ระดับเทคโนโลยีเครื่องทำความร้อนใต้พื้นนั้นไม่ได้สูงมากนักเป็นเพียงท่อทองแดง แต่มีราคาแพงมากไม่ต้องพูดถึงชาวบ้านทั่วไป เกรงว่าแม้แต่เชื้อพระวงศ์ก็ยังไม่มีปัญญาใช้มีเพียงสถานที่อย่างพระราชวังเท่านั้นที่สามารถติดตั้งเครื่องทำความร้อนใต้พื้นเพื่อป้องกันความหนาวเย็นได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายหลี่หลงหลินไม่ได้พูดอะไรมาก เขาจ้องมองขาเรียวเล็กและตรงของกงซูหว่านอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกลับไปด้วยความพึงพอใจ......ตำหนักฉือหนิงองค์ชายใหญ่หลี่เทียนฉี่นำของขวัญมากมายมาเข้าเฝ้าฮองไทเฮา“เด็กดี!”“ในที่สุดเจ้าก็กลับมาเมืองหลวงแล้ว!”“ข้าคิดว่าจะไม่ได้เจอเจ้าอีกแล้ว!”ฮองไทเฮาโอบกอดหลี่เทียนฉี่ไว้แน่นหลี่เทียนฉี่บีบน้ำตาออกมาสองสามหยดและพูดอย่างเสแสร้งว่า “เสด็จย่า ในตงไห่ ไม่มีวันไหนเลยที่ข้าจะไม่คิดถึงท่าน...”“กลับมาก็ดีแล้ว! กลับมาก็ดีแล้ว!”ฮองไทเฮาหลั่งน้ำตา ร้องไห้สะอึกสะอื้นหลี่เทียนฉี่เป็นบุตรชายคนโตที่คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด เขาถูกแต่งตั้งให้เป็นรัชทายาทเมื่ออายุได้สามขวบ และเป็นผู้สืบทอดราชบัลลังก์ของต้าเซี่ยเรียกได้ว่าเขาได้รับความรักมากมายสิ่งนี้ทำให้หลี่เทียนฉ
“อีกอย่าง ข้าเองก็ไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว”หลี่เทียนฉี่ดีใจในหัวใจ เจอช่องโหว่แล้ว!ทันใดนั้นเขาก็พูดอย่างมีเหตุมีผล “เสด็จย่า ท่านไม่รู้สินะ! หนังสือพิมพ์วิชาต้าเซี่ยนี้ ไม่ใช่ของดีอะไร! เจ้าเก้าเขียนเรื่องราวที่บิดเบือนใส่ร้ายบัณฑิตทรงคุณวุฒิซ่งชิงหลวน!”“ว่ากันว่าบัณฑิตทรงคุณวุฒิซ่งโกรธจนกระอักเลือด แทบสิ้นลมหายใจ!”“บัณฑิตทั่วทั้งแผ่นดิน ต่างก็โกรธแค้น ทุกคนต่างกล่าวประณาม ต้องการให้เจ้าเก้าคืนความยุติธรรม!”ฮองไทเฮาหน้าเปลี่ยนสีด้วยความประหลาดใจและกล่าวว่า “มีเรื่องเช่นนี้จริงหรือ? บัณฑิตทรงคุณวุฒิซ่งเป็นเจ้าสำนักของสำนักศึกษา ข้าเคยพบมาก่อน เขาเป็นผู้อาวุโสที่มีคุณธรรมและปัญญา!”“เจ้าเก้าเหตุใดเขาถึง...”หลี่เทียนฉี่หัวเราะเยาะเย้ย “เสด็จย่า หากท่านไม่เชื่อ ก็ลองดูด้วยตัวเองเถอะ!”ฮองไทเฮาทรงตัวสั่นเทา มือจับแว่นสายตาเก่าแล้วสวม ก่อนหยิบหนังสือพิมพ์วิชาการต้าเซี่ยขึ้นมาอ่านอย่างละเอียดสีหน้าของนางเมื่ออ่านก็ดูตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ จริงอยู่ บนหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นเขียนเรื่องราววุ่นวายไร้สาระจนเกินเชื่อ“แต่ว่า...”“หลี่หลงหลินเป็นเด็กดีแท้ๆ!”“เมื่อเช้านี้ ฮ่
เมื่อเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของฮองไทเฮา ซึ่งชัดเจนว่าทรงกริ้วแล้ว หลี่เทียนฉี่ก็แอบยินดีอยู่ในใจ จึงพูดต่อว่า “ฮองเฮาหลินมีจิตใจทะเยอทะยาน ฆ่าฉินกุ้ยเฟย แล้วยังใส่ร้ายจนเสด็จแม่ของข้าถูกส่งไปยังตำหนักเย็น ต่อไปคงจะถึงคราวเสด็จย่าแล้วพะย่ะค่ะ!”ฮองไทเฮาตกพระทัยเป็นอย่างมาก “เจ้าหมายถึง ฉินกุ้ยเฟยและฮอองเฮาหลู่ ทั้งหมดล้วนเป็นฝีมือของฮองเฮาหลินงั้นรึ? แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไร! นางดูอ่อนโยนบอบบาง ไม่น่าจะใช่คนแบบนี้!”หลี่เทียนฉี่หัวเราะเยาะ “เสด็จย่า ท่านใจดีเกินไป รู้หน้าไม่รู้ใจนะพะย่ะค่ะ! ข้าได้ยินมาว่า ตอนที่ฉินกุ้ยเฟยตาย เจ้าเก้าก็อยู่ที่นั่นด้วย เห็นนางถูกเผาทั้งเป็นกับตา!”“ส่วนเสด็จแม่ของข้า ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ถูกเจ้าเก้าใส่ร้ายป้ายสี!” “เจ้าเก้าทำเพื่อใคร?”“ก็เพื่อที่จะให้แม่แท้ๆ ของตัวเองได้เป็นฮองเฮา มีอำนาจเหนือวังหลังน่ะสิ!”“แม้แต้เว่ยซวิน ตอนนี้ก็แปรพักตร์ไปเป็นสุนัขรับใช้ของฮองเฮาหลินแล้ว!”“ในวังหลังอันกว้างใหญ่นี้ มีเพียงเสด็จย่าที่นางยังเกรงใจอยู่บ้าง!”“ดังนั้น นางถึงได้ให้เจ้าเก้าใช้อุบายสกปรก คิดจะกำจัดท่าน เพื่อที่จะได้ครองอำนาจในวังหลังแต่เพียงผู้เดียว!”เฮือ
เว่ยซวินยืนอยู่ข้างๆ ฮ่องเต้หวู่ กางร่มบังลมหนาวและหิมะที่โปรยปราย “ฝ่าบาท กระหม่อมได้พยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว! เพียงแต่ หากไม่สร้างเครื่องทำความร้อนใต้พื้นนี้ แล้วจะทูลรัชทายาทอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?”ฮ่องเต้หวู่ถอนหายใจ “เจ้าเก้ามีเล่ห์เหลี่ยมเยอะ! เจ้าออกจากวังไป บอกสถานการณ์ให้เขารู้ แล้วให้เขาคิดหาวิธีเอง!”เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับฮองไทเฮา เป็นเรื่องใหญ่ฮ่องเต้หวู่ไม่ไว้ใจให้คนอื่นทำ จึงต้องให้เว่ยซวินขันทีคนสนิทไปจัดการด้วยตัวเองเว่ยซวินก้มคำนับ “กระหม่อมรับพระบัญชา!”......ตระกูลซู หอละอองฝนดอกเหมยในหอแดงเล่มแรกเสร็จสมบูรณ์แล้วหลิ่วหรูเยียนสวมเสื้อคลุมขนจิ้งจอกสีขาว พิงหน้าต่าง มองทิวทัศน์หิมะบนผืนน้ำนอกหน้าต่าง ใจลอยคิดถึงเนื้อเรื่องตอนต่อไปได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นบนบันได หลิ่วหรูเยียนหันไปมอง เห็นว่าเป็นหลี่หลงหลิน ใบหน้าสวยก็ปรากฏรอยยิ้ม “รัชทายาท ท่านมาแล้ว! ข้าจะไปชงชาให้ท่าน...”ครู่ต่อมาน้ำชาร้อนๆ ถูกวางไว้ตรงหน้าหลี่หลงหลินผ่านไอน้ำที่ลอยขึ้นมา หลี่หลงหลินจ้องมองใบหน้าสวยของหลิ่วหรูเยียน ยิ้มแล้วพูดว่า “สะใภ้สี่ ต้องขอบคุณเจ้า ยอดขายหนังสือพิมพ์ต้าเซี่ย ก
“กางเกงยีนส์หรือ?”หลิ่วหรูเยียนจ้องมองหลี่หลงหลินอย่างลึกซึ้ง ดวงตาคู่งามฉายแววประหลาดใจนางไม่เพียงเชี่ยวชาญในศาสตร์แห่งพิณ หมากกระดาน อักษรวิจิตร และกวีนิพนธ์เท่านั้น แต่ยังชำนาญในงานเย็บปัก ถือเป็นกุลสตรีมากความสามารถอย่างแท้จริงทว่าเสื้อผ้าในภาพวาดตรงหน้านี้ หลิ่วหรูเยียนกลับไม่เคยได้ยิน หรือพบเห็นที่ใดมาก่อนเลยหลี่หลงหลินแย้มยิ้ม พลางอธิบาย “กางเกงยีนส์ ที่จริงก็คือชุดทำงานชนิดหนึ่ง ทนทาน สะดวกในการทำงาน ข้าออกแบบให้สะใภ้รอง สำหรับช่างฝีมือที่เขาประจิม”หลิ่วหรูเยียนฉุกคิดขึ้นมาได้ “เช่นนั้น ข้าเข้าใจแล้ว! กางเกงยีนส์ น่าสนใจดี! ดูเหมือนจะไม่ยากนัก ข้าจะรีบออกแบบตัดเย็บให้โดยเร็ว”หลี่หลงหลินพยักหน้ารับ ก่อนหยิบแบบร่างอีกแผ่นออกมา “นี่คือกระโปรงหน้าม้า สตรีสวมใส่ยามขี่ม้า รบกวนเจ้าตัดเย็บให้ซูเฟิ่งหลิงสักชุดด้วย!”หลิ่วหรูเยียนหยิบแบบร่างขึ้นมา พินิจดูอย่างละเอียด ก่อนแย้มยิ้มงาม “ชุดนี้งดงามยิ่ง!”ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นจากบันได ซูเฟิ่งหลิงเดินขึ้นมา เอ่ยเสียงแง่งอน “นั่นไง! เจ้ามาหาพี่สี่อีกแล้ว!”หลี่หลงหลินยิ้มตอบ “ข้ามาขอให้พี่สี่ช่วยงานบางอย่าง เจ้ามาที่น
นับแต่นี้ไป เว่ยซวินก็ภักดีต่อหลี่หลงหลินอย่างหมดใจ และยืนหยัดเคียงข้างเขาอย่างมั่นคงเว่ยซวินกระแอมสองครั้ง ก่อนเอ่ยว่า “องค์รัชทายาท ท่านมิใช่คิดจะติดตั้งเครื่องทำความร้อนใต้พื้นตำหนักฉือหนิงหรอกหรือ? ฝ่าบาททรงปรึกษากับฮองไทเฮาแล้ว เดิมทีพระนางทรงยินยอม แต่ภายหลังไม่ทราบด้วยเหตุใด จึงเปลี่ยนพระทัยพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลี่หลงหลินอดหน้าถอดสีไม่ได้เขาคิดว่าการติดตั้งเครื่องทำความร้อนใต้พื้นเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยคาดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องวุ่นวายใหญ่โตถึงเพียงนี้!อันที่จริง การที่ฮองไทเฮาไม่ทรงยินยอม หลี่หลงหลินก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรคนแก่ มักจะมีความดื้อรั้นอยู่บ้างภายหลัง ชาวตะวันตกจะสร้างทางรถไฟถวายพระนางซูสีไทเฮา ก็ยังขลุกขลักไม่ราบรื่นเช่นเดียวกันเพียงแต่ว่า ฮองไทเฮาทรงยินยอมแล้วกลับเปลี่ยนพระทัยภายหลัง นี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดาแล้วหลี่หลงหลินได้กลิ่นอายของแผนร้าย“มีคนคอยยุยง?” หลี่หลงหลินถามเสียงเครียดเว่ยซวินลดเสียงลง “ฝ่าบาทก็ทรงคิดเช่นนั้น จึงให้กระหม่อมไปสืบ...”ดวงตาของหลี่หลงหลินเป็นประกาย “แล้วเจ้าสืบได้ความว่าอย่างไร?”เว่ยซวินยิ้มเจื่อน “อันที่จริง เรื่อ
ทิ้งงานกลางคัน?เว่ยซวินเห็นปฏิกิริยาของหลี่หลงหลินรุนแรงถึงเพียงนี้ ก็อดตกใจไม่ได้แม้ว่าฮองไทเฮาจะกลับคำ แต่นางก็เป็นผู้อาวุโส อีกทั้งยังอายุมากแล้วยิ่งไปกว่านั้น สถานการณ์ยังไม่ถึงขั้นแก้ไขไม่ได้องค์รัชทายาท เสด็จไปตำหนักฉือหนิงสักหน่อย เอาอกเอาใจฮองไทเฮาสักนิด ก็ไม่ได้เสียหายอะไรทำตัวเอาแต่ใจเช่นนี้ ช่างไม่ฉลาดเอาเสียเลยเว่ยซวินกำลังจะเอ่ยปากทัดทาน “องค์รัชทายาท พระองค์...”“เจ้าไม่ต้องห้ามข้า!”“นางทำหนึ่ง ข้าก็จะทำสิบห้า!”“ใครห้าม ข้าก็ไม่ฟัง!”หลี่หลงหลินกล่าวจบ ก็สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปทุกคนยืนอึ้ง ต่างมองหน้ากัน“ฮูหยินผู้เฒ่าซู”“ท่านดูสิ...”เว่ยซวินหน้าเศร้า หันไปมองฮูหยินผู้เฒ่าซูหลี่หลงหลินเป็นอะไรไป?เขาเป็นคนสุภาพ ฉลาดปราดเปรื่องเหตุใดวันนี้ถึงได้โมโหร้าย พูดจาขวานผ่าซากเช่นนี้?โชคดีที่ที่นี่ไม่มีคนนอกมิเช่นนั้น หากคำพูดเมื่อครู่แพร่งพรายออกไป จะต้องกลายเป็นเรื่องใหญ่โตเป็นแน่หากฮ่องเต้หวู่ทรงพิโรธ รับสั่งลงโทษ เกรงว่าหลี่หลงหลินจะไม่ได้เป็นองค์รัชทายาทอีกต่อไป!สิ่งที่เว่ยซวินกังวลยิ่งกว่าคือ ฮ่องเต้จะทรงตำหนิเขาว่าทำงานบกพร่องหรือไม่?เ
เว่ยซวินกลับวังหลวง เข้าเฝ้าฮ่องเต้หวู่ในห้องทรงพระอักษรฮ่องเต้หวู่ยิ้มแย้ม ตรัสถาม “เจ้าเก้าว่าอย่างไร? เขาคิดหาวิธีใดเอาใจฮองไทเฮาอีก?”เว่ยซวินส่ายหน้า ทูลตามความจริง “องค์รัชทายาทตรัสว่า...ในเมื่อฮองไทเฮาไม่ทรงยินยอม เช่นนั้นตำหนักฉือหนิงก็ไม่ต้องติดตั้งเครื่องทำความร้อนใต้พื้นพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้หวู่ตะลึง ทรงไม่อยากจะเชื่อบิดาย่อมรู้จักลูกดีที่สุดเจ้าเก้าไม่เคยเป็นคนที่ยอมแพ้ง่ายๆครั้งนี้เกิดอะไรขึ้น?“หรือว่า...”ฮ่องเต้หวู่ทรงเงียบไปครู่หนึ่ง แววตาเป็นประกาย ราวกับจะทรงเข้าใจความคิดของหลี่หลงหลินเรื่องราวในใต้หล้า ล้วนหนีไม่พ้นคำว่าแย่งชิงเหตุใดในราชสำนักจึงมีแต่เรื่องอื้อฉาว ใส่ร้ายป้ายสีกันไม่หยุดหย่อนเล่า?ก็เพราะขุนนางทั้งหลาย แย่งชิงอำนาจและผลประโยชน์กันมิใช่หรือ?เหตุใดแคว้นต้าเซี่ยและเผ่าหมานจึงสู้รบกันบ่อยครั้ง?ก็เพื่อแย่งชิงดินแดนมิใช่หรือ?ครั้งนี้ก็เช่นกันดูเผินๆ ก็เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยอย่างการติดตั้งเครื่องทำความร้อนใต้พื้นแต่แท้จริงแล้ว องค์ชายใหญ่หลี่เทียนฉี่ ทรงมาเอาอกเอาใจฮองไทเฮา จึงเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดแย่งชิงกันต่อไป จะได้อะไร?
“ตงอิ๋ง? ก็แค่แคว้นเล็กๆ เท่านั้น ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึง!”สายตาหลี่หลงหลินเผยแววหมิ่นแคลน“ตงอิ๋งเล็กๆ เป็นเพียงเกาะแห่งหนึ่งเท่านั้น เดิมทีก็ไม่คู่ควรต่อคำว่าทวีปใหม่สองคำนี้”ทุกคนตกตะลึงภายในความรู้ของเหล่าสะใภ้ ตงอิ๋งก็คือจุดสิ้นสุดของมหาสมุทรอันเวิ้งว้าง เหนือตงอิ๋งก็ไม่มีอันใดอีกคำพูดของหลี่หลงหลินทำให้ความรู้ที่พวกนางมีอยู่เปลี่ยนไปทั้งหมด!กงซูหว่านพูดเสียงสั่นๆ “องค์ชาย ความนัยของท่านคือนอกจากตงอิ๋งแล้วยังมีทวีปใหญ่อีกหรือ?”หลี่หลงหลินพยักหน้าและพูดว่า “ไม่เพียงมีทวีปใหญ่ แต่ยังเป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์อย่างมากอีกด้วย!”พูดไป สายตาหลี่หลงหลินก็ทอดมองไปยังทิศทางหนึ่งกงซูหว่านพูดด้วยความแปลกใจ “อุดมสมบูรณ์อย่างมาก? อุดมสมบูรณ์มากเพียงใด เทียบกับต้าเซี่ยแล้วเป็นเช่นไร?”สายตาทุกคนล้วนเปี่ยมความแปลกใจ วางตะเกียบและชามข้าวในมือลงรับฟังหลี่หลงหลินเล่าเรื่องทวีปใหม่เงียบๆหลี่หลงหลินส่ายหน้าและพูดว่า “แผ่นดินต้าเซี่ยกว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ มีผลผลิตและทรัพยากรมากมาย เป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่ง แต่ทวีปใหม่มีที่ราบมาก แผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ทอดยาวนับพันลี้ ทุกหนแห่งล้วนค
น้ำ...น้ำ!หลิ่วหรูเยียนถูกความเผ็ดทำให้หน้าแดงก่ำ มุกเหงื่อผุดพราวเต็มหน้าผาก ทำให้ผิวพรรณขาวดุจหิมะถูกแต้มด้วยสีแดงเรื่อหลี่หลงหลินยื่นน้ำเย็นที่เตรียมไว้ดีแล้วให้หลิ่วหรูเยียนหลิ่วหรูเยียนดื่มลงไปหนึ่งอึก จากนั้นเอ่ยปากชม “องค์ชาย! อร่อยเหลือเกิน หม่อมฉันไม่เคยกินของอร่อยถึงเพียงนี้มาก่อนเลย มีความสุขยิ่งนัก!”เวลาเพียงชั่วพริบตา หัวปลาจานใหญ่ก็หายไปจนหมดเหล่าสะใภ้แต่ละคนหน้าแดงก่ำ เหงื่อเม็ดเล็กผุดพราวเต็มศีรษะ ปอยผมติดบนหน้าผาก ขับให้ดูมีเสน่ห์มากเป็นพิเศษซูเฟิ่งหลิงถูกความเผ็ดทำให้ริมฝีปากแดงเจ่อ ความสงสัยที่มีต่อหลี่หลงหลินเมื่อครู่มลายหายไปราวกับหมอกผ่านตาซุนชิงไต้ยกชามข้าว จับจ้องหลี่หลงหลินและเอ่ยถาม “องค์ชาย ยังมีหัวปลาอีกหรือไม่ เมื่อครู่กินเร็วเกินไป ยังไม่รู้รสเพคะ”หลี่หลงหลินเผยสีหน้าเอือมระอาพี่สะใภ้สามคิดว่ากำลังกินโสมกระมัง จึงกินได้ไม่รู้รสก็แค่ตะกละเท่านั้นหลี่หลงหลินพยักหน้าและตอบว่า “พี่สะใภ้สาม ท่านวางใจได้ หากท่านชอบ ภายภาคหน้าจะทำให้พวกพี่สะใภ้กินจนพอใจ!”ซุนชิงไต้เผยสีหน้าดีใจ คีบผลสีแดงเข้าปาก จากนั้นถูกความเผ็ดทำให้หน้าบิดเบี้ยว แต่นาง
ที่ต้าเซี่ย นับตั้งแต่โบราณมาไม่คุ้นชินกับการกินหัวปลา ปกติแล้วจะตัดหัวตัดหางเลือกเพียงลำตัว หัวปลาย่อมถูกทิ้งไปแต่บัดนี้หลี่หลงหลินถึงขั้นนำหัวปลาที่เหลือมาทำอาหารหนึ่งชนิดทำให้ทุกคนรู้สึกเหลือจะเชื่ออยู่บ้างยิ่งไปกว่านั้นหัวปลาหวงฮื้อใหญ่ยังมีขนาดใหญ่มาก ขนาดเล็กที่สุดก็ราวฝ่ามือ มองดูแล้วน่ากลัว ชนิดที่ว่าทำให้คนรู้สึกขนหัวลุกอยู่บ้างเหล่าสะใภ้ตกใจจนใบหน้างดงามเผือดซีดนิ้วเรียวยาวของซูเฟิ่งหลิงปิดปากไว้ อุทานออกมาด้วยความตกตะลึง “องค์ชาย เจ้าสิ่งนี้กินเยี่ยงไร? มองดูแล้วน่ากลัวมากเหลือเกิน!”ลั่วอวี้จู๋เผยสีหน้าลำบากใจ “หัวปลานี้กินได้แน่หรือ?”ตอนนี้ทุกคนไม่เพียงสงสัยหลี่หลงหลิน แต่ยังสงสัยต่อหัวปลานี้หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ “ปลาหวงฮื้อล้ำค่าทั้งตัว หัวปลาย่อมสามารถกินได้ ไม่เพียงแค่นี้ หัวปลายังเป็นส่วนที่มีคุณค่าทางอาหารมากที่สุด!”“จริงหรือ?” ซูเฟิ่งหลิงยังสงสัยดังเดิม ในสายตาของนาง หลี่หลงหลินกำลังปลอบตน ต้องการเห็นเรื่องตลกของตนซุนชิงไต้มองซูเฟิ่งหลิงด้วยสีหน้าจริงจังและเปล่งเสียงเคร่งขรึม “องค์ชายไม่พูดความเท็จ หัวปลาหวงฮื้อใหญ่นี้กินได้จริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นยัง
ลั่วอวี้จู๋พูดอยู่ทางด้านข้าง “ใช่แล้ว องค์ชาย เรื่องเหล่านี้ยกให้สะใภ้สามเถอะเพคะ”หลี่หลงหลินกลับยืดอกตรงดุจต้นไผ่ พูดเสียงเรียบๆ ว่า “พวกพี่สะใภ้วางใจก็พอ ถึงตอนนั้นจะต้องถูกปากพวกพี่สะใภ้แน่”.....พลบค่ำเหล่าสะใภ้และซูเฟิ่งหลิงรอในห้องอาหารนานแล้ว ล้วนแปลกใจตกลงหลี่หลงหลินจะนำความแปลกใจอันใดมาอีกแต่ไหนแต่ไรมาหลี่หลงหลินไม่เคยทำให้ทุกคนผิดหวัง เรื่องที่เขาทำล้วนไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ก็แปลกใหม่ไม่เหมือนผู้ใดสองมือของซูเฟิ่งหลิงยกขึ้นเท้าคาง คนหิวแทบแย่ “ก็ไม่รู้ว่าองค์ชายเล่นพิเรนทร์อันใดอีก จะต้องลงมือเข้าครัวด้วยตนเองให้ได้ สำคัญที่สุดคือองค์ชายทำอาหารเป็นแน่หรือ?”ซูเฟิ่งหลิงรู้จักหลี่หลงหลินดีมาก แม้พูดว่าฉลาดหลักแหลม แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเชี่ยวชาญทุกอย่าง ยิ่งไปกว่านั้นนับตั้งแต่เกิดก็มีคนคอยปรนนิบัติ จนกระทั่งตอนนี้ก็ไม่เคยมีเรื่องให้กังวล น่ากลัวว่าแม้แต่ประตูห้องครัวก็ไม่เคยเฉียดเข้าไป นับประสาอะไรกับฆ่าปลาทำอาหารเล่า?ซูเฟิ่งหลิงส่ายหน้า สีหน้าหมดอาลัยตายอยาก “ดูท่าแล้ว คืนนี้ข้าจะต้องหิวตาย”ลั่วอวี้จู๋อ่านความคิดของซูเฟิ่งหลิงออกจึงเอ่ยปลอบ “น้องหญิงเล็ก ผ
หลังผ่านไปหนึ่งชั่วยามหลี่หลงหลินเปิดฝาโอ่งน้ำใหญ่ด้วยใบหน้าลึกลับเหล่าสะใภ้ต่างคาดหวัง เตรียมเป็นพยานความอัศจรรย์ซี้ด!ไอเย็นเสียดแทงกระดูกสายหนึ่งส่งเข้ามา ทำให้เหล่าสะใภ้ไม่เพียงตัวสั่น ภาพเบื้องหน้ายังชวนให้คนตกตะลึงพรึงเพริด!มองเห็นน้ำในโอ่งน้ำใหญ่ทั้งหมดกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง เย็นจนคนรู้สึกหนาว!ทุกคนกลับหายใจเย็นเฮือกหนึ่ง หันมองทางหลี่หลงหลินด้วยสายตาตกตะลึงพรึงเพริด สีหน้าเผือดซีด!ใบหน้ากงซูหว่านล้วนคือความตกตะลึง ในสายตาของนางหลี่หลงหลินไม่ต่างอันใดจากตำนานเสกหินให้เป็นทอง เพียงใช้เกลือหมางเซียวก็สามารถทำให้น้ำกลายเป็นน้ำแข็งได้แล้วหรือ? นี่เหลือจะเชื่อเกินไปแล้ว!กงซูหว่านเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “องค์ชาย นี่ทำได้เยี่ยงไร? นี่หรือว่าเป็นวิชาเซียนจริง?”หลี่หลงหลินหยิบถุงเกลือหมางเซียวในมือออกมาและพูดว่า “ตอนผสมเกลือหมางเซียวนี้กับน้ำจะสามารถดูดความร้อนมหาศาลได้ สามารถทำให้อุณหภูมิลดลงจนเหลือศูนย์องศา ดังนั้นภายใต้สถานการณ์เช่นนี้น้ำย่อมกลายเป็นน้ำแข็ง”หลี่หลงหลินไม่ปกปิด เล่าหลักการทั้งหมดให้กงซูหว่านฟัง อย่างไรเสียภายภาคหน้ายังต้องการให้มีคนไปสอนราษฎร์ตงไห่ทำน้ำแข็
ทุกคนล้วนตกตะลึง ไม่เคยได้ยินมาก่อน ทั้งยังไม่เคยพบเห็นแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยได้ยินผู้ใดเอ่ยถึงเจ้าสิ่งนี้ซูเฟิ่งหลิงแปลกใจอยู่บ้าง “องค์ชาย เหตุใดคนสามารถทำน้ำแข็งได้เล่า? ไม่ใช่ขุดมาจากพื้นที่หนาวแดนเหนือหรอกหรือ หรือว่าสามารถทำให้อุณหภูมิของตงไห่ลดลงได้?”ซูเฟิ่งหลิงรู้ว่าน้ำแข็งเป็นผลผลิตของฤดูหนาว แต่นางนึกไม่ออกว่าคนทำน้ำแข็งที่หลี่หลงหลินพูดคือสถานการณ์เช่นไร ในสายตานางมันเป็นเรื่องเพ้อฝัน และไม่มีวันเป็นจริงได้หลี่หลงหลินยิ้มน้อยๆ และพูดว่า “อีกเดี๋ยวเจ้าจะได้รู้”ทุกคนมองหลี่หลงหลินด้วยสายตาตกตะลึง คิดว่าเขาอาจเป็นเทพเซียนกลับชาติมาเกิด หาไม่แล้วจะทำเรื่องชวนให้คนรู้สึกเหลือจะเชื่อได้เยี่ยงไร?หลี่หลงหลินมองซุนชิงไต้และพูดว่า “พี่สะใภ้สาม ไม่รู้ท่านที่นั่นมีเกลือหมางเซียวหรือไม่?”เกลือหมางเซียวหรืออีกชื่อคือดินประสิว เป็นของสำคัญที่หลี่หลงหลินใช้รักษาโรคอยู่ที่ต้าเซี่ย เกลือหมางเซียวมิใช่ของหายาก เพียงแต่ถูกคนนำมาทำเป็นยาระบายขับพิษ ชนิดที่ว่ามีคนนำไปให้สัตว์ใช้แรงกิน สามารถเพิ่มความแข็งของเปลือกไข่ในสัตว์ปีกได้ สามารถพบเห็นได้ทั่วไปและราคาถูกมากซุนชิงไต้มองหลี่หลง
จวนอ๋องตงไห่ ลั่วอวี้จู๋มองเหล่าทหารที่ลำเลียงปลาหวงฮื้อใหญ่เข้ามาในวังทีละคันรถ ในดวงตาเต็มไปด้วยความยินดี “องค์รัชทายาท ท่านช่างยอดเยี่ยมจริงๆ! มีวิธีการจับปลานี้แล้ว ชาวบ้านทะเลตงไห่ทุกครัวเรือนก็จะได้กินเนื้อ ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารอีกต่อไป” ความกังวลก่อนหน้านี้ของลั่วอวี้จู๋มลายหายไปสิ้น ขอเพียงชาวบ้านมีกินมีใช้ ก็จะไม่เกิดเรื่องราววุ่นวายขึ้นอีก ทุกคนอยู่อย่างสงบสุข ทะเลตงไห่ก็จะปรองดองสามัคคี การก่อกบฏก็จะสงบลงไปเอง มิเช่นนั้นหากมีคนชั่วก่อความวุ่นวาย คอยขัดขวางอยู่เบื้องหลัง สุดท้ายผู้ที่ได้รับผลกระทบก็คือเหล่าชาวบ้านอยู่ดี ซุนชิงไต้จ้องมองปลาหวงฮื้อใหญ่รถแล้วรถเล่าตาไม่กะพริบ น้ำลายไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้: “ปลาหวงฮื้อใหญ่นี้ทั้งอ้วนทั้งอร่อย ชาวทะเลตงไห่คราวนี้จะได้ลิ้มรสของอร่อยแล้ว!” หลังจากได้ปลาหวงฮื้อใหญ่กลับมา ซุนชิงไต้ก็ลงครัวด้วยตนเอง ไม่ว่าจะทอด ผัด ต้ม ตุ๋น ล้วนเป็นรสเลิศแห่งโลกมนุษย์ เพียงแต่หากปลาหวงฮื้อใหญ่ไม่ได้รับการเก็บรักษาที่ดี ด้วยอุณหภูมิของทะเลตงไห่ในตอนนี้ ยิ่งปลาอ้วนเท่าใด ปริมาณโปรตีนในตัวก็ยิ่งสูง อัตราการเน่าเสียก็ยิ่งเร็วขึ้นเท่านั้น
“เปิดยุ้งฉางแจกข้าวหรือขอรับ?” พ่อบ้านชราประหลาดใจอย่างยิ่ง ข้าวสารเหล่านี้ซื้อมาเป็นพิเศษเพื่อปั่นราคา หลายวันก่อนหลู่จงหมิงเพิ่งจะกำชับไว้ว่า หากไม่มีคำสั่งของตน ห้ามผู้ใดเปิดฉางข้าวเป็นอันขาด เพียงไม่กี่วัน สถานการณ์ก็พลิกผัน การเปลี่ยนแปลงรวดเร็วจนน่าตกใจ ทำให้คนตั้งตัวไม่ติด พ่อบ้านยังไม่เข้าใจเจตนาของหลู่จงหมิง หลู่จงหมิงเอ่ยเสียงเข้ม: “ฉวยโอกาสตอนที่พวกตระกูลขุนนางยังไม่เริ่มเทขายข้าวสารในมือ ชิงลงมือก่อนได้เปรียบ! มิฉะนั้นราคาจะยิ่งต่ำลงไปอีก!” “บัดนี้จงนำข้าวสารในมือพวกเราทั้งหมดเทขายออกไปในราคาต่ำสุด! ขอเพียงขายออกไปได้ จะต่ำเพียงใดก็ได้!” หลู่จงหมิงกลัวสถานการณ์เช่นนี้ที่สุด หลี่หลงหลินสอนชาวบ้านจับปลา ไม่เพียงแต่ได้ใจประชาชน แต่ยังแก้ปัญหาเรื่องอาหารที่คับขันได้อีกด้วย สุดท้าย ก็เหลือเพียงตนเองที่ขาดทุนย่อยยับไม่เหลือแม้แต่กางเกงใน หลู่จงหมิงเอ่ยเสียงเข้ม: “ไม่ได้! ข้าจะไปขายข้าวด้วยตนเอง!” ผู้ได้ใจประชาชนย่อมได้ครอบครองแผ่นดิน ในความคิดของหลู่จงหมิง บัดนี้ขอเพียงยอมขายข้าวให้ชาวบ้าน ก็จะเป็นผู้ช่วยให้รอดในใจของชาวบ้านแล้วแม้ว่าจะช้ากว่าหลี่หลงหลิ
หญิงชรามองสุ่ยเซิง เอ่ยอย่างจริงจัง: “สุ่ยเซิง เจ้าบอกความจริงกับแม่มา เจ้าไปลักขโมยปลาของผู้อื่นมาพร้อมกับเถี่ยจู้ใช่หรือไม่?” ในความคิดของหญิงชรา หากไม่ใช่การลักขโมย วันเดียวจะหาปลาได้มากมายเช่นนี้ได้อย่างไร? สุ่ยเซิงยิ้มแล้วชี้ไปยังชาวประมงที่บรรทุกปลาเต็มลำกลับมา: “ท่านแม่! ลูกจะไปลักขโมยปลาของผู้อื่นได้อย่างไร ปลาเหล่านี้ล้วนจับมาได้จากทะเลตามวิธีที่องค์รัชทายาททรงสอนด้วยพระองค์เอง ท่านดูสิ ทุกคนก็จับมาได้ไม่น้อย” หญิงชรามองไป พบว่าชาวประมงที่กลับมาต่างก็มีปลาหวงฮื้อใหญ่ติดมือมาไม่มากก็น้อย เพียงแต่สุ่ยเซิงโชคดีกว่า จับปลาได้มากกว่าเล็กน้อย “องค์รัชทายาททรงสอนพวกเจ้าด้วยพระองค์เองหรือ?” หญิงชรามีสีหน้าลังเล สุ่ยเซิงพยักหน้า ชี้ไปยังท่าเทียบเรือที่ไม่ไกลนัก: “เมื่อวานก็ที่ตรงนั้น องค์รัชทายาทไม่เพียงแต่แบ่งปลาให้พวกเรา ยังทรงสอนวิธีการจับปลาให้พวกเราโดยเฉพาะ ถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้พวกเราอย่างไม่ปิดบัง” ฟุบ! หญิงชราทรุดตัวลงนั่งกับพื้น พนมมือ ดวงตาพร่ามัวด้วยน้ำตา: “สวรรค์มีตา สวรรค์มีตาโดยแท้! ต้าเซี่ยมีองค์รัชทายาทเช่นนี้ วันคืนอันแสนลำบากของพวกเราชาวบ้าน ในที่สุดก็จ