เฮ้อ.. ตอนนี้เธอเหนื่อยนะ เหนื่อยใจกับสองคนนั้นจริงๆ“คุณแม่ครับ.. ใครครับ?”เธอจะตอบยังไงดี.. นั่นสิ ผู้ชายคนนั้นเป็นใครกัน ชื่ออะไรกันแน่เอาจริงๆเธอเองก็ยังไม่รู้จักเลยด้วยซ้ำว่าชื่ออะไรอายุเท่าไร และทำงานอะไร..“เอ่อ.. เพื่อนคุณแม่เองครับน้องบีม”“ผัว..”ขวับ!!“นายจะบ้าเหรอ? เป็นบ้ารึยังไงกันพูดจาไร้สาระอะไรของนาย”“พูดเรื่องจริงเถอะได้กันตั้งหลายรอบแล้วเถอะ ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว..”ปวดหัว.. เธอปวดหัวจะไมเกรนจะขึ้นแล้วนะ แล้วดูสิสองคนนั้นทำท่าเขม่นกันอย่างกับพร้อมจะขึ้นสังเวียนชกกันอ่ะ เธอจะทำยังไงดีเนี่ย..“นี่.. ฉันยังไม่รู้จักนายเลยนะ นายชื่ออะไร ทำงานอะไร และอายุเท่าไร ที่สำคัญ น้องบีมเป็นลูกชายของฉันนะ อย่าพูดอะไรให้ลูกชายของฉันรู้สึกไม่ดีเด็ดขาด.. ห้าม!! ” เธอไม่ต้องการให้น้องบีมโกรธเธอหรือรู้สึกผิดหวังกับเธอ..“เรียกว่าผัวขาก็พอครับเมียจ๋า” เขาเองก็รู้หรอว่าเจ้าหนูน้อยคนนั้นเป็นลูกของเธอแต่!! ดูนั่น ดูสายตาและท่าทางที่แสดงออกมาใส่เขาสิ.. มันจะหวงแม่เกินไปแล้วนะ แต่เขาก็เข้าใจได้เพราะแม่สวยขนาดนั้นเป็นเขาก็หวงนะ..“ว่าแต่.. ชุดน่ะจะใส่รัดไปไหน รัดติ้วจนจะหายใจไม่ออกแล้วนะ.. ไม
จากวันนั้นที่เธอได้ปล่อยน้ำตาออกมากับผู้ชายที่ชื่อโค้กมันก็ทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไป.. ในทุกๆวันจะมีข้อความของเขาคนนั้นส่งมาหาเธอ เช้า สาย บ่าย เย็น และก่อนนอน วันดีคืนดีเขาก็แวะมาหาโดยไม่ยอมบอกเธอก่อน ที่สำคัญไม่ได้มามาตัวเปล่าด้วยบางวันก็หิ้วกาแฟหรือไม่ก็ชามะนาวมาฝากเธอด้วย“ว่า”“คิดถึงเฉยๆครับเลยโทรหา”^_^แฮ่ม..“ ไร้สาระ ไม่ทำงานเหรอ? ถ้าฉันเป็นเจ้านายของนายนะฉันจะหักเงินเดือนเลยไม่ยอมทำงานทำการเอาเวลามาโทรศัพท์” บ้า.. มาบอกคิดถึงอะไรเล่าบ้ารึเปล่า“ทำสิทำไมจะไม่ทำ นี่พักเที่ยงแล้วนะครับที่รักของผมดูเวลาด้วย ว่าแต่.. คุณกินข้าวรึยัง? หิวไหมอยากกินอะไรรึเปล่าผมจะได้ซื้อเข้าไปให้”“ไม่ต้องๆ ฉันออกมาทำธุระกับเลขาข้างนอกและกำลังหาของกินกันอยู่ไม่ต้องซื้อมาฝากหรอก” ขยันจริงๆนะ เขามักจะถามเธอแบบนี้ทุกวัน และถ้าวันไหนไม่ได้ออกมาทำธุระข้างนอกเขาก็จะขับรถเอาข้าวมาฝากเธอ เอาจริงๆนะบางวันเธอก็ไม่ได้กินข้าวเที่ยงหรอกเธอลืมจะว่าลืมก็ไม่ถูกต้องบอกว่าไม่มีเวลามากว่าแต่ช่วงนี้มีผู้ชายที่ชื่อว่าโค้กคนนี้ชีวิตเธอก็เปลี่ยนไปทันที..“ห้ามโกหกนะ ถ้าโกหกผมจะหยุดงานครึ่งวันไปนั่งเฝ้าคุณให้กินข้าวเลยคอ
บอกตามตรงเธอเองก็ยังไม่ค่อยชินกับการที่มีใครมาดูแลและเอาใจใส่เธอขนาดนี้ผู้ชายคนนั้นทำให้เธอรู้สึกแปลกๆทุกครั้งที่เธอเห็นหน้าเขา ช่วงนี้เขาก็ขยันมาหาเธอที่โชว์รูมด้วยช่วงเย็นๆ บางครั้งเขาก็หาเรื่องแวะมาและขับรถไปส่งเธอที่บ้านและเมื่อถึงบ้านเธอเขาก็เรียกแท็กซี่กลับ.. ดูเขาทำเข้าสิมันก็จะเกินไปนะแต่ถามว่าเธอรู้สึกดีไหม มันก็รู้สึกดีนะที่มีใครสักคนเอาใจใส่เธอทุกอย่าง..“วันนี้ไม่ต้องมานะวันนี้จะไปงานเลี้ยงน่ะ” เธอเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเธอต้องคอยรายงานเขาก่อนตลอดว่าเธอจะไปไหน เมื่อไร และกลับตอนไหน..“ไม่ทันแล้วครับตอนนี้ผมอยู่หน้าโชว์รูมคุณแล้ว”เฮ้อ.. นั่นปะไร เธอเองก็ลืมบอกเขาตั้งแต่เมื่อวานอ่ะ เธอผิดเอง“เหรอ.. งั้นก็แล้วแต่เถอะ” เธอห้ามไม่ได้แล้วนี่นา..“น่ารักครับที่รักของผม”ก๊อกๆๆตึกตึกตึก“คิดถึงจัง…”แค่เขาเข้ามาถึงในห้องทำงานของเธอเขาก็พุ่งตรงเข้ามากอดเธอเอาไว้และรัดเธออย่างกับงูเหลือมเลยก็ว่าได้.. เขาเข้าออกที่นี่บ่อยจนพนักงานในโชว์รูมและเลขาของเธอจำได้ดีแต่ถามว่าเป็นอะไรกัน.. ก็ไม่ได้เป็นอะไรกันนะเพราะเธอยังไม่ได้ตอบตกลงคบกับเขาอย่างจริงจังเลย… ไม่รู้สิเธอยังคงรู้สึกกล
นะไม่อยากจะเชื่อเลยอีตาบ้าคนนั้นทรมานเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่การทรมานของเขามันทำให้เธอก็… มีความสุขทางร่างกาย..“ทักทายครับที่รักของผม…”จุ๊บ จุ๊บ…=_=“ไม่ทำงานรึยังไงกันทำไมขยันมาหาบ่อยมาก” ช่วงนี้นิวัฒน์ขยันมาหาเธอมาก ตอนเที่ยงก็แวะส่งข้าวส่งน้ำ ตอนเย็นก็จะมารับเธอไปส่งที่บ้านโดยที่เขาจะกลับด้วยแท็กซี่เสมอเธอเองก็ไม่เข้าใจเขาเหมือนกันว่าเขาจะทำไปทำไม…“ ทำครับพอดีต้องมาแถวนี้ด้วยก็เลยแวะมาหาที่รักของผมก่อนมาขอกำลังใจครับจะได้มีแรงทำงาน..” ไม่ได้หรอกถ้าเขาไม่เห็นหน้าเธอและไม่ได้ยินเสียงเธอสักวันเขาตายแน่ ก็มันรักไปแล้วอ่ะ รักมากด้วยสิ คิดถึงตลอดเวลา ทำงานไปก็คิดถึง ขับรถก็คิดถึง ขนาดเจอกันก็ยังคิดถึงเลยเขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้รักและคิดถึงโบตั๋นได้มากขนาดนี้.. รักมากจริงๆทั้งที่เขาเคยคิดว่าเขาคงจะรักและชอบใครไม่ได้แล้ว.. แต่เพียงแค่เขาได้รู้จักกับเธอคนนี้มามันทำให้เขารู้สึกรัก หวง และเป็นห่วงมากกว่าใคร…“ได้กำลังใจแล้วก็กลับไปทำงานได้แล้ว..” ตาคนนี้นิ เป็นคนที่ขยันพูดไปเรื่อย.. และการพูดของเขาก็จะทำให้เธอยิ้มตาม แต่เธอพยายามที่จะไม่ทำให้เขาเห็นหรอกไม่งั้นเขาคงจะรุกเธอหนักกว่านี้..
พระเอก นิวัฒน์ เพิ่มสินทร์ (โค้ก) อายุ 31 ปี พนักงานบริษัทแห่งหนึ่งที่เคยผิดหวังเรื่องความรักจากคนที่เขาคิดว่าเธอคนนั้นจะเป็นคนสุดท้ายที่เขาต้องการสร้างครอบครัวด้วย แต่สุดท้าย.. ความคาดหวังที่เขาเคยวาดฝันกลับไม่เป็นดังที่เขาฝันไว้… จนมาวันหนึ่งเขาเมาและเผลอไปมีความสัมพันธ์แบบวันไนท์กับเธอคนนั้น.. คนที่ทำให้เขาถึงกับต้องร้องฮ๊ะ.. เธอคนนั้นเป็นผู้หญิงที่แปลกพอตัว เขาไม่คิดเลยนะว่าเขาจะได้เจอเธออีกครั้งและมันทำให้เขารู้สึกว่าเขาจะต้องพัฒนาตัวเองและทำให้ตัวเองดูเป็นคนที่เหมาะสมกับเธอคนนั้น.. เขาเป็นห่วงเธอ เป็นห่วงความรู้สึกลึกๆของเธอคนนั้นจริง ขอแค่เขาได้ดูแลและได้ปลอบเธอเวลาที่เธอเศร้า.. เขาขอแค่นั้นก็พอ…นางเอก นันทริกา ลิ้มเศรษฐา (โบตั๋น) อายุ 36 ปี เจ้าของโชว์รูมรถยุโรป เธอได้พบกับเด็กบ้าคนนึงเข้าให้ในวันที่เธอเมาเหมือนหมา… เฮ้อชีวิตติดคอนเทนต์จริงๆเลยชีวิตของเธอเนี่ย เมาเหมือนหมาและลากผู้ชายขึ้นห้อง.. เธอสัญญากับตัวเองเลยนะว่าเธอจะไม่ทำอีก ไม่เอาอีกแล้วจะไม่เมาเหมือนหมาอีก.. แต่มันก็ดันมีเหตุบังเอิญที่ทำให้เธอและผู้ชายคนนั้นต้องมาเจอกันอีก และการเจอกันของเราทั้งสองคนในครั้งนี้มันทำใ
งานก็เยอะเรื่องก็มาก.. ชีวิตของนังโบตั๋นนี่.. สุดๆไปเลย ชีวิตติดคอนเทนต์สุดๆ หนึ่งวันพันเหตุการณ์จริงๆ งานก็ปวดหัวมากพอแล้ว และพอกลับมาบ้านยังจะมาปวดหัวอีกเหรอ?“น้องบีมครับวันนี้อยู่กับพี่สุไปก่อนนะครับ.. เดี๋ยวมี้ขอไปหาเพื่อนก่อนนะครับ..”น้องบีม.. ลูกชายคนเดียวของเธอที่เกิดกับคนที่เป็นสามี.. ไม่สิอดีตสามีที่เธอคิดว่าเขาน่าจะเป็นผู้ชายและพ่อที่ดีให้กับลูกของเธอแต่เปล่าเลย.. ความรักที่เราเคยมีให้กันมาสามปี และเมื่อเธอท้องเขาก็เปลี่ยนไป… จากผู้ชายที่อบอุ่น จาผู้ชายที่ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกสุดแสนจะเพอร์เฟค.. มันกลับตาลปัตร เมื่อเธอท้องเธอไม่สามารถมอบความสุขบนเตียงให้เขาได้เขาจึงค่อยๆเริ่มหาเศษหาเลย ซื้อกินและกินฟรีไปเรื่อยจนเธอจับได้.. แต่แทนที่เขาจะหยุด.. เปล่าเลย เขาไม่หยุดและเขาก็พาผู้หญิงแปลกหน้าหลายตาเข้ามาในบ้านของเรา..“คุณแม่จะไปไหนครับ?”“แม่จะไปหาแม่มอลลี่ครับ คุยงานกันนิดหน่อยครับน้องบีม.. รักนะครับลูกชายของมี้..” เธอเองก็อยากจะอยู่กับลูกของเธอนะ แต่มันมีหลายเรื่องหลายอย่างที่เธอต้องการปรึกษาและขอคุยกับใครสักคนที่ทำให้เธอนั้นสบายใจขึ้นมาบ้างและคนที่รับกรรมนั่นก็คือนังมอลลนี่นั
อื้อ…“ ปวดหัวจัง.. ” เธอคงจะเมามากเลยสินะดูสิ.. เอาจริงๆนะเธอไม่ได้สนุกสุดเหวี่ยงแบบนี้มานานแล้วที่สำคัญคือแบบ.. เมาเหมือนหมา เมาแบบทิ้งตัวอ่ะ เธอไม่ได้ทำแบบนี้นานแล้วนะ เธอจำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่เธอเมาแบบนี้ก็ตอนที่เธอเรียนมหาวิทยาลัย ตอนนั้นเธอจำได้ว่าเธอต้องไปรับน้องที่คณะและพวกพี่รหัส ป้ารหัส ปู่ย่าตายายรหัสก็จัดหนักนักศึกษารุ่นใหม่แบบเธอและเพื่อนๆ.. สุดท้ายเมาเรื้อน.. เมาเหมือนหมาไปเลยล่ะ และภาพจำของทุกคนในตอนนั้นคือเธอนอนกอดหมาของมหาวิทยาลัย..“เอ๊ะ… ” ทำไม.. เอ๊ะ.. เธออยู่ที่ไหนนะนี่มันไม่ใช่ห้องนอนของเธอนิ และมันไม่ใช่คอนโดของเธอด้วย… แล้วอะไรกันเนี่ย.. ทำไม.. ทำไมเหมือนมีมือที่สามกำลังกอดเธออยู่.. ไม่นะ.. อย่านะ ขออย่าให้เป็นแบบที่เธอคิดเลยนะ…ไม่ได้ๆโบตั๋น.. ใจเย็นๆ หายใจเข้าลึกๆ ตั้งสติ ตั้งสติดีๆ…กรี๊ด!!!!“อือ…” อะไรเนี่ย.. เสียงดังเอะอะโวยวายของใครกันนะ…พลั่ก.. ตุบ.. โอ้ย….“อะไรเนี่ย..”“นาย… นายเป็นใครกัน.. กรี๊ด… กรี…”อุ๊บ….“เงียบ.. คุณจะร้องโวยวายทำไมกัน.. เงียบ.. บอกให้เงียบเดี๋ยวนี้.. ถ้าไม่เงียบจับกดลงเตียงอีกรอบนะจะบอกให้…” อะไรวะทั้งที่ตัวเองเป็นคนลากเขาและ
ไม่เอาแล้วเธอจะไม่กินเหล้าอีกเป็นอันขาด.. แล้วนังเพื่อนตัวดีนี่ตั้งแต่วันนั้นยังไม่ไ้ด้ยินข่าวคราวของมันเลย.. มันยังอยู่ดีมีสุขใช่ไหม… และเรื่องที่เธอเมาจนลากผู้ชายเข้าโรงแรมนั้น.. พอๆๆ ไม่พูดๆ ไม่เอาไม่คิด.. แต่สิ่งทำให้เธอต้องมานั่งสำนึกผิดอยู่จนถึงตอนนี้ก็คือน้องบีมถามว่าทำไมเธอไม่กลับบ้าน น้องบีมคิดว่าเธอจะทิ้งน้องบีม.. แม่ขอโทษ.. กว่าน้องบีมจะหายโกรธและหายน้อยใจเธอก็ใช้เวลาเป็นอาทิตย์ล่ะ.. เอาเป็นว่าเธอจะไม่ดื่มอีกเธอจะไม่ดื่มอีกเป้นอันขาด.. เมาแล้วลากผู้ชายเข้าโรงแรมแบบนี้.. พอค่ะบอกเลย..“ สุคะน้องบีมทานอะไรรึยังคะ” ตอนนี้เธอจะต้องถามสุก่อนว่าน้องบีมได้กินอะไรรึยังเพราะเธอว่าจะซื้อของกินเข้าไปน่ะสิ เธอไม่อยากให้สุทำงานเยอะแยะแค่เลี้ยงน้องบีมก็เยอะแล้วเธอไม่อยากให้สุทำเกินตัว.. เธอสงสารสุ“กินนมไปหนึ่งแก้วค่ะคุณโบตั๋น.. ”“งั้นเอาแบบนี้เดี๋ยวโบตั๋นจะซื้อของกินเข้าไปเองพี่สุไม่ต้องทำนะคะ..” บอกตามตรงเธอรักและเป็นห่วงสุมากๆนะ สุเหมือนน้องสาวของเธอคนนึงด้วยความที่อายุน้อยกว่าเธอไม่กี่ปีแต่ว่าความสามารถในการเลี้ยงเด็กและงานบ้านต่างๆเธอล่ะอึ้งเลย.. เธอยังทำไม่ได้เท่าสุเลย…เธอคิดว่าถ้
นะไม่อยากจะเชื่อเลยอีตาบ้าคนนั้นทรมานเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่การทรมานของเขามันทำให้เธอก็… มีความสุขทางร่างกาย..“ทักทายครับที่รักของผม…”จุ๊บ จุ๊บ…=_=“ไม่ทำงานรึยังไงกันทำไมขยันมาหาบ่อยมาก” ช่วงนี้นิวัฒน์ขยันมาหาเธอมาก ตอนเที่ยงก็แวะส่งข้าวส่งน้ำ ตอนเย็นก็จะมารับเธอไปส่งที่บ้านโดยที่เขาจะกลับด้วยแท็กซี่เสมอเธอเองก็ไม่เข้าใจเขาเหมือนกันว่าเขาจะทำไปทำไม…“ ทำครับพอดีต้องมาแถวนี้ด้วยก็เลยแวะมาหาที่รักของผมก่อนมาขอกำลังใจครับจะได้มีแรงทำงาน..” ไม่ได้หรอกถ้าเขาไม่เห็นหน้าเธอและไม่ได้ยินเสียงเธอสักวันเขาตายแน่ ก็มันรักไปแล้วอ่ะ รักมากด้วยสิ คิดถึงตลอดเวลา ทำงานไปก็คิดถึง ขับรถก็คิดถึง ขนาดเจอกันก็ยังคิดถึงเลยเขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้รักและคิดถึงโบตั๋นได้มากขนาดนี้.. รักมากจริงๆทั้งที่เขาเคยคิดว่าเขาคงจะรักและชอบใครไม่ได้แล้ว.. แต่เพียงแค่เขาได้รู้จักกับเธอคนนี้มามันทำให้เขารู้สึกรัก หวง และเป็นห่วงมากกว่าใคร…“ได้กำลังใจแล้วก็กลับไปทำงานได้แล้ว..” ตาคนนี้นิ เป็นคนที่ขยันพูดไปเรื่อย.. และการพูดของเขาก็จะทำให้เธอยิ้มตาม แต่เธอพยายามที่จะไม่ทำให้เขาเห็นหรอกไม่งั้นเขาคงจะรุกเธอหนักกว่านี้..
บอกตามตรงเธอเองก็ยังไม่ค่อยชินกับการที่มีใครมาดูแลและเอาใจใส่เธอขนาดนี้ผู้ชายคนนั้นทำให้เธอรู้สึกแปลกๆทุกครั้งที่เธอเห็นหน้าเขา ช่วงนี้เขาก็ขยันมาหาเธอที่โชว์รูมด้วยช่วงเย็นๆ บางครั้งเขาก็หาเรื่องแวะมาและขับรถไปส่งเธอที่บ้านและเมื่อถึงบ้านเธอเขาก็เรียกแท็กซี่กลับ.. ดูเขาทำเข้าสิมันก็จะเกินไปนะแต่ถามว่าเธอรู้สึกดีไหม มันก็รู้สึกดีนะที่มีใครสักคนเอาใจใส่เธอทุกอย่าง..“วันนี้ไม่ต้องมานะวันนี้จะไปงานเลี้ยงน่ะ” เธอเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเธอต้องคอยรายงานเขาก่อนตลอดว่าเธอจะไปไหน เมื่อไร และกลับตอนไหน..“ไม่ทันแล้วครับตอนนี้ผมอยู่หน้าโชว์รูมคุณแล้ว”เฮ้อ.. นั่นปะไร เธอเองก็ลืมบอกเขาตั้งแต่เมื่อวานอ่ะ เธอผิดเอง“เหรอ.. งั้นก็แล้วแต่เถอะ” เธอห้ามไม่ได้แล้วนี่นา..“น่ารักครับที่รักของผม”ก๊อกๆๆตึกตึกตึก“คิดถึงจัง…”แค่เขาเข้ามาถึงในห้องทำงานของเธอเขาก็พุ่งตรงเข้ามากอดเธอเอาไว้และรัดเธออย่างกับงูเหลือมเลยก็ว่าได้.. เขาเข้าออกที่นี่บ่อยจนพนักงานในโชว์รูมและเลขาของเธอจำได้ดีแต่ถามว่าเป็นอะไรกัน.. ก็ไม่ได้เป็นอะไรกันนะเพราะเธอยังไม่ได้ตอบตกลงคบกับเขาอย่างจริงจังเลย… ไม่รู้สิเธอยังคงรู้สึกกล
จากวันนั้นที่เธอได้ปล่อยน้ำตาออกมากับผู้ชายที่ชื่อโค้กมันก็ทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไป.. ในทุกๆวันจะมีข้อความของเขาคนนั้นส่งมาหาเธอ เช้า สาย บ่าย เย็น และก่อนนอน วันดีคืนดีเขาก็แวะมาหาโดยไม่ยอมบอกเธอก่อน ที่สำคัญไม่ได้มามาตัวเปล่าด้วยบางวันก็หิ้วกาแฟหรือไม่ก็ชามะนาวมาฝากเธอด้วย“ว่า”“คิดถึงเฉยๆครับเลยโทรหา”^_^แฮ่ม..“ ไร้สาระ ไม่ทำงานเหรอ? ถ้าฉันเป็นเจ้านายของนายนะฉันจะหักเงินเดือนเลยไม่ยอมทำงานทำการเอาเวลามาโทรศัพท์” บ้า.. มาบอกคิดถึงอะไรเล่าบ้ารึเปล่า“ทำสิทำไมจะไม่ทำ นี่พักเที่ยงแล้วนะครับที่รักของผมดูเวลาด้วย ว่าแต่.. คุณกินข้าวรึยัง? หิวไหมอยากกินอะไรรึเปล่าผมจะได้ซื้อเข้าไปให้”“ไม่ต้องๆ ฉันออกมาทำธุระกับเลขาข้างนอกและกำลังหาของกินกันอยู่ไม่ต้องซื้อมาฝากหรอก” ขยันจริงๆนะ เขามักจะถามเธอแบบนี้ทุกวัน และถ้าวันไหนไม่ได้ออกมาทำธุระข้างนอกเขาก็จะขับรถเอาข้าวมาฝากเธอ เอาจริงๆนะบางวันเธอก็ไม่ได้กินข้าวเที่ยงหรอกเธอลืมจะว่าลืมก็ไม่ถูกต้องบอกว่าไม่มีเวลามากว่าแต่ช่วงนี้มีผู้ชายที่ชื่อว่าโค้กคนนี้ชีวิตเธอก็เปลี่ยนไปทันที..“ห้ามโกหกนะ ถ้าโกหกผมจะหยุดงานครึ่งวันไปนั่งเฝ้าคุณให้กินข้าวเลยคอ
เฮ้อ.. ตอนนี้เธอเหนื่อยนะ เหนื่อยใจกับสองคนนั้นจริงๆ“คุณแม่ครับ.. ใครครับ?”เธอจะตอบยังไงดี.. นั่นสิ ผู้ชายคนนั้นเป็นใครกัน ชื่ออะไรกันแน่เอาจริงๆเธอเองก็ยังไม่รู้จักเลยด้วยซ้ำว่าชื่ออะไรอายุเท่าไร และทำงานอะไร..“เอ่อ.. เพื่อนคุณแม่เองครับน้องบีม”“ผัว..”ขวับ!!“นายจะบ้าเหรอ? เป็นบ้ารึยังไงกันพูดจาไร้สาระอะไรของนาย”“พูดเรื่องจริงเถอะได้กันตั้งหลายรอบแล้วเถอะ ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว..”ปวดหัว.. เธอปวดหัวจะไมเกรนจะขึ้นแล้วนะ แล้วดูสิสองคนนั้นทำท่าเขม่นกันอย่างกับพร้อมจะขึ้นสังเวียนชกกันอ่ะ เธอจะทำยังไงดีเนี่ย..“นี่.. ฉันยังไม่รู้จักนายเลยนะ นายชื่ออะไร ทำงานอะไร และอายุเท่าไร ที่สำคัญ น้องบีมเป็นลูกชายของฉันนะ อย่าพูดอะไรให้ลูกชายของฉันรู้สึกไม่ดีเด็ดขาด.. ห้าม!! ” เธอไม่ต้องการให้น้องบีมโกรธเธอหรือรู้สึกผิดหวังกับเธอ..“เรียกว่าผัวขาก็พอครับเมียจ๋า” เขาเองก็รู้หรอว่าเจ้าหนูน้อยคนนั้นเป็นลูกของเธอแต่!! ดูนั่น ดูสายตาและท่าทางที่แสดงออกมาใส่เขาสิ.. มันจะหวงแม่เกินไปแล้วนะ แต่เขาก็เข้าใจได้เพราะแม่สวยขนาดนั้นเป็นเขาก็หวงนะ..“ว่าแต่.. ชุดน่ะจะใส่รัดไปไหน รัดติ้วจนจะหายใจไม่ออกแล้วนะ.. ไม
ซึมเศร้าซ่อนเร้น เป็นคำที่ใช้เรียกกลุ่มคนที่มี 'โรคซึมเศร้า' แต่ 'ไม่แสดงอาการ' ออกมาชัดเจน หรือยังไม่มีอาการสำคัญของกลุ่มโรคซึมเศร้าแสดงออกมา ภาวะซึมเศร้าซ่อนเร้น แบ่งออกเป็น Masked Depression แปลว่า การใส่หน้ากาก การหลบซ่อน ก็หมายความว่า พวกเขาเป็นบุคคลที่มีภาวะซึมเศร้าที่ซ่อนอยู่ หรือ ซึมเศร้าแต่ต้องใส่หน้ากากไว้ เพื่อทำตัวเองให้ดูปกติ และแสดงออกให้เห็นว่า ตนเองไม่เป็นอะไร Smiling Depression มักจะเรียกกลุ่มคนที่ก็มีความทุกข์ แต่ไม่มีอาการเด่นของโรคซึมเศร้าออกมา และในบางรายยังสามารถทำหน้าที่ได้ตามปกติ ยังเหมือนมีความสุข โดยคนรอบข้างยากที่จะสังเกตได้นั่นคือสิ่งที่เธอเปิดอ่าน.. บทความนี้เป็นบทความของแพทย์ที่นำมาโพสลงในอินเตอร์เน็ต.. เธอเองก็รู้ว่าแท้จริงแล้วเธอไม่ได้มีความสุขเลยสักนิด เธอแค่แสดงมันออกมาเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกเศร้าของเธอก็เท่านั้นเอง.. เธอต้องการใครสักคนที่เข้าใจเธอ เธอต้องการใครสักคนที่รับฟังเธอ เธอต้องการกอด.. กอดของใครสักคนที่อบอุ่น กอดที่คนได้รับรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นใจ.. แค่นั้นเองที่เธอต้องการ เธอต้องการมันมาตลอดแต่เธอหาไม่เจอ เธอหาใครคนนั้นไม่เจอ เธอหาใครสักค
** นิยายบทนี้เป็นบทที่ Sensitive และเป็นความรู้สึกที่ถูกถ่ายทอดออกมาจากนักเขียนด้วยเช่นกัน.. บางช่วงบางตอนของบทนี้อาจจะเป็นจุดที่ท่า ให้นักอ่านได้รับรู้ว่าตัวเองอาจจะไม่เข้มแข็งอย่างที่ทุกคนคิดมาตลอด.. บทนี้อาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้นักอ่านที่กำลังตกอยู่ในภาวะซึมเศร้าซ้อนเร้นได้รู้ในสิ่งที่ตัวเองกำลังแอบและซ่อนเอาไว้ลึกๆ **ในที่สุด.. ทุกอย่างก็จบสิ้น เธอได้สิทธิ์เลี้ยงดูน้องบีมคนเดียวด้วยหลักฐานต่างๆที่เธอมีทํา ให้อดีตสามีของเธอไม่มีสิทธิ์ในตัวน้องบีม.. เขามีสิทธิ์แค่ส่งเสียเลี้ยงดูแต่ไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้า ใกล้น้องบีม.. ด้วยหลายสาเหตุที่บ้านนั้นทํามันเลยทำให้คนพวกนั้นไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าใกล้น้องบีมและไม่มีสิทธิ์พาน้องบีมไปเลี้ยงดูได้.. เรื่องนี้เธอไม่ขอพูดก็แล้วกันนะปล่อยให้คนพวกนั้นรับกรรมในสิ่งที่ตัวเองทําลงไปก็แล้วกัน…“ กิ๊กช่วยดูเอกสารการนำเข้ารถให้หน่อย..” ตอนนี้เธอกำลังจะนำเข้ารถรุ่นที่เป็นรุ่นที่ผลิตเพียงแค่ 200 คัน และคนที่จะได้ครอบครองนั้นมีไม่มากคนที่จะครอบครองรถหรูต้องมีเงินมากพอที่จะครอบครองมันซึ่งเธอเองก็.. ไม่เอาหรอก เปลืองเงินเสียดายเงิน แค่ขายก็พอเนอะไม่จำเป็นต้องครอบครอง.
หลับซะแล้ว.. เอาจริงตอนแรกเขาเองก็รู้ว่าเจ้าตัวยังไม่หลับเพราะเขามองเห็นเปลือกตาที่ขยับยุกยิกๆอยู่น่ะสิ แต่ตอนนี้.. เครื่องไม่ฟิตแล้วสิ หลับสบายเลยนะคงจะเหนื่อยน่าดูก็เขากับเธอเล่นกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันตั้งสามสี่ชั่วโมงได้.. ไม่แปลกไหม และคนบ้าอะไรแต่งหน้านอน.. เฮ้อ.. หรือว่านี่คือเรื่องปกติของผู้หญิงกันนะแต่งหน้านอนเนี่ย..“ ผมขออนุญาตดูกระเป๋าคุณนะที่รักของผม.. อือตามสบาย” หุหุ.. ถามเองตอบเองก็เท่ากับ.. พึงพอใจในคำตอบดังนั้นเขาถามแล้วและได้รับคำตอบแล้ว.. ดังนั้นเขาก็สามารถเปิดกระเป๋าดูได้แล้ว.. เพราะว่าเขาสนใจหรอกนะเขาถึงเปิดดู ถ้าไม่สนใจสุดที่รักของเขาเขาไม่มีทางทำแบบนี้แน่นอน..“ชื่ออะไรเอ่ย.. นันทริกา ลิ้มเศรษฐา ลิ้มเศรษฐาเหรอ.. เดี๋ยวนะ ” ให้ตายสิ นามสกุล ลิ้มเศรษฐาเหรอ? ตระกูลนี้รวยจะตาย แต่ส่วนใหญ่เขาจะเห็นแค่ผู้ชายนะ เป็นเจ้าของโรงแรม แอลเอสที และยังมีมินิมาร์ทชื่อดังที่ตั้งไปทั่วประเทศนั่นอีกแต่เขากลับไม่เคยเห็นเธอคนนี้มาก่อน.. แปลกแฮะ“คุณเป็นใครกันแน่.. ” ถ้าเขาอยากจะรู้จักมันคงไม่ผิดใช่ไหม? เขาไม่ได้สนใจฐานะของเธอคนนี้หรอกนะเอาจริงๆแต่เขาสนใจนิสัยของเธอมากกว่า.. ไอ้การดื้อรั
เบื่อมาก ชีวิตของเธอในแต่ละวันมันเป็นอะไรที่น่าเบื่อที่สุดหนึ่งวันพันเหตุการณ์มีอยู่จริง.. เมื่อไรนะปัญหาต่างๆนาๆมันจะจบสิ้นไปสักที.. หรือว่าเธอจะขอมากเกินไป ขอในสิ่งที่ไม่มีทางเป็นจริง..“มอลลี่วางป่ะ..”“ไม่ว่างมีอะไรไม่ทราบย๊ะคุณเพื่อน..”“ไม่มีไรไม่ว่างไม่คุยค่ะ.. ตามนั้นไม่ต้องถาม ” เพื่อนเธอนี่ตามตัวยากจริงๆ เหมือนจะว่างนะแต่ก็ไม่ว่าง งานก็ไม่ต้องทำหนักหนาเหมือนเธอแต่นางก็ยังไม่ค่อยว่างไม่รู้ว่าวันๆมันเอาเวลาไปทำอะไรหมด.. เออใช่ ช็อปปิ้ง ช็อปออนไลน์ เที่ยวต่างจังหวัด เที่ยวต่างประเทศ.. ลูกคุณแหละ.. คุณหนูจัด.. เกิดมาบนกองเงินกองทองก็สบายแบบนี้นี่เองเธอละอิจฉาเพื่อนรักเธอจริงๆเล้ย..“อะเคค่ะ โทษทีนะไม่ว่างจริงๆพอดีมาเที่ยวกับคุณแม่น่ะ.. โทษทีนะคะคุณเพื่อน..”“ย๊ะ” ไม่เป็นไรเธอไปเที่ยวเองก็ได้.. ไปคนเดียวออกจะบ่อยไม่เห็นจะต้องรอใครหรือง้อใครเลย..~~~จะว่าไปถ้าเธอจองห้องวีไอพีก่อนล่วงหน้าเธอก็ไม่ต้องมานั่งทนฟังเสียงดนตรีเสียงดังหนวกหูแบบนี้นะเอาจริงๆ เฮ้อ.. จะว่าไปมันก็ไม่ผิดหรอกเพราะสถานที่เที่ยวตอนกลางคืนมันก็เสียงดังเป็นปกติอยู่แล้ว ถ้าเธอมากับเพื่อนน่ะเธอไม่ติดหรอกจะเสียงดังขน
ในที่สุดเธอก็มาถึงจุดหมายปลายทางอย่างน้อยก็มาทันแม้ว่ามันจะฉิวเฉียดไปนิดแต่อย่างน้อยมันก็ทันเวลานัด..“ขอบใจ..”“ เฮ้.. อะไรกัน พอหมดประโยชน์ก็ไล่กันแบบนี้เลยเหรอ? ใจดำฉิบหาย.. หน้าตาก็ดีแต่ใจดำมาก.. ไม่คิดเลยนะว่าผู้หญิงสวยๆจะใจดำ..”“หยุด!!! นายต้องการอะไร? ค่าจ้างเหรอ? หรือว่าค่ารถ หรือว่าต้องการอะไร..” ตอนแรกก็คิดว่าจะใจดีมาส่งฟรีที่ไหนได้ก็ต้องการค่าจ้างนี่เอง..“ เอาเบอร์มา เผื่อว่าคุณต้องการความช่วยเหลือหรือว่าเผื่อวันไหนคุณเปลี่ยว.. ผมก็ช่วยคุณได้นะ.. ใครจะไปรู้กัน..”“นาย.. ไอ้ทุเรศ.. โอ้ย.. ฝากไว้ก่อนเถอะนายไม่ตายดีแน่..” บ้าเอ้ยถ้าไม่ติดว่าเธอจะต้องไปคุยกับลูกค้านะ.. ไอ้หมอนี่คอหักคารองเท้าเธอแล้ว..หึหึ.. น่ารักดี พอได้แกล้งยิ่งน่ารักพอได้พูดด้วยก็ยิ่งชอบ.. แปลกดี ผู้หญิงอะไรมันจะเก่งไปซะทุกเรื่องเป็นไปไม่ได้หรอกว่าจะเก่งไปซะทุกเรื่องขนาดนี้มันจะต้องมีสักเรื่องละวะที่ทำไม่ได้..~~~~“เรื่องมากจริงนี่ถ้าไม่ติดว่าลูกค้าคนนี้สั่งรถของเธอและมีอะไหล่รถที่เธอต้องการนะ.. เธอบอกเลยว่าจะไม่มาที่นี่เป็นอันขาดคนบ้าอะไรก็ไม่รู้ชีกอสุดๆ..” ไอ้บ้าไอ้หน้าหม้อ.. ขนาดมีเมียแล้วนะยังมาทำชีก