"แม่นารถสวัสดีค่ะ คุณอาตรี อาเดือน พี่ (หันไปมองหน้ามาร์คเชิงคำถามแต่ชายหนุ่มก็ยังนิ่ง) สวัสดีค่ะ" เด็กสาวทักทายพลางยกมือไหว้อย่างนอบน้อม
"หวัดดีจ่ะ นี่พาเข้าบ้านแล้วเหรอมาร์ค ยังไม่จบ ม. 6 ไม่ใช่เหรอ" คุณเดือนแรมว่าพลางเหยียดยิ้มที่มุมปาก
"นี่บ้านผม ผมจะให้ใครเข้าใครออกมันก็สิทธิ์ของผมไม่ใช่หรือครับ ถ้าไม่เกรงใจอาตรี ผมจะเชิญคุณเดือนแรมออกไปตอนนี้ก็ทำได้ อย่ามาทำกิริยาเหยียดหยามมนุษย์ในบ้านนี้เพราะที่นี่ไม่มีชนชั้น" มาร์คว่าขึ้นเสียงดังอย่างไม่พอใจที่อาสะใภ้มาว่าน้องรักคนเล็กของตัวเอง
"มาร์ค คือ..." "คุณเดือนแรมอย่าพยายามยกลูกตัวเองเหนือลูกคนอื่นสิ สงสารอาตรีบ้าง หน้าจะเหลือไม่ถึง 2 เซ็นอยู่แล้ว" มาร์คสวนขึ้นนิ่ง ๆ เขาพอรู้ว่าทุกวันนี้คุณมนตรีกดดันแค่ไหนตั้งแต่มารับช่วงงานต่อจากพ่อตาและถูกภรรยากดดันมาตลอด แต่ที่เขายังทนเพราะเห็นแก่ลูกและเขาเป็นคนที่ไม่มีอะไรติดตัวมาเลยเหมือนคุณพ่อของมาร์คเขาจึงจำต้องยอม
"น้านารถผมจะพาน้องเข้าสวน มียากันยุงมั้ยครับ" มาร์คหันไปพูดกับคุณนงนารถ
"มีลูก มัยหายากันยุงมาให้คุณมาร์คหน่อย" ตอบพลางเรียกแม่บ้านหายังกันยุงให้ช
มาร์คกลับเข้ามาในบ้านหลังจากออกไปสงบสติอารมณ์เกือบครึ่งชั่วโมง น้ำหวานที่เข้าไปช่วยแม่บ้านเก็บทำความสะอาดโต๊ะหลังอาหารรีบวางจานที่กำลังเช็ดอยู่แล้วถือน้ำเย็น ๆ มายื่นให้"พี่มาร์คน้ำค่ะ" เด็กสาวยื่นแก้วน้ำให้พลางรับไอแพดกับมือถือที่มาร์คถือเข้ามามาถือไว้เอง มองมือถือตัวเองแล้วยิ้มกว้างขึ้นมาทันที "พี่มาร์คเปลี่ยนเคสมือถือให้หวานใหม่ด้วย ขอบคุณค่า..." เด็กสาวว่าอย่างตื่นเต้นพลางยกมือไหว้ที่ต้นแขนแกร่งแล้วมองมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดที่มาร์คเพิ่งซื้อให้เมื่อคราวก่อนอย่างดีใจ"ชอบมั้ย?" ชายหนุ่มพร้อมกับจับหัวคนขี้เห่อโยกยิ้ม ๆ"ชอบมาก... หวานกำลังหาเคสใหม่อยู่เลยค่ะ เคสเดิมมันบางมากแล้วช่วงที่ตาไม่สบายเราก็ไม่มีเวลาไปดูที่ห้างกัน จะสั่งออนไลน์ก็กลัวไม่ตรงปก แล้วคุณป้าเพิ่งซื้อให้น้องขวัญรุ่นเดียวกันนี่ตอนติดโควตาค่ะ หยิบผิดหยิบถูกกันประจำเลย" คนตัวเล็กตอบพลางยิ้มจนตาหยี"โทรไปหาไอ้โรมตามที่พี่สั่ง บอกมันให้ส่งมาภายใน 10 นาที พี่จะได้คุยธุระให้เสร็จจะได้รีบนอนพรุ่งนี้จะได้ไปบุญให้ตาแต่เช้า ตอนเย็นน้องขวัญจะมา พี่ว่าเราใส่บาตรตอนเช้าแล้วไปร้านน้านารถรอน้องขวั
บนห้องนอนชั้น 2 ของมาร์ค"พี่มาร์ค พี่โอเคมั้ย?" น้ำหวานนั่งลงข้าง ๆ แล้วพูดเสียงเบากับชายหนุ่ม"อืม..." มาร์คพยักหน้าแล้วมองหน้าเด็กสาวนิ่ง ๆ "กลัวพี่เหรอ?" คนตัวเล็กพยักหน้าทันที"คนเห็นแก่ตัวที่ทำคนอื่นเดือดร้อนมันต้องโดนแบบนี้แหละ พี่ไม่เคยพึ่งพาคนพวกนั้น ฉะนั้นพี่ไม่จำเป็นต้องเกรงใจ" มาร์คให้เหตุผลเสียงทุ้มพร้อมกับรั้งหัวคนตัวเล็กมาพิงไหล่ลูบหัวเธอเบา ๆ ตามองพื้นห้องอย่างใช้ความคิด"แต่พี่มาร์คก็เสียงดังเกินไปนะ" "เอ้อ... เรากับคิตตี้นี่ยังไงวะ เสียงดังหน่อยไม่ได้เลยไปนอนเลยจะไปมั้ยวัดน่ะ" คนตัวโตแกล้งว่าเสียงเข้ม"งือ...อย่าดุสิ พรุ่งนี้น้องขวัญมาจะไล่ไปนอนกับพี่เนสเลยนะ""โห...นี่เพื่อนมากะไล่เจ้าของห้องหนีเลยเหรอ มานอนจะ 3 ทุ่มแล้วเนี่ย" ว่าพลางล้มตัวลงนอนไปก่อนแล้วรั้งบ่าคนตัวเล็กให้นอนลงข้าง ๆ"พี่มาร์ค... (หือ... มาร์คในลำคอเบา ๆ) ขอดูซีรีส์ซักตอนได้มั้ย" คนตัวเล็กว่าอ้อน ๆ"ให้เลือก... ว่าจะนอนเดี๋ยวนี้หรือจะให้พี่พาทำอย่างอื่นก่อนนอน""นอนค่ะ นอนแล้ว" เด็กสาวรีบมุดเข้าไปในผ้าห่มจนมิดหัวแล้ว
3 ปีต่อมาRo me Bar ชั้น 2 ห้อง VIP 1ร่างสูงโปร่งยืนทอดสายตามองลงมาที่ชั้น 1 ของร้านโซนแคชเชียร์พร้อมกับยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปากทุกครั้งที่กลับมาไทยเขาจะรู้สึกว่าเด็กคนนี้เติบโตขึ้นและเข้มแข็งขึ้นตามกาลเวลาที่หล่อหลอม จากเด็กสาวตัวเล็ก ๆ สดใสเจื้อยแจ้วช่างเจรจาในวันวานเป็นสาวสะพรั่งร่าเริงแจ่มใสและอ่อนหวานน่ารักอยู่ในคนเดียวกันอย่างลงตัว ร่างบางในชุดกางเกงขายาวรัดรูปสีดำมันวาวกับเกาะอกแต่งระบายขนนกด้านบนสีขาว ดูน่ารักและเซ็กซี่ ผมยาวดำขลับที่ถักเปียเรียบร้อยเสมอตั้งแต่วัยเด็กในคืนนี้เธอปล่อยยาวสยายจนถึงเอว ขนตางอนยาวที่มีอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ถูกปัดมาสคาร่าให้งอนเด้งจนตาเธอกลมโตราวกับตาตุ๊กตาไม่มีผิด ริมฝีปากบางเคลือบด้วยลิปสติกสีแดงสดขับกับผิวขาวใสของเธออย่างน่าหลงใหล ใบหน้าที่แต่งแต้มเพียงลิปสติกแท่งเดียวและมาสคาร่าอีก 1 สามารถดึงดูดสายตาชายหนุ่มจนไม่อยากละสายตาไปทางไหน นานเท่าไหร่แล้วที่เขาบอกตัวเองเสมอว่านี่คือน้องนุ่งตามที่ตาน้อยเคยพูดยิ้ม ๆ ในคืนนั้น นานเท่าไหร่ที่เขาดูแลเธออยู่ห่าง ๆ อย่างหวังดีและห่วงใยในฐานะพี่ชายร่วมโลก ชายหนุ่มยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปากพลางก้มมองแก้วเจียรนัยใบสวย
ชายหนุ่มค่อย ๆ ลุกจากเตียงแล้วเดินไปหยิบมือถือของเด็กสาวที่ชาร์จแบตอยู่บนหัวเตียงเดินออกจากห้องอย่างเงียบเชียบแล้วจัดการโหลดแอปบางแอปที่เธอมีในเครื่องเดิมลงเครื่องใหม่ ย้ายซิม ลงทะเบียน แอปโซเซียลต่าง ๆ ให้เรียบร้อย (เครื่องเดิมพี่ก็เป็นคนลงให้เลยรู้รหัสผ่านหมดเลย) แล้วเอากลับไปใส่ไว้ในกระเป๋าของเด็กสาว ส่วนเครื่องเดิมจัดการปิดเครื่องแล้วเอาใส่กระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเองไว้ ก่อนจะกลับเข้ามาที่ห้องนอนแล้วล้มตัวลงนอนข้างเด็กสาว ก่อนจะค่อย ๆ สอดแขนข้างที่มีแผลเข้าใต้เอวอย่างจงใจให้เลือดที่ยังซึมอยู่ติดที่ผ้าปูที่นอนหลายจุดแล้วดึงแขนออก ลุกขึ้นหยิบทิชชูเช็ดเลือดที่แขนทิ้งลงในตะกร้า ใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีทึบไม่ติดกระดุมแล้วนอนลงไปใหม่สอดแขนเข้าที่ใต้คอคนหลับอีกครั้ง รั้งร่างบางเข้ามาแนบอกเบา ๆ ก่อนจะลงกดจมูกลงที่หน้าผากแล้วยิ้มที่มุมปากน้อย ๆ มองคนหลับที่พลิกตัวมากอดตอบอย่างลืมตัว"หึ... ตัวเล็กเอ๊ยจะรู้มั้ยว่าเป็นพี่น่ะ คงคิดว่าเป็นน้องขวัญล่ะสิถึงได้กอดแน่นขนาดนี้" ชายหนุ่มพึมพำเบา ๆ แล้วค่อย ๆ ลูบบั้นท้ายสำรวจชุดนอนผ้าแพรลื่น ๆ ของหญิงสาวที่ปรากฎว่าปราศจากชั้นในชิ้นล่างและเดาได้ว่าน่าจะไม่ม
มหาวิทยาลัย Bร่างบางในชุดนักศึกษาที่ถูกระเบียบตั้งแต่เล็บมือยันรองเท้าก้าวเข้ามานั่งลงที่โต๊ะไม้ยาวใต้อาคารคณะบริหาร ฝั่งตรงข้ามกับเพื่อนแล้วมองหน้าเพื่อนสาวนิ่ง ๆ ด้วยสีหน้ากังวล"เป็นพรือหลาว พรสิ" ไข่มุก สาวใต้ตาคมเพื่อนใหม่ของหญิงสาวเงยหน้ามองเพื่อนงง ๆ กับหน้าสวยบึ้งตึงและแววตาเชิงกังวลของเพื่อน"ไข่มุก ... หวานมีอะไรจะพูดแต่เรื่องนี้ห้ามให้น้องขวัญรู้เรื่องเด็ดขาด" น้ำหวานพูดขึ้นพลางจ้องหน้าเพื่อน"น้องขวัญรู้ไม่ได้?" "อือ (พยักหน้ายืนยันสีหน้าจริงจังขั้นสุด) เรื่องนี้มันเซนซิทิฟมากเดี๋ยวเราจะเล่าให้น้องขวัญฟังเอง โอเคมั้ย""เค...ว่ามาเลย หนูมุกจะเหยียบให้มิดเหมือนตีนจมทรายเลย สัญญาที่สุด" ไข่มุกว่าสีหน้าจริงจังพอกันในขณะที่มือด้านหลังแอบไขว้นิ้วไว้ไม่ให้เพื่อนเห็น"ก่อนอื่น หวานมีอะไรจะถามมุกมากมายก่ายกองมหาศาลอภิมหาศาล...""เดี๋ยว ๆๆ เอาแค่มากมายนี่ก็ตอบไม่ไหวแล้วนะ จะก่ายกองมหาศาลอภิมหาศาลด้วย ไม่ได้..." ไข่มุกเพื่อนสาวที่รู้จักกันตอนขึ้นปี 1 เบรกเพื่อนซะคนหลายคำถามอ้าปากค้าง "เอางี้ ก่อนถาม เกริ่นนำมาก่อน"...
"นี่แกพกยาคุมใส่กระเป๋าแบบนี้เลยเหรอ" น้ำหวานว่าตาโต *รู้เว้ยว่ามีแฟนแล้วแต่ไม่คิดว่าจะพกแบบนี้นี่หว่า*"โอ๋ย... เรียนยังไม่จบ ก็พกบ้างสิคะ เรียนก็ต้องเรียน ผัวก็ต้องตามใจด้วยค่ะแล้วต่อไปหวานก็ต้องพกเข้าใจมั้ย เผื่อพี่มาร์คแกแอบกลับไทยมาอีก" ว่าพลางขับรถออกถนนกลับทางเดิม"คงไม่กลับมาอีกมั้งอีกตั้งหลายเดือนกว่าจะประชุมประจำปี ถึงตอนนั้นเรานอนกับน้องขวัญแล้วอีกอย่างเราคิดว่าคงแค่วันไนท์อะแก จบแล้วคือจบ""ว่าได้เหรอ ของเคยกินนะจ๊ะ แล้วถ้าผู้เขาเคยกินเขาก็ต้องกินค่ะ ถ้าเราไม่ให้เขากิน เขาก็ไปหากินทางอื่นได้ค่ะ แล้วพี่มาร์คของคุณพรสิ จากในรูป (ที่เธอเคยเห็นอะนะ) หล่อ สูง ขาว ยาว ใหญ่ ขนาดนั้น การศึกษาเริ่ด โปรไฟล์เป็นที่ต้องการของตลาดขนาดนั้น เล่นตัวก็ได้แห้วค่ะคุณ ถึงพรสิจะสวย หวาน เอ๋อ... (อันนี้ชมเพื่อนนะคะ >///<) แต่ถ้าไม่ตามใจผู้ก็บินค่ะ เอ๊า... กินยาซะสิ จะถึงประตูมหาลัยแล้วเนี่ย จะนั่งสวยมึนอยู่ทำไมก่อน" ไข่มุกร่ายยาวพลางหันมาเน้นให้เพื่อนกินยาที่เธอให้"อะ...อ๋อ กิน ๆ กินก็กิน" ว่าพลางแกะยาใส่ปากแล้วหันไปหยิบขวดน้ำข้างประตูมาเปิดดื่มพลางมอง
ติ๊ง!เสียงไลน์แจ้งเตือนขณะที่น้ำหวานกับของขวัญกำลังนั่งรถกลับบ้านโดยของขวัญเป็นคนขับทำเอาน้ำหวานสะดุ้งจนเพื่อนสาวหันมามองหน้าP mark พี่ซักผ้าปูที่นอนให้แล้วนะ พี่ขึ้นเครื่อง 6 โมงเย็นWhan ค่ะP mark ถ้าไม่สบายก็อย่าลืมกินยานะ หน้าซีด ๆ นะเรา (อ่านแล้ว)" เฮ้อ... อยู่อังกฤษทำยังกับอยู่รังสิตไปได้ คิดจะโผล่ก็โผล่ ต๊กใจโหม้ดหลาว" น้ำหวานพึมพำพลางถอนหายใจแรงจนเพื่อนมองหน้า"ใครน่ะ""พี่มาร์คน่ะ บอกว่าจะขึ้นเครื่อง 6 โมงนี่ก็คงอยู่แอร์พอร์ตแล้วมั้ง" คนตัวเล็กพยายามตอบเพื่อนอย่างปกติ"เมื่อคืนเราไม่อยู่หวานนอนคอนโด?" ของขวัญว่าขึ้นนิ่ง ๆ"อือ" น้ำหวานพยักหน้า"อยู่กับพี่มาร์ค?" "อือ" น้ำหวานพยักหน้าอีกรอบ"เฮ้อ... หมดห่วงไป เมื่อคืนพี่เจ้าบอกว่าหวานดื่มกับพวกอาร์มี่คณะศิลป์ น้องขวัญเป็นห่วงแทบแย่ กลัวเมาแล้วนอนคนเดียว แล้วพี่มา
ครืด...ครืด.....เสียงมือถือที่เธอเพิ่งเปิดเสียงเมื่อ 10 นาทีที่แล้วดังขึ้น ทำให้น้ำหวานหันมองหน้าเพื่อนรักพลางถอนหายใจเบา ๆ"อื้อ ... ต้องคนสั่งมาลัยแน่ ๆ เลย วันนี้หวานเหนื่อยไม่อยากรับออเดอร์แล้วนะ" คนสวยบ่นพึมพำอย่างงอแงแต่จำใจล้วงมือถือออกมาเพื่อกดรับสาย"ฮัลโหลค่ะ" เสียงอ่อย ๆ เหนื่อย ๆ ดังออกไปตามสาย ทำเอาปลายสายอยากเห็นหน้าอ้อน ๆ ตอนนี้ขึ้นมาทันที(เป็นอะไร ทำไมฟังดูเหนื่อยขนาดนั้น) เสียงทุ้มดังมาจากปลายสายทำเอาคนตัวเล็กตาโตยืดตัวตรงขึ้นมาทันที"พี่มาร์ค!" น้ำหวานเรียกชื่อปลายสายเสียงดังจนเพื่อน ๆ มองหน้า เกือบ2 เดือนแล้วตั้งแต่มาร์คกลับลอนดอน นี่เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มโทรมาหาเธอ นอกจากการส่งข้อความมาถามข่าวคราวบ้างเป็นบางครั้งเท่านั้น(ก็เออน่ะสิ ทำไม อุทานตกใจเหมือนเห็นพี่ยืนอยู่ต่อหน้างั้นแหละ) มาร์คตอบขำ ๆ กับความตกใจเกินเบอร์ของเด็กสาว"แล้ว...แล้วแล้ว พี่มาร์คโทรหาหวานมีอะไรหรือเปล่าคะ หรือจะมาประชุมแล้วคะ ช่วงนี้หวานยังไม่ได้ไปทำความสะอาดห้องเลยหวานต้องอ่านหนังสือสอบ งั้น...งั้นเดี๋ยวหวานไปทำให้น
"ครั้งก่อน? ครั้งไหน" ชายหนุ่มเลิกคิ้วถามยิ้ม ๆ"ก็ครั้งหวานเมาไง หวานไม่เห็นเหนื่อยเลย ไม่เจ็บเลยด้วย" คนตัวเล็กเริ่มออกอาการงอแงอย่างน่ามันเขี้ยว*เออ...ถึงว่าถึงยอมกูง่าย ๆ เพราะคิดว่าครั้งก่อนไม่เจ็บนี่เอง เฮ้อ...ครับ ต้องหาคำอธิฐานบทไหนมาสวดให้น้องคิดแล้วถามมากกว่าเออออเองบ้างเนี่ย โรคนี้มันติดทางอากาศจากน้องขวัญหรือไงวะ ...* ชายหนุ่มคิดในใจพลางถอนหายใจเบา ๆ"หวานเมา หวานจะเหนื่อยได้ไง พี่ไม่ได้ทำอะไรหวานนี่ครับ" คนตัวโตว่ายิ้ม ๆ "ฮะ!" หญิงสาวอุทานตาโตพร้อมทั้งลุกขึ้นเอามือค้ำหน้าอกแกร่งมองหน้าชายหนุ่มอึ้ง ๆ"ซี้ด...ลุกเบา ๆ เดี๋ยวก็หักใช้งานไม่ได้พอดี" ชายหนุ่มว่าพลางสูดปากเบา ๆ เมื่อคนคิดจะลุกก็ลุกแล้วอาจจะลืมไปว่าตอนนี้ทั้งคู่ยังประสานกันอยู่"พี่พูดแบบนี้ แล้ว ๆ คืนนั้นเลือดบนผ้าปูมันมาจากไหน พี่รู้มั้ยหวานเครียดมากเลยนะ แล้วพี่ไปโผล่ที่มหาลัยด้วยหวานทำหน้าไม่ถูกเลย หวานเครียดตั้งหลายวัน แล้วยังขู่หวานเรื่อย ๆ อีก ทำไมพี่แกล้งหวานแบบนี้ล่ะ พี่มาร์คใจร้าย อิยักษ์โหด..." คนตัวเล็กโวยวายทุบอกแกร่งรัว ๆ จนชายหนุ่มต้องรวบมือเธอไว้แล
ลิ้นอุ่น ๆ ลากเลื้อยฝากรอยจูบประทับเป็นทางยาวจากซอกคอหอมกรุ่นของหญิงลงหาร่องอกตีตราความเป็นเจ้าของอย่างชัดเจน แล้วเงยหน้าสบตาคนตัวเล็กหยาดเยิ้มจนหญิงสาวต้องอึ้งราวกับต้องมนต์สะกด ปากหนาก้มลงครอบครองจุกสวยสีระเรื่อดูดเม้มเสียงดังจนเจ้าตัวสะดุ้ง มือหนาอีกข้างลูบไล้ทั่วแผ่นหลังจนร่างบางสยิวขนลุกซู่อย่างประหลาด "อือ.. พิ พี่มาร์ค อูย อย่าเม้ม" หญิงสาวพูดตะกุกตะกักขาดห้วงพลางสูดปากยาว เมื่อจุกสวยถูกปากสีเข้มเม้มดูดแรง ๆแล้วเลื่อนมาอีกข้างอย่างเสมอภาค "หวานดีจัง ถ้ามีลูก ลูกต้องชอบ 2 เต้านี้แน่ ๆ" ชายหนุ่มว่าพลางสบตาหวานเยิ้ม "บ้า... พี่พูดอะไร ใครจะมีลูก โอ๊ะ!" หญิงสาวถามอาย ๆ แล้วต้องอุทานตกใจ เมื่อจู่ ๆ คนที่นอนอยู่ลุกขึ้นจับเธอพลิกนอนหงายตั้งแขนทั้ง 2 คร่อมร่างเธอเอาไว้ แล้วสบตายิ้มกรุ้มกริ่ม"ก็หนูไง พี่ท้องเองไม่ได้หรอก" เสียงทุ้มว่าพลางส่งสายตาหวานเยิ้มจนคนตัวเล็กหน้าแดงตัวแดงขึ้นต้องหลบตา"บ้า... ปล่อยหวานเลยพี่มาร์คจะเกินเส้นมากไปแล้วนะ สว่างแล้วด้วยอีกเดี๋ยวน้องขวัญก็มา" คนตัวเล็กหาข้ออ้างพลางเอามือทาบที่อกแกร่งแล้วดันออกห่างตัวเบา ๆ *รู้หรอกเว้ยว่าไม่ใ
มือหนาสอดเข้าในผ้าห่มแล้วยกชายเสื้อนอนแขนยาวตัวใหญ่ของหญิงสาวขึ้นค่อย ๆ ยกถอดออกทางหัว ดึงออกจากแขนโยนลงพื้นลุกขึ้นนั่งมองคนหลับที่ขยับเปลี่ยนท่านอนขำ ๆ "เรื่องซ้อมตายไว้ใจหวานเลยจริง ๆ" ชายหนุ่มพึมพำแล้วล้มตัวลงนอนก่อนจะสอดมือไปจับที่ขอบกางเกงนอนของหญิงสาวค่อย ๆ ดึงลงเบา ๆ แล้วใช้เท้าช่วยเลื่อนกางเกงนอนตัวใหญ่ออกไปจนพ้นตัวพร้อมกับชั้นในตัวจิ๋วของเธอหลุดติดไปด้วย แล้วค่อย ๆ ลุกขึ้นมาหาผ้าขนหนูของหญิงสาวมาพันรอบเอวตัวเองถอดเกงกางวอร์มของตัวเองออกแล้วกลับไปนอนลงที่เดิม ก่อนจะรั้งร่างบางเข้ามากอดจนแนบชิด"เฮ้อ... ใครแกล้งใครวะเนี่ย กูทำกูเองอีกแล้วนะไอ้มาร์ค เป็นคนอื่นกูใส่จนพรุนไปแล้วแต่ไอ้ตัวเล็กนี่กลับเริ่มไม่ได้ซะงั้น" ชายหนุ่มพึมพำมองคนที่รั้งเข้ามากอดอย่างใช้ความคิด ก่อนจะค่อย ๆ ก้มลงประกบจูบปากบางเบา ๆ แล้วเลื่อนตัวขึ้นมากดหัวเธอซุกอกแกร่งของตัวเอง จับมือบางมาวางพาดที่เอวของตัวเองลูบหลังคนในอ้อมกอดเบา ๆ "เฮ้อ... ทำไม่ได้ว่ะ แม่ง..." ชายหนุ่มถอนหายใจพลางก้มลงจูบที่เรือนผมสวยแล้วข่มตานอนอย่างยากลำบาก "กู๊ดไนท์ นะตัวเล็ก"……….//……&he
"โอ๊ย!! เคยเจอที่ไหนล่ะคะ บอสกับโปรเฟสเซอร์ไม่เคยควงใครค่ะ เคยแต่ควงกันเองไปไหนมาไหนกัน 2 คน เวลาประชุมที ถ้าโปรเฟสเซอร์ว่ายังไงบอสก็เออออ หรือบอสว่าอะไรโปรเฟสเซอร์ก็เออออกะหนุงกะหนิงยิ่งกว่าอะไรซะอีก แล้วผู้หญิงหนึ่งเดียวที่ใกล้บอสก็คุณโรซี่นั่นแหละจนคนในออฟฟิศคิดว่านางเป็นแฟนบอสเลยไม่มีใครกล้าฉะกับนาง คิดจะไล่ใครออกก็ไล่ บางคนนางไล่ออกโปรเฟสเซอร์ก็ให้คนไปตามกลับมาทำงานก็มีนางนี่วี้ด ๆๆ เป็นหมาโดนน้ำมันเลยจ้า" โอปอล์ได้เพื่อนคุยก็ร่ายยาวอย่างคันปากคันคอทันที"แล้วบอสไม่ว่าอะไรเธอเลยหรือคะ เธอทำแบบนั้น" หญิงสาวเท้าคางถามอย่างสงสัย"จะว่าอะไรล่ะเห็นมีคนเคยพูดว่านางเคยช่วยบอสตอนที่บอสมาจากไทยใหม่ ๆ เลยถือเป็นบุญคุณกันล่ะมั้ง ทีแรกนางก็ทำฝ่ายการตลาดนี่แหละแต่นางไม่เอาใคร บอสเลยสั่งให้ย้ายเก็บเข้ากรุไปเป็นเลขาเหมือนต่อขาให้นางน่ะ ยืดคอสูงไปใหญ่ คิดจะชี้ใช้ใครก็ชี้จะไม่กล้าก็แค่กับโปรเฟสเซอร์เท่านั้นแหละ""แล้ว พิ...เอ้อ โปรเฟสเซอร์เค้าใจดีมั้ยคะ""มาก... ค่ะหนู คุณมาร์คคือนักสันถวไมตรีผู้สยบทุกอย่างบนโลกเคเอสของเราจ่ะ ใจดี ใจเย็น อ่อนน้อม น่
"เอ่อ ..." "หืม? มีอะไร" ชายหนุ่มเลิกคิ้วถาม เด็กที่กำลังนั่งอ้าปากหวออยู่ข้างหน้า"ไม่มีอะไรค่ะ หวานง่วง..." ว่าพลางปิดปากหาวหวอดขึ้นมาทันที"ง่วงก็ไปนอนก่อนไป" ชายหนุ่มสั่งในขณะที่ตายังอ่านเอกสารในมือ"แล้วพี่มาร์คไม่กลับห้องล่ะ หวานจะได้ปิดไฟ""พี่นอนนี่" คนตัวโตพูดเสียงนิ่งทำเอาเจ้าของห้องอ้าปากหวอ กระพริบตาปริบ ๆ "ฮะ!""ก็บอกว่าไปนอนก่อนเลยหรือจะให้พี่พาไปนอน งั้น ปะ" ว่าแล้วปิดแฟ้มในมือทำท่าจะลุกขึ้น"เดี๊ยว... พี่มาร์คไม่กลับห้องล่ะ" คนตัวเล็กเบรกยาวถามประโยคเดิมอีกรอบ"ก็บอกว่า พี่นอนนี่" มาร์คตอบเสียงนิ่งเหมือนปกติแต่แอบกลั้นขำเด็กงงอย่างสุดฤทธิ์"ไม่ได้หวานไม่ให้พี่มาร์คนอน" หญิงสาวว่าขึ้นเตรียมจะลุกหนีเข้าห้อง แต่ไม่ไวเท่าคนตัวโตที่คว้าแขนเอาไว้แล้วดึงลงมานั่งที่ตักตัวเองแบบง่าย ๆ"จะไปไหน" "ไปนอนค่ะ หวานง่วง" น้ำหวานตอบหน้าบึ้ง *ห้องตัวเองก็มีมั้ยวะ จะมานอนเพื่อ*"งั้นไปนอนกันพี่ก็ง่วง" พูดจบลุกขึ้นช้อนร่างบางเดินเข้าห้องหญิงสาวทันที"พี่มาร์ค ปล่อยหวานก่อน" น้ำหวานโวยวายทุบอกแกร่งไม
"พี่มาร์คกลับไปทำงานเถอะค่ะเดี๋ยวหวานจะเก็บของแล้ว" น้ำหวานเอ่ยขึ้นเบา ๆ พร้อมกับวางกระเป๋าสะพายตัวเองไว้ที่โต๊ะกลางก่อนจะหันหลังเดินเข้าห้องตัวเองเพื่อไปเก็บของแต่โดนมือใหญ่รวบกอดจากทางด้านหลังแล้วรั้งร่างบางเข้าไปแนบอก"จะไปไหน?""ก็กลับไทยไงคะ น้องขวัญไม่อยู่หวานจะอยู่ยังไง แล้วประธานศิลาคงไม่ให้หวานอยู่ต่อแน่ถ้าน้องขวัญไม่อยู่" เสียงเศร้าปนสะอื้นเบา ๆ ดังออกมาอย่างน่าสงสาร"ฟังพี่นะ (ว่าพลางจับคนตัวเล็กหันมาสบตา) ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหวานต้องได้ฝึกงานอยู่ที่นี่จนจบ เรื่องที่เกิดขึ้นหวานกับน้องขวัญไม่ผิดพี่จะไม่ยอมให้การตัดสินใจของมันทำลายอนาคตของหวานได้ พี่สัญญานะ" ชายหนุ่มว่าเสียงทุ้มพลางเช็ดน้ำตาออกจากแก้มให้อย่างอ่อนโยนแล้วรั้งร่างบางเข้ามากอดแนบอก"แล้วพี่มาร์คจะค้านประธานศิลาได้หรือคะ ถ้าเขาไม่ให้หวานฝึกต่อ...""หวานเป็นเด็กทุนของคุณปู่นี่ไม่ใช่เด็กทุนของไอ้ศิมันซักหน่อย แล้วถ้าฝึกจบมันไม่ให้ทำงานต่อ พี่ฝากหวานเข้าทำงานในมหาลัยได้" ชายหนุ่มปลอบใจเสียงทุ้ม"แล้วหวานต้องทำไงต่อคะ หวาน..." "หวานก็ไปทำกับข้าวมากินกันไง นี่บ่ายแล้วนะ
P mark น้องขวัญโดนทำร้ายที่ห้องพี่มาร์คค่ะ(อ่านแล้ว)ร่างบางเดินกลับเข้ามานั่งในห้องพร้อมกับถอนหายในเสียงดังจนรุ่นพี่คนไทยที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เงยหน้าขึ้นมอง"น้องน้ำหวานโอเคมั้ยจ๊ะลูก" สิริถามเด็กสาวในสายตาเธอยิ้ม ๆ"เพื่อนหวานโดนผู้หญิงคนนั้นทำร้ายค่ะ แล้วบอสอยู่ตรงนั้นด้วย งือ...สงสัยต้องได้กลับไทยแน่ ๆ เลย" คนตัวเล็กตอบเสียงอ่อยก้มลงฟุบหน้ากับแขนตัวเอง ทำเอาคนถามและคนอยากรู้มองหน้ากันเลิ่กลั่กแล้วมองหญิงสาวที่นั่งฟุบอยู่ด้วยความสงสัยก๊อก ! ก๊อก ! เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำเอาทั้งห้องหันหน้ามองทางเข้า น้ำหวานเงยหน้าขึ้นมองด้วยใจระทึก"หวาน พี่มารับกลับห้อง กลับเลยจะได้พาคิตตี้ไปหาหมอ" เสียงมาร์คดังขึ้นหน้าประตูออกคำสั่งเสียงดังด้วยภาษาไทยที่บอกว่าอารมณ์ไม่ดีเท่าไหร่นัก"เอ่อ... กลับได้หรือคะ" น้ำหวานถามอย่างไม่มั่นใจ"ได้ พี่อนุญาต เก็บของเลย" มาร์คสั่งเสียงห้วนจนน้ำหวานลนลานเก็บเอกสารบนโต๊ะแล้วคว้ากระเป๋าตัวเองขึ้นสะพายบ่าบอกลารุ่นพี่ในแผนกแล้วเดินออกมาหาชายหนุ่มที่ตอนนี้คิตตี้ยืนจับข้อมือของตัวเอ
"ห้องทำงานของน้องนำ.... อืม..." จอห์นสันพยายามนึกชื่อไทยของหญิงสาว"ฮันนี่ค่ะ คุณจอห์นสันเรียกเธอว่าฮันนี่ก็ได้" ของขวัญเอ่ยขึ้นยิ้ม ๆ ทำให้น้ำหวานหันไปมองหน้าเพื่อนงง ๆ"เอาน่า ชื่อไทยออกเสียงลำบาก ขนาดชื่อน้องขวัญ คิดถึงเสมอ ยังเป็นคิตตี้เลย ฮันนี่นี่แหละน่ารักความหมายเดียวกัน" ของขวัญว่าเบา ๆ ให้ได้ยินกัน 2 คน ทำให้หญิงสาวพยักหน้าเข้าใจ"หวานก็คิดว่าชื่อเล่นน้องขวัญมี้ตั้งให้ซะอีก""ไม่ใช่ ๆชื่อจริงนี่แหละ แต่ครูอ่านไม่ออก ครูเลยเรียกแต่คิตตี้ ก็เลยได้ชื่อคิตตี้น่ะ" ของขวัญว่าพลางหัวเราะที่มาชื่อฝรั่งของตัวเอง"เอ่อ..." จอห์นสันอึกอักมองหน้าหญิงสาว"ค่ะ คุณจอห์นสัน?" ของขวัญว่ายิ้ม ๆ"ผมจะส่งฮันนี่ก่อนนะครับ แล้วค่อยไปส่งคิตตี้ที่ห้องทำงานของโปรเฟสเซอร์" จอห์นสันบอกยิ้ม ๆ พอดีกับประตูลิฟต์เปิดแล้วก้าวเข้าไปก่อนที่2 สาวก้าวตามไปติด ๆ แล้วเขาก็ปิดประตูลิฟต์ทันที "ห้องทำงานของฮันนี่จะอยู่ที่แผนกการตลาดระหว่างประเทศนะครับ ชั้น 6 ที่นั่นจะมีพนักงานหลายเชื้อชาติและมีคนไทยด้วยครับส่วนห้องทำงานของโปร
Namwhan Partฮัลโล...ลอนดอน ตอนนี้เรามาอยู่ที่ลอนดอนได้หลายวันแล้วค่ะ ตอนแรกที่มาถึง พี่มาร์คพามาที่อพาร์ตเมนต์ของบริษัท แทบจะไม่อยากเข้าไปเหยียบเลยจ้า หรูมากแม่ แล้วห้องกว้างมากมีห้องนอนห้องครัวห้องนั่งเล่นแยกโซนเหมือนคอนโดพี่มาร์คเลยค่ะแต่แคบกว่านิดนึง เพราะที่นี่มีห้องนอนเดียวแล้วคุณปู่ก็ให้พ็อกเก็ตมันนี่มาคนละห้าแสนค่ะ (ฟังไม่ผิดนะคะ ห้าแสนบาทไทยเลยค่ะ)สั่งให้เราหาชุดทำงานใส่ หวานว่ามันมากเกินไปนะทีแรก แต่พอซื้อเสื้อผ้าที่ยัยน้องขวัญพาเข้าร้านเท่านั้นแหละ คุณพระ! ตัวเป็นหมื่น ซื้อไปน้ำตาตกในไปเสียดายตังค์ กระเป๋ารองเท้าที่น้องขวัญซื้อให้แทบจะขึ้นหิ้งได้เลยนะ ใบใหญ่กว่าซองมาม่านิดนึงเป็นแสนเลยแม่ แพงโพดแพงโพ นี่ยังไม่รวมกับข้าวที่นี่ แทบอยากจะกินวันละ 2 มื้อเลยอ่า แล้ววันก่อนพี่มาร์คพาไปเลี้ยงข้าวเย็น โอ้..จานเป็นพันน่ะแม่ ไม่กล้าสั่งเลยจ้า ณ จุดนี้สั่งข้าวไข่ดาวให้อิหวานก็กินแล้วค่ะ แพงเกิ๊น...แล้ววันนี้เราก็นอนเติมพลังกันสุดฤทธิ์ตั้งแต่บ่ายเพื่อไปฝึกงานวันแรกพรุ่งนี้ค่ะ แต่หวานต้องมาตื่นเพราะความที่คุณท่านผู้ช่วยท่านประธานสาขาดอกเตอร์มนัสพงษ์คิดอยากจะกินซุป