“มึงว่าไงนะ?” คาร์ลเตอร์แทบไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ตวัดสายตาลงไปมองด้านล่างทันที“เธอมากับใคร แล้วนั่งอยู่ตรงไหน” เคอร์วินที่ได้ยินก็หันไปมองด้านล่างเช่นกันทำให้เพื่อนอีกสี่คนเริ่มอยากรู้ขึ้นมาว่าคนที่ชื่อ ‘ผิงอัน’ คือใครกันถึงทำให้สองแฝดดูลุกลี้ลุกลนได้เพียงนี้พรึ่บ!! สองคนพี่น้องลุกจากโซฟาพร้อมกันแล้วเดินออกไปจากห้องทันทีลูเซียโน่ที่กำลังจะอ้าปากถาม ก็ได้แต่ต้องกลืนคำพูดทั้งหมดลงคอ“คนไหนคือผิงอัน” เรนเดลเอ่ยถามลูก้าที่ยังไม่ได้เดินออกไป“ผู้หญิงที่ยืนอยู่โต๊ะตรงกลางคนเดียวน่ะครับ ชุดเดรสสีดำเปิดโชว์หลังครับ”สี่หนุ่มบรูทิชที่เหลือจับจ้องไปที่ผู้หญิงที่ลูก้าบอก และเป็นจังหวะที่เธอหันมาชนแก้วกับผู้ชายพอดีเมื่อได้มองก็เข้าใจเลยว่าทำไม เธอทั้งสวยสะกดตา นี่ขนาดในคลับไม่ค่อยมีแสงสว่างของไฟนะยังไม่สามารถปกปิดความสวยของเธอได้เลย“หน้าตาคุ้นๆ …” เรนเดลที่ยังไม่เมาเพ่งดูใบหน้าของผิงอันก็รู้สึกคุ้นตาอย่างบอกไม่ถูก“เหมือนเด็กผู้หญิงคนนั้นหรือเปล่า รักแรกของไอ้แฝดอะ” ลูเซียโน่พูดโพล่งขึ้นมา ที่จำได้เพราะตอนเป็นเด็กพวกเขาเล่นกับเด็กผู้หญิงคนนั้นมาเหมือนกันตั้งแต่จำความได้ เธอน่ารักตัวเล็ก ผิ
“ไง เจอกันเร็วกว่าที่ฉันคิดนะ” คาร์ลเตอร์สอดมือกอดไปที่เอวของเธอทั้งที่ก็มีมือของเคอร์วินอยู่ด้วย เธอพยายามใช้มือและแรงที่เหมือนแรงมดดันอกของพวกเขา แต่มีหรือที่สองแฝดจะปล่อย พวกเขาเพิ่มแรงกอดมากขึ้นไปอีก“ฉันก็ไม่คิดว่าจะเจอพวกคุณเร็วแบบนี้เหมือนกันค่ะ”“แล้วไม่มีดีใจเหรอที่เจอพวกฉัน” คาร์ลเตอร์เอ่ยถาม“เอ่อ…ไม่รู้สิคะ แต่ตอนนี้พวกคุณช่วยปล่อยฉันก่อนได้ไหม”“และถ้าพวกฉันไม่อยากปล่อยล่ะ เธอจะทำยังไง” เคอร์วินไม่พูดเปล่าแต่ก้มหน้ามาหอมแก้มเธออีกด้วย เคอร์วินเองก็เริ่มเมาแล้วเหมือนกัน ทำให้อยากทำอะไรก็จะทำ“ปล่อย ฉันอึดอัดค่ะ” ร่างบางดิ้นไปมาในอ้อมแขนของพวกเขา“ไม่จนกว่าจะตอบคำถามของพวกฉัน” เคอร์วินพูดเสียงเรียบยังคงคลอเคลียอยู่ที่พวงแก้มของเธอ คาร์ลเตอร์ก็สูดดมความหอมที่ซอกคอของเธอ“มากับใคร” คาร์ลเตอร์กระซิบถาม ปลายจมูกเลื่อนผ่านแก้มเธอจนเธอรู้สึกขนลุก“ฉันจะมากับใครก็ไม่จำที่จะต้องบอก อื้อ” เธอยังคงพยายามดันพวกเขาออก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลย ‘ไอ้พวกหมีควาย! มันเกี่ยวอะไรทำไมต้องมาวุ่นวายกับฉันด้วย’ เธอสบถด่าในใจ“อย่าให้ต้องถามซ้ำ มากับใครแล้วทำไมถึงได้แต่งตัวไม่เซฟตัวเองแบบนี้ผิงอัน” เคอ
หลังจากที่คาร์ลเตอร์ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับอีวานเขาหันมาหาขนมปังเพื่อนสาวคนสนิทของผิงอัน ก้มตัวใช่แขนโอบกอดบริเวณต้นขาเล็กพยายามไม่ให้มือได้แตะสัมผัสโดนร่างกายขนมปัง คาร์ลเตอร์ยกตัวเธอขึ้นพาดบนบ่าแกร่ง แล้วเดินเข้าไปในลิฟต์ที่มีเคอร์วินกับผิงอันรออยู่ก่อนหน้าแล้ว“กรี๊ด! ทำบ้าอะไรปล่อยฉันนะ”ขนมปังร้องโวยวาย ดีด ใช้มือตีหลังคาร์ลเตอร์หวังให้เขาปล่อย แต่แรงที่เหมือนผีเสื้อกระพือปีกนี่มันช่างไร้ประโยชน์เสียจริง“เงียบ”เสียงเข้มดุทำขนมปังที่ดิ้นๆนิ่งไปทันที ไม่รู้ทำไมเพียงแค่เขาพูดออกมาแค่คำเดียวแต่ทำเธอกลัวจนตัวชาได้ โทนเสียงเข้มๆแบบนี้ มันทำให้เธอนึกถึงผู้ชายที่สัปดาห์ก่อนหน้าที่ได้เจอกันที่คลับเลยทำตัวอุกอาจเหมือนกับอีตานั่นเปี๊ยบ!ไอ้บ้ากามที่จับหัวเธอกดไปที่เป้ากางเกง! ฮึ่ย! แค่คิดก็หงุดหงิดขึ้นมาเลย ส่ายหัวไล่เอาความคิดในคืนนั้นออกไป กลับมาคิดหาวิธีที่จะทำให้พวกเธอทั้งสองคนหลุดพ้นเหนือมือสองแฝด ขนมปังคงไม่รู้ว่าอีกไม่กี่นาทีหลังจากนี้เธอกำลังจะได้พบกับบุคคลอันตรายมากกว่าสองแฝดอีก..“เคอร์วินปล่อยฉันลง! ไอ้โรคจิตนี่!”ผิงอันสารพัดจะหาคำมาด่าแต่เขาก็ไม่ได้แสดงท่าทีที่จะปล่อยเธอลงเ
“เอาไป”คำพูดเรียบเฉยของคาร์ลเตอร์ที่พูดกับอีวาน ตุบ! คาร์ลเตอร์อุ้มขนมปังมาวางลงที่ข้างอีวาน ควรใช้ว่าโยนเธอลงมาเสียมากกว่า จากนั้นเขาก็เดินตามน้องชายเข้าไปยังห้องลับหลังกำแพง“อ๊ะ! วางเบาๆไม่ได้รึไงฮะ! ไอ้แก่หัวขาว!”“อะไรเนี่ยมีแต่ไอ้พวกตาฟ้า”เพราะเมาทำให้เธอหลุดพูดอะไรที่ไม่น่ารักออกมา และขนมปังที่ไม่ได้สังเกตว่าตอนนี้เธอนั่งอยู่ข้างใคร กลับลุกขึ้นยืนชี้นิ้วด่าสองแฝดต่อ และเริ่มลามปลามไปด่าคนอื่นๆที่อยู่ภายในห้อง“ฉันจะแจ้งตำรวจให้มาจับพวกแกให้หมดเลย! มาเที่ยวประเทศคนอื่นทำไมไม่ให้เกียรติคนในประเทศเขาบ้าง” ขนมปังยืนเท้าเอวด่ากราด ทั้งที่ยืนแทบจะไม่ไหว เพราะเหล้าที่เธอเื่มเข้าไปเยอะมากParts Evan 👑 & Kanompang 🍞หมับ! ตุบ! ขนมปังโดนกระชากแขนจากอีวานที่นั่งอยู่ข้างหลังของเธอ แต่เธอไม่รู้ว่าเป็นใคร เขาดึเธอให้ลงมานั่งทับที่ตักของตัวเอง“หึ ตำรวจประเทศเธอ?”“แค่ให้เศษเงินไม่กี่สตางค์ ก็เหมือนสัตว์เชื่องๆตัวหนึ่งอะเหรอ?”“จะสั่งให้ไปขวาที ซ้ายทีมันก็ทำตาม” “ตำรวจที่ให้ความสำคัญกับเงินมากกว่าประชาชน”อีวานใช้น้ำเสียงทุ้มต่ำกระซิบแนบชิดใบหูเล็ก ทำเอาคนตัวเล็กเบี่ยงหน้าหนี ขวับ! ก่อนจ
เคอร์วินอุ้มผิงอันเข้ามาในห้องลับหลังกำแพง ห้องใหญ่ เฟอร์นิเจอร์ด้านในเป็นสีดำทั้งหมด ยกเว้นแต่ เตียงนอนขนาดคิงไซส์ มันมีสีแดงเข้ม ขอบเตียงและหัวนอนเป็นสีทอง แกะสลักเป็นรูปนกฟีนิกซ์เพลิงโดดเด่นชวนให้ต้องมอง สีทองที่มาจากทองคำบริสุทธิ์ เขาค่อยๆวางเธอลงที่เตียงนอนคิงไซส์ ส่วนเคอร์วินนั้นโน้มตัวลงเข้ามาใกล้ๆผิงอัน มือของเขาทาบวางลงข้างลำตัวเธอทั้งสองข้าง ไม่ให้มีทางหนี “สรุปจะคุยเรื่องอะไรคะ” ผิงอันเงยหน้าขึ้นประชันสายตากับเคอร์วิน เธอตั้งใจจะไม่หลบสายตาเขา! ดวงตาสั่นไหวเพราะความกลัว “ดื่มไปเยอะมากเลยใช่ไหม กลิ่นถึงได้แรงขนาดนี้” เคอร์วินได้กลิ่นแอลกอฮอล์ในตอนที่เธอเปล่งคำพูด “ก็ไม่ได้เยอะมากค่ะ แล้วดื่มเยอะฉันผิดอะไรเหรอคะ? ฉันก็แค่อยากให้สมองโล่งไม่ต้องคิดอะไร..” ไม่รู้ทำไมเธอจะต้องมาอธิบายความคิดความรู้สึกของเธอให้เขาฟังด้วย แต่แปลกที่เธอยอมบอกเขาไปตรงๆ เพราะฤทธิ์เหล้า? “รู้ไหมว่ามันอันตราย ที่นี่ไม่เหมาะกับเธอ” คาร์ลเตอร์ที่เดินเข้ามาเอ่ยบอกเสียงเรียบ ยืนมือล้วงกระเป๋ากางเกง สายตาที่ว่างเปล่าจ้องมาที่เธออย่างไม่พอใจ “ใช่ค่ะอันตราย” “อันตรายมากเพราะมีพวกคุณน่ะ
“ฉันอยากลองมีเซ็กส์ค่ะ“ ”และอยากมีกับพวกคุณทั้งสองคนพร้อมกัน!”เธอพูดมันออกมาโต้งๆ น้ำเสียงหนักแน่นอย่างเอาจริงเอาจัง จนสองแฝดเองยังอึ้นไปต่อไม่เป็น ส่วนผิงอันเธอคิดมาดีแล้ว จริงๆ วันนี้เธอก็ตั้งใจแน่วแน่ว่าอยากลองมีเซ็กส์ดู คนอื่นคงคิดว่าเธออยากลองเพราะความสนุกหรือจะคึกคะนองก็ตาม แต่เปล่าเลยเธอแค่สัมผัวกับคำว่าเซ็กส์ ที่หลายๆคนบอกว่าดีก็เท่านั้น และยิ่งตอนนี้มีแอลกอฮอล์มาช่วยเพิ่มความกล้าแล้วด้วย ไหนๆ ก็ขออะไรก็ได้จากสองแฝด เธอก็อยากจะลองสักครั้ง และครั้งแรกของเธอถ้าจะให้มันกับพวกเขาเธอก็จะไม่มานั่งเสียดายเลยสักนิด ออกจะคุ้มด้วยหรือเปล่านะ… “รู้หรือเปล่าพูดอะไรออกมา”คาร์ลเตอร์ถามย้ำอีกครั้งว่าไม่ได้ฟังที่เธอพูดผิด “รู้ค่ะ สติครบถ้วน” สติเท่ากับศูนย์ แต่ความต้องการเต็มสามร้อยเปอร์เซ็นต์ ตื่นมาเธออาจจะจำหรือจำไม่ได้ แต่ตอนนี้เธอไม่อยากโกหกความตั้งใจและความรู้สคกที่ต้องการพวกเขา “ไม่ เธอกำลังเมา ฉันไม่ชอบมีอะไรกับคนเมา”เคอร์วินสะบัดหน้าหันนี้ ไม่ใช่เขาไม่ต้องการเธอนะ แต่จะให้ทำตอนเธอเมามันดูไม่เข้าท่าเท่าไหร่ มันไม่แฟร์ตั้งแต่ที่เธอเมาแล้วมานั่งขอมีเซ็กส์กับพวกเขาแล้ว
“หัวเราะอะไรคะ ฉันอยากก็ไม่ได้แปลว่าฉันเคยทำมาก่อนนี่” “แล้วมันเจ็บมากไหม..”สิ่งที่กังวลในใจสาวน้อย ‘ก็ดี ครั้งแรกของเธอ พวกเขาจะทำให้เธอไม่อยากไปมีอะไรกับใครได้อีก’ “ไม่รู้สิแต่เวลาฉันทำ ฉันรู้สึกดีนะ” เคอร์วินตอบไปตามความจริง ก็เวลาที่เขามีอะไรกับผู้หญิงเขาไม่ได้มานั่งใส่ใจว่าพวกเธอจะรู้สึกแบบไหน เขาก็แค่ต้องการปลดปล่อยอารมณ์ตัวเองก็เท่านั้น “ถ้าครั้งแรก มันจะเจ็บนิดหน่อย” คาร์ลเตอร์เอนตัวลงมานอนในท่าที่ใช้สอกดันกับเตียงใช้มือดันหัวตัวเองเอาไว้ เขานอนตะแคงหันมาที่เธอ โดยที่ยื่นมือมาเกลี่ยผมเธอบริเวณกรอบหน้าเรียวเล็ก ผิงอันหันมามองคาร์ลเตอร์เมื่อเขาบอกว่าจะรู้สึกเจ็บ “แต่ถ้าทำบ่อยๆก็จะไม่เจ็บนะ ลองมาทำกับฉันทุกวันดูสิจะได้ชินแทน”เคอร์วินเอ่ยเสียงหยอกล้อ มุมปากยกยิ้มอย่างคนเจ้าเล่ห์ “เริ่มกลัวแล้วสินะ” คาร์ลเตอร์กดริมฝีปากหนักๆลงไปจูบปากเล็ก ก่อนผละออกมามองใบหน้าสวย มือหนาไม่อยู่เฉยเขาล้วงมือเข้าไปสัมผัสเต้านมของเธอ บีบคลึงเบาๆ นิ้วเรียวเขี่ยไปมาจนเธอต้องกันหน้ากัดปากอย่างเสียวซ่าน “มะ..ไม่ได้พูดเลยว่ากลัว..” ใจดวงน้อยเต้นถี่ระรัวเหมือนกลองยาว เธอตื่นเต้นทุกค
เธอเคยลองพยายามจะเอานิ้วตัวเองเข้าไปแล้วนะแต่ไม่กล้าละก็แอบกลัว แต่มาตอนนี้จะอะไรก็เอาเข้ามาเลยค่ะเธอพร้อมมาก “อยากเสียวกว่านี้ไหมผิงอัน”เคอร์วินดึงนิ้วออก เขาลุกไปถอดกางเกงแบรนด์ดัง ปลดเปลื้องเสื้อผ้าไม่เหลือสักชิ้น “โอ้ ทำไม..หุ่นน่ากัดแบบนี้คะ” “ก็ลองกินดูสิ”คาร์ลเตอร์ยิ้มให้เธออีกครั้ง ผิงอันมองดูก้ามท้องที่ขึ้นเป็นหมัดเรียงกันของคนที่ออกกำลังกายอย่างหนัก ทางคาร์ลเตอร์เองก็ไม่รอช้าปลดเปลื้องเสื้อตามมา สองแฝดมีรูปร่างที่เพอร์เฟค เหมือนตรงหน้าเธอคือรูปปั้นประติมากรรม เหมือนพวกเขาไม่มีอยู่จริง เป็นสิ่งที่เธอไม่อาจเอื้อม แต่ว่าตอนนี้เธอกำลังจะถูกพวกเขากลืนกิน… พรึ่บ! คาร์ลเตอร์ยกตัวผิงอันให้ลุกขึ้นนั่ง เขาถอดชุดเดรสและแพนตี้ตัวน้อยของเธออกจนหมด “พร้อมกันเลยไหม”คาร์ลเตอร์เงยหน้าขึ้นถามเคอร์วิน คาร์ลเตอร์ย้ายตัวเองและผิงอันมาอยู่ปลายเตียง ให้เธอนั่งบนตักเขา โดยที่ร่างบางหันหน้าออกไปทางเคอร์วินที่ยืนอยู่ปลายเตียง “ก็ไม่ติดนะ แต่เธอจะรับไหวไหม” “พูดเรื่องอะไรกันอยู่คะ”เธอไม่เข้าใจเลยว่าพวกเขากำลังหมายถึงอะไรกัน พร้อมไม่พร้อมคือ มีแต่พวกเขาที่เข้าใจยกเว้นเธอ “ก็ เราจะใส่เจ้านี่
"ทนายพอร์ชเชิญอ่านต่อ""ครับ และในส่วนทรัพย์สินของภรรยาทั้งสามที่เสียไปเมื่อสองปีก่อน ที่ไม่เคยเปิดเผยทรัพย์สมบัติ คุณผู้หญิง เธอขอมอบให้กับลูกๆ ตามสายเลือดของพวกเธอ ยกเว้นคุณหญิงอัลลาคุณแม่ของคุณชายออสตินมอบให้กับหลานชายฝาแฝดของเธอแทนลูกชายที่จากไป โดยจะทำการส่งมอบให้แล้วเสร็จภายในสามวัน""ส่วนคฤหาสน์ฝั่งซ้ายมอบให้อังเดรลูกชายคนที่สอง กับที่ดินห้าพันไร่ ตำแหน่งประทานบริษัทเหมืองทองคำสาขาสอง และเงินสดหนึ่งล้านดอลลาร์ ส่วนสร้อยเพชรหนึ่งร้อยกล่องกับเงินห้าหมื่นดอลลาร์มอบให้แอนดิสัน ดูรองซ์หลานสาว บริษัทเครื่องดื่มน้ำแร่ที่ประเทศอิตาลี ตำแหน่งประธานมอบให้แอนโทนีดูรองซ์หลานชาย พร้อมเงินสดอีกหนึ่งแสนดอลลาร์""ถัดมาในคฤหาสน์ฝั่งขวามอบให้ลูกชายคนเล็ก ดักซ์ ดูรองซ์ กับเงินสดหนึ่งล้านดอลลาร์ เครื่องประดับอย่างละหนึ่งร้อยกล่อง กับเช็คเงินสดสิบล้านดอลลาร์มอบให้หลานสาวฝาแฝดทั้งสองคน ไดอาน่า ดิสนี่ย์ ดูรองซ์""และสุดท้ายเงินสดหนึ่งร้อยล้านดอลลาร์ขอมอบให้มูลนิธิในเครืออย่างเท่าๆกัน""จบการอ่านพินัยกรรม..." หลังจากอ่านพินัยกรรมจบทนายก็ขอตัวลาไปจัดการทำเรื่องโอนย้ายชื่อให้มาเป็นของสองแฝด เปลื่ยนชื่อใ
สองพี่น้องเดินบนทางที่ทำจากหินอ่อนเกรดพรีเมี่ยมที่ปู่ชอบตามทางโรยกรีบกุหลาบสีฟ้า ระหว่างสองข้างทางเดินมีบอดี้การ์ดยืนเรียงแถวหน้ากระดานตั้งแต่หน้าหลุมศพยาวไปถึงทางออก ทุกคนพากันก้มหัวและกล่าวเรียกทำความเคารพท่านผู้นำตระกูลทั้งสองคน หลังจากวันนี้จะมีการประกาศอย่างเป็นทางการพร้อมกับเปิดพินัยกรรม แน่นอนว่าเรื่องนี้คงจะเป็นปัญหาภายใน อาจมีคนที่ไม่พอใจจนทำอะไรโง่ๆก็เป็นได้แต่พวกเขาจะไม่ยอมให้ใครมันมาทำลายตระกูลของเราที่มีมาอย่างยาวนี้แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นคนในหรือคนนอก ถ้าไม่ดีหรือมีแผนการทำลายตระกูลพวกเขาก็พร้อมจะตัดคนพวกนั้นออกจากตระกูล เคอร์วินเองก็ต้องขึ้นมาเป็นท่านผู้นำ สองคนพี่น้องพวกเขาคือหนึ่งเดียวกัน ความแข็งแกร่งความสามารถที่ซ่อนไว้นับจากนี้พวกเขาจะได้ใช้มันสักที! 14/01/2023 คฤหาสน์ตระกูลดูรองซ์🕍วันนี้มีการอ่านพินัยกรรม ทุกคนที่มีความเกี่ยวข้องกับอองเดร ทายาทจะได้รู้เรื่องราวที่ถูกเขียนไว้ในพินัยกรรม ทนายที่จะมาอ่านเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือ และเป็นคนสนิทของอองเดรที่ทำงานอยู่ด้วยกันมาทุกช่วงชีวิต จะไม่มีการเล่นตุกติกหรือปลอมแปลงเอกสารอะไรขึ้นมาใหม่ ทุกคำที่จะได้อ่านหลังจากนี้
หนึ่งสัปดาห์หลังผ่านพ้นพิธีงานศพท่านอองเดรไปอย่างเรียบง่ายแต่ก็จัดขึ้นอย่างสมเกียรติของท่าน จัดขึ้นตามพิธีกรรมของศาสนาคริสต์ วันสุดท้ายในการฝังร่างท่านที่สุสานตระกูล สองพี่น้อง คาร์ลเตอร์กับเคอร์วินได้ให้คำมั่นสัญญาต่อหน้าหลุมศพท่านปู่ว่าจะรับหน้าที่ดูแลตระกูลต่อ ตามเจตนารมณ์ของท่านปู่"ผมจะดูแลตระกูลให้ดีเหมือนที่ปู่ปกป้องตระกูลเรามาตลอดจดช่วงสุดท้ายของชีวิต และจะทำมันให้ดีกว่าเดิม พักผ่อนนะปู่"คาร์ลเตอร์กุมมือประสานเข้าด้วยกันก้มหน้าทำความเคารพและเอ่ยต่อหน้าหลุมศพอองเดรอย่างหนักแน่น"ไม่ต้องกังวลนะปู่ ฉันจะเป็นผู้นำตระกูลที่สมบูรณ์แบบให้มากกว่าปู่แน่นอนละก็อีกเรื่องฉันรักปู่นะขอบคุณที่พยายามทำหน้าที่พ่อกับแม่ดูแลตอนพวกฉันยังเด็ก อยู่ในนั้นหวังว่าจะไม่อึดอัดนะปู่...""ปู่คงดีใจนะที่มึงยอมเรียกท่านว่าปู่สักที ตอนที่ท่านยังอยู่ ปู่เขาอยากได้ยินมึงเรียกว่าปู่มาตลอด""มึงก็พูดไปเรื่อยกูก็เรียกปู่ออกจะบ่อย ฉันไปละนะตาแก่ไว้จะมาเยี่ยมพร้อมหลานสะใภ้นะ"เคอร์วินถอนหายใจเฮือกใหญ่แรงๆ ยกมือโบกไปมาและหันหลังไปยืนรอคาร์ลเตอร์ พลางหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบถึงเขาจะชอบพูดหยอกล้อหรือทำตัวนิสัยเด็กน
“แกยังมีหน้ามาพูดถึงออสตินแบบนี้อีกรึ! พี่ชายพี่สะใภ้ตายก็เพราะไปช่วยคนไร้ค่าอย่างแก” “ทั้งที่มีชีวิตรอดมาแต่ก็ไม่สำนึก เคยทำอะไรให้ตาแก่อย่างฉันสบายใจไหม เรื่องธุรกิจตระกูลแกไม่ต้องหวังว่าจะได้ดูแลแม้แต่ธุรกิจเดียวและฉันทำทุกอย่างตามความจริงที่รู้และเห็นอย่างยุติธรรม” แน่นอนว่าอองเดรมองเห็นทุกอย่างทะลุปรุโปร่ง ใครควรได้ไม่ได้อะไร คนที่มีความสามารถกับคนที่ไร้ความสามารถก็มองออกได้ในทันที “สิ่งที่เป็นของคาร์ลเตอร์กับเคอร์วินไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์มาก้าวก่ายหรือคิดจะแย่งไปได้!” “และฉันไม่ได้ลืมว่ามีหลานกี่คน! พวกนั้นก็จะได้ในสิ่งที่เป็นของตัวเอง พามันออกไป!” “อึก!” “นายท่าน!” ดักซ์ถูกหิ้วปีกออกไป เพียงไม่กี่วินาทีต่อมาที่ลูกชายถูกลากออกไป คนเป็นพ่อที่แสร้งทำว่าแข็งแรงทรุดตัวลงต่อหน้าหัวหน้าพ่อบ้าน คนดูแลและบอดี้การ์ด หรือนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผู้นำตระกูลจะได้โต้เถียงกับลูกชายคนเล็ก แต่อย่างน้องก่อนตายเขาก็ได้เจอหลานชายทั้งสองคนอันเป็นที่รักเปรียบเสมือนหัวใจของชายแก่คนนี้ หลังจากนั้นเพียงสามชั่วโมง ตระกูลดูรองซ์ก็ได้พบกับความโศกเศร้า ผู้นำตระกูลได้จากไปอย่างสงบด้วยโรคหัวใจ
จึก! “หยุดได้แล้ว คาร์ลเตอร์!” ปลายแหลมคมมีดที่กำลังจะปักลงกลางอกชายวัยกลางคนสุดด้ามได้ถูกห้ามจากเสียงแหบแห้งของชายสูงอายุ ผู้นำตระกูลดูรองซ์ อองเดรเดินออกมาจากลิฟต์พร้อมกับผู้ดูแลข้างกาย มือที่เหี่ยวแห้งเปลี่ยนไปตามกาลเวลาแตะลงบนบ่าหลานชายบีบเบาๆ แต่คาร์ลเตอร์เพียงดึกมีดที่แทงเข้าไปแค่ปลายออกเท่านั้น แต่เขายังคงใช้มือทั้งห้านิ้วบีบคออาตัวเองไว้แน่นแทบจะกำได้ทั้งรอบคอ ดักซ์ดวงตาเบิกโพลงนัยตาแดงก่ำ “แค่กๆ อึกพะพ่อ..”เขายังคงดิ้นทุรนทุราย แรงที่มีเหลือก็เริ่มที่จะหมด ภาวนาให้พ่ออย่างอองเดรช่วยตัวเองจากน้ำมือหลานชาย “ยังไงนี่ก็ลูกชายปู่ ปู่จะสั่งสอนมันเอง”น้ำเสียงชายชราที่พูดอย่างสงบแต่คนฟังรู้ดีว่าหมายถึงอะไร ดักซ์ก็แค่หมากตัวหนึ่งที่ปู่เขาเป็นผู้ควบคุม อำนาจปกครองยังอยู่ในมือของอองเดรถึงแม้ท่านจะแก่ชรามากแล้วก็ตามแต่ทุกคนยังให้ความเคารพและเกรงกลัวอำนาจ และเขาที่เป็นหลานก็ควรต้องทำตามคำสั่งกับเชื่อฟัง ถึงนี่จะเป็นเรื่องที่อยากขัดคำสั่งที่สุดในชีวิตของคาร์ลเตอร์เลยก็ว่าได้ “น่าหงุดหงิด! ” ตุบ! ร่างหนาของดักซ์ถูกปล่อยเป็นอิสระโล่งลงสู่พื้น เขาลงไปนอนกลิ้งตัวไปมาหงายตัวขึ้นนอน
พ่อบ้านเดินนำพาทั้งสองคนเข้าไปในคฤหาสน์ ก่อนจะเดินไปขึ้นลิฟต์ พวกเขาก็ได้เดินผ่านอาดักซ์ น้องชายคนเล็กของพ่อ ลูกชายของปู่อีกคน แต่เป็นลูกกับภรรยาคนที่สาม ส่วนพ่อของคาร์ลเตอร์กับเคอร์วินเป็นลูกของภรรยาคนแรกหรือก็คือคุณผู้หญิงที่จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฏหมายเพียงหนึ่งเดียว“ไม่เจอกันนานเลยนะ ยิ่งโตยิ่งเหมือนพ่อนะพวกแก”สองแฝดไม่ค่อยชอบอาดักซ์พวกเขาไม่สนใจหรือคิดที่กล่าวทักทายด้วยซ้ำ“ญาติผู้ใหญ่คุยด้วยแท้ๆ ปีกกล้าขาแข็งไม่เปลี่ยน คิดว่าเป็นหลานคนโปรดจะทำอะไรก็ได้งั้นสิ”ขวับ!“แน่นอน อย่างน้อยการที่อยากทำอะไรของพวกฉันมันก็มีประโยชน์มากกว่าไม่ทำอะไรนอกจากใช้นามสกุลตระกูลเป็นกะลาคุมหัว!”“มึงว่าใครไอ้เคลว์”“ก็ยืนหันหน้าพูดด้วย หรืออาคิดว่าฉันกำลังพูดกับหมา!แต่แถวนี้ก็ไม่มีหมานะนอกจากอา?”เคอร์วินไม่เกรงกลัวแม้คนตรงหน้าจะมีศักดิ์เป็นอา“มึง คิดว่าท่านพ่อจะยกทุกอย่างให้พวกแกหรอ! ไอ้เด็กเมื่อวานซืน!”“พอ! ท่านปู่นอนป่วยอยู่ยังจะมาหาเรื่องไอ้เคลว์อยู่ได้ ถ้าอามีวุฒิภาวะมาพอก็ควรหยุดได้แล้ว”คาร์ลเตอร์กล่าวเสียงเรียบแต่ดุดัน ทำเอาดักซ์นิ่งสงบปากไปได้แป๊บนึงก่อนจะเอ่ยออกมาอีก“เห็นว่าพ่อฉันอยากเ
French in Paris 🇫🇷 คฤหาสน์ตระกูลดูรองซ์🕍“ไม่ได้กลับมานานแค่ไหนแล้วนะ”น้ำเสียงผู้เป็นน้องชายเอ่ยออกมาขณะรถหรูยี่ห้อโรลส์รอยซ์ขับผ่านรูปปั้นนกฟีนิกซ์เพลิงที่ตั้งเด่นสง่าประดับอยู่หน้าประตูรั้วคฤหาสน์ตระกูลดูรองซ์ สไตล์ของคฤหาสน์คือกรีกโรมินผสมกลิ่นอายของปรารีสร่วมสมัยใหม่ แน่นอนว่า คฤหาสน์ใหญ่โตที่คนนอกอยากเข้า คนในอยากออก…ที่กล่าวมาไม่ได้เกินจริง คนในที่พูดถึงคือพวกเขาเองสัญลักษณ์นกฟีนิกซ์เพลิงแสดงอำนาจให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาคนทั่วไปและยังเป็นหนึ่งในห้าตระกูลของตราประจำสัญลักษณ์สัตว์เทพในตำนาน สืบทอดต่อกันมารุ่นต่อรุ่นตั้งแต่ปี1951 แน่นอนว่าที่กล่าวถึงนั้นยังมีอีกห้าตระกูล ก็คือกลุ่มเพื่อนสนิทของสองแฝด พวกเขามีสายสัมพันธ์อันดีต่อกันมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่คุณตา พวกท่านเองก็ต่างเป็นเพื่อนกันมาก่อนเหมือนกับพวกเขาในตอนนี้“ห้าปี ห้าปีนับตั้งแต่เราก้าวเท้าออกจากคฤหาสน์ของท่านปู่ เราไม่ได้กลับมาที่นี่ตั้งแต่ตอนนั้น”คาร์ลเตอร์หันไปตอบน้องชายฝาแฝด ความคิดที่จะโบยบินด้วยปีกของตัวเองนั้น เคยคิดว่าจะไม่กลับมาในกรงทองนี้อีก แต่สุดท้ายก็เดินกลับมาด้วยตัวเอง ยังไงสายเลือดเดียวกันก็ตัดกันไม่ขา
คาร์ลเตอร์หันกลับมาเมื่อรู้ว่าคนที่เข้ามาคือเคอร์วิน มันไม่เห็นบอกว่าจะเข้าบริษัท แต่ก็นิสัยแบบนี้แหละ ไม่บอกคิดอะไรก็ทำเลย และยังใจร้อนอีก เขาถึงได้คอยเป็นห่วงอยู่ตลอด ก็เหลือกันแค่สองคนพี่น้องนี่นะ จะไม่ให้ห่วงได้ไง“จะมาทำไมไม่บอกก่อน”“ทำไมต้องบอก หรือมึงแอบซ่อนผู้หญิงไว้เหรอ”มองซ้ายมองขวาหยอกล้อคาร์ลเตอร์ เขารู้ว่าไม่มีอะไรอย่างนั้นหรอก ก็ตั้งแต่พวกเขาได้เจอผิงอัน ผู้หญิงคนอื่นก็ไม่เคยได้มาเฉียดเข้าใกล้ รวมถึงอยู่ในสายตา“กวนตีน แล้วมีอะไร”คาร์ลเตอร์ส่ายหัวเอือมระอาความกวนโอ๊ยของน้องชายฝาแฝด“ได้รับอีเมลหรือยัง”เคอร์วินเดินมานั่งลงที่โซฟาสีดำเอนตัวผิง ยกมือพาดไปกับโซฟา“จากตระกูลใหญ่น่ะเหรอ ได้แล้วแต่ไม่ได้เปิดอ่าน”คาร์ลเตอร์ตอบกลับพร้อมนั่งลงโซฟาฝั่งตรงข้ามเคอร์วิน“ตอนแรกกูก็ไม่ได้อ่าน แต่ส่งมาไม่หยุดกูเลยยอมเปิดอ่าน”“…”“มึงจะไม่ถามหน่อยเหรอว่าในข้อความเขียนมาว่าไงบ้าง”“กูไม่ได้อยากรู้เรื่องของตระกูลใหญ่”“อาการป่วยของตาแก่คงแย่ลง คุณอาบอกว่าให้พวกเรากลับไปที่บ้านใหญ่” ตาแก่ที่เคอร์วินพูดถึงก็คือท่านปู่ ผู้เป็นบิดาของพ่อสองแฝดและหัวหน้าตระกูลดูรองซ์“เรียกท่านปู่ดีๆ”คาร์ลเตอ
หนึ่งเดือนต่อมา หลังจากวันที่ผิงอันกลับประเทศจีนไปกับครอบครัว ทั้งสามคนก็ไม่เคยได้ติดต่อกันอีกเลย สองแฝดเองก็เลือกจะรออยู่เงียบไม่วุ่นวาย ไม่ส่งคนไปคอยตามดูเธอ และยังสั่งห้ามลูกน้องทุกคนไม่ให้พูดถึงร่างบางอีกด้วย ในเมื่อแยกย้ายกันไปเติบโต เราก็ไม่ควรไปก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวของกัน เพราะตอนนี้คาร์ลเตอร์กับเคอร์วินก็ยังทำใจไม่ได้ สู้ไม่รับรู้เรื่องเธอเลยจะดีกว่ารับรู้แต่ไม่ได้อยู่เคียงข้างกัน แบบนั้นจะยิ่งเจ็บ แล้วพวกเขาคงดูแลหรือรักษาอะไรไม่ได้ ตอนนี้พวกเขาคงอ่อนแอเกินไป…??? แต่หลังจากที่เคลียร์ธุรกิจสุดท้ายนี้ได้สำเร็จล่ะก็! พวกเขาจะไปทวงคนรักคืนสู่อ้อมอกอีกครั้ง! และจะไม่ยอมปล่อยเธอไปแน่ แม้จะเสียใจจนไม่อยากทำอะไร แต่เพราะก็มีหน้าที่ที่ต้องทำและดูแลชีวิตอีกนับพันคน เหล่าบรรดาลูกน้องและพนักงาน มันคือความรับผิดชอบในส่วนจองผู้กุมอำนาจสูงสุดในบอกบริหาร องค์กร ธุรกิจ ไม่ว่าจะธุรกิจเบื้องหน้าที่ขาวสะอาดหรือธุรกิจเบื้องหลังอันดำมืด… แน่นอนว่าเบื้อหน้าทุกคนรู้จักคาร์ลเตอร์กับเคอร์วินว่าเป็นบริษัทส่งออกอาหารที่ใหญติดอันดับต้นๆของโลก และไหนจะคลับไฮโซอีกมากมาจทั้งในและต่างประเทศ แต่เบื้องลึกเบื