"นี่ไม่ใช่ทางกลับบ้านของฉันนะคะ" น้ำส้มรีบท้กเมื่อทางหลักกลับบ้านของเธอไม่ใช่เส้นทางที่นักรบขับมา มันเป็นเส้นทางที่เธอไม่คุ้นตา จนนึกประหม่าและกังวล
"เอ้า! ลูกคุณเป็นหนี้ก็ต้องไปใช้หนี้สิครับ" นักรบพูดขึ้น และที่ตอบไปนั้นล้วนเป็นข้ออ้างทังเพ ที่จะทำให้เขาได้อยู่ใกล้เธอบ่อยขึ้น
"คุณมันขี้โกงอะ...ฉันต้องรีบกลับบ้านไปทำคลิปนะคุณ" น้ำส้มแย้งตำหนิ และกล่าวถึงหน้าที่งานต้องกระทำในถัดมา
"โกงตรงไหนไม่ทราบ ผมก็ทำตามหน้าที่เจ้าหนี้เท่านั้น...ใช่ไหมครับน้องมะนาว" ทว่านักรบกลับตีสองหน้าเข้าข้างตัวเอง ไม่ได้สนใจในสิ่งที่น้ำส้มให้เหตุผล แถมยังหันไปหาพรรคพวกให้เอนตาม
"ใช่ค่ะ น้องเอาเงินคุณอานักรบมาก็ต้องไปทำงานใช้คืนถูกต้องแล้วค่ะ" และก็เป็นอย่างใจคิด เมื่อความไร้เดียงสาใสซื่อของน้องมะนาวแสดงออกมา แต่ว่าทำให้แม่ของเธอถึงกับหน่ายใจเมื่อได้ฟัง อย่างกับเด็กหญิงไม่ได้เป็นลูกของเธอเสียอย่างนั้น
"จะทำคลิปก็ทำที่บ้านผมก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลย" นักรบบอก เขายินดีอยู่แล้วหากเธอจะทำงานที่บ้านของเขา พร้อมประเคนอุปกรณ์และสิ่งของให้ ขอเพียงได้อยู่ใกล้เธอให้มากที่สุดเพื่อทำคะแนน
"มีของที่ฉันต้องการหรือไง ทำเป็นพูดไม่ดูตาม้าตาเรือ" น้ำส้มเอือมระอาสุด ๆ คิดว่าชีวิตนี้คงต้องปากเปียกปากแฉะแค่กับลูก แต่ไหนเลยถึงต้องมาเปลืองน้ำลายกับผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นนายจ้าง ที่ตามตื้อจีบเธออย่างยียวน บางครั้งก็ทำเธอหลงเสน่ห์ แต่บางทีก็สร้างความปั่นป่วนให้แก่เธอจนปวดหัว
"เรือบ้านคุณวิ่งบนถนนเหรอ" เขายียวนโดยไม่คิดเลยว่าน้ำส้มจะระอาแค่ไหน ขนาดเธอชักสีหน้าใส่เขาก็ไม่วายก่อกวน
"กวนประสาท" น้ำส้มต่อว่าเสียงแข็ง
"บอกมาสิต้องการอะไรบ้าง ผมจะจัดการให้" เขายิ้มเยาะอย่างชอบใจกับการที่เห็นเธอกลัดกลุ้ม เหมือนว่ามันคือเรื่องสนุกที่ได้ทำ แต่ไม่มองเลยว่าน้ำส้มอาจจะต้องพึ่งยาพาราระงับอาการปวดหัว
"โชว์รวย" เธอนึกหมั่นไส้จนต้องเอ่ยคำนี้
"ก็รวยจริง ๆ ไม่จำเป็นต้องโชว์" แต่นักรบก็ต่อกลอนเธอได้ไม่หยุดหย่อน เขาปั่นประสาทน้ำส้มได้พอ ๆ กับน้องมะนาว
"ฉันล่ะเหนื่อยใจกับพวกคุณสองคนจริง ๆ" น้ำส้มถึงกับนั่งกุมหัว ตอนนี้เส้นเลือดในสมองของเธอเต้นตุบ ๆ อย่างกับมันจะระเบิดเมื่อได้พูดคุยกับนักรบ
"เหนื่อยก็นั่งเฉย ๆ ครับเดี๋ยวผมขับรถให้...หรือว่าจะให้ผมขับตลอดชีวิตก็ยินดีนะ" เขาหยอดไปอีกหนึ่งหลุม แต่มุขนี้ไม่ทำให้น้ำส้มหัวใจสั่นไหว เพราะเธอเริ่มจะหน่ายใจกับนักรบเหลือเกิน เผชิญฝีปากกันตั้งแต่ก่อนเที่ยง จนตอนนี้มันทำให้เธอเบื่อหน่าย อยากจะหายตัวไปจากรถก็ว่าได้ แต่เธอไปไม่ได้ไงเพราะเขาเอาลูกสาวเธอมาเป็นตัวประกัน
"ฝันไปเถอะย่ะ"
"เดี๋ยวฝันของผมก็เป็นจริง"
"มั่นหน้า"
"ผมมีเกินร้อยอยู่แล้วครับ...ไม่เคยพลาดหรอกหากผมต้องการ"
"หน้า..."
"ทะเลาะกันอีกแล้ว อย่าทะเลาะกันค่ะโตกว่าน้องแล้วนะ ขนาดน้องยังไม่ทะเลาะกับเพื่อนเลยค่ะ...ครูเรย์บอกว่าต้องรักกันทะเลาะกันแล้วไม่มีความสุข คุณแม่ขากับคุณอาต้องรักกันนะคะ ไม่ทะเลาะกันน้องปวดหู"
น้องมะนาวที่นั่งอยู่เบาะหลัง เธอจ้องมองหน้าผู้ใหญ่สองคนสลับกันไปมา จนเกิดอาการรำคาญเสียงที่มันขัดเสียงการ์ตูนของเธอ จนต้องพูดแทรกขึ้น ทำให้นักรบและน้ำส้มต้องเงียบปาก
"น้องอะอยู่เฉย ๆ เลยค่ะ เพราะเรานั่นแหละที่หวังดีกับแม่" น้ำส้มหันหลังมาหาลูกสาวแล้วเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าบึ้งตึง
"ทำหน้ายักษ์ใส่น้องอีกละ" เด็กหญิงไม่ได้เกรงกลัว ขยับตัวไปนั่งนิ่งอยู่จุดเดิม แล้งพูดขึ้นตามประสา
"แม่ยังไม่ได้คิดบัญชีกับน้องเลยค่ะ เดี๋ยวกลับบ้านก่อนเถอะ"
"คุณแม่อะ งอนน้องเหรอคะ ที่น้องทำก็แค่อยากให้คุณแม่ขาดีใจที่ได้เจอเซียวจ้านนี่นา" เด็กหญิงทำหน้าเศร้า ทำเอาผู้เป็นแม่ถึงกับถอนหายใจ เธอโกรธลูกสาวไม่ลงจริง ๆ แม้สิ่งที่น้องมะนาวทำมันจะไม่ถูกต้อง แต่นั่นก็ล้วนเกิดจากความหวังดีด้วยความเดียงสา
"เอาล่ะ ๆ ต่อไปน้องไม่ทำแบบนี้อีกนะคะ...ครั้งนี้แม่ไม่โกรธหนูก็ได้"
"คุณแม่ใจดีที่สุดเลยค่ะ น้องรักคุณแม่ขาเท่า...เท่าไหนดีล่ะ...เอ่อ เท่าดาวอังคารเลยค่ะ"
"ยัยตัวแสบ"
สองแม่ลูกพูดคุยกัน เสียงแหลมน่ารักของน้องมะนาว คำพูดที่น่าเอ็นดูทำเอาผู้เป็นแม่หุบยิ้มไม่ได้ จะโกรธก็โกรธไม่ลงเพราะเธอเดียงสาเกินไป พวกเธออยู่ในสายตาของนักรบและทำให้เขายิ้มตามเมื่อได้ฟังพวกเธอคุยกัน ไม่เสียใจเลยที่รุกเร็วแบบนี้เพราะหากเขารีรออาจจะโดนคนอื่นคว้าไปครอง เขาต้องเสียใจแน่ ๆ และมั่นใจเลยว่าการรุกจีบครั้งนี้เขามองไม่ผิด เชื่อให้สายตาที่เห็นและใช้หัวใจนำทาง...
"ถึงแล้วครับ"
"โห~~ บ้านคุณอาหลังใหญ่เวอร์ ๆ มีที่ให้วิ่งเล่นด้วย"
"น้องมะนาวชอบไหม"
"ชอบสิคะ"
"น้องมาได้ตลอดเลยนะ อาต้อนรับหนูกับแม่เสมอ"
"จริงเหรอคะ"
"จริงครับ"
รถยนต์จอดสนิทในบ้านหลังใหญ่ นั่นจึงทำให้คนทั้งสามลงจากรถและนักรบนำทางเข้าบ้าน บ้านหลังนี้มีนักรบเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว เพราะเขาปลีกตัวออกมาจากครอบครัว ชอบความเป็นส่วนตัวจึงคิดซื้อบ้านเป็นของตัวเอง ไม่เคยมีผู้ใดได้ย่างกรายเข้ามา เว้นก็แต่ว่าคนในครอบครัวพ่อแม่และน้องสาว เพราะพื้นที่นี้เขาไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวาย แต่แล้ววันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อหัวใจของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลง ยินยอมให้คนอื่นเข้ามาด้วยความเต็มใจ บ้านหลังใหญ่ทำให้เด็กหญิงตื่นตา จนต้องร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น พื้นที่รอบบ้านที่สามารถวิ่งเล่นดึงดูดน้องมะนาวเป็นอย่างมาก มีสีหน้าดีใจเมื่อนักรบเอ่ยชวนให้มาอีกครั้ง
"แต่ฉันคงจะไม่มาอีก" น้ำส้มพูดดักคอเมื่อนักรบพูดเปิดทาง
"อย่าเพิ่งแน่ใจตราบใดที่ลูกคุณยังทำงานใช้หนี้ผมไม่หมด" เมื่อเห็นว่าท่าทีของน้ำส้มจะเคือง เขาจึงรีบกดดันเธอด้วยข้ออ้างที่ไม่สามารถทำให้เธอขัดคำพูดเขาได้
"เจ้าเล่ห์แบบคุณเมื่อไหร่ลูกฉันจะใช้หมดห๊ะ! ฉันไม่ต้องมานั่งตำหมากเฝ้าลูกหรือไง" สิ่งที่ได้ฟังทำให้น้ำส้มอารมณ์ขึ้นอีกแล้ว วันนี้เธอควบคุมตัวเองไม่อยู่จริง ๆ กับสิ่งที่นักรบมัดมือชกทางอ้อม เธอแตกต่างจากวันที่ได้รู้จักเขา และเขาก็เปลี่ยนไปเช่นกันไม่ต่างจากเธอ ผู้ชายที่ดูอบอุ่นในสายตาแรกของเธอกลับกลายเป็นคนเจ้าเล่ห์แสนกล จนทำให้เธออยากจะตะบันหน้าเขารอบแล้วรอบเล่าให้สลบคามือ...เธอไม่ใช่ผู้หญิงหยาบกระด้างเป็นนิสัย แต่เมื่อใดที่ทำให้เธอหงุดหงิดวุ่นวายในชีวิต พฤติกรรมของเธอจะเปลี่ยนไปตามรูปการ
"ดีออก ผมจะได้มีคุณจนแก่เฒ่า" เขาเย้าแหย่ไม่หยุดหย่อน
"เฮ้อ ฉันปวดหัวกับคุณจริง ๆ " จนน้ำส้มต้องยอม เธอไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาต่อกลอนกับเขาได้แล้ว ทำเพียงถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยอ่อนและเพลียใจ เขาแทบไม่ต่างกับลูกสาวของเธอเลยแม้แต่น้อย ในเรื่องสร้างความปวดหัว
"เข้าบ้านไปนอนพักดิไม่เห็นยากเลย" เขาชวนทางอ้อม เพราะเดี๋ยวกลัวเสียฟอร์มที่วางไว้ให้น่าเกรงขาม
"ก็น้องบอกว่าอย่าทะเลาะกันยังไงละคะ ทำไมไม่ฟังน้องสักคน" เด็กหญิงพูดแทรกเมื่อมองอยู่นาน ผู้ใหญ่ทั้งสองก็ยังมีปากเสียงไม่หยุดหย่อน ต่อกลอนกันไปมาจนเด็กหญิงระอาถอนหายใจแรง
"คุณนักรบฉันขอคุยด้วยหน่อยสิ" น้ำส้มพูดขึ้น เธอต้องทำอะไรสักอย่างให้ชัดเจน เพราะตอนนี้เธอสองแม่ลูกเสียเปรียบเขาอย่างไม่เป็นท่า
"ผมไม่มีอะไรจะคุย" เขาปฏิเสธและเดินจับมือพาน้องมะนาวเข้าไปด้านใน ทิ้งให้น้ำส้มยืนอยู่ด้านหลังอย่างไม่สนใจ เพราะเขารู้ว่ายังไงเธอก็ต้องตามเข้ามา เพราะเขามีลูกสาวเธอในกำมือ
"แต่ฉันมีนี่คะ" เธอวิ่งมาดักหน้าแล้วว่าขึ้น
"น้องมะนาวนั่งเล่นในบ้านก่อนนะ อาขอไปคุยกับคุณแม่หนูแป๊บเดียว..." และนักรบก็เป็นฝ่ายยอม เขาบอกกลับเด็กน้อยตัวกลมด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
"ได้ค่ะ น้องจะไม่ซนค่ะ" เด็กหญิงเห็นตามอย่างว่าง่าย และให้คำสัญญาที่ไม่รู้ว่าเชื่อถือได้หรือไม่
"เก่งมากครับ แล้วอย่าลืมทำงานใช้หนี้ด้วย นั่นขนม นมกล่อง แล้วหมอนอยู่นั่นหยิบได้ตามสบาย" แต่นักรบก็มีคำชมและย้ำในสิ่งที่เด็กหญิงต้องทำอย่างที่รับปากไว้ สำหรับการใช้หนี้คืนในแบบของนักรบ...ล้วนเป็นข้ออ้าง! ที่ฟังกี่รอบก็ฟังไม่ขึ้น
"ค่ะคุณอาสุดหล่อเวอร์ ๆ น้องจะตั้งใจทำงานนะคะ"
"ครับ" กร๊อก! นักรบเตาะลิ้นจนเสียงดังพลางขยิบตาให้เด็กหญิงมะนาว ด้วยท่าทางกะล่อน แต่นั่นกลับเป็นเสน่ห์ที่นักรบเรียกความสนใจของสาว ๆ ให้เข้าหา ไม่พ้นแม้กระทั่งสายตาของน้ำส้มที่ได้มอง เธออมยิ้มกับท่าทางของเขาเวลาพูดคุยและอยู่กับลูกสาวของเธอ
"เราต้องมาตกลงกัน" น้ำส้มเอ่ยขึ้นเมื่อเลี่ยงมาจนพ้นสายตาของเด็กน้อย สิ่งที่จะพูดต่อไปนี้เธอไม่อยากให้ลูกสาวได้ยินแล้วจดจำ เดี๋ยวเอาไปทำตาม"เรื่องอะไร" เขาถามอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร ทั้งที่ก็พอจะเดาได้"ก็เรื่องเงินที่น้องมะนาวยืมมาไง คุณจะมาเล่นแง่แบบนี้ไม่ได้ คุณต้องกำหนดมาแล้วอย่าตุกติก ทุกครั้งที่มะนาวต้องมามันควรชัดเจนเท่าไหร่ยังไง ไม่ใช่มาแบบเลื่อนลอย ฉันล่ะงงกับคุณจริง ๆ กับไอ้วิธีการที่ให้มะนาวมานั่งกินนอนกินแค่เนี่ย คุณเป็นประสาทหรือไง"".........," เขาเงียบนิ่งอย่างกับไม่ได้ยินในสิ่งที่น้ำส้มร่ายยาว ยืนเลื่อนหน้าจอมือถือดูข่าวอย่างสบายใจ"อย่านิ่งสิ ฉันพูดจนเหนื่อยแล้วนะ" เธอเริ่มอารมณ์เสีย เมื่อพูดมาจนปากแฉะนักรบยังนิ่งเงียบ"แล้วจะให้ผมพูดอะไรล่ะครับ หื้ม....ก็ผมพอใจอยากให้มะนาวใช้หนี้แบบนี้ ผมผิดตรงไหน?" เขาปรี่เข้ามาใกล้กะทันหัน โน้มตัวลงต่ำให้ใบหน้าเสมอหน้าเธอ ทำเอาน้ำส้มเอนถลาถอยหลบแทบไม่ทัน ใบหน้าคมคายเผยรอยยิ้มที่ทรงเสน่ห์จนหัวใจน้ำส้มเต็นเร็วผิดจังหวะ กลิ่นกายชายกระทบจมูกสร้างความรัญจวนชวนให้ลุ่มหลง"จะยื่นหน้ามาใกล้ทำไมเนี่ย" เธอต่อว่าอย่างเคอะเขิน"กลัวหลงเสน่ห์ผม
สวัสดีค่ะน้องชื่อว่ามะนาว แต่เพื่อนที่โรงเรียนอนุบาลจะเรียกน้องว่าเปรี้ยวจี๊ด เพราะมะนาวมันเปรี้ยวสุด ๆ ไงคะ แต่น้องก็ชอบที่เพื่อนเรียกแบบนี้นะ ไม่เหมือนใครแปลกดีค่ะ ตอนนี้น้องเรียนอยู่ชั้นอนุบาลฉามแล้ว น้องมีเพื่อนเยอะแยะเลย โตขึ้นน้องมีความฝันว่าอยากจะเป็นคนสวยที่รวยเวอร์ ๆ น้องไม่อยากรวยแบบธรรมดาหรอกนะคะต้องเวอร์ ๆ ค่ะ เพราะน้องน่ะชอบอะไรที่แตกต่าง ตอนนี้น้องเป็นลูกสาวของคุณแม่ อยู่กับคุณแม่ฉองคน คุณแม่บอกว่าคุณพ่อไปอยู่บนฟ้าน้องคิดถึงคุณพ่อ แต่ว่าต้องอดทนเอาไว้ แล้วมันก็สูงมาก ๆ น้องตามไปไม่ไหว จะบินก็ไม่ได้ค่ะน้องตัวอ้วนแถมไม่มีปีกไว้บินเหมือนนก และตอนนี้คุณแม่ก็กำลังไปเข้าห้องน้ำค่ะ น้องเลยแอบมาเล่นโทรศัพท์ของคุณแม่ โอ๊ะ ๆ นั่นคุณแม่มาแล้วแค่นี้ก่อนนะคะ บ๊ายบายจุ๊บ ๆ“มะนาวทำอะไรคะ”“ปะ เปล่าค่ะคุณแม่”เด็กหญิงตัวน้อยสะดุ้งตกใจ เมื่อเสียงของผู้เป็นแม่เรียกขานโดยเธอไม่ทันได้ตั้งตัว โชคดีที่เธอนั้นอัดวีดีโอก่อนหน้าเสร็จทัน จึงรีบวางโทรศัพท์มือถือของแม่ลงเตียงนอน นั่งเอามือขัดหลังอย่างมีพิรุธ จนผู้เป็นแม่นั้นอมยิ้มและเดินมานั่งข้าง ๆ รู้แก่ใจว่าลูกสาวตัวน้อยนั้นแอบเล่นมือถือ แต่ก็ไ
“ปวดฉิ่งฉ่องจังเลย ปวดเวอร์ ๆ จนจะราดกางเกงอยู่แล้ว” เด็กหญิงนั่งมือกุมเป้า เมื่อนั่งเล่นได้ไม่นานก็มีอาการอยากเข้าห้องน้ำ หล่อนมองไปเห็นผู้เป็นแม่นั่งคุยงาน คำสัญญาที่ให้ไว้ก่อนมาว่าจะไม่ซนและไม่กวนแม่ทำงาน จึงทำให้เธอไม่กล้าที่จะเดินเข้าไปหา จึงส่องสายตามองหาห้องน้ำ ซึ่งเธอมองสัญลักษณ์ออกเพราะครูสอนที่โรงเรียนแล้วจดจำ“ห้องนั้นแหละ คุณครูเรย์บอกว่าห้องน้ำผู้หญิงจะมีคนใส่กระโปรงอยู่ข้างหน้า” เด็กหญิงลุกออกมาแล้วเดินหาห้องน้ำด้วยตัวเอง จนเห็นป้ายสัญลักษ์ที่คุ้นตา จึงมุ่งหน้าเพื่อเข้าไปปลดทุกข์ เธอจดจำสิ่งที่ครูและแม่บอกได้ดี จนทำกิจวัตรประจำวันได้โดยไม่ต้องผู้เป็นแม่“เกือบฉิ่งฉ่องแตกเลย” เด็กหญิงทำกิจวัตรเสร็จเรียบร้อย จึงเปิดก๊อกล้างมือ ส่วนสูงของเธอที่มีไม่มากพอ จนเธอเขย่งเท้าใช้พุงพาดกับขอบอ่างขาห้อยโตงเตง แล้วเอื้อมมือไปเปิดก๊อกน้ำ แต่...“เอ้า!! แขนไม่ถึง...จะทำยังไงดี...ขา ขาน้องไม่ถึงพื้นลงไม่ได้ คุณแม่ช่วยน้องด้วย ฮือ คุณแม่ขาน้องเจ็บพุง ฮือ ใครก็ได้ช่วยน้องด้วย” เด็กหญิงเริ่มรู้สึกหวาดกลัว เมื่อทุกอย่างเธอไม่สามารถทำอะไรได้เลย ขาก็ไม่สามารถเยียบพื้น หากจะกระโจนลงก็กลัวหงายหล
“มะนาว!! เป็นอะไรคะ แล้วทำไมหนูร้องไห้” เมื่อเห็นลูกสาวที่เดินเข้ามา ผู้เป็นแม่รีบวิ่งเข้าไปโอบกอดด้วยความห่วงใย เธอคุยงานเสร็จเรียบร้อย หันมามองยังที่นอนของลูกสาวแต่กลับไม่เห็นแม้แต่เงา จึงกังวลและเป็นห่วง ตามหาในห้องแต่งตัวหรือบริเวณใกล้ ๆ ก็ไม่เห็นจนได้ออกตามหา ทำเอาทีมงานวุ่นวายไปด้วยผู้หญิงตรงหน้าทำให้เขานั้นถึงกับอึ้งไปถนัดตา เธอดูมีเสน่ห์และน่ารัก จนเขานั้นจ้องมองไม่อยากจะละสายตา ยิ่งสีหน้าที่ติดกังวลและมีความห่วงใย ยิ่งทำให้เขานั้นลุ่มหลงอย่างกับโดนมนสะกด แม้จะอยู่ในสังคมที่เปิดกว้าง พบเจอผู้หญิงมากมายก็ไม่ต้องตาถูกใจเท่าเธอคนนี้“น้องปวดฉิ่งฉ่องเลยไปห้องน้ำ พุงน้องติดบนอ่างล้างมือลงไม่ได้ น้องกลัว ฮือ” เด็กหญิงบอกเล่าแล้วร้องไห้อีกครั้ง เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา กอดคอของผู้เป็นแม่แน่นอย่างต้องการปกป้อง“ไม่ร้องนะคะ ไม่ต้องกลัว แม่อยู่นี่แล้วนะลูกปลอดภัยแล้วนะคะ” ผู้เป็นแม่พูดปลอบ เธอใจหายเกือบแทบไม่เป็นอันทำอะไร เมื่อไม่เห็นลูกสาวอยู่ในที่จัดหาให้“คุณอาสุดหล่อช่วยน้องค่ะคุณแม่” เด็กหญิงบอกกล่าว ทำให้ผู้เป็นแม่นั้นเงยหน้ามอง คนตัวสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้า ทั้งที่เขายืนอยู่นาน
"ขอบคุณทุก ๆ คนครับ...วันนี้ทำดีมาก ขอเดินทางกลับปลอดภัยทุกคนนะ พรุ่งนี้มาลุยกันต่อ" นักรบผู้เป็นเจ้าของกล่าวขอบคุณทีมงาน เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นและราบรื่นในวันนี้ เขาเป็นมิตรกับลูกน้องจนพวกเขารักใคร่ ความไม่ถือตัวเป็นกันเองคือเสน่ห์ที่ทำให้คนใต้บัญชาเคารพ(ค่ะ/ครับ)ทีมงานทุกคนกล่าวลาและทยอยกันออกจากพื้นที่ทำงาน แต่ยังมีคุณแม่ลูกติดกับลูกสาวตัวน้อยที่ยังคงเก็บของอยู่ลำพัง ข้าวของเด็กที่มันเยอะกว่าปกติ เลยทำให้น้ำส้มยังคงง่วนอยู่ที่เดิม แถมลูกน้อยของเธอก็นอนหลับสนิท จึงทำให้ดูลำบากและล่าช้ากว่าคนอื่น ๆ เขายืนมองอยู่ห่าง ๆ พลางใช้ความคิดบางอย่าง สองจิตสองใจจะเข้าไปช่วยเหลือหรือให้เธอทำตามลำพัง"มึงยืนมองเฉย ๆ ได้หรือวะนักรบ...ดูใจดำเกินไปนะ" พลันความคิดฉุดขึ้น ความคิดด้านดีจึงต่อต้าน นั่นจึงทำให้เขาเดินเข้าไปหาเธอเพื่อยื่นมือช่วยเหลือ "ผมช่วยครับ""คุณนักรบ" น้ำส้มเงยหน้ามองตามเสียง และระบายยิ้มอ่อนให้คนตรงหน้า ที่อาสาช่วยเก็บของให้"ผมช่วยครับ" เขาตอบอย่างสุภาพ พร้อมกับหยิบจับของใส่กระเป๋าผ้า ทั้งที่เธอยังไม่ยินยอม"ไม่เป็นไรค่ะคุณนักรบ ฉันเกรงใจคุณเป็นถึงเจ้าของบริษัทฉันแค่ลูกจ้าง เดี
"แล้วโตขึ้นน้องมะนาวจะทำงานอะไรครับ ถึงจะมีเงินมาคืนอา" เขาถามเด็กหญิงเพื่อลองเชิง รอฟังคำตอบว่าจะมีไหวพริบเพียงใด"น้องก็จะเป็นคนสวยที่รวยเวอร์ ๆ ไงคะ" และแล้วก็แทบหงายหลัง เมื่อได้ฟังคำตอบที่โคตรสร้างสรรค์ของเด็กหญิงมะนาวตัวกลม ทำเอานักรบไม่รู้จะยิ้มหรือร้องไห้ก่อนดี"โอ๊ยตาย...เด็กน้อยเอ๊ย!" เขาอุทานออกมาพร้อมกับทาบมือลงหน้าผากอย่างหน่ายใจ...ช่างน่าสงสารซะจริง"อย่าเพิ่งตายสิคะ คุณอาสุดหล่อเวอร์ ๆ ยังไม่ได้ให้น้องยืมเงินเลย" น้องมะนาวเอื้อมมือจับแขนของนักรบ แล้วพูดออกมาตามความคิดแบบเด็ก ๆ ที่ยังไม่รู้ความ"อาให้ยืมก็ได้ แต่น้องมะนาวต้องทำงานแลกนะ...โอเคไหม?" เขาตอบรับพร้อมกับยื่นข้อเสนอ เมื่อสมองผุดความคิดดี ๆ ออกมา"แล้วจะให้น้องทำงานอะไรล่ะคะ..." เด็กหญิงตัวน้อยถามขึ้น"น้องมะนาวทำอะไรได้บ้างล่ะ" และเขาก็ย้อนคืน"อืม~~ กินข้าว กินนม ไปโรงเรียนแล้วก็นอนกลางวันและกลางคืนได้ค่ะ" น้องมะนาวให้คำตอบอย่างไม่ติดขัด แต่สิ่งที่เธอพูดมาว่าทำได้มันกระตุ้นเส้นเลือดในสมองของนักรบจนเต้นตุบ ๆ"เอิ่ม~~" "คุณอาสุดหล่อเวอร์ ๆ ไม่โอเคเหรอคะ ก็น้องยังเป็นเด็กนี่นา เลยทำได้แค่นี้เอง" เด็กหญิงพูดเสียง
#เบาได้เบา"เตรียมตัวกลับบ้านกันนะคะ" ผู้เป็นแม่เอ่ยชวนลูกสาวตัวน้อย ที่ยืนกอดเอวแน่น"ค่ะ""ขอบคุณนะคะที่อยู่เป็นเพื่อนมะนาว...รบกวนคุณนักรบตลอดเลย" น้ำส้มเดินเข้ามาใกล้แล้วยกมือไหว้ขอบคุณจากใจ"ไม่เป็นไรครับแค่นี้เอง...ไปครับเดี๋ยวผมถือของไปส่งที่รถ" เขายิ้มให้และออกตัวช่วยเหลือ พลางยกของมาถือ จับมือน้องมะนาวไว้อย่างเตรียมพร้อม"ขอบคุณค่ะ" "คุณอาสุดหล่อเวอร์ ๆ ขา" เด็กหญิงสะกิดที่ขาแล้วเงยหน้ามองเหมือนส่งสัญญาณบางอย่าง ทำให้นักรบต้องย่อตัวต่ำเสมอเด็กหญิง"มีอะไรครับ" เขาถามขึ้น"จับมือน้อง...แสดงว่าสัญญาจะให้น้องยืมเงินแล้วใช่ไหมคะ" คำตอบของน้องมะนาวทำเอานักรบยิ้มกริ่ม นับวันเขายิ่งรู้สึกเอ็นดูเด็กคนนี้"ครับผม" เขาตอบรับอย่างไม่อิดออด"คุณอาใจดีเวอร์ ๆ เลยค่ะ...ห้ามเปลี่ยนใจนะคะ" ทำให้เด็กหญิงมะนาวฉีดหญิงกว้างจนตาหยีด้วยความดีใจ เธอยื่นไปจับมือมั่นสัญญา"อาสัญญาครับ" นักรบเออออตามน้ำ เขาไม่ขัดเด็กน้อยผู้น่ารักคนนี้อยู่แล้ว...แก้มกลมน่าชังขนาดนี้ใครจะปฏิเสธได้ลง"กวนอะไรคุณอานักรบคะมะนาว" ผู้เป็นแม่เดินกลับเข้ามา เห็นลูกสาวตัวกลมคุยหยอกล้อมีรอยยิ้มจนต้องทักท้วง เพราะห่วงว่าลูกสาวจะ
"แตงกวาเรียกจ๋าเข้ามาหาผมหน่อย" นักรบเข้ามาเคลียร์งานในตอนเช้า เขากดสายหาเลขาหน้าห้อง เมื่อนึกใคร่รู้บางอย่าง"ค่ะ" แตงกวาเลขาหน้าห้องตอบรับ จากนั้นเธอจึงจัดการประสานงานต่อไปยังจ๋าที่ผู้เป็นเจ้านายต้องการพบเจอ จ๋าใช้เวลาไม่นานก็มาถึง เธอเคาะประตูห้องทำงานของเจ้านายตามมารยาทที่ควรทำ แล้วจึงเดินเข้าไปหาเจ้านายที่นั่งรออยู่"คุณนักรบมีอะไรหรือเปล่าคะ" "นั่งก่อนสิผมมีเรื่องจะถาม""ค่ะ"จ๋าเอ่ยขึ้นก่อนเมื่อมาถึง จึงทำให้ผู้เป็นนายตอบรับและผายมือเชื้อเชิญ เธอจึงนั่งลงเก้าอี้ที่อยู่ตรงข้าม รอลุ้นว่าเจ้านายจะเสนองานอะไรให้ทำ"นางแบบคนเมื่อวานเธอสังกัดที่ไหนเหรอ""น้องน้ำส้มนะเหรอคะ""ครับ"นักรบถามขึ้นโดยที่เขายังคงง่วนอยู่กับการเซ็นเอกสารกองโตตรงหน้า ทำเอาจ๋าเกิดสงสัยแต่ก็ไม่แคลงใจอะไร "น้องไม่ได้สังกัดไหนค่ะ น้องเป็นนางแบบอิสระและบล็กเกอร์รีวิวสินค้าค่ะ จ๋าได้ยินว่าเป็นเพื่อนคุณเอมอร" เธอบอกเล่าแก่ผู้เป็นเจ้านายตามที่เธอรับรู้"เพื่อนเอมอร?" เขาเงยหน้าแล้วย้อนถาม เพื่อนของน้องสาวแต่เขาไม่เคยรู้จักเพื่อนคนนี้ได้ยังไง ทั้งที่คิดว่ารู้จักเพื่อนสนิทของน้องสาวแทบทุกคน"ค่ะ" จ๋าขานรับ"จำได้ว่
"เราต้องมาตกลงกัน" น้ำส้มเอ่ยขึ้นเมื่อเลี่ยงมาจนพ้นสายตาของเด็กน้อย สิ่งที่จะพูดต่อไปนี้เธอไม่อยากให้ลูกสาวได้ยินแล้วจดจำ เดี๋ยวเอาไปทำตาม"เรื่องอะไร" เขาถามอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร ทั้งที่ก็พอจะเดาได้"ก็เรื่องเงินที่น้องมะนาวยืมมาไง คุณจะมาเล่นแง่แบบนี้ไม่ได้ คุณต้องกำหนดมาแล้วอย่าตุกติก ทุกครั้งที่มะนาวต้องมามันควรชัดเจนเท่าไหร่ยังไง ไม่ใช่มาแบบเลื่อนลอย ฉันล่ะงงกับคุณจริง ๆ กับไอ้วิธีการที่ให้มะนาวมานั่งกินนอนกินแค่เนี่ย คุณเป็นประสาทหรือไง"".........," เขาเงียบนิ่งอย่างกับไม่ได้ยินในสิ่งที่น้ำส้มร่ายยาว ยืนเลื่อนหน้าจอมือถือดูข่าวอย่างสบายใจ"อย่านิ่งสิ ฉันพูดจนเหนื่อยแล้วนะ" เธอเริ่มอารมณ์เสีย เมื่อพูดมาจนปากแฉะนักรบยังนิ่งเงียบ"แล้วจะให้ผมพูดอะไรล่ะครับ หื้ม....ก็ผมพอใจอยากให้มะนาวใช้หนี้แบบนี้ ผมผิดตรงไหน?" เขาปรี่เข้ามาใกล้กะทันหัน โน้มตัวลงต่ำให้ใบหน้าเสมอหน้าเธอ ทำเอาน้ำส้มเอนถลาถอยหลบแทบไม่ทัน ใบหน้าคมคายเผยรอยยิ้มที่ทรงเสน่ห์จนหัวใจน้ำส้มเต็นเร็วผิดจังหวะ กลิ่นกายชายกระทบจมูกสร้างความรัญจวนชวนให้ลุ่มหลง"จะยื่นหน้ามาใกล้ทำไมเนี่ย" เธอต่อว่าอย่างเคอะเขิน"กลัวหลงเสน่ห์ผม
"นี่ไม่ใช่ทางกลับบ้านของฉันนะคะ" น้ำส้มรีบท้กเมื่อทางหลักกลับบ้านของเธอไม่ใช่เส้นทางที่นักรบขับมา มันเป็นเส้นทางที่เธอไม่คุ้นตา จนนึกประหม่าและกังวล"เอ้า! ลูกคุณเป็นหนี้ก็ต้องไปใช้หนี้สิครับ" นักรบพูดขึ้น และที่ตอบไปนั้นล้วนเป็นข้ออ้างทังเพ ที่จะทำให้เขาได้อยู่ใกล้เธอบ่อยขึ้น"คุณมันขี้โกงอะ...ฉันต้องรีบกลับบ้านไปทำคลิปนะคุณ" น้ำส้มแย้งตำหนิ และกล่าวถึงหน้าที่งานต้องกระทำในถัดมา"โกงตรงไหนไม่ทราบ ผมก็ทำตามหน้าที่เจ้าหนี้เท่านั้น...ใช่ไหมครับน้องมะนาว" ทว่านักรบกลับตีสองหน้าเข้าข้างตัวเอง ไม่ได้สนใจในสิ่งที่น้ำส้มให้เหตุผล แถมยังหันไปหาพรรคพวกให้เอนตาม "ใช่ค่ะ น้องเอาเงินคุณอานักรบมาก็ต้องไปทำงานใช้คืนถูกต้องแล้วค่ะ" และก็เป็นอย่างใจคิด เมื่อความไร้เดียงสาใสซื่อของน้องมะนาวแสดงออกมา แต่ว่าทำให้แม่ของเธอถึงกับหน่ายใจเมื่อได้ฟัง อย่างกับเด็กหญิงไม่ได้เป็นลูกของเธอเสียอย่างนั้น"จะทำคลิปก็ทำที่บ้านผมก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลย" นักรบบอก เขายินดีอยู่แล้วหากเธอจะทำงานที่บ้านของเขา พร้อมประเคนอุปกรณ์และสิ่งของให้ ขอเพียงได้อยู่ใกล้เธอให้มากที่สุดเพื่อทำคะแนน"มีของที่ฉันต้องการหรือไง ทำเป็นพูดไม่
"คุณอาสุดหล่อมารับน้องอีกแล้ว...สวัสดีค่ะ" ทันทีที่น้องมะนาวเดินออกมาจากอาคารอนุบาล สายตาแรกเธอเห็นนักรบยืนเคียงข้างผู้เป็นแม่เพื่อรอรับอยู่ด้านหน้า ทักทายเขาเป็นคนแรกเดินผ่านแม่มาหน้าตาเฉย อย่างกับแม่ไม่มีตัวตน"ใช่ครับ อามารับลูกหนี้ที่รักให้ไปทำงานชดใช้" นักรบย่อตัวให้เสมอเด็กหญิง แล้วตอบเธอด้วยความจริงตามที่ตั้งใจ ก็ในเมื่อคนเป็นแม่พยายามหลีกหนี เขาจึงต้องรีบประชิดตัวลูกสาวดักทาง ไม่ให้น้ำส้มปลีกตัวออกห่างไปอย่างง่ายดาย...ก็เขาอยากได้!"โห...วันนี้เลยเหรอคะ" เด็กหญิงมะนาวโอดครวญ เมื่อนักรบเร่งรัดเธอ แม้มันจะเป็นอะไรที่แสนง่ายดาย แต่สำหรับเด็กน้อยวัยกำลังเล่น ก็คงสบถออกมาตามประสา"ครับผม" นักรบตอบเด็กหญิง"แต่น้องยังไม่พร้อมเลยนี่นา...แต่ไปทำงานก็ได้ค่ะยืมเงินแล้วก็ต้องคืนครูเรย์สอนน้องแบบนั้น" น้องมะนาวบอกเล่าให้เขาฟัง ทว่าเธอก็ยินยอมทำตาม เมื่อคำของคุณครูที่โรงเรียนมันวิ่งแจ้นเข้ามาในหัว ตามที่ได้จดจำมาเลยตกลงอย่างว่าง่าย ภายใต้ความงุนงงของน้ำส้มที่ยืนฟังเงียบ ๆ"เก่งเวอร์ ๆ เลยครับ...ไม่เหมือนบางคนที่เข้าใจยากมาก" นักรบชมเด็กหญิง จากนั้นจึงถากถางน้ำส้มในถัดมา ทำเอาเธอแทบอยากจะบี
"ทำงานชดใช้จนกว่าผมจะพอใจ""มันไม่มากไปหน่อยเหรอคะ แล้วฉันต้องทำไปถึงไหนกันระยะเวลาสิ้นสุดก็ไม่มี"นักรบเผยตัวเลือกที่สร้างความตกใจแก่น้ำส้มไม่น้อย จนเธอพรวดพราดลุกขึ้นยืนค้ำโต๊ะ เผลอเสียงดังใส่หน้าเขา ที่ตอนนี้เอาแต่จ้องมองด้วยใบหน้าเรียบตึง ท่าทางขึงขังของน้ำส้มแทบอยากตะปบหัวนักรบกดลงพื้นโต๊ะ แต่เธอก็ทำได้เพียงกำมือและกัดฟันแน่นเท่านั้น"มีสิครับ" นักรบลุกยืนช้า ๆ ทำท่าเดียวกับน้ำส้ม ทั้งสองประจันหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมกัน แล้วนักรบจึงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง สายตาไม่ละห่างจากคนที่อยู่ตรงหน้าเพียงเสี้ยววินาที"แล้วกี่ปีกี่เดือนละคะ" เธอย้อนถาม"ตลอดชีวิตไงครับระยะเวลาสิ้นสุด" เขาตอบเธอ จากนั้นจึงนั่งลงเก้าอี้ตามเดิม จรดปลายปากกาลงเอกสารอย่างคนสบายใจ จำให้น้ำส้มต้องนั่งลงด้วยใจอ่อนแรง เธอไม่รู้จะแข่งหรือต่อกลอนกับผู้ชายคนนี้ยังไงแล้ว เพื่อให้เขาผ่อนปรนยอมให้เธอได้ผ่อนผันสิ่งที่ลูกสาวก่อขึ้นด้วยความเดียงสา"หน้าตาก็ดีทำไมถึงใจดำโหดเหี้ยมแบบนี้ละคะ...เสียแรงที่เคยชื่นชมคุณ เมื่อวานฉันไม่น่าขอร้องคนใจดำแบบคุณเลย" เธอนั่งลงชักสีหน้าบึ้งตึงแล้วบ่นต่อหน้าเขา สองมือกุมหัวแสดงความกลัดก
"ลูกนะลูกหางานให้ตลอด แค่เรื่องเมื่อวานยังไม่รู้จะรอดไหม นี่ยังมีหน้าไปเป็นหนี้เขาอีก ตายแน่ฉันจะไม่ใช้หนี้หัวโตเลยหรือไง ค่าผ่อนบ้านเดือนนี้ก็ยังไม่ได้จ่าย" น้ำส้มบ่นยุบยิบระหว่างขับรถเพื่อไปพบนักรบตามที่เขานัดไว้ ข้อเท้าที่บาดเจ็บก็เหมือนพลันหายไปเมื่อเทียบกับเรื่องมากมายที่หนักอก บาดแผลจึงดูเล็กน้อยไปเลยเมื่อเทียบกับปัญหาที่เธอต้องเผชิญ"มาพบคุณนักรบค่ะ นัดไว้สิบเอ็ดโมงตรง" น้ำส้มเดินเข้ามาในบริษัทติดต่อเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ แจ้งนัดกับพนักงานให้รับทราบ"คุณน้ำส้มใช่ไหมคะ? " พนักงานถามย้ำ"ใช่ค่ะ" เธอตอบรับอย่างสุขุม"รอสักครู่นะคะ" "ค่ะ"จากนั้นพนักงานต้อนรับจึงได้ต่อสายขึ้นไปเพื่อแจ้งให้กับเลขาหน้าห้องได้ทราบ แล้วต่อมาจึงได้เชื้อเชิญชี้ทางให้น้ำส้มขึ้นไปพบ เธอเพิ่งเคยมาสถานที่นี้ครั้งแรกจึงประหม่า และรู้สึกใจคอไม่ดีเอาเสียเลย ดั่งปัญหาที่เธอกำลังจะพบเจอมันดูยากเย็น"นัดสิบเอ็ดโมงตรงมาแล้วค่ะท่านประธาน...เชิญค่ะคุณน้ำส้ม""ขอบคุณค่ะ"เมื่อมาถึงหน้าห้องผู้บริหารระดับสูง ยังไม่ทันที่น้ำส้มจะได้แนะนำตัว เลขาที่นั่งอยู่เบื้องหน้าก็ยกหูโทรศัพท์ต่อสาย จากนั้นจึงเชิญเธอเข้าไปในห้องทำงา
(ว่าไงคะพี่ชาย เดี๋ยวนี้หายหัวตลอดไม่ค่อยอยู่บริษัทเลย) เอมอรกดรับสายที่เรียกเข้ามา เมื่อเห็นว่าเป็นพี่ชายจึงได้ตอบรับปลายสายอย่างสนิทสนม เหมือนที่เคยพูดคุยกันในปกติ"หายอะไรก็เข้าบริษัททุกวัน" เขาตอบน้องสาว(ก็อรไปทีไรไม่ค่อยเห็นอยู่ห้อง) เอมอรโต้ตอบสวนคืน เธอจะเข้าไปหาพี่ชายทีไรก็ไม่เคยเจอหน้าสักที สุดท้ายก็ถ่อกลับออกมาโดยไม่ได้อะไรตามที่ต้องการเลยสักอย่าง พักหลังพี่ชายของเธอชอบแอบหนีออกจากบริษัทบ่อยครั้ง จากที่รู้คือการไปดูงานถ่ายแบบซึ่งปกติแล้วนักรบไม่ค่อยจะไป นอกจากการถ่ายแบบของแอนนา"มาหาไม่ถูกเวลาเองช่วยไม่ได้ แกหยุดถามพี่ก่อนได้ไหม พอดีมีเรื่องจะถาม" (ถามอะไร)"แกพอจะรู้จักร้านที่ทำสแตนดี้หรืองานสั่งทำหมอนข้างอะไรนี่ไหม แบบเร่งด่วนภายในสองสามชั่วโมง"(พี่จะหาไปทำไมอะ)"เออน่า แกรู้จักบ้างไหมช่วยสั่งทำให้หน่อยดิ"(เออมี แล้วพี่จะทำแบบไหนล่ะ)"เขามีอะไรก็ทำหมดนั่นแหละ สแตนดี้ตั้งพื้นสูงเท่าคนจริง หมอนข้าง แก้วน้ำ อะไรพวกนี้"(พี่จะทำไปเพื่อ!?)สิ่งที่พี่ชายบอกผ่านเครื่องมือสื่อสาร มันทำให้เอมอรถึงกับต้องย้อนถามด้วยความงุนงง เธอไม่เคยพี่ชายจะใส่ใจในสิ่งของพรีเมี่ยมเหล่านี้เลย ทำ
"รับน้องซะยับเยินเลยนะ" นักรบที่จัดการล้างหน้าตัวเองจนสะอาด เขามานั่งบนโซฟาตัวเดิมที่นอนหลับก่อนหน้า สายตาจ้องมองสองแม่ลูกที่นั่งคุกเข่าอยู่เบื้องล่าง ที่ตอนนี้สีหน้าซีดเผือดอย่างรู้สึกผิด“ฉันขอโทษแทนลูกด้วยนะคะคุณนักรบ ฉันอบรมแกไม่ดีเอง” น้ำส้มพูดขึ้นพลางเงยหน้ามองนักรบด้วยแววตาอ้อนวอน เธอเห็นสีหน้าของเขาดูเกรี้ยวโกรธ จึงกลัวว่าจะส่งผลกับงานที่กำลังไปได้ดี“..........” แต่นักรบยังนั่งนิ่งมือกอดอก สีหน้าเรียบตึงจนน้ำส้มและน้องมะนาวนั่งหงอย ใบหน้าห่อเหี่ยวอย่างหวาดหวั่น พยายามพูดเว้าวอน แต่เหมือนคนงอนด้วยอารมณ์จะยังไม่ตอบรับใด ๆ“เงียบแบบนี้โกรธแน่เลย คุณนักรบฉันขอโทษจริง ๆ ค่ะ ต่อไปจะไม่ให้มะนาวทำแบบนี้กับคุณอีก...คุณไม่โกรธใช่ไหม?” ลักษณะที่เงียบกริบของนักรบ ทำให้น้ำส้มหวั่นใจหนักกว่าเดิม จนต้องวิงวอนเขายืนกรานและกล่าวโทษตัวเอง เพราะยังไงลูกคือสิ่งที่แม่ต้องรับผิดชอบ ไม่ว่าจะทำผิดหรือถูกก็ตาม นั่นคือสิ่งที่คนเป็นแม่ต้องทำ“ผมควรทำยังไงกับพวกคุณสองแม่ลูกดี” นักรบวางท่าทางนิ่งขรึม แล้วถอนลมหายใจออกมา ก่อนจะเอ่ยวาจาอย่างกับว่าเขาหน่ายใจ กับสิ่งที่ได้พบเจอวันนี้“น้องก็แค่อยากให้คุณอาหล
"คุณแม่น้องหิวข้าว...แล้วนั่นคุณแม่ไปกัดคุณอานักรบทำไมคะ" เสียงแหลมดั่งสนั่นลั่นบ้าน จึงสามารถปลุกคนที่ตกในภวังค์อื้ออึงแยกห่างจากกัน และมันสามารถปลุกคนที่หลับใหลให้ลุกตื่นมานั่ง ทั้งสองคนมีอาการลุกลี้ลุกลนไปคนละทิศทาง ต่างอายสายตาของกันและกัน นักรบแสร้งเป็นเปิดทีวีแต่มือดีคว้ารีโมทแอร์มาแทน ใช้กดเปิดหน้าจอทีวีที่ไร้ภาพบนนั้น แต่เขาดันมองเเละหัวเราะเหมือนสนุกสนานอีกด้านของน้ำส้มก็ก้มเช็ดพื้นด้วยมือเปล่าอย่างตั้งใจ ทำให้เด็กหญิงมะนาวที่วิ่งเข้ามากะทันหันเห็นแล้วเกิดอาการอย่างงุนงง ได้แต่เอียงคอมองเกาหัวยิก ๆ ในสิ่งที่ผู้ใหญ่ทั้งสองทำ"คุณอานักรบหัวเราะอะไรเหรอคะ" ความสงสัยทำให้เด็กหญิงต้องไปนั่งข้าง ๆ แล้วเอ่ยถามอย่างใคร่รู้ ก็เธอกำลังงง!"ดูหนังตลกไงครับ ตลกมาก ๆ เลยเนอะ ฮ่าฮ่า" นักรบหันมาพูดตอบ และปล่อยเสียงหัวเราะออกมา"ไม่เห็นจะมีอะไรตลกเลยค่ะ หรือว่าคุณอานักรบมีตาทิพย์เหรอคะ ไม่เปิดทีวีก็ดูหนังตลกได้ด้วย" เด็กหญิงทักท้วงด้วยใบหน้าแสนใสซื่อ พลางชี้มือไปตรงทีวีที่ไร้ภาพเคลื่อนไหวและการแสดงอย่างที่นักรบว่า"เชี้ยแล้วไง!" นักรบถึงกับหันหน้าหนีแล้วสบถอย่างหัวเสีย รู้สึกอายหนักกว่าเดิ
"มะนาวไปล้างมือมาทะ....." หลังจากที่ทำอาหารเสร็จเรียบร้อยพร้อมตั้งโต๊ะเตรียมทานมื้อเย็น น้ำส้มจึงเดินมาเรียกลูกสาวและแขกของบ้าน แต่ต้องมีอาการชะงักเมื่อเห็นภาพตรงหน้า ที่สร้างความตกใจแก่เธอเป็นอย่างมาก มันคือความเละเทะ! จนยากจะปริปากพูด "ชู่~~คุณแม่เบา ๆ สิคะเดี๋ยวคุณอาจะตื่น" เด็กหญิงรีบยกนิ้วแตะริมฝีปาก ทำท่าทางห้ามปรามผู้เป็นแม่ที่เสียงดัง"น้องทำอะไรคะเนี่ย! ทำไมหน้าคุณอานักรบเละแบบนี้" น้ำส้มปรี่ประชิดตัวลูกสาวแล้วถามด้วยความใคร่รู้ แม้จากสิ่งที่เห็นจะเดาได้ว่าเป็นฝีมือลูกสาวแสนซนของเธอ"ทำเหมือนคุณแม่ไงคะ น้องอยากให้คุณอาหล่อเวอร์ ๆ กว่าเดิม....น้องทำดีไหมคะคุณแม่ขา" เด็กหญิงอธิบายตาใส แววตาไร้เดียงสา ปากฉีกยิ้มกว้างจนตาหยี ทว่าท่าทีนั้นทำเอาผู้เป็นแม่ควันแทบออกหู"ทำดีอะไรล่ะ น้องทำคุณอาแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะน้องมะนาว ไปเอาที่เช็ดเครื่องสำอางกับสำลีมาให้แม่เลยนะคะ ก่อนที่คุณอานักรบจะตื่น" ผู้เป็นแม่จับแขนลูกสาวออกห่างจากนักรบ แล้วพูดเสียงเบาตำหนิลูกสาวแสนซนที่ปั้นหน้าแป้นไร้เดียงสา อย่างกับว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิด จนแม่ต้องถลึงตาเขียวใส่"คุณแม่อย่าเพิ่งแปลงร่างนะคะ...เดี๋ยวน้องจะ