[ Neerada Talk ]ปึง...ปึง...ปึงงงง!!!!ฉันสะดุ้งตื่นเพราะเสียงทุบประตูห้องอย่างแรงจากคนด้านนอก...อะไรกันเนี่ย...คนจะนอน“เปิดประตู!!!...หนูดา...เปิด” เสียงไอ้เด็กบ้านั่นดูร้อนใจมากเขาเป็นอะไรของเขานะ เสียงทุบประตูยังคงดังอยู่ไม่ขาดสาย“มีอะไร…หืออ...หน้านายไปโดนไรมา” ฉันเปิดดูออกพร้อมเอามือปิดจมูกนิดๆ กลิ่นเหล้าคละคลุ้งออกมาจากตัวเขาจนแทบจะทำให้ฉันมึนไปด้วย แล้วก็ต้องตกใจกับภาพที่เห็นตรงหน้า เขาไปฟัดกะหมาที่ไหนมานะ แต่ทำไมเขาเอาแต่จ้องหน้าฉัน ไม่พูดอะไรสักคำ แล้วเขาก็ก้าวเข้ามาในห้องฉันปิดประตูลงพร้อมกดล็อกที่ลูกบิดทันที“เข้ามาทำไม…”“ทำไม!!!!” ถามดีๆ ทำไมต้องตวาดด้วยวะ...ตกใจหมด“ก็นี่มันห้องฉัน...ออกไปนะ…”“นี่อะไร…” เขาหยิบของออกมาจากกระเป๋าเสื้อ...แล้วยื่นให้ฉัน นี่มันลิปสติกสีโปรดของฉันนี่“ลิปสติกของฉัน...หาตั้งนาน ทำไมถึงไปอยู่ที่นายล่ะ…?”“หึ...ได้กับมันแล้วซินะ” เขาพูดพลางแสยะยิ้มที่มุมปาก...คืออะไร“อะไรของนาย…”“ไอ้พัศกรฝากมา...ทีนี้นึกออกรึยัง”“พี่กร...งั้นเหรอ อ๋อ...สงสัยตกในรถ แล้วนายรู้จักเขาได้ไงอะ แล้วทำไมถึงเรียกเขาแบบนั้น ขะ…”“หุบปาก!!!!” ฉันรีบเม้มปากเข้าหากันแ
หลังจากที่ไอ้เด็กบ้านั่นออกไปจากห้องฉัน น้ำตาที่อั้นมานานก็ไหลออกมาอย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุด ฉันปล่อยให้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไงนะ แต่ในเมื่อมันเสียไปแล้ว ฉันไม่ใช่เด็กที่จะมานั่งเสียใจฟูมฟายและฉันก็จะต้องเข้มแข็งไม่ยอมให้เขารังแกได้อีก คิดได้ดังนั้นฉันเลยปาดน้ำตาบนหน้าและลุกไปอาบน้ำล้างคราบสกปรกพวกนั้นออก“ว๊ายยย…ห้ามมองนะ” ฉันเปิดประตูห้องน้ำออกมาแล้วก็ต้องตกใจที่เห็นว่ามีอีกสายตามองฉันอยู่จึงรีบเอามือขึ้นมาปิดเนินอกไว้ เพราะตอนนี้ร่างกายฉันมีแค่ผ้าขนหนูผืนเดียวเท่านั้น ไอ้เด็กบ้านี่มันเข้ามายุ่มย่ามในห้องฉันอีกแล้ว“จะอายทำไม...เห็นหมดแล้ว...หึ”“ไอ้เด็กบ้า หยุดพูดนะ”“รีบไปแต่งตัวก่อนดีไหม...หนูดาคนสวย” ไอ้...ไอ้เด็กเลว ฉันไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าไอ้เด็กบ้านี่ดี ฉันรีบกลับเข้าไปแต่งตัวในห้องน้ำ ออกมาก็เห็นว่าหมอนั่นนั่งอยู่ที่เตียงฉัน“เข้ามาทำไม…”“อ้ะ...อันนี้ของเธอ” เขายื่นซองอะไรก็ไม่รู้มาให้ฉัน“อะไรของนาย”“ยาคุม…” อยู่ๆ หน้าฉันก็เห่อร้อนขึ้นมากับคำว่า ยาคุม ไอ้เด็กนี่ไปซื้อยาคุมมาให้ฉันเนี่ยนะ“ฉะ...ฉันจัดการเองได้...ไม่ใช่เรื่องของนาย”“ก็ซื้อมาแล้ว...กินๆ ไปเหอะ หรือ
[Neerada Talk]อ๊อดดดด…..เสียงนั่นทำให้ฉันหงุดหงิดชะมัด ฉันกำลังพักสายตาอยู่นะ รบกวนเวลานอนของฉันจริงๆ ใครมานะ...เพื่อนไอ้เด็กบ้านั่นแน่ๆ เพราะไม่มีใครที่นี่รู้จักบ้านฉัน อ๋อ...พี่กรรู้จักบ้านฉันนี่...หรือจะเป็นเขา แล้วถ้าเป็นพี่กรละ ฉันจะไปสภาพนี้ได้ยังไงกัน ทำไง...ทำไงดี รอยเต็มคอฉันไปหมด ฉันยังไม่พร้อมเจอใครทั้งนั้น ไอ้ดินบ้า...คอยดูนะฉันจะเรียกค่าเสียหาย ค่ารองพื้นของฉัน หึย!!! คิดแล้วก็โมโหหมอนั่นชะมัด ทำรอยไว้ทำไมเยอะแยะนะ คราวหน้าฉันจะทำบ้าง เอาให้ออกไปไหนไม่ได้เลย เอาให้อายไม่มีที่ยืนเลยเอ๊ะ…! ครั้งหน้า บ้าเหรอยัยหนูดา คิดอะไรเนี่ย จะมีครั้งหน้าได้ยังไง...ไม่ได้ๆ หยุดคิดเดี๋ยวนี้ เสียงอ๊อดเงียบไปแล้วแสดงว่าไปแล้วซินะ….ฉันจึงลงไปเปิดประตูดูเพื่อความแน่ใจ“ต๊ะเอ๋…!!!!!”“ว๊ายยยย ตาเถร” หัวใจจะวาย...อยู่ดีๆ ก็มีเด็กน้อยโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ ทำเอาฉันตกใจเกือบตาย“คิ….คิ….คิ….”“เล่นอะไรเนี่ย...พี่ตกใจหมด” ฉันค่อยๆ ย่อตัวลงให้เท่ากับเด็กหญิงตัวน้อยตรงหน้าพลางเอื้อมมือไปลูบใบหน้าน้อยๆ นั่นอย่างเอ็นดู“ขอโต๊ดค่ะ…”“ไม่เป็นไรจ้ะ ว่าแต่หนูลูกใครเนี่ย แล้วมาทำไรแถวนี้” ฉันพูดพลางมองหาพ
[Neerada Talk] ดินพาฉันมาขึ้นรถโดยไม่พูดอะไรสักคำ เขาเป็นอะไรไปนะ ฉันลอบมองเขาเป็นระยะพลางนึกถึงเรื่องที่หมอบอกว่าฉันเป็นผู้หญิงคนแรกที่ดินทำแบบนี้ พามาหมอแบบนี้ แถมยังหวงมากซะด้วยเขาคิดยังไงกับฉันกันแน่นะ ขอคบฉันตั้งแต่ตอนนั้นแล้วก็ไม่เคยพูดเรื่องนี้อีกเลย ไม่เคยบอกว่าชอบฉันเลยสักครั้ง ชมก็ยังไม่เคย ฉันดูไม่ออกเลยว่าเขาคิดยังไง แต่ตอนนี้ฉันชอบเขาเข้าแล้วจริงๆ นั่นแหละ เตรียมตัวเสียใจได้เลย...ยัยหนูดา“ถ้ายังไม่หยุดมองแบบนั้น…ฉันจะไม่ทนแล้วนะ” เสียงนั่นทำให้ฉันตื่นจากภวังค์และหันหน้าไปมองทางอื่น นี่ฉันเผลอจ้องเขาจนเขารู้ตัวเลยเหรอเนี่ย แล้วอะไรไม่ทน...ไม่ทนอะไร ไอ้เด็กบ้า ในสมองเขามีแต่เรื่องใต้สะดือรึไงนะ“อะ..อ๋อ เท่าไรล่ะ...ค่ารักษา เดี๋ยวฉันเอาเงินให้” ฉันเลยหันไปถามเขาแก้เก้อเขิน“ให้คืนเป็นอย่าง...อื่นได้ปะ” เขาไม่พูดเปล่ายังใช้สายตาไล่มองตามร่างกายของฉัน จนฉันต้องเอามือที่เหลือข้างเดียวนั่นขึ้นมาป้องกันร่างกายจากสายตาหื่นกระหายนั่น สมองเขาคงมีแต่เรื่องแบบนี้จริงๆ ไปอดอยากมาจากไหนนักหนา“นี่!!!!...นาย” เขากระตุกยิ้มที่มุมปาก ฉันเกลียดรอยยิ้มไอ้เด็กบ้านี่“พรุ่งนี้ไปทำงานได้รึ
ผมอยากจะตามคนตัวเล็กขึ้นไปนะแต่ไม่ดีกว่า กลัวอดใจไม่ไหว ยัยเตี้ยนี่ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งคุมตัวเองยากขึ้นทุกวัน คิดแล้วก็อดยิ้มให้กับความน่ารักของเธอไม่ได้เลย อายุเป็นเพียงตัวเลขจริงๆ ผมเลยเดินเข้าห้องไปอาบน้ำแต่งตัว วันนี้ผมต้องไปเล่นกีตาร์ให้เฮียต้น รับปากเขาไว้แล้ว ห่วงยัยเตี้ยนี่ก็ห่วง เฮ้ออออ!!! รีบไปรีบกลับเอาแล้วกัน ก่อนออกไปผมเลยไปทำข้าวต้มไว้ให้คนป่วยที่อยู่บนห้องเพราะกลัวว่าเธอจะหิวแล้วทำไฟไหม้บ้านอีก แล้วก็ถือซะว่าแทนคำขอโทษ ที่ผมว่าจะพูดกับเธอแต่ดันพูดไม่ออกซะงั้น@ ผับติ้ง...ติ้งงงเสียงไลน์แจ้งเตือนข้อความจากไอ้ยูตะ[ที่เดิม รีบตามมาให้ไว]และก็เหมือนทุกๆ วัน มันสามตัวประจำที่เดิมทุกวันไม่ว่าผมจะมาเล่นกีตาร์หรือไม่ก็ตาม แดกกันได้ทุกวี่ทุกวันจริงๆ แต่ผมก็มาแดกฟรีทุกวันเหมือนกันและพอผมเสร็จงานก็ตรงขึ้นไปหาพวกมันทันทีแต่กะว่าจะนั่งสักแป๊บแล้วค่อยกลับ ป่านนี้หนูดาคงหลับไปแล้ว“พี่ดินนนน…” เสียงแหล่มเอ่ยเรียกผมตั้งแต่เปิดประตู ผมแทบไม่อยากเข้าไปเลยพอเห็นว่าคนที่เรียกเป็นใครแต่ก็จำใจต้องเข้า“น้องเค้กคนสวยเขามารอมึงนานแล้ว” ไอ้ยูเอ่ยบอกผม“แล้ว…” ผมพูดพลางหยิบแก้วมาชงเหล้า“ก็เค้ก
@ บริษัท Yฉันนั่งอยู่ที่ตรงทำงานพลางเอาปากกาเคาะโต๊ะไปเรื่อยสุดท้ายเขาก็ไม่กลับบ้าน เฮ้ออออ….“พี่หนูดาทำไม่มาเช้าจัง…” ฉันหันไปหาต้นเสียงทักทาย“ (*_*) ”“เชี่ยยยย!!! พี่ยังไม่หายป่วยเหรอ ทะ..ทำไมขอบตาเป็นแบบนั้น” ใช่ตอนนี้ฉันเป็นหมีแพนด้าเลยละ ไม่แปลกที่เฟรนจะตกใจ เพราะฉันไม่ได้นอนทั้งคืน“นิดหน่อย...”“เฟรนว่าไม่นิดแล้วนะ...ไหวไหมเนี่ย”“ไหว…” ฉันหันไปตอบเฟรนที่ตอนนี้มันเดินมานั่งที่โต๊ะทำงานเรียบร้อยแล้ว แขนฉันมันยังเจ็บอยู่นิดหน่อยแต่ไม่มาก ฉันถอดผ้าที่หมอพันให้ออกแล้ว และคิดว่ามันน่าจะไม่เป็นไรแล้ว เพราะฉันยกแขนได้ปกติแล้ว ฉันพยายามจะไม่นึกถึงเรื่องไอ้เด็กบ้านั่นและตั้งใจทำงานให้ดีที่สุดกับสมาธิที่มีเหลือน้อยนิดของฉัน เขาเป็นต้นเหตุที่ทำให้ฉันไม่เป็นอันทำงานทำการอยู่เรื่อยเลย...หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป...ไวเหมือนโกหกฉันยังคงนั่งทำงานอย่างใจจดใจจ่อว่าเมื่อไรจะเลิกงานสักที ฉันอยากกลับบ้านจะแย่ อยากรู้ว่าเขาจะกลับมารึยัง นี่มันอาทิตย์หนึ่งแล้วนะที่เขาไม่กลับมาเลย เขาโกรธอะไรฉันนักหนา เฮ้ออออ….“พี่หนูดา...ช่วงนี้เป็นไรอะพี่ หน้าตาไม่ค่อยสดชื่นเลย” เฟรนด์ถามขึ้นพลางเก็บของเตรียมกลับบ้
[Patapee Talk]เอี๊ยดดดดดด/////ผมลงจากรถทันทีที่ผมเข้าเส้นชัยเป็นคันแรก แต่สายตาผมดันเหลือบไปเห็นผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างสนามนั่น...หนูดา ไอ้เชี่ยยู ปล่อยให้เธอลงมายืนอยู่ตรงนี้ได้ยังไงวะ ผมไม่อยากให้เธอเห็นว่าผมลงแข่งนัดนี้เพราะนัดนี้เดิมพันคือผู้หญิงแต่ผมไม่ได้ทำเพื่อผู้หญิงพวกนั้นอยู่แล้วใครๆ ก็รู้ แต่เธอต้องไม่รู้แน่ๆ สายตาที่เธอมองผมตอนนี้ ดวงตาสั่นระริก มีน้ำใสคลอเบ้าตาอยู่อีก ยัยเตี้ยนั่นร้องไห้อีกแล้ว แต่ตอนนี้ผมมีอีกอย่างที่ต้องจัดการและเธอจะเห็นไม่ได้ ผมเลยหันไปส่งสัญญาณให้ไอ้ธามที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอทันทีที่ไอ้ธามปิดตาเธอ ผมก็หันกลับมาซ้อมไอ้เวรนั่นที่มันเล่นสกปรกในสนาม“หึ...มึงคิดว่ากูเป็นมือสมัครเล่นรึไง โทษทีว่ะ...กูอะของจริง” ผมพูดพลางกระชากคอเสื้อมันขึ้นมาแล้วลากมันไปให้พวกของผมจัดการต่อ จากนั้นผมก็เดินตรงเข้าไปหายัยเตี้ยนั่นที่ยังถูกไอ้ธามปิดตาไว้“ปล่อยได้ล่ะมั้ง” ไอ้ห่านี่...หลอกแต๊ะอั๋งยัยเตี้ยของผมรึเปล่าวะ….เพี้ยะ///….ปึก…..ปึกทันทีที่เป็นอิสระเธอก็เดินเข้ามาตบหน้าผม ทั้งทุบทั้งผลัก จนผมต้องดึงร่างเล็กนั่นเข้ามากอด ผมรู้ว่าเธอกำลังเสียใจ กำลังโกรธ และเธอก็กำลังร้อ
[Patapee Talk] ผู้หญิงอะไรขี้สงสัยชะมัด และจะมาอยากรู้อะไรเวลานี้ แก่นกายผมปวดหนึบไปหมดแล้วเนี่ย ผมโยนร่างบางลงบนเตียงและตามขึ้นไปคร่อมไว้ทันที ทีนี้แหละ...ไม่รอดแน่ ผมซุกไซ้ซอกคอระหงนั่นและไม่ลืมที่จะทำรอยเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของไว้ด้วย ต่อจากนี้เธอจะเป็นผู้หญิงของผมแบบเต็มรูปแบบ ผมให้สิทธิ์เธอเหนือกว่าผมทุกอย่าง ผมยินดีที่จะให้ยัยเตี้ยนี่เข้ามาวุ่นวายในชีวิตของผมเพราะแค่ผมห่างเธอไปอาทิตย์เดียวยังจะตายเลย ต่อจากนี้ผมจะไม่ยอมปล่อยให้เธอห่างผมอีกเป็นอันขาด“อ๊ะ...ดิน เจ็บ อย่ากัด” เธอร้องท้วงผมเมื่อผมเผลอทำรุนแรงกับร่างบางนี่ ก็มันน่าฟัดซะขนาดเนี่ย“จุ๊บ...โทษที” ผมจูบเข้าที่รอยกัดเมื่อกี้“ดะ...ดิน” ร่างบางดันอกผมออกอีกแล้ว สงสัยอะไรอีกว่ะ...จะแตกแล้วเนี่ย ไม่ได้เข้าสักที“หนูดา...ขอเหอะ นะ...” ผมพูดพลางส่งสายตาอ้อนวอนให้เธอ“ดิน...คือ ฉัน…” ผมเลิกคิ้วมองร่างบางอย่างสงสัย เธอกลัวเหรอ…“ไม่ต้องกลัว...มันจะไม่เจ็บ ฉันจะเบามือที่สุดเลย” ผมพูดปลอมประโลมคนตัวเล็กใต้ร่าง แล้วก้มลงไปซุกไซ้ซอกคอนั้นอีกครั้ง แม่ง...ตั้งนานแหละยังอยู่ที่คอเนี่ย ไม่ได้ไปไหนซะที“ฉันเป็นเมนส์...”“ฮะ!!!...” ผมหย
วันนี้ดินพาฉันมาฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลของตามคำแนะนำของคุณหมอคนเดียวของกลุ่ม แต่วันนี้ฉันดูสดชื่นและมีความสุขแบบบอกไม่ถูก ยิ่งได้เห็นหน้าดิน ได้จับ ได้กอด ได้หอมนะ ยิ่งมีความสุขเข้าไปใหญ่จนยิ้มไม่หุบเลยแหละ คิ คิ“เป็นไรเนี่ย” ดินถามขึ้นระหว่างที่เรานั่งรอหมอเรียกอยู่ด้านหน้าเคาน์เตอร์แล้วฉันเอาแต่คล้องแขนเขาพลางใช้จมูกโด่งซุกไปมาอยู่ที่แขนดินแบบนั้นไปยอมปล่อย“ไม่รู้อ่ะ อยากได้กลิ่นตัวดิน” ฉันพูดเสียงอู้อี้เมื่อจมูกยังกดอยู่ที่แขนของเขา รู้สึกเหมือนตัวเองหื่นยังไงก็ไม่รู้ แต่มันห้ามไม่ได้เลยอ่ะ“หื้มม”ฉันเหลือบมองหน้าดินเห็นเขาแอบเขินหน่อยๆ ด้วยนะ คิ คิ น่ารักที่สุดเลย หลัวฉัน...ของฉันคนเดียว“เชิญคุณนีรดาร์ ห้องตรวจ 1 ค่ะ”เอ๊ะ…! เรียกแล้ว ฉันกับดินพากันเดินเข้ามาในห้องตรวจ 1 ตามที่เสียงที่ประกาศเรียกเมื่อกี้ ฉันเห็นหมอผู้หญิงคนนี้แล้วไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่เลย เอาแต่มองดินอยู่ได้ ตั้งแต่นั่งอยู่ตรงนั้นจนฉันขึ้นนอนบนเตียงเพื่อจะอัลตราซาวด์ดูเบบี๋น้อยในท้องฉัน มันก็ตื่นเต้นอยู่หรอกแต่ใจดันจดจ่ออยู่หมอคนนั้นกับหลัวฉันเนี่ยแหละ“ดิน! หันมาหาหนูดา”“ดินดูเบบี๋อยู่ เนี่ยหนูดาดูดิ เห็นไหม”
“ดิน สุขสันต์วันเกิดนะ หนูดารักดิน นี้ของขวัญวันเกิด” หนูดาเดินเข้ามากอดผมแล้วพูดขึ้นพร้อมกับยัดบางอย่างใส่มือผมก่อนจะผละออกแล้วทำท่าเขินๆ ผมเลยยกมือขึ้นมาดูว่าเธอเอาอะไรให้ผม“เห่ย!” ผมอุทานเสียงหลง เผลอยิ้มออกมาอย่างดีใจ ลืมความโกรธเมื่อกี้นี้ไปจนหมดสิ้นแล้วดึงหนูดาเข้ามากอดอีกครั้งพลางก้มจูบที่หัวเธอเบาๆ นี้เป็นของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุดในชีวิตผมเลย ผมกำลังจะเป็นพ่อคน เรากำลังจะมีเจ้าตัวเล็กด้วยกัน เรากำลังจะกลายเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ“หายโกรธนะ ป๊ะป๋า จุ๊บ” หนูดาดันตัวออกแล้วเขย่งขึ้นมาจุ๊บที่ปากผมทีหนึ่ง ผมส่ายหน้าน้อยๆ ให้กับความเล่นใหญ่เล่นจริงของเมียตัวแสบ แต่คำว่า ป๊ะป๋า เนี่ยมันทำให้ผมอยู่ไม่เป็นสุขเลยจริงๆ หน้าร้อนผ่าวไปหมด“หึ ไม่เอาเล่นใหญ่แบบนี้แล้วนะ จะช็อกว่ะ”ปัง...ปังฮิ้ววววว….ฮิ้วววววโห...แม่งเล่นใหญ่จริงว่ะ มีพลุสายรุ้งด้วย..นี่ขนาดวันเกิดยังเล่นใหญ่ขนาดนี้ ถ้างานแต่ง..กูว่ามีนอนในโรงแกล้งกูแหง...หึ แล้วก็ตามมาด้วยเสียงแซวต่างๆ นานาของให้พวกเวรนั่น“ว่าแต่เพิ่งปล่อย ทำไม” ผมก็อดที่จะสงสัยไม่ได้เพราะหนูดเพิ่งจะตกลงกับป๊าเมื่อไม่กี่วันนี้เองว่าจะมีหลานให้ท่าน“3
ผมออกมาเคลียร์งานที่ผับตั้งแต่เช้าเพราะวันนี้วันหยุด ปกติหนูดาจะเป็นคนทำแต่วันนี้ยัยเตี้ยของผมไม่ค่อยสบาย ผมเลยกะว่าจะมาเคลียร์งานให้เสร็จแต่เช้า สายๆจะได้พาเมียไปหาหมอผมนั่งเคลียร์งานอยู่ในห้องสักพักก็มีคนเปิดประตูห้องทำงานของผมเข้ามาอย่างถือวิสาสะแกร่ก...แอ๊ดดดด“อุ้ย! ขอโทษค่ะ คือป้าไม่รู้ว่านายน้อยจะเข้ามาแต่เช้า” ป้าแม่บ้านวางอุปกรณ์ทำความสะอาดลงแล้วรีบยกมือไหว้ผมด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน นี่ผมน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอวะ“ป้าจะไหว้ผมทำไม ป้าจะทำความสะอาดใช่ไหม ทำเลยครับ ไม่เป็นไร” แล้วผมก็ยกมือไหว้ป้าคืน นรกได้กินหัวผมพอดีให้คนรุ่นราวคราวเดียวกับป๊ามายกมือไหว้แบบนี้ แล้วป้าก็เอามือลงส่งยิ้มมาให้ผมก่อนจะหันไปหยิบอุปกรณ์แล้วทำความสะอาดตามหน้าที่ของท่านครืดดดด...ครืดดดดผมรีบหยิบมือถือออกจากกระเป๋าทันทีเพราะคิดว่าเป็นสายเรียกเข้าจากเมียแต่ไม่ใช่ เบอร์ใครวะ...ผมเลื่อนสไลด์เพื่อรับสาย“ครับ ผมปฐพี อะไรนะ! ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้” ผมรีบคว้ากุญแจรถแล้วออกมาจากห้องทำงานทันทีพลางกดมือถือหาเฮียหมอไปด้วย ไอ้เฮียหมอแม่งก็ไม่รับสายซะทีวะ…ตืดดดดด...ตืดดดดด[อะไรของแม่งวะ โทรทำเหี้ยไร]“ไอ้เฮีย มึงรีบไ
“พอๆๆ ไอ้ห่านี่ก็ไม่เกรงใจป๊าเลย ไว้กลับไปทำที่ห้องโน้น ความจริงเรื่องเนี่ยไอ้ดินมันไม่รู้หรอก มันก็เพิ่งรู้ก่อนหน้าหนูไม่นานเนี่ยแหละ แผนป๊าเอง”“ห้ะ! นี่ท่าน” ฉันถึงกับพูดลืมอายไปเลย ไม่เคยคิดเลยว่ามาเฟียที่น่าเกรงขามแบบท่านจะมาทำอะไรเพื่อแกล้งฉันแบบนี้ อะไรเข้าสิงท่าฟ่ะ ทำไมท่านถึงทำแบบนี้นะ เหงาหรือว่าอะไร สองพ่อลูกนี่ทำตัวได้น่าโมโหชะมัด ถ้าไม่ติดว่าเป็นป๊าดินล่ะก็ ฉันไม่ปล่อยไปแน่...ฉันเลยหันกลับไปหาลูกชายตัวดีของท่านแทน“ไอ้เด็กบ้า กลับไปนายเจอดีแน่”“อ้าว ทำไมเป็นดินอะ” ดินพูดขึ้นหน้าตาเลิ่กลั่กแล้วชี้นิ้วเข้าหาตัวเองแบบงงๆ“ก็ฉันทำท่านได้ไหมล่ะ นายเป็นลูกก็รับไปสิ” ฉันพูดพลางเอามือขึ้นกอดอกด้วยท่าทางฟึดฟัดพอสมควร ความจริงอยากทำมากกว่านี้อีก...แต่ทำไม่ได้“ป๊าเล่นไรเนี่ย เห็นไหมผมซวยเลย” แล้วดินก็หันไปพูดกับป๊าตัวเองอย่างหัวเสีย“ก็ฉันอยากเห็นกะตานี่หว่า ว่าลูกสะใภ้ฉัน ใจเด็ด ใจกล้า อย่างที่เขาพูดกันจริงรึเปล่า แต่เกินคาดไม่คิดว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างหนูจะยอมตายแทนลูกชายฉันได้ แกนี่มันโชคดีจริงๆ ฮ่าๆๆ” ท่านพูดขึ้นแล้วเดินเข้าไปตบไหล่ลูกชายตัวเองเบาๆ ก่อนจะหัวเราะขึ้นอย่างชอบใจ
สองอาทิตย์ต่อมา…..หลังจากที่ฉันและดินไปส่งพ่อกับแม่ไปเมกาเพื่อรักษาตัวเสร็จเรียบร้อยก็บินกลับมาที่เชียงใหม่ทันทีเพราะคนของป๊าโทรมาบอกว่าท่านมีเรื่องกับคนในแก๊งที่หักหลังท่านสถานการณ์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไร แล้วดินก็ดูร้อนใจมาก ฉันลอบมองดินเป็นระยะๆ ขณะที่นั่งอยู่ในรถไฟเหาะ เฮ้อออ...ทำไมเขาถึงขับรถเร็วแบบนี้นะ“ดิน เบาลงหน่อยดีไหม” ฉันเอื้อมมือไปจับแขนดินเพื่อดึงสติเขากลับมา ฉันคิดว่าใจดินคงไปอยู่กับป๊าแล้วละ ดินถอนหายใจออกมาก่อนจะผ่อนคันเร่งลงนิดหนึ่งสักพักรถก็เคลื่อนมาจอดหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ฉันไม่เคยได้มาสักครั้ง เวลาท่านอยากเจอดินหรือมีงานต้องคุยส่วนมากก็จะไปหาดินที่ผับแล้วก็ภัตตาคารอะไรทำนองนั้นแต่ไม่เคยนัดดินมาที่นี่เลยฉันวิ่งตามดินมาหยุดอยู่กลางห้องโถงใหญ่กลางบ้านแต่ไม่เห็นใครเลย เงียบสงัดจนน่าแปลกใจ ดินก็คงคิดแบบนั้นเหมือนกันเขาคว้ามือฉันไปจับไว้แน่นแล้วหันซ้ายหันขวามองอย่างระวังตัวพรึบบบบปึกกกก“ดิน”ดินดึงตัวฉันเข้าไปกอดจากหลังแล้วกดหัวลงเหมือนพยายามจะบังตัวฉันไว้จากอะไรสักอย่างก่อนฉันจะได้ยินเสียงของแข็งกระทบเข้าร่างกายดินอย่างจังเพราะฉันสัมผัสได้จากการแรงกระแทกและดินก็ทรุดเ
“ดิน ทำไมวันนั้นดินถึงรู้ว่าหนูดาอยู่ไหน ทำไมดินถึงไปช่วยหนูดาได้ล่ะ” ฉันเอ่ยถามและเหลือบตาขึ้นมองหน้าดิน เรื่องนี้มันข้องใจฉันมากเลยว่าจะถามตั้งนานแหละ“ก็ไปเจอมือถือหนูดาในรถแท็กซี่ที่จอดอยู่แถวนั้น”“มือถือ...แล้วทำไมถึงเจออะ”“ก็มือถือไง”ฉันดันตัวเองขึ้นหรี่ตามองหน้าดินแล้วเขาก็ทำเป็นลอยหน้าลอยตาไม่สนใจ มือถือ….มือถือ โฮะ นี่เขาแอบเปิด GPS ในมือถือฉันงั้นเหรอ“นายมันร้ายกาจที่สุด” ฉันมองเขาตาขวางพลางดีดตัวเองขึ้นจากตักเขาแล้วล้มตัวลงนอนบนเตียง งั้นเขาก็รู้หมดเลยดิว่าฉันไปไหนบ้าง...ร้ายกาจมากกกก แต่จะว่าไปถ้าเขาไม่ทำแบบนี้วันนั้นคงไปช่วยฉันไม่ทันแน่ๆ“หนูดา ดินจะให้พ่อหนูดาไปรักษาที่เมกา” อยู่ๆ ดินก็พูดในสิ่งที่ฉันไม่คาดคิดออกมา เขาเป็นบ้าไปแล้วเหรอ ทำแบบนั้นได้ยังไง นั่นพ่อฉันนะ จะให้เขาเป็นคนมาดูแลแบบนี้ได้ไง ฉันไม่ยอมหรอก ค่ารักษาแพงจะตาย ฉันจะมีปัญญาหามาใช้เขาเหรอ“ห้ะ! ไม่ได้นะ”“เดี๋ยว ฟังดินให้จบก่อน หนูดาอยากให้พ่อหายไหม แม่ก็อยากให้พ่อหายเหมือนกันพ่อเองท่านก็อยากหาย หมอที่โน่นเก่งมากนะ ใช้เวลาไปถึงปีหรอก เรื่องค่ารักษาดินจัดการเอง ดินคุยกับแม่แล้ว จัดการเรื่องทุกอย่างแล้ว
“บาย อีชะนี”“บาย อีผีทั้งหลาย”ฉันเดินออกมาส่งพวกอีผีทั้งหลาย หึ ไม่ได้เจอกันนานเม้าท์มอยกันตั้งแต่บ่ายจนเย็น ฉันหันหลังกำลังจะเดินกลับเข้าบ้านแต่สายตาก็ดันไปสะดุดกับอะไรบางอย่างตรงสวนข้างบ้านเลยเปลี่ยนทิศทางทันทีเดินไปยืนพิงเสาชิงช้าในสวนมองดูสองแม่ลูกเขาช่วยกันปลูกต้นไม้เหอะ...ดินกลายเป็นลูกรักของแม่ไปเฉยเลย เพราะฉันไม่ชอบการมาทำอะไรแบบนี้ที่สุดไม่เคยมาช่วยแม่ปลูกต้นไม้เลยสักครั้ง แต่ก็อดยิ้มให้กับความน่ารักน่าเอ็นดูของดินไม่ได้ เวลาเขาอยู่กับแม่ฉันดินกลายเป็นแค่เด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้นเอง ดินเองก็คงจะคิดถึงแม่เขาไม่น้อยเหมือนกัน“ดิน กลับได้แล้ว ไม่ชินทางอะ เดี๋ยวมืดแล้วจะแย่” ฉันเอ่ยบอกดินเพราะเห็นว่านี่มันเย็นมากแล้ว เดี๋ยวเขาจะกลับลำบาก โรงแรมก็อยู่ตั้งไกล ดินหันมาพยักหน้าให้ฉันก่อนจะลุกขึ้นปัดเนื้อปัดตัวที่เต็มไปด้วยขี้ดิน ฉันส่ายหน้าไปมาก่อนจะเดินเข้าไปเอาผ้าเช็ดหน้าเช็ดทำความสะอาดตามเนื้อตัวและถอดผ้ากันเปื้อนออกให้เขา“รีบกลับไปไหนล่ะ มาวันเดียวเองเหรอ” แม่ถามขึ้นอย่างตกใจเมื่อเห็นว่าดินทำท่าจะกลับ แม่ต้องคิดว่าดินกลับไปเชียงใหม่แน่ๆ“อ๋อ เปล่าฮะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ดินมาใหม่”“ดิ
“นี่จ้ะ อีกสักพักก็คงมาแล้วแหละ เห็นโทรมาบอกแม่ว่าเพื่อนๆ จะมากินข้าวเที่ยงที่บ้าน แม่ก็เลยออกไปซื้อของมานี่ไง ตามสบายเลยนะดิน” ท่านยื่นแก้วน้ำมาให้ผมแล้วเดินไปหยิบของพวกนั้นเข้าไปเก็บในครัว ผมเลยเดินไปหยิบกรอบรูปที่วางเรียงกันอยู่หลายอันขึ้นมาไล่ดู พัฒนาการของเมียผม หึ บ้านนี้คงจะรักลูกสาวคนนี้มากมีแต่รูปหนูดาเต็มบ้านไปหมดผมเดินดูไปรอบๆ บ้านอย่างถือวิสาสะ แม่หนูดานี่เก่งเนอะดูแลบ้านคนเดียวให้เรียบร้อยเป็นระเบียบขนาดนี้ได้ แล้วผมก็มาสะดุดกับห้องใต้บันได ที่ข้างในเหมือนมีเตียงคนป่วยแบบในโรงพยาบาล หรือว่า….“เข้าไปทักพ่อเขาซะหน่อยไหม” ท่านเดินมาจากด้านหลังและเอ่ยขึ้นจนผมสะดุ้งเพราะผมมัวแต่ชะเง้อมองในห้องนั้นอยู่ แล้วท่านก็เดินผ่านผมเข้าไปในห้องผมเลยเดินตามท่านเข้าไป พ่อหนูดาป่วยหนักจริงๆ ด้วย หนูดาถึงได้ยอมไปทำงานไกลบ้านก็เพราะอย่างงี้นี้เอง...ผมยกมือไหว้ท่านเพราะเห็นว่าท่านลืมตาอยู่แต่ก็ไม่รู้ว่าท่านจะเห็นผมรึเปล่า“พ่อดูสิ ใครมา แฟนลูกสาวตัวดีของพ่อไง หล่อใช่ไหมล่ะ” แม่ของหนูดาพูดขึ้น แล้วพ่อก็หันมองแม่แบบช้าๆ ก่อนจะกะพริบตาให้ มันหมายถึงท่านรับรู้รึเปล่านะ ท่านหันกลับมามองที่ผมอีกค
หลายวันต่อมา…“อ้าว ทำไมมึงยังอยู่อะ” ไอ้ยูเปิดประตูเข้ามาแล้วถามขึ้นอย่างตกใจเมื่อเห็นผมนั่งดกเหล้าอยู่บนโซฟา แล้วมันก็พากันมานั่งพลางหยิบแก้วมาใส่น้ำแข็ง ผมหันไปมองมันตาขวาง ยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ ทักเหี้ยไรไม่รู้เรื่อง“กูยังไม่ตาย สัส”“เออ กูรู้ กูหมายถึงมึงไม่ได้ไปกับเมีย โฮะ..นี่มึงโดนเทเหรอวะ ฮ่าๆๆๆ” ไอ้เหี้ยยูนี่แม่งปากดีฉิบ มันพูดขึ้นพลางยิ้มเยาะผมอย่างสะใจ น่าเตะปากฉิบ ขยี้ปมกูดีจัง“เท พ่อง” ผมหันไปด่ามันก่อนยกเหล้าขึ้นดกอย่างเอาเป็นเอาตายใช่...ผมโดนเท ด้วยเหตุผลที่ว่า หนูดากลัวแม่จะช็อกที่อยู่ดีๆ ก็พาผู้ชายไปบ้านแถมตกลงจะแต่งงานกันแล้วด้วย เธอเลยขอกลับไปเคลียร์กับพ่อแม่ก่อน แล้วรอบหน้าค่อยให้ผมไป... น่าหงุดหงิดฉิบหาย“โดนเทชัวร์” ไอ้ห่านี้ก็ไม่จบ ผมเลยหยิบน้ำแข็งในถังเต็มกำมือแล้วปาใส่มันด้วยความหมั่นไส้“ไอ้สัส มึงไปนั่งไกลๆ เลย” ไอ้ธามพูดขึ้นพลางก้มลงปัดน้ำแข็งบนตักตัวเองที่โดนลูกหลงไปด้วย“เออ ไล่กู จำไว้นะมึง” ไอ้ยูก็ขยับออกมานั่งที่โซฟาอีกตัวด้วยท่าทีงอนๆ เหมือนผู้หญิงฉิบหาย แล้วมันก็ด่ากันตามประสามันแกร่กกก..พวกผมหันไปมองที่ประตูทันที วันนี้พวกเฮียๆ ไม่อยู่นี่หว่า แ