[LILIN TALK]"ฝน ฝน ฝน..."เรียกไปเถอะ..ฉันไม่อยากตื่นเลย เพราะฉันไม่รู้จะมีชีวิตอยู่ในร่างนี้ได้นานแค่ไหน อยู่กับหมอณภัทรวันแรก ก็เสี่ยงเสียตัวและเห็นไข่เขาแล้ว โอ้ย! ฉันไม่อยากลืมตาขึ้นเลย ภาพมันติดตาชะมัด "ฝน ถ้าได้สติก็ลุกขึ้นอย่าแกล้งหลับ""ฉันไม่ได้แกล้ง ฉะ.." เมื่อนังปากไม่รักดีหลุดตอบหมอณภัทร ฉันก็เผลอลืมตาพรึบ!ขึ้นมาทันที จนตอนนี้เห็นหมอณภัทรเต็มๆตา และเขากำลังแต่งตัวไปทำงานอยู่จ้ะวาบหวิวอีกแล้ว เดี๋ยวแก้ผ้า เดี๋ยวแต่งตัว..เดี๋ยวเซ็ทผม นี่เป็นหมอหรือเป็นนายแบบหลุดออกมาจากนิตยสารห๊ะ!>\\ทำไม? มันใหญ่เหรอ?"ว้าย! อิหมอทุเรศ!OAO ถามคำถามแบบนี้ออกมาหน้าตาเฉย ก็ใหญ่น่ะสิ ใหญ่มากด้วย แต่ใครจะไปกล้าตอบแบบนั้น"เล็กนิดเดียว-////-""แน่ใจเหรอ? ดูอีกรอบมั้ย?""หมอ! ไม่ดู! จะไปทำงานก็ไปสิ หมอรีบไม่ใช่เหรอ?" ฉันยกมือปิดตาและบอกหมอณภัทรที่กำลังเดินมาหาตกใจ เพราะมือใหญ่ๆของเขา..ทำท่าจะปลดเข็มขัดอีกแล้วโรคจิตชะมัด ยัยปลายฝนชอบผู้ชายแบบนี้เหรอเนี่ย และที่บอกจะให้เกรียติฉัน เขาไม่เห็นจะให้เกรียติฉันเลยย
หมอณภัทรรู้ดีแก่ใจ ว่าปลายฝนไม่เคยคิดกับเขาเกินพี่ชาย แต่วันนี้เขาทนกลิ่นหอมๆของหญิงสาวไม่ไหว..อยากจะอยู่ใกล้ๆและเชยชมสักทีแต่ติดที่ตัวเองไม่อยากทำร้ายความรู้สึกปลายฝนตอนนี้ ที่เขาไม่แน่ใจว่าเธอคิดยังไงกับตน"ตอบมาสิฝน..ฝนรักพี่บ้างไหม?"ลิลินเจอทวนถามก็เริ่มลำบากใจ คิดไปต่างๆนาๆถึงความเป็นไปได้ในตัวปลายฝนทันที เพราะถ้าคนเราไม่รักไม่ชอบ ก็คง..ไม่ตกลงคบหรือตกลงแต่งงานหรอก จะเอายังไงดีล่ะตอนแรกก็อยากจะชิงบอกเลิกให้จบๆ แต่ก็แอบสงสารตัวเองในอนาคต..ถ้าบอกเลิกหมอณภัทร ลิลินที่ิอยู่ในร่างปลายฝนเธอไม่รู้จักใครสักคนเลย เธอคงใช้ชีวิตลำบากแน่ๆ"ระ รัก..ก็รักมั้ง""ถ้ารักแสดงว่าเป็นของพี่ได้แล้วงั้นสิ" หมอณภัทรพูดจากำกวมและมีเล่ห์เหลี่ยมจนลิลินงุนงง แต่เขาก็ไม่ได้รอให้ยัยตัวดีตอบตกลงหรอกนะรีบก้มไปเปิดกล่องสปาเกตตีแทน..และใช้ตะเกียบพันมันขึ้นมาป้อนเธอ"กินก่อนสิ..จะได้มีแรง""แรงอะไรอีก หมอลามกเกินไปแล้วนะ>กิน..""โอ้ยบ้าที่สุด! จะบังคับทำไมเนี่ย! ""กิน""เฮ้อ ก็ได้..คำเดียวนะ-_-" หมอณภัทรไม่ตอบ แต่ดันปาเกตตีที่มีซอสมะเขือเทศป้อนเธอต่อไป ซึ่งลิลินจะทำอะไรได้ เธอจำใจนั่งกินและทำหน้าบึ้งอ
"ผมไม่อยากให้คนไข้ผมติดเชื้อ...ถ้าไม่ใช่ญาติคนไข้ช่วยเว้นระยะห่างด้วยครับ"ติณห์ที่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่ ถึงกับตกใจมองหน้าหมอณภัทร แต่หมอณภัทรเขาไม่แคร์สายตาติณห์ด้วยซ้ำ เขาเอาแต่มองลิลินที่อยู่ในร่างปลายฝนและยกนิ้วโป้งให้เขาอยู่"อะไรนะ?!หมอ..หมอพูดแบบนี้ฉันจะคอมเพลนหมอ!""หมอพูดถูกแล้วครับ พี่ว่าดากลับก่อนเถอะ..ไว้ลินฟื้นเมื่อไหร่ค่อยมาเยี่ยม" พอติณห์เสริม ก็ทำให้ดารกานถึงกับหน้าซีดเผือดจนลิลินได้ทีเบะปากเยาะ และจากนั้นก็กดตาต่ำมองคนที่ไม่คุ้นเคยอย่างสมเพช"เหอะ..จริงๆไม่ต้องมาหรอก เจ้านายฉันไม่ชอบอะไรสกปรกๆ""เอ่อ ค่ะ..งั้นฉันกลับก่อนนะคะ พี่ติณห์คะดาขอตัวนะคะ ขอโทษค่ะที่รบกวน^^""ครับ"แล้วดารกานก็ผิดหวังก้มหน้าก้มตาเดินออกไป แต่ข้างในเธอแทบจะสาปส่งลิลินที่อยู่ในร่างปลายฝนเพราะเธอเหมือนถูกหักหน้าต่อหน้าติณห์ และอายเขามากที่สุด ก่อนจะคิดโกรธว่าผู้หญิงที่เป็นเลขาจนๆ มันเหมาะสมที่จะใช้คำพูดนี้กับเธอ"หึ แค่เลขากับหมอกระจอกๆอย่าปากดีไปหน่อยเลย!"ดารกานกัดฟันพูดทิ้งท้ายหน้าประตูห้องด้วยอารมณ์โกรธจัด ก่อนจะสบัดหน้าเชิด..และเดินดุ่มๆไปกดลิฟต์ทันทีจนตอนนี้..บรรยากาศในห้องคนป่วยตกอยู
'วุ่นวายยังไงคะคุณลุง?!O_O''เจ้าไม่มีสิทธิถาม เพราะเจ้าลั่นวาจาขอข้าแล้ว..'พรึบ!เท่านั้นแหละ..ร่างโตก็หายวับไปกับตา จนทำให้ปลายฝนกระพริบตาถี่ๆเพื่อมองหาอีกครั้ง แต่มันกลับว่างเปล่าและทำเธอหนาวขึ้นฉับพลัน อยู่ๆร่างบางของดวงจิตนั้น..ก็กระสันขนลุกชันขึ้นมา'นะ..หนาว ทำไมอยู่ๆหนาวแบบนี้'เมื่อปลายฝนบ่นและลูบแขนตัวเองเบาๆ ความรู้สึกของหญิงสาวก็ทำให้ติณห์ที่นั่งคุยอยู่กับแม่รีบหยัดตัวลุกจากเก้าอี้ทันที ก่อนที่...เขาจะกดกริ่งเรียกพยาบาล"มีอะไรรึป่าวติณห์ สัญญาณชีพลิลินก็ปกตินี่-_-""แปปนะครับแม่.."ติณห์ตอบแม่เท่านั้น เขาก็กดกริ่งเรียกพยาบาลอีกครั้งอย่างร้อนใจ และเมื่อพยาบาลสาวส่งสัญญาณให้ ซีอีโอหนุ่มก็หยิบไมค์เล็กๆ ขึ้นบอกคนปลายสายทันที"ผมขอผ้าห่มให้คนไข้อีกผืน"ประโยคนั้นทำปลายฝนที่หนาวสั่นเงยหน้าขึ้นตกใจ เธอมองชายหนุ่มที่รับรู้ และก้มดึงผ้าห่มห่มให้ด้วยสายตาละห้อย'โถ..คุณติณห์ ขอบคุณนะคะ'"ลูกรู้ได้ไงว่าลิลินหนาว? ทำเป็นเรื่องฉุกเฉินไปได้-_-""ผมรู้ครับแม่ ผมรู้สึกอย่างนั้น" แม่ของติณห์รู้คำตอบก็ถึงกับลอบถอนหายใจเสียงดัง ก่อนจะแอบนึกสงสัยว่าลูกชายตัวเองนั้น..กำลังผิดแผกไปเพราะขนา
'คุณลิลิน ฉันจะไม่ไหวแล้วค่ะ ฉันไม่มีแรง..คุณต้องเปิดประตูห้องให้ฉันเข้าไป!'ลิลินได้ยินแบบนั้นก็รีบเร่งฝีเท้าเร็วขึ้นๆกว่าเดิม ในขณะที่ปลายฝนตัวเริ่มจางลงๆเรื่อยๆ จนตอนนี้ดวงจิตของเธอเริ่มไม่เหลือเคล้าเดิมแล้วตึกๆ ตึกๆ ตึกๆ"หลบ! ออกไป!!! หลบไปให้หมด อย่ายืนขวางทางฉัน>[][]ฝนเป็นอะไร? มีสติ ไม่มีใครเป็นอะไรนะ!" หมอณภัทรรีบจับแขนลิลินเตือนสติ จนร่างเล็กที่ยืนหอบแหกๆตอนนี้ รีบหันขวับไปมองร่างบนเตียง"ไม่มีได้ไง ก็ฉัน..O_O ฟะ ฟื้นแล้ว!!"เมื่อลิลินหันไปเห็นร่างตัวเอง..ใจดวงน้อยๆก็แทบหล่นไปกองที่พื้น เพราะปลายฝนเธอถูกดึงเข้าไปวูบ..และตอนนี้ก็นอนกระพริบตาปริบๆราวกับคนแข็งแรงดีทุกอย่าง จนทำให้ติณห์ที่อยู่ข้างๆเขารีบหันขวับ!..ตามทันที"ฟื้นแล้ว ลิน! ลิน!..เป็นยังไงบ้างๆ" ขณะที่ติณห์รีบไถ่ถาม หมอณภัทรก็ทำหน้าที่ของตัวเอง เขารีบเรียกพยาบาลและเช็คม่านตา ก่อนจะทดสอบว่าระบบทุกอย่างของคนไข้นั้นปกติแต่ปลายฝนที่อยู่ในร่างลิลินก็พูดมาเสียก
"คุณติณห์ เอ้ย พี่ติณห์เข้าใจผิดแล้วค่ะ!>จะไม่ใช่ได้ไง ปกติแฟนฉันไม่ใช่คนแบบนี้ ที่เธอพูดสามวันก่อนเธอทำจริงๆใช่มั้ย?!"ปลายฝนส่ายหน้ารัวหัวแทบหลุด เธอไม่รู้จะปฏิเสธยังไงกับความคิดไปไกลของติณห์ และเขาก็ไม่จบแค่นี้..ทันทีที่ปลายฝนปฎิเสธเขาก็รีบหยิบพระพุทธรูปองค์เล็กออกมาจากกระเป๋าเสื้อ!!และยื่นไปหาเธอ!"ออกไป ยัยผีโง่-_-!!"ให้ตายเถอะ! นี่มันซีอีโอหนุ่มที่บริหารพนักงานหลายพันคนเหรอ? ทำไมเขางมงายและตลกแบบนี้ แล้ววันก่อนที่หายไป..คือไปเช่าพระมาเหรอเนี่ย!ปลายฝนมองพระพุทธรูปที่ติณห์ยื่นใส่และครุ่นคิดอยู่คนเดียวในหัว เธอเริ่มจนมุมจนไม่รู้จะแก้ไขสถานการณ์นี้ยังไง"ไม่ใช่นะคะ อย่างมงายสิ..ฉันเป็นแฟนพี่ติณห์""แค่คำพูดก็ไม่ใช่ลิลินแล้ว จะออกดีๆหรือให้ฉันเอาพระพุทธรูปนี้ยัดปากเธอ?!"ยัดปาก! ป่าเถื่อนมาก.. "ไม่ออกค่ะ ฉันไม่ใช่ผี! ฉันคือลิลินรัญญารินทร์ ผู้บริหาร LILIN GAM แฟนของคุณนั่นแหละ!""ตลกนะ ลินไม่เคยเรียกฉันว่า 'คุณ'""เอ้ยไม่ใช่ค่ะ.. พี่ติณห์ ฉันสับสนนิดหน่อย"ปลายฝนได้ยินแบบนั้นก็รีบลนลานแก้ไข ก่อนที่ติณห์จะถอยออกไป แล้วเก็บพระพุทธรูปไว้เพื่อจ้องหน้าเธอแทน"มะ มองทำไมคะ?O_o""เ
ลิลินถอนหายใจ และเบือนหน้ามองไปทางอื่นอย่างหมดหวัง เธอคิดมาตลอดหลายวัน..ว่าเธอนั้นคงกลับไปไม่ได้แล้วเพราะปลายฝนกลับเข้าร่างเธอ ก็ไม่เห็นจะมีอะไรคืบหน้าเลยสักอย่าง "เธอพูด เหมือนมันมีวิธีเลยนะ-_-""ตอนนี้ฉันไม่มีหรอกค่ะ แต่หลังจากนี้ไม่แน่ใจ เอาเป็นว่าระหว่างที่อยู่ในร่างคุณ ฉันจะไม่ใช้เงินคุณลิลินสักบาท นี่ค่ะ..ฉันเอาบัตรเครดิตมาให้ และต่อจากนี้ไปฉันจะใช้แค่เงินเดือนที่คุณลิลินให้เท่านั้น^^"พูดจบ..ปลายฝนก็เปิดกระเป๋า แล้วหยิบบัตรเครดิตทุกใบของลิลินออกมาวางบนโต๊ะให้"เรื่องงานล่ะ เธอจะทำยังไง..เธอต้องบริหารงานแทนฉันส่วนฉันเป็นเลขาเธองั้นเหรอ? ตลกสิ้นดี ไหนจะเรื่องแต่งงานอีก เฮ้อ!!""เรื่องนั้นเอาไว้ทีหลังเถอะค่ะ เพราะคุณติณห์ยกเลิกงานแต่งไปแล้ว และอีกอย่างนะคะตั้งแต่ฉันฟื้นขึ้นมาฉันยังไม่เห็นคุณลุงคนนั้นเลยค่ะ ที่บอกว่าน่าจะมีหนทาง เราคงทำได้แค่รอและยื้อเท่านั้น"ลิลินไม่สนใจประโยคหลัง เธอเดินไปนั่งที่โซฟากับปลายฝน แล้วคว้าหมับ! ที่ข้อมือหญิงสาวทันทีจนปลายฝนสะดุ้งตกใจ"ว่าไงนะ! พี่ติณห์ยกเลิกงานแต่งแล้วงั้นเหรอ!!!!""คะ?.. ใช่ค่ะ ฉันว่ามันเป็นเรื่องที่ดีนะคะที่ฉัน เอ่อ..จะได้ไม่ต้อ
ทางด้านลิลินที่ได้รู้คำตอบ ก็ถึงกลับเดินไปนั่งครุ่นคิดที่โซฟา จนปลายฝนเดินตามไปหาและนั่งลงถอนหายใจข้างๆเธอ"เฮ้อ...มาเรื่องที่ฉันถามคุณลิลินดีกว่าค่ะ คุณลิลินคงคิดถึงมากใช่ไหมคะ เพราะฉันเองก็คิดถึงพ่อแม่บุญธรรมเหมือนกัน"ปลายฝนทำเสียงเศร้า จนทำให้ลิลินรู้สึกใจหาย ใช่ใครก็ต้องคิดถึงครอบครัวตัวเองกันทั้งนั้น ลิลินเองก็รอเช่นกัน ที่ปลายฝนจะฟื้นกลับมาและปรึกษากันเรื่องนี้"ฉันคิดถึงใจจะขาด แต่จะทำยังไงได้ล่ะ""มันมีวิธีเดียวค่ะ คือเราต้องเป็นเพื่อนกันไปมาหาสู่กันก่อน ""ยังไงนะ?""ก็คุณลิลินพาฉันไปหาพ่อแม่บุญธรรม ส่วนฉันก็ชวนคุณลิลินไปเยี่ยมพ่อกับแม่คุณลิลินไงคะ"ได้ยินแบบนั้นคุณหนูไฮโซที่เย่อหยิ่งมาตลอดก็น้ำตาคลอเบ้า ก่อนจะเบะปากเบาๆและยกมือปาดน้ำตาที่ไหลออกมา"ฮึกๆ ฉันกลัวตัวเองทนไม่ไหว ร้องไห้ต่อหน้าปาป๊ามาม๊า""คุณลิลินคะ มันต้องมีทางที่เราจะอธิบายได้ว่าเราเป็นใคร แต่เราใช้วิธีนี้ไปก่อนนะคะ ส่วนฉัน..เอ่อฉันจะภาวนาและขอร้องคุณลุงอีกครั้ง อย่างน้อยๆก็ให้เราอธิบายได้บ้างว่าเราเป็นใคร จะได้กลับไปอยู่กับครอบครัวตัวเองค่ะ"ปลายฝนให้กำลังใจลิลิน โดยการจับมือเธอและมองตาอย่างหนักแน่น แต่แปลกล
พรวิเศษที่ตัวเองได้มา เด็กน้อยไม่รู้ตัวเลยสักนิด เขาเอาแต่คิดว่าตัวเองเป็นฮีโร่ โม้กับปาป๊าว่าตัวเองเก่งที่สามารถช่วยอันอันไม่ให้วิ่งชนโต๊ะได้จนกลับมาจากเกาะของครอบครัว ลิลินก้พาพร้อมไปทำบุญครั้งยิ่งใหญ่ ต่อให้มันจะเป็นพรวิเศษที่ได้มา...แต่เธอก็ไม่สบายใจอยู่ดี "หนูกังวลอะไรอยู่เหรอ?" เมื่อถวายสังฆทานเสร็จ พระสงค์ที่รับไปก็ไถ่ถามขึ้นมา ทั้งที่ลิลินเอง..ยังไม่ได้บอกเล่าเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับลูกชายเธอเลยด้วยซ้ำ"คะ?..ถามหนูเหรอคะ?" หญิงสาวถามและชี้ที่ตัวเองงุนงง"ใช่ หนูนั่นแหละ""ค่ะกังวลนิดหน่อย คือ..อยู่ๆลูกชายหนูก็แปลกๆ เขาหายตัวได้ ไม่สิ..หนูไม่รู้จะอธิบายยังไงค่ะหลวงพ่อ พูดไม่ถูก""หลวงพ่อรู้แล้ว ถึงได้ถาม..ว่าทำไมหนูต้องกังวลกับเรื่องนี้ ลูกชายหนูเป็นคนดี วาสนาดีและมีบุญมหาศาล เขาได้พรวิเศษนั้นมา มันจะช่วยปกป้องเขาและคนอื่นๆอีกมาก"ลิลินเม้มปากบางๆของเธอแล้วพยักหน้าตาม ก่อนจะพนมมือขึ้นอีกครั้ง และตัดสินใจพูดบางสิ่งบางอย่าง ที่เธอกำลังอัดอั้นกับหลวงพ่อ"แต่หนูห่วงว่าเขาจะแวบไปตรงนู้นตรงนี้ แล้วเกิดอันตราย ถ้าเลือกได้...หนูอยากให้ลูกชายเป็นคนธรรมดาปกติ หลวงพ่อพอจะช่วยได้มั้ยคะ?""ไ
3 ปีต่อมา..เสียงคลื่นกระทบฝั่ง แสงแดดยามเช้า กลิ่นอายของทะเลที่พัดเข้ามากระทบหน้าตามแรงลม ทำให้หญิงสาวที่นอนกินลมชมบรรยากาศ ยิ้มออกมาอย่างมีความสุขลิลินทอดมองไปที่ทะเลกว้าง...มองไปที่เกลียวคลื่นกระทบฝั่ง...ซ่า ซ่าแต่ระหว่างนั้นหางตาของเธอ ก็มองลูกชายและหลานๆ ที่กำลังนั่งก่อกองทรายกันริมหาดด้วย"ห้ามโยนทรายนะลูก ยังไม่ทานมื้อเช้าเลย เดี๋ยวอาบน้ำใหม่นะ-_-""ได้เลยๆมาม๊า^^"แหมะ! หมดกัน ไม่ทันขาดคำ..ลินินก็กุมขมับ และลุกขึ้นจากเตียงชายหาดทันที เพราะพอบอกจบเท่านั้น..ลูกชายวัยสามขวบของเธอ ก็ปั้นทรายก้อนโต โปะ!เข้าที่หัวสาวๆที่นั่งเล่นอยู่จนหมอณัทร..ที่กำลังเดินออกมาจากตัวบ้าน เห็นหญิงสาวก้าวสามขุมไปหาลูก เขารีบตะโกนตามหลังทันที"ลิน! ไม่ว่าลูกนะ..ค่อยๆสอน~~""รู้แล้วหมอ! โอ๋กันจริงๆเลย" ลิลินบ่นอิบ ก็เดินไปหยุดที่ลูกชายและหลานสาว ก่อนที่ทั้งสามจะเงยขึ้นทำตาปริบๆมองลิลินราวกับเธอเป็นนางพันธุรัตน์ "พร้อม เล่นแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะลูก ไปแกล้งอันอันกับปลายฝันได้ยังไง ม๊าบอกเมื่อกี้ไม่ได้ยินใช่มั้ย>ลิลิน ไม่ดุลูก~" หมอณภัทรตะโกนบอกอีกครั้ง"เออ รู้แล้วหมอ! ไม่ได้ดุ!""ก็..ก็มาม๊าบอกช้
ตอนนี้รอยยิ้มของติณห์กำลังจางหายไป เพราะน้ำตาลูกผู้ชายของเขา..กำลังเอ่อออกมาท่วมท้นพิธีกร : เห็นมั้ยคะ..ว่าบางครั้งความรักก็ไม่ได้เริ่มต้นด้วยความสวยงามเสมอไป แต่ตอนนี้เจ้าบ่าวของเราดูท่าจะไม่ไหวแล้วนะคะ คุณติณห์คะ..ว่าไงบ้าง^^แล้วปลายฝนก็ส่งไมค์ให้ทันที ก่อนที่จะเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาของซีอีโอหนุ่มดูซิ คุณซีอีโอเขาอ่อนไหวอีกแล้ว...ร้องไห้อีกแล้ว..ติณห์ : ผมก็..อยากขอบคุณปลายฝนที่ให้โอกาสผม แล้วผมสัญญาครับ ผมจะรักษาโอกาสนี้ให้ดี...หลังจากวันนี้จะไม่มีใครมาแทนที่ปลายฝน และผมสัญญาว่าจะเป็นสามีที่ดี เป็นพ่อที่ดี เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี จะรักและดูแลเธอคนนี้จนแก่เฒ่า ขะ..ขอบคุณครับมีคำพูดมากมายที่เขาอยากพูด แต่หลังๆเสียงติณห์เริ่มสั่นเครือจวนไม่ไหว เขาจึงรีบตัดบทไว..ทิ้งท้ายด้วยคำขอบคุณพิธีกร : หวานชื่นมากเลย อิจฉา~ แต่งานวันนี้มีโยนช่อดอกไม้ด้วยนะคะ เพื่อนเจ้าสาวคนไหนอยากได้ช่อดอกไม้บ้างเอ่ย^^ไม่มีใครตอบ เพราะเพื่อนเจ้าสาวที่มาก็ท้องกันหมด และถ้าได้มาแย่งชิงช่อดอกไม้ของปลายฝน มีหวังได้ล้มตึงกันแน่ แต่เมื่อช่อดอกไม้ ถูกยื่นให้เจ้าสาวอย่าปลายฝนโยนเท่านั้นแหละเธอก็ถือมันเด
"เกี่ยวอะไรกับลีออง!" คนเป็นแม่ถามลูกทั้งสอง แต่ไม่มีใครตอบ เพราะติณห์กับอันติงเอาแต่จ้องหน้ากันตั้งแต่เกิดมาจนโต ทั้งคู่ไม่เคยมีปากเสียงกันเลยด้วยซ้ำ...ครั้งนี้ครั้งแรก และที่ผ่านมา..ติณห์รักน้องห่วงน้องแค่ไหน..ใครๆก็รู้"ไม่ใช่มัน แล้วจะเป็นใคร?! อย่าคิดว่าพี่ไม่รู้นะ! ว่าอันติงชอบมัน"อันติงเบิกตากว้าง มองหน้าพี่ชายตกใจมาก แต่สักพักก็รีบเก็บอาการ โดยยกมือกอดอกเชิดหน้าขึ้นทันที"ทำไมคะ?! แค่เคยชอบเคยปลื้มเท่านั้น! แต่เราไม่ได้มีอะไรกัน พี่ติณห์คิดว่าชีวิตหนูจะไม่มีผู้ชายคนอื่นเลยรึไง ไม่ได้ลีอองผู้ชายคนอื่นก็มีตั้งเยอะ!""อันติง!!"เสียงตวาดลั่น ทำให้หญิงสาวที่ยืนกรานเถียงถึงกับนิ่ง เธอไม่ได้ตกใจหรอก แต่ใครดุด่าว่ายังไง..มันก็ไม่รู้สึกปวดใจเท่ากับพี่ติณห์ของเธอจนตอนนี้อันติงน้ำตาไหลออกมาอาบแก้ม และค่อยๆลดมือสองข้างไปกำแน่นข้างลำตัวเธอเหนื่อยกับปัญหาเหลือเกิน และมันจะไม่ไหวแล้ว"ฮึกๆอันติงขอโทษ...อันติงคิดว่ามันแค่สนุก ขำๆ ฮือๆแต่ทั้งหมดอันติงป้องกันนะคะ ไม่รู้ว่าพลาดได้ไง อันติงขอโทษค่ะพี่ติณห์ ขอโทษนะคะ ฮือๆ"หญิงสาวยกมือไหว้พี่ชายสะอื้นไห้ตัวงอ จนซีอีโอหนุ่มที่เดือดดาลเริ่มใจอ
"ปลอมมาก-_-^""อะไรเหรอคะ? เพชรปลอมเหรอคะ?" เมื่อปลายฝนถาม ลิลินก็วางมือถือที่เปิดแอพพลิเคชันเฟสบุ๊คลงบนโต๊ะ ก่อนเธอจะเขี่ยมันด้วยปลายนิ้วชี้ จนโทรศัพท์จนไถล~ฟรึบ! ไปหยุดตรงหน้าปลายฝนแล้วตอนนี้หญิงสาวที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็งุนงง หยิบมันขึ้นมาดูด้วยความสงสัยอ๋อ รูปถ่าย..หมอณภัทรกับติณห์ ที่ทำตัวเผลอๆและอุ้มตุ๊กตาเด็กอาบน้ำที่โรงพยาบาล"เธอดูสิ..ปลอมมาก ทำเป็นเผลอถ่าย..แต่อัพรูปลงเฟสตัวเอง หึหึ-_-" ลิลินบอกย้ำแล้วหัวเราะเบาๆออกมาจนปลายฝนเงยขึ้นถามว่า.."ถ้าไม่ปลอม..มันจะเป็นยังไงเหรอคะ?" "เธอเนี่ย ไม่ทันผู้ชายเลยนะ..ฉันน่ะแปลกใจตั้งแต่ท้องแล้ว หมอณภัทรเคยลงรูปที่ไหน? แต่ทุกวันนี้ทำอะไรก็ลง แถมยังอ้อนฉันว่าอยากมีลูกตั้งสี่คนอีก! ""สี่คน!! พี่ณภัทรที่โลภมากขนาดนั้นเลยเหรอคะO_O""ระวังไว้เถอะ สองคนนั้นอยู่ด้วยกัน..ต้องย้ายมาอยู่อุดมการ์ณเดียวกันแน่ ฉันสี่คนเธออาจจะแปด เพราะพี่ติณห์เวอร์จะตาย"เวอร์...เวอร์....สุดจะเวอร์เลย แค่เห็นรูปที่ลิลินให้ดูไม่เท่าไหร่ แต่เมื่อปลายฝนเลิกงานกลับถึงบ้านติณห์ เธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็นในห้องโถงลังสีน้ำตาลเกือบยี่สิบกล่องวางเรียงเป็นตับ! ขณะที่แม่
เมื่อได้รับอนุมัติจากธนาคารประจำบ้าน ติณห์ก็จัดการดิวบริษัทแอร์บัสทีี่ฝรั่งเศษทันที ซึ่งบริษัทแอร์บัสนี้เป็นบริษัทผลิตเครื่องบินยักษ์ใหญ่ จากการรวมทุนของกลุ่มประเทศฝั่งยุโรป ซีอีโอหนุ่มสั่งเครื่องบินเพิ่มสองลำ เป็นเครื่องบินAirbus-A320(-200) รุ่นฮิตบินภายในประเทศหรือแถบเอเชีย Rangeหรือพิสัยการบินราวๆ6,150 กิโลเมตร แลนด์ที่แดนอาทิตย์อุทัยอย่างญี่ปุ่นได้สบายซึ่งติณห์วุ่นวายเจรจากับบอร์ด และบริษัททางฝรั่งเศสจนถึงเย็น ก่อนที่จะสั่งให้โรงงานพ่นสีพิเศษที่เขาจะทำเซอร์ไพรส์ปลายฝนอีกด้วย"เรียบร้อย! ช่วยก็อปปี้เอกสารสั่งซื้อส่งให้บอร์ดบริหารทุกคนด้วยนะ^^""ได้ค่ะคุณติณห์^^" เลขารับแฟ้มไปด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะก้มหน้าก้มตาเดินออกไปหลังจากมีเป้าหมาย..ทุกๆวันของติณห์ก็ทำงานอย่างหนัก อาจจะมีแพ้ท้องบ้างเวียนหัวบ้าง แต่อาการเหล่านั้นมันก็ค่อยๆทุเลา เมื่อเขามองผ่านและพยายามอุดอู้อยู่กับงานอย่างเดียวและที่เป็นแบบนี้ ซีอีโอหนุ่มไม่ได้เฉยเมยต่อลูกและเมียอะไรทั้งนั้น เขาแค่อยากให้ของขวัญปลายฝนกับลูก และเร่งทุกอย่างให้เสร็จทัน เพื่อจะได้มีเวลาเตรียมงานแต่งงานที่ใกล้จะมาถึงนี้"เหนื่อยชิบ" ทันทีที่ติณห์ถึ
อันติงคิดแบบนั้น ก็รีบลุกขึ้นคว้ากระเป๋าสะพายข้าง ก่อนจะหันไปบอกกับแม่ที่นั่งงุนงงฝั่งตรงข้ามทันที"พอดีคืนนี้มีติวหนังสือค่ะ ไว้เรืิ่องชุดอันติงจัดการเอง ขอตัวไปโรงพยาบาลก่อนนะ สวัสดีค่ะ""อ้าวอันติง รีบไปไหนลูก" ขณะที่อันติงกำลังวิ่งออกไปจากห้องอาหาร พ่อก็เดินลงบันไดมาพอดี แต่ทั้งนี้หญิงสาวไม่ตอบ เธอรีบไปที่โรงรถและขับรถมินิคันเล็กนั้นออกไป"คุณเต้ ฉันว่าอันติงแปลกๆ""อืม..ผมก็คิดว่าแปลก ลูกอ้วนขึ้น..สงสัยอ่านหนังสือดึกกินดึก^^""ไม่ใช่แค่นั้นน่ะสิ แต่ลูกสติสตังไม่มีเลย ไม่รู้ว่ามีเรื่องเครียออะไรรึป่าว-_-?""เครียดที่อ้วนมั้งครับ" แล้วทุกคนก็หันมองไปที่พี่ชายคนโตของบ้านที่เดินเข้ามาร่วมโต๊ะอีกคน ขณะที่เขาพาดเสื้อสูทไว้ที่เก้าอี้ และนั่งลงข้างๆปลายฝนด้วย"ก็น่าจะใช่ พักนี้อันติงอ้วนจริงๆ...สงสัยต้องเร่งให้ลดก่อนวันงานแต่งแล้วล่ะ"เท่านั้นแหละซีอีโอหนุ่มก็วางแก้วกาแฟลงทันที ก่อนที่จะมองหน้าแม่กับปลายฝนสลับกันก็เขายังไม่รู้เรื่องฤกษ์ ไม่รู้อะไรสักอย่าง!"เดี๋ยวนะ..แล้วงานแต่ง ได้ฤกษ์แล้วเหรอครับ?""อืม..อีกสองเดือน เราก็เตรียมตัวได้แล้ว-_-"บนรถ"ตั้งสองเดือน มันนานเกินไป!" ที่โต๊ะอ
พิธีกร : แสดงว่าคุณลิลินก็ไม่ได้ปรับอะไรเลยใช่มั้ยคะลิลิน : ไม่หรอก..ฉันปรับค่ะ พอหมอเขาพูดแบบนั้นฉันเองก็ไม่อยากให้เขาเหนื่อยใจ ฉันพยายามปรับอะไรที่ปรับได้ เช่นเรื่องเข้าครัว เรื่องนิสัยใจร้อนของตัวเอง ฉันก็พยายามปรับๆลดๆมันลงบ้าง พิธีกร : แหม ก็เพราะรักและแคร์ใช่มั้ยคะ? เอาล่ะค่ะ เรามาฝั่งเจ้าบ่าวบ้าง..^^พิธีกรเว้นช่วงครู่นึง เมื่อลิลินก้มเช็ดน้ำตาและส่งไมค์คืนให้หมอณภัทร ก่อนที่จะเปิดกระดาษสคริปต์อ่าน และถามเขาว่า..พิธีกร : คุณหมอ...พูดจริงหรือเปล่าคะ? ที่บอกว่ารับได้และไม่ให้คุณลิลินเปลี่ยนอะไร?ลิลินหันขวับมองหน้าพิธีกรทันที ที่เธอพูดไปเมื่อกี้มันไม่มีความหมายเลยรึไง เดี๋ยวเถอะ.. หมอณภัทร : พูดจริงครับ แต่มันก็เป็นคำพูดที่เป็นจิตวิทยาด้วย การที่เราจะเปลี่ยนใครสักคนจริงๆมันไม่จำเป็นต้องพูดหรือสั่ง เราแค่ทำให้เธอรู้สึกรัก..จนรู้ว่าต้องทำเพื่อเราเท่านั้น แต่ทั้งนี้ผมก็รับได้จริงๆนะครับ เพราะผมรักผู้หญิงคนนี้ไปแล้ว..ไม่ว่าเธอจะบอกว่าตัวเองนิสัยไม่ดี หรือไม่เป็นงานบ้าน ผมก็รัก^^ทุกคำ..ทุกประโยค..ลิลินตื้นตันมาก เธอมองชายหนุ่มที่ตัวเองรักทั้งน้ำตา และตอนนี้ก็ไม่สนว่าเครื่องสำอา
"ผมไม่รู้ น้ำตามันไหลเองTT""อะไรเนี่ย" หมอณภัทรงงงวยขนาดหนัก เขาหันซ้ายหันขวามองคนอื่นๆทำตัวไม่ถูกที่ติณห์เป็นแบบนี้เขาเคยเห็นคนไข้บางคน..สามีแพ้ท้องแทนก็จริง แต่ไม่คิดว่าจะเห็นว่ามีคนอ่อนไหว ถึงขั้นร้องไห้แทนเมียได้ตลกดีว่ะ"หมอทำอะไรพี่ติณห์น่ะ-_-"ลิลินเดินมาถาม เมื่อเห็นซีอีโอหนุ่มพยายามเช็ดน้ำตาตัวเอง และถ้าแฟนของทั้งคู่ไม่ท้องไส้.. มองเผินๆเธอคิดว่าคู่รักชายชายกำลังทะเลาะกันนะเนี่ย"ผมไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย" หมอณภัทรตอบ แล้วเหลือบมองติณห์เป็นระยะ เพราะชายหนุ่มเป็นเอามากเหลือเกิน ถึงป่านนี้น้ำตาก็ยังไม่หยุดไหล"ไม่มีอะไรลิน น้ำตาพี่ไหลเอง..พี่แพ้ท้องแทนปลาย ฝนน่ะ ""อ๋อ..ค่ะ แหมแพ้ท้องอ่อนไหวแทนขนาดนี้ ปลายฝนสบายเลยเนอะ""อืม T_T"ตอบทั้งน้ำตาก็ว่าได้ ไม่ว่าจะได้ยินประโยคอะไรที่กระทบกับความรู้สึก ซีอีโอหนุ่มก็น้ำตาไหลพราก จนผ่านไปสักพักผู้ใหญ่มาครบ ทุกคนก็ได้มานั่งรวมตัวกัน และเขากับปลายฝนก็นั่งพับเพียบต่อหน้าผู้ใหญ่ทั้งสี่ที่ตอนนี้...มีพ่อแม่ของติณห์ พ่อแม่บุญธรรมของปลายฝน และสักขีพยานก็คือลิลินกับหมอณภัทร รวมถึงพี่สาวคนโตอย่างพี่ปลายฟ้าด้วย"ผมอยากขอโทษที่ล่วงเกินปลายฝนครับ