บทที่ 4 ซื้อ ซื้อ ซื้อ Shop Shop Shop
ก่อนออกจากคอนโดหยางชิงโม่ได้โทรเช่าโกดังขนาดใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลเอาไว้ ถึงแม้จะราคาค่าเช่าสูงหน่อยแต่ว่าเพื่อความสะดวกในการรับของเมื่อมีคนมาส่ง เธอก็ตัดสินใจเช่าเมื่อเรียบร้อย หยางชิงโม่ก็ขับรถออกมาจากคอนโดหยางชิงโม่ก็พุ่งไปที่ตลาดสดทันที เธอยังม่ีของที่จะต้องซื้ออีกหลายอย่างเธอจึงนำได้ ลิสต์รายการที่ทำเอาไว้ก่อนหน้านี้ออกมา เพื่อดูว่ามีของอะไรที่สามารถสั่งตอนนี้ได้เลยบ้าง เมื่อมาถึงก็พุ่งไปหาสิ่งของสำคัญทันที เพราะสิ่งที่จะลืมไม่ได้สำหรับเราชาวย้อนเวลาก็คือ ซาลาเปา หยางชิงโม่จัดเลยทั้งไส้เค็ม ไส้หมู ไส้กุ้ง ไส้เนื้อ ไส้หวาน อย่างละ5000 ลูก ทั้งแบบสุกและแบบดิบ รวมทั้งขนมจีบ ทั้งจีบกุ้ง ปูและหมูด้วย
จากนั้นก็เริ่มสั่งพวกอาหารปรุงสุกที่ทำสำเร็จแล้ว ตอนนี้ที่ตลอดเธอเห็นมี ไก่ทอด แฮมเบอร์เกอร์ เฟรนด์ฟราย พวกของทอด ของปิ้งย่างทั้งหลาย เมื่อมาถึงร้านชื่อดังเธอก็สั่งทันที โดยให้ทางร้านทำเป็นชุดอย่างละ 500 ชุด และให้จัดส่งในวันพรุ่งนี้ เธอจ่ายมัดจำบางส่วนและแจ้งสถานที่จัดส่งเอาไว้ด้วย มีแม่ค้าบางรายสงสัยเธอก็บอกว่าจะเอาไปบริจาคซึ่งพวกเขาก็เข้าใจในทันที เพราะมีคนรวยๆ มากมายที่มักจะมาสั่งอาหารเพื่อไปบริจาคให้ศูนย์เด็กกำพร้าและศูนย์คนชรา
เมื่อสั่งเสร็จเธอก็เดินต่อไปที่แผนกต่อไปซึ่งก็คือ พวกเครื่องปรุงต่างๆ ทั้งของจีนและต่างประเทศเธอสั่งเอาไปให้หมด อย่างละ 5000ลัง เธอเดินมาอีกแผนกเห็นพวกน้ำมันพืชต่างเมื่อดูในลิลส์แล้วเห็นว่ายังไม่ได้สั่งหยางชิงโม่ก็จัดการเลย เธอสั่งน้ำมันพืชเอาทั้งแบบลิตรไปหลายพันลิตรทั้งแบบคุณภาพสูงและแบบสำหรับใช้ในอุตสาหกรรม และมีแบบบรรจุขวดสำหรับขายได้ด้วย ต่อมาก็เป็นแผนกผักผลไม้ ต่างๆ เธอเลือกคละกันไป 20 ชนิดอย่างละ 2000-3000 กก อยู่ที่ไหนก็ต้องได้กินผลไม้ กินผัก ยิ่งสตอเบอร์รี่ผลโต ๆ ลูกแพรแอปเปิล แตงโม ฝรั่ง มะขาม มะม่วง จำเป็นต้องเอาไป สั่งเสร็จจ่ายมัดจำและให้ที่อยู่ในการจัดส่งเรียบร้อยไปอีกหนึ่งแผนก
เดินต่อมาก็เจอสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ ไข่ไก่ ของจำเป็นประจำบ้านจัดไปสัก 1,000,000 ฟอง และมีเพิ่มไข่เค็มอีกทั้งไข่เป็ด ไข่ไก่ อย่างละ 50,000 ฟอง จ่ายมัดจำและแจ้งที่อยู่เดินต่อไป
เมื่อจัดการพวกอาหารเสร็จเรียบร้อยเธอคิดว่าได้ครบแล้วทุกอย่าง ชีวิตที่นั่นน่าจะไม่ลำบากแล้ว เธอออกจากตลาดและขับรถมาต่อที่ห้างสรรพสินค้าทันที เพราะตอนนี้เธอยังไม่มีพวกอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเลย เธอเดินไปที่แผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ โทรทัศน์เธอหาแบบไม่ใช่แบบสมาร์ทTV ไปด้วยเพราะช่วงแรก TV น่าจะเป็นแบบธรรมดายังไม่มีสมาร์ทTV แบบปัจจุบัน ส่วนพัดลมเอาไปหลายๆ ขนาดเช่นกัน ตู้เย็นเครื่องใหญ่ๆ 20 เครื่อง แอร์คอนดิชั่นเอาไป100 เครื่อง เอาเครื่องใหญ่ๆ เช่นกัน และพวกเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้านต่างๆ เท่าที่เธอจะคิดออกเอาไปด้วย รวมทั้งชุดไฟโซล่าเซลล์ และมีจักรเย็บผ้าด้วย เธอเห็นรุ่นโบราณอยู่เกือบ 20 ตัวจังเหมาหมดและให้ทางร้านจัดส่งเช่นเดิม หยางชิงโม่เดินวนหาซื้อของอยู่จนขาล้าไปหมดจากนั้นก็รีบขับรถกลับมาคอนโด
เมื่อทานอาหารที่ซื้อมาจากข้างนอกเสร็จ เธอก็เริ่มเช็คดูรายการต่างๆ อย่างไหนที่สั่งแล้วอย่างไหนที่ยังไม่สั่งก็จัดการทยอยสั่งไปทั้งแบบออนไลน์ เมื่อดูในลิสต์แล้วเธอพบว่ายังไม่ได้สั่งอาวุธสำหรับป้องกันตัวเผื่อมีเหตุการณ์ฉุกเฉิน เธอจีงโทรหาเจ้าหน้าที่ระดับสูงบางคนในกรมตำรวจและสั่งปืนทั้งแบบสั้นและยาวมาอย่างละ5 กระบอก หยางชิงโม่มีงานอดิเรกที่ชื่นชอบคือการ ยิงปืนและขี่ม้า ทำให้การสั่งซื้อทำได้ไม่ยากนักประกอบกับเธอจ่ายเงินเยอะเพราะต้องการของเร็ว และยังได้จัดการสั่งอุปกรณ์ก่อสร้างต่างๆ ไปด้วยเลยเพราะเธอจะต้องสร้างบ้านใหม่แน่นอน
ส่วนพาหนะเธอนำ รถยนต์super car 5 คัน Mercedes-Maybach S-Class S 680 4 คัน และ Mercedes-Maybach S-Class S 580 e Plug-in Hybrid อีก 3 คัน ยังเธอยังหารถยี่ห้อหงฉี นำไปด้วยอีก 3 คัน เพราะช่วงแรกน่าจะเอารถเบนซ์กับ super car ออกมาขับไม่ได้แน่ ดังนั้นเอาหงฉีออกมาก่อนและยังมีสั่งรถกระบะและรถบรรทุกอีกอย่างละ 3 คัน รถจักรยานยนต์ 3 คันและยังหารถจักรยานยนต์พ่วงข้างได้อีกด้วย 2 คันไปด้วย ช่วงแรกจะเอารถจักรยานยนต์และรถพ่วงข้างมาใช้ก่อนจะได้ไม่เป็นที่สะดุดตาเกินไป
นอกจากนี้เธอยังต้องการหนังสือ หนังหา ประเภทต่างๆ ทั้งภาษาจีน อังกฤษ ญี่ปุ่น เกาหลี เยอรมัน ฝรั่งเศส อาราบิค รวมถึงภาษาไทยทั้งแบบหนังสือเสียงและเครื่องเล่นต่างๆ ไปด้วยเตรียมไว้ให้ลูกๆ ของเธอได้ฝึกออกเสียงกันด้วย เพราะเป็นลูกของอัจฉริยะอย่างคุณหมอหยางชิงโม่ลูกเธอต้องเก่ง รวมถึงพวกของเด็กเล่นต่างๆ ทั้งแบบเสริมปัญญาและของเล่นสำหรับเด็กแต่ละช่วงอายุ เธอต้องการให้พัฒนาการของลูกน้อยดีและแข็งแรงตามวัย หยางชิงโม่นั่งสั่งของและหาข้อมูลต่อจนดึก เมื่อร่างกายไม่ไหวเธอจึงต้องนอน
เช้าวันต่อมาของที่สั่งต่างๆ เริ่มทยอยมาส่งยังโกดังขนาดใหญ่ที่เธอเช่าเอาไว้และเมื่อพวกเขากลับไป เธอจัดการนำทุกอย่างเข้ามาในมิติเรียบร้อยและรู้สึกอุ่นใจว่าถึงเธอจะข้ามมิติไปก็จะไม่ลำบากแน่แล้ว
ชีวิตช่วง 7 วันของเธอวนเวียนอยู่กับการรับของจ่ายเงินและรับของอยู่เช่นนั้นจนกระทั่งวันสุดท้ายครบกำหนด 7 วันก่อนที่เธอจะต้องย้อนอดีตไปในปี 1978แล้ว
หยางชิงโม่กลับมาที่คอนโดที่พักและเริ่มเขียนจดหมาย (พินัยกรรม) ในส่วนของทรัพย์สินที่ยังเหลืออยู่ของเธอ ไม่ว่าจะเป็นที่ดินหลายแปลง และที่พัก คอนโด บ้านให้เช่า ที่เธอสละสมไว้ เธอได้แบ่งบริจาคให้ทั้งโรงพยาบาลและสถานสงเคราะห์หลายแห่งส่วน หุ้นและบิทคอยน์ต่างๆ เธอได้ขายไปหมดแล้วและนำเงินมาสั่งของเรียบร้อย เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อยเธอเก็บข้าวของในคอนโด ไม่ว่าจะเป็นพวกกระเป๋าแบรนด์นาม นาฬิกา เครื่องประดับและเสื้อผ้าแบรนด์นาม เธอเอาไปด้วยหมดเดียวก็ได้ใส่เนาะ 5555 เมื่อคิดว่าจัดทุกอย่างครบ หยางชิงโม่มองกระดาษสีทองแผ่นเล็กในมือ
"3 ชม 20 นาที 20 วินาที.."
เธอเหลือเวลาอีก 3 ชม.กว่าๆ หยางชิงโม่จึงแต่งตัวด้วยชุดสีขาวที่สวยที่สุดและอุ้มเจ้าเสี่ยวเฮย และเรียกรถแทกซี่ไปส่งเธอที่ชายหาดไม่ไกลจะที่พักเธอได้โทรจองโต๊ะทานอาหารสุดหรูริมทะเลเอาไว้แล้ว ช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตของเธอ เธอจะจากไปแบบสวยงามและไม่มีอะไรติดค้างในโลกใบนี้ เมื่อมาถึงร้านเธอแจ้งชื่อและพนักงานก็พาเธอมาที่โต๊ะที่ทางร้านจัดเอาไว้อย่างสวยงาม
หยางชิงโม่สั่งอาหารมาทานและเมื่อทานอาหารเสร็จเธอก็นั่งจิบไวน์ราคาแพงและมองเวลาจากกระดาษสีทองที่ถอยลงเรื่อย ๆ
...... 20 นาที 58 วินาที....
...... 5 นาที 10 วินาที....
...... 1นาที 20 วินาที....
.......05... 04... 03... 02... 01...
.…00.00...วินาที....
ภาพที่คนผ่านไปมาเห็นคือสาวสวยที่กำลังนั่งหลับตาอยู่ บนโต๊ะมีแก้วไวน์สีแดงที่ดื่มไปแล้วครึ่งแก้ว.........
///////
ณ หมู่บ้านชนบทที่ห่างไกลในปี 1978….
.".ฮือ..ฮือ..ฮือ...แม่จ้า....แม่...แม่ตื่น".
“แม่ครับ แม่ตื่นนะ ตื่นนะ หิวแล้ว พวกหนูหิวแล้ว”
เสียงร้องไห้หลายเสียงประสานกัน....พร้อมกับดวงตาที่ลืมขึ้นของหยางชิงโม่......
***** มีคนร้องไห้รอแม่อยู่ที่ปี 1978 แล้ว!! ****
บทที่ 5 แม่ครับโจ๊กอร่อยมากเลยครับ เสี่ยวเป่าชอบมากเลยณ หมู่บ้านชนบทที่ห่างไกลในปี 1978…..".ฮือ!!..ฮือ!!..ฮือ!!..แม่จ้า....แม่...แม่ตื่น".“แม่ครับ แม่ตื่นนะ ตื่นนะ หิวแล้ว พวกหนูหิวแล้ว”เสียงร้องไห้หลายเสียงประสานกัน....พร้อมกับดวงตาที่ลืมขึ้นของหยางชิงโม่......หยางชิงโม่รู้สึกมึนงง ศีรษะของเธอยังหนักอึ้ง ราวกับถูกก้อนหินทับอยู่ เธอค่อยๆ หันศีรษะมองตามเสียงที่ร้องไห้อยู่เสียงเหล่านั้นเป็นเสียงของเด็กๆ แน่นอน และดูเหมือนว่าคงร้องไห้มานาน เพราะเสียงร้องไห้ของพวกเขาต่างก็แหบแห้ง เมื่อหันมาก็เห็นเด็กน้อยทั้งสามนั่งร้องไห้น้ำตาไหลอาบแก้มอยู่ เสื้อผ้าเปียกปอน มองดูน่าสงสาร เด็กๆ นั่งเรียงกันอยู่ข้างๆ เตียงของเธอ ใบหน้าของพวกเขาเหมือนกันราวกับแกะสลัก ดวงตากลมโตสีดำขลับ จมูกโด่ง ปากเล็ก ผิวสีแทนเล็กน้อย เมื่อพวกเขาเห็นเธอลืมตาขึ้นมาเสียงร้องไห้นั้นก็หยุดลง และบนดวงหน้าที่ถึงจะผอมแต่ทว่าพวกเขาก็น่ารักนัก และตอนนี้บนใบหน้าพวกเขาก็มีแต้มด้วยรอยยิ้มจางๆ ที่เปื้อนคราบน้ำตา แม่ของพวกเขาตื่นแล้ว คุณแม่ตื่นแล้ว!!!!หยางชิงโม่พยายามฝืนความอ่อนเพลีย ลุกขึ้นนั่ง มองดูลูกๆ ของเธอ เด็กน้อยทั้งสามผอมแ
บทที่ 6 เสี่ยวเฮยก็ตามมาด้วย!!!..."เหมียวววววววว!"...เสียงร้องแหลมดังขึ้นกะทันหัน ทำให้หยางชิงโม่สะดุ้ง เธอหันไปตามเสียงด้วยความตื่นเต้น หัวใจเต้นรัว "เสี่ยวเฮย!! เจ้าเสี่ยวเฮยหรือเปล่า?" เธอรีบลุกขึ้นจากที่นั่ง เรียกมันเสียงดังด้วยความหวังท่ามกลางแสงสลัวของสถานที่แปลกประหลาด เจ้าแมวสีดำตัวอ้วนกลมปรากฏตัวขึ้น มันชำเลืองมองหยางชิงโม่ด้วยสายตาที่ไม่ใส่ใจ ก่อนจะหันหลังนั่งเลียขนของมันต่อ ด้านหลังที่อ้วนกลมเหมือนถังแก๊สเล็ก ๆ ทำให้เธอมั่นใจว่านั่นคือเจ้าเสี่ยวเฮยของเธอแน่นอน แมวตัวไหนจะอ้วนกลมขนาดนี้ได้ถ้าไม่ใช่มัน?ครู่หนึ่ง มันแอบชำเลืองมองเธออีกครั้ง สายตาที่ส่งมาเหมือนจะบอกว่า "จะเสียงดังทำไม?" แต่หยางชิงโม่ไม่ถือสา เธอยิ้มกว้าง ดวงตาเป็นประกายระยิบระยับด้วยความดีใจ เธอรีบวิ่งเข้าไปหาเจ้าแมวตัวน้อย อุ้มมันมากอดแน่น ๆขนปุยสีดำสนิทมันวาวของมันบ่งบอกว่ามันกินดีอยู่ดีและอุดมสมบูรณ์มาก แม้แต่เด็ก ๆ ในแถวนี้ยังผอมแห้ง แต่เสี่ยวเฮยกลับอ้วนกลมเป็นถังแก๊สน้อย ๆ ขนของมันนุ่มนิ่ม เมื่อเธอยกมันสัมผัสกับแก้มของเธอ เสียง "เพอร์" เบา ๆ ดังก้องอยู่ในหู ราวกับกลัวว่ามันจะหายไปอีกครั้ง เธอกอดมันแน่
บทที่ 7 มาเปลี่ยนบ้านหลังน้อยให้ดูอบอุ่น Cozy cozy กันเถอะ. หยางชิงโม่ทิ้งเจ้าเสี่ยวเฮยเอาไว้กับเด็กๆ เธอลุกเก็บถ้วย จาน แก้วไปล้างที่ด้านหลังบ้าน..และได้เวลาสำรวจบ้านช่องกันแล้ว...เธอหันมองไปรอบตัวของเธออย่างช้า ๆ บ้านอิฐคับแคบและมืดมน เตียงไม้เก่า ๆ ตู้เก็บของที่อับชื้น มีโต๊ะกลมเล็ก ๆ ที่สีถลอก และเก้าอี้โทรม ๆ สาม สี่ตัวตรงมุมห้อง แต่สิ่งที่เตะตาเธอที่สุดคือปฏิทินติดผนังเมื่อเข้าไปมองใกล้ ๆ เธอก็รู้ว่าตอนนี้เป็นกลางเดือน 7 ปี 1978 ใกล้จะเข้าหน้าหนาวเข้าไปทุกทีแล้ว อากาศเริ่มลดมา เธอต้องเตรียมความพร้อมให้กับลูกๆ ของเธอก่อน สภาพของบ้านเธอแบบนี้หน้าหนาวจะต้องทรมานมากแน่ๆ เธออยากทำบ้านใหม่ให้ทันหน้าหนาวที่จะมาถึงในอีกไม่ถึง 2 เดือนนี้ แต่กลัวว่าการสร้างบ้านต้องใช้เวลานานกว่านั้น ดังนั้นในตอนนี้ที่ทำได้น่าจะแค่ซ่อมแซมหลังคาและตัวให้แน่นหนาก่อนและดูว่าถ้าเธอจะให้ทำเตาผิงในโถงบ้านจะทำได้หรือไม่ อย่างน้อยถ้าในบ้านมีเตาผิงพวกเธอ 4 แม่ลูกยังมานอนในห้องโถงได้ถ้าอากาศหนาวจัดหยายชิงโม่เดินดูรอบ ๆ บ้านว่าจะต้องซ่อมแซมอะไรบ้าง หลังจากหมดหน้าหนาวค่อยหาทางสร้างบ้านใหม่หรือขยับขยายออกไป.เมื่อเดิ
บทที่ 8 เริ่มต้นชีวิตใหม่พร้อมมิติที่ตามมาเช้าวันต่อมา หยางชิงโม่ที่ตั้งใจจะซ่อมแซมและจัดบ้านของเธอได้ตื่นขึ้นมาแต่เช้าเธอเดินเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมอาหารเช้าสำหรับเด็กๆ วันนี้เธอจะเอาข้าวต้มกุ้งจากมิติที่เธอสั่งจากร้านชื่อดังออกมาทาน เธอสั่งมาถึงอย่างละ 500 ชุดเลยทีเดียวเอาเป็นว่าไม่ต้องทำอาหารประเภทข้าวต้มกันไปอีกนานเลย เพราะมันมีทั้งข้าวต้มกุ้ง ข้าวต้มปลา ข้าวหมู ข้าวต้มทะเล รู้สึกอยากทานแบบไหนก็เอาออกมาเลย เธอดีใจที่มีมิติติดมาในยุคนี้ด้วย เพราะไม่เช่นนั้นเธอจะต้องปวดหัวกับการที่จะต้องหาอาหารมาทานแน่นอนถึงแม้ว่าช่วงนี้จะไม่อดอยากเหมือนหลายปีก่อน แต่การจะได้ทานเนื้อสัตว์ก็ไม่ได้บ่อยนัก นอกจากนำข้าวต้มออกมาเธอยังเอาปาท่องโก๋และนมสดออกมาด้วย ลูกๆ ของเธอต้องเริ่มดื่มนมตั้งแต่ตอนนี้ ส่วนเจ้าเสี่ยวเฮยเธอได้เอาเนื้อปลาที่ใส่ในข้าวต้มปลา แยกออกมาให้มันต่างหากด้วย 1 ถ้วยใหญ่เมื่อเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยเธอเดินไปปลุกเด็กๆ ให้ตื่นมาล้างหน้า แปรงฟัน โดยเธอนำแปรงสีฟัน ยาสีฟัน สบู่ แชมพู ครีมนวดผม ออกมาวางไว้ในห้องน้ำเรียบร้อยและเธอได้สอนเด็ก ๆ ในการแปรงฟัน ล้างหน้า ด้วยสบู่ ยาสีฟันที่เธอนำมาด
บทที่ 9 ครัวครอบสามีดีเกินไปนะผิดกับธรรมเนียมนิยม นิยายย้อนอดีตส่วนใหญ่หลังจากหยางชิงโม่เดินดูรอบบ้านและจัดแต่งบางส่วนของบ้านเพื่อให้อยู่ได้ก่อนในช่วงนี้ และเธอได้ค้นดูในตู้ใบเก่าพบว่า หยางชิงโม่คนเก่ามีเงินเก็บเอาไว้ถึง 180 หยวนเลยที่เดียว ถ้าเป็นสมัยนี้ก็ถือว่ามีเงินมากพอสมควร นี้หยางชิงโม่คนเก่าคนไม่เคยใช้เงินเลยแน่ๆ ถึงมีเงินเก็บมาขนาดนี้ และคงจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เธอป่วยและเสียชีวิตเพราะประหยัดเกินไปไม่ยอมซื้อของมาบำรุงตัวเอง แบบนี้ก็ไม่ไหวนะ ตัวเองอดแล้วยังให้ลูกอดด้วย จะเก็บเงินเอาไว้ทำไมหากว่าลำบากมาก เอาออกมาใช้สิ ..หยางชิงโม่คิดบ่นเจ้าของร่างเดิม จากนั้นเธอก็เก็บเงินเอาไว้ในมิติ เช้าวันต่อมาหลังเธอได้ไปหาพ่อสามีและพี่ชายสามีและน้องสามี และได้บอกให้พวกเขามาช่วยเปลี่ยนหลังคาที่ชำรุด 2-3 แห่ง ทำห้องอาบน้ำ และห้องน้ำให้เธอใหม่ โดยเธอนำชักโครกออกมาและบอกวิธีการติดตั้งให้พวกเขาซึ่งก็ใช้เวลาไม่นานพวกเขาก็สามารถทำได้แล้ว โดยเธอได้ให้ค่าจ้างไปคนละ 20 หยวน ซึ่งพ่อสามีและพี่ชายสามีไม่อยากจะรับมาแต่เธอไม่ยอมและให้เหตุผลว่า ตอนนี้พี่สะใภ้เฉินเจียวกำลังตั้งครรภ์จำเป็นต้องใช้เงิน
บทที่ 10 อยากทำการค้าพอเรื่องบ้านเรียบร้อยน่าอยู่ขึ้น หยางชิงโม่จึงได้มีเวลามานั่งดูเหตุการณ์ต่างๆ ที่กำลังจะขึ้นในช่วงปลายปี 1978- 1980 ซึ่งเธอได้ปริ้นออกมาหลายแผ่นด้วยกัน เธอต้องการที่จะเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับเรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้น ในเมื่อให้เธอย้อนอดีตมาแล้ว แถมยังให้มิติใส่ของมากมายมาด้วย ดังนั้นเธอจะต้องนำมาสร้างประโยชน์ด้วยสิเหตุการณ์สำคัญที่จะเกิดภายใน 2 ปีข้างหน้าคือการก่อตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษเมืองเซินเจิ้น ในมณฑลกวางตุ้ง ทางภาคใต้ของจีนเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งแรก ต่อมา ก็ขยายเขตเศรษฐกิจพิเศษขึ้นที่เมืองจูไห่, เซี่ยเหมิน และซ่านโถว (ซัวเถา) ระหว่างนั้น เซินเจิ้นเป็นจุดสาธิตทดลองนโยบายปฏิรูปของเติ้ง และดึงดูดให้นักลงทุนเข้ามาในประเทศ ซึ่งประจวบเหมาะที่เมืองจูไห่เป็นเมืองที่พวกเธออาศัยอยู่พอดี หยางชิงโม่ อ่านดูบริเวณที่จะทำเป็นเขตเศรษจกิจพิเศษ ซึ่งเป็นบริเวณทิศตะวันออกของเมือง ปัจจุบันเป็นที่อยู่อาศัยที่เก่าแก่มานานของชาวเมืองจะเรียกว่า สลัมก็ได้ ซึ่งบริเวณนั้นมีพื้นที่ประมาณ 10 กิโลเมตร อาคารเก่าปลูกติดกันเป็นห้องๆ แต่ด้านหลังนั้นกว้างมากสามารถที่จะขยายพื้นที่ออกไปได้อีก
บทที่ 11 กำลังง่วงนอนก็มีคนส่งหมอนให้ทันทีเมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ปัจจุบันของตัวเองแล้วตอนนี้เธอไม่รู้จักใครที่นี้เลย ที่จะนำสินค้าของเธอไปขายได้ ดังนั้นเธอต้องวางแผนที่จะทำให้สินค้าของเธอเป็นสินค้าที่ขายส่งให้กับห้างร้านขนาดเล็กใหญ่และหาตัวแทนจำหน่ายเท่านั้น ดังนั้นเธอจึงได้ทำรายชื่อห้างร้านรวมถึงตลาดสดที่เธอต้องการที่จะส่งสินค้าให้พวกเขา โดยเท่าที่เธอหาข้อมูลมานั้น สินค้า ประเภท สบู่ ยาสระผม ยาสีฟัน เสื้อผ้า ของเล่น รวมถึงอาหารสดประเภทต่างๆ ยังคงเป็นสินค้าที่หายากในยุคนี้ แต่ด้วยความที่เธอตัวคนเดียวสินค้าที่เป็นประเภทอาหารสดเธอจะยังไม่นำออกมาขาย แต่จะเสนอขายสินค้าประเภทของใช้ในชีวิตประจำวันให้กับทางห้างและตลาดสดดูก่อน โดยเธอได้นำตัวอย่างสินค้าที่จะเสนอขายไปด้วย อย่างละ 10 ชิ้นเมื่อออกจากบ้านใหญ่เธอกลับมาที่บ้านตัวเองแล้วเตรียมอาหารเที่ยงสำหรับเด็กๆ และได้เตรียมเผื่อบ้านใหญ่ด้วยเลย โดยเธอได้เอาขาหมูพะโล้หม้อใหญ่ออกมาและอกไก่ชุบแป้งทอดออกมาใส่ตะกร้าแล้วเดินออกไปที่บ้านใหญ่พร้อมพวกเด็กๆ อีกครั้งซึ่งเธอได้คุยกับเด็กๆ แล้วว่าวันนี้จะไปรับของที่คุณยายคุณตาส่งมาให้ ดังนั้นจึงให้พวกเขาไป
บทที่ 12 ไม่มีใครสามารถโกงแก๊งมังกรดำได้ ขณะที่รถค่อยเคลื่อนเข้าสู่ตัวเมืองหยางชิงโม่สังเกตสภาพความเป็นอยู่มากมายระหว่างทาง ถนนหนทางในยุค 80 ยังเป็นถนนดินแดงสลับกับถนนลูกรังเป็นส่วนใหญ่ ผู้คนส่วนใหญ่ใช้จักรยานเป็นพาหนะ มีรถยนต์ผ่านไปมาน้อยมาก"ถ้าเทียบกับปี 2024 แล้ว ที่นี่เหมือนคนละโลกเลย" หยางชิงโม่พึมพำกับตัวเอง ขณะมองดูอาคารเก่าๆ ที่ยังไม่ได้รับการพัฒนา บริเวณที่ในอนาคตจะกลายเป็นตึกระฟ้าและศูนย์การค้าหรูหราเมื่อรถแทรกเตอร์ของหมู่บ้านเดินทางมาถึงตัวเมืองจู่ไห่ก็เป็นเวลา 9 โมงเช้าพอดี หลีอันเล่อบอกทุกคนว่าจะรอที่ทางเข้าหน้าตลาดสด และจะจอดรอจนถึงเวลา 12 นาฬิกาเท่านั้นถ้าใครอยากจะกลับด้วยก็ให้มาให้ตรงเวลาเมื่อทุกคนต่างแยกย้ายกันไปทำธุระของแต่ละคน หยางชิงโม่ก็เดินตรงไปที่ตลาดสดเพื่อดูว่าในร้านแต่ละร้านมีสินค้าแบบไหนบ้าง เธอเดินเข้าไปในตลาดกลางเมือง สังเกตราคาสินค้าต่างๆ อย่างละเอียด เห็นผู้คนกำลังต่อคิวซื้อของใช้จำเป็น บางร้านมีป้าย "ต้องใช้คูปองแลกซื้อเท่านั้น" ติดอยู่ เธอจดบันทึกราคาสินค้าพื้นฐานไว้ในใจ:ข้าวสาร 1 กิโลกรัม ราคา 2.14 หยวนเนื้อหมู 1 กิโลกรัม ราคา 2.20 หยวนน้ำตาลทร
บทที่ 100 ข่าวเด่นประเด็นร้อนเมื่อเหตุการณ์สงบลงเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาจับกุมตัวของคนร้ายและรถพยาบาลได้นำตัวของหยวนเปียวผู้ที่ได้เข้ามาช่วยท่านผู้นำไปส่งโรงพยาบาล ทุกอย่างก็เริ่มคลี่คลาย ท่านผู้นำเดินมาหาหมอหยางชิงโม่ที่ตอนนี้กำลังยืนอยู่และมือของเธอข้างหนึ่งก็ถูกเฉินหวังตรงจับเอาไว้แน่น“ผมต้องขอโทษคุณหมอด้วยนะครับที่การมาทานอาหารครั้งนี้ทำให้คุณหมอตกอกตกใจขนาดนี้ ไม่นึกจริงๆ การรักษาความปลอดภัยของผมจะหละหลวมขนาดนี้ ผมคงต้องกลับไปจัดการใหม่อีกครั้งแล้วล่ะ” ท่านผู้นำกล่าวขึ้นมา“ไม่เป็นไรค่ะ มันเป็นเหตุสุดวิสัย พวกเราไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว” หยางชิงโม่พูดขึ้นมา“คุณหมอหยางคะ เป็นอย่างไรบ้างคะ ฉันกลัวมากเลยค่ะ” ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมาและร่างของเธอก็ถูกกอดเอาไว้จากด้านหลัง และมือที่ถูกเฉินหวังตงจับเอาไว้แน่นนั้นก็ถูกดึงออก จากมือใหญ่แข็งแรงและมีมือเล็กขาวนวลนั้นก็มาจับเอาไว้แทนเฉินหวังตงรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยที่เจ้าบ้าหรูอี้มาแย่ง ‘แฟน’ ของเขาไปและมันยังพัฒนาถึงขั้นกอด ‘แฟน’ ของเขาอีกหยางชิงโม่ที่ถูกกอดจากด้านหลังก็ตกใจเล็กน้อย แต่เมื่อตั้งสติได้เธอก็ยกมือขึ้นมาลูบมือของจ้าวหรูอี้แล้วปล
บทที่ 99 ดินเนอร์กับท่านผู้นำประเทศ ep 2 เมื่ออาหารถูกเสิร์ฟบนโต๊ะ หยางชิงโม่และท่านผู้นำและไม้ประดับคู่นั้นก็เริ่มทานอาหาร บรรยากาศระหว่างมื้ออาหารเต็มไปด้วยความอบอุ่น ท่านผู้นำเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้เธอฟัง หยางชิงโม่รู้สึกประทับใจกับความรู้และประสบการณ์ของเขามากจ้าวชุนหยางนั่งทานอาหารมื้อค่ำอย่างเอร็ดอร่อย รอบตัวเขามีเพียงองครักษ์ 2 นาย ยืนประจำการอยู่ห่างๆ บรรยากาศภายในห้องอาหารเงียบสงบ แสงไฟสีนวลสาดส่องลงมาสร้างบรรยากาศอบอุ่นทันใดนั้น เสียงฝีเท้าหนักๆ ดังขึ้นจากด้านหลังของเขาแต่เมื่อมองไปเห็นเขาเพียงพนักงานที่กำลังถือถาดเพื่อจะนำไวน์มาเสิร์ฟให้พวกเขาเท่านั้น พนักงานชายคนนั้นเดินมาทางด้านหลังและก่อนที่ทุกคนจะทันตั้งตัวเขาก็ชักมีดเล่มเล็กออกมาและจ่อไปที่คอของท่านผู้นำประเทศทันที“อย่าขยับไม่อย่างนั้นฉันจะเชือดคอผู้นำของพวกแกแน่นอน” น้ำเสียงที่เปล่งออกมานั้นเป็นภาษาจีนแต่ว่าสำเนียงนั้นไม่ชัดเจนเหมือนว่าคนที่พูดเป็นชาวต่างประเทศอย่างไรอย่างนั้นตอนนี้ทุกคนต่างตกตะลึงกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้น มันเป็นไปได้อย่างไรกับการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดขนาดนี้แต่ยังมีคนร้ายสามารถเล็ดลอด
บทที่ 98 ดินเนอร์กับท่านผู้นำประเทศ ep 1 “ผมยังไม่มีแฟนครับ”เฉินหวังตงตอบอย่างภาคภูมิใจ และหันไปมองหน้าของหมอหยางที่ทำสีหน้าประมาณ ‘ฉันนึกแล้ว’ ใส่เขาและเธอก็หันไปขับรถต่อไป ทิ้งให้ภายในรถมีแต่ความเงียบ....เมื่อบอกไปแล้ว ชายหนุ่มก็หันไปมองหน้าคุณหมอคนสวยพลางรออีก เขารอให้เธอถามต่อหรือแสดงอาการดีใจ อะไรก็ได้ แต่สิ่งที่เขาได้รับคือ ความเงียบและสีหน้านิ่งเฉยและตั้งหน้าตั้งตาเหยียบคันเร่งรถเหมือนจะพยายามขับให้ถึงที่หมายโดยเร็วที่สุด เฉินหวังตงแสดงอาการผิดหวังเล็กน้อยที่เธอไม่ถามต่อ เขาก็เลยจะเฉลยให้เธอฟังซะเลยดีกว่าเพราะตัวเขาเองก็อึดอัดใจเหมือนกัน คือ อยากบอกอยากเล่าอะนะ (55555 สงสาร)“คือว่าผมกับจ้าวหรูอี้เป็นเพียงเพื่อ.....“ถึงคอนโดของคุณเฉินแล้วค่ะ” หยางชิงโม่ที่เหยียบรถห้อมาเต็มที่ในที่สุดก็ถึงคอนโดของชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆ เสียที เฮ้ออึดอัดเป็นบ้าเลย ทำไมตอนที่เธออยู่ที่ยุค 80 กับเขาตอนนั้นไม่เป็นแบบนี้นะ ตอนนั้นทั้งสองออกจะหวานแหววกันตลอดด้วยและดูเหมือนว่าเขากำลังจะเล่าอะไรอีกแล้วละ ...ขณะที่เฉินหวังตงกำลังจะบอกเงื่อนไขที่เขากับเจ้าจ้าวหรูอี้คุยกันกับเธอ หยางชิงโม่ก็พูดแทรก
บทที่ 97 ผมยังไม่มีแฟน“น้องจะบอกว่ามีคนปองร้ายท่านผู้นำหรือ” หยางชิงโม่ก้มหน้าลงและพูดกระซิบกับจางหมี่ทั้งที่บริเวณนั้นไม่มีใครแต่ว่าเรื่องพวกนี้มันเป็นเหมือนสัญชาตญาณการระวังตัวนั้นเอง“ทั้งใช่และไม่ใช่ค่ะ” จางหมี่บอกแบบคลุ่มเครือ เธอไม่อยากจะฟันธงไปเลยการมีคนต้องการที่จะปองร้ายท่านผู้ เพราะว่าคนที่ทำนั้นมันอยู่ใกล้ตัวของท่านผู้นำมากนั้นเอง เฮ้อ ปัญหาครอบครัวแม้ว่าจะยิ่งใหญ่แค่ไหนก็หนีไม่พ้นจริงๆ จางหมี่คิดหยางชิงโม่หยิบขวดน้ำทิพย์ที่จางหมี่ให้มาแล้วเก็บเอาไว้อย่างดีภายในแหวนมิติของเธอ“แล้วท่านผู้นำจะเชื่อพี่หรือ ถ้าพี่บอกว่าแม่บ้านของเขาน่าสงสัย” หยางชิงโม่กังวลเล็กน้อยเพราะต้องทราบว่าเธอก็แค่คนแปลกหน้าที่บังเอิญได้มีโอกาสเข้าไปช่วยเหลือเขาเท่านั้น ไม่ได้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดใดๆ กับพวกเขาเลย“เขาจะเชื่อค่ะ อย่าลืมว่ากว่าเขาจะขึ้นมาเป็นผู้นำคนทั้งประเทศได้ไม่ใช่เรื่องง่ายและเขาจะต้องระมัดระวังเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ยิ่งพี่หมอเอายาไปให้และบอกว่ามาจากฉันเขาจะยิ่งตรวจเช็คเรื่องพวกนี้อย่างถี่ถ้วนแน่นอน” จางหมี่บอกออกไป“ได้งั้นพี่จะทำตามที่น้องจางหมี่บอกก็แล้วกัน”"อีกอย่างตอนที่พี่
บทที่ 96 ฉันเลือกที่จะลืมเขาหยางชิงโม่นั่งรอเพียงไม่นาน ร่างแสนสวยของจางหมี่ก็เดินเหมือนลอยมาหาเธอแล้ว สองสาวทักทายกันนิดหน่อยและจางหมี่ก็เชิญเธอเข้าไปด้านในร้าน เพราะว่าภายในร้านชานั้นพวกเธอไม่ได้ขายอาหารเต็มรูปแบบ มีเพียงขนมและของกินเล่นที่ใช้กินคู่กับชาเท่านั้น ส่วนวันนี้นั้นเธอได้นัดที่จะเลี้ยงอาหารมื้อใหญ่พี่หมอ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเข้าไปทานกันด้านใน ในขณะที่พวกเธอสองคนเดินนั้น ได้มีสายตาของหมาป่าต่างเพศสองตัวจ้องอยู่และพวกเขามองส่งนางฟ้าไปจนลับตาพลางถอนหายใจด้วยความเสียดายเฉินหวังตงและจ้าวหรูอี้ที่มองนางฟ้า 2คนเดินเข้าไปข้างในต่างก็ถอนหายใจด้วยความเสียดายเมื่อไม่มีอาหารตาที่แสนสวยแล้ว พวกเขาสองคนก็หันหน้ามาหากันแทน แม้จะเบื่อหน่ายแค่ไหนก็ตาม“งั้นเอาแบบนี้ไหม อีก 2-3 วันนี้คุณปู่ของคุณจะเชิญหมอหยางของผมไปทานอาหารเพื่อเป็นการขอบคุณที่หมอหยางของผมช่วยชีวิตน้องชายของคุณเอาไว้ วันนั้นผมจะถือโอกาสบอกท่านผู้นำเลยว่าเราสองคนตัดสินใจเลิกกัน ส่วนคุณจะไปหาแฟนของคุณก็ไปผมจะเป็นคนบอกเอง”เฉินหวังตงหันมาปรึกษาหาทางออกให้กับทั้งสองฝ่าย“ถ้าแบบนั้นฉันก็คงจะโดนคุณปู่ยำแน่นอน นายมีทางอื่นอีกไห
บทที่ 95 เราเคยรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่า ? “คุณหมอหยางคะ ท่านผู้อำนวยการเฉินให้มาเชิญไปพบที่ห้องค่ะ" นางพยาบาลหน้าห้องเดินเข้ามาบอกหยางชิงโม่หลังจากเธอกลับมาจากการผ่าตัด และเข้ามาในห้องพักแพทย์เพื่อพักผ่อน “ ได้ค่ะเดียวฉันจะตามไป ขอเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน” หยางชิงโม่ตอบไปและหลังจากเปลี่ยนชุดผ่าตัดออกเธอคว้าเสื้อกาวน์คลุมทับชุดทำงานผู้หญิงแบบกางเกงทันสมัยแล้วเดินออกมาแล้วตรงไปที่ห้องทำงานของผู้อำนวยการเฉินหวังตง ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้นมา “เชิญครับ” เสียงด้านในตอบรับเสียงเคาะประตู หยางชิงโม่เปิดประตูแล้วเดินเข้าไปในห้องทำงานที่หรูหรา ของผู้อำนวยการเฉินหวังตง เฉินหลังตงมองตรงไปที่ร่างของหญิงสาวสวยจัดคนหนึ่งที่กำลังเดินเข้ามาในห้องของเขา “ เชิญนั่งครับหมอหยาง” เฉินหวังตงเอ่ยขึ้นมา “ ขอบคุณค่ะ ท่านผู้อำนวยการมีอะไรหรือเปล่าคะ” หยางชิงโม่ตรงเข้าประเด็นทันที ตั้งแต่ที่ได้ข้อมูลจากนางพยาบาลน้อยเรื่องที่เขามีแฟนแล้ว เธอจึงไม่อยากจะยุ่งหรือคิดวุ่นวายกับเขา เพราะถึงอย่างไรเธอก็ได้วงข้อที่สามเอาไว้แล้ว “ ผมได้รับการติดต่อจากท่านผู้นำว่าอยากจะเลี้ยงอาหารค่ำเป็นการขอบ
บทที่ 94 ไหนบอกว่าจะไม่ลืมกันไง หลังจากได้ข้อมูล ‘เพียงเล็กน้อย’ จากนางพยาบาลน้อยแล้ว หยางชิงโม่ก็เงียบหงันไปทันที เธอย้อนนึกถึงอดีตมากมายที่เคยใช้ชีวิตร่วมกันมากับเฉินหวังตง หรือแม้แต่ช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตที่เขาเอ่ยว่า รักเธอสุดหัวใจ และจะไม่ลืมเธอ หยางชิงโม่ได้แต่นิ่งไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรในสถานการณ์นี้ เจ้ากระดาษและเสี่ยวเฮยก็หายหัวไปเลย ไม่ยอมมาบอกอะไรเลยขณะนี้เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาคือเฉินหวังตงของเธอหรือเปล่า และยังมีเรื่องที่ว่าเขามีแฟนแล้วเป็นถึงหลานสาวของท่านผู้นำ ถ้าหากเธอไปแย่งเขาชีวิตของเธอจะไม่พังพินาศหรือ เธออุตสาห์ขนข้าวขนของจากที่โนนมาตั้งมากมาย หวังจะมาร่ำรวยสุขสบายเป็นเศรษฐีพันล้าน หมื่นล้านที่นี้ ถ้าไปมีเรื่องขัดแย้งกับครอบครัวผู้นำประเทศแล้วเธอจะอยู่อย่างสบายได้อย่างไรละ ยิ่งคิดหยางชิงโม่ยิ่งกลุ้ม มันอะไรกันหนักหนานะชีวิตนี้ ..หรือเธอจะเปลี่ยนเป้าหมายดี? หยางชิงโม่คิดไปเรื่อยเปื่อยอยู่เช่นนั้นไม่นานก็มีเสียงเรียก ว่ามีเคสต้องผ่าตัดอีกแล้วเธอจึงได้ลุกไปทำงาน และลืมเรื่องเฉินหวังตงไปพักหนึ่ง หนึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว หยางชิงโม่ยังคงไปทำงานปรกติ และได้รับข้อมูล
บทที่ 93 การพบเจอภายในลิฟต์ที่ตอนนี้มีคนเข้ามาเกือบ 10 คนหยางชิงโม่ที่ในที่สุดก็ถูกดันเข้าไปด้านในสุดพร้อมกับผู้อำนวยการเฉินหวังตง ทั้งคู่ต่างถือกาแฟในมือ เมื่อลิฟต์ขึ้นแต่ละชั้น ผู้คนก็ทยอยขึ้นมาจนเต็ม แรงเบียดเสียดทำให้เธอกระเถิบเข้าหาเขาจนชิด หยางชิงโม่เงยหน้าขึ้นมองและเหมือนดวงตาคู่นั้นจะรออยู่ก่อนแล้ว ดวงตาของทั้งคู่สบกันทันที เธอใจเต้นแรงมองสบตากับเขาในระยะประชิด หยางชิงโม่พยายามมองเข้าไปในดวงตาดวงนั้นเพื่อพยายามมองหาความคุ้นเคย ..แต่..ไม่มีสิ่งใดหลงเหลืออยู่ในดวงตาสีดำสนิทแสนสวยนั้นเลย สิ่งที่เธอเห็นเป็นเพียงแววตาที่ชื่นชมความสวยงามของเธอเท่านั้น ไม่มีความคุ้นเคยในนั้นเลยมันเกิดอะไรขึ้น หรือว่า เขาจะจำฉันไม่ได้ หรือว่า เขาไม่ใช่เขา หยางชิงโม่คิด เธอรู้สึกผิดหวังขึ้นมาทันที เมื่อถึงชั้นของเธอ เธอเบียดผู้คนออกจากลิฟต์ระหว่างนั้นคล้ายกับมือของเขาและเธอจะสัมผัสกัน แต่มันรวดเร็วมาก หรือว่าจะเป็นมือของคนอื่นก็ไม่รู้ เธอรีบเดินออกจากลิฟต์แล้วตรงไปที่ห้องทำงานของตัวเอง ขณะที่เธอกำลังครุ่นคิดเรื่องของเขาคนนั้นอยู่ พยาบาลน้อยผู้ช่วยรีบร้อนวิ่งมาที่เธอและรายงานเสียงรั่ว“ คุณ
บทที่ 92 ไวน์ผสมยาอายุวัฒนะ พี่หมอจะไม่แก่อีกต่อไปค่ะสามวันมาแล้วหลังจากหยางชิงโม่ย้อนกลับมาสู่ยุคปัจจุบัน เธอนั้นวุ่นวายอยู่กับการจัดการเรื่องราวต่างๆ ของตัวเองไม่ว่าจะเป็นเรื่องคอนโดที่จะต้องจัดการตกแต่งใหม่หรือเรื่องงานที่เธอได้โทรศัพท์เข้าไปเพื่อขอลาพักร้อน 1 สัปดาห์ เธอจัดการนำอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ที่จำเป็นในชีวิตประจำวันออกมาตกแต่งคอนโดใหม่อีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้เธอได้เก็บทุกอย่างเข้าแหวนทั้งหมด และเมื่ออยู่ที่โน่นเธอได้นำออกไปใช้หมดแล้ว จางหมี่ได้นำของใช้และเฟอร์นิเจอร์บางอย่างที่นำมาจากอนาคต(ปี 2030-2040) ออกมาใช้ด้วย เพราะตอนที่อยู่ที่ยุคนั้นเธอเคยชินกับพวกมันแล้วดังนั้นจึงหยิบบางชิ้นออกมาจัดวาง แต่ก็ยังมีเฟอร์นิเจอร์รวมไปถึงของใช้ที่จำเป็นอื่นๆที่ยังต้องออกไปซื้อมาอยู่ดี สำหรับการออกไปซื้อของในครั้งนี้ เธอได้โทรนัดหมายกับสาวน้อยจางหมี่ให้ออกมาพบกันที่ร้านอาหาร เพื่อทานอาหารเย็นด้วยกัน เธอนั้นอยากจะขอบคุณรวมถึงอยากจะรู้เรื่องราวของสาวน้อยคนนั้นด้วย มีตาทิพย์ที่สามารถมองเห็นอนาคตอย่างนั้นรึ ช่างน่าสนใจจริงๆ เพราะเธอนึกว่าการที่เธอมีแหวนมิตินี้คือ มหัศจรรย์สุดแล้