Ep.4
Bad moon rising
ภายในห้องแต่งตัว ส่วนตัวของคุณคริสตัล ในงานอีเวนต์หนึ่ง
“มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า?”
เธอถามขึ้นขณะที่ตายังโฟกัสไปที่โทรศัพท์ของเธอ
“ไม่มีค่ะ”
ฉันเลือกที่จะไม่รบกวนสมาธิทำงานของเธอด้วยปัญหาส่วนตัวของฉันเด็ดขาด
คุณคริสเงยหน้ามองฉันนิ่ง ๆ
“ถ้ามีอะไรก็บอกแล้วกัน ถือซะว่าฉันเป็นรุ่นพี่เธออีกคนก็ได้”
เธอพูดด้วยเสียงนิ่ง ๆ ตามสไตล์คุณคริสนั่นแหละ ก่อนที่เธอจะเดินถือแก้วค็อกเทลเดินหายไปในห้องลองชุด
“ขอบคุณนะคะ” ฉันตอบกลับอย่างรู้สึกดี ก่อนจะรีบเดินไปช่วยเธอเปลี่ยนชุด แต่คุณคริสห้ามไว้ซะก่อน
“แค่สวมและถอดง่าย ๆ ฉันทำได้” เธอพูดแค่นั้นก่อนจะส่งแก้วค็อกเทลให้ฉัน และหันหลังเดินไป
เอาจริง ๆ เธอเป็นดาราที่ดูหยิ่งและเข้าถึงยากจริง ๆ แต่พอได้ทำงานใกล้ชิดแล้วจริง ๆ คุณคริสเธอใส่ใจคนรอบข้างเสมอ แค่ไม่แสดงออกและไม่เซ้าซี้เท่านั้นเอง
หลังจากที่คุณคริสเปลี่ยนชุดเสร็จ เธอก็กลับมานั่งที่โต๊ะประจำที่ เพื่อรอช่างแต่งหน้าที่ทางงานได้จ้างมาโดยเฉพาะ เห็นว่าเป็นช่างติดอันดับ 1 ใน 3 ของไทยเลย
“เป็นเกียรติมากเลยนะคะ ที่ได้แต่งหน้าคุณคริส” ช่างแต่งหน้าเพศที่สามเดินถือกระเป๋าเครื่องสำอางแบรนด์ชาแนลเข้ามานั่งตรงหน้าคุณคริส
คุณคริสหันไปมองเล็กน้อยและยิ้มอ่อน ๆ
“ผิวหน้าดีอะไรเบอร์นี้ ไปคลินิกไหนบอกเจ๊บ้างสิ” ช่างแต่งหน้าสาวสองคนนั้นเริ่มชวนคุยราวกับคนสนิท
“แถวทองหล่อน่ะค่ะ พอดีเป็นพรีเซนเตอร์ให้ด้วย” เธอตอบแบบปัด ๆ ไป
“แล้วพี่ขอถามหน่อยสิ คุณคริส… คุณคริสเหลาจมูกที่เกาหลีหรือไทยอะ ทรงธรรมชาติดีนะ” ช่างแต่งหน้าแต่งไปก็ชวนคุยไป ด้วยคำพูดที่ไม่ค่อยจะสร้างสรรค์เท่าไหร่
“คริสไม่ทำจมูกหรอกเจ๊แต๋ว เพราะเวลาไปตบกับคนอื่นกลัวจมูกจะเบี้ยว ถ้าเจ๊สนใจจะทำก็ต้องระวังตัว”
"คริสหมายถึงเลือกหมอดี ๆ หน่อยน่ะค่ะ”
เธอตอบตรง ๆ ไปแบบนั้นเล่นเอาเจ๊สาวสองคนนั้นเงียบไปพักหนึ่ง
“นี่ ๆ คุณคริสรู้ไหมว่าดาราหน้าใหม่ห้องข้าง ๆ ที่มาร่วมงานเทียบชั้นคุณคริสเนี่ย"
"ที่นางชื่อพิกเล็ตน่ะ ปากก็บอกไม่ได้ทำไม่ได้ทำ ที่ตอนนักข่าวไปสัมภาษณ์นางอะนะ"
"แต่ว้ายยย ทานโทษจ้าาา ตอนพี่ไปแต่งหน้านี่แข็งอย่างกับหิน นมนี่ชนแขนพี่เป็นก้อน ๆ เลยจ้า แล้วบอกไม่ทำ ๆ” ยัยช่างแต่งหน้ายังคงเม้าส์อย่างสนุกปาก ยุแยงตะแคงรั่วแบบไม่มีหยุดไม่มีหย่อนแทบลืมหายใจกันไปเลย
“พริบพราว ฉันขอหูฟังในกระเป๋าฉันหน่อยสิ” เธอพูดขึ้นขัดจังหวะของช่างแต่งหน้า
ก่อนจะรับหูฟังไร้สายไปเพื่อต่อกับโทรศัพท์และยัดใส่หูทั้งสองข้างด้วยใบหน้าที่รำคาญอย่างไม่มีปิดบัง เล่นเอาช่างแต่งหน้าคนนั้นหน้าเสียไปอีกรอบและอีกรอบ
หลังจากนั้นการทำงานของคุณคริสทั้งวันก็ผ่านไปได้ด้วยดี โดยมีฉันคอยช่วยมากที่สุดเท่าที่ฉันทำได้
เพราะค่าจ้างที่พี่จินนี่ให้มามันมากกว่าปกติ และต่อชีวิตให้ฉันกับครอบครัวได้ในช่วงนึงเหมือนกัน
-------------------
“ขอบคุณที่ตั้งใจทำงานนะ” คุณคริสพูดขณะที่ฉันขับรถของเธอเข้ามาจอดเทียบในคอนโด
“เออ! พริบพราว แล้วรถเธอจอดที่ไหนล่ะ เดี๋ยวฉันเอาสติกเกอร์ที่จอดรถให้ วันหลังจะได้เข้ามาจอดโดยไม่ต้องแสตมป์บัตรจอดให้” คุณคริสตัลหันมาถามฉันขณะที่เธอกำลังถอดแว่นกันแดดออก
“อ่อ คือพราวนั่งรถเมล์มาน่ะค่ะ” ฉันตอบไปตามตรงอย่างไม่ปิดบัง
คุณคริสตัลนิ่งไปชั่วครู่ก็จะพยักหน้าและกดลิฟต์ชั้นของเธอเอง
“ส่งฉันแค่นี้ก็พอ เธอรีบกลับเถอะเดี๋ยวจะดึก” เธอพูดก่อนจะเอื้อมมือมาหยิบกระเป๋าเครื่องสำอางและเสื้อผ้าตัวเองอย่างไม่ถือตัวว่าเป็นเจ้านาย
หรือลูกน้องใด ๆ
“ไปสิ” พอเธอเห็นฉันยืนนิ่งเธอก็พูดย้ำอีกครั้ง
“ค่ะ สวัสดีค่ะคุณคริส” ฉันยกมือไหว้และเดินออกมาทันที
อื้ออออออ อื้อออออ
จู่ ๆ เสียงโทรศัพท์ของฉันก็ดังขึ้นมา
-น้าผึ้ง-
“ฮัลโหลสวัสดีค่ะน้าผึ้ง พราวเพิ่งจะ” ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบประโยคดีเลย น้าผึ้งก็สวนขี้นมาก่อน
“พ่อเราหายไป ตำรวจบอกน้าว่ามีคนมาช่วยเขาหนีคุกออกไปเมื่อคืนนี้ ตอนนี้น้าถูกสอบสวน” เสียงน้าผึ้งสั่นและเต็มไปด้วยความกลัว
“พ่อเนี่ยนะหนีคุก?” ฉันทวนคำนั้นอย่างไม่อยากจะเชื่อ ว่าพ่อของฉันจะทำเรื่องแบบนั้นได้จริง ๆ
“พราวลูก น้าฝากไปรับยัยแพรวดาวที่โรงเรียนทีสิลูกและพวกหนูไม่ต้องมาที่นี่นะ” น้าผึ้งพูดเสียงเบา ๆ เล็ดลอดผ่านสัญญาณโทรศัพท์ออกมา
“ทางเราไม่อนุญาตให้ใช้โทรศัพท์นะครับ คุณ!!!” ตู๊ด ๆ ๆ ๆ ก่อนที่สัญญาโทรศัพท์ของน้าผึ้งจะตัดไป
ฉันเองก็รีบไปรับตัวยัยแพรวดาวทันที เพราะนี่ก็เลยเวลาน้องเลิกเรียนมาสักพักแล้ว อีกอย่างก็คือยัยดาวไม่เคยนั่งรถเมล์หรือรู้เส้นทางการเดินรถใด ๆ เลย ทำให้ฉันกับน้าผึ้งต้องสอนจนกว่ายัยแพรวดาวจะชินกับสถานะที่เปลี่ยนไปของบ้านเรา
แม้ว่าฉันจะโทร. หากี่สิบสาย น้องก็ไม่ยอมรับสายเลยสักที… ยิ่งทำให้ฉันยิ่งร้อนรนใจ
@โรงเรียน
ในเวลาตอนเย็นที่เด็กทุกห้องเลิกเรียนกันไปหมด รถของทั้งครูและผู้ปกครอง
ค่อย ๆ ทยอยออกกันไปทีละคันสองคัน
“แพรวดาว หายไปไหนของหนูนะ” ฉันพูดอย่างเป็นกังวลและเดินกลับไปถามครูที่หน้าประตูทางเข้าออกของโรงเรียน เพียงแต่ว่า
“จริง ๆ น้องแพรวดาวมีคนมารับไปแล้ว เห็นบอกว่า เป็นลูกน้องคนสนิทของคุณพ่อ ทางเราจึงปล่อยน้องไป” คุณครูหน้าวัยรุ่นพูดออกมาอย่างหน้าตาเฉย
“เดี๋ยวนะคะ นั่นไม่ใช่พ่อไม่ใช่แม่เด็ก คุณปล่อยออกไปได้ยังไง???” ฉันถามกลับไปเชิงต่อว่า
“ตัวเด็กเองก็ดูยินยอมจะไปกับเขา ทางเราเลยคิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไรนี่คะ” เธอก็เถียงกลับมาด้วยสีหน้าที่เริ่มวิตกกังวล
“ถ้าคุณอยากดูกล้องเดี๋ยวดิฉันเปิดให้ได้นะคะ” ครูสาวคนนั้นเริ่มกลัวความผิดมากขึ้นและหาทางช่วยฉันในที่สุด
“คนสนิทของคุณพ่อ???” ฉันพยายามตั้งสติและคิดตามว่าคือใคร จนกระทั่งวิดีโอเปิดออกมาเป็น...
“นั่นมัน ลูกน้องของบลูไนท์” พอฉันเห็นใบหน้าชัด ๆ ก็แทบจะทรุด เพราะคนที่ลักพาตัวยัยแพรวดาวไปคือลูกน้องคนนั้น คนที่เข้ามาในบ้านเรากับเขา
“บลูไนท์ !!” ฉันเรียกชื่อนั้นพร้อมกำหมัดแน่น ก่อนจะสืบหาที่อยู่ของเขาทันที แม้ว่ามันจะไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากที่จะได้ที่อยู่ของนักธุรกิจหมื่นล้านจากชื่อบริษัทสินค้าไอทีแนวหน้า แถมยังเป็นทายาทโดยตรงของบริษัทยักษ์ใหญ่เครือข่ายโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตของไทย
@บ้านหลังใหญ่โตมโหฬารหลังหนึ่งที่ไม่อนุญาตให้แท็กซี่เข้าไปส่ง
“มาหาใครครับ?” ยามใส่สูทผูกไทถามฉันอย่างสุภาพ
“ฉันมาหาคุณบลูไนท์ค่ะ” ฉันตอบไปด้วยความร้อนใจ
“ถ้าไม่ได้มีนัดเอาไว้ หรือคุณบลูไนท์ไม่ได้เชิญ ก็เข้าไม่ได้นะครับ” ยามส่ายหน้าทันที
“แต่เขาเอาน้องสาวของฉันมาขังไว้ข้างใน ฉันต้องเข้าไป"
"นะคะพี่ยามให้หนูเข้าไปช่วยน้องสาวหนูทีเถอะ”
ฉันยกมือไหว้ยามคนนั้นอย่างวิงวอน และเปลี่ยนน้ำเสียงจากแข็งเป็นโอนอ่อนทันที
“ไม่ได้จริง ๆ ครับ ผมทำตามหน้าที่” พี่ยามตอบอย่างตรงไปตรงมาและไม่มีแววตาสงสารใด ๆ ให้ฉัน
ครืดดดดดด
แต่จู่ ๆ ประตูบานใหญ่ก็เปิดกว้างออกด้วยระบบไฟฟ้า
“นายให้เธอเข้ามาได้” เสียงของคนใส่ชุดสีดำเดินมาบอกกับพี่ยามหน้าประตูรั้ว ซี่งแกก็รีบผายมือเชิญให้ฉันเข้าไปทันที
ฉันสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ อย่างพยายามจะไม่กลัว และเดินเข้าไปในบ้านหลังนั้นด้วยหัวใจที่หวิว ๆ
“คุณคะ น้องฉันอยู่ที่ไหน?” ฉันถามบอดี้การ์ดชุดดำคนนั้น แต่เขาก็ไม่ตอบอะไรยังคงเดินนำต่อไปเรื่อย ๆ
“พี่พราว!!!!!”
เสียงร้องดังลั่นปนเสียงร้องไห้กลัวของยัยแพรวดาวดังขึ้นมาแต่ไกล เมื่อแพรวดาวเห็นหน้าของฉัน และจังหวะที่ฉันกำลังจะวิ่งไปหาน้อง เราทั้งคู่ก็ถูกรั้งเอาไว้ทันทีโดยแรงผู้ชายถึงสองคน
“เหลือแต่ภรรยามันสินะ” เสียงของใครอีกคนดังขึ้นขณะที่กำลังเดินเข้ามาแทรกกลางระหว่างฉันกับยัยแพรวดาว
“จับตัวน้องฉันมาทำไมกัน ทำแบบนี้ทำไม??” ฉันหันไปถามเขาอย่างไม่เข้าใจ
“พ่อเธออยู่ไหน????” เขาหันมาพูดกับฉันแค่ประโยคสั้น ๆ แววตาคมกริบจ้องเข้ามาด้านในอย่างพร้อมจะทำลายล้างชีวิตของฉันให้ย่อยยับ
“ฉันให้โอกาสพ่อเธอกับครอบครัวของเธอมามากเกินไปแล้ว!!!!” เขาพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่นิ่งและแข็งทื่อ
“หนูไม่รู้ว่าพ่อไปไหน หนูไม่รู้จริง ๆ”
ยัยแพรวดาวยังคงร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว และฉันอยากจะวิ่งเข้าไปกอดน้องเหลือเกิน เพียงแค่ตอนนี้มีใครอีกคนที่เดินมาหยุดตรงหน้าของฉัน และมองฉันราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“100 กว่าล้านไม่ใช่เงินน้อย ๆ แต่ที่ฉันเจ็บกว่าการโกงเงินคืออะไรรู้ไหม???” เขาพูดกับฉันและมองหน้าราวกับคิดว่า ฉันคือพ่อที่กำลังรับฟังอยู่
“พ่อเธอเอาข้อมูลความลับลูกค้า และความลับของบริษัทไปขายจนหมด คนทรยศแบบพ่อเธอ ช่วยฉันคิดทีสิ ว่าจะฆ่ามันด้วยวิธีไหนดี” เขาก้มลงมากระซิบข้างใบหูของฉัน
Ep.5Don’t touch my sister“พ่อเธอเอาข้อมูลความลับลูกค้า และความลับของบริษัทไปขายจนหมด คนทรยศแบบพ่อเธอ ช่วยฉันคิดทีสิ ว่าจะฆ่าฉันด้วยวิธีไหนดี?” เขาก้มลงมากระซิบข้างใบหูของฉัน“ไม่... ม่ายนะ อย่าทำแบบนั้นเลย” ฉันตอบกลับไปเสียงสั่น ๆ อย่างกลัวเหลือเกิน...“เงินใช้หนี้?? มีไหม?” เขาถามกลับมานิ่ง ๆฉันทำได้เพียงก้มหน้าอย่างหมดหนทาง เงินตั้งร้อยกว่าล้าน ฉันจะไปหาจากที่ไหนได้ในวันเดียว ฉันทำได้แค่พูดภายในใจเท่านั้น“จะบอกให้นะ การที่พ่อเธออยู่ในกรงขังนั่น อย่างน้อยเขาจะยังมีชีวิตอยู่ แต่การหนีแหกคุกออกมาเแบบนี้... อันนี้ฉันก็ช่วยอะไรไม่ได้ นอกจากเตรียมตัดสูทดำไปงานศพ” เขาพูดก่อนจะจุดบุหรี่สูบต่อหน้าฉันอย่างไม่ได้ใส่ใจอะไร“คุณจะฆ่าพ่อของหนูเหรอคะ??” เสียงยัยแพรวดาวถามทั้งน้ำตา บลูไนท์สูบบุหรี่ยังคงปล่อยควันออกมาช้า ๆ และมองมาที่ฉันนิ่ง ๆ“อาจจะไม่ใช่ฉันก็ได้นะ พ่อเธอไปทำระยำกับคนไว้ตั้งมากมาย คงนั่งนับศัตรูให้ไม่หมดจริง ๆ !!” เขาตอบออกมาอย่างไม่ได้ใส่ใจความรู้สึกของคนฟังเลยสักนิด“คุณใส่ร้ายพ่อ พ่อไม่ใช่คนแบบนั้น... คุณพ่อเป็นคนดี...” ยัยแพรวดาวส่ายหน้าตามประสาเด็ก เพราะเธอแทบไม่รู้เรื่อง
Ep.6Bad Blue Night“นายทำอะไรแพรว ทำอะไร?? ฉันจะแจ้งตำรวจ” ฉันมือไม้สั่นไปหมด และหมดหนทางจริง ๆ แม้แต่ปลายนิ้วที่กดโทรศัพท์ยังสั่นไม่ยอมหยุดแม้ฉันจะพูดคำว่าตำรวจออกไป แต่ผู้ชายคนนั้นก็ทำแค่ยักคิ้วอย่าไม่ได้เกรงกลัวใด ๆตุ๊บบบ!!เขาทำเพียงแค่ปัดมือถือของฉันให้ร่วงลงไปที่พื้นอย่างไม่สนใจเราอยู่ในเขตบ้านของเขา และฉันรู้จักคำว่าอำนาจมืดนั้นดี เพียงแต่ว่าฉันจะไม่มีวันปล่อยให้ยัยแพรวดาวเป็นอะไรทั้งนั้นเด็กอายุสิบห้าแบบนั้น จะทนรับเรื่องอะไรหนักหนาได้ขนาดไหนเชียว...“พวกเราผิดอะไร ปล่อยน้องฉันเถอะ ช่วยเมตตาหน่อยได้ไหม???” ฉันเขย่าแขนคนตรงหน้าทั้งน้ำตา ฉันหันไปมองแววตาของคนใจโหดคนนั้นที่ว่างเปล่าเหลือเกิน“เมตตางั้นเหรอ??? คงใช้กับโคตรเหง้าต้นตระกูลคนโกงแบบพวกเธอไม่ได้” เขาพูดแค่นั้น ก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่โซฟาใหญ่อย่างสำราญใจ เหมือนคนที่ไร้ซึ่งความรู้สึกและเสียงในห้องก็เงียบไปสนิท ก่อนที่ประตูห้องจะเปิดออก พร้อมกับหมอคนเดิมที่เดินออกมาจากห้องซึ่งฉันก็รีบวิ่งตรงไปที่ห้องนั้นทันที ยัยแพรวดาวนอนนิ่งไปทั้งคราบน้ำตาอาบแก้ม ฉันรีบเดินเข้าไปกอดร่างของน้องสาวและทำอะไรไม่ได้เลย ยัยแพรวดาวนอนลืม
Ep.7Scaring me?ฉันนอนแน่นิ่งและถูกกระทำอยู่แบบนั้น ...จนกระทั่งหมดสติลงไปเอง....ครืดดดดดด ครืดดดดดดด เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์ของฉันสั่นอยู่ไม่ไกลและมันคงจะตกอยู่ที่พื้น… นั่นคือเสียงที่ปลุกให้ฉันตื่นขึ้นมา พร้อมกับความรู้สึกเจ็บระบม และบอบช้ำจนแทบจะไม่อยากจะขยับตัวไปไหนได้เลยฉันลืมตาและมองไปรอบ ๆ ห้องกว้างใหญ่นี้ ก่อนที่ภาพเหตุการ์ณเลวร้ายเหล่านั้นจะผุดเข้ามาในหัวทุก ๆ ฉาก ทุก ๆ การกระทำแสนเจ็บปวดนั้น...“อะ... โอ้ย” ฉันร้องขึ้นทั้งน้ำตาขณะที่จะขยับตัวให้ลุกขึ้นนั่งรอยเลือดและคราบขาวขุ่นที่เจือจาง เลอะเทอะอยู่ทั้งบนเตียง และเรือนร่าง รอยคราบน้ำเชื้อนั่นที่ยังดูใหม่และเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นไม่นานมานี้ฉันค่อย ๆ เลื่อนปลายนิ้วไปสัมผัสกับจุดที่บอบช้ำและเจ็บปวดมากที่สุดของร่างกายและนี่เป็นสิ่งที่ฉันรักษาเอาไว้เพื่อคนที่ฉันรักมากที่สุด...แต่เขา... กลับได้มันไปอย่างง่ายดาย โดยที่ตัวฉันเองไม่ได้จำยอม...น้ำตาที่ไหลอาบแก้มมันช่วยอะไรไม่ได้เลยสักนิด มันไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้น มีแต่ตอกย้ำซ้ำเติมความเจ็บปวดให้กับตัวเอง...กลีบกุหลาบที่บวมและบอบช้ำจนเปลี่ยนสีแดงอย่างน่ากลัว... ความรู้ส
Ep.8"ต้องให้ย้ำอีกกี่ครั้งว่า ...เธอต้องชดใช้หนี้ร้อยล้านนั้นยังไง" ส้วบบบบบบบ!!!! "อื้อออออออ" ฉันกัดฟันร้องด้วยความเจ็บปวดแทบขาดใจ มันเจ็บจนไม่สามารถกรี้ดออกมาได้เลยจริง ๆรอยแผลของเมื่อวานที่ยังเจ็บช้ำและยังไม่ทันจะหายดีตอนนี้แทบจะฉีกอีกรอบ "เอาออกไป ฉันเจ็บ" ฉันร้องออกไปทั้งน้ำตาหลังจากที่เขาสอดเข้ามาในร่างกายของฉันได้เพียงครึ่งลำเท่านั้น"อย่าเกร็ง และหุบปาก!!!" แต่นั่นคือคำตอบของเขาที่ขึ้นเสียงกลับมาส้วบบบ...คนตรงหน้ายังคงพยายามจะยัดเยียดท่อนเอ็นแข็งลำใหญ่นั่นเข้ามาในร่องสวาทที่แห้งเหือดของฉัน อย่างรู้ทั้งรู้ว่าร่องสวาทของฉันมันไม่สามารถรองรับ..."มันใหญ่เกินไป" ฉันส่ายหน้าและพยายามจะดันตัวของเขาออกอย่างต่อต้านด้วยพลังทั้งหมดที่มี"ครั้งแรก ๆ มันก็เจ็บแบบนี้แหละ แต่ไม่มีใครตาย" เขาพูดขึ้นอย่างหัวเสีย เพราะการขัดขืนและร่างกายของฉันที่พยายามจะต่อต้านร่างกายของเขา...ฟุ่บบบบ เขากระชากขาทั้งสองขาของฉันออกจากกันอย่างแรง มืออีกข้างของเขาจับส่วนที่เหลือของท่อนเอ็นนั่นและสอดเข้ามาในร่างกายของฉันอย่าง...พั่กกก ทีเดียวมิดด้าม...เฮือกก ฉันหายใจเข้าลึกสุดอย่างตกใจและวาบหวิว...ก
Ep.9Does it hurt?“พราว... พริบพราว” และนั่นคือครั้งแรกที่ผม เรียกชื่อของเธอ... ทั้งที่ผมไม่เคยคิดจะจดจำมันมาก่อนเลย… “พริบพราว!!”Pib Preaw’s part“ร่างกายขาดน้ำ และพักผ่อนไม่เพียงพอนะครับ” เสียงของผู้ชายคนหนึ่งดังอยู่ไม่ไกล“มียาบำรุงหรือรักษาอะไรที่ดีก็จัดไปเลย ไม่ต้องอธิบาย” เสียงที่คุ้นเคยและฉันจำมันได้ดีก็สวนตอบกลับไป และนั่นทำให้ฉันค่อย ๆ หรี่ตาดูด้วยความสะลึมสะลือ คนที่ยืนหันหลังให้ฉันอยู่ไม่ไกล ก็คือคนที่ทำให้ฉันตกอยู่ในสภาพนี้นั่นแหละ ...บลูไนท์...“ได้ครับ ๆ” ไม่นานผู้ชายคนนั้นก็เดินตรงเข้ามาทางฉัน และฉีดอะไรบ้างอย่างใส่ในเข็มที่เติมน้ำเกลือของฉัน เพราะยานั่นทำให้ฉันรู้สึกแสบร้อน เมื่อยาเริ่มออกฤทธิ์ฉันก็ทำได้แค่หลับตาทั้งน้ำตา“ยาแก้อักเสบนะครับ” ผู้ชายคนนั้นเอ่ยขึ้นเบา ๆ“ถ้ามีเลือดออกมา ตอนมีเซ็กส์… แบบนี้จะมีปัญหาเรื่องตั้งครรภ์หรือเปล่า?” จู่ ๆ คนโหดร้ายอย่างบลูไนท์ก็ถามหมอออกไปอย่างไม่คิดอาย“เอ่อ… จริง ๆ แล้วถ้าฝ่ายหญิงไม่เคยผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาก่อน นอกจากเส้นพรหมจรรย์ครั้งแรกแล้ว ก็สามารถมีเลือดออกมาได้ครับ ถ้าเกิดการฉีกขาดของส่วนอื่น ๆ อาจจะเพราะขนาดที่ยังไม่สา
Ep.10...เช้าวันต่อมา...แม้ว่าอาการของฉันจะดีขึ้นบ้างแต่ก็ยังครั่นเนื้อครั่นตัวอยู่ดี ฉันค่อย ๆ ชันตัวให้ลุกขึ้น เพื่อที่จะไปอาบน้ำ และซักเสื้อเชิ้ตสีขาวให้บลูไนท์ ทั้งที่ตั้งใจจะซักตั้งแต่เมื่อคืนแต่ว่าไม่มีแรงมากพอที่จะลุกได้“คงต้องอาบน้ำแล้วล่ะ" ฉันพูดกับตัวเองก่อนจะลากสังขารตัวเองไปยังห้องน้ำให้ได้แม้ว่าจะยังมีอาการหนาวสั่นอยู่บ้างก็ตามฉันค่อย ๆ หาที่เปิดน้ำอุ่น ๆ และทำได้แค่เกาะผนังห้อง หรือหาอะไรพิงไปพลาง ๆ ...ในห้องน้ำสุดหรูก็มีทั้งอ่างอาบน้ำ และยังแบ่งโซนเป็นตู้กระจกอาบน้ำฝักบัวอีกฝั่งหนึ่งคนที่รวยเนี่ย เขาก็รวยกันแบบโอเวอร์จริง ๆ เลยเนอะ รวยมากขนาดนี้ทำไมเขาถึงไม่มีแฟนหรือผู้หญิงดี ๆ ไว้ข้างกายนะ ถึงต้องมาคว้าเอาใครก็ได้มาเป็นแม่ของทายาทตัวเองฉันได้แต่มองห้องอาบน้ำภายในห้อง ที่เรียกได้ว่าห้องของนางบำเรอคนหนึ่งของคุณบลูไนท์....“วันนี้เขาคงไปห้องนางบำเรอคนอื่น ๆ ละมั้ง” ฉันพูดขึ้นก่อนจะเปิดฝักบัวราดให้น้ำไหลลงมากระทบหัวและทั่วเรือนร่าง ฉันยืนหลับตาปล่อยให้ น้ำชำระล้างความสกปรกบนร่างกายฉัน...แต่ต่อให้ฉันล้างเท่าไหร่ความสกปรกนั้นก็ไม่มีทางทำให้ฉันกลับมาสะอาดได้ดังเดิม... เ
Ep.11 ต้องรับผิดชอบ“เปล่า ฉันไม่ได้ร้อง” ฉันส่ายหน้าและปาดน้ำตาลวก ๆ ก่อนจะรีบก้มหน้าก้มตาเก็บเศษแก้วและจานที่แตกละเอียดเกลื่อนพื้นห้อง เพื่อเลี่ยงการปะทะอารมณ์กับคนใจโหดแบบเขา“ไม่ต้องเก็บ!!” บลูไนท์พูดขึ้นนิ่ง ๆ“ฉันต้องทำความสะอาดห้องนี้อยู่ดี ฉันเก็บได้ค่ะ” ฉันก้มหน้าอย่างไม่กล้าสบสายตาเขา เรียกได้ว่าฉันกลัวเขามากจนลนลาน ไหนจะคราบเลือดของหมอนั่นที่เปื้อนไปตามพื้นห้อง และนั่นทำให้ฉันเสียสมาธิจน...ฉึก!! “ซี้ด!!!” ฉันเผลอร้องออกมาเพราะว่าแก้วที่จะเก็บมันดันบาดเข้าที่ฝ่ามืออย่างไม่ทันระวัง“ก็บอกแล้วว่าไม่ต้องเก็บ!!!!” บลูไนท์กระชากแขนของฉันขึ้นมาและตวาดใส่อย่างหัวเสีย“ฉันก็แค่... ทำตามหน้าที่เท่านั้น!!” ฉันตอบไปเสียงเบา ๆ และไม่กล้าแม้แต่จะสบสายตาคนอย่างเขา“เข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า หน้าที่ของเธอคือบนเตียง แต่ไอ้ทำความสะอาดบ้านหรืออย่างอื่นเนี่ยมันไม่ได้จำเป็นมากขนาดนั้นหรอก!!!” บลูไนท์ขึ้นเสียงและเอ่ยใส่หน้าฉันอย่างไม่ใส่ใจความรู้สึกคนฟังเลยสักนิดเดียว“ถ้าอยากจะทำมากนักก็รีบ ๆ หายดีซะ!!! และกลับไปนอนถ่างขารอฉันอยู่ที่เตียง แบบนั้นน่ะพ่อเธอน่าจะภูมิใจในตัวเธอมากกว่า!” บลูไนท์ชี้
Ep.12มอบชีวิตให้มาเฟียส้วบ!!!“อื้อออ” ฉันหลับตาอย่างทนเจ็บปวดน้ำรอบ ๆ อ่างกระเด็นออกไปเก็บครึ่งจนเผลอให้เห็นเนินอกและหน้าอกที่ปริ่ม ๆ น้ำในขณะที่มือของฉันยังคงดันหน้าท้องแกร่งของเขาอย่างไม่ลืมตัว เพราะว่าของเขามันถลำเข้ามาลึก และยังคงดันเข้ามาจนสุดลำ...บลูไนท์ยังคงนิ่งและมองจ้องหน้าของฉันด้วยแววตาดุดันคู่นั้น... บลูไนท์โน้มใบหน้าเข้ามาหาฉันช้า ๆขณะที่มือของเขาเลื่อนขึ้นมาบีบขยำที่หน้าอกของฉันก่อนจะขยับท่อนล่างกระแทกกระทั้นเข้าออกร่องรักจนน้ำในอ่างกระเด็นเซ็นซ่านไปทุกสารทิศตั้บ! ตั้บ! ตั้บ!!! แก้มของบลูไนท์แนบชิดกับแก้มของฉัน ร่างกายของเราแถบจะรวมเป็นคนเดียวกัน ความใหญ่โตของเขาที่ยัดเยียดเข้ามาในช่องรักที่คับแน่นของฉัน ยังคงหนักแน่นใส่ฉันในทุก ๆ แรง กระแทกเข้ามาในร่างกายของฉันตั้บบบ! ตั้บบบ! ตั้บบบ!!!“อื้อออ!” ฉันอุทานลั่นอย่างจุกเพราะความลึกยาวของเขาที่กระแทกเน้นมาจนสุดโคนและยังคงทิ่มแทงเข้ามาด้วยความหนักหน่วงขึ้นทุกที ๆยิ่งบลูไนท์บีบขยำหน้าอกอย่างสนุกมือจนแดงช้ำเป็นจ้ำ ๆตั้บ!! ตั้บบ!! ตั้บ ๆ ๆ ๆ เสียงเนื้อแนบชิดกระทบกันดังสนั่นห้องน้ำ น้ำที่กระเด็นออกจากอ่างจากุซซี่จนแท
Ep.49HAPPY WIFE HAPPY LIFE (END)“แล้วถ้าคืนนี้ หนูยอมคุณ...คุณจะ....” ร่างของสาวน้อยวัยเจริญพันธุ์ที่ค่อย ๆ เอาทรวงอกโตของเธอถูไถเข้ากับท่อนแขน ของผมอย่างจงใจยั่วยวนให้ผมฟุ๊บบบบ ผมจับแขนของเธอ ก่อนจะดึงออกจากร่างกายของผม และดันท่อนแขนที่บอบบางนั้น ไปด้านหลังของเธอราวกับตำรวจที่จับผู้ร้าย.. ผมกดใบหน้าลงต่ำจากลำตัว...“คุณบลูไนท์...” เธอเรียกชื่อของผมด้วยเสียงใสซื่อ ฟุ๊บบบบ ผมดึงตัวของเด็กน้อยที่หน้าใสคนนี้ออกมาจากห้องทำงาน“เออ...” เธอยังคงทำตัวอ่อนระทวยกับสัมผัสที่รุนแรงของผม“คุณบลู..” เธอทำเสียงเล็กเสียงน้อยราวกับกำลังเขินกับการกระทำของผม ผมยังคงแสยะยิ้ม และลากเธอเดินตามออกมาอย่างดุดันตั่บบ...เจ้าตัวสะดุดขาของตัวเองและล้มลงกลางห้องรับแขก ซึ่งทำให้ผมสะดุดตามไปด้วย จนใบหน้าแทบจะชนกัน...ลมหายใจของเธอพ่นใส่ใบหน้าของผม ใบหน้าและแววตาที่วิงวอน..“มารยา” ผมพ่นคำนั้นออกมาก่อนจะ จับที่คอเสื้อของผู้หญิงคนนั้นและ....ฟุ๊บบบบบ ลากคอของเธอออกมาจากบ้านตัวเองดวงไฟในบ้านสว่างจ้าขึ้นทุกดวง ด้วยระบบเซนเซอร์“โอ้ยย...คุณบลูไนท์หนูเจ็บค่ะ” ยัยนั่นร้องขึ้นอย่างตกใจที่ถูกผมลากคอออกมาจากถึง“หนูเ
Ep.48แบบทดสอบรักPibPreaw’s part“สวัสดีค่ะ คุณพ่อคุณแม่” ฉันยกมือขึ้นไหว้ต่อหน้าโกศอัฐิของคู่สามีภรรยาคู่หนึ่ง ในวัดที่เงียบสงบ และแทบจะไม่ต้องสืบเลยว่าฉันเป็นอะไรกับพวกท่าน เพราะว่าแค่เพียงรูปถ่ายก็สามารถบ่งบอกได้แล้วว่า ใบหน้าของฉันละหม้ายคล้ายกับพ่อแท้ ๆ ของตัวเองมากแค่ไหน และแม้แต่เจ้าตัวเล็กอย่างเดย์ดรีม ก็เหมือนคุณตาเอามาก ๆ จน บลูไนท์ยังทักขึ้นส่วนรอยยิ้มฉันก็เหมือนจะได้จากแม่มาเต็ม ๆ“หนู..พริบพราวลูกสาวของพ่อกับแม่นะคะ” ฉันเริ่มแนะนำตัวเองก่อนหันไปทางบลูไนท์“และคนนี้ก็บลูไนท์ สามีของหนูเองค่ะ” ฉันเอ่ยแนะนำกับรูปภาพของท่านทั้งสองที่ยิ้มแย้ม แม้จะเป็นภาพขาวดำก็ตาม“ตอนนี้คุณพ่อคุณแม่ มีหลานถึงสองคนแล้วนะคะ” ฉันเริ่มที่จะเล่าเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับตัวเอง ให้พวกท่านได้ฟัง แม้จะรู้ว่าพวกท่านไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้แล้วก็ตามแต่อย่างน้อยก็มีคุณสามีที่น่งฟังอย่างตั้งอกตั้งใจและไม่มีขัดเลยสักคำตั้งแต่ต้นจนจบ... “สบายแล้วเนาะ ได้รู้ความจริงสักที” บลูไนท์นวดที่ไหล่ของฉันเบา ๆ ขณะที่เราสองคนเดินออกมาจากวัด หลังจากทำบุญและก็เยี่ยมโกศของพ่อแม่แท้ของฉันในวันนี้“ฉันคงไม่มีทางรู้เกี่ยวกั
Ep.47You are my Prisonerฉันก้มลงมองชุดเจ้าสาวของตัวเองที่ร่วงไปกองที่พื้น ด้วยฝีมือของจอมหื่นกามอย่าง..ฟู๊บบบ....บลูไนท์ช้อนอุ้มตัวของฉันลอยจากพื้น และตรงดิ่งไปที่เตียง 12 ฟุตที่ตรงอยู่กลางห้อง ท่ามกลางวิวทะเลกินพื้นที่ของห้องไปครึ่งหนึ่ง“บลู...” ฉันสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อบลูไนท์อุ้มฉันมาวางลงที่เตียงตรงกับภาพวิวทะเล และเสียงของคลื่นทะเล ที่ดังเข้าผ่านใน...“ฉันคงไม่ต้องบอกนะว่าเธอมีหน้าที่อะไร?” บลูไนท์ตีหน้าเคร่งขรึมใส่ฉัน“หื้ม?? กล้าหรอ!!” ฉันหลุดอมยิ้มออกมาเล็กน้อยกับท่าทีที่ดูโหด ๆ ของเขา ที่ไม่ได้เจอะเจอมานานแล้วบลูไนท์ส่ายหน้าเบา ๆ และยิ้มมุมปากออกมาด้วยท่าทีเจ้าเล่ห์“หน้าที่ของภรรยาไง...” บลูไนท์พูดด้วยเสียงที่เซ็กซี่ชวนสยิว..มือของบลูไนท์ค่อย ๆ ลูบไล้เรือนร่างของฉัน ที่มีเพียงเกาะอกบาง ๆ กับกางเกงลูกไม้สีขาวตัวจิ๋วจุ๊บส์!! เขาค่อย ๆ จูบลงที่หัวเข่าด้านซ้ายอย่าวแผ่วเบา ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ เลื่อนริมฝีปากลงไป ที่โคนขาอ่อน และยังพรมจูบต้นขาของฉันอย่างหื่นกระหาย“บลูไนท์” ฉันรู้สึกหวิว ๆ จนอยากจะขยับขาหนีแต่บลูไนท์ก็ค่อย ๆ จับขาทั้งสองข้างแยกถ่างออกจากกัน“รู้ไหมว่าฉันต้องทนท
Ep.46ยอมโง่“เมีย..ที่แกซื้อมาด้วยเงินร้อยกว่าล้านนะหรอ?” พ่อของบลูไนท์ถามขึ้นด้วยท่าทีนิ่งเฉย ก่อนที่ท่าจะเดินไปนั่งอยู่มุมโซฟาภายในห้อง“ใช่” บลูไนท์แสยะยิ้มตอบกลับไปตามความจริงที่มันเคยเป็นก่อนที่มือของเขาจะจับมือของฉันเอาไว้แน่น“แต่แกปกป้องผู้หญิงที่ไร้ค่าคนนี้ ด้วยชีวิตของแกงั้นหรอบลูไนท์!” พ่อของบลูไนท์ขึ้นเสียงแข็งกร้าว ออกมา และเหลือบมองฉันด้วยแววตาที่ไม่พอใจ“ถ้าพ่อบอกว่า ชีวิตของพราวไร้ค่า งั้นชีวิตของผมที่ยอมตายแทนเธอ...มันก็ไม่ได้มีค่าอะไรหรอก” บลูไนท์พูดกึ่งประชดไปที่พ่อของเขา“บลูไนท์พอเถอะ” ฉันบีบมือและพูดกับบลูไนท์อย่างแผ่วเบา“ฉันเคยคิดว่าแกฉลาดกว่าทุก ๆ คน” พ่อของบลูไนท์ส่ายหน้าและมองเขาอย่างผิดหวัง“ถ้าการเรียนรู้ที่จะรักใคร และปกป้องครอบครัวตัวเองเรียกว่าโง่ ..” บลูไนท์สวนกลับไปทันที“ผมก็ยอมโง่!” เขาตอบด้วยรอยยิ้ม“และที่ผมไม่เหนี่ยวไกปืนฆ่าไอ้บราวน์ทั้งที่ผมมีโอกาส ...ก็เพราะว่าผมมันโง่ด้วยงั้นใช่ไหม” เขาตอบอย่างชัดถ้อยชัดคำ และสู้สายตากับผู้เป็นพ่ออย่างไม่ลดละพ่อของบลูไนท์เงียบไปชั่วขณะ........“ถ้าแกคิดว่าจะเอาลูกในท้องของผู้หญิงคนนี้ ที่อดีตเป็นแค่นางบำเร
Ep.45เมียกู“ไอ้บลูนะมันถึกจะตายไป....ไม่ต้องห่วงหรอก” จีซัสพูดด้วยน้ำเสียงให้กำลังใจกับฉันฉันฝืนยิ้มจาง ๆ รับคำให้กำลังใจของเขาไป เพราะว่าในความจริง ทุกคนรู้ดีว่า..ไม่มีใครที่ไหนจะถึกและอึดจนไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับกระสุนปืน ที่ยิงปะทะร่างกายได้...บลูไนท์คง.....เจ็บมากแน่ ๆ..ฉันมองผ่านกระจกห้องไอซียูที่ประตูยังคงปิดสนิทจู่ ๆ น้ำตาล้นเอ่อออกมาอย่างที่ไม่อาจจะฝืนมันได้จริง ๆ น้ำตาที่ไหลออกมาเพราะความอ่อนแอของฉันฉันเข็มแข็งและต่อสู้กับอะไรไม่ได้เลย ..ถ้าฉัน...ไม่มีบลูไนท์อยู่ข้าง ๆ แบบในตอนนี้...ฉันเพิ่งรู้ว่าไม่ใช่แค่เขาที่ขาดฉันไม่ได้ แต่เป็นฉันนี่แหละ ที่คงอยู่ไม่ได้ถ้าขาดหัวหน้าครอบครัวอย่างเขา..จีซัสหันมามองทางฉันทันที แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะปลอบแต่อย่างใดฉันค่อย ๆ ปาดน้ำตาและลูบที่ท้องของตัวเองเบาใจหนึ่งก็ห่วงลูก อีกใจก็พะวงถึง...เขา.................................“ให้ฉันพาเธอไปพักก่อนเถอะนะ เธอเองก็เจ็บมาเหมือนกัน” จีซัสเหมือนพยายามอยากจะพูดเตือนให้ฉัน นึกถึงตัวเองและลูกให้มากขึ้นเพราะสภาพของฉันก็แย่ไม่ต่างกันเท่าไหร่ แขนด้านซ้ายที่รับน้ำหนักตัวตอนที่ล้มก็หักจนต้องเข้าเ
Ep.44เธอจะปลอดภัยเสมอ“กลับมา..ฉันเป็นห่วงนาย” ฉันตะโกนออกไปทั้งที่รู้ว่ารถคันนั้นนะ มันแล่นออกไปไกลสุดตาในเวลาดึกและฝนตกขนาดนี้...เขาจะออกไปทำไมกันนะฉันยังคงยืนตากฝนอย่างคิดและกังวลถึงแต่บลูไนท์คนเมาซะขนาดนั้นขับรถออกไปท่ามกลางฝนแบบนี้...“ฉันจะทำยังไงดี...” ฉันคิดไม่ตกเลยจริง ๆ ว่าควรจะทำยังไงต่อดีแต่แล้วเพียงไม่นาน...ฟู๊บบบบ...แสงไฟจ้าจากรถยนต์คันหนึ่งก็สาดไฟสูงตรงเข้ามาทางฉัน“บลูไนท์... นายกลับมา?” ฉันยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่ามีรถกำลังขับเข้าตรงมาทางฉันท่ามกลางสายฝน ที่โปรยปรายในยามวิกาลแบบนี้.. แต่หน้าแปลกใจที่...บรื้นนนนนน บรื้นนนนน เสียงเร่งเครื่องยนต์ของรถคันนั้นขับพุ่งตรงเข้ามาทางฉันเสียงคำรามของเครื่องยนต์รถดังพอ ๆ กับเสียงของท้องฟ้าที่ร้องคำรามราวกับพายุกำลังเข้า“นั้นไม่ใช่บลูไนท์” ฉันแทบก้าวขาไม่ออกเมื่อพบว่ารถคันนั้นเป็นสีดำสนิทและมันกำลังพุ่งทะยานเข้ามาหาฉันแบบไม่มีทีท่าว่าหักหลบไปทางอื่น..“กรี้ดดดดดดดดดด.....” ฉันร้องกรี้ดลั่นอย่างตกใจภายในเสี้ยววินาทีชีวิต ฉันตั้งสติครั้งสุดท้ายก่อนจะก้าวเท้าวิ่งสุดชีวิตกลับเข้าไปในบ้าน แต่ด้วยความเร็ว ของรถที่พุ่งตรงเข้ามา
Ep.43ฉันรู้เธอเกลียดฉัน“ทำอะไรเกรงใจลูกในท้องบ้างนะ!!!” และนั่นเป็นครั้งแรกในรอบหกเดือนที่บลูไนท์ขึ้นเสียงใส่ฉันบลูไนท์มองตาขวางไปทางมอร์ฟิน มือของเขากำหมัดแน่นมือที่จับไหล่ของฉันด้วยเช่นกัน แต่เพียงไม่นานเขาก็คลายมือข้างที่บีบไหล่ของฉันออกช้า ๆ พร้อมทั้งเสียงกัดฟันดังขึ้นอย่างพยายามจะข่มอารมณ์“โทษทีที่เข้ามาขัดจังหวะ” เขาพูดแม้ว่าจะสั่นไปด้วยความโกรธเต็มทน แต่เขาพยายามที่จะควบคุม มันเอาไว้ ทั้งที่ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงจะระเบิดออกมาแล้ว“ฉันไม่อยากให้ลูกในท้องสับสนว่าใครเป็นพ่อของเขากันแน่” บลูไนท์เมมปากและกำหมัดแน่น“บลูไนท์!!” ฉันเองก็เริ่มไม่พอใจกับคำพูดนั้นของเขา“ไอ้เชี้ยบลู” มอร์ฟินเองก็ชักสีหน้ากลับอย่างไม่พอใจกับคำพูดจากปากเขา“เกรงใจกูบ้างนะ ถ้ามึงยังอยากให้กูเกรงใจมึง!” บลูไนท์ชี้หน้าของมอร์ฟินอย่างข่มขู่ ก่อนจะหันมา มองทางฉันนิ่ง ๆ“ฉันจะรอเธอข้างนอก อยากทำอะไร....ก็เชิญ” เขาพูดแค่นั้น“แต่ขอแค่อย่ามากกว่าที่เพิ่งเห็นไปก็พอ!!” เขาทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนจะเดินกระชากประตูออกไปนอกห้อง ทันทีปัง!!! เสียงปิดประตูดังสนั่น แต่ฉันนะชินชาไปแล้วจริง ๆ กับอารมณ์ร้อน ๆ ของคนอย่างบลูไนท์“น
Ep.42 ขอโทษและขอบคุณ“และพ่อรักแม่ของเขามากแค่ไหน..” บลูไนท์พูดออกมาด้วยเสียงเรียบนิ่ง แต่มันกับทำให้คนที่เข้มแข็งอย่างฉัน กลั้นน้ำตาเอาไม่อยู่กับประโยคสุดท้ายของเขาฟุ๊บบบ..ฉันขยับตัวเข้าไปกอดอ้อมกอดที่อบอุ่นนั้นและร้องไห้ออกมาอย่างสุดกลั้น และไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร ตอบเขากลับไป และร้องไห้อยู่แบบนั้นจนผล็อยหลับไปในอ้อมอกของเขาอย่างอ่อนล้าและจิตใจที่อ่อนแอ เหลือเกิน———เช้าวันต่อมา———“นายยังไม่ออกไปทำงานอีกหรอ?” ฉันตื่นนอนมาในตอนเช้าแต่เหมือนว่าจะไม่เจอกับบลูไนท์ แล้วจึงคิดว่าเขาน่าจะออกไปทำงาน แต่กลับกลายเป็นว่าเขากำลังทำอาหารเช้าอยู่ในห้องครัวต่างหาก“ไปสายๆ” เขาตอบอย่างตีหน้านิ่ง ขี้เก๊กไม่มีเปลี่ยนจริง ๆ ฉันเดินเข้าไปดูว่าบลูไนท์กำลังทำอาหาร อะไรอยู่ โดยมีพวกของสดเต็มโต๊ะไปหมด“ฉันอ่านมาว่าอาหารการกินน่ะสำคัญมากสำหรับคนท้อง ฉันเลยไม่วางใจใครนอกจากตัวเอง” เขาพูดก่อน จะลงมือปรุงอาหารต่อ และชิมเองทุกขั้นตอนทุกๆอย่างที่บลูไนท์ทำ...ทำให้ฉันรับรู้ได้ว่า เขาไม่ได้ใช้เงินฟาดไปกับทุก ๆ เรื่อง เพราะหลาย ๆ อย่าง เขาทำมันอย่างใส่ใจและตั้งใจ ทั้งที่เขาสามารถใช้เงินแก้ปัญหามันได้เช่นกันหลั
Ep.41ถ้าพรุ่งนี้ไม่มีฉัน“แต่เขายังรักเธอเหมือนเดิม”แซมมี่พูดด้วยใบหน้าเรียบนิ่งกับฉัน ฉันไม่รู้ว่าเธอกำลังหมายความว่ายังไงกันแน่“แต่เธอรู้นิว่ามอร์ฟินเป็นแฟนฉัน” ฉันถามกลับเสียงแข็ง ๆ อย่างนึกโกรธ แต่ก็พยายามข่มอารมณ์เอาไว้ เพราะเอาจริงแล้ว เราเรียนห้องเดียวกัน เพียงแค่ฉันไม่เคยคุยกับแซมมี่หรือสนิทสนมกับเธอ และมอร์ฟิน เองก็เช่นกัน“ทำไม...ยังยอมมีอะไรกับเขา ???” ฉันถามอย่างกำหมัดแน่น“เอากันไม่เลือกหน้า ด้านดีจริงๆ” ฉันกัดฟันพูดอย่างจุกอก“อยากด่าอะไร ก็ด่าออกมาเถอะ ฉันมันสมควรถูกด่าแบบนั้นอยู่แล้ว” แซมมี่แสยะยิ้มรับทั้งที่แววตา ของเธอเศร้า“เพราะว่างานปาร์ตี้คืนนั้น...ในบรรดาผู้ชายทั้งหมดฉันรู้จักมอร์ฟินแค่คนเดียว” แซมมี่กัดริมฝีปาก อย่างลำบากใจที่จะพูดออกมา “และฉันหยุดความต้องการ...นั้นไม่ได้” เธอพูดออกมาด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่ง “เฮ้ยยย !!!!” ฉันร้องออกมาทั้งตกใจและโกรธที่ได้ยินแบบนั้น“ฉันรู้ว่าเธอดูแรงๆ แต่ไม่คิดว่าจะร่านได้ขนาดนี้” ฉันด่าผู้หญิงคนนั้นออกไปตรง ๆ และมองเธออย่าง ไม่เชื่อสายตาตัวเอง“เธอควรพบจิตแพทย์นะ ถ้าจะเ-ี่ยนได้ขนาดนี้” ฉันพูดออกไปอย่างสุดจะทน กับผู้หญิงค