"นั่น..พี่อี้เฉินนี่" ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มหวานออกมาทันทีเมื่อเธอได้เจอกับดาราหนุ่มชาวจีนที่ชื่นชอบกอบัวลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วรีบเดินไปดักหน้าดาราหนุ่มใบหน้าที่หล่อเหลาทันที "มีอะไรให้ช่วยไหมครับ" ร่างบางได้แต่ยืนเก้อเขินไม่ยอมปริปากพูดอะไรทำให้ อี้เฉินต้องเป็นคนเปิดปากถาม ในขณะที่มาเฟียหนุ่มที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ลอบมองด้วยสายตาโลมเลียราวกับจะกลืนกินเธอไปทั้งตัว"เอ่อ..คือว่า..." กอบัวรู้สึกประหม่ามากเพราะไม่คิดว่าจะได้เจอกับดาราที่เธอชื่นชอบตัวเป็น ๆ อยู่ตรงหน้า"อยากได้เงิน?" สิ้นเสียง หญิงสาวก็หันขวับไปที่มาเฟียหนุ่ม"บัวไม่ได้ต้องการเงินค่ะ..." ว่าจบก็สูดลมหายใจเข้าปอดแล้วพ่นออกมาก่อนจะหันมาพูดกับอี้เฉิน"...บัวเป็นแฟนคลับพี่อี้เฉินคือ..บัวอยากจะขอลายเซ็นพี่ได้ไหมคะ""หึ" ตันติกรแค่นหัวเราะในลำคอแล้วส่ายหน้า"ได้สิ จะให้เซ็นตรงไหนครับ" อี้เฉินเอ่ยออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มดูเป็นกันเอง "เซ็นตรงนี้ค่ะ" กอบัวยื่นกระเป๋าสะพายสีขาวใบโปรดให้กับดาราหนุ่มชาวจีนเซ็นทันที "ชื่อบัวใช่ไหมครับ" อี้เฉินกล่าวถามชื่อของหญิงสาวก่อนจะเซ็นข้อความอะไรบางอย่าง"กอบัวค่ะ" พอได้คำตอบอี้เฉินก็เขียนข้อความใส่ไปใน
ระหว่างที่สี่หนุ่มกำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน เสียงโทรศัพท์หรูราคาแพงของมาเฟียต้วนก็ดังขึ้นครืนนน ครืนนน มือหนาคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาดูแล้วกระตุกยกยิ้มก่อนจะพูดว่า"พวกมึงจะได้รู้ล่ะว่าเหยื่อคนใหม่ของกูเป็นใคร" ว่าจบ ก็กดรับสายแล้วเปิดลำโพงในโทรศัพท์เพื่อให้เหล่าเพื่อน ๆ ได้ฟังด้วย"ว่าไง ได้เรื่องไหม" (ได้ครับ) กฤษลูกน้องมือขวาตอบกลับมาในสาย"ว่ามา" มาเฟียหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มเข้ม (เธอชื่อกอบัว พ่อทำงานบริษัทเล็ก ๆ ครอบครัวค่อนข้างจะมีปัญหาทางการเงิน...)"หึ" ตันติกรแค่นหัวเราะในลำคอด้วยใบหน้าที่ดูมีแผนการร้าย(...แม่ของเธอสุขภาพไม่ค่อยดีป่วยบ่อยมาก เธอจึงต้องทำงานหลังเลิกเรียนทุกวัน)"น่าสงสารน้องเขานะ พี่ยังจะ...""อะไรที่กูอยากก็ต้องได้" มาเฟียหนุ่มแทรกพูดขึ้นก่อนที่อี้เฉินจะพูดจบ"ไอ้ชั่ว!" นั้นเป็นคำด่าที่ออกจากของศิลา "ไอ้เชี่ยต้วน!" ตามด้วยหมอคินน์ "ถ้าพวกมึงยังไม่หยุดด่า...กูยิงไส้แตกแน่" ว่าจบ ทั้งศิลา หมอคินน์ และอี้เฉินก็ส่ายหน้าเอือมระอา"พูดต่อ" มาเฟียหนุ่มไม่สนใจเพื่อนเลือกที่จะคุยกับคนในสายต่อ (ใคร ๆ ต่างก็กล่าวเรียกเธอว่า นางฟ้า)"นางฟ้างั้นเหรอ" ตันติกรยกยิ้ม
ติ๊ด ระหว่างที่กอบัวกำลังเดินไปที่ห้องสมุดของคณะเสียงแจ้งเตือนแอปพลิเคชั่นสีเขียวก็ดังขึ้น เธอจึงรีบกดอ่านChomthap: วันนี้ฉันคงไม่ได้ไปทานมื้อเที่ยงด้วยนะ:ทำไมล่ะChomthap: ฉันต้องไปติวให้ไอ้เก่งคิดว่าจะกินข้าวกับมันไปเลย ไม่โกรธนะ:ไม่โกรธ ๆ ไว้เจอกันนะChomthap: ครับหลังจากจบการสนทนานักศึกษาสาวก็เปลี่ยนเส้นทางไปที่โรงอาหารแทน ระหว่างทางเธอก็เจอเข้ากับชายหนุ่มสองคนที่ลักษณะการแต่งกายสวมใส่ชุดดำทั้งตัวเดินตรงเข้ามาที่เธอ"คุณกอบัวใช่ไหมครับ" เขาเอ่ยถามอย่างสุภาพแต่ใบหน้าและท่าทางก็ทำให้หญิงสาวกลัว"ชะ ใช่ค่ะมีอะไรหรือเปล่าคะ" ถึงแม้จะหวาดกลัวแต่เธอก็เลือกที่จะตอบพร้อมกับถามกลับไป"คุณต้วนอยากเจอคุณครับ" หัวคิ้วงานย่นเข้าหากันด้วยใบหน้าสงสัย"เขาเป็นใครเหรอคะ" กอบัวกล่าวถามทำให้ชายทั้งสองหันมองหากันด้วยสีหน้ามึนงง"คุณไม่รู้จักคุณต้วน?" นักศึกษาสาวส่ายหน้ารัว ๆ "อืม ถ้าคุณได้เจอก็คงรู้จักเอง...เชิญครับ" หนึ่งในชายหนุ่มชุดดำผายมือให้นักศึกษาสาวเดินไปยังรถหรูที่จอดรออยู่"บัวไม่ไปค่ะ" หญิงสาวก้าวขาถอยหลังทำท่าเตรียมจะวิ่งชายหนุ่มชุดดำจึงรีบคว้าแขนเธอไว้"อย่าขัดขืนเลยครับ..." ชายชุดด
ตึก ตึก ตึก เสียงฝีเท้าหนักเดินเข้ามาภายในโกดังแล้วไปนั่งบนเก้าอี้พร้อมกับหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบก่อนจะพ่นควันที่ขาวขุ่นพวยพุ่งออกมา "เตรียมของส่งให้ลูกค้าเรียบร้อยแล้วใช่ไหม" มาเฟียหนุ่มกล่าวถามลูกน้องที่เปรียบเสมือนเป็นมือขวา"เรียบร้อยแล้วครับ" กฤษตอบกลับด้วยสีหน้าดูกังวลทำให้เจ้านายหนุ่มย่นคิ้วจ้องมาที่เขา"มีอะไรก็พูดมา" "ลูกค้าเปลี่ยนสถานที่ส่งของ" มาเฟียหนุ่มสูบบุหรี่แล้วพ่นควันออกก่อนจะพูดขึ้น"ที่ไหน" เขาไม่ได้มีความกังวลใด ๆ เพราะเรื่องแบบนี้คนอย่างเขาผ่านมาเยอะแล้ว"เอ่อ...ที่ท่าน้ำyou" หัวคิ้วเข้มขมวดเข้าหากันด้วยสีหน้าสงสัย มาเฟียหนุ่มรู้ดีว่าท่าน้ำที่พูดถึงเป็นเขตพื้นที่อริของเขา ซึ่งมีการทำข้อตกลงกันมาก่อนหน้าว่าต่างฝ่ายห้ามล้ำเขตกันและกัน"คุณต้วนคิดว่ามันแปลก ๆ ไหมครับผมรู้สึกว่า.." มือขวารู้สึกว่ามันไม่ชอบมาพากล จึงอยากที่จะเสนอยกเลิกการส่งของในครั้งนี้"ติดต่อทางนั้นบอกว่าเราแค่ไปส่งของ" มาเฟียหนุ่มแทรกพูดขึ้น ถึงว่าเขากับอริจะไม่ค่อยลงรอยกันแต่ก็ไม่เคยที่จะทำร้ายกันลับหลัง จึงเชื่อว่าถ้าขอเจรจาก่อนคงไม่มีปัญหาอะไร"ถ้าทางนั้นไม่ยอมล่ะครับ" "กูจะเป็นคนไปเอง" ว่าจบ มา
โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง กอบัวเดินวนเวียนไปมาอยู่หน้าห้องตรวจฉุกเฉินด้วยความรู้สึกไม่ค่อยดีถาโถมใส่ แม้พยายามสั่งตัวเองไม่ให้คิดมาก แต่คนที่อยู่ในห้องนั้นเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดของเธอ จึงไม่สามารถที่จะข่มความรู้สึกนั้นได้ ในขณะที่ตันติกรมาเฟียหนุ่มที่นั่งบนเก้าอี้กระติกปลายเท้าไม่แคร์ใครจ้องมองร่างบางที่เดินวนไปวนมาจนรู้สึกรำคาญ จึงลุกขึ้นแล้วเดินไปคว้ามือหญิงสาว"แม่เธอไม่เป็นอะไรหรอกหน่า..." เขาเบือนหน้าไปพ่นหายใจออกมาเฮือกยาวอย่างเซ็ง ๆ "...รู้ไหมว่าเธอทำให้ฉันเวียนหัวจะแย่" "..." คนตัวเล็กแหงนหน้าขึ้นมองชายร่างสูงแล้วย่นคิ้วด้วยใบหน้าสงสัย"ก็เธอเล่นเดินวนไปเวียนมาจนฉันเวียนหัวแทบจะอ้วกอยู่แล้ว" "พี่กลับไปก่อนก็ได้ค่ะ ขอบคุณ...""ทำไมฉันต้องกลับ?" ใบหน้าสวยก้มลงพร้อมกับเม้มปากทั้งสองเข้ากันแน่น "..." ภายในใจอยากจะพูดแต่ก็ไม่กล้าที่จะบอกออกไป เพียงเพราะคนตรงหน้าก็เสมือนกับเป็นผู้มีพระคุณที่เป็นคนพาแม่ของเธอมายังโรงพยาบาลได้ทันท่วงทีแม้ว่าเธอเองจะไม่ได้ร้องขอ"หยุดเดินวนไปวนมาได้แล้ว" ปากหนาเอ่ยด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์นัก เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมจะต้องมานั่งทนรอคนป่วยที่
DND Clupมาเฟียหนุ่มก้าวเท้าเดินขึ้นมาชั้นสองของผับโดยไม่เหลียวมองใคร เขามุ่งตรงไปยังห้องvvipเป็นห้องสำหรับไว้รองรับเพื่อนสนิทเท่านั้น แอ๊ดด ฝ่ามือหนาเปิดประตูเข้าไป ทำให้ดวงตาทั้งสามต่างจ้องมาที่เขา "มาเร็วเหมือนกันหนิ" ศิลาประธานบริษัทยักษ์ใหญ่เอ่ยขึ้นพร้อมกับยกแขนจ้องมองไปที่นาฬิกาข้อมือของตัวเอง ตึก ตึก ตึก เสียงฝีเท้าหนักแน่นเดินตรงมานั่งลงบนโซฟาหนังสีดำด้าน ก่อนจะคว้าขวดวิสกี้ขึ้นมารินใส่แก้วทรงเตี้ยที่ไม่มีเจ้าของ "ใครกันที่ทำให้นกเขาไอ้หมอฟื้นขึ้นชีพ" มาเฟียหนุ่มเปลี่ยนท่านั่งเป็นไขว้ห้างวาดมาดแล้วแกว่งแก้วเหล้าในมือวนไปมาก่อนจะกระดกขึ้นดื่มพรวดเดียว"เห็นว่าเป็นนักศึกษาฝึกงานที่โรงพยาบาลของมันน่ะ...." บอสหนุ่มหันไปที่หมอคินน์แล้วกล่าวถามเพื่อความแน่ใจว่าข้อมูลที่ได้ยินมาไม่ผิดเพี้ยน"....ใช่ไหมไอ้หมอ" "อืม" หมอคินน์ตอบกลับสั้น ๆ พร้อมกับยิ้มกรุ่มกริ่ม"ชื่ออะไรเหรอพี่หมอ" ดาราหนุ่มชาวจีนถามขึ้นด้วยใบหน้าสงสัยและอยากรู้"ชนชนก" "หึ..อย่าบอกนะมึงจะลอกคราบคาสโนว่า?" มาเฟียต้วนตั้งคำถามในขณะที่ยกขวดวิสกี้รินลงไปในแก้วของตัวเอง"ก็ไม่แน่""ว้าว..สงสัยพี่หมอคินน์จะได้สละโสดเป
มาเฟียต้วนยืนถือแก้วเหล้าไล่สายตาดูความเรียบร้อย และสอดส่องความปลอดภัยให้กับลูกค้าทั่วไป รวมถึงลูกค้าระดับVIP ผ่านกระจกใสบานใหญ่บนชั้นสอง แอดดด เสียงประตูทำให้สายตาคมกริบตวัดหันไปมอง ก่อนจะเดินไปนั่งวางมาดบนโซฟาหรู พร้อมกับกระดกดื่มน้ำเหล้าสีอำพันลงคอพรวดเดียวหมดแก้ว ตึก ตึก ตึก ระหว่างที่ฝีเท้าหนักเดินเข้ามายืนตรงหน้าแล้วก้มโค้งคำนับก่อนจะยื่นแฟ้มเอกสารสำคัญให้กับมาเฟียหนุ่ม"อะไร?" น้ำเสียงทุ้มเข้มกล่าวถามและไม่ได้รับมันมา"สัญญาการจำนองบ้านครับ" ได้ฟังแบบนั้น มาเฟียรุ่นน้องก็ย่นคิ้วเข้าหากัน"มึงเอามาให้กูทำไม" ปากหนาเอ่ยด้วยสีหน้าไปสบอารมณ์เพราะเขาไม่จำเป็นต้องมาดูเอกสารไร้สาระแบบนี้"บ้านที่ทางเรารับจำนองเป็นบ้านของผู้หญิงที่ชื่อกอบัวครับ..." สิ้นเสียง มาเฟียหนุ่มก็คว้าแฟ้มเอกสารในมือลูกน้องมาทันที"....พ่อของเธอเป็นคนเอามาจำนองเห็นว่าต้องใช้เงินด่วน" กฤษ ลูกน้องมือขวาอธิบายต่อในขณะที่เจ้านายดึงเอกสารออกมาดูอย่างตั้งใจ "หึ" เขาแสยะยิ้มร้ายด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์"เอ่อ..คุณต้วนจะ..""รับไว้สิ..แต่ระบุในสัญญาเป็นกรณีพิเศษไว้ด้วย" ริมฝีปากหนากระตุกยกยิ้ม"ได้ครับ" มือขวาคนสนิทรับคำสั
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด เมื่อรู้ว่าปลายตัดสาย มาเฟียหนุ่มขว้างปาโทรศัพท์หรูราคาเหยียบแสนด้วยความแรงของอารมณ์ที่เดือดดาลจนแตกกระจายเป็นชิ้น ๆ เขาขบกรามแน่นจนเห็นเส้นเลือดปูดโปนที่ขมับ"กอบัว..เธอท้าทายฉันงั้นเหรอ" ไม่เคยมีใครที่กล้าตัดสายมาเฟียหนุ่มที่โหดเหี้ยมเหมือนดั่งหญิงสาวที่เป็นแค่นักศึกษาธรรมดา ใบหน้าหล่อเหลาเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำด้วยแรงโทสะ"ใครอยู่ข้างนอก เรียกไอ้กฤษมาหากูหน่อย" เขาแผดเสียงก้องดังกังวานชวนขนลุกยามประกาศในคนด้านนอกรับรู้ ใช้เวลาไม่นานลูกน้องคนสนิทของมาเฟียต้วนก็เข้ามาอย่างรีบร้อน"คุณต้วนมีอะไรให้ผมรับใช้เหรอครับ" กฤษมือขวาคนสำคัญกล่าวถามด้วยน้ำเสียงนุ่มลึกอย่างสุภาพ เมื่อเห็นสีหน้าของเจ้านายแล้วก็รู้ทันทีว่าต้องวางตัวยังไง "มึง ทำสัญญาจำนองบ้านของกอบัวไปหรือยัง""กำลังดำเนินการอยู่ครับ..." กฤษตอบรับพร้อมขมวดคิ้วสงสัย"...เอ่อ คุณต้วนจะให้เพิ่มเติมอะไรหรือเปล่า" มือขวากล่าวถามราวกับรู้ว่าเจ้านายของตนต้องการอะไร"หมายเหตุสำคัญลงไปว่า..." ริมฝีปากหนาแสยะยิ้มร้ายก่อนจะเอ่ยประโยคสุดท้าย"...เพิ่มเงินให้อีกสองแสนแต่ต้องเอาลูกสาวมาขัดดอก" "ได้ครับ" กฤษรับปากอย่างว่าง่าย"รี
การมาของพ่อแม่มาเฟียต้วนมีจุดประสงค์ที่จะมาจัดการเรื่องงานแต่งให้ลูกชาย ซึ่งเขาเป็นคนขอร้องให้ทั้งสองเดินทางมา สู่ขอแฟนสาวตัวเล็กกับพ่อแม่ของเธอทั้งสองครอบครัวได้ปรึกษาหารือกันอย่างส่วนตัว แต่เป็นกันเองมาก ต่างเห็นชอบตรงกันว่าจะกำหนดพิธีมงคลสมรสอีกสองเดือนข้างหน้า ระหว่างที่ผู้ใหญ่ได้พูดคุยเรื่องการจัดเตรียมงาน กอบัวที่ยังคงมีอาการหน่วง ดิ่ง สีหน้าไม่สดใสเท่าที่ควร ทำให้มาเฟียหนุ่มเกิดความสงสัย จึงดึงเธอมาพูดคุยเป็นการส่วนตัวเพื่อถามไถ่ "เป็นอะไรหรือเปล่า พักนี้เธอแปลก ๆ ไปนะ" "ไม่มีอะไรคะ" เธอตอบด้วยน้ำเสียงไม่แจ่มใส ซ้ำยังแฝงความมัวหมอง "ไม่มีอะไรจริง ๆ เหรอ...." มาเฟียต้วนกล่าวถามซ้ำให้แน่ใจ เพราะช่วงหลัง ๆ มานี้ เขารู้สึกว่าแฟนสาวตัวเล็ก คอยจะออกห่างจากเขาอยู่ตลอด "...โกรธอะไรพี่หรือเปล่า" และยังทำทีท่าราวกับรังเกียจเขายังไงยังนั้น "บัวรู้สึกว่า..." ใบหน้าสวยหวานแฝงไปด้วยความเศร้าก้มงุดลง แล้วเม้มปากทั้งสองเข้าหากันแน่น "...บัวไม่อยากแต่งงานกับพี่แล้ว" เธอถอนหายใจพรืดใหญ่ ก่อนจะเงยหน้าแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเต็มไปด้วยความน้อยใจที่เกิดขึ้นอย่างไม่รู้สาเหตุ "กอบัว..."
กอบัวลมหายใจหอบถี่ รู้สึกสมองขาวโพน และหวาบหวิวในช่องท้องหลังจากที่ได้ปลดปล่อยน้ำสีใสออกมา ขณะที่มาเฟียหนุ่มจับแท่งเนื้อร้อนรูดขึ้นลง พร้อมกับช้อนตามองเธอไปด้วย ความเร่าร้อนก่อตัวขึ้นภายในกาย ไม่รอช้าเขาจับปลายหัวหยักจ่อไปยังช่องรักคับแคบ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงกระเส่า"จะเอามันเข้าไปละนะ" พูดจบ มาเฟียหนุ่มในท่าคุกเข่าตรงกลางกายของหญิงสาว ก่อนจะค่อย ๆ เอาท่อนเอ็นที่มีขนาดเกินมาตรฐานสอดใส่ไปยังร่องแคบทีละนิด ทีละนิด จนสุดลำ "อะ..อื้อ" ปึก ปึก ปึก เอวสอบขยับอย่างช้า ๆ เนิบ ๆ "อ่า" เสียงหอบกระเส่าพานให้สมองเบลอไปหมด มาเฟียหนุ่มเริ่มเร่งจังหวะเร็วขึ้น ปึก ปึก ปึก "อื้อ..อ๊ะ อ๊ะ" ความใหญ่โตกระแทกเข้ามาในร่องของหญิงสาวจนสุดความยาว ทำให้เธอครางสั่นเครือด้วยความกระสันเสียวปึก ปึก ปึก สะโพกสอบตอกอัดเข้ามาอย่างดุดัน ไปตามอารมณ์ดิบเถื่อน แต่ครั้งนี้มันไม่รุนแรงมากนัก หญิงสาวใต้ร่างไม่ได้ทักท้วงอะไร เขาจึงรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก "โคตรเสียว..หึ้มมม" มาเฟียหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ความสุขสมซ้อนทับกับสัมผัสที่หวาบหวาม มือหนาเอื้อมไปบีบเค้นเต้าอกอวบ พร้อมกับขยับสะโพกสอบอย่างรัว ๆ ปึก ปึ
ตันติกรลากเก้าอี้มาแล้วนั่งลงข้างเตียงผู้ป่วย ก่อนจะเอื้อมไปคว้ามือเรียวเล็กของกอบัวมากุมไว้ "ฉันโคตรดีใจเลย ที่เธอไม่ได้จากฉันไปจริง ๆ" มาเฟียหนุ่มกล่าวพร้อมกับคลี่ยิ้มบาง ๆ แต่แสนอ่อนโยนผิดกับตัวตนของเขา"เพราะอะไรเหรอคะ..." หญิงสาวเอ่ยถามด้วยใบหน้าที่ไร้เดียงสา"...หรือว่าเพราะบัวเป็นลูกน้องที่ไว้ใจของพี่" สิ้นเสียง มาเฟียหนุ่มก็มองใบหน้าสวยใสด้วยความรัก และเอ็นดู "เพราะว่าเธอคือ...." แอ๊ดดด ยังไม่ทันที่มาเฟียหนุ่มจะบอกความในใจ ก็มีคนเข้ามาขัดซะก่อน "สวัสดีค่ะพี่หมอคินน์" กอบัวเอ่ยทักพร้อมกับยิ้มหวานให้กับคนที่มาใหม่ "ไอ้หมอ!..." มาเฟียต้วนกัดฟันกรอด ขบกรามแน่นเมื่อเห็นหน้าคนบงการที่ทำให้เขาต้องโศกเศร้าเสียใจหมดอาลัยตายอยากถึงสองวัน"...มึงกับกูมีเรื่องที่ต้องคุยกัน!" เขาส่งแววตาเชือดเฉือนให้กับเพื่อนสนิท อย่างไม่จริงจังนัก เพราะยังไงแล้ว หมอคินน์ก็เป็นคนช่วยชีวิตกอบัวไว้"เหอะ เหอะ" หมอคินน์กลั้วหัวเราะก่อนที่จะบอกกล่าวเรื่องอาการของผู้ป่วยอย่างจริงจัง"พยาบาลบอกแล้วใช่มั้ยว่า อีกสองวันก็จะกลับบ้านได้""บอกแล้วค่ะ" หมอคินน์ผงกหัวรับ "ช่วงหนึ่งสัปดาห์แรก ต้องระวังอย่าเพิ่งยกขอ
ทุกคนมาถึงโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ซึ่งคณาธิปเพื่อนมาเฟียต้วนเป็นเจ้าของ ในขณะที่เอกสิทธิ์ และพิไล เดินนำหน้าพากฤษ และจอมทัพไปยังห้องพักฟื้นของลูกสาว ทั้งหมดก็ได้สวนทางกับหมอคินน์เข้าพอดี "หมอคินน์ครับ" หมอคินน์หยุดชะงักแล้วมองไปยังคนที่เรียกด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง "ไอ้จอม มึงเข้าไปก่อน..." กฤษพูดกับจอมทัพประโยคแรกก่อนที่จะหันไปพูดกับหมอคินน์"...กูกับหมอคินน์มีเรื่องที่จะต้องคุยกัน" มือขวามีสีหน้าตึงเครียดแฝงความโกรธน้อย ๆ ในขณะที่เจ้าของโรงพยาบาลยืนส่ายหน้าแล้วพึมพำออกมาพอได้ยินว่า"เป็นลูกน้องที่รัก และซื่อสัตย์ดีจริง ๆ เหอะ เหอะ" พูดจบก็กลั้วหัวเราะเบา ๆ "ทำไมหมอคินน์ทำแบบนี้ล่ะครับ" เมื่อกฤษได้รู้เรื่องราวทุกอย่างจากปากเจ้าของโรงพยาบาลแล้ว ก็กล่าวถามทันทีอย่างไม่สบอารมณ์นัก "เอาหน่า..กูก็แค่อยากแกล้งมันเล่น ๆ เอง" "หมอคินน์รู้มั้ยว่าคุณต้วนเสียใจมากแค่ไหน ข้าวปลาก็ไม่กิน วัน ๆ หมกตัวอยู่แต่ในห้องกับเจ้าแต้ม..เฮ้อ" กฤษบอกสถานการณ์เจ้านายตัวเองให้กับเพื่อนสนิทของเขาได้รับรู้อย่างเห็นอกเห็นใจ"กูขอโทษ..เอาละกูไม่แกล้งมันแล้วมึงรีบไปบอกเจ้านายของมึงเลยว่า กอบัวยังมีชีวิตอยู่...." หมอคิ
"ไม่นึกเลยว่าพี่ต้วนจะเป็นถึงขนาดนี้" ระหว่างที่กฤษพามาเฟียต้วนออกไปท่ามกลางสายตาทั้งสามหนุ่มที่ยังคงจ้องมองแผ่นหลังของเขา ต่างรู้สึกหลากหลายอารมณ์ อี้เฉินก็กล่าวขึ้นอย่างเห็นอกเห็นใจเพื่อนรุ่นพี่"จะสงสาร หรือสมน้ำหน้ามันดีนะ" ศิลาเอ่ยพร้อมกับส่ายหน้า ทว่านัยน์ตายังคงมีความเป็นห่วงมาเฟียเพื่อนสนิทอยู่ไม่น้อย"หึ" หมอคินน์แค่นหัวเราะแล้วยกยิ้มมุมปากด้วยใบหน้าราวกับมีอะไรในใจ แต่ทั้งศิลา และอี้เฉินต่างไม่ได้สังเกต "ไอ้หมอมึงติดต่อวัดหรือยัง" ศิลากล่าวถาม"เออ แล้วทางครอบครัวกอบัวรู้เรื่องหรือยังว่า..." อี้เฉินยังพูดไปจบประโยคก็มีเสียงฝีเท้าที่สวมใส่รองเท้าส้นเตี้ยวิ่งเข้ามาพร้อมกับร้องเรียกหมอคินน์"คุณหมอคะ คนไข้ฟื้นแล้วนะคะ" "อืม เดี๋ยวผมตามไป" หมอคินน์ตอบรับ ท่ามกลางสายตาของศิลา และอี้เฉินที่จ้องมองเขาอย่างมึนงง"ไอ้หมอแล้วเรื่องกอบัว..""พี่จะทิ้งไว้แบบนี้งั้นเหรอ" ดาราหนุ่มชาวจีนแทรกพูดขึ้นพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย "พวกมึงตามกูมา" พูดจบ เจ้าของโรงพยาบาลก็ก้าวขาเดินนำหน้าสองหนุ่มไปยังห้องพักฟื้นผู้ป่วยวีไอพีทันที พอประตูห้องเปิดออก ทั้งประธานบริษัท และดาราหนุ่มชาวจีนต่างดวงต
ตึก ตึก ตึก เสียงฝีเท้าหนักวิ่งพาร่างหญิงสาวที่หมดสติ เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือดเข้ามาในโรงพยาบาลชื่อดัง พร้อมกับตะโกนร้องเรียก เพื่อนหมอเจ้าของโรงพยาบาลราวกับคนเสียสติ"ไอ้หมอ! ไอ้หมอโว้ย ช่วยเมียกูด้วย" มาเฟียหนุ่มไม่รู้ตัวเลยว่าเขาได้หลุดปากเปลี่ยนสรรพนามให้เธอไปแล้ว"ไอ้ต้วน!" หมอคินน์ที่เพิ่งออกจากห้องตรวจเมื่อเห็นเพื่อนสนิทที่มีสีหน้าแตกตื่น จึงรีบวิ่งเข้าไปแล้วสำรวจบาดแผลร่างเล็กที่อยู่บนแขนของมาเฟียต้วน "ทำไม น้อง..." "มึงช่วยเมียกูด้วย" หมอคินน์คลี่ยิ้มบาง ๆ ก่อนจะหันไปสั่งพยาบาลให้เตรียมห้องผ่าตัด แล้วให้บุรุษพยาบาลนำรถมาเอาร่างหญิงสาวไปยังห้องผ่าตัดอย่างเร่งด่วน "ไอ้หมอ กูฝากกอบัวด้วย" ก่อนที่หมอคินน์จะเดินเข้าไปในห้องผ่าตัด มาเฟียตัวนก็คว้าแขนเขาไว้ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ดวงตาแดงก่ำ "อืม" ทางด้านหมอเจ้าของโรงพยาบาลตอบกลับสั้น ๆ แล้วก้าวขาเดินเข้าไปในห้องผ่าตัดอย่างรวดเร็ว มาเฟียหนุ่มเดินย้ำก้าวนั่งไม่ติดเก้าอี้ แววตามีความหวั่นวิตกมองผ่านกระจกเล็กเข้าไปในห้องผ่าตัด เขาแสดงออกได้ชัดว่าเป็นห่วงหญิงสาวเป็นอย่างมาก เวลาล่วงเลยมาร่วมสองชั่วโมงก็ยังไม่มีทีท่าว่าหมอคิน
จอมทัพยิงปืนขึ้นบนหลังคาโกดังในขณะมืออีกข้างยังคงรัดลำคอของกอบัวที่มีใบหน้าตื่นตระหนกตกใจเป็นอย่างมาก "มึงคิดว่าจะออกไปง่าย ๆ งั้นเหรอ" จอมทัพตะโกนบอกกับมาเฟียหนุ่มที่จ้องมองหญิงสาวด้วยสายตากังวล และเป็นห่วงคละเคล้ากัน เขาไม่ได้จะออกไปจากที่นี่โดยที่ไม่พาหญิงสาวที่หวงแหนได้กลับไปด้วย แต่เขาแค่รอโอกาสที่จะสามารถชิงตัวเธอมาเท่านั้น"มึงต้องชดใช้ชีวิตให้กับพ่อของกู!" มาเฟียหนุ่มตวัดสายตามองไปยังจอมทัพ หัวคิ้วมุ่นขึ้นเล็กน้อย "ทำไมกูต้องชดใช้?" เขาถามห้วน ๆ "ก็เพราะมึงเป็นฆาตกรฆ่าพ่อกู!" จอมทัพกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาเข้ม ขบกรามแน่นจนเป็นสัน จ้องไปที่มาเฟียหนุ่มด้วยดวงตาทอประกายแห่งความโกรธแค้น"เหอะ" มาเฟียต้วนเงยหน้าขึ้นมองเพดานแล้วกลั้วหัวเราะออกมา เขาเพิ่งจะรู้ว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของชายหนุ่มนั่นคือต้องการชีวิตเขา เพียงเพราะเข้าใจผิดว่าเขาเป็นคนที่ฆ่าพ่อของชายหนุ่ม "มึงหัวเราะอะไร" "ถ้าเป็นเรื่องระหว่างมึงกับกู...." สายตาคมกริบตวัดไปที่หญิงสาวตัวเล็กที่มีใบหน้าหวาดกลัว"...ปล่อยกอบัวไปซะ" "กูไม่ปล่อยจนกว่ามึงจะคุกเข่ามาให้กูฆ่า" สิ้นเสียง มาเฟียหนุ่มก็พ่นลมหายใจอย่างหมดความอ
หญิงสาวถูกมัดมือ มัดเท้า และมีผ้าปิดปากอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ เธอพยายามช่วยตัวเองให้หลุดออกจากพันธนาการนั้น ทว่ามันไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิด แอ๊ดดดด ประตูห้องเปิดเข้ามาพร้อมกับชายหนุ่มร่างสูงคนคุ้นเคย เขาเดินแสยะยิ้มร้ายมาที่เธอ แล้วดึงผ้าที่ปิดปากของหญิงสาวออก "จอม..ช่วยบัวด้วย..." กอบัวบอกกล่าวพร้อมกับเผยยิ้มอย่างสบายอกสบายใจที่ได้เจอกับจอมทัพ เพราะก่อนหน้าเธอมาตามนัดแล้วแต่บังเอิญไปเจอกับชายฉกรรจ์ที่ท่าทางไม่น่าไว้ใจ เธอพยายามจะหลบหนี สุดท้ายก็ถูกจับจนได้ "...พวกเราต้องรับออกไปที่นี่ เพราะพวกนั้นน่าจะ..." ทันทีที่กอบัวเห็นสายตาของจอมทัพ เธอก็ต้องปิดปากเงียบ"หึ" จอมทัพกลั้วหัวเราะในลำคอเบา ๆ พร้อมกับสายตาที่เย็นชาราวกับน้ำแข็งที่จ้องไปที่กอบัว"ทำไมจอม.." เธอประหวั่นพรั่นพรึง แววตาสั่นระริกเช่นเดียวกับริมฝีปาก ด้วยท่าทางของเขาที่มีรังสีอำมหิตแผ่ออกมาจากร่าง ดั่งกับไม่ใช่คนที่เธอรู้จัก"..หรือว่าจอม..""ใช่ ฉันหลอกเธอมาเป็นเหยื่อล่อไอ้ต้วนมา..." จอมทัพแทรกพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำพร้อมกับกัดกรามแน่น"...แล้วฉันจะฆ่ามันด้วยมือของฉันเอง" เขากล่าวด้วยความอาฆาตแค้นซึ่งปรากฏออกมาจากแววตา กอบั
ปึก ปึก ปึก เสียงหยาบโลนดังระงมไปทั่วห้อง หญิงสาวนอนครางเสียงหวานเบา ๆ พอให้ได้ยิน "อะ อ๊ะ อื้ออ" ร่างบางโยกคลอนไปตามจังหวะสะโพกสอบที่ตอกอัดเข้ามาไม่หยุด ปึก ปึก ปึก มาเฟียหนุ่มหลุบตามองเรือนร่างเปลือยเปล่าที่ขาวนวลสะท้อนแสง ใบหน้าสวยแดงก่ำราวกับลูกตำลึง เธอกัดริมฝีปากเย้ายวน ทำให้ความเร่าร้อนในตัวของเขาแล่นปลาบไปทั่วร่าง ปึก ปึก ปึก เอวหนากระแทกกระทั้นด้วยความกระสันเสียว ก่อนจะโน้มหน้าลงมาแล้วเลื่อนริมฝีปากแนบลงดูด ดุน ที่ลำคอเพรียวระหงจนเกิดรอยแดง เขาจ้องมองแล้วแสยะยิ้มอย่างพึงพอใจ"อ่า อึ้มม.." มาเฟียหนุ่มครางเสียงทุ้ม ในระหว่างที่ไสท่อนเนื้อตอกอัดร่องรักเข้าไปไม่หยุด"อะ อ๊ะ สะ เสียว" คนใต้ร่างร้องครางด้วยดวงตาที่หวานเยิ้ม มาเฟียหนุ่มรู้สึกเสียวลำกายจนแทบคลั่ง สองมือจับสะโพกผายหลวม ๆ แล้วกระแทกเอวหนาเข้าไปอย่างหนักหน่วงปึก! ปึก! ปึก! "อ๊าาาา.." แรงบีบรัดจากความเกร็งของกอบัวทำให้เขาเสียวจนทนไม่ไหว ตอกสะโพกเข้าไปอีกสองสามทีก่อนจะปล่อยน้ำคาวสีขาวขุ่นพ่นเข้าไปในกายของเธอตันติกรโน้มตัวลงทาบที่ร่างของกอบัว เสียงหอบกระเส่าของเขาทำให้เธอสมองเบลอไปหมด แต่ต้องสะดุ้งวาบเมื่อรู้สึกว