“ทำไมฉันต้องทำตามคำสั่งของคุณด้วย” จู่ๆ มีใครก็ไม่รู้มาสั่งให้ออกไป มีหรือที่นรากรจะทำตามง่ายๆ นั่นเพราะทันทีที่รู้ข่าวจากพนักงานของที่นี่ว่าเพลงขวัญกับอชิถูกลักพาตัวไปจากห้องหอ เธอก็เป็นห่วงเพื่อนจนนั่งไม่ติดที่ “ก็เพราะผมเป็นตำรวจ แค่นี้พอมั้ย”“ตำรวจจริงหรือตำรวจเก๊ ไม่ใช่พวกโจรเข้ามาสอดแนมดูความเคลื่อนไหวหรอกนะ”“หน้าผมเหมือนโจรขนาดนั้นเลยเหรอคุณ” นายตำรวจหนุ่มส่ายหน้าให้ผู้หญิงตรงหน้า ที่กล่าวหาว่าเขาเป็นโจรซะงั้น “ใครจะไปรู้ คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ”“นี่บัตรประจำตัวผม พอใจยัง” ก่อสกุลหยิบบัตรประจำตัวออกมาให้นรากรเห็นว่าเขาเป็นตำรวจจริง ไม่ได้เป็นสายโจรอย่างที่เธอเข้าใจ “คุณรู้หรือยังว่าใครจับเพื่อนฉันไปเรียกค่าไถ่” ทันทีที่รู้ว่าผู้ชายตรงหน้าเป็นตำรวจจริงๆ นรากรก็เอ่ยถามขึ้นทันที “ยังไม่รู้ครับ”“อ้าว!”“ให้เวลาผมทำงานก่อนสิคุณ ผมเป็นแค่ตำรวจธรรมดาๆ นะครับ ไม่ใช่ซูเปอร์ฮีโร เชิญคุณออกไปรอข้างนอกก่อนดีกว่า อีกเดี๋ยวตำรวจท้องที่คงเข้ามาสมทบผม” เสียงทุ้มเอ่ยบอก นั่นเพราะเขาเป็นคนแจ้งไปที่สถานีตำรวจเองว่าเกิดเหตุลักพาตัวเรียกค่าไถ่ “ค่ะ” นรากรเอ่ยรับอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทันทีที่รู้เร
ข่าวเรื่องอชิกับเพลงขวัญถูกลักพาตัวเพิ่งเข้าหูสายป่าน นั่นเพราะเธอนอนเพิ่งตื่นนั่นเอง พอมีสติก็ถึงกับอุทานออกมาเสียงหลง “ว่าอะไรนะแม่”“เมื่อคืนคุณอชิกับเมียถูกลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่ถึงในห้องหอ”“จะ...จริงเหรอ แล้วมีใครแจ้งตำรวจแล้วหรือยัง”“แจ้งแล้ว แต่ยังไม่ได้ข่าวอะไรคืบหน้า” สายปอกอดอกตอบ นี่ถ้าเธอถูกจับไปเรียกค่าไถ่บ้างแล้วลูกสาวรู้คนสุดท้าย มีหวังเธอได้ตายก่อนแน่ๆ “อยากรู้นักว่าใครกันมันกล้ามาเหยียบจมูกถึงที่แบบนั้น” สีหน้าของสายป่านเป็นเดือดเป็นร้อน นั่นเพราะเธอรักจึงห่วงอชิมาก“คุณอชิของแกคงไปเหยียบตาปลาใครเขาเข้ามั้ง ถึงได้เลือกมาเอาคืนถึงในห้องหอแบบนั้น”“ไม่จริงหรอก คุณอชิไม่ใช่คนหาเรื่องใคร คนที่หาเรื่องมาใส่จนคุณอชิพลอยติดร่างแหไปด้วยคือยัยไหมนั่นต่างหาก ขอให้มันตายๆ ไปเถอะ” สายปอแค่รับฟังแล้วยิ้มกับคำพูดของลูกสาว ดีไม่ดีเรื่องคราวนี้สายป่านอาจพูดถูกก็เป็นได้ เสียงโทรศัพท์มือถือของเพลงขวัญที่ดังขึ้นต่อเนื่องมาเป็นชั่วโมงๆ เริ่มทำให้โตหัวเสีย นั่นเพราะไม่รู้จะปิดเครื่องด้วยวิธีไหนดี ไอ้รุ่นที่ตัวเองใช้ก็โบราณไม่ได้ไฮเทคเท่าเครื่องที่เอาแต่ส่งเสียงน่ารำคาญหูอยู่ในตอนนี้“
“ปากเสีย” เพลงขวัญหันมาแยกเขี้ยวใส่ ในขณะที่เท้าก็ยังคงเดินไปเรื่อยๆ แต่ทันทีที่ทั้งหมดเดินผ่านไร่ฝิ่นไร่กัญชาก็พบกับแนวต้นไม้หนา โตนำทีมเดินลัดเลี้ยวไปตามแนวต้นไม้ที่ถูกสร้างขึ้นมาให้เป็นป่าวงกต ตั้งใจทำไว้เพื่อป้องกันคนนอกไม่ให้เข้าหมู่บ้านไปได้ง่ายๆแต่ถึงอย่างนั้นทุกวันก็จะมีผู้ชายผลัดเปลี่ยนกันออกมานั่งยามบนนั่งร้าน ที่ถูกสร้างขึ้นบนต้นไม้สูงเพื่อคอยสอดส่องความปลอดภัย รวมถึงคอยรับข่าวจากคนของเจ้านายด้วย และโตก็ออกคำสั่งให้ทุกคนในหมู่บ้านต้องจดจำเส้นทางเดินในป่าวงกตให้ได้ชนิดขึ้นใจ ต่อให้หลับตาก็ต้องเดินถูก เพราะถ้าหลงเพียงไม่กี่ก้าวก็จะเจอกับกับดักล่าสัตว์ ที่อันตรายถึงชีวิตเอาได้“ไอ้ชัย”“โธ่...พี่โต บอกกี่ทีแล้วว่าฉันชื่อเจษฎาพร” เจ้าของชื่อหันมาต่อว่าต่อขานลูกพี่ใหญ่ ที่ยังคงเรียกตนด้วยชื่อเดิม โดยลืมไปว่าตอนนี้ตนนั้นกำลังจะทำเรื่องผิดพลาด “มึงอยากตายมั้ย”“ไม่อยากจ้ะพี่”“ถ้าไม่อยากก็ถอนเท้าออกมา เร็วๆ” โตเอ่ยตอบเสียงห้วน นั่นทำให้เจษฎาพรรีบดึงเท้ากลับมาทันที เขาแค่เดินเป๋ออกนอกเส้นทางแค่สองสามก้าว หมายจะเข้าไปตัดหน่อไม้ข้างทางไปต้มกินกับน้ำพริกก็เท่านั้นเอง “จ้ะพี่จ้ะ”“ส
“ฮะ!…เมื่อฉันท้องเหรอ” ฟังคำตอบแล้วเพลงขวัญถึงกับอุทานออกมาเสียงดัง จู่ๆ ใบหน้าหวานก็แดงซ่านขึ้นมาเสียดื้อๆ เธอไม่มีทางท้องกับอชิแน่ๆ ไม่มีวัน “ข้าจะไปเก็บสมุนไพรในป่า”“แต่นี่มันค่ำแล้วนะย่าใหญ่” โตที่กำลังจะเดินไปโรงครัวได้ยินแบบนี้ก็รีบเดินเข้ามาถาม “เออ...รู้แล้ว แต่ต้องไปเพราะยาบางตัวมันต้องเก็บตอนกลางคืน บอกกี่ทีไม่เคยจำ” เอ่ยจบย่าใหญ่ก็ส่ายหน้าให้โต หลานชายเพียงคนเดียวที่เลี้ยงมาเองกับมือ ก่อนที่ชายหนุ่มจะหันมาสั่งลูกน้อง “ไอ้ชม ตามย่าใหญ่ไป”“จ้ะพี่” ชายที่ชื่อว่าชม ซึ่งคอยดูแลความเรียบร้อยภายในหมู่บ้านตอนที่โตและคนอื่นๆ ออกไปส่งของเอ่ยรับคำทันที “ส่วนเอ็งไอ้เจษฎาพร ไอ้จ้อยด้วยพาสองคนนี้ไปบ้านหลังท้ายหมู่บ้าน ให้มันสองคนอยู่ที่นั่นไปก่อน ถ้าคิดหนีก็ปล่อยมันตาย ไม่ต้องตามหาให้เสียเวลา”“ได้พี่” เจษฎาพรและจ้อยต่างเอ่ยรับคำแทบจะพร้อมๆ กัน ก่อนจะพาเพลงขวัญและอชิไปยังบ้านหลังที่ว่า ซึ่งอยู่ท้ายหมู่บ้านแต่เป็นจุดที่วิวดีที่สุดเพราะอยู่ริมหน้าผา เดินลงมาอีกนิดก็เป็นน้ำตก บ้านหลังนี้สร้างขึ้นเพื่อใช้รับรองแขกที่มาเยือนหมู่บ้านทั้งหมดเดินฝ่าความมืดกระทั่งถึงบ้านหลังที่ว่า เจษฎาพรจ
“พี่ชื่ออชิ ยินดีที่ได้รู้จักจ้ะกระแต” จู่ๆ อชิก็ลุกขึ้นมาแนะนำตัวเองอย่างมีสติ ทั้งๆ ที่เพลงขวัญคิดว่าเขาหลับอยู่แท้ๆ แบบนี้คงแกล้งทำเป็นหลับแล้วนอนฟังมาตั้งแต่ต้นล่ะสิ“ยะ...ยินดีที่ได้รู้จักจ้ะพี่อชิ” พอได้เห็นหน้าอชิ กระแตก็ถึงกับเพ้อ นั่นเพราะเธอไม่เคยเห็นใครหล่อเท่าเขามาก่อนเลยจริงๆ ผู้ชายในหมู่บ้านรวมไปถึงในตัวเมืองก็สู้ไม่ได้เลยสักคนเดียว“ผัวพี่หล่อจัง เกิดมาไม่เคยเจอใครหล่อแบบนี้มาก่อนเลย ถ้าพี่ไม่เอาแล้ว หนูขอนะ” ประโยคต่อมาของกระแตทำเอาอชิอึ้ง ส่วนเพลงขวัญยิ้มชอบใจ“เอาไปสิ พี่ยกให้ตอนนี้เลยยังได้”“จริงๆ นะพี่ไหม” จากที่หน้าตึงพูดจาห้วนๆ ใส่ ตอนนี้กระแตกลับเรียกเพลงขวัญว่าพี่ไหมอย่างเต็มอกเต็มใจ“ไม่จริงจ้ะ” อชิค้านทันทีเช่นกัน ชายหนุ่มหันมาถลึงตาใส่เพลงขวัญ ก่อนจะปรับน้ำเสียงแล้วสีหน้าเพื่อคุยกับกระแตอีกครั้ง“พอดีพี่ไหมเขาหิวจนสมองเบลอไปหมดแล้วนะจ้ะ อย่าไปสนใจคำพูดของคนสติไม
“พออารายยย อาวววมา ฉานนยังไม่มาววววสักหน่อย” เพลงขวัญพยายามยื้อแก้วเหล้าคืนมาจากอชิ แต่ทำไมมือเขาถึงอยู่ไกลอย่างกับมือแม่นาคแบบนี้นะ“ไม่เมาสักหน่อยเลยครับ นั่นเพราะตอนนี้คุณเมาหนักมากแล้วต่างหาก” อชิส่ายหน้าให้คนเมาที่บอกว่าตัวเองไม่เมา“เมียเอ็งเมาขนาดนี้ ข้าว่ารีบพาไปนอนก่อนเถอะ”“จ้ะพี่” อชิเอ่ยรับคำของโต จากนั้นก็พยุงเพลงขวัญกลับมาที่บ้านเพื่อให้เธอนอนพัก โดยคนเมาโวยวายมาตลอดทางว่าไม่เมากระทั่งใกล้ถึงบ้านเพลงขวัญก็อ้วกเอาทุกอย่างที่กินไปออกมาจากท้องจนหมดอชิเห็นแล้วก็สงสารและคงปล่อยให้เพลงขวัญนอนทั้งๆ ที่เสื้อผ้าเลอะเทอะแบบนี้ไม่ได้ จึงไปเอาผ้ามาชุบน้ำแล้วนำมาเช็ดหน้าเช็ดตาให้เธอ แต่ที่หนักใจคือจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เพลงขวัญยังไงนี่สิ“คุณไหม...ไหมตั้งสติหน่อย”“ตั้งสาติแล้ว” คนเมาพูดชัดบ้างไม่ชัดบ้าง“ผมจะถอดเสื้อผ้าตัวที่คุณใส่อยู่ตอนนี้ออกแล้วเอาตัวใหม่มาใส่ให้แทน โอเคนะ”“ม่ายยยโอเค”“แล้วจะให้ผมทำยังไง ไหนคุณบอกม
“เป็นไงบ้างกระแต” ทันทีที่เห็นน้องสาวเดินกลับมา โตที่รออยู่แล้วก็เอ่ยถามขึ้น“หล่อ”“ใครหล่อ” คำถามของพี่ชายที่ตัวโตเหมือนยักษ์ดังขึ้น พร้อมสีหน้างงๆ กับท่าทางของน้องสาวที่ดูแปลกไป“พี่อชิไง คนอะไรหล้อหล่อ หล่อราวกับเทพบุตร”“ผู้ชายหน้าตาจืดๆ แบบนั้นเหรอหล่อ” โตส่ายหน้าให้ นั่นเพราะในสายตาตนเองอชิไม่ได้หล่อเหลาเลยสักนิด ออกจะดูสำอางด้วยซ้ำไป“อื้อ...แบบนั้นแหละ สเปคฉันเลย อยากได้มาเป็นผัว” คำพูดที่ได้ยินทำเอาโตส่ายหน้าให้“เลิกฟุ้งซ่าน เพราะอชิมันแต่งงานแล้วไม่เห็นเหรอ”“ฉันรอพี่เขาเป็นพ่อหม้ายได้” กระแตตอบยิ้มๆ นั่นเพราะเวลานี้เธอปักใจรักอชิไปทั้งหัวใจแล้ว รักแรกพบก็ว่าได้ ต่อให้เขาจะมีคู่เธอก็พร้อมจะรอ“น้องกู ไปๆ จะไปไหนก็ไป ถามอะไรไปตอนนี้คงไม่ได้เรื่องได้ราว” เมื่อไล่น้องสาวไปแล้ว โตก็หันมาถามความกับจ้อยที่ให้ขึ้นไปสังเกตเพลง
“อยู่ตรงนี้นะคุณ ห้ามขยับไปไหน ห้ามขึ้นไปแอบดู ไม่งั้นตาย”“รู้แล้ว ต่อให้คุณไม่ห้ามผมก็ไม่ขึ้นไปหรอก เพราะมันไม่เห็นจะมีอะไรให้น่าแอบดูสักนิด” ฟังแล้วคนจะไปอาบน้ำก็ชักโมโห นี่ถ้าไม่ติดว่าต้องอาศัยกันและกันเพื่อความอยู่รอดปลอดภัย เธอจะกระโดดถีบผู้ชายปากเสียให้ตกหน้าผาตายเสียตอนนี้เลยเพลงขวัญสะบัดหน้าใส่ชายหนุ่ม ก่อนจะถือตะเกียงเจ้าพายุตรงไปยังห้องน้ำแบบโอเพ่นแอร์ พอมาถึงก็หันซ้ายหันขวามองหามุมวางตะเกียงในมือ จะวางไว้ใกล้มากไปก็กลัวจะไม่ดี ห่างไปก็กลัวจะมองไม่เห็น กระทั่งตัดสินใจวางไว้หลังก้อนหิน เธอขอแค่แสงสลัวๆ ส่องมาถึงก็พอจากนั้นก็ยืนรวบรวมความกล้าให้มากพออีกสักนิด เพราะตั้งแต่เป็นสาวมาก็ไม่เคยต้องแก้ผ้าอาบน้ำแบบนี้มาก่อน แม้ตอนเด็กๆ จะทำออกบ่อยก็เถอะ“เจ้าป่าเจ้าเขาเจ้าขา ลูกช้างไม่ได้มาเพื่อลบหลู่นะคะ ถ้าลูกช้างทำอะไรไม่ถูกไม่ควร ลูกช้างขอขมาท่านไว้ก่อนนะเจ้าคะ” เพลงขวัญยกมือขึ้นไหว้พร้อมกับเอ่ยขึ้น ก่อนจะสูดอากาศเข้าปอดลึกๆ แล้วเริ่มถอดเสื้อผ้าออกอย่างเร็ว จากนั้นก็จัดการรีบอ
คืนแรกของการมีสมาชิกใหม่พลอยทำให้โตนอนไม่หลับตามไปด้วย จนย่าใหญ่ต้องมานอนเป็นเพื่อน เพื่อสอนเรื่องการดูแลเจ้าตัวเล็ก นั่นเพราะตอนนี้แสงจันทร์ต้องพักผ่อนให้มากๆ สองสามวันก็จะได้อยู่ไฟส่วนอีกคู่ที่นอนไม่หลับคือเพลงขวัญและอชิ ที่ต่างนอนกลิ้งไปกลิ้งมากันอยู่บนที่นอนของตัวเอง เพราะภาพเหตุการณ์วันนี้ต่างติดตาพวกเขาอยู่“นอนไม่หลับหรือคุณ”“อื้อ...นึกถึงเรื่องวันนี้แล้วก็กลัวไม่หาย กลัวจนไม่อยากมีลูก”“ไม่ได้” จู่ๆ อชิก็เอ่ยขึ้น แต่เพราะมัวคิดเรื่องอื่นอยู่ เพลงขวัญจึงได้ยินไม่ค่อยชัด“อะไรนะ ตะกี้คุณพูดว่าอะไร”“เปล่า ผมไม่ได้พูดอะไร” คนเผลอพูดรีบแก้ต่างทันที ซึ่งก็ไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงรีบแย้งเสียขนาดนั้น“ถ้าผู้ชายท้องได้ก็คงดี”“ผู้ชายเราถ้าหากท้องแทนได้ก็คงทำไปแล้ว”“เฮ้อ! ยาก”“ไหนๆ ก็นอนไม่หลับแบบ
“น้ำเดิน” เพลงขวัญโพล่งออกมา แม้จะไม่เคยมีประสบการณ์คลอดลูก แต่เรื่องนี้ก็เคยเรียน เคยได้ยินมาบ้าง ถ้าน้ำเดินแล้วยังไม่คลอด คราวนี้ยิ่งอันตราย“น้ำเดินคืออะไร” โตตะโกนถามขึ้น“แสงจันทร์มันใกล้จะคลอดเต็มแก่แล้วน่ะสิโต รีบๆ เข้าไปดูเมียเอ็งก่อน” หญิงคนหนึ่งที่อายุอานามน่าจะพอๆ กับโตหรือมากกว่าเอ่ยบอก นั่นเพราะเธอก็เพิ่งคลอดลูกมาเมื่อไม่กี่เดือนก่อนนี้เอง จึงพอจะเข้าใจว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมาบ้าง“โอ๊ย...พี่โต ฉันเจ็บจนทนไม่ไหวแล้ว” ได้ยินแบบนั้นโตก็รีบจ้ำกลับเข้าไปในบ้านทันที ตามด้วยเพลงขวัญและอชิ ส่วนกระแตเวลานี้ยืนช็อกไปแล้ว“เจ็บมากมั้ยแสงจันทร์”“เจ็บมากพี่ ฉันเจ็บ” แสงจันทร์กัดฟันพูดออกไป เส้นเลือดบนหน้าปูดโปนจนน่ากลัว“พี่แสงจันทร์อดทนอีกหน่อยนะจ้ะ ย่าใหญ่กำลังมา” เพลงขวัญเอ่ยบอก เห็นแสงจันทร์เจ็บท้องคลอดมากขนาดนี้แล้วก็ยิ่งสงสาร“พี่ทนไม่ไหวแล้วไหม พี่จะ&helli
“หายใจลึกๆ นะพี่แสงจันทร์ แล้วผ่อนลมหายใจออกช้าๆ” เพลงขวัญพยายามทำให้แสงจันทร์นั้นผ่อนคลาย แม้จะไม่เคยทำคลอด ไม่รู้วิธี แต่เวลานี้ก็งัดเอาความทรงจำตอนดูฉากคลอดลูกในละครหรือซีรีส์มาใช้ก่อน“ไม่ได้ พี่เจ็บท้องเกินไป ทำไม่ได้” คนเจ็บท้องคลอดแย้งขึ้นมาทันที“ค่อยๆ ทำพี่ ค่อยๆ ทำ” และเพลงขวัญก็เริ่มทำเป็นตัวอย่างให้แสงจันทร์ได้ดู เพราะถ้าเธอไม่ผ่อนคลายหรือเจ็บจนกลัวไปหมด การคลอดลูกก็อาจจะยิ่งยากในขณะที่เพลงขวัญกำลังอยู่ดูแลแสงจันทร์อยู่นั้น กระแตก็วิ่งลัดเลาะไปตามทางเท้าอย่างเร็ว แต่ที่ระวังหน่อยคือทางเดินในป่าเขาวงกตที่มีกับดักอยู่หลายจุดและทันทีที่เดินทะลุผ่านมาได้ก็ตะโกนหาโตไปทั่วไร่ฝิ่น“พี่โต! พี่โต!”“อะไรของเอ็งกระแต ตะโกนโหวกเหวกโวยวาย เดี๋ยวช้างป่าตกใจกันพอดี” โตเอ็ดน้องสาวขึ้น พร้อมกับเดินเข้ามาหา โดยมีอชิกับเจษฎาพรที่มาพร้อมกับโตเดินเข้ามารอฟังด้วย“กลับบ้านด่วนพี่” กระแตพูดไปก็หอบไป
“พวกเอ็งเริ่มลงมือได้แล้ว” ประโยคคำสั่งดังขึ้นจากชายผู้เป็นเจ้าของบ่อนลอยฟ้า“ครับพี่” บรรดาลูกน้องขานรับคำสั่งผู้เป็นนายอย่างพร้อมเพรียง นั่นทำให้เวลาความสุขรวมไปถึงความสนุก ที่เรียกว่าของจริงกำลังเริ่มต้นขึ้น โดยเป้าหมายก็ไม่ใช่ใครอื่น ทัตเทพและสายป่านนั่นเองเพราะยังไม่รู้ว่าถูกหมายหัว สองพี่น้องจึงยังคงใช้ชีวิตด้วยเงินที่หามาได้จากในบ่อนอย่างสนุกมือ ระยะหลังๆ มานี้สายป่านเดินเข้าร้านเพชรเป็นว่าเล่น ของใช้บนตัวก็แบรนด์เนมตั้งแต่ศีรษะจดปลายเท้าวันนี้สายป่านตั้งใจจะซื้อของขวัญชิ้นโตให้ตัวเอง นั่นคือรถใหม่ป้ายแดงที่เธอหาเงินมาด้วยน้ำพักน้ำแรง แม้จะเป็นเงินที่ได้จากในบ่อนก็ตามที“ไปเอาเงินจากไหนมาซื้อ” นี่คือประโยคแรกที่สายปอเอ่ยถาม เมื่อเห็นลูกชายกับลูกสาวขับรถใหม่เข้ามาจอดในบ้าน“ธุรกิจที่หนูทำกับพี่เทพน่ะแม่”“ธุรกิจอะไร““ธุรกิจวัดดวงไงล่ะแม่” ทัตเทพเฉลยให้ ซึ่งสายปอก็ไม่ได้แปลกใจสักเท่าไ
“ได้ครับท่านรอง” นายตำรวจหนุ่มเอ่ยรับ สำหรับก่อสกุลแล้วงานทุกงานมีความสำคัญเท่ากันหมด เขาไม่อยากเอนเอียงไปทำงานที่มีเรื่องส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้องจนกระทบกับงานตัวอื่น แม้สมองมันจะชอบว่อกแว่กไปหางานส่วนตัวอยู่บ่อยครั้งก็ตามกว่าที่เขาจะกลับออกมาจากห้องประชุมก็เกือบเที่ยงคืน แม้จะเหนื่อย จะง่วงและหิวมาก แต่กลับไม่แวะพัก เพราะเป้าหมายต่อไปของเขาคือบ้านของนรากรนั่นเอง นายตำรวจหนุ่มจอดรถไว้ริมกำแพงรั้วบ้านเธอ นั่นเพราะตั้งใจแค่จะแวะมาหา ขอแค่ได้มองหลังคาก็หายคิดถึงได้บ้าง เพราะขืนไปกดออดตอนนี้ก็เกรงคนในบ้านจะตกใจเอาแต่จู่ๆ ประตูรถเขาก็ถูกเคาะ และทันทีที่ก่อสกุลลดกระจกลง เขาก็เจอกับคนที่อยากเจอ เจ้าบ้านที่ยังคงอยู่ในชุดทำงานเพราะเพิ่งกลับเช่นกันยืนกอดอกเอ่ยถามขึ้น“มาจอดรถอะไรอยู่ตรงนี้คะ”“ผะ...ผมแค่ผ่านมาครับ” ไม่คิดว่าจะเจอกับนรากรเข้า ก่อสกุลจึงตอบตะกุกตะกักนั่นเพราะสมองไม่ได้เตรียมคำตอบสำหรับเหตุการณ์นี้ไว้“อ้อ...แค่ผ่านมา”&ldquo
“รู้แล้วๆ คุณนี่ขี้บ่นจริง” เพลงขวัญย่นจมูกให้คนตรงหน้า แต่ก็ยอมรับว่ารู้สึกดีที่รู้ว่าอชิห่วงเธอ ก่อนที่จะตกใจตัวเองที่ไปรู้สึกหรือคิดอะไรแบบนั้น ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เธอกับเขาเหมือนคนแปลกหน้าที่มีเป้าหมายเพื่อหนีจากห้องหอด้วยกันทั้งคู่ แต่ทำไมตอนนี้ความรู้สึกในตอนแรกนั้นกลับเปลี่ยนไป และเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไหร่เพลงขวัญก็แทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ“นี่มันยังน้อยไป ตะกี้ถ้ากลับมาแล้วผมยังไม่เห็นคุณ ตั้งใจจะไปเหลาไม้เรียวมารอ” อชิเอ่ยขำๆ เพราะเขาไม่ได้ตั้งใจจะไปเหลาไม้เรียวอะไรทั้งนั้น แต่พูดไปเพื่อให้เห็นภาพเท่านั้นเอง วันนี้ทำไมความรู้สึกเป็นห่วงเพลงขวัญถึงได้มากมายนัก ชายหนุ่มเองก็ยังหาคำตอบไม่ได้“บ้า...ใครจะยอมให้คุณตีเหมือนเด็กๆ”“ถ้าไม่อยากถูกผมตี ก็ต้องทำตามที่สัญญา”“รู้แล้วค่ะ รู้แล้ว” เพลงขวัญเอ่ยรับปากอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะกลัวจะถูกอชิตี แต่เพราะไม่อยากฟังชายหนุ่มบ่นมากกว่า และอีกอย่างคือทำไมเธอต้องแคร์ความรู้สึกเขาด้วย ทั้งๆ ที่มันไม่น่าจะจำเป็นนี่นา&
“ทำตัวให้แข็งแรงรอวันที่ลูกเราจะกลับมาดีกว่า”“เมื่อไหร่ล่ะคะที่ลูกเราจะกลับมา”“ผมก็ยังให้คำตอบคุณไม่ได้ แต่มั่นใจเถอะว่าเราต้องได้ข่าวดีเร็วๆ นี้แน่ ถ้าลูกกลับมาแล้วเห็นคุณซูบผอมไปแบบนี้ ไหมคงโกรธผมแย่ที่ดูแลคุณไม่ดี ฝืนดื่มเสียหน่อยนะ” เอ่ยจบอาคมก็ยื่นถ้วยซุปไก่ให้จิตราอีกครั้ง มือเล็กของจิตราแต่ทว่ายังอุ่นและนุ่มทุกครั้งที่สัมผัสรับถ้วยซุปไก่ไปถือไว้ ก่อนจะตัดใจยกขึ้นดื่มจนหมดถ้วย นั่นทำให้อาคมยิ้มออก“ไปเดินเล่นในสวนมั้ย กุหลาบที่คุณปลูกไว้ ตอนนี้แข่งกันออกดอกสวยแล้วนะ”“ก็ดีเหมือนกันค่ะ” จิตราเอ่ยรับ เพราะไม่อยากนั่งๆ นอนๆ อมทุกข์อีกต่อไปแล้วเหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังทำตัวเป็นภาระให้สามีต้องมาดูแลอีก แทนที่จะเอาเวลาไปตามหาเพลงขวัญ คิดแล้วจิตราก็รู้สึกผิดที่แทนที่จะช่วยกลับสร้างปัญหา เธอจึงคิดใหม่ ทำใหม่ ต้องเข้มแข็งเพื่อรอวันที่ลูกกลับมาเพลงขวัญกับอชิยังคงอยู่ในหมู่บ้าน เพราะอยู่ในป่าในเขาจึงไม่มีใครได้ข่าวหรือพบเห็นคนทั้งคู่ แม้ทางตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบจะออกสืบข่าวกันทุกทางแล้วก็ต
“ไปๆ เข้าบ้านทั้งคู่นั่นแหละ” เอ่ยจบอรทัยก็ดันหลังลูกสาวคนเดียวให้เข้าบ้านไปก่อน ตามด้วยผายมือเชื้อเชิญให้ก่อสกุลเข้าบ้านอีกคนสองแม่ลูกขึ้นไปจัดห้องหับต้อนรับแขก ส่วนเดชนั่งคุยกับก่อสกุลอยู่ที่ห้องรับแขก ซึ่งก็คุยกันถูกคอจนนรากรหมั่นไส้“ก้อยกับแม่จัดห้องเสร็จแล้วจ้ะพ่อ”“ดีๆ งั้นเราก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน พรุ่งนี้วันใหม่ค่อยว่ากัน”“ครับ” เสียงทุ้มของนายตำรวจหนุ่มเอ่ยรับ ก่อนจะเดินตามนรากรไปยังห้องรับรองแขก ของใช้ส่วนตัววางอยู่บนเตียงพร้อมกับเสื้อผ้าอีกชุด“ชุดของพ่อฉัน ยังไม่ได้ใส่ แม่ก็เลยเอามาให้คุณเปลี่ยนนอน”“ขอบคุณครับ” เสียงทุ้มเอ่ยรับ จู่ๆ นายตำรวจหนุ่มก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในหัวใจแปลกๆ“ระวังผีอำนะคุณ พอดีที่บ้านฉันผีค่อนข้างดุนะ”“ไม่เป็นไร ผมบวชมาแล้วพอจะสวดมนต์ได้หลายบทอยู่”“งั้นก็ขอให้รอดปลอดภัยนะคะ” เอ่ยจบนรากรก็กลับออกไปทันที เมื่อประตูปิดลงก่อสกุลก็คว้าข้าวของและเสื้อผ้าตรงเข้าห้องน้ำ นั่นเพราะเขาเองก็อยาก
“อืม...พี่จะพูดกับพี่โตให้แล้วกัน”เจษฎาพรจำใจต้องรับปาก แม้ในอกนั้นจะเจ็บปวดอย่างสาหัสก็ตามที สำหรับกระแตแล้วไม่ว่ายังไงเขาก็คงชนะใจเธอไม่ได้สินะ และในเมื่อเธอไม่ได้รักเขา เขาเองก็ไม่อยากฝืนใจบังคับให้เธอต้องมาแต่งงานด้วยเช่นกัน“ขอบใจนะพี่ชัย” กระแตเอ่ยออกมา แม้จะหวิวๆ แปลกๆ อยู่ในอกบ้าง แต่ก็คิดเข้าข้างตัวเองว่าเธอคงแค่หิวข้าวเท่านั้นเองหลังจากตามหาตัวกระแตไปจนทั่ว จ้อยก็ตะโกนลั่นป่าเมื่อเห็นเจษฎาพรกับกระแตมาแต่ไกล โตรีบเข้ามาดูน้องสาวก่อนจะถามไถ่ว่าหายไปไหนมา โดยไม่ดุไม่ด่าอย่างที่กระแตกลัวมาตลอดทางเลยแม้แต่น้อย จากนั้นโตก็เดินนำทั้งหมดกลับเข้าหมู่บ้านเมื่อมาถึงย่าใหญ่ก็รุดมาดูข้อเท้าของกระแตทันที ก่อนจะให้คนไปเอายาสมุนไพรมาพอกให้ ส่วนแสงจันทร์ก็หาข้าวหาน้ำมาให้ทั้งสองคน อชิและเพลงขวัญก็พลอยโล่งอกที่เห็นทั้งคู่ปลอดภัยกลับมาในคืนนั้นเจษฎาพรก็หาเวลาไปคุยกับโตตามที่กระแตขอ ส่วนโตเองก็ยอมจำนน เพราะลึกๆ แล้วก็ไม่อยากบังคับน้องสาวเหมือนกัน คิดแล้วโตก็ได้แต่ถอนหายใจ ส่