ตอนค่ำของวันต่อมา…“เสียงรถใครมาเหรอ” กฤษฎาประมุขของบ้านเอ่ยถามขึ้นมาในระหว่างที่นั่งคุยกันอยู่ภายในห้องรับแขก“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ” คุณหญิงพิมพ์มณีตอบสามีไปตามตรง เพราะวันนี้คุณหญิงไม่ได้นัดเพื่อนหรือใครมาบ้านเลยพิพลอยนั่งเงียบฟังท่านทั้งสองคุยกัน เพราะเธอรู้อยู่แล้วว่าใครมา ไม่นานร่างสวยของสาวๆ ทั้งสามคนก็เดินเข้ามาภายในห้องรับแขกที่คุ้นเคย“สวัสดีค่ะ” สาวๆ ยกมือขึ้นไหว้พร้อมกับทักทายผู้ใหญ่ตามมารยาท“สวัสดีจ้ะ มาๆ นั่งด้วยกันก่อน” คุณหญิงพิมพ์มณีตอบรับพร้อมรอยยิ้มอย่างใจดี“เพื่อนจะมาบ้านทำไมไม่บอกป๊ากับม๊าก่อนล่ะ” กฤษฎาหันไปถามลูกสาวที่นั่งเงียบอยู่ข้างผู้เป็นแม่“อย่าดุพิพลอยเลยค่ะ พวกหนูต้องขอโทษด้วยนะคะที่ไม่ได้บอกก่อนว่าจะมา” ควีนยกมือขึ้นขอโทษด้วยความรู้สึกผิด“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ” คุณหญิงตอบพร้อมรอยยิ้ม“ถ้าจะมาทำไมไม่บอกฉันก่อน” พิพลอยหันไปดุเพื่อนๆ ด้วยสายตา เพราะเธอก็ไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน“ก็มาเซอร์ไพรส์ไง” ลดาตอบพร้อมรอยยิ้ม“คือวันนี้เป็นวันเกิดของควีน พวกหนูก็เลยอยากจะมาขออนุญาตพาพิพลอยไปด้วยค่ะ” โซมิรีบถามเข้าเรื่องทันที“แล้วจัดงานที่ไหน” ผู้เป็นพ่อถามรายละเอียดด้วยควา
(พี่ขอเจอแป๊บเดียวนะครับ)กวินยังคงอ้อนเสียงหวาน เขายอมเสียเงินไปตั้งหลายบาทกว่าจะได้เบอร์โทรได้คุยกับพิพลอย ยังไงวันนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีและเขาจะเจอเธอให้ได้“….” พิพลอยถึงกับเงียบไปความรู้สึกสับสนวิ่งวนอยู่ภายในใจ ยิ่งดื่มยิ่งเมาเธอก็ยิ่งอยากเจอชายหนุ่ม(พี่คิดถึงหนูมากๆ เลยนะ) คำพูดจาหวานๆ มักออกจากปากผู้ชายเจ้าเล่ห์“แค่แป๊บเดียวนะคะ”สุดท้ายพิพลอยก็ยอมใจอ่อนให้กับชายหนุ่ม และยอมให้เขามาหาเธอจนได้ หัวใจดวงน้อยเต้นรัวด้วยความคิดถึง เธอปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอเองก็คิดถึงและอยากเจอเขาไม่ต่างกัน(ได้ครับ พี่จะรีบไปนะ)คนเจ้าเล่ห์ยกยิ้มที่มุมปากด้วยความพอใจ เพียงแค่อ้อนนิดอ้อนหน่อยหญิงสาวก็ใจอ่อนแล้ว และอีกไม่นานทุกอย่างก็น่าจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอย่างแน่นอน“เป็นยังไงบ้าง” ควีนถามขึ้นในขณะที่พิพลอยเดินกลับเข้ามาหาเพื่อนๆ“ไม่มีอะไรหรอก” ใบหน้าสวยยิ้มบางๆ เพื่อให้ทุกคนสบายใจ“แน่ใจนะ” ลดาถามย้ำอีกครั้ง เพราะคิดว่าการคุยกับกวินคงไม่มีอะไรง่ายอย่างแน่นอนพิพลอยพยักหน้าเพื่อยืนยันคำตอบ ก่อนจะยกแก้วแอลกอฮอล์ขึ้นดื่มและเปลี่ยนเรื่องคุย“วันนี้ยังไม่มีของขวัญวันเกิดให้นะ ขอติดไว้ก่อนได้ไหม” พิพล
หญิงสาวมองเบอร์โทรที่อยู่บนหน้าจอด้วยความสงสัย อีกทั้งยังเป็นโทรศัพท์ราคาแพงที่เธอไม่คุ้นตาและไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนพิพลอยนั่งมองอยู่นานและไม่มีท่าทีว่าคนที่โทรมาจะหยุดโทร ถ้าหากว่าเธอไม่รับสายเขาคงโทรมาทั้งคืนแน่นอน“สวัสดีค่ะ” หญิงสาวกดรับและทักทายคนในสายตามมารยาทตอนนี้เธออยากจะรู้มากเลยว่าโทรศัพท์เครื่องนี้เป็นของใคร(ทำไมปล่อยให้พี่รอนานจังเลยครับ) ชายหนุ่มพูดเสียงเศร้าและแอบน้อยใจที่เธอปล่อยให้เขารอนานๆ“โทรศัพท์พี่วินเหรอคะ” หญิงสาวถามด้วยความสงสัย เพราะโทรศัพท์ของกวินเธอก็เคยเห็นแต่ก็ไม่ใช่เครื่องแบบนี้หรือว่าเขาจะเปลี่ยนเครื่องใหม่(เปล่าครับ) กวินปฏิเสธ“แล้วทำไมพี่วินถึงโทรมาได้คะ”(โทรศัพท์อยู่กับใครคนนั้นก็ต้องเป็นเจ้าของสิครับ) ชายหนุ่มอธิบาย“พี่วินแอบเอาโทรศัพท์ใส่ในกระเป๋าหนูเหรอคะ” หญิงสาวถามด้วยความใสซื่อและคาดเดาไปตามสิ่งที่เธอคิด(พี่ซื้อให้ครับ กลับมาเป็นเหมือนเดิมนะ พี่คิดถึง) กวินพูดจาออดอ้อนเพื่อขอโอกาสให้ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม“ไม่ค่ะ หนูไม่อยากจะกลับไปเจ็บเหมือนเดิมอีก” ถึงปากจะปฏิเสธแต่ในใจยังคงรักและคิดถึงชายหนุ่มอยู่ตลอด(พี่ขอโทษครับ พี่สัญญาว่าจะไ
ทางด้านกวินก็แทบจะนั่งไม่ติดเก้าอี้ ร่างสูงเดินกระวนกระวายด้วยใจที่ร้อนรนเพราะไม่ว่าเขาจะโทรหาพิพลอยกี่สิบครั้ง แต่เธอก็ไม่ยอมรับสายหรือตอบแชทเขาเลย“ทำไมไม่รับสายวะ!” ชายหนุ่มทั้งหงุดหงิดและหัวร้อนในเวลาเดียวกัน ยิ่งพิพลอยไม่รับสายเขาก็ยิ่งร้อนรนเหมือนคนไม่มีสตินอกจากจะคิดหนักแล้วกวินยังคิดไปไกล กลัวว่าที่พิพลอยหายเงียบไปแบบนี้อาจจะเป็นเพราะครอบครัวของเธอจะจับเธอหมั้นกับอาจารย์คนนั้น เพราะเขาได้ยินคุณแม่ของเธอบอกว่าวันนี้มีแขกมาเยอะมือหนากำโทรศัพท์เครื่องหรูเอาไว้แน่นด้วยความโมโห ยิ่งคิดกวินก็ยิ่งหัวร้อน คิดเองโกรธเองงอนเองอยู่คนเดียวกวินพยายามกดโทรหาพิพลอยครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ก็ไม่มีท่าทีว่าเธอจะรับสาย‘ถ้าไม่รับสาย จะไปหาถึงบ้านเลย’ชายหนุ่มตัดสินใจส่งข้อความไปหา เพื่อเป็นการเตือนครั้งสุดท้ายถ้าหากว่าเธอยังเงียบอยู่แบบนี้พิพลอยที่กำลังสนุกอยู่กับงานเลี้ยงฉลองตำแหน่งใหม่ของพี่ชายก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำเพื่อที่จะได้ดูโทรศัพท์ที่เธอปิดเสียงเอาไว้สายตาเฉี่ยวคมจ้องมองหน้าจอด้วยความตกใจเมื่อเห็นจำนวนสายที่ไม่ได้รับ และเธอก็ต้องตกใจมากขึ้นไปอีกเมื่อเห็นข้อความที่ชายหนุ่มส่งมาพิพลอยถึงก
“พี่ไม่กลับครับ”“ถ้าพี่วินไม่กลับงั้นหนูขอตัวก่อนนะคะ” เมื่อไม่มีท่าทีว่าชายหนุ่มจะยอมกลับ พิพลอยจึงเลือกที่จะไม่สนใจและเดินกลับเข้าไปภายในบ้าน“ถ้าหนูเข้าไปพี่ก็จะตามเข้าไปด้วย” ชายหนุ่มบอกด้วยท่าทางจริงจังเพื่อเป็นการบ่งบอกว่าเขาพูดจริงทำจริงไม่เพียงแค่พูดขู่เธอเท่านั้น“พี่วิน” พิพลอยเรียกชื่อชายหนุ่มด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ไม่ว่าเธอจะพูดยังไงเขาก็ไม่ยอมกลับ“พี่จะไม่กลับจนกว่าหนูจะรับปากและยอมไปทานข้าวกับพี่พรุ่งนี้” กวินยื่นข้อเสนอดีๆ ที่จะทำให้เขายอมกลับ โดยที่เธอไม่ต้องบอกหรือขอร้องอะไรจากเขาอีกมือหนาคว้ามือของพิพลอยมาจับเอาไว้แน่น เพื่อเป็นการอ้อนวอนให้เธอใจอ่อนและยอมไปกับเขา“หนูไปไม่ได้ค่ะ” ถึงจะสนใจในข้อเสนอที่ชายหนุ่มพูดมา แต่เธอก็ไม่สามารถที่จะตอบตกลงและไม่สามารถไปกับเขาได้ตามใจตัวเองเหมือนเมื่อก่อน“งั้นพี่ก็ไม่กลับ” กวินตอบด้วยท่าทางที่เหนือกว่า เขาจะไม่ยอมกลับจนกว่าเธอจะยอมตกลงไปกับเขา“พี่วินก็รู้ว่าหนูไปด้วยไม่ได้ ทำไมต้องกดดันหนูด้วยคะ” หญิงสาวตอบเสียงเศร้าเมื่อไม่มีทางเลือกอื่น“พี่คิดถึงนะ คิดถึงเวลาที่เราเคยอยู่ด้วยกัน” มือหนาคว้าร่างบางมากอดรั้งเอาไว้แน่นด้ว
พิพลอยยืนตั้งสติอยู่หน้าประตูสักพัก ก่อนจะเดินเข้าไปภายในบ้านหลังใหญ่ หญิงสาวพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด เพื่อไม่ให้พี่ชายจับสังเกตถึงความผิดปกติในตัวเธอได้“หายไปไหนมาเหรอ” น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามน้องสาวขึ้นในระหว่างที่เธอเดินเข้ามาภายในห้องโถง“หนู… หนูออกไปคุยโทรศัพท์กับเพื่อนมาค่ะ พี่เพชรมีอะไรหรือเปล่าคะ” ด้วยสติที่มีอันน้อยนิดทำให้พิพลอยตื่นเต้นและตกใจจนเผลอทำตัวน่าสงสัยออกมาบ้าง“พี่ไม่มีอะไรหรอก แต่เมื่อกี้พี่เห็นคุณพ่อกับคุณแม่ตามหาเราอยู่” เพชรตอบพร้อมกับมองหน้าน้องสาวเพื่อจับผิด“งั้นหนูขอตัวไปหาคุณพ่อกับคุณแม่ก่อนนะคะ” พิพลอยรีบขอตัวเดินออกไปทันที ถ้าขืนอยู่นานกว่านี้พี่ชายคงจะจับผิดเธอได้อย่างแน่นอนเพชรมองตามหลังของน้องสาวด้วยความเป็นห่วง เพราะเขารู้ดีว่าพิพลอยออกไปหาใครมา แต่เขาก็เลือกที่จะไม่ถามหรือพูดถึงผู้ชายคนนั้นมือหนากำหมัดแน่นด้วยความโกรธ เขาจะไม่อยู่เฉยอีกต่อไปวันนี้เขาจะต้องจัดการเรื่องผู้ชายคนนั้นให้เด็ดขาด ไม่ให้มายุ่งเกี่ยวกับน้องสาวเขาอีก“จะไปไหน” เซนต์ถามขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนรักเดินออกมาที่หน้าบ้าน“ไปจัดการเรื่องนี้ให้มันจบ” เพชรพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่นิ่
เช้าวันต่อมาวันนี้พิพลอยตื่นเช้ากว่าทุกวัน แต่จะเรียกว่าตื่นเช้าก็คงไม่ใช่เพราะเมื่อคืนเธอตื่นเต้นจนแทบจะไม่ได้นอนด้วยซ้ำตั้งแต่เกิดมาเธอเป็นคนดีมาตลอด ไม่เคยโกหกพ่อแม่หรือโกหกใครเลยสักครั้ง แต่พอมาเจอกวิน เขาทำให้เธอกล้าลอง กล้าทำอะไรใหม่ๆ อย่างที่เธอไม่เคยทำมาก่อนร่างบางเดินไปเดินมาอยู่ภายในห้องรับแขก เธอไม่รู้เลยว่าจะต้องพูดหรือบอกคุณแม่ยังไงดี วันนี้เธอถึงจะได้ออกไปข้างนอกพิพลอยพยายามคิดหาคำพูดและข้ออ้างที่จะได้ออกไปข้างนอกอยู่นาน แต่คิดยังไงเธอก็คิดไม่ออกเพราะเธอไม่เคยทำและไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน“หนูเป็นอะไรหรือเปล่า” คุณแม่ที่เห็นลูกสาวทำหน้าเคร่งเครียดจึงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง“เปล่าค่ะ” พิพลอยปฏิเสธก่อนจะหยุดเดินและนั่งลงที่โซฟาตัวใหญ่“หนูเบื่อเหรอ” คุณแม่ยังคงถามต่ออย่างใส่ใจในความรู้สึกของลูกสาว“นิดหน่อยค่ะ” หญิงสาวตอบด้วยความเกรงใจ ถึงแม้ในใจจะรู้สึกเบื่อมากก็ตาม“งั้นวันนี้ออกไปข้างนอกกับแม่ไหม” คุณแม่เอ่ยชวนลูกสาว เผื่อการไปข้างนอกจะทำให้หายเบื่อขึ้นมาได้บ้าง“ไปค่ะ!” พิพลอยตอบอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่ต้องคิดอะไรก่อนเลยสักนิด“แม่ว่าจะไปทำสปาสักหน่อย หนูก็ไปเดินซื้อข
สองเดือนต่อมาหลังจากที่พิพลอยกับกวินเจอกันในวันนั้น ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนก็เริ่มพัฒนาไปในทางดีขึ้นเรื่อยๆ นัดเจอกันบ้างในบางครั้งโดยที่ไม่มีใครรู้ พออีกคนจะไปไหนหรือทำอะไรก็คอยบอก คอยรายงานกันอยู่ตลอดหัวใจดวงน้อยเริ่มกลับมาสดใสและมีความสุขอีกครั้งเมื่อชายหนุ่มทำตัวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้เธอเชื่อมั่นและเชื่อใจเขาอีกครั้งถึงจะไม่ได้อยู่ด้วยกันเหมือนเมื่อก่อน แต่กวินก็ทำให้พิพลอยสบายใจมากขึ้น เขาทำให้เธอสบายใจและเข้าใจกันมากยิ่งขึ้น(ใครมาหาเหรอคะ) พิพลอยถามขึ้นเมื่อได้ยินเสียงกริ่งหน้าห้องดังแทรกขึ้นมาระหว่างที่คุยกันอยู่“เดี๋ยวพี่ไปดูก่อนนะ” ชายหนุ่มทำหน้าตาสงสัยไม่ต่างกัน เพราะเขาไม่ได้นัดให้ใครมาหาเลย“ทำอะไรอยู่วะ โทรหาก็ไม่รับสายเลย” เสียงผู้ชายดังแทรกเข้ามาในสาย“คุยโทรศัพท์อยู่ พวกมึงมาทำไม” กวินตอบพร้อมกับยกโทรศัพท์ขึ้นมาให้หญิงสาวได้เห็นว่าเพื่อนมาหา“มาชวนมึงไปงานวันเกิดกูไง” เสียงกราฟฟิกพูดขึ้น“กูไม่ไป” กวินตอบไปแบบไม่คิด“มาเดี๋ยวกูขออนุญาตให้” เสียงกราฟฟิกพูดแทรกในสายก่อนจะหยิบโทรศัพท์ในมือของกวินมาถือเอาไว้“วันนี้วันเกิดพี่ พี่ขอพาไอ้วินไปดื่มได้ไหมครับ” กราฟฟ
หนึ่งเดือนต่อมากวินเริ่มอาการดีขึ้นทุกวัน แผลที่เคยเจ็บก็เริ่มหายเหลือเพียงรอยแผลเป็นที่ยังคงอยู่วันนี้เป็นวันที่พิพลอยจะเดินทางไปเรียนต่อที่ต่างประเทศตอนแรกกวินตั้งใจที่จะไปพร้อมเธอ แต่เอกสารบางอย่างของเขายังไม่เรียบร้อย การเดินทางของเขาจึงต้องเลื่อนออกไปชายหนุ่มกับครอบครัวมายืนรอพิพลอยที่สนามบินเพื่อรอเวลาที่เธอและครอบครัวจะมาถึง ทุกคนตั้งใจที่จะมาส่งเธอในการเดินทางครั้งนี้“นั่นไง หนูพลอยมานู้นแล้ว” คุณแม่ของกวินทักขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวและครอบครัวกำลังเดินมากวินตั้งใจที่จะใช้โอกาสนี้ขอโทษและขอขมาครอบครัวของพิพลอยที่เขาเคยทำไม่ดีและคำเธอเสียใจมาก่อนทันทีที่ครอบครัวของพิพลอยเดินเข้ามา ร่างสูงก็นั่งคุกเข่าลงกลางสนามบินที่มีผู้คนมากมายต่างจ้องมองมาที่พวกเขามือหนาพนมมือขึ้นไหว้ก่อนจะก้มลงกราบขอโทษคุณพ่อกับคุณแม่ของหญิงสาวที่เขาเคยทำไม่ดีกับเธอจนทำให้ครอบครัวของเธอไม่ชอบเขา“ผมขอโทษสำหรับทุกอย่างนะครับ” กวินพูดเข้าเรื่องทันที“ผมขอโทษที่เคยทำให้พิพลอยต้องเสียใจและตอนนี้ผมก็รู้แล้วว่าผมรักพิพลอยมาก ผมอยากจะขอโอกาสดูแลพิพลอยครับ” มือหนายังคงไหว้เพื่อขอโอกาสจากครอบครัวของพิพลอย“มั่นใจ
สามวันต่อมาพิพลอยมาอยู่ดูแลกวินทุกวันถึงแม้ว่าจะมีพยาบาลพิเศษที่จ้างมาดูแลอยู่แล้วก็ตาม เธอก็ยังอยากจะดูแลเขาให้ดีที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ถึงแม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมาถึงสองวันแล้ว แต่กวินก็ยังคงนอนนิ่งและไม่มีท่าทีว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาเลยสักนิดพิพลอยทำได้เพียงไหว้พระขอพรและภาวนาขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยให้กวินฟื้นขึ้นมา โชคดีที่คุณพ่อกับคุณแม่อนุญาตให้เธออยู่ดูแลชายหนุ่มจนกว่าเขาจะฟื้นและอาการดีขึ้น โดยมีข้อแม้ว่าถ้าหากเขาฟื้นขึ้นมาเธอจะต้องไปเรียนต่อต่างประเทศทันทีหญิงสาวจับมือชายหนุ่มมากุมเอาไว้อย่างอ่อนโยน ความรักและความเป็นห่วงที่เธอมีให้เขามันมากมายอย่างที่เธอไม่เคยมอบให้ใครมาก่อนแววตาที่เต็มไปด้วยความเศร้ามองชายหนุ่มที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง แต่เธอก็ยังมีความหวังว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาอาการของกวินตอนนี้ยังคงทรงตัวไม่ได้มีอาการอะไรแทรกซ้อน ร่างกายไม่ได้แย่ลงแต่ก็ยังไม่ดีขึ้นทางคุณหมอก็ยังให้คำตอบไม่ได้เลยว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาตอนไหน บางอย่างอาจจะต้องใช้เวลาและปาฏิหาริย์เข้าช่วย“ขอบใจหนูพลอยมากนะที่มาดูแลตาวินทุกวันเลย” คุณแม่ของกวินรักและเอ็นดูพิพลอยตั้งแค่ครั้งแรกที่เจอเธอ“ไม่เป็นไรค่ะ หนูเต
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนที่พิพลอยนอนอยู่บนเตียงกว้าง เพราะก่อนที่เพชรจะออกไปเขาได้อุ้มน้องสาวไปส่งที่ห้องนอนของเธอก่อนแล้วคุณแม่คอยดูแลพิพลอยอยู่ไม่ห่างด้วยความเป็นห่วงที่อยู่ๆ ลูกสาวก็เป็นลมไปแบบนี้ ทั้งที่เธอก็แข็งแรงและไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนผ่านไปสักพักมือบางก็ค่อยๆ ขยับและลืมตาตื่นขึ้นมามองเห็นคุณแม่นั่งอยู่ไม่ไกลพร้อมรอยยิ้มที่กำลังมองมาที่เธอ“หนูฟื้นแล้วเหรอลูก” คุณแม่ถามด้วยความเป็นห่วงปนดีใจที่ลูกสาวฟื้นขึ้นมาสักทีพิพลอยนั่งนิ่งและตั้งสติอยู่สักพัก ในหัวกำลังประมวลภาพเหตุการณ์และเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าร่างบางไม่ตอบคุณแม่แต่อย่างใด ใบหน้าสวยแสดงออกถึงท่าทางตกใจ เธอรีบลุกขึ้นยืนและตั้งท่าจะเดินออกจากห้องไปทันที โชคดีที่คุณแม่คว้ามือลูกสาวเอาไว้ทัน“หนูจะไปไหน” คุณแม่ถามด้วยความสงสัยทันทีที่เห็นท่าทางของลูกสาว“หนูจะออกไปช่วยพี่วินค่ะ” พิพลอยตอบไปตามตรงและตอนนี้เธอก็เป็นห่วงเขามาก เธอไม่รู้เลยว่าเธอเป็นลมไปนานแค่ไหนและตอนนี้ชายหนุ่มจะเป็นยังไงบ้าง“คุณพ่อกับตาเพชรออกไปจัดการให้แล้ว หนูรอฟังข่าวอยู่ที่บ้านกับแม่นะ” คุณแม่จับมือลูกสาวเอาไว้แน่น“หนูขอออกไปได้ไหม
หลายวันต่อมาถึงกวินสัญญาว่าจะตามพิพลอยไป แต่เธอก็ยังคงเศร้าเพราะคุณพ่อกับคุณแม่ยืนยันว่าจะให้เธอเดินทางในเร็วๆ นี้เรื่องราวทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนเธอไม่ทันตั้งตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเอกสารต่างๆ ก็ดูเตรียมพร้อมไปหมดทุกอย่าง แต่มีอย่างเดียวที่ไม่พร้อมก็คือตัวเธอเองพิพลอยมักจะถือโทรศัพท์ติดตัวตลอดและมักจะค้างสายของกวินเอาไว้ ไม่ว่าเธอจะทำอะไรหรือพูดคุยกับใครกวินก็ได้ยินและรู้เรื่องไปกับเธอด้วย“ผมจัดการเรื่องที่เรียนให้เรียบร้อยแล้วนะครับ”หลังจากที่ทานอาหารเย็นด้วยกันเสร็จเพชรก็พูดเข้าประเด็นที่กำลังสำคัญที่สุดในตอนนี้กวินที่อยู่ในสายพอได้ยินก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาทันที ตอนนี้เขาอยากจะรู้จริงๆ ว่าครอบครัวของพิพลอยกำลังคิดจะทำอะไรอยู่ แต่เขาก็ไม่อาจทนนิ่งเฉยได้อีกต่อไป เวลานี้เขาคงต้องทำอะไรสักอย่างแล้วพิพลอยนั่งนิ่บมองหน้าพี่ชายด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ตั้งแต่เกิดมาเธอยังไม่เคยถูกบังคับหรือกดดันเท่านี้มาก่อนทั้งๆ ที่ทุกคนก็รู้ว่าเธอไม่อยากไป แต่ทำไมทุกคนถึงไม่ฟังความต้องการและความรู้สึกของเธอเลยสักนิด ทำไมทุกคนถึงอยากให้เธอไปอยู่ไกลขนาดนี้“หนูขอตัวก่อนนะคะ”พิพลอยไม่อยากรับรู้
หนึ่งเดือนต่อมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพิพลอยยังคงเรียนอยู่ที่บ้านเหมือนเดิมไม่ได้ออกไปไหน และโทรคุยกับกวินแทบจะตลอดเวลาความสัมพันธ์ของพิพลอยกับกวินก็เริ่มพัฒนาในทางที่ดีขึ้นอีกครั้ง ดีจนพิพลอยอยากจะกลับไปใช้ชีวิตที่คอนโดเหมือนเดิมแต่เธอก็ยังไม่กล้าพอที่จะขอคุณพ่อกับคุณแม่ตั้งแต่ที่เธอสัญญาว่าจะขอไปเป็นกำลังใจที่ศาลวันนั้น เธอก็ไม่กล้าที่จะขออะไรอีกเลย ส่วนทางด้านกวินก็เข้าใจพิพลอยมากขึ้น ไม่บังคับและไม่เอาแต่ใจตัวเองเหมือนเมื่อก่อนกวินเฝ้ารอและอดทนเจอพิพลอยแค่สัปดาห์ละครั้งในตอนที่เธอออกไปร้านนวดกับคุณแม่ และเธอก็แอบออกมาเจอเขาทุกครั้งทว่าอาทิตย์นี้คุณแม่ของพิพลอยติดธุระกับญาติๆ เธอก็เลยไม่ได้ออกจากบ้านและไม่ได้ไปหากวินเหมือนทุกครั้งแค่เจอกันอาทิตย์ละครั้งก็นานพอแล้ว แต่อาทิตย์กลับไม่ได้เจอ ทำเอากวินคิดถึงพิพลอยจนแทบบ้า ชีวิตเขาเปลี่ยนไปเป็นอย่างมากตั้งแต่รู้ใจตัวเองว่ารักพิพลอยจริงๆยิ่งตอนที่เขาสู้คดีก็ยิ่งทำให้เขารู้และมั่นใจว่าพิพลอยนั้นรักเขามากแค่ไหน“วันนี้มึงมีนัดกับพิพลอยไม่ใช่เหรอวะ” ไทเกอร์ถามขึ้นมาเพราะจำได้ว่าวันนี้กวินต้องไปหาพิพลอย“นั่นดิวะ แล้วมึงมานั่งเศร้าทำไม”
ช่วงค่ำของวันพิพลอยนั่งเขี่ยอาหารในจานของตัวเองไปมา ตอนนี้ในหัวของเธอมีคำถามมากมายเต็มไปหมด วันนี้ทั้งกวินก็ไม่โทรมาหาเธอและตอนนี้พี่ชายของเธอก็กำลังทานอาหารและคุยเรื่องงานกับคุณพ่อโดยไม่มีท่าทีว่าการสนทนาในครั้งนี้จะจบลงง่ายๆใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงกว่าพี่ชายของเธอจะเดินขึ้นห้องทำงาน พิพลอยใช้โอกาสนี้เดินตามพี่ชายไปทันที“พี่เพชร”“มีอะไรหรือเปล่า” ชายหนุ่มถามน้ำเสียงนิ่งเรียบ สายตายังคงจ้องมองเอกสารที่อยู่ตรงหน้า“เรื่องคดีเป็นยังไงบ้างคะ” หญิงสาวไม่รีรอรีบถามเข้าเรื่องที่อยากรู้ทันที“พี่เข้าไปดูให้แล้ว”“แล้วพี่วินมีโอกาสรอดกี่เปอร์เซ็นต์คะ” คำถามเดียวที่พิพลอยอยากจะรู้ในตอนนี้“เก้าสิบเปอร์เซ็นต์”คำตอบของเพชรทำเอาหญิงสาวยิ้มกว้างพร้อมกับวิ่งเข้าไปกอดพี่ชายเอาไว้แน่นด้วยความดีใจ“ถ้าพยานไม่กลับคำให้การในชั้นศาลนะ”ทว่าประโยคต่อมาทำให้พิพลอยถึงกับหุบยิ้มทันที“หมายความว่ายังไงคะ” ใบหน้าสวยขมวดคิ้วถามพี่ชายด้วยความสงสัย“ถ้าไม่มีใครไปข่มขู่หรือทำอะไรพยายาน แล้วเล่าตามที่เล่าวันนี้ หมอนั่นรอดแน่นอน” เพชรอธิบายให้น้องสาวฟัง“พี่ช่วยให้คนของเราไปดูแลความปลอดภัยให้พยานได้ไหมคะ” พิพลอ
เช้าวันต่อมาร่างสูงหยุดยืนที่หน้าสถานีตำรวจเพื่อตั้งสติตัวเองสักพัก สองวันแล้วที่เขาแทบจะมาพักอาศัยอยู่ที่นี่เพื่อพูดคุย ไก่เกลี่ยและหาหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีและเพื่อยืนยันว่าเขาไม่ใช่คนผิดทว่าหลักฐานที่มีช่างดูห่างไกลจากความจริงเป็นอย่างมาก แต่กวินก็หวังว่าเขาจะรอดจากเรื่องนี้ไปได้ เพราะเขาไม่ได้เป็นคนทำผิดตามที่ถูกกล่าวหากวินเดินตรงเข้าไปในห้องที่คุ้นเคยพร้อมกับทนายและมีตำรวจที่กำลังรอเขาอยู่ภายในห้อง เขาเข้าออกที่นี่จนแทบจะรู้จักและสนิทกับตำรวจทุกคน“เป็นยังไงบ้างครับ” ตำรวจนายหนึ่งทักทายขึ้นมาตามมารยาทและเขาก็เชื่อว่ากวินไม่ใช่คนผิด เพียงแต่ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดมาช่วยยืนยัน“หลักฐานที่มียังไม่พออีกเหรอครับ” ชายหนุ่มถามกลับเพราะเขามีกราฟฟิกที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วยทั้งหมดมาช่วยเป็นพยานให้“ยากครับ ถ้าพูดกันตามตรงก็คือไม่น่ารอดครับ” ตำรวจพูดไปตามหลักฐานที่มีทั้งหมด เพราะอีกฝ่ายมีทั้งเงินและอำนาจ“มันจะไม่มีสักทางเลยเหรอครับ” กวินแทบกุมขมับเมื่อได้ยินในสิ่งที่ตำรวจพูดออกมา ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้ทำผิดอะไรด้วยซ้ำ แต่กลับต้องมาโดนคดีฆ่าคนตาย“หลักฐานของอีกฝ่ายแน่นมาก แถมยังมีพยานเป็
พิพลอยเดินหน้าเศร้าขึ้นมาบนห้อง ถ้าหากเธออยู่คอนโดเหมือนเมื่อก่อน ตอนนี้เธอคงจะออกไปหากวินแล้ว ถึงแม้จะช่วยอะไรไม่ได้แต่เธอก็อยากจะอยู่ข้างๆ และคอยเป็นกำลังใจให้เขาในวันที่เขามีปัญหาครืด~ ครืด~เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาทำให้หญิงสาวหลุดจากภวังค์ของความคิด แล้วรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสายทันที“เป็นยังไงบ้างคะพี่วิน” หญิงสาวถามด้วยท่าทางตื่นเต้นและรอฟังคำตอบจากชายหนุ่ม(ทนายคุยให้พี่ก็เลยได้ประกันตัวออกมาเพื่อหาหลักฐานเพิ่มครับ) กวินบอกด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยล้า เพราะวันนี้เขาอยู่ที่โรงพักทั้งวันไม่ได้ออกไปไหนเลย“ให้หนูช่วยเป็นพยานให้พี่วินได้ไหมคะ” พิพลอยลองเสนอเพราะเธอคุยโทรศัพท์กับเขาและเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง และเธอสามารถยืนยันได้ว่ากวินไม่ใช่คนผิดอย่างแน่นอน(ไม่เป็นไรครับ พี่ไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่มีอะไรที่หนูจะต้องกังวล อีกอย่างพี่ไม่อยากให้หนูมายุ่งเกี่ยวกับคดีแบบนี้) กวินตอบไปตามที่คิด เพราะเขาไม่อยากให้เธอเดือดร้อนไปด้วย“แล้วพี่วินจะทำยังไงต่อไปคะ ที่หนูฟังมาพวกนั้นมีหลักฐานมัดตัวพี่วินแน่นเลยนะคะ”ความเป็นห่วงครอบงำทำให้พิพลอยวิตกกังวลไปหมด หลังจากที่ได้อ่านข้อความที่ลดาส่งมาให้ ทำ
เช้าวันต่อมากวินงัวเงียตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น ซึ่งเขาตั้งเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืนเพราะวันนี้เขามีนัดไปทานข้าวกับพิพลอยร่างหนาลุกขึ้นนั่งและบิดตัวไล่ความขี้เกียจอยู่บนเตียง ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงและเดินตรงไปยังห้องน้ำใช้เวลาไม่นานชายหนุ่มก็มายืนแต่งตัวอยู่ที่หน้ากระจก วันนี้เขาเลือกที่จะแต่งตัวสบายๆ แต่ก็แฝงไปด้วยความหรูหรา ถึงเสื้อผ้าที่ใส่จะเป็นสีพื้นดูสะอาดตา แต่ก็เป็นแบรนด์เนมราคาแพงทั้งนั้นมือหนาหยิบน้ำหอมขึ้นมาฉีดเพื่อเพิ่มความมั่นใจก่อนจะออกจากห้อง ใบหน้าหล่อที่เคยดูสะอาดตาวันนี้กลับมีผ้าก๊อซติดแผลอยู่ที่หางคิ้ว แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความหล่อของเขาลดน้อยลงชายหนุ่มตรวจเช็คความเรียบร้อยอยู่สักพัก ก่อนจะเดินไปหยิบกุญแจรถยนต์ที่วางอยู่โต๊ะข้างๆ เตียงนอนพรึบ!!ประตูหน้าห้องถูกเปิดออกจากคนที่อยู่ด้านนอก พร้อมกับมีตำรวจบุกเข้ามาภายในห้อง ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เร็วจนกวินไม่ทันตั้งตัวชายหนุ่มยืนนิ่งด้วยความตกใจและสงสัยในสิ่งที่เกิดขึ้น ทุกอย่างดูงงๆ เหมือนความฝันไม่ใช่ความจริง“เกิดอะไรขึ้นครับ” เมื่อตั้งสติได้กวินก็ถามขึ้นมาทันที“คุณเป็นผู้ต้องสงสัยที่ฆ่าเด็กเ