Share

บทที่ 5 บอสน้ำแข็ง

Chapter 5

เหม่ยอี้เดินกลับมาด้วยสีหน้าที่ยิ้มจนแก้มทั้งสองข้างที่กลม ๆ ของเธอเปล่งออกมาได้ชัด เธอเดินเข้ามาในห้องทำงาน ก่อนที่จะส่งเอกสารให้ผู้จัดการเย่วแล้วกลับมานั่งลงที่ตามเดิม

ยิ้มไม่หุบจนฮุ่ยลี่ที่นั่งทำงานอยู่ข้าง ๆ สังเกตขึ้นมา “เหม่ยอี้เป็นอะไรไปน่ะ ทำไมแก้มเธอแดงขนาดนั้น”

“ไม่ ๆ...ไม่มีอะไร” เธอปัดบอกก่อนที่จะก้มหน้าลงมองเอกสารตรงหน้า โดยซ่อนรอยยิ้มไว้ภายใต้ที่ใบหน้านิ่งของเธอ ทั้งที่จริงแล้วอยากจะกระโดดและร้องตะโกนออกมาดัง ๆ

ความรัก...แบบนี้คือความรักใช่มั้ย !

“พี่ทำร้ายฉัน !” นักดนตรีสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงตัดพ้อหลังจากที่งานเมื่อคืนตั้งใจไว้ว่าเขาจะมาตามคำเชิญ แต่สุดท้ายเเล้วกลับเป็นจิ้นฝูที่มาเเทน วันนี้เธอจึงมาหาเฟยหลงเพื่อคุยกันให้รู้เรื่อง เพราะเขาทำให้ต้องเสียหน้ากับเพื่อน ๆ มากมาย อุตส่าห์คุยไว้อย่างดีว่าถังเฟยหลงจะมางานเลี้ยง...เเต่สุดท้ายเขาก็ไม่มา ! !

เฟยหลงทำท่าทางนิ่ง ๆ ราวกับว่าเรื่องที่ได้ฟังอยู่นั้นเป็นเรื่องปกติ ไม่เดือดร้อนหรือสำคัญอะไร เเม้ท่าทางของซูลี่จะไม่พอใจมากนักก็ตาม เขาไม่จำเป็นต้องเเคร์ความรู้สึกของซูลี่มากมายขนาดนั้น เพราะอีกฝ่ายก็เป็นเพียงรุ่นน้องที่เคยรู้จักกัน ไม่ได้รู้สึกพิเศษใด ๆ ด้วย

“พี่ก็รู้ว่า...ฉันขายหน้ามากเเค่ไหน” น้ำเสียงของเธอดูเเผ่วลงเเละรู้ว่าถ้าหากโวยวายมากเกินไป ผลที่ได้จะทำให้เขารำคาญจนออกปากไล่อีก

“ฉันไม่ว่าง” คงเป็นคำตอบที่คลาสสิกมากที่สุดสำหรับการปฏิเสธ ท่าทางของชายหนุ่มนิ่ง ๆ ดูออกจะเบื่อด้วยซ้ำไป

ซูลี่ข่มอารมณ์ขุ่นเคืองเอาไว้พร้อมกับยิ้มหวานสู้

“งั้นเพื่อเป็นการขอโทษ พี่ไปทานมื้อกลางวันกับฉันนะ”

นิ่งและไม่มีคำตอบจากปากของชายหนุ่ม เขาถอนหายใจก่อนที่จะลุกขึ้นจากโซฟา

“ไม่ว่าง ฉันมีประชุม”

คำตอบเดิมถึงกับทำให้นักดนตรีสาวชักสีหน้าออกมาอย่างไม่พอใจ

“ฉันถามเลขาของพี่แล้ว วันนี้ช่วงบ่ายพี่ไม่มีประชุม” ซูลี่ยิ้มก่อนที่จะลุกขึ้นเดินเข้ามาหาชายหนุ่ม

“แล้วยังไง ?” เฟยหลงอย่างไม่สนใจด้วยซ้ำ ถามเลขาไปแล้วไงถ้าเขาไม่ไปสักอย่างจะทำอะไรได้ “ฉันจะทำงาน กลับไปเถอะ”

ไล่กันเห็น ๆ ! !

ซูลี่ยิ้มสู้พร้อมกับเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ

“แล้วพี่ไม่หิวเหรอ? ”

“หิว แต่ไม่อยากไปกินกับเธอ” เฟยหลงตอบไม่อ้อมค้อมจนหน้าของหญิงสาวชาไปข้าง

“พี่ !”

เพื่อตัดความรำคาญเฟยหลงจึงไม่คิดที่จะถนอมน้ำใจของหญิงสาวมากเท่าไหร่ “ทีนี้จะกลับไปได้แล้วใช่มั้ย ?”

ใครจะทนอยู่ต่อ ! !

ซูลี่มองชายหนุ่มด้วยความไม่พอใจ หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พร้อมกับหมุนตัวเดินออกจากห้องไปโดยที่ไม่พูดอะไร ทว่าใจเธอก็ตัดพ้อเขาด้วยความน้อยใจ

เฟยหลงหันมองประตูห้องทำงานปิดลง ความสงบของการทำงานได้กลับมาอีกครั้งหนึ่ง เขาลุกขึ้นเดินมายังโต๊ะทำงานเพื่อเซ็นเอกสารที่ค้างให้เสร็จแล้วออกไปทานอาหารกลางวัน

เกือบบ่ายสามโมง ฮุ่ยลี่ชวนเหม่ยอี้ออกมาหากาแฟชงทานพร้อมกับพูดคุยเรื่องเดิม ๆ ที่ทำให้เธอสะอิดสะเอียนจนแทบอ้วก หญิงสาวยืนพิงกับขอบโต๊ะเท่าอก มือเธอเท้าวางอยู่ข้างบน พร้อมกับใช้มือสองข้างกุมแก้วน้ำอยู่ เหม่ยอี้ยกแก้วกาแฟขึ้นดื่มในขณะที่ฟังฮุ่ยลี่พูดไปเรื่อยๆ จนกระทั่งอีกฝ่ายเปลี่ยนเรื่องคุย

“เหม่ยอี้เย็นนี้พี่ ๆ ที่แผนกมีนัดบอดไปทานข้าวเย็นกับผู้ชายน่ะ” ฮุ่ยลี่เปรยขึ้น “เธอจะไปด้วยกันมั้ย ?”

หญิงสาวมองรีบส่ายหน้าเป็นคำตอบทันที เธอไม่ได้ต้องการหาคู่ถึงขนาดกับต้องไปนัดบอดหาแฟน

“ไม่ไปจริง ๆ เหรอ ?” ฮุ่ยลี่โน้มน้าว “พอดีขาดคนอยู่นะ บางทีงานนี้เธออาจจะมีแฟนกลับมาก็ได้ไง”

มีแฟนกลับมา...เหม่ยอี้กะพริบตารัว พร้อมกับยิ้มเจื่อน ๆ

“ไม่ดีกว่า ฉันคิดว่า...เรื่องความรักปล่อยมันไปเถอะ !”

“ปล่อยได้ที่ไหนกัน เรื่องแบบนี้เป็นสิ่งที่ผู้หญิงฝันเลยรู้มั้ย ?”

ฮุ่ยลี่กล่าวด้วยสีหน้าตื่นเต้น ทว่าเหม่ยอี้กลับรู้สึกว่ามันไม่ใช่ เธอจึงส่ายหน้าเป็นคำตอบอีกครั้ง จนคนชวนนั้นทำหน้าเซ็ง ๆ ขึ้นมาทันที หญิงสาวรู้ว่าการนัดบอดคือหาแฟนด่วนแต่ถึงเธอจะไม่มีใครมาจีบก็อยากจะให้เรื่องนี้เป็นธรรมชาติ...ถ้าไม่มีอย่างมากก็แค่ขึ้นคานเท่านั้น

“เธออยากจะอยู่คนเดียวไร้คู่ไปจนแก่เหรอ ! ฉันน่ะยังอยากมีคนรักนะ ถึงแม้ว่าจะมาจากการนัดบอดก็ตาม แต่ถ้าเราไปด้วยกันได้ละก็...บางที...อาจจะแต่งงานกันก็ได้ !”

เหม่ยอี้ยิ้มแหยๆ ออกมา แต่งงานน่ะเหรอเป็นคำไกลห่างจากความคิดของเธอไปมาก ๆ เลย “เรื่องนั้นฉันไม่เคยคิดเลย”

“โธ่ ! เหม่ยอี้ ต้องคิดได้แล้ว” ฮุ่ยลี่กล่าวพร้อมกับเอื้อมมือตีแขนของเพื่อนร่วมงานเบา ๆ ครั้นเมื่อกำลังอ้าปากพูดขึ้น สายตาของเธอกลับมองไปเห็นชายหนุ่มสองคนที่กำลังเดินผ่านมา “บอสกับผอ. จิ้นฝู!”

ได้ยินคำว่า ผอ. จิ้นฝูเท่านั้นแหละ เหม่ยอี้รีบหันไปมองทันที

เธอยิ้มหวานมองเจ้าชายในฝันด้วยความหลงใหล...โอ๊ยยยย แค่มองเธอก็ฟินแล้ว

“สวัสดีเหม่ยอี้” จิ้นฝูเอ่ยทักทายหญิงสาวด้วยน้ำเสียงปกติ ทำเอาคนฟังถึงกับยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี แทบเรียกได้ว่าตัวลอยขึ้นอากาศเลย

“อ่า...ค่ะ” เธอแค่ขานรับสั้น ๆ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความตื่นเต้นแม้ในขณะที่ชายอีกคนหล่อไม่แพ้กัน แค่สายตาของเหม่ยอี้โฟกัสอยู่เพียงแค่ จิ้นฝูเท่านั้น ส่วนทางฮุ่ยลี่นั้นยิ้มออกมาและมองชายหนุ่มทั้งสองจนกระทั่งเดินจากไป

“หล่อที่สุด !” ฮุ่ยลี่เพ้อออกมา “ฉันอิจฉาจริงๆ ที่ผอ. จิ้นฝูทักเธอ แต่ปกติเขาก็ทักพนักงานทุกคนแบบนี้อยู่แล้วแหละ”

เหม่ยอี้ได้แค่ยิ้มตอบเท่านั้น ก่อนจะถามขึ้นว่า “แล้วอีกคนคือ...”

“คนนั้นน่ะบอสใหญ่ของบริษัทเราเลย เขาหล่อใช่มั้ยล่ะ? แต่ก็นะ ฉันไม่เคยเห็นว่าเขาควงสาว ๆ คนไหนออกงานเลย แถมยังเป็นคนนิ่งๆ ต่างจากผอ. จิ้นฝูด้วย” ฮุ่ยลี่กล่าว

“พวกเขาเป็นพี่น้องกัน ?” เหม่ยอี้เอ่ยถามด้วยความสงสัย

“ลูกพี่ลูกน้องกันน่ะ พ่อของเขาทั้งสองคนเป็นพี่น้องกัน...” ฮุ่ยลี่เริ่มเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชายหนุ่มทั้งสองคนให้เหม่ยอี้ฟัง แต่ดูท่าแล้ววันนี้ก็คงไม่จบง่าย ๆ เมื่ออีกฝ่ายข้อมูลแน่เอี้ยด ! ! และแล้วสุดท้าย...เจ้าชายของเธอก็อยู่ไกลเกินจะเอื้อมถึง

กลับบ้าน ! !

นี่คือเวลาที่หญิงสาวรอมานานแล้ว มือเรียวจัดเก็บเอกสารบนโต๊ะให้เข้าที่ ก่อนที่จะรับคำสั่งจากหัวหน้าชงซานให้นำเอกสารขึ้นไปส่งที่ชั้นยี่สิบเก้าแล้วค่อยกลับบ้านได้ เนื่องจากคนที่แผนกได้ต่างติดงานกันทุกคน

เหม่ยอี้ไม่เคยขึ้นไป เมื่อขึ้นลิฟต์ไปถึงก็เริ่มเดินงมไปตามทางจนกระทั่งอยู่หน้าห้องประตูใหญ่สีน้ำตาล ตรงข้างหน้าห้องมีโต๊ะของเลขาและผู้ช่วยอยู่ เธอจึงก้าวเข้าไปอย่างช้า ๆ พร้อมกับยื่นเอกสารส่งให้เลขาสาวที่อยู่หน้าห้อง

“เอ่อ..ฉันเอาเอกสารมาส่งค่ะ” ซูเจินเลขาของเฟยหลงเงยหน้าขึ้นมองพร้อมกับยิ้มรับ

“ค่ะ” เอื้อมมือไปรับ ในขณะที่เหม่ยอี้ยิ้มให้อีกครั้งหนึ่งแล้วรีบหันหลังเดินจากไป พอดีกับประตูห้องเปิดออก เฟยหลงเดินออกมาพร้อมกับส่งสายตามองหญิงสาวที่คิดว่าเคยพบหน้าเมื่อตอนบ่าย คงเป็นคนเดียวกับที่จิ้นฝูทักทาย

“บอสคะ เอกสารที่ต้องเซ็นค่ะ”

ซูเจินกล่าวพร้อมกับยืนแฟ้มในมือให้เจ้านาย

“เอาไว้ในห้อง เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะมาดู”

เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ก่อนที่จะเดินจากไป เมื่อเดินมาถึงลิฟต์จึงเห็นว่าหญิงสาวยังคงยืนรออยู่

เธอหันมามองพร้อมกับก้มหัวเดินถอยห่างเล็กน้อย ๆ

เฟยหลงมองแวบหนึ่งก่อนที่จะหันกลับมา ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก เขาก้าวเข้าไปพร้อมกับกดรอ แต่เหม่ยอี้ยังคงยืนอยู่ข้างนอก เธอไม่กล้าที่จะเดินเข้าไป เพราะคิดว่ารอบใหม่ดีกว่าแค่ไม่ถึงสิบนาทีเอง

“เข้ามาสิ” เขาเป็นฝ่ายที่พูดขึ้นเมื่อเห็นพนักงานสาวไม่กล้าเดินเข้ามา เมื่อได้ยินเหม่ยอี้จึงรีบก้าวเข้ามาในลิฟต์ เธอยืนห่างจากประธานหนุ่มในระยะที่พอสมควร ช่างเงียบเละอึดอัดดีจังเลย นี่เป็นครั้งแรกที่หญิงสาวรู้สึกกดดันตัวเอง คงเป็นเพราะบอสเงียบขรึมมากเกินไปเเบบที่ฮุ่ยลี่พูดให้ฟัง จริง ๆ นั่นแหละ

Desire of love เพียงรักที่ปรารถนา

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status