกิดมาเป็นลูกคนเดียวไม่มีพี่น้องที่ไหน อยู่ๆถ้าจะให้ไปรู้สึกว่ามีพี่ชายแบบปุบปับก็คงจะแปลก คงต้องขอโทษคุ..พี่น่านด้วยนะคะ ขอโทษนะ นะ""อ๋อ ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ยี่หวาเข้าใจแล้วล่ะค่ะ งั้นยี่หวาว่าพี่นะกับ
ขณะที่กำลังครึ่งหลับครึ่งตื่น อยู่ๆหูก็แว่วดังได้ยินเสียงประตูห้องถูกเปิดเข้ามา ณภัทรคงจะกลับมาแล้ว แต่หนังตาเธอก็กลับหนักกว่าที่จะลืมขึ้นมาดูไหว จึงได้ปล่อยให้ตัวเองหลับต่อไปที่บนเตียงขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ที่ณภัทรเอามาตั้งไว้สำหรับนอนเฝ้าลูกทันใดนั้นเอง อยู่ๆกชกรก็เริ่มรู้สึกราวกับว่าเตียงที่เธอนอนอยู่นั้นมันได้ยูบลง ดวงตากลมโตจึงจำเป็นต้องพยายามปรือขึ้นท่ามกลางเเสงสลัวของโคมไฟที่หรี่เอาไว้จนเหลือแสงแค่เพียงเล็กน้อยให้พอได้มองเด็กเด็กหญิงตัวอ้วนที่นอนหลับอุตุอยู่บนเตียงของตัวเองณภัทรอย่างนั้นเหรอ? แต่ก็ไม่น่าจะใช่ปกติถ้าณภัทรเห็นว่าเธอนอนอยู่ในห้องนี้กับขนมแล้วเขาก็จะไม่เข้ามายุ่ง รายนั้นพอเห็นว่าเธอดูลูกให้ได้ก็จะหาเรื่องออกไปข้างนอกต่ออย่างที่ใจเขาอยากไปให้เธอได้ปวดใจเล่น ทันทีที่ได้ลืมตา อยู่ๆก็มีฝ่ามือใหญ่ตามเข้ามาปิดปากเธอเอาไว้ราวกับล่วงรู้ว่าเธอกำลังจะอ้าปากร้อง แต่ก็ถูกฝ่ามือนั่นปิดปากเอาไว้ได้ทัน"อื้อ""เงียบๆสิครับน้องกั้ง เดี๋ยวหลานพี่ตื่น"กระนั้นพอเห็นหน้าชัดบวกกับได้ยินน้ำเสียงเสียเต็มสองหูว่าคนที่กำลังบุกรุกเข้ามาในห้องของณรายาคือใคร กชกรก็รีบสะบัดหน้ามือตามด้วยรีบแก
ไม่มีทางยอม เธอจะไม่มีทางยอมรับข้อเสนอบ้าๆนั่นของเขาเด็ดขาด ถึงแม้ว่าสิ่งที่ณวัฒน์เสนอมาจะไม่ใช่การที่เธอต้องแลกด้วยการยอมนอนกับเขาเหมือนอย่างที่นึกกลัว แต่การที่จะต้องกลายเป็น 'เพื่อนเที่ยว' ของเขานั้นมันก็ช่างเป็นอะไรที่ไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย ทำไมเขาจะต้องอยากมาบังคับให้เธอทำอะไรแบบนั้นด้วย ในเมื่อแฟนตัวเองก็มีแท้ๆ ทำไมไม่ไปทำกับแฟนตัวเองล่ะ 'ถ้าไม่อยากให้เจ้านะรู้เรื่องนี้ กั้งก็ต้องยอมตามใจพี่ ตอนไหนที่เจ้านะอยู่พี่ก็จะไม่ยุ่งกับกั้งและก็สัญญาว่าเจ้านะจะไม่มีทางรู้เรื่องของเราจากปากพี่แน่นอน แต่เวลาไหนที่เจ้านะไม่อยู่ เวลาของกั้งทั้งหมดต้องเป็นของพี่ พี่อยากไปเที่ยวไหน อยากทำอะไร กั้งต้องห้ามปฏิเสธ ขอแค่นี้ทำได้หรือเปล่า''ไม่ค่ะ ฉันจะไม่ยอมรับข้อเสนออะไรของคุณทั้งนั้น แล้วถ้าขืนว่าคุณยังจะตามมาวอแวฉันไม่หยุดแบบนี้ล่ะก็ ฉันจะฟ้องนะ''แล้วกั้งคิดว่าเจ้านะมันจะทำอะไรพี่ได้ อย่างมากมันก็แค่พากั้งกับลูกย้ายออกไปหาที่อยู่ใหม่ แต่ว่ากั้งอยากให้ขนมต้องออกไปตกระกำลำบากแทนที่จะได้อยู่แบบสุขสบายอย่างงั้นเหรอ แล้วถึงแม้ว่ากั้งจะบอก ก็เชื่อพี่เถอะว่ายังไงเสียเจ้านะมันก็คงไม่ยอมย้ายออกไปจากท
หลังจากที่เกมจบไป เป็นอันสรุปว่าทีมเธอและณวัฒน์นั้นแพ้ บทลงโทษก็คือเขาและเธอจะต้องช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาดเก็บขวดแก้วเหล้าจานชามไปล้างหลังจากที่ทุกคนกลับไป เพราะบรรดาเพื่อนเขาบอกว่านี่คือสาเหตุที่นานๆพวกเขาจะได้นัดรวมตัวกันที ที่ไม่อยากมารวมตัวที่นี่ก็เป็นเพราะว่ามักจะถูกณวัฒน์บังคับให้ช่วยเก็บถ้วยจานชามไปล้างเสมอ พอวันนี้ได้โอกาสเอาคืน พวกเพื่อนๆก็เลยพากันสะใจใหญ่"พี่น่านไปนอนเถอะค่ะ เดี๋ยวที่เหลือกั้งเก็บต่อเอง"กชกรบอกเขาเสียงเรียบหลังจากที่เหลืออยู่กันเพียงแค่สองคน วันนี้เธอประหยัดคำพูดกับเขามากแม้แต่ตอนที่ช่วยเขาเล่นเกมส์ก็แทบจะไม่ได้คุยกับเขาเลย มันเป็นเพราะอาการที่เรียกว่าอะไรไม่รู้ รู้เพียงแค่ว่าไม่อยากจะพูด รู้สึกทั้งโกรธ หงุดหงิด งอน น้อยใจ และอีกหลายอย่างรวมกัน ณวัฒน์พึ่งประครองพาณภัทรที่เมาจนฟุบหลับไปส่งที่บ้านหลังขวา ก่อนที่เขาจะเดินกลับมาช่วยเธอยกพวกจานชามเข้าไปล้างในบ้านตัวเองที่อยู่ใกล้กว่าทางบ้านหลังซ้าย ท่าทางเขาดูเหมือนว่าไม่ได้เมาเลยสักนิด ทั้งๆที่เธอก็เห็นว่าที่ผ่านมาเขาก็ดื่มไปมากอยู่เหมือนกัน"พี่พาเพื่อนมาดื่มเองได้ พี่ก็เก็บเองได้ กั้งไม่ต้องกลัวหรอก" ส่ว
กับแกล้มสองอย่างถูกยกไปวางที่บนโต๊ะกลางวงสนทนาโดยฝีมือณภัทรที่เป็นคนเดินมายกไปให้ ก็ในเมื่อเวลามันผ่านมาน่าจะเป็นชั่วโมงได้แล้วที่พวกเขาจับกลุ่มนั่งดื่มกัน จึงทำให้บางคนเริ่มออกอาการกรึ่มจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ตอนที่เธอเดินตามณภัทรไปเพื่อไปเก็บถาดที่ยกใส่อาหารไปคืน"โหใครวะน่าน นี่บ้านมึงมีแม่ครัวสวยขนาดนี้เลยเหรอวะ"หนึ่งในกลุ่มเพื่อนของเขาคนหนึ่งเอ่ยขึ้นตอนที่เธอเดินตามณภัทรเข้าไปใกล้ๆ ทำเอาทุกคนที่อยู่ในวงสนทนานั้นต่างก็พากันหันมามองที่เธอเป็นตาเดียว รวมถึงณวัฒน์และผู้หญิงของเขาด้วย"เปล่าหรอก คนนี้พี่เลี้ยงลูกนายนะน่ะ"ด้วยความที่รู้แน่ๆว่าตัวเองเด็กกว่ากลุ่มคนที่อยู่ตรงนั้น กชกรเลยอดไม่ได้ที่จะยกมือไหว้ไปตรงกลางแบบไม่ได้เจาะจงใคร "สวัสดีค่ะพี่ๆ กั้งแค่จะมาเก็บถาดคืนเอาไปล้าง""นะ นี่น้องกั้งเขาเป็นพี่เลี้ยงลูกแกจริงๆเหรอวะ ทำไมถึงได้สวยขนาดนี้วะ" ใครคนหนึ่งที่นั่งอยู่ยังคงสงสัย และดูเหมือนว่าเธอกำลังจะตกอยู่ในหัวข้อสนทนา จะมีก็แค่เพียงณวัฒน์ที่ไม่ได้สนใจหันมองมาทางเธอ หากแต่เขากลับยกแก้วเหล้าที่พึ่งชงเสร็จส่งให้กับหญิงสาวที่นั่งข้างตัวพร้อมทั้งยกแก้วขึ้นเพื่อขอชนแก้วกับผู้หญิงคนนั
หลังจากวันนั้นณวัฒน์ก็หายหน้าไป มีเพียงบางครั้งที่กชกรได้ยินเสียงรถของเขาที่ขับกลับเข้ามาตอนดึกๆ แล้วตอนเช้าก็กลับออกไปอีก เป็นอย่างนี้อยู่หลายวันจนเธอเริ่มรู้สึก..คิดถึง และอยากเห็นหน้า อาการของเธอชักจะเริ่มหนัก ด้วยความที่ไม่รู้ว่าไม่รู้ว่าควรที่จะจัดการกับความรู้สึกที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ยังไง จึงได้เริ่มหาทางระบายความอัดอั้นด้วยการตามเข้าไปสอดส่องเขาตามโซเชียลแทน อย่างน้อยก็ยังทำให้ตัวเองได้รู้สึกว่าได้เห็นเขาบ้าง เพราะถ้าเกิดขืนเธอไปบอกกับเขาตรงๆว่าเธอคิดถึง มีหวังณวัฒน์คงจะคิดว่าเธอเป็นไบโพล่า เพราะเป็นคนไล่ให้เขาไม่ต้องมายุ่งกับเธอเองแท้ๆแน่นอนว่าบัญชีโซเชียลเธอกับเขานั้นไม่เคยมีความเกี่ยวข้องกัน หนทางเดียวที่พอจะทำได้ก็คือเริ่มสืบหาไปทางณภัทร จนกระทั่งเจอ กชกรไม่คิดจะรอช้าที่จะรีบกดเข้าไปเพื่อหวังว่าอย่างน้อยพอที่เธอจะได้เห็นความเคลื่อนไหวใดๆของเขาบ้าง แต่ใครจะคิดล่ะว่าในนั้นกลับไม่ได้มีรูปอะไรเลย นอกจากภาพบรรยากาศภายในอาณาจักรของเขา ไม่ว่าจะเป็น ภาพต้นไม้ ใบหญ้า สิงสาราสัตว์ที่มีอยู่ในการครอบครอง ทำเอาคนที่แอบทำตัวเป็นนักสืบได้แต่ผิดหวังน้อยๆ เมื่อไม่ได้เห็นในสิ่งที่ตั
หลังจากที่ณวัฒน์พาเธอไปรับณรายาจากบ้านมารดาของเขากลับมาแล้ว ตัวเขาเองก็ขับรถหายออกไปเลย ระหว่างทางไม่ได้มีการพูดคุยกันกับเธอต่อเลยสักคำ เขาเงียบมา เธอก็เงียบไป เรื่องอะไรเธอจะต้องเป็นฝ่ายอยากคุยกับเขาก่อน ในเมื่อดูท่าทางแล้วเขาเองก็คงจะไม่ได้อยากคุยกับเธอมากนัก จิตใจคงจะตั้งหน้าตั้งตารอคอยให้ถึงเวลานัดหมายไวๆเพื่อที่จะได้ออกไปหาคนที่โทรมาหามากกว่า กชกรบอกกับตัวเองว่าถ้าเขาอยากจะออกไปไหนกับใครมันก็เป็นสิทธิ์ของเขา ในเมื่อเรื่องระหว่างเธอและเขาที่เกิดขึ้นนั้นมันก็เป็นเพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบที่ต่างพาไปเพียงเท่านั้น ต่อจากนี้เขาอยากจะไปคั่วกับใครที่ไหนเธอก็จะไม่สนทั้งๆที่เฝ้าย้ำเตือนตัวเองว่าให้หยุดคิดถึงเรื่องนี้แล้วรีบๆลืมมันไป แต่ทำไมตอนนี้สมองกลับหยุดที่จะคิดมันไม่ได้ เข็มนาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืนครึ่ง หากแต่เธอกลับยังไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้ ร่างเล็กนอนพลิกขยับมาขยับไป หูก็ยังรอคอยฟังเสียงรถว่าเมื่อไหร่เขาจะกลับมาคืนนี้ณรายาหลับไว อาจจะด้วยเป็นไปได้ว่าพึ่งจะหายจากอาการป่วย โดยเธอบอกกับณภัทรว่าคืนนี้จะขอเป็นคนนอนเฝ้าณรายาเอง เพราะยังเป็นห่วงว่าเด็กน้อยอาจจะกลับมาตัวร้อนอีกก็ได้ แล้วก็
หกโมงครึ่งกชกรลืมตาตื่นมาตามเวลาที่เคยตื่นตามปกติ นี่เธอพึ่งจะหลับตาไปได้เพียงแค่ชั่วโมงเดียวเท่านั้นเองหรอกหรือ ในเมื่อคนที่ยังคงนอนกอดเธอเอาไว้ เล่นใช้เวลาในการระบายความหื่นของตัวเองไปจนถึงเกือบจะเช้าร่างงามขยับกายทำท่าว่าจะลุกขึ้นจากเตียงมา หากกลับถูกคนมือไวดึงกลับให้นอนลงไปบนเตียงด้วยกันอีกครั้ง เขาดึงเธอเข้าไปจูบอยู่เป็นพัก จนกระทั่งพออกพอใจจึงได้ยอมถอนละริมฝีปากออกมา"อื้อ พอแล้วค่ะ""ทำไมตื่นเช้าจัง พึ่งหกโมงครึ่งเอง""กั้งจะไปดูขนมค่ะพี่น่าน แต่ว่าเสื้อผ้าไม่มีใส่เลยทำยังไงดี""งั้นพี่พากั้งกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านก่อนดีไหม กั้งใส่เสื้อกับกางเกงพี่ไปก่อน แล้วคลุมด้วยแจ็คเก็ตเอาไว้"กชกรพยักหน้าเห็นด้วยกับสิ่งที่เขาเสนอมา จากนั้นทั้งสองคนก็ออกจากบ้านหลังใหญ่มาตั้งแต่เช้า โดยณวัฒน์ขับรถพาเธอกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วกะว่าจะรีบพากับไปพาณรายาอย่างที่คุยกันไว้ แต่พอขับกลับมาทันทีที่รถจอดหน้าประตูบ้าน ก็เห็นว่ามีรถของณภัทรขับกลับมาจอดที่ข้างบ้านเรียบร้อยแล้ว"นะกลับมาแล้ว" กชกรยิ้มกว้างด้วยสีหน้าที่แสดงออกถึงความดีใจก่อนจะหันกลับมาบอกณวัฒน์ที่นั่งอยู่ข้างๆด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย
นาฬิกาข้อมือบอกว่าเป็นเวลาตีสี่กว่าๆ กชกรเดินตามหลังณวัฒน์มาก็จริง แต่ข้อมือเธอกลับถูกเขาดึงเข้าไปจับไว้ ข้ออ้างก็คือกลัวว่าเธอจะเดินหลงทาง หลังจากที่เธอบอกว่า เซ็กส์ระหว่างเขาและเธอมันไม่ได้มีอะไร ณวัฒน์ก็เปิดประตูลงจากรถแล้วเดินลงไปดื้อๆ ปล่อยให้เธอวิ่งตามหน้าตั้งประหนึ่งว่าถูกเขางอน แต่พอถูกเธอวิ่งตามมาทัน เขาก็หันมาคว้าข้อมือเธอเอาไปจับไว้ แล้วจากนั้นก็เดินต่อโดยที่ไม่ยอมพูดคุยอะไรกับเธออีกเลย เพียงไม่นานทั้งเขาและเธอก็พากันเดินมาจนถึงคฤหาสน์หลังใหญ่โดยปราศจากการเผชิญหน้ากับช้างตัวที่เป็นต้นเหตุของการกลับมาถึงบ้านช้าอีก ณวัฒน์พาเธอเดินเข้าบ้านไปเงียบๆ แล้วจากนั้นก็จูงมือเธอขึ้นไปยังชั้นบนของบ้าน จนไปหยุดอยู่ที่หน้าห้องหนึ่ง เขาจึงเอื้อมมือไปบิดลูกบิดประตูบ้าๆและแผ่วเบา พร้อมกับยกนิ้วชี้ขึ้นมาจุ๊ที่ปากเพื่อเป็นสัญญาณว่าไม่ให้เธอส่งเสียงในห้องนั้นบนเตียงมีเด็กหญิงณารายานอนหลับปุ๋ยอยู่ข้างๆบังอร แต่พอเธอทำท่าว่าจะแทรกตัวเข้าไป ก็ถูกณวัฒน์ดึงแขนเอาไว้พร้อมทั้งส่ายหน้าห้ามเขากระตุกแขนเธอให้เดินตามเขาไปอีกทาง ซึ่งก็เป็นโถงทางเดินตรงไปยังอีกฝั่ง ก่อนจะมาหยุดยืนตรงหน้าประตูห้องๆหนึ่ง
ทันทีที่กชกรพูดคำนั้นจบ ริมฝีปากร้อนนั่นก็บดลงมาจนแทบจะทันที ร่างกายของณวัฒน์ด้านบนนั้นเปลือยเปล่า หากแต่ว่ากางเกงยีนส์ด้านล่างกลับแน่นเปรี้ยะจนแทบจะปริแตกด้วยความคับแน่นของตัวตนของเขา และเผอิญว่ากชกรเองนั้นก็เป็นคนใจดี ก็เลยช่วยจัดการปลดเข็ดขัดหนังสีน้ำตาลออกให้ ตามด้วยช่วยแกะกระดุมและปลดซิปกางเกงให้ เพราะเห็นว่ามันแฉะชื้นเต็มที นาทีนี้เธอเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเป็นอะไร รู้เพียงแค่ว่าผู้ชายตรงหน้ากำลังทำให้เธอทำสิ่งท้าทายอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน ยามที่ลิ้นร้อนดูดเลียวนที่สองเต้า อกขาวๆก็พร้อมจะแอ่นขึ้นให้เขาดูด"อ๊ะ คุณน่าน""เรียกพี่สิกั้ง เรียกพี่""คุณอยากเป็นพี่กั้งเหรอคะ""เปล่าหรอก พี่อยากเป็นผัว""คุณน่าน!"กชกรแหวออกมาจนณวัฒน์ยิ้มขำที่ได้แกล้งเธอ ดูสิเออ ขนาดช่วงจังหวะแบบนี้เขาก็ยังจะมีหน้ามาทำให้เธอโวยใส่เขาได้อีก จนกระทั่งถูกมือเล็กทุบลงไปที่ไหล่ใหญ่หนึ่งที"ตีพี่แรงเท่าไหร่ เดี๋ยวตอนพี่ใส่เข้าไปกั้งจะมาว่าพี่ เอา แรงไม่ได้นะครับ"แล้วเขาก็บดริมฝีปากลงมาอีกครั้ง กชกรรู้ว่าด้านล่างกางเกงยีนส์ตัวเองก็กำลังถูกเขาจัดการปลดกระดุมและรูดซิบออก แต่ด้วยความเสียวซ่านที่กำลังถูกเขารุ
"ถ้ามัวแต่นั่งรออยู่ในรถอย่างนี้ พี่ว่าคืนนี้เราคงได้นอนกันที่นี่ กั้งให้พี่ลงไปดูหน่อยเถอะ เผื่อว่าจะแก้ไขตรงไหนได้บ้าง ถ้าไม่ใช่ที่กั้งห้ามพี่ไว้เพราะว่าอยากติดฝนอยู่กับพี่ที่นี่นานๆ""คุณน่าน! อยากลงไปนักก็ลงไปเลยฉันไม่ห้ามคุณแล้ว"นี่ถ้าหากว่าเป็นตอนกลางวัน ณวัฒน์คงจะเห็นว่าใบหน้าเธอที่ปรี๊ดขึ้นด้วยความโกรธนั้นแดงขนาดไหน ถึงแม้จะรู้อยู่แล้วว่าณวัฒน์แกล้งแหย่ขำๆ แต่เธอก็ยังจะโมโหที่ถูกเขาแกล้งอยู่ดีหลังจากที่นั่งรอมาประมาณกว่าครึ่งชั่วโมงแล้วก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะมีรถที่ไหนผ่านมาเลยสักคัน จนในที่สุดกชกรก็เลยจำใจต้องปล่อยให้ณวัฒน์ลงไปดูอาการของรถ แม้ว่าจะไม่อยาก แต่ว่าคราวนี้เธอก็คงจะไม่ขอขัด เพราะเดี๋ยวเขาหาว่าเธออยากอยู่ติดฝนกับเขาสองต่อสองอีกในขณะที่สายฝนก็ยังโปรยมาอย่างหนัก ยิ่งดึกบรรยากาศในรถก็ยิ่งดูเหมือนว่าจะเย็นขึ้นเรื่อยๆ มือน้อยยกขึ้นลูบถูแขนตัวเองไปมา พลางก็คอยชะโงกหน้ามองว่าเมื่อไหร่คนข้างล่างจะกลับมา ณวัฒน์ลงไปไม่นานก็เปิดประตูรถกลับขึ้นมาในสภาพเปียกโชกแล้วบอกกับเธอว่าเขาไม่สามารถซ่อมแก้ไขอะไรได้ คงต้องเรียกช่างมา ระหว่างนั้นเขาก็ถามความคิดเห็นเธอว่าจะเอายังไง โดยให้เธ
หลังจากที่นั่งไล่ชิมขนมและคุกกี้สารพัดชนิดมาจนเกือบหมดทั้งกองจนกระทั่งพระอาทิตย์เริ่มที่จะตกดิน อยู่ๆหญิงสาวที่ชื่อบังอรก็วิ่งออกมาบอกว่าณรายาดูเหมือนว่าจะตัวร้อนและเริ่มมีไข้ กชกรตกใจมากที่ได้ยินเช่นนั้น เพราะไม่คิดว่าอยู่ดีๆณรายาจะตัวร้อนมีไข้ขึ้นมาได้ จึงรีบลุกขึ้นแล้วบอกให้หญิงสาวคนนั้นรีบพาเธอหาณรายาทันทีทุกๆคนที่อยู่ตรงนั้นต่างก็พากันเดินตามมาด้วยความเป็นห่วง เด็กหญิงณรายานั้นแก้มเริ่มแดงเนื่องจากว่ามีไข้ พอกชกรมาถึงก็รีบแตะหลังมือลงไปบนหน้าผากเล็กและได้จัดการค่อยๆนำผ้าขนหนูขึ้นมาเช็ดตามใบหน้าแขนขาและลำตัวให้"คุณน่าน คุณช่วยพาฉันกับขนมไปส่งที่บ้านหน่อยได้ไหมคะ ที่บ้านพอจะมียาลดไข้เด็กอยู่"กชกรหันมาร้องขอและถามความคิดเห็นจากเขา ทีแรกณวัฒน์ก็ดูเหมือนว่าจะเห็นดีด้วย แต่คุณอำพาก็ดันขอร้องไว้ว่าให้ณรายาอยู่ที่นั่นต่อจะดีกว่า เนื่องจากว่าที่บ้านนี้อยู่กันหลายคน มีอะไรปุบปับจะได้ช่วยกันได้"แต่แม่ว่าให้ขนมนอนพักอยู่ที่นี่ก่อนดีกว่านะน่าน บ้านเราอยู่กันตั้งหลายคน มีอะไรจะได้ช่วยกันดูได้ แล้วกั้งก็นอนเฝ้าขนมที่นี่เถอะลูก ห้องหับก็มีตั้งเยอะแยะ ขืนอุ้มแกไปตอนนี้แม่ว่าเดี๋ยวแกก็จะงอแงเป