เช้าวันต่อมา…ความอึดอัดจากการถูกกอดรัดร่างกายทำเอาหญิงสาวส่งเสียงครางอื้ออยู่ในลำคอ ก่อนจะยกมือขึ้นมาปิดบังใบหน้าเพื่อหลบเลี่ยงแสงแดดยามเช้าเมื่อลืมตาก็พบว่าความอึดอัดคล้ายกับถูกงูรัดเป็นฝีมือของคลื่น แขนแกร่งข้างหนึ่งสอดอยู่ใต้ศีรษะของเธอ ส่วนอีกข้างหนึ่งกอดหน้าอกเธออยู่แซนด์จำได้ว่าเมื่อวานตอนเข้านอนเขานอนอยู่บนเตียงของตนเอง แต่ทำไมตอนเช้าถึงโผล่อยู่ตรงนี้ได้ จะว่าดิ้นก็ไม่ใช่เพราะอย่างนั้นคงตกเตียงก่อนลมหายใจอุ่น ๆ ที่เป่ารดอยู่บริเวณท้ายทอยทำให้รู้ว่าเจ้าตัวยังหลับสนิท เธออยากขยับตัวบิดขี้เกียจแต่ก็ต้องเกรงใจคนที่ยังไม่ตื่น ตั้งใจว่าจะรออีกสักหน่อยเลยเอื้อมมือหยิบสมาร์ตโฟนใต้หมอนมาเล่นบนหน้าจอมีเอสเอ็มเอสถูกส่งมาเมื่อคืนหลังจากเธอหลับไปแล้ว เป็นเบอร์โทรศัพท์ที่ไม่ได้บันทึกรายชื่อเอาไว้ แต่เนื้อความทำให้รู้ว่าเป็นเบอร์ของใคร‘สวัสดีครับ ไทเปเองนะครับคุณแซนด์ที่เจอกันเมื่อวาน ผมส่งข้อความมาขออนุญาตแอดไลน์จากเบอร์ในนามบัตร ถ้าเห็นแล้วรบกวนตอบทีนะครับ ผมไม่ใช่มิจฉาชีพ’ข้อความดังกล่าวทำเอาแซนด์รู้สึกเอ็นดูถึงกับป้องปากขำ รู้ว่าศรุตเป็นคนมีมารยาท แต่แบบนี้มันก็ออกจะเกินไปหน่อย ถ้า
“คลื่น! มีคนโทรมา”“เอาเข้ามาให้ผมในห้องน้ำทีครับ”แซนด์หยิบสมาร์ตโฟนที่กำลังสั่นครืดอยู่บนเตียงเดินมายังห้องน้ำ ซึ่งคนใช้งานไม่ได้ปิดประตูจนสนิท“เอาไป” มือเรียวดันประตูแง้มแล้วยื่นผ่านช่องประตูเข้าไปให้เจ้าของ ทว่ากลับถูกมือเปียกชื้นดึงจนตัวลอยเข้าไปข้างใน “โอ๊ย! ดึงทำไม”“มาอาบน้ำด้วยกันสิครับ”“ไม่เอา เดี๋ยวพี่อาบทีหลัง”ชายหนุ่มไม่ได้ตอบอะไรกลับไป แถมไม่ยอมปล่อยมือออกจากเอวคอด ใช้มืออีกข้างฉกสมาร์ตโฟนตนเองไปดูว่าใครโทรมาหาตั้งแต่เช้า ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ เมื่อเห็นว่าเป็นพี่ชายต่างแม่ของตนคลื่นกดรับสายแล้ววางสมาร์ตโฟนไว้บนอ่างล้างหน้า “คิมหันต์พูดสายครับ”(มึงทำอะไรไอ้สาม)“โทรไปฟ้องเร็วกว่าที่คิดนะครับ” ชายหนุ่มตอบเสียงติดจะหัวเราะ ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าไปหอมซอกคอคนตัวเล็กที่ถูกเขาล็อกตัวไม่ให้ออกไปจากห้องน้ำ(อยู่กันดี ๆ ไม่ได้ใช่มั้ย)“ผมควรเป็นคนพูดคำนั้นมากกว่านะครับคุณหนึ่ง ช่วยบอกน้องชายตัวเองด้วยว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมให้โอกาส เพราะผมพร้อมจะเขี่ยคนไร้ประโยชน์ออกเสมอ คุณก็น่าจะรู้ดี”อิศเรศก็อยู่ในสถานะเดียวกันกับอวัช เป็นคนที่เขาส่งไปประจำการเป็นผู้จัดการของเดอะสฟิ
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่บนเรือจะเป็นชาวต่างชาติเกือบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นการใส่บิกินีเซ็กซี่จึงไม่มีใครให้ความสนใจมากนักคลื่นกับแซนด์ก็เหมือนคู่ที่มาท่องเที่ยวตามประสาคนรัก ต่อให้จะโอบกอดกัน จูบกัน มันก็เป็นแค่เรื่องธรรมดาที่เห็นได้ทั่วไปในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ“ผมจะไปสั่งเครื่องดื่ม คุณจะเอาอะไรครับ”“น้ำส้มก็ได้”“โอเค” ชายหนุ่มพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ ก่อนจะปลีกตัวเดินมาสั่งเครื่องดื่มที่บาร์ทางซ้ายมือ “ออนเดอะร็อกกับน้ำส้มอย่างละหนึ่งแก้วครับ”“ได้ครับ ไม่ทราบว่าคุณนั่งอยู่ตรงไหนครับ พนักงานจะนำไปเสิร์ฟให้”คลื่นหันมองหาที่ว่าง พลางชี้นิ้วไปที่เตียงริมสระว่ายน้ำตัวสุดท้ายฝั่งตรงข้ามกับตน ซึ่งมีแซนด์อยู่ในครรลองสายตา ทำให้เห็นว่าเธอกำลังยืนคุยกับผู้ชายคนหนึ่งอยู่ในสระว่ายน้ำ“เผลอไม่ได้เลยสินะ…”แค่ไม่กี่นาทีที่เขาเดินมาสั่งเครื่องดื่มกลับดึงดูดผู้ชายเข้าหาแล้ว ถ้าเขาไม่เห็นกับตาคงไม่เชื่อว่าผู้หญิงคนนี้จะเสน่ห์แรงขนาดนี้ดันนึกถึงข้อความเมื่อเช้าของผู้ชายคนหนึ่ง แม้ไม่ใช่บทสนทนาเชิงชู้สาว แต่กลับทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดแทบบ้า ไม่แน่ว่าอีกหน่อยคงถูกสุนัขตัวผู้คาบไปกิน บางทีเ
เพียะ!“อึก!” แซนด์ถูกกระตุ้นความเจ็บปวดด้วยการฟาดไม้ลงบนเรียวขา ก่อนที่ปลายนิ้วของอีกฝ่ายจะสอดเข้ามาในช่องทางรัก และเริ่มขยับอย่างถี่รัวโดยไม่ได้ตั้งตัวเสียงครวญครางดังก้องไปทั่วห้องพัก ไม่สนใจว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะมีใครได้ยินหรือเปล่า เธอเพียงแค่ต้องการระบายความเสียวซ่านที่ได้รับจากอีกฝ่ายเท่านั้นนิ้วของเขาใหญ่มากจนอึดอัดไปหมด แต่มันเป็นคนละความรู้สึกกับการถูกท่อนลำสอดใส่ ยิ่งจินตนาการถึงช่วงเวลานั้นท้องน้อยก็บิดเกร็งราวกับจะแตะขอบสวรรค์เสียให้ได้“อื้อ…จะเสร็จแล้วค่ะ”“ใครให้เธอเสร็จ ถ้าฉันยังไม่สั่งก็อย่าเสร็จ” แม้จะห้ามไม่ให้อีกฝ่ายเสร็จสม แต่เขากลับเร่งขยับมือเร็วกว่าเดิม ยิ่งเห็นแซนด์ทรมานก็ยิ่งชอบใจ“นะ…นายท่าน อ๊า” หญิงสาวพยายามอดทนจนถึงที่สุด เพราะถ้าขัดคำสั่งคงจะถูกลงโทษมากกว่านี้ คลื่นไม่เคยผ่อนปรนเวลาสวมบทบาทเลยสักครั้งเพียะ! เพียะ!แก้มก้นถูกฟาดติดต่อกันหลายทีจนร่างเล็กถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความทรมาน และเมื่อถึงจุดที่ความเสียวซ่านพุ่งสูงขึ้นแทบระเบิดอีกฝ่ายกลับดึงมือออกไป ทิ้งให้หญิงสาวค้างเติ่งอยู่บนยอดเขา“ถ้าอยากเสร็จนักก็ลงไปนั่งข้างล่าง” ชายหนุ่มออกคำสั่งเ
ชายหนุ่มตื่นมาตั้งแต่เช้าตรู่ เพราะได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกจากสมาร์ตโฟนของแซนด์ อยากให้เธอพักผ่อนต่อจึงรีบกดปิด ด้วยเหตุที่เมื่อคืนเขาเล่นสนุกกับเธอมากเกินไปหน่อยผิวขาวเนียนบัดนี้มีแต่รอยแดงช้ำจากการถูกเชือกมัด ไม่ต้องพูดถึงแก้มก้นที่เขาฟาดไม่ยั้งมือตั้งหลายที แต่มันกลับสวยงามในสายตาของเขาปลายนิ้วเรียวยาวลูบดังกล่าวบนข้อมือเรียวเบา ๆ ก่อนจะโน้มลงไปพรมจูบสองสามครั้ง จากนั้นจึงลุกไปหยิบยาทาบรรเทาอาการฟกช้ำมาทาให้เธอ“อือ…ทำอะไร”“ทายาให้ครับ อยู่นิ่ง ๆ”แซนด์ยกมืออีกข้างขึ้นมาปิดปากหาว ระหว่างรอให้คลื่นทายาอีกข้างเสร็จ “กี่โมงแล้ว ทำไมตื่นเช้าจังวันนี้”“ผมก็ตื่นเวลาปกติ” อันที่จริงเขาตื่นเช้ากว่านี้ด้วยซ้ำ แต่วันนี้อยากกลายเป็นคนขี้เกียจดูบ้าง “พลิกตัวหน่อยครับ ผมจะทาก้นให้”หญิงสาวยอมพลิกตัวตามคำสั่งอย่างว่าง่าย ปล่อยให้อีกฝ่ายปรนนิบัติพัดวี ซึ่งปกติหลังจากเพลย์เสร็จเขาก็เป็นคนทำทั้งหมดนั้นอยู่แล้ว“แสบมากมั้ยครับ”“ก็มากนะ เมื่อวานคืนฟาดแรงกว่าทุกทีเลยรู้ตัวมั้ย”“ปกติที่ผมทำมันแรงกว่านี้ แต่ถ้าผมทำคุณอาจจะทนไม่ไหว”“ทำขนาดนี้ไม่ต้องกลัวพี่เจ็บแล้วมั้ง”“แล้วตรงนี้เจ็บมั้ย” คลื่นสอดมื
สองสัปดาห์ต่อมา...แซนด์เดินทางกลับมาที่บ้านของตนหลังจากทราบข่าวว่าพี่ชายและพี่สะใภ้กลับมาจากญี่ปุ่นได้เกือบสี่วันแล้ว เพราะเธอมีคำถามมากมายที่อยากจะถามเขา และอยากหารือเกี่ยวกับหนี้ที่มีอยู่ตอนนี้ด้วยแต่เมื่อเข้ามาในบ้านกลับเห็นรถยนต์ลัมโบร์กินีจอดอยู่ในลานจอดของบ้าน ความสงสัยอัดแน่นอยู่เต็มหัวว่าเป็นรถของใคร ถ้าเป็นของภูธเนศคงต้องคุยกันยาว“พี่ภู”“…” เจ้าของชื่อช้อนสายตามองแทนการตอบรับ ก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อยที่เห็นน้องสาวต่างแม่มาเหยียบที่บ้าน เพราะเขารู้สึกไม่สบอารมณ์สักเท่าไร“แซนด์มีเรื่องจะคุยด้วย”“ว่ามาสิ ฉันมีงานต้องทำ”“หนี้ของเดือนนี้พี่ภูจะช่วยแซนด์จ่ายวันไหนคะ”“แกมาเพราะเรื่องแค่นี้เหรอ”“ถ้ามันเป็นเรื่องแค่นี้ก็ควรช่วยกันจ่ายไม่ใช่เหรอ ให้เหมือนที่พี่ภูสบายใจถึงขั้นพาเมียไปเที่ยวญี่ปุ่นได้ แล้วก็ยอมให้เมียซื้อของเป็นล้าน ๆ กลับมาน่ะ” แซนด์เก็บข้อมูลที่แขไขอัปโหลดลงในโซเชียลไว้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าราคาล้านบาท หรือของยิบย่อยที่พอเอาจำนวนเงินมารวมกันก็สามารถใช้หนี้ได้ถึงสองเดือน“อย่ามาพูดถึงพี่สะใภ้แกแบบนี้นะแซนด์”“ในขณะที่แซนด์ต้องดิ้นรนออกไปทำงานข้างนอก แต่พี่ภู
“คลื่นช่วยอะไรพี่หน่อยสิ”“มีอะไรมาแลกเปลี่ยนครับ”“โห จะไม่ถามก่อนเหรอว่าเรื่องอะไร”“ผมเป็นนักธุรกิจ ไม่ชอบทำอะไรที่มันเสียเปรียบ”แซนด์ขบคิดว่าจะเอาอะไรมาแลกเปลี่ยนกับคลื่นดี เงินก็ไม่ได้เพราะเขาน่าจะมีมากกว่าเธอหลายเท่า ของขวัญก็น่าจะซื้อเองได้“คลื่นอยากได้อะไรล่ะ พี่คิดไม่ออกหรอก เพราะคลื่นน่าจะมีทุกอย่างหมดแล้ว”“เป็นคำตอบที่ดี งั้นก็ว่าสิ่งที่คุณอยากให้ช่วยมา ส่วนสิ่งที่ผมต้องการจะบอกทีหลัง”“พี่อยากรู้เรื่องบริษัทของพี่ภูน่ะ ตอนนี้สถานการณ์มันเป็นยังไงบ้าง แล้วก็อยากได้หลักฐานที่บอกว่าคุณอดิศรไม่มีตัวตนอยู่จริง”“แค่นั้นเหรอครับที่อยากได้” สิ่งที่เธอขอมามันเป็นเรื่องง่ายดายที่เขาแค่ดีดนิ้วก็ได้มาครอบครอง ไม่จำเป็นต้องลงแรงสืบหาด้วยตนเอง“อื้อ แค่นั้นแหละ”“อะไรทำให้คุณอยากรู้เรื่องนั้น”“พี่รู้สึกว่ามันแปลก ๆ น่ะ ถ้าสิ่งที่พี่ภูพูดมันไม่เป็นความจริงเท่ากับว่าพี่กำลังถูกหลอก แต่ถ้าถูกหลอกก็ยังไม่รู้ว่าเพราะอะไร” เธอยังฟันธงไม่ได้ว่าภูธเนศหลอกลวงเธอจริงหรือไม่ แต่ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงมันจะมีเหตุผลอะไรที่เขาต้องทำแบบนั้น เพราะความเกลียดชังอย่างนั้นหรือ“จะให้ผมบอกตอนนี้เลยมั้ยล่ะ”
หนึ่งเดือนต่อมา…กริ๊งงงงง กริ๊งงงงง~สมาร์ตโฟนแผดเสียงดังลั่นขึ้นมากลางดึก ทำให้สองชายหญิงสะดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย ก่อนที่เสียงนั้นจะเงียบลงหลังจากกดรับสายแล้ว“โทรมาดึกดื่น มีอะไรครับ” คลื่นเอ่ยถามกราฟซึ่งเป็นเจ้าของสายนี้ผ่านน้ำเสียงติดจะหงุดหงิดเล็กน้อย ก่อนจะหลุบตามองคนที่นอนอยู่ข้างกายตน(เกิดเรื่องใหญ่แล้วไอ้คลื่น วิลล่าด้านหลังถูกไฟไหม้!)“มึงว่าไงนะ!” ได้ยินเช่นนั้นเขาก็เด้งตัวลุกขึ้นมานั่ง ถามเสียงเครียด “มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง”(ตอนนี้ยังไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัด เจ้าหน้าที่กำลังควบคุมเพลิงอยู่)“มีแขกได้รับอันตรายมั้ย”(ไม่มี แขกออกมาได้ทันทุกคน)“มีความคืบหน้าอะไรบอกกูทันที กูจะรีบลงไป” คลื่นกดวางสายเพื่อนสนิท ก่อนจะหยัดกายลุกจากเตียงนอน“เกิดอะไรขึ้นเหรอคลื่น”“ไอ้กราฟตบอกว่าวิลล่าที่ภูเก็ตถูกไฟไหม้ แต่ยังไม่รู้สาเหตุ ช่วยจองตั๋วเครื่องบินไฟล์ตที่เร็วที่สุดให้ผมที”“อะ…โอเค” แซนด์รีบหยิบสมาร์ตโฟนบนโต๊ะข้างหัวเตียงขึ้นมาเปิดแอปพลิเคชันเพื่อจองตั๋วเครื่องบิน ไฟล์ตเร็วที่สุดน่าจะเป็นหกโมงเช้า ซึ่งก็คืออีกสามชั่วโมงที่จะถึงนี้จากนั้นก็รีบวิ่งลงมาที่ห้องนอนของตนเอง
หลายอาทิตย์ต่อมา...ปุ้ง!“ยินดีต้อนรับกลับมาค่ะคุณจีน่า” แซนด์ดึงพลุกระดาษพร้อมกับกล่าวอย่างสดใส ทำเอาจีน่าที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องทำงานของคลื่นถึงกับสะดุ้งตกใจ“ตกใจหมดเลยค่ะคุณแซนด์ แต่ขอบคุณนะคะ”นี่เป็นวันแรกของการกลับทำงานหลังจากที่หล่อนลาพักร้อนไปเกือบเก้าเดือน ดีใจที่ทุกคนให้การต้อนรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเจ้านายหนุ่มที่ยอมให้คนรักตนเองทำอะไรเช่นนี้“วันนี้คุณจีน่ามาทำงาน แปลว่าฉันคงต้องลาออกแล้วล่ะค่ะ”“คุณแซนด์ทำงานต่อไปก็ได้นี่คะ ดิฉันว่าท่านประธานน่าจะอยากให้ทำแบบนั้น”“คุณคลื่นบอกว่าถ้าฉันอยากทำงานที่นี่ต่อก็จะไล่คุณจีน่าออก”จีน่าหันไปเลิกคิ้วมองผู้เป็นเจ้านายที่ทำหน้าเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ ก่อนจะดึงความสนใจกลับไปที่หญิงสาวอีกคน “ถ้างั้นเชิญคุณแซนด์เลยค่ะ”“คุณจีน่าจะออกเหรอคะ”“เชิญคุณแซนด์ไปลาออกกับเอชอาร์ตอนนี้เลยค่ะ ลูกดิฉันยังเล็ก”“ฮ่า ๆ” ประโยคนั้นทำเอาแซนด์ถึงหลุดหัวหัวเราะ “ล้อเล่นค่ะ ฉันทำหน้าที่นี้ได้ไม่ดีเท่าคุณจีน่าหรอก อีกอย่างฉันว่าจะกลับไปอังกฤษสักพักด้วย”พรึ่บ!“กลับไปทำไมครับ” คลื่นผุดลุกจากเก้าอี้อย่างแรง ก่อนจะเดินมาหาแฟนสาวของตนเอง “ตอบผมสิครับ”“พี่จะกล
เช้าวันต่อมา…หญิงสาวมีอาการเจ็ตแล็กจนเผลอหลับไปตั้งแต่ช่วงเย็นของเมื่อวานและตื่นขึ้นมาอีกทีตอนตีสี่ ไม่อยากรบกวนแฟนหนุ่มที่ยังนอนหลับสบาย จึงพาตนเองมาล้างหน้าล้างตาแล้วถือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปลงมาที่ห้องครัวเพราะมีใครบางคนเสียบปลั๊กกาต้มน้ำร้อนเอาไว้ ทำให้แซนด์เดาว่าน่าจะมีคนตื่นแล้ว แต่ตอนนี้ไม่รู้หายไปไหน เธอกดน้ำร้อนใส่ถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแล้วเดินออกมานั่งที่โต๊ะนอกบ้าน“ตื่นแต่เช้าเลยนะ”“อ๊ะ! คุณตา” หญิงสาวสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงดังมาจากข้างหลังตน เป็นฟาบริโอที่เดินผ่านพุ่มไม้มาพร้อมกับกรรไกรตัดแต่งต้นไม้ “สวัสดีตอนเช้าค่ะ”“อืม เจ้าเด็กนั่นยังไม่ตื่นเรอะ”“ยังเลยค่ะ หนูนอนก่อนก็เลยตื่นก่อนค่ะ”“กินของไม่มีประโยชน์ตั้งแต่เช้า สุขภาพมันจะแย่เอา” ชายสูงวัยมองถ้วยบะหมี่บนโต๊ะเล็กน้อย ก่อนจะหันมาเตือนแฟนสาวของหลานชายด้วยความหวังดี“หนูไม่แน่ใจว่าทำอะไรทานได้บ้างก็เลยคิดว่าบะหมี่น่าจะง่ายสุดค่ะ”“ที่นี่ทำได้ทุกอย่างนั่นแหละ คิดซะว่าเป็นบ้านตัวเอง”“ขอบคุณค่ะ แล้วคุณตาจะไปไหนแต่เช้าเหรอคะ”“ว่าจะเข้าไร่ไปเก็บองุ่นมาให้เจ้าคลื่นมันกินนั่นแหละ เด็กนั่นมันชอบ”“อ้อ หนูขอไปด้วยได้มั้ยคะ”
ครอบครัวของคลื่นอาศัยอยู่แทบชานเมืองเซียน่าในแคว้นทัสคานีของประเทศอิตาลี ตลอดเส้นทางจะสังเกตได้ว่าล้อมรอบไปด้วยไร่องุ่น ตัวบ้านที่ปลูกสร้างด้วยอิฐสีแดงสไตล์อิตาลีการมาเยือนประเทศอิตาลีคราวนี้เป็นครั้งที่สองแล้วก็จริง แต่กลับรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้พบกับครอบครัวของแฟนหนุ่ม แซนด์ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าคลื่นบอกครองขวัญไปแล้วหรือยังว่าตอนนี้เขากับเธอเป็นอะไรกันหญิงสาวเปิดประตูลงมาจากรถยนต์ ก่อนจะยกมือไหว้ผู้ใหญ่ที่ไม่ได้พบเจอกันมาตั้งสิบกว่าปี ซึ่งท่านก็ออกอาการตกใจเมื่อเห็นหน้าเธอ“สวัสดีค่ะน้าครองขวัญ”“หนูแซนด์เหรอ…” ครองขวัญเอ่ยถามด้วยภาษาไทยสำเนียงต่างชาติ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนไม่บอกกล่าวเธอเลยว่าจะพาแซนด์มาด้วยกัน“ใช่ค่ะ”“โตเป็นสาวแล้วสวยเชียว” หญิงวัยห้าสิบปีคลี่ยิ้มอย่างยินดีที่ได้พบกัน ก่อนจะเป็นฝ่ายเดินเข้ามาโอบไหล่เด็กสาวรุ่นลูก “ทำไมมาด้วยกันได้ล่ะฮึ”“คลื่นยังไม่ได้บอกคุณน้าเหรอคะ”“เจ้าตัวดีมันบอกอะไรน้าที่ไหนกัน แถมยังจะยืนหน้ามึนอีก”“เซอร์ไพรส์ไงครับ” ชายหนุ่มยิ้มน้อย ๆ แล้วอ้อมรถยนต์มาหาแฟนสาวกับแม่ของตน แต่โน้มเข้าไปกระซิบข้างหูแม่ให้ได้ยินกันสองคน “…ผมเอาลูกสะใภ้มาฝาก”“คล
“คนเก่งหันมายิ้มหน่อยครับ”“หือ…” เมื่อหันไปเห็นว่าแฟนหนุ่มถือสมาร์ตโฟนอยู่ หญิงสาวจึงคลี่ยิ้มตามที่เขาต้องการ “ถ่ายสวยมั้ย”“นางแบบสวย ถ่ายยังไงก็สวยครับ”ติ๊ง~K.Da : พี่หนึ่งกับพี่สองกำลังไปที่บ้านนะK.Da : แกยังอยู่ที่นั่นมั้ยคลื่นตอบข้อความของพี่สาวกลับไปแค่สั้น ๆ ก่อนจะเก็บสมาร์ตโฟนใส่กระเป๋ากางเกง จังหวะนั้นมีชายวัยกลางคนเดินเข้ามาหา“สวัสดีครับท่านทั้งสอง”“สวัสดีครับ”“กระผมชื่อโอลิวิเยร์ เป็นผู้ดูแลคฤหาสน์แห่งนี้ครับ”“คิมหันต์ครับ” คลื่นแนะนำตนเองกลับไปเป็นภาษาฝรั่งเศส“อีกครู่หนึ่งจะมีคนนำของว่างและชามาเสิร์ฟนะครับ ถ้าอยากได้อะไรเพิ่มเติมสามารถแจ้งกระผมได้”“ขอบคุณครับ แต่เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว” ชายหนุ่มโคลงศีรษะเป็นเชิงขอบคุณ ก่อนจะเดินกลับมาหาแฟนสาวตนเองไม่นานสาวใช้ประจำปราสาทก็นำอาฟเตอร์นูนทีมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะกลางสวนดอกไม้ ก่อนจะเดินออกไปยืนห่าง ๆ เพื่อให้สองชายหญิงดื่มด่ำกับบรรยากาศกันตามลำพังช่วงเย็นบริเวณสวนดังกล่าวถูกจัดตกแต่งด้วยโต๊ะรับประทานอาหารแบบยาว พร้อมทั้งเสิร์ฟอาหารไฟน์ไดน์นิงที่ส่งตรงมาจากเชฟมิชลินสตาร์เป็นครั้งแรกในรอบสิบกว่าปีที่คลื่นร่วมรับประทานอาหา
สองเดือนต่อมา…@ฝรั่งเศสคำขอร้องจากปากพี่สาวต่างแม่ทำให้ชายหนุ่มตัดสินใจเดินทางมาร่วมงานแต่งงานของเธอ เพราะอย่างไรเสียก็ไม่เคยทะเลาะเบาะแว้งกัน ยังอยู่ในสถานะพูดคุยกันได้ตามปกติ เพียงแต่ไม่สนิทใจที่จะพูดคุยกันทุกเรื่องเบื้องหน้าของเขาเป็นพิธีแต่งงานซึ่งจัดขึ้น ณ โบสถ์ทางศาสนาคริสต์ในแคว้นหนึ่งของฝรั่งเศส ถึงจะไม่ได้แสดงสีหน้าปีติยินดีออกมา แต่ลึก ๆ คลื่นก็รู้สึกแบบนั้นอยู่ในใจคราแรกคิดว่าตนเป็นสายเลือดคนเดียวที่มางาน แต่ที่ไหนได้กลับมีทั้งพี่ชายคนโตและคนรองมาด้วย คลื่นไม่ได้เข้าไปกล่าวทักทาย ส่วนทั้งสองคนนั้นก็ไม่กล้าหันมาสบตาหลังพิธีจบลงอย่างเป็นทางการ ‘ดา ดลยา’ ผู้เป็นเจ้าสาวก็เดินมาหาน้องชายต่างแม่ของตน เพื่อชวนเขาไปร่วมถ่ายภาพด้วยกัน“คลื่นไปถ่ายรูปกับพี่สิ”“พี่ไปถ่ายเถอะ”“เร็ว ๆ อย่าทำตัวเป็นเด็ก” ดลยาดึงแขนน้องชายให้ลุกจากเก้าอี้ ในขณะที่แซนด์ก็ต้องลุกพร้อมกันเมื่อคลื่นดึงเธอไปด้วย “…แวงซ็องต์คะ นี่น้องชายคนเล็กของฉันค่ะ”“สวัสดีครับ” เจ้าบ่าวหันมาทักทายอย่างสุภาพ พลางยื่นมือไปตรงหน้าน้องชายของภรรยา“สวัสดีเช่นกันครับ” คลื่นโคลงศีรษะเล็กน้อยพร้อมกับยื่นมือไปเช็กแฮนด์ตาทมาร
“ลงมาจากโต๊ะครับ”แซนด์หย่อนปลายเท้าลงมายืนบนพื้น ก่อนจะหันหลังแล้วเอนกายไปด้านหน้า เริ่มรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้ยินอีกฝ่ายหยิบบัตต์ปลั๊กอะลูมิเนียมที่มีกระดิ่งห้อยออกมาลิ้นชักโต๊ะทำงาน“เตรียมมาตรงนี้มาพร้อมแล้วเหรอครับ”“…ค่ะ” หลังจากวันนั้นที่คลื่นทำกับช่องทางด้านหลังเธอครั้งแรก เธอก็รู้ว่าต้องทำอย่างไรกับมันบ้าง“สมกับเป็นคนเก่งของผมจังนะครับ” ชายหนุ่มเลื่อนเก้าอี้เข้าไปใกล้บั้นท้ายกลมกลึง ก่อนจะโน้มลงไปพรมจูบอย่างหลงใหล โดยใช้สองมือบีบไว้แน่น แล้วเริ่มตวัดปลายลิ้นเลียร่องตรงหน้าด้วยความนุ่มนวลเขาไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนเพอร์เฟกต์ได้เท่าแซนด์มาก่อน ทั้งที่เขาไม่ชอบสีชมพู แต่กลับรู้สึกคลั่งไคล้เมื่อมันอยู่บนตัวเธอ มากไปกว่านั้นถ้าเปลี่ยนเป็นสีแดงจะดีมาก“คุณเลขาครับ”“ว่าไงคะ”“เรามีเวลาสักสิบห้านาทีมั้ย”“จะเสร็จทันก่อนสิบห้านาทีเหรอคะ”“น่าจะทันนะครับ”“ถ้าคิดว่าทันก็เอาเลยค่ะ” แซนด์ก็รู้สึกมีอารมณ์ไม่ต่างจากคนข้างหลัง อดทนอดกลั้นมาตั้งแต่เช้าจนป่านนี้บ่ายเข้าไปแล้ว แต่คลื่นก็ยังไม่คิดจะหยุดแกล้งเธอเสียที“แค่ถามตรงนี้ก็ไหลเยิ้มกว่าเดิมแล้วนะครับ ถ้าผมไม่สนอง คงไปร่านในห้องประชุมให้
“แกอย่าใช้อารมณ์สิแซนด์”“แซนด์ไม่ได้ใช้อารมณ์เลยพี่ภู ทั้งหมดที่แซนด์พูดมันเป็นความจริง แล้วมันก็ทำให้แซนด์รู้สึกเสียใจมากที่รู้ว่าพี่มองเห็นแซนด์เป็นตัวตลกในสายตา”“ถ้าแกไม่ช่วยฉันคราวนี้ ทุกอย่างมันจะพังหมดเลยนะ”“ทุกอย่างที่ว่าคืออะไรคะ ชีวิตพี่ ชีวิตเมีย อนาคตบริษัทเหรอ แล้วชีวิตแซนด์ล่ะ แซนด์ก็ต้องมีชีวิตของตัวเองเหมือนกันนะ” แซนด์ผ่อนลมหายใจออกมาอย่างอัดอั้น “การช่วยเหลือครั้งนั้นคือครั้งสุดท้ายค่ะ แซนด์ไม่มีเงินให้ใครถลุงแล้ว เงินที่พี่ภูใช้ไปอย่างสุขสบายมันหมดไปพร้อมความไว้ใจของแซนด์นั่นแหละ”หญิงสาวยกมือไหว้ลาก่อนจะเดินออกมาจากบ้าน เพราะคิดว่าตนเองพูดจบทั้งหมดทุกเรื่องแล้ว ภูธเนศสมควรได้รับบทเรียนราคาแพงเทียบเท่ากับเงินที่ได้จากเธอไปพรึ่บ!แซนด์สะดุ้งตกใจเมื่อจู่ ๆ ก็มีลูกบอลโยนลงมาบนพื้น รีบหันมองหาที่มาของมัน ก่อนจะเห็นว่ามีคนยืนอยู่หลังกำแพงบ้านข้าง ๆ รู้สึกเหมือนเดจาวูแต่ต่างกันตรงที่คนนั้นไม่ได้มองเธอผ่านช่องของกำแพง“เล่นอะไรของคลื่นเนี่ย”“พี่มีผัวยังครับ”“ไดอะล็อกแปลก ๆ นะ”“พี่ชื่ออะไรครับ”เธอยิ้มก่อนจะตอบ “พี่ชื่อแซนด์ แล้วเราล่ะ”“ผมชื่อคลื่น อายุสามสิบ”“พี่สา
หนึ่งเดือนต่อมา…“เด็กแบเบาะนอนตลอดเวลาเลยเหรอคะคุณจีน่า”“ใช่ค่ะคุณแซนด์ กิน ร้อง ถ่าย มีแค่นี้เลย”“แก้มกลมจัง” แซนด์รู้สึกตกหลุมรักหนูน้อยตัวขาวผ่องในอ้อมแขนของจีน่า เพิ่งจะได้เห็นชัด ๆ ครั้งแรกหลังจากจีน่าคลอดเด็กน้อยออกมา ตอนไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลก็ได้แค่เห็นผ่านกระจกห้องอนุบาลเด็กทารก“คุณแซนด์ว่าหน้าเหมือนใครครับ ผมหรือจี”“แอบคล้ายทั้งคู่เลยค่ะ อาจจะต้องรอให้ตัวเล็กโตกว่านี้หน่อย”“เหลือมึงละไอ้คลื่น กูเถียงกับจีมาทั้งวันละ”คลื่นตอบ “ไม่เหมือนมึง”“มึงเข้าข้างจีป้ะ หน้าเหมือนกูขนาดนี้”“ลูกมึงเหรอ ลูกมันเหรอจี”“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ตอนนั้นเมา ๆ ด้วย” จีน่าเออออตามคลื่นไป เพราะรู้ว่าเขาต้องการแกล้งสามีตน เวลาเห็นเจฟงอแงมันน่าเอ็นดูจะตายไป“ว่าแล้ว ก็ว่าไม่เหมือน”“จีทำไมพูดงี้ ไม่น่ารักเลย” คนถูกแกล้งทำหน้ากระเง้ากระงอดใส่ภรรยาตนเอง ก่อนจะหันไปแยกเขี้ยวใส่เพื่อนอีกที“อันนี้เป็นเพื่อนกันหมดเลยเหรอ” แซนด์เอ่ยถามด้วยความสงสัย ปกติจีน่าจะพูดเป็นทางการกับคลื่นมากกว่านี้ แต่ดูเหมือนจะสนิทกันมากกว่าที่คิด“เจฟกับคลื่นเป็นรุ่นพี่สมัยเรียนมหา’ ลัยที่เม’ กาค่ะคุณแซนด์ พอเรียนจบก็ถูกดึงตัว
หลังจากเดินทางไปพบผู้กระทำความผิดอย่างอวัชที่สถานีตำรวจเสร็จเรียบร้อย คลื่นต้องกลับมาปรึกษาหารือกับแขกเรื่องการเยียวยาต่อ กว่าทุกอย่างจะจบลงด้วยดีก็มืดค่ำเข้าไปแล้ว เขาจึงตัดสินใจนอนที่ภูเก็ตหนึ่งคืน แล้วค่อยเดินทางกลับกรุงเทพในวันพรุ่งนี้ตอนเช้ากริ๊งงงงง กริ๊งงงงง~‘K.Da’“ว่าไงครับคุณดา” คลื่นรับสายพี่สาวต่างแม่ของตนอย่างสุภาพ(พี่เพิ่งได้ข่าวว่าสามมันสร้างเรื่องเหรอ)“ครับ”(แล้วตอนนี้มันอยู่ไหนล่ะ สำนึกผิดรึยัง)“อยู่ในคุก ผมไม่ยอมความ”(ดีแล้วล่ะ สามมันจะได้โตสักที อายุก็ไม่ใช่น้อย ๆ แล้ว เออว่าแต่พี่หนึ่งกับพี่สองติดต่อไปมั้ย)“ไม่ครับ น่าจะกลัวโดนหางเลขไปด้วย”(ทีแบบนี้ล่ะ ตัดหางปล่อยวัดมันเชียว)“มีเรื่องจะคุยแค่นี้ใช่มั้ย”(เปล่า พี่จะบอกว่าพี่กำลังจะแต่งงาน มาด้วยล่ะ)“แต่งงาน? มีคนเอาด้วยเหรอ” ไม่ได้สนิทสนมกับพี่สาวมากถึงขั้นรู้ว่าเธอมีผู้ชายที่กำลังคบหาถึงขั้นจะแต่งงาน(ไอ้เด็กนี่!)“ส่งการ์ดเชิญมาก็แล้วกัน ถ้าว่างผมจะไป”(คลื่นต้องมาให้ได้นะ พี่เหลือแกอยู่คนเดียวแล้ว)“ครับ” เขาตอบรับสั้น ๆ ก่อนจะกดวางสาย แล้วหยิบเบียร์ขึ้นมาดื่มพร้อมกับมองออกไปนอกหน้าต่างห้องพัก“เมื่อก