“ใช่ๆ ขอสักสี่ห้าคนกำลังดี เราจะได้ไม่เหงา” สองเพื่อนรักคุยกันถูกคอและเออออในเรื่องเดียวกัน จิตราส่ายหน้าให้คนทั้งคู่ ก่อนจะหันมายิ้มให้สายปอ ที่วันนี้เป็นแม่งานใหญ่คอยดูแลความเรียบร้อยจนทุกอย่างลุล่วงไปได้ด้วยดี “วันนี้เหนื่อยมั้ยคะคุณสายปอ”“เหนื่อยแต่มีความสุขค่ะ คุณอชิเองก็เหมือนลูกแท้ๆ ของดิฉัน พอเห็นเป็นฝั่งเป็นฝากับหนูไหมแล้วแบบนี้ดิฉันก็ยินดีและสบายใจมาก เพราะมองมุมไหนหนูไหมก็ช่างเหมาะสมกับคุณอชิ”“ขอบคุณมากนะคะที่เอ็นดูลูกไหม”“ค่ะ” สายปอเอ่ยรับ แต่ในใจนั้นกลับคิดตรงกันข้าม เธอแค่รอจังหวะและเวลาที่จะเขี่ยเพลงขวัญออกไปจากเส้นทางชีวิตของอชิเท่านั้นเอง เพราะยังไงสมบัติทุกอย่างของสามารถก็ต้องเป็นของเธอกับลูกเท่านั้น คนอื่นไม่มีสิทธิ์เมื่อยืนให้กำลังลูกๆ ในห้องหอจนพอใจแล้ว ทั้งหมดก็แยกย้ายกันกลับไปพักผ่อน แต่ทันทีที่กลับมาถึงห้องพักแล้วเห็นสายป่านยืนถือมีดจ่อคอหอยตัวเองอยู่ สายปอก็ถึงกับรีบเดินไปปัดมีดออก“แกจะทำอะไร”“หนูไม่ได้จะฆ่าตัวตายหรอกแม่ แค่ซ้อมไว้ฆ่าใครบางคนก็เท่านั้นเอง” สายตาของสายป่านนั้นแสดงออกถึงความเกลียดชังที่มีให้ภรรยาของอชิอย่างไม่ปิดบัง “อย่าทำอะไรบุ่มบ่าม เ
เพลงขวัญส่ายหน้าให้อชิ แม้เวลานี้เธอจะง่วงแสนง่วง เหนื่อยแสนเหนื่อยมากแค่ไหน แต่ก็ยังคงฝืนอาการเอาไว้ เพราะหากหลับไปอีกคนก็เกรงจะไม่ปลอดภัย กระทั่งจู่ๆ รถหกล้อก็จอด เพลงขวัญส่ายหน้าแรงๆ เพื่อไล่อาการอ่อนเพลีย “ถึงแล้วหรือจ๊ะพี่ๆ”“ยัง” เจษฎาพรหันมาตอบเสียงห้วน นั่นพลอยทำให้คนที่เผลอหลับสะดุ้งตื่น“ถึงแล้วเหรอคุณ”“ยัง” เพลงขวัญเอ่ยตอบคนงัวเงีย ส่วนอชินั้นพอได้พักสายตาก็รู้สึกดีขึ้นมาก แต่ดูเหมือนคนข้างๆ เขาจะยังไม่ได้นอน“ได้นอนบ้างหรือยังคุณน่ะ” เสียงทุ้มเอ่ยถาม ซึ่งอชิมั่นใจว่าเขาถามแค่ตามมารยาทเท่านั้น ไม่ได้คิดเป็นห่วงเป็นใยอะไรเพลงขวัญเป็นกรณีพิเศษทั้งนั้น “นอนไม่หลับ”“หาเวลางีบสักหน่อยก็ดี เพราะเรายังไม่รู้ว่าต้องไปที่ไหนและต้องเจอกับอะไรบ้าง” อชิเอ่ยเตือน นั่นเพราะต่อให้เขาไม่อยากเข้าใกล้เพลงขวัญมากแค่ไหน แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้มันคงเลี่ยงอะไรไม่ได้ “อืม” เพลงขวัญเอ่ยรับแค่นั้น อันที่จริงเธอก็ง่วงแสนง่วง แต่ทำไมถึงนอนไม่หลับก็ไม่รู้ “พาพวกมันสองคนไปเข้าห้องน้ำห้องท่าให้เรียบร้อย เพราะหลังจากนี้ข้าจะยิงยาว ไม่หยุดรถอีก” เสียงของโตดังมาจากข้างๆ รถ “จ้ะพี่” จ้อยขานรับค
“เงียบๆ สิ” เพลงขวัญหันมาถลึงตาใส่อชิ ก่อนจะค่อยๆ สะบัดมือออกแล้วเดินให้หลังชิดขอบด้านข้างของตัวรถเพื่อไปยังจุดที่มีรอยขาดของผ้าใบ เพราะจุดนั้นแสงจากด้านนอกเล็ดลอดเข้ามาได้ ซึ่งอชิก็มองตามเธอตาไม่กะพริบเช่นเดียวกับที่คิดไม่ถึงว่าเพลงขวัญจะมีไหวพริบแบบนี้ เพลงขวัญเพ่งสายตาอ่านข้อความบนขวดน้ำทีละคำๆแต่จังหวะที่เธออ่านจนรู้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหนของประเทศไทย จู่ๆ รถมันก็พุ่งลงเขาราวกับรถไฟเหาะ นั่นทำให้เพลงขวัญเสียการทรงตัว ร่างบอบบาง เซถลาทรงตัวไม่ได้และบนรถตอนนี้ก็ไม่มีที่ให้ยึดเกาะด้วย อชิเห็นท่าไม่ดีจึงหมายจะปรี่เข้าไปคว้าเธอไว้ เพราะถ้าไม่ทำแบบนั้นก็กลัวเพลงขวัญจะเซถลามากระแทกกับอะไรเข้า หัวแตกหรือเจ็บตัวไปมันจะไม่คุ้ม แต่เหมือนคนขับรถจะกลั่นแกล้งเพราะเพียงเสี้ยววินาทีที่อชิจะถึงตัวเพลงขวัญ รถกลับหักเลี้ยวอย่างเร็ว นั่นทำให้จ้อยและเจษฎาพรพลอยสะดุ้งตื่นตามไปด้วย เวลานี้ทั้งสี่คนที่อยู่ท้ายรถดูจะชุลมุน หาที่ยึดเกาะกันจ้าละหวั่น สองคนท้ายรถยึดฝาท้ายไว้ได้ทัน แต่แขกไม่ได้รับเชิญสองคนเวลานี้กลับเสียการทรงตัวต่างไถลไปนอนชิดกับขอบรถอชินอนราบอยู่กับพื้นรถหกล้อส่วนเพลงขวัญนั้นนอนทับเขา
พอหนังท้องตึงหนังตาของเพลงขวัญก็เริ่มหย่อน เมื่อคืนเธอฝืนตัวเองไม่ให้หลับได้แต่เวลานี้ดูเหมือนเธอจะพ่ายแพ้ต่อความง่วงและพลังข้าวเหนียวที่กินไปจนหมดถุงอชิหันมาอีกทีก็เห็นว่าเพลงขวัญนั่งสัปหงกอยู่ข้างๆ เขานั่งมองอยู่เงียบๆ จังหวะที่จะรั้งตัวเธอให้มาพิงหัวไหล่ ร่างบอบบางของเพลงขวัญกลับค่อยๆ เอนลงมา และกลายเป็นว่าตอนนี้เธอนอนหนุนตักเขาอยู่ใบหน้ายามหลับของเพลงขวัญเหมือนเด็กน้อย แต่ทันทีที่รู้สึกตัวก็เด็กแสบดีๆ นี่เอง เท่าที่ได้คุยกันคงไม่ใช่แค่เขาคนเดียวเท่านั้นที่ต้องการยกเลิกงานแต่งงานที่เพิ่งผ่านไปเพลงขวัญเองก็ด้วย แต่ทั้งเธอและเขาก็คงต่างมีสาเหตุให้ล่มงานแต่งงานไม่สำเร็จ และที่เหมือนกันคือต่างพร้อมใจกันหนี คิดมาถึงตรงนี้อชิก็หัวเราะออกมา รถหกล้อเคลื่อนตัวบนถนนมาได้พักใหญ่ ดามก็มองเห็นความผิดปกติอยู่ในระยะสายตา ซึ่งโตเองก็มองเห็นเช่นเดียวกัน ปกติถนนเส้นนี้เวลานี้จะไม่มีด่านมาตั้ง หรือวันนี้เขาจะเจอแจ็คพอต“พี่โต ข้างหน้ามีด่าน”“เห็นแล้ว มึงขับต่อไป ทำตัวให้เป็นปกติ”“ครับพี่” ดามรับคำ แต่มือกลับสั่นเพราะท้ายรถมีสิ่งไม่ปกติติดมาด้วย ยิ่งขับเข้าไปใกล้ตำรวจมือก็ยิ่งสั่น เหงื่อเม็ดเล็กๆ
“เกิดเรื่องใหญ่แล้วค่ะ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว” เสียงที่บ่งบอกว่าตกอกตกใจเป็นอย่างมากของสายปอ ทำให้สามารถ อาคมและจิตราที่นั่งคุยกันอยู่ในเรือนรับรองถึงกับหันมามอง“เกิดเรื่องอะไรขึ้นคะคุณสายปอ” จิตราเอ่ยถามขึ้นก่อน “มีเรื่องอะไรอย่างนั้นเหรอ ถึงได้หน้าตาตื่นมาแบบนี้” สามารถเอ่ยถามภรรยาด้วยเช่นกัน สายปอมองทุกคนไปมา ท่าทางอึกอักๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “คือ…ดิฉันเห็นว่ามันจะบ่ายแล้ว กลัวคุณอชิและหนูไหมจะไปสนามบินไม่ทัน ก็เลยถือวิสาสะไปเคาะประตูห้อง แต่เคาะเท่าไหร่ก็ไม่ยอมเปิด เอ่ยถามอะไรไปคนข้างในก็เงียบ ดิฉันกังวลใจมากเลยสั่งให้เด็กๆ พังประตูเข้าไปข้างใน แล้วก็พบจดหมายนี่วางไว้อยู่บนโต๊ะหัวเตียงค่ะ” สายปอยื่นจดหมายที่เขียนด้วยลายมือของอชิให้ผู้เป็นสามีดูก่อน จากนั้นสามารถก็ส่งจดหมายที่อ่านจบแล้วให้อาคมและจิตราได้อ่านเช่นเดียวกัน “นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น” มือของอาคมถึงกับสั่น ส่วนจิตรานั้นหัวใจเต้นแรง อาการคล้ายคนกำลังจะเป็นลม จนต้องทรุดลงไปนั่งบนเก้าอี้ทันที ข่าวอชิและเพลงขวัญถูกลักพาตัวไปจากห้องหอแพร่สะพัดออกไปอย่างรวดเร็ว สร้างความโกลาหลไปทั้งรีสอร์ตก็ว่าได้ ทันทีที่รับรู้เรื่องนี้ทุกคนต่างต
“ทำไมฉันต้องทำตามคำสั่งของคุณด้วย” จู่ๆ มีใครก็ไม่รู้มาสั่งให้ออกไป มีหรือที่นรากรจะทำตามง่ายๆ นั่นเพราะทันทีที่รู้ข่าวจากพนักงานของที่นี่ว่าเพลงขวัญกับอชิถูกลักพาตัวไปจากห้องหอ เธอก็เป็นห่วงเพื่อนจนนั่งไม่ติดที่ “ก็เพราะผมเป็นตำรวจ แค่นี้พอมั้ย”“ตำรวจจริงหรือตำรวจเก๊ ไม่ใช่พวกโจรเข้ามาสอดแนมดูความเคลื่อนไหวหรอกนะ”“หน้าผมเหมือนโจรขนาดนั้นเลยเหรอคุณ” นายตำรวจหนุ่มส่ายหน้าให้ผู้หญิงตรงหน้า ที่กล่าวหาว่าเขาเป็นโจรซะงั้น “ใครจะไปรู้ คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ”“นี่บัตรประจำตัวผม พอใจยัง” ก่อสกุลหยิบบัตรประจำตัวออกมาให้นรากรเห็นว่าเขาเป็นตำรวจจริง ไม่ได้เป็นสายโจรอย่างที่เธอเข้าใจ “คุณรู้หรือยังว่าใครจับเพื่อนฉันไปเรียกค่าไถ่” ทันทีที่รู้ว่าผู้ชายตรงหน้าเป็นตำรวจจริงๆ นรากรก็เอ่ยถามขึ้นทันที “ยังไม่รู้ครับ”“อ้าว!”“ให้เวลาผมทำงานก่อนสิคุณ ผมเป็นแค่ตำรวจธรรมดาๆ นะครับ ไม่ใช่ซูเปอร์ฮีโร เชิญคุณออกไปรอข้างนอกก่อนดีกว่า อีกเดี๋ยวตำรวจท้องที่คงเข้ามาสมทบผม” เสียงทุ้มเอ่ยบอก นั่นเพราะเขาเป็นคนแจ้งไปที่สถานีตำรวจเองว่าเกิดเหตุลักพาตัวเรียกค่าไถ่ “ค่ะ” นรากรเอ่ยรับอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทันทีที่รู้เร
ข่าวเรื่องอชิกับเพลงขวัญถูกลักพาตัวเพิ่งเข้าหูสายป่าน นั่นเพราะเธอนอนเพิ่งตื่นนั่นเอง พอมีสติก็ถึงกับอุทานออกมาเสียงหลง “ว่าอะไรนะแม่”“เมื่อคืนคุณอชิกับเมียถูกลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่ถึงในห้องหอ”“จะ...จริงเหรอ แล้วมีใครแจ้งตำรวจแล้วหรือยัง”“แจ้งแล้ว แต่ยังไม่ได้ข่าวอะไรคืบหน้า” สายปอกอดอกตอบ นี่ถ้าเธอถูกจับไปเรียกค่าไถ่บ้างแล้วลูกสาวรู้คนสุดท้าย มีหวังเธอได้ตายก่อนแน่ๆ “อยากรู้นักว่าใครกันมันกล้ามาเหยียบจมูกถึงที่แบบนั้น” สีหน้าของสายป่านเป็นเดือดเป็นร้อน นั่นเพราะเธอรักจึงห่วงอชิมาก“คุณอชิของแกคงไปเหยียบตาปลาใครเขาเข้ามั้ง ถึงได้เลือกมาเอาคืนถึงในห้องหอแบบนั้น”“ไม่จริงหรอก คุณอชิไม่ใช่คนหาเรื่องใคร คนที่หาเรื่องมาใส่จนคุณอชิพลอยติดร่างแหไปด้วยคือยัยไหมนั่นต่างหาก ขอให้มันตายๆ ไปเถอะ” สายปอแค่รับฟังแล้วยิ้มกับคำพูดของลูกสาว ดีไม่ดีเรื่องคราวนี้สายป่านอาจพูดถูกก็เป็นได้ เสียงโทรศัพท์มือถือของเพลงขวัญที่ดังขึ้นต่อเนื่องมาเป็นชั่วโมงๆ เริ่มทำให้โตหัวเสีย นั่นเพราะไม่รู้จะปิดเครื่องด้วยวิธีไหนดี ไอ้รุ่นที่ตัวเองใช้ก็โบราณไม่ได้ไฮเทคเท่าเครื่องที่เอาแต่ส่งเสียงน่ารำคาญหูอยู่ในตอนนี้“
“ปากเสีย” เพลงขวัญหันมาแยกเขี้ยวใส่ ในขณะที่เท้าก็ยังคงเดินไปเรื่อยๆ แต่ทันทีที่ทั้งหมดเดินผ่านไร่ฝิ่นไร่กัญชาก็พบกับแนวต้นไม้หนา โตนำทีมเดินลัดเลี้ยวไปตามแนวต้นไม้ที่ถูกสร้างขึ้นมาให้เป็นป่าวงกต ตั้งใจทำไว้เพื่อป้องกันคนนอกไม่ให้เข้าหมู่บ้านไปได้ง่ายๆแต่ถึงอย่างนั้นทุกวันก็จะมีผู้ชายผลัดเปลี่ยนกันออกมานั่งยามบนนั่งร้าน ที่ถูกสร้างขึ้นบนต้นไม้สูงเพื่อคอยสอดส่องความปลอดภัย รวมถึงคอยรับข่าวจากคนของเจ้านายด้วย และโตก็ออกคำสั่งให้ทุกคนในหมู่บ้านต้องจดจำเส้นทางเดินในป่าวงกตให้ได้ชนิดขึ้นใจ ต่อให้หลับตาก็ต้องเดินถูก เพราะถ้าหลงเพียงไม่กี่ก้าวก็จะเจอกับกับดักล่าสัตว์ ที่อันตรายถึงชีวิตเอาได้“ไอ้ชัย”“โธ่...พี่โต บอกกี่ทีแล้วว่าฉันชื่อเจษฎาพร” เจ้าของชื่อหันมาต่อว่าต่อขานลูกพี่ใหญ่ ที่ยังคงเรียกตนด้วยชื่อเดิม โดยลืมไปว่าตอนนี้ตนนั้นกำลังจะทำเรื่องผิดพลาด “มึงอยากตายมั้ย”“ไม่อยากจ้ะพี่”“ถ้าไม่อยากก็ถอนเท้าออกมา เร็วๆ” โตเอ่ยตอบเสียงห้วน นั่นทำให้เจษฎาพรรีบดึงเท้ากลับมาทันที เขาแค่เดินเป๋ออกนอกเส้นทางแค่สองสามก้าว หมายจะเข้าไปตัดหน่อไม้ข้างทางไปต้มกินกับน้ำพริกก็เท่านั้นเอง “จ้ะพี่จ้ะ”“ส
คืนแรกของการมีสมาชิกใหม่พลอยทำให้โตนอนไม่หลับตามไปด้วย จนย่าใหญ่ต้องมานอนเป็นเพื่อน เพื่อสอนเรื่องการดูแลเจ้าตัวเล็ก นั่นเพราะตอนนี้แสงจันทร์ต้องพักผ่อนให้มากๆ สองสามวันก็จะได้อยู่ไฟส่วนอีกคู่ที่นอนไม่หลับคือเพลงขวัญและอชิ ที่ต่างนอนกลิ้งไปกลิ้งมากันอยู่บนที่นอนของตัวเอง เพราะภาพเหตุการณ์วันนี้ต่างติดตาพวกเขาอยู่“นอนไม่หลับหรือคุณ”“อื้อ...นึกถึงเรื่องวันนี้แล้วก็กลัวไม่หาย กลัวจนไม่อยากมีลูก”“ไม่ได้” จู่ๆ อชิก็เอ่ยขึ้น แต่เพราะมัวคิดเรื่องอื่นอยู่ เพลงขวัญจึงได้ยินไม่ค่อยชัด“อะไรนะ ตะกี้คุณพูดว่าอะไร”“เปล่า ผมไม่ได้พูดอะไร” คนเผลอพูดรีบแก้ต่างทันที ซึ่งก็ไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงรีบแย้งเสียขนาดนั้น“ถ้าผู้ชายท้องได้ก็คงดี”“ผู้ชายเราถ้าหากท้องแทนได้ก็คงทำไปแล้ว”“เฮ้อ! ยาก”“ไหนๆ ก็นอนไม่หลับแบบ
“น้ำเดิน” เพลงขวัญโพล่งออกมา แม้จะไม่เคยมีประสบการณ์คลอดลูก แต่เรื่องนี้ก็เคยเรียน เคยได้ยินมาบ้าง ถ้าน้ำเดินแล้วยังไม่คลอด คราวนี้ยิ่งอันตราย“น้ำเดินคืออะไร” โตตะโกนถามขึ้น“แสงจันทร์มันใกล้จะคลอดเต็มแก่แล้วน่ะสิโต รีบๆ เข้าไปดูเมียเอ็งก่อน” หญิงคนหนึ่งที่อายุอานามน่าจะพอๆ กับโตหรือมากกว่าเอ่ยบอก นั่นเพราะเธอก็เพิ่งคลอดลูกมาเมื่อไม่กี่เดือนก่อนนี้เอง จึงพอจะเข้าใจว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมาบ้าง“โอ๊ย...พี่โต ฉันเจ็บจนทนไม่ไหวแล้ว” ได้ยินแบบนั้นโตก็รีบจ้ำกลับเข้าไปในบ้านทันที ตามด้วยเพลงขวัญและอชิ ส่วนกระแตเวลานี้ยืนช็อกไปแล้ว“เจ็บมากมั้ยแสงจันทร์”“เจ็บมากพี่ ฉันเจ็บ” แสงจันทร์กัดฟันพูดออกไป เส้นเลือดบนหน้าปูดโปนจนน่ากลัว“พี่แสงจันทร์อดทนอีกหน่อยนะจ้ะ ย่าใหญ่กำลังมา” เพลงขวัญเอ่ยบอก เห็นแสงจันทร์เจ็บท้องคลอดมากขนาดนี้แล้วก็ยิ่งสงสาร“พี่ทนไม่ไหวแล้วไหม พี่จะ&helli
“หายใจลึกๆ นะพี่แสงจันทร์ แล้วผ่อนลมหายใจออกช้าๆ” เพลงขวัญพยายามทำให้แสงจันทร์นั้นผ่อนคลาย แม้จะไม่เคยทำคลอด ไม่รู้วิธี แต่เวลานี้ก็งัดเอาความทรงจำตอนดูฉากคลอดลูกในละครหรือซีรีส์มาใช้ก่อน“ไม่ได้ พี่เจ็บท้องเกินไป ทำไม่ได้” คนเจ็บท้องคลอดแย้งขึ้นมาทันที“ค่อยๆ ทำพี่ ค่อยๆ ทำ” และเพลงขวัญก็เริ่มทำเป็นตัวอย่างให้แสงจันทร์ได้ดู เพราะถ้าเธอไม่ผ่อนคลายหรือเจ็บจนกลัวไปหมด การคลอดลูกก็อาจจะยิ่งยากในขณะที่เพลงขวัญกำลังอยู่ดูแลแสงจันทร์อยู่นั้น กระแตก็วิ่งลัดเลาะไปตามทางเท้าอย่างเร็ว แต่ที่ระวังหน่อยคือทางเดินในป่าเขาวงกตที่มีกับดักอยู่หลายจุดและทันทีที่เดินทะลุผ่านมาได้ก็ตะโกนหาโตไปทั่วไร่ฝิ่น“พี่โต! พี่โต!”“อะไรของเอ็งกระแต ตะโกนโหวกเหวกโวยวาย เดี๋ยวช้างป่าตกใจกันพอดี” โตเอ็ดน้องสาวขึ้น พร้อมกับเดินเข้ามาหา โดยมีอชิกับเจษฎาพรที่มาพร้อมกับโตเดินเข้ามารอฟังด้วย“กลับบ้านด่วนพี่” กระแตพูดไปก็หอบไป
“พวกเอ็งเริ่มลงมือได้แล้ว” ประโยคคำสั่งดังขึ้นจากชายผู้เป็นเจ้าของบ่อนลอยฟ้า“ครับพี่” บรรดาลูกน้องขานรับคำสั่งผู้เป็นนายอย่างพร้อมเพรียง นั่นทำให้เวลาความสุขรวมไปถึงความสนุก ที่เรียกว่าของจริงกำลังเริ่มต้นขึ้น โดยเป้าหมายก็ไม่ใช่ใครอื่น ทัตเทพและสายป่านนั่นเองเพราะยังไม่รู้ว่าถูกหมายหัว สองพี่น้องจึงยังคงใช้ชีวิตด้วยเงินที่หามาได้จากในบ่อนอย่างสนุกมือ ระยะหลังๆ มานี้สายป่านเดินเข้าร้านเพชรเป็นว่าเล่น ของใช้บนตัวก็แบรนด์เนมตั้งแต่ศีรษะจดปลายเท้าวันนี้สายป่านตั้งใจจะซื้อของขวัญชิ้นโตให้ตัวเอง นั่นคือรถใหม่ป้ายแดงที่เธอหาเงินมาด้วยน้ำพักน้ำแรง แม้จะเป็นเงินที่ได้จากในบ่อนก็ตามที“ไปเอาเงินจากไหนมาซื้อ” นี่คือประโยคแรกที่สายปอเอ่ยถาม เมื่อเห็นลูกชายกับลูกสาวขับรถใหม่เข้ามาจอดในบ้าน“ธุรกิจที่หนูทำกับพี่เทพน่ะแม่”“ธุรกิจอะไร““ธุรกิจวัดดวงไงล่ะแม่” ทัตเทพเฉลยให้ ซึ่งสายปอก็ไม่ได้แปลกใจสักเท่าไ
“ได้ครับท่านรอง” นายตำรวจหนุ่มเอ่ยรับ สำหรับก่อสกุลแล้วงานทุกงานมีความสำคัญเท่ากันหมด เขาไม่อยากเอนเอียงไปทำงานที่มีเรื่องส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้องจนกระทบกับงานตัวอื่น แม้สมองมันจะชอบว่อกแว่กไปหางานส่วนตัวอยู่บ่อยครั้งก็ตามกว่าที่เขาจะกลับออกมาจากห้องประชุมก็เกือบเที่ยงคืน แม้จะเหนื่อย จะง่วงและหิวมาก แต่กลับไม่แวะพัก เพราะเป้าหมายต่อไปของเขาคือบ้านของนรากรนั่นเอง นายตำรวจหนุ่มจอดรถไว้ริมกำแพงรั้วบ้านเธอ นั่นเพราะตั้งใจแค่จะแวะมาหา ขอแค่ได้มองหลังคาก็หายคิดถึงได้บ้าง เพราะขืนไปกดออดตอนนี้ก็เกรงคนในบ้านจะตกใจเอาแต่จู่ๆ ประตูรถเขาก็ถูกเคาะ และทันทีที่ก่อสกุลลดกระจกลง เขาก็เจอกับคนที่อยากเจอ เจ้าบ้านที่ยังคงอยู่ในชุดทำงานเพราะเพิ่งกลับเช่นกันยืนกอดอกเอ่ยถามขึ้น“มาจอดรถอะไรอยู่ตรงนี้คะ”“ผะ...ผมแค่ผ่านมาครับ” ไม่คิดว่าจะเจอกับนรากรเข้า ก่อสกุลจึงตอบตะกุกตะกักนั่นเพราะสมองไม่ได้เตรียมคำตอบสำหรับเหตุการณ์นี้ไว้“อ้อ...แค่ผ่านมา”&ldquo
“รู้แล้วๆ คุณนี่ขี้บ่นจริง” เพลงขวัญย่นจมูกให้คนตรงหน้า แต่ก็ยอมรับว่ารู้สึกดีที่รู้ว่าอชิห่วงเธอ ก่อนที่จะตกใจตัวเองที่ไปรู้สึกหรือคิดอะไรแบบนั้น ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เธอกับเขาเหมือนคนแปลกหน้าที่มีเป้าหมายเพื่อหนีจากห้องหอด้วยกันทั้งคู่ แต่ทำไมตอนนี้ความรู้สึกในตอนแรกนั้นกลับเปลี่ยนไป และเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไหร่เพลงขวัญก็แทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ“นี่มันยังน้อยไป ตะกี้ถ้ากลับมาแล้วผมยังไม่เห็นคุณ ตั้งใจจะไปเหลาไม้เรียวมารอ” อชิเอ่ยขำๆ เพราะเขาไม่ได้ตั้งใจจะไปเหลาไม้เรียวอะไรทั้งนั้น แต่พูดไปเพื่อให้เห็นภาพเท่านั้นเอง วันนี้ทำไมความรู้สึกเป็นห่วงเพลงขวัญถึงได้มากมายนัก ชายหนุ่มเองก็ยังหาคำตอบไม่ได้“บ้า...ใครจะยอมให้คุณตีเหมือนเด็กๆ”“ถ้าไม่อยากถูกผมตี ก็ต้องทำตามที่สัญญา”“รู้แล้วค่ะ รู้แล้ว” เพลงขวัญเอ่ยรับปากอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะกลัวจะถูกอชิตี แต่เพราะไม่อยากฟังชายหนุ่มบ่นมากกว่า และอีกอย่างคือทำไมเธอต้องแคร์ความรู้สึกเขาด้วย ทั้งๆ ที่มันไม่น่าจะจำเป็นนี่นา&
“ทำตัวให้แข็งแรงรอวันที่ลูกเราจะกลับมาดีกว่า”“เมื่อไหร่ล่ะคะที่ลูกเราจะกลับมา”“ผมก็ยังให้คำตอบคุณไม่ได้ แต่มั่นใจเถอะว่าเราต้องได้ข่าวดีเร็วๆ นี้แน่ ถ้าลูกกลับมาแล้วเห็นคุณซูบผอมไปแบบนี้ ไหมคงโกรธผมแย่ที่ดูแลคุณไม่ดี ฝืนดื่มเสียหน่อยนะ” เอ่ยจบอาคมก็ยื่นถ้วยซุปไก่ให้จิตราอีกครั้ง มือเล็กของจิตราแต่ทว่ายังอุ่นและนุ่มทุกครั้งที่สัมผัสรับถ้วยซุปไก่ไปถือไว้ ก่อนจะตัดใจยกขึ้นดื่มจนหมดถ้วย นั่นทำให้อาคมยิ้มออก“ไปเดินเล่นในสวนมั้ย กุหลาบที่คุณปลูกไว้ ตอนนี้แข่งกันออกดอกสวยแล้วนะ”“ก็ดีเหมือนกันค่ะ” จิตราเอ่ยรับ เพราะไม่อยากนั่งๆ นอนๆ อมทุกข์อีกต่อไปแล้วเหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังทำตัวเป็นภาระให้สามีต้องมาดูแลอีก แทนที่จะเอาเวลาไปตามหาเพลงขวัญ คิดแล้วจิตราก็รู้สึกผิดที่แทนที่จะช่วยกลับสร้างปัญหา เธอจึงคิดใหม่ ทำใหม่ ต้องเข้มแข็งเพื่อรอวันที่ลูกกลับมาเพลงขวัญกับอชิยังคงอยู่ในหมู่บ้าน เพราะอยู่ในป่าในเขาจึงไม่มีใครได้ข่าวหรือพบเห็นคนทั้งคู่ แม้ทางตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบจะออกสืบข่าวกันทุกทางแล้วก็ต
“ไปๆ เข้าบ้านทั้งคู่นั่นแหละ” เอ่ยจบอรทัยก็ดันหลังลูกสาวคนเดียวให้เข้าบ้านไปก่อน ตามด้วยผายมือเชื้อเชิญให้ก่อสกุลเข้าบ้านอีกคนสองแม่ลูกขึ้นไปจัดห้องหับต้อนรับแขก ส่วนเดชนั่งคุยกับก่อสกุลอยู่ที่ห้องรับแขก ซึ่งก็คุยกันถูกคอจนนรากรหมั่นไส้“ก้อยกับแม่จัดห้องเสร็จแล้วจ้ะพ่อ”“ดีๆ งั้นเราก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน พรุ่งนี้วันใหม่ค่อยว่ากัน”“ครับ” เสียงทุ้มของนายตำรวจหนุ่มเอ่ยรับ ก่อนจะเดินตามนรากรไปยังห้องรับรองแขก ของใช้ส่วนตัววางอยู่บนเตียงพร้อมกับเสื้อผ้าอีกชุด“ชุดของพ่อฉัน ยังไม่ได้ใส่ แม่ก็เลยเอามาให้คุณเปลี่ยนนอน”“ขอบคุณครับ” เสียงทุ้มเอ่ยรับ จู่ๆ นายตำรวจหนุ่มก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในหัวใจแปลกๆ“ระวังผีอำนะคุณ พอดีที่บ้านฉันผีค่อนข้างดุนะ”“ไม่เป็นไร ผมบวชมาแล้วพอจะสวดมนต์ได้หลายบทอยู่”“งั้นก็ขอให้รอดปลอดภัยนะคะ” เอ่ยจบนรากรก็กลับออกไปทันที เมื่อประตูปิดลงก่อสกุลก็คว้าข้าวของและเสื้อผ้าตรงเข้าห้องน้ำ นั่นเพราะเขาเองก็อยาก
“อืม...พี่จะพูดกับพี่โตให้แล้วกัน”เจษฎาพรจำใจต้องรับปาก แม้ในอกนั้นจะเจ็บปวดอย่างสาหัสก็ตามที สำหรับกระแตแล้วไม่ว่ายังไงเขาก็คงชนะใจเธอไม่ได้สินะ และในเมื่อเธอไม่ได้รักเขา เขาเองก็ไม่อยากฝืนใจบังคับให้เธอต้องมาแต่งงานด้วยเช่นกัน“ขอบใจนะพี่ชัย” กระแตเอ่ยออกมา แม้จะหวิวๆ แปลกๆ อยู่ในอกบ้าง แต่ก็คิดเข้าข้างตัวเองว่าเธอคงแค่หิวข้าวเท่านั้นเองหลังจากตามหาตัวกระแตไปจนทั่ว จ้อยก็ตะโกนลั่นป่าเมื่อเห็นเจษฎาพรกับกระแตมาแต่ไกล โตรีบเข้ามาดูน้องสาวก่อนจะถามไถ่ว่าหายไปไหนมา โดยไม่ดุไม่ด่าอย่างที่กระแตกลัวมาตลอดทางเลยแม้แต่น้อย จากนั้นโตก็เดินนำทั้งหมดกลับเข้าหมู่บ้านเมื่อมาถึงย่าใหญ่ก็รุดมาดูข้อเท้าของกระแตทันที ก่อนจะให้คนไปเอายาสมุนไพรมาพอกให้ ส่วนแสงจันทร์ก็หาข้าวหาน้ำมาให้ทั้งสองคน อชิและเพลงขวัญก็พลอยโล่งอกที่เห็นทั้งคู่ปลอดภัยกลับมาในคืนนั้นเจษฎาพรก็หาเวลาไปคุยกับโตตามที่กระแตขอ ส่วนโตเองก็ยอมจำนน เพราะลึกๆ แล้วก็ไม่อยากบังคับน้องสาวเหมือนกัน คิดแล้วโตก็ได้แต่ถอนหายใจ ส่