เพลิงยังคงกระชากผมลากร่างเธอถูไถขึ้นบันไดมายังชั้นบนอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้สนใจเสียงกรีดร้องและสาปแช่งของอีกฝ่ายเลย แม้ว่าเธอจะพยายามจิกเล็บคมลงบนหลังมือจนเลือดไหลเกิดเป็นแผลเหวอะหวะก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเจ็บ‘ตัดมาที่เหตุสะเทือนขวัญคนไทยสดๆร้อนๆกันค่ะ หลังกลุ่มโจรบุกเข้าปล้นร้านทองมินิเกอร์ หน้าชุมชนสลัมเถื่อน จ.กรุงเทพมหานคร’ในระหว่างที่เดินผ่านหน้าห้องทำงานของตัวเองและเพื่อนๆเพื่อขึ้นไปยังห้องนอนชั้นสาม สองขาแกร่งก็หยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงโทรทัศน์ที่มีพิธีกรกำลังรายงานข่าวเกี่ยวกับเหตุปล้นร้านทองดังลอดออกมา'เมื่อเวลาสิบเจ็ดนาฬิกาสามสิบนาทีของเย็นวันนี้ ประมาณหนึ่งชั่วโมงที่แล้วเศษๆ จากกล้องวงจรปิดในร้านบริเวรรอบๆ คนร้ายสี่คนสวมหมวกไอ้โม่งใช้จังหวะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายที่ประจำการรักษาความปลอดภัยออกไปนั่งกินข้าวกันร้านข้างๆ เปิดประตูสาวเท้าเข้ามาข่มขู่แล้วกวาดทรัพย์สินพร้อมกับเงินสดจำนวนหนึ่งใส่กระเป๋าเป้ ก่อนจะใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงพนักงานในร้านและประชาชนที่ขวางหูขวางตาเสียชีวิตหลายราย และได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรีบวิ่งกลับมาพร้อมเรียกกำลังเสริมก่อนสั่งให
"อึก! ปล่อยกูไอ้ระยำกูไม่ไป ปล่อยสิวะ" กำปั้นเล็กๆกระหน่ำทุบตีใส่ท่อนแขนแกร่งหวังให้อีกฝ่ายคลายพันธนาการ หลังจากได้ยินบทสนทนาระหว่างโจรหนุ่มกับเพื่อนๆของเขา หัวใจดวงน้อยก็แทบจะหยุดเต้น มันเริ่มกลัวไปหมดจนกะจิตกะใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ได้แต่ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองรอด"....." ต่อให้หญิงสาวด่าทอยังไงก็ไม่ได้ทำให้คนอย่างโจรหนุ่มสะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย เนเน่คือผู้หญิงที่เป็นผู้โชคดีคนแรกที่เขาอยากทารุณ ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาเลือกที่อยากจะทำแบบนั้น ตามจริงเขาควรจะฆ่าเธอทิ้งตั้งแต่เห็นหน้าเขาแล้วด้วยซ้ำแต่ในใจกลับไม่อยากให้เธอตายไม่รู้ทำไม และยังเป็นคนแรกที่กล้าทำร้ายเขาโดยไม่มีความเกรงกลัว มันยิ่งทำให้เขาชอบกับความท้าทายนี้ แกร๊ก|ตึง! ทันทีที่เดินมาถึงหน้าห้องนอนมือหนาก็บิดผลักบานประตูเปิดเข้าไปอย่างแรง ทำให้มันกระทบเข้ากับฝาผนังห้องจนเกิดเสียงดังสนั่น ตามด้วยดันตัวหญิงสาวให้เดินเข้าไป ทว่าเธอพยายามขืนตัวไม่ให้เท้าทั้งสองเข้าก้าวไปตามแรงดัน พร้อมกับมือข้างหนึ่งกำขอบประตูไว้แน่น แต่ก็สู้เรี่ยวแรงของอีกฝ่ายไม่ได้จึงต้องปล่อยให้เขาดันเข้ามาในห้องๆหนึ่งที่คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นบุหรี่ดวงตากลม
ถ้าเธอคิดว่าคนอย่างเขาเห็นเงินทองหรือของนอกกายสำคัญ ใช่เธอคิดถูกแล้ว แต่ณ เวลานี้สิ่งที่เขาอยากได้คือตัวเธอไม่ใช่อย่างอื่น"มะ..ไม่..ฮึก..นายจะเอาอะไรก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่ตัวฉัน" เนเน่ปัดมือเขาออกจากปอยผมหนึ่งของตัวเอง พลางปรายตามองไปทางประตูที่เปิดอ้าซ่า แล้วค่อยถัดตัวไปข้างๆเพื่อจะเบี่ยงตัวลงจากที่นอน แต่ยังไม่ทันจะได้ขยับอีกฝ่ายก็คว้าแขนเรียวเอาไว้"มีสิทธิ์อะไรมาปฏิเสธ ถ้ากูจะเอามึงก็ต้องให้" "กูไม่ให้ ปะ..ปล่อย" มือเล็กฟาดลงบนแขนแกร่งของโจรหนุ่มเต็มแรงหวังให้หลุดจากพันธนาการ ทว่าเขากลับคลายมันออกอย่างว่าง่าย สร้างความงุนงงให้เธอไม่น้อย แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้เธอโล่งใจไปด้วย"อั่ก! ปะ..ปล่อยกูไอ้เหี้ย" ยังไม่ทันไรเนเน่ก็ต้องดิ้นพล่านเมื่อถูกกระชากข้อเท้าให้รูดลงมานอนแผ่หลาอยู่กลางที่นอนโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว ตามด้วยร่างของเขาก้าวคร่อมลงมาทำให้เธอไม่สามารถลุกหนีได้เพลิงมองเรือนร่างท่อนบนเปลือยเปล่าของหญิงสาวด้วยสีหน้าเรียบ มือหนาถกกระโปรงนักศึกษาขึ้นเหนือเอวคอดเผยให้เห็นกางเกงชั้นในลายลูกไม้สีดำเหมือนกัน แล้วลูบไล้ไปทั่วผิวนูนจนคนโดนกระทำดิ้นพล่าน พร้อมกระตุกเกร็ง"หึ" เสียงแค่นหัวเร
"กรี๊ดดดดดดดดดดด!! " เนเน่กรีดร้องออกมาอย่างสุดจะกลั้นเหมือนคนเสียสติ แค่โดนเขาย่ำยีก็ขยะแขยงตัวเองมากพอแล้ว ยังจะฝากน้ำรักไว้ในร่างกายของเธออีกมันเป็นอะไรที่น่ารังเกียจที่สุด เธอแทบอยากจะผ่าล้างมันออกไปจากตัวให้หมดแต่ก็ทำไม่ได้"หึ" มุมปากหนายกยิ้มอย่างพอใจ พลางยกมือขึ้นเสยผมที่ตกลงมาปรกกรอบหน้าลวกๆ เพลิงยันตัวขึ้นเอื้อมหยิบซองบุหรี่ที่วางแผ่อยู่ข้างที่นอนขึ้นมาสูบ โดยที่ความใหญ่โตยังสอดอยู่ในกายเธอ"เสร็จแล้วก็เอาของมึงออกไปจากตัวกู..ฮึก..แล้วปล่อยกูไปซะ" เธอใช้ขาดันท้องแกร่งหวังให้เขาลุกออกไป พร้อมพยายามเสียดสีข้อมือแดงเถือกดึงแขนออกจากการพันธนาการของกุญแจ แต่ความรัดแน่นของมันทำให้เกิดเป็นบาดแผล"....." คำพูดของเนเน่เหมือนเป็นแค่เพียงอากาศ โจรหนุ่มอัดควันเข้าปาก แล้วพ่นควันขาวคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ขณะที่มืออีกข้างเลื่อนเข้าไปบีบเคล้นเต้าอวบบดเขี่ยยอดถันปลุกเร้าอารมณ์ปรารถนาให้คนใต้ร่างมีอารมณ์ร่วมด้วย "ตราบใดที่มึงยังไม่ครางกูก็ไม่ปล่อย แล้วจำเอาไว้ว่าเสร็จเพียงครั้งเดียวมันไม่ใช่ตัวกู" ปึก! ปึก!"อึก!" ความเจ็บปวดแล่นพล่านไปทั่วร่างกายเนเน่ทันทีที่เพลิงอัดความรุนแรงเข้าใส่อีกครั้ง
วันต่อมา.."เชี้ย! ไอ้เพลิงยังเอาไม่เสร็จอีกเหรอวะ นี่หกโมงเช้าแล้วนะเว้ย" เล้งเอ่ย ขณะหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องทำงานพร้อมกับเสือ โดยที่สายตาจ้องมองกล้องวงจรปิดผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ด้านหน้าที่ฉายบทรักเร่าร้อนของเพื่อนรักทุกมุมของบ้านพวกเขาจะติดกล้องวงจรปิดหมดยกเว้นห้องน้ำ เนื่องจากเปิดบ่อนเล็กๆซึ่งมีผู้คนและเด็กเฝ้าตามจุดเดินพลุกพล่าน กลัวจะมาขโมยของ แล้วอีกอย่างเวลาฉุดผู้หญิงมาข่มขืนก็ได้เอาคลิปวิดีโอไปลงขาย"แม่งอดอยากมาจากไหนวะ แล้วพวกเราจะได้แดกต่อไหมเนี่ย" เสือว่า"ดูจากสภาพผู้หญิงแล้วไม่น่าได้แดก กูว่าไปบอกให้มันพอเหอะก่อนผู้หญิงคนนั้นจะตาย" เล้งส่ายหน้าไปมาอย่างเอือมระอา ก่อนหยัดกายลุกขึ้นเดินออกจากห้องไป โดยมีเสือเดินตามหลังออกมาปั่ก! ปั่ก! ปั่ก! ปั่ก!เรือนร่างเล็กที่โดนเขาทารุณมาตลอดทั้งคืนติดกันถี่ๆไม่มีเวลาให้เจ้าของได้พักหายใจเลย จนร่างกายบอบช้ำหมดเรี่ยวแรงที่จะแบกรับความรุนแรงนี้ "อื้อ! อึก..พะ..พอแล้ว..ฉะ..ฉันไม่ไหวแล้ว ฮืออออ" หน้าเนเน่เหยเกหอบหายใจรัวรินร้องท้วงบอกเสียงแหบพร่าเจือกระท่อนกระแท่น จนฟังไม่ได้ศัพท์อยู่อย่างงั้น แม้จะรู้ว่าอีกคนไม่ได้สนใจ แต่เธอแค่อย
เนเน่สลัดขาเรียวสั่นเทาออกจากรองเท้าส้นสูงทันทีที่เปิดประตูเดินเข้ามาในห้องพัก มือเล็กค่อยๆปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกทีละชิ้น แล้วกำเสื้อเชิ้ตของเพลิงแน่นพยุงร่างเปลือยเปล่าที่เริ่มหมดเรี่ยวแรงเดินไปยังห้องน้ำซ่า!!น้ำจากฝักบัวไหลผ่านลงมากระทบร่างกายชำระล้างคราบสกปรกที่เพลิงได้กระทำอย่างโหดเหี้ยมให้หลุดออกไปจากตัว เธอหลับตาลงช้าๆปล่อยน้ำตาพลันไหลออกมาอีกครั้ง พร้อมกับใช้มือถูไปตามร่องรอยที่เขาได้ทิ้งไว้บนเนื้อตัวด้วยความรังเกียจและขยะแขยงมันเป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกเกลียดร่างกายของตัวเอง จนแทบไม่อยากเห็นไม่อยากแตะต้องมัน"กรี๊ดดดดดดดด! ฮือออออ" เสียงแหบพร่ากรีดร้องลั่นเหมือนคนสติแตก หญิงสาวสะอื้นไห้ส่ายหน้าไปมา พลางยกมือทั้งสองข้างขึ้นสอดเข้าไปจิกผมตัวเองแรงๆ โดยที่ร่างกายค่อยๆทรุดตัวลงนั่งบนพื้นกระเบื้องเย็นเฉียบอย่างหมดแรง มันเป็นเวรกรรมอะไรของเธอทำไมถึงต้องกำหนดให้เธอมาเจอกับความทรมานแบบนี้ดวงตากลมโตพร่ามัวจ้องมองเสื้อเชิ้ตที่เปียกชุ่มตรงหน้าด้วยความเกลียดชัง เนเน่กรีดร้องขึ้นอีกครั้งอย่างสุดเสียงไปพร้อมกับใช้เท้าบดขยี้มันเพื่อระบายความแค้น สักวันเพลิงจะได้รู้ซึ้งถึงความเจ็บปวดที่ได้ส
@บ่อนโจรโจรหนุ่มนั่งจ้องหน้าจอโทรศัพท์มือถืออยู่บนเก้าอี้โต๊ะทำงานของตัวเองในห้องทำงาน มุมปากหนาประดับด้วยรอยยิ้มร้ายกาจหลังเห็นอีกคนกดอ่านข้อความที่ตนได้ส่งไป แต่ก็ไม่มีข้อความใดๆตอบกลับมาป่านนี้คงคลั่งตายไปแล้วมั่งถ้าถามว่าเขาเอาเบอร์เนเน่มาจากที่ไหนก็เอามาจากเพื่อนรักของเธอนั่นแหละ ไม่มีอะไรที่คนอย่างเพลิงอยากได้แล้วไม่ได้ แค่เบอร์โทรศัพท์หาง่ายๆ"ได้เบอร์ไปแล้ว พี่เพลิงจะไม่ปล่อยคลิปเพื่อนแคทแล้วใช่ไหมคะ" และนั่นคือเสียงแคทเพื่อนรักของเธอที่เขาสั่งลูกน้องไปลากตัวมาจากบ้านเก่าๆแทบจะผุพังหลังหนึ่ง ห่างจากบ่อนไม่มากนัก ขณะที่เจ้าตัวกำลังนอนโทรมเพราะพิษไข้เล่นงานเพื่อเค้นเอาเบอร์โทรศัพท์ กว่าจะได้มาก็นานอยู่เหมือนกันทำไมเขาถึงรู้ว่าแคทคือเพื่อนของเธอน่ะเหรอ ก็เคยเดินผ่านเห็นใส่ชุดมหาลัยเดียวกันบวกกับสืบหาเอานิดหน่อย"....." มือหนาวางโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะ หยิบบุหรี่ยี่ห้อหนึ่งขึ้นมาสูบต่อด้วยท่าทางอารมณ์ดี ไม่ได้สนใจอีกคนที่กำลังร้องถามเขาอยู่"ใช่ไหมคะพี่เพลิง" แคทย้ำถามอีกครั้งเมื่อเพลิงเอาแต่นิ่งพ่นควันบุหรี่ขาวคละคลุ้งไปทั่วห้องสี่เหลี่ยม ทำเอาเธอแทบอยากจะอาเจียน ไม่มีใครในสลั
หลายวันต่อมา..ก๊อก! ก๊อก!"เนเน่ลูกเปิดประตูให้ม๊าหน่อย" เสียงเคาะประตูดังขึ้นตามด้วยเสียงของคนข้างนอกตะโกนเข้ามา ทำให้เนเน่ที่กำลังผล็อยหลับอยู่สะดุ้งลืมตาตื่น"อื้อ~" มือเล็กยกขึ้นมานวดขมับตัวเองเบาๆเมื่อรู้สึกมึนตื้อๆ เธอค่อยๆดันตัวลุกแตะเท้าลงบนพื้นกระเบื้องเย็นเฉียบ ก้าวเดินช้าๆไปเปิดประตูด้วยท่าทางงัวเงียแกร๊ก|ทันทีที่เธอปลดล็อกกลอนคนข้างนอกก็ดันบานประตูเปิดกว้าง เนเน่ยกหลังมือขึ้นมาขยี้เปลืองตาตัวเองเบาๆ พร้อมกับหมุนตัวเดินกลับไปหย่อนสะโพกนั่งลงบนเตียง โดยมีผู้เป็นแม่เดินตามหลังเข้ามา"เพิ่งตื่นเหรอลูก" แนทเอ่ยถามลูกสาวด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงติดจะกังวล สามีบอกหลายวันมานี้ลูกสาวเอาแต่หมกตัวอยู่ในห้อง พอถามอะไรก็ไม่ค่อยตอบ เธอจึงอดที่จะขึ้นมาดูไม่ได้เพราะไม่เคยเห็นลูกเป็นแบบนี้มาก่อน เผื่อมีเรื่องทุกข์ใจอะไรจะได้ระบายมันออกมา"ค่ะ" หญิงสาวพยักหน้า แล้วขยับตัวไปเอนพิงกับพนักหัวเตียง ขณะที่ผู้เป็นแม่หย่อนสะโพกนั่งลงข้างๆ"หนูเป็นอะไรหรือเปล่าลูก ไม่สบายเหรอ ทำไมหน้าตาดูโทรมๆจัง" จากหน้าตาดูสดใสตอนนี้ดูโทรมมากเป็นอย่างที่สามีบอกแป๊ะ ปากซีดเผือดไม่เหมือนลูกสาวคนเก่าของเธอเลย"ปวดหัวน
“อ้าว มาถึงกันตั้งแต่ตอนไหน” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อเดินกลับเข้ามาในบ้านตัวเองช่วงพลบค่ำพร้อมกับหลานชาย แล้วเห็นหญิงสาวเดินลงมาจากชั้นสองพร้อมชายหนุ่มร่างสูงกำยำคงจะเป็นหลานเขยสินะ หน้าตามันคุ้นๆแฮะเหมือนเคยเจอที่นี่ไหน?“คุณปู่ สวัสดีค่ะ” เนเน่ยกมือขึ้นประนมไหว้ ก่อนเธอจะเร่งฝีเท้าเข้าไปกอดผู้เป็นปู่อย่างที่เคยทำเวลามาหา “คิดถึงจังเลย” “อะ ขี้อ้อนเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน” นุลูบศีรษะทุยเบาๆกอดหลานกลับ ทั้งก้มหอมกุมผมให้หายคิดถึงคูลจ้องมองคนข้างหลังพี่สาวไม่วางตา เห็นอย่างนั้นเพลิงเองก็จ้องกลับไปเช่นกันด้วยสีหน้าเชิงมีคำถาม ว่าเด็กหนุ่มได้มีปัญหาอะไรกับเขาหรือเปล่า เด็กหนุ่มนิ่งเลือกที่จะเดินเลี่ยงขึ้นไปชั้นสอง แม้จะคับแค้นใจไม่น้อยกับเรื่องที่เพลิงได้เคยกระทำต่อเนเน่ แต่เขาก็ไม่อยากจะยุ่งปล่อยให้เจ้าตัวนั้นเลือกทางเดินของชีวิตเอาเอง“ทำไมวันนี้คุณปู่กลับมาเย็นจังคะ” ใบหน้าสวยแหงนถาม ในขณะที่ยังคงแนบชิดกับอกแกร่งของปู่และกอดเอวท่านอยู่หลวมๆ“แวะไปตีกอล์ฟกับเพื่อนมาน่ะ แล้วนี่เจ้าสองแสบปู่อยู่ไหน” นุตอบพร้อมกวาดสายตามองรอบๆ เมื่อไม่เห็นเหลนตัวน้อยทั้งสองคนจึงถามหา“น่าจะอยู่กับคุณย
“หนูม่ายต้ายหวันจาห้ายทินยดโตดห้ายจุนป้อนะกะถ้าทินม่ายเท็มจาย หนูแค่หยาดห้ายทินพ่อยวางห้ายจุนแม่กับปวกหนูต้ายเยือกกู้ซีวิดแยะป้อกานเอนต้ายมายกะ ห้ายกวามสุดปวกเยาต้ายมาย (หนูไม่ได้หวังจะให้ตินยกโทษให้คุณพ่อนะคะถ้าไม่เต็มใจ หนูแค่อยากให้ตินปล่อยวางให้คุณแม่กับพวกหนูได้เลือกคู่ชีวิตและพ่อกันเองได้ไหมคะ ให้ความสุขพวกเราได้ไหม)”“จะให้น้ามั่นใจได้ยังไงว่าสิ่งที่พวกหนูกับแม่หนูเลือกมันดีที่สุดแล้ว คนมันสันดานโจรทำเลวมาตั้งแต่เด็ก คิดเหรอว่ามันจะกลับตัวกลับใจมาเป็นผัวที่ดีพ่อที่ดีให้หนูกับแม่หนูได้”“ถึงผมจะเคยเลวเคยทำไม่ดีทำร้ายเนเน่กับลูก แต่ผมสัญญา..ต่อจากนี้ไปผมจะเป็นสามีที่ดีให้กับเธอจะเป็นพ่อที่ดีให้กับลูก จะรักและดูแลพวกเขาให้ดีที่สุดยิ่งกว่าชีวิตของผม” เพลิงละอายใจเอ่ยขัดบอกออกมาเองตามความรู้สึกหลังยืนนิ่งฟังลูกช่วยอยู่นาน ชายหนุ่มไม่ได้ขี้ขลาดที่จะเผชิญหน้าขอให้เด็กหนุ่มเห็นใจยอมไว้ใจให้โอกาสเขาได้ชดเชยในสิ่งที่เคยกระทำกับหญิงสาวและลูกสาวทั้งสองคน แต่แค่ไม่อยากจะมีปัญหาเพิ่มอีก เลยเลือกจะอยู่นิ่งๆ อะไรที่ยอมได้ก็ยอมทว่าลูกคนเล็กกลับช่วยพูดขอจนเขาอดที่จะอยู่เฉยๆไม่ได้ ไม่อยากให้ลูกนั
เย็นวันเดียวกันเสือกำลังขับรถพาแคทและแคนดี้มาหาเพื่อนรักของพวกเธอกับหลานสาวหลังจากที่ทั้งสามคนพากันไปวัดไซส์ตัดชุดแต่งงาน พร้อมกับเลือกโปสต์การ์ดและของชำร่วยรวมไปถึงสถานที่มาเสร็จสรรพ ฟังไม่ผิดหรอกเสือกับแคทกำลังจะแต่งงานกันปลายเดือนหน้านี้แล้วโดยมีแคนดี้จัดการแนะนำจองร้านดังงานดีระดับประเทศซึ่งเป็นของพี่สาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องไว้ให้ทั้งนำทางมา ตามจริงเนเน่ต้องมาด้วยแต่เพราะติดที่ลูกงอแงคิดถึงน้าชายไม่หยุดจึงมาด้วยไม่ได้ เขาเลยต้องพาแวะไปหาเนี่ยแหละทันทีที่รถเลี้ยวเข้ามาจอดสนิทแล้วการ์ดได้เปิดประตูให้ แคนดี้ก็รีบก้าวลงจากรถ ก่อนจะเดินตัวปลิวนำหน้าเพื่อนกับแฟนเพื่อนไปอย่างไม่รีรอ“นี่แคนดี้แกจะรีบไปไหนเนี่ย กลับมาช่วยถือของเล่นหลานก่อนเลยนะ..อย่าเนียนเดินตัวปลิว” แคทหันมาร้องเรียก ขณะกำลังเดินไปหยิบของเล่นที่ซื้อมาฝากหลานสาวหลังรถคนถูกเรียกได้ยินก็หยุดฝีเท้าหมุนตัวกลับมาทำหน้าเจือนๆด้วยความลืมว่ามีของที่ตัวเองซื้อมาให้หลานด้วย “แหะๆ ฉันลืม”“ลืมตลอดแหละแกอะ” ใบหน้าหวานส่ายระอากับนิสัยตีเนียนของเพื่อนรัก พลางหยิบถุงยื่นไปให้สามถุงแคนดี้แบะปากยักไหล่ไม่ยี่หระอุตส่าห์จะตีเนียนสักหน่อยโ
หนึ่งเดือนต่อมา..ชีวิตครอบครัวของเนเน่และเพลิงดำเนินกันมาอย่างมีความสุขปะปนกับความทุกข์ใจเรื่องเนติน นับตั้งแต่คืนวันนั้นเจ้าตัวก็ขาดการติดต่อจากคนที่บ้านไปเลย แม้ว่าเนเน่กับคนอื่นๆในครอบครัวพยายามติดต่อไปหาเท่าไหร่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมรับสาย ไม่ว่าจะติดต่อผ่านทางลูกน้องคนสนิท ลูกพี่ลูกน้องหรือตายาย พอทุกคนยื่นสายไปให้เนตินก็จะรีบเดินหนีไปทันทีจนคนอื่นๆเอือมระอาเลิกติดต่อไป เหลือเพียงแต่เธอที่ยังคงดั้นด้น“จุนแม่ก๋า.. (คุณแม่ขา)” “หือ?” เจ้าของใบหน้าสวยเลิกคิ้ว พลางช้อนตามองลูกสาวคนเล็กตรงหน้าที่เอ่ยเรียกตนขึ้นขณะนั่งยกโทรศัพท์มือถือแนบหูพยายามต่อสายหาน้องชายครั้งแล้วครั้งเล่าอยู่บนเบาะคอกกั้นในห้องนั่งเล่น ก่อนเพลงพิณจะพูดถามออกมาเสียงสั่นๆราวกับคนจะร้องไห้“ทินโขดอาใยปวกเยาหย๋อกะ ตำมายจุนแม่โตปายม่ายเกยยับซัดที โตกาบก็ม่ายมี (ตินโกรธอะไรพวกเราเหรอคะ ทำไมคุณแม่โทรไปไม่เคยรับสักที โทรกลับก็ไม่มี)” แววตาเด็กหญิงเศร้าสร้อยมองผู้เป็นแม่อย่างตัดพ้อ แทบไม่เหลือคาบร่าเริงอย่างที่ควรจะเป็น “.....” ได้ยินเช่นนั้นเนเน่ก็หน้าเจื่อนลง เธอสงสารลูกจับใจ..มันหลายอาทิตย์แล้วที่เพลงพิณและเพลินลินงอแงบ่น
"....." สันกรามของเจ้าของคำถามบดเข้าหากันอย่างฉุนมาก สองมือกำมัดแน่น ตวัดสายตาคมกริบไปมองเพลิงที่เป็นคนตอบเอง"ใครอนุญาตให้มึงมาอยู่" "ป๊าให้มันมาอยู่ช่วยทำงานแทนตอนพาม๊าไปฮันนีมูน" เป็นโน่บอกตามความจริง "ทำไมไม่ให้เฮียทำ""มันว่างไหมล่ะ""กลับมาแล้วก็ไล่มันออกไป" "ติน.." เนเน่ทนไม่ได้หมายจะพูดช่วยให้น้องชายเข้าใจกันบ้างและปล่อยวางสักที ทันใดนั้นเพลิงก็กุมมือส่ายหน้าห้ามเธอไว้ไม่ให้พูดอะไร เดี๋ยวมันจะบานปลายไปเสียเปล่าๆ"....." ขณะที่โน่เงียบไปอย่างทำอะไรไม่ถูก ซึ่งเนตินเป็นคนไม่ฟังใครและพูดยากมันทำให้เขาค่อนข้างลำบากใจ เพราะนี่ก็ลูกนั่นก็สามีของลูกจะให้ไล่ออกไปมีหวังทั้งลูกทั้งหลานได้หอบผ้าตามไปแน่ ให้ตายยังไงเขาก็ไม่ยอมให้ลูกกับหลานออกไปอยู่ที่อื่นเด็ดขาด"จะไล่มันออกไปได้ไง ก็ป๊ายอมรับมันเป็นลูกเขยแล้ว" เมื่อเห็นผู้เป็นพ่ออึกอักไม่กล้าบอก เนมาร์เลยโพล่งฉวยโอกาสฟ้องก่อตั้งพวกเขม้น หลังทนนั่งฟังเงียบๆมาสักพัก"ฮันนี่!" สถานการณ์ยิ่งคุกรุ่นไม่ค่อยจะดีอยู่ พอเห็นสามีจุดชนวนก๋วยเตี๋ยวจึงปรามให้อยู่นิ่งๆ แล้วกระดุกแขนแกร่งให้ลุกขึ้นพาเด็กๆที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ให้ออกไปจากห้องนี้ก่อน
"ขอบคุณนะ.." ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณ รั้งศีรษะทุยเข้ามากดหอม "ขอบคุณที่อดทนช่วยเหลือพี่จนครอบครัวเรายอมรับ" "จะขอบคุณทำไม ทุกอย่างมันอยู่ที่ความพยายามของพี่เองทั้งนั้น" เนเน่ยิ้ม แหงนหน้ามองสามีพร้อมกับตอบกลับโดยที่เขาลูบผมเธอไปด้วย "แต่ถ้าไม่ได้เราช่วยเหลือเลย ป่านนี้พี่อาจยังไม่ถูกยอมรับก็ได้""เหรอ แต่เน่ว่าคงไม่ใช่แค่เน่คนเดียวหรอกที่ช่วยเหลือพี่..""....." คิ้วเข้มขมวดเลิกขึ้นอย่างไม่เข้าใจ ยังมีใครอีกเหรอที่คอยช่วยเหลือเขานอกจากเธอ"ยังมีม๊าอีกคนนะ" "ม๊า?" "ใช่ คืนก่อนวันที่จะพาลูกไปหา ถ้าไม่มีม๊ามาคอยพูดให้เน่เลิกสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง ป่านนี้คงไม่ได้มาอยู่ด้วยกันแบบนี้หรอก""งั้นพี่ก็ต้องไปขอบคุณม๊าด้วยใช่ไหม" "คงงั้นมั่ง" ใบหน้าสวยแนบลงบนไหล่แกร่งหลังพูดจบ ทว่าไม่ทันไรก็รีบแหงนมองหน้าสามีอีกครั้งเมื่อฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้.."หือ?" การกระทำของคนตรงหน้าทำเอาเพลิงถึงกับงุนงง แต่ยังไม่ทันที่เขาจะเอ่ยถามเสียงใสก็ดังถามขึ้นมาติดๆ"พี่เพลิงลืมอะไรไปหรือเปล่า.." "ลืมอะไร" "ก็..มีป๊าแค่คนเดียวเองนะที่ยอมรับพี่ เฮียกับตินยังไม่ได้ยอมรับพี่เลย" หารู้ไม่ว่าจริงๆเขาไม่ได้ลื
"ว้าว มีแต่ของน่าทานเหมือนเดิมเลย" พอเดินมาถึงห้องอาหารเห็นบนโต๊ะมีอาหารหลากหลายอย่างวางเต็มไปหมด ทำให้ฟีฟายหวนคิดถึงตอนเด็กๆที่เขามักจะมาเล่นและรับประทานอาหารที่นี่เป็นประจำในวันหยุด"มีฉู่ฉี่ปลาทูของชอบพี่ฟีฟายเหมือนเดิมด้วยนะ เหมือนแม่นมรู้ว่าพี่จะมา" ไม่ว่าเปล่าหญิงสาวหย่อนสะโพกนั่งลงพร้อมกับสามี เพลิงเหล่มองทั้งสองคนพูดคุยกันอย่างไม่ชอบใจแต่ก็ไม่ได้ปริปากอะไร ได้แต่ขบกรามแน่น"คนสำคัญก็งี้แหละ" ฟีฟายยักไหล่โอ้อวดมาหย่อนตัวนั่งลงฝั่งตรงข้าม ก่อนแม่บ้านจะมาตักข้าวใส่จานให้ "แล้วนี่ไอ้เนกับไอ้ตินไปไหน ไม่ลงมากินด้วยกันเหรอ" "เนตินอยู่ดูแลงานแทนป๊าที่ญี่ปุ่นยังไม่กลับมาเลยค่ะ ส่วนเฮียน่าจะหอบลูกไปเฝ้าเมียที่มหาลัยแต่เช้าโน้น""ท่าจะหวงเมียจัด""มากๆ มาหนักก็ปีที่แล้วอะ ม๊าบอกซามิชวนก๋วยเตี๋ยวไปซื้อของเป็นเพื่อนและแวะดูหนัง แล้วบังเอิญเจอเพื่อนอีกคณะชวนไปงานวันเกิดที่ผับต่อโดยไม่บอกเฮีย จนมีคนส่งรูปมาถามเฮียรู้รีบบุกไปลากกลับมาทันที สภาพนี่ไม่ต้องพูดถึงเมาเละเทะ เฮียโมโหมากจับล่ามโซ่ไม่ให้ไปเรียนเป็นอาทิตย์" "ฮ่าๆๆ ถึงกับล่ามโซ่เลยอ๋อ""นิ่งเฉยก็ไม่ใช่เฮียสิ" มือเล็กตักข้าวใส่ปาก ไม
ใบหน้าสวยส่ายไปมา พลางหันกลับมาเลือกชุดต่อ ในขณะที่อีกคนเปิดลิ้นชักหยิบกล่องบุหรี่พร้อมไฟแช็กในตัว เดินต่อไปยังระเบียงเพื่อระบายความหงุดหงิดและเจ็บใจในเวลาเดียวกันที่ภรรยาเห็นคนอื่นสำคัญกว่าคำสั่งตนเพลิงเปิดบุหรี่ออกมาแล้วจุดสูบ เพียงไม่กี่นาทีเนเน่ก็เดินออกมาในชุดเสื้อแขนยาวไหมพรมคอวีสีขาว กางเกงผ้ามัดยอมพาสเทลขายาวทรงหลวมสีขาวดำตามสไตล์การอยู่บ้านของเธอ ดวงตากลมโตกวาดมองไปรอบๆห้องหลังไม่เห็นสามี ก่อนสะดุดตรงประตูระเบียงที่ถูกเปิดคาไว้จนเห็นแผ่นหลังแกร่งของเจ้าตัวที่ยืนสูบบุหรี่อยู่เธอดึงยางรัดผมจากข้อมือออกมามัดด้วยความรำคาญ พร้อมกับเดินนวยนาดเข้าไปหา เพลิงเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาใกล้ๆก็ไม่ได้สนใจพ่นควันบุหรี่ขาวคลุ้งออกจากปาก"พี่จะลงไปกินข้าวไหม หรือจะเข้าห้องไปทำงานต่อ เน่จะได้ให้แม่บ้านยกข้าวขึ้นมาให้" ริมฝีปากอวบอิ่มเปล่งเสียงถาม "....." แล้วคำตอบที่ได้กลับมาคือความเงียบ ชายหนุ่มสูดควันบุหรี่เข้าเต็มปอด พลางทอดสายตามองบรรยากาศรอบๆทั้งพ่นมันออกมาราวกับไม่ได้ยินในสิ่งที่เธอถาม"พี่เพลิง ได้ยินที่เน่ถามไหม" เห็นอย่างนั้นหญิงสาวจึงย้ำถาม มือเล็กเอื้อมจับท่อนแขนแกร่งดึงเขาให้ห
"ฮึ่ย.." เจ้าพ่อมาเฟียใหญ่ขบกรามฮึดฮัดทันทีที่ถูกตัดสาย เขายกโทรศัพท์มือถือออกจากหูปามันใส่ฝาผนังห้องนอนอย่างแรงปึก! เพล้ง! แรงกระแทกอย่างหนักส่งผลให้มันแตกกระจายไปคนละทิศละทางโดยที่เจ้าของได้แต่นั่งนิ่งๆมองโทรศัพท์มือถือของตัวเองเละไม่มีชิ้นดี ใบหน้าแดงก่ำไปถึงใบหู พร้อมกับฝ่ามือทั้งสองข้างกำแน่นทำเอาดินไม่กล้าจะพูดอะไรออกมา"อื้อ~" แนทที่สะดุ้งรู้สึกตัวตั้งแต่ได้ยินเสียงสามีอาละวาดลั่นอยู่ก่อนแล้ว ลืมตาตื่นอย่างงัวเงียด้วยความหงุดหงิดเมื่อมาได้ยินเสียงกระแทกของวัตถุบางอย่างดังสนั่นขึ้นอีก เธอยันตัวลุกขึ้นเดินไปคว้าชุดคลุมหน้าตู้เสื้อผ้ามาสวมใส่ แล้วเดินออกไปจัดการกับเจ้าของกระทำเพราะรู้สึกเอือมระอามากและเพียงก้าวพ้นกรอบประตูก็เห็นสามีนั่งอารมณ์ฉุนเฉียวอยู่บนโซฟาคนละตัวกับลูกน้อง โดยที่พื้นนั้นเต็มไปด้วยเศษซากโทรศัพท์มือถือ"เป็นบ้าอะไรของแด๊ด ฮะ! ดึกดื่นป่านนี้แล้วมันใช่เวลามาอาละวาดไหม" แนทตวาดถามด้วยความโมโห น้ำเสียงเกรี้ยวกราดของเธอทำเอาโน่ตวัดสายตามอง ก่อนจะค่อยๆสงบสติอารมณ์ยกมือขึ้นลูกหน้าตัวเอง และดินยังคงนั่งเงียบๆแต่เสมองไปทางอื่นหลบสายตาดุดันที่สลับมองมา"ก็ไอ้เวรนั่นมัน