ฟงชินหยางพาเรือนร่างสูงใหญ่มายืนตระหง่านอยู่ที่ลานกว้างของค่ายทหารในเวลาแค่เพียงไม่นานหลังจากที่เอ่ยสั่งการลงโทษนายทหารหน้าห้องที่บังอาจมายืนเรียกเขาเสียงดังจนทำภรรยาตกใจชายหนุ่มกวาดสายตาคมดำเย็นเยียบแผ่กลิ่นอายมืดครึ้มมองไปทั่วยังบุคคลทั้งหลายที่กำลังยืนอยู่ตรงกลางลานกว้างที่ลานกว้างแห่งนี้มีทหารหลายนายยืนคุมเชิงอยู่โดยรอบ ในขณะที่ตรงกลางลานมีบุคคลแปลกหน้าในอาภรณ์แปลกตาอยู่ห้าคนที่ถูกจับมัดตรึงเสียแน่นให้นั่งเรียงรายในสภาพสะบักสะบอมเนื้อตัวฟกช้ำมีบาดแผลหลายแห่งร่องรอยคล้ายกับถูกพยัคฆ์กัดขย้ำฟงชินหยางหรี่ตาลงมองที่สองในห้ามีสตรีสองนางที่อยู่ในอาภรณ์บางเบาวาบหวิวกำลังนั่งตัวสั่นงันงกผิดกับเมื่อยามค่ำคืนที่พยายามเหลือเกินกับการยั่วเย้ายั่วยวน และหนึ่งในสตรีสองนางนี้ยังบังอาจใส่ยาปลุกกำหนัดในเหล้าของเขานอกจากนั้นยังมีบุรุษหนุ่มคนหนึ่งนั่งคุกเข่าไกลออกไปจากห้าคนที่ถูกจับมัดเป็นห่อนึ่ง บุรุษผู้นั้นมีรอยบากของแผลเป็นพาดเฉียงจากหว่างคิ้วลากมาถึงสันกรามข้างขวาฟงชินหยางกระตุกยิ้มบางเบาตรงมุมปากไร้ใครสังเกตนั่นมันน้องรองที่ปลอมตัวมามิใช่หรือไร?“เรียนท่านแม่ทัพ” เสียงของทหารนายหนึ่งที่ม
ภายในตลาดอันยิ่งใหญ่ของหัวเมืองหลักแห่งแคว้นเฉินยังคงมีผู้คนพลุกพล่านมากมายยิ่งกว่าในเมืองหลวงแห่งแว่นแคว้น ฟงลี่หลินได้รับหน้าที่ให้มาอารักษ์ขาองค์ชายฉีเล่ออย่างไม่เต็มใจแต่ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เนื่องจากฉีเล่อนั้นเข้าไปเอ่ยปากกับชินอ๋องด้วยตนเองว่าต้องการท่องเที่ยวและต้องการให้สตรีหน้าตาอัปลักษณ์อย่างฟงลี่หลินคอยดูแลปรนนิบัติหญิงสาวเดินตามแผ่นหลังกว้างใหญ่ของฉีเล่อด้วยสายตาเรียวสวยพิฆาตฟาดฟันบุรุษร่างสูงสง่าตรงหน้าอยู่ตลอดเวลาเนื่องจากว่าฉีเล่อนั้นเน้นย้ำเหลือเกินกับคำว่าปรนนิบัติ ทำเอาชินอ๋องเข้าใจผิดคิดว่าฉีเล่อนั้นติดอกติดใจนางตั้งแต่เมื่อคืนหลังจากที่ได้รับการปรนนิบัติจากนาง ชินอ๋องรีบเอ่ยสั่งการให้นางที่เป็นผู้น้อยสมควรทำตามใจองค์ชายสูงศักดิ์ทุกอย่างทุกค่ำคืน หาไม่แล้วนางต้องรับโทษทัณฑ์ แค่นั้นยังไม่พอ ยามนางเดินผ่านข้ารับใช้ในวังชินอ๋องคนพวกนั้นยังกระซิบกระซาบว่าต้องการที่จะมาเรียนรู้ลีลากระบวนท่าการปรนนิบัติบุรุษจากนางทั้งๆ ที่หน้าตาของนางมีมลทิน นางยังมีความสามารถเหลือร้ายกระทั่งทำให้องค์ชายสูงศักดิ์ติดใจ หลายคนคิดอยากจะเป็นลูกศิษย์นางเลยเชียวฮึ่ม! ฟงลี่หลินครางฮึม
บนเตียงนอนหนานุ่มภายในห้องนอนของเรือนประจำตำแหน่งแม่ทัพหลิงเวยสะลึมสลือตื่นขึ้นมาพร้อมอาการปวดหัวตุบๆ รู้สึกพะอืดพะอมทั้งยังอ่อนเปลี้ยเพลียแรงมากมายนักนางพยายามหยัดกายลุกขึ้นนั่งพลันรู้สึกเจ็บแปลบตรงกลางหว่างขาและยิ่งปวดหนึบยิ่งกว่าตั้งแต่ช่วงเอวลงไปนางรู้สึกคล้ายเอวจะเคล็ดเสียด้วยอา...สะโพกระบมไปหมดผิวเนื้อของนางถึงขั้นบวมน้ำเลยเชียวหญิงสาวนั่งระลึกถึงเรื่องราวเมื่อยามค่ำคืนอันร้อนแรงถึงจิตถึงใจกับฟงชินหยางสามีของนางนางพอจะจำได้เลือนรางว่านางรู้สึกแปลกๆ หลังจากที่ดื่มเหล้าของเขาเข้าไปหลังจากนั้นบนเตียงนอนนี้นางก็ถูกเขาจัดการเสียหลายท่าไม่ว่าจะเป็น นอนหงายฉีกขา นั่งผสานชันเข่า นอนคว่ำโก่งโค้ง นอนคว่ำคร่อมหลัง คลานเข่าเดินหน้า กึ่งนอนที่ขอบเตียง กระทั่งท่ายืนหันหน้าหันหลัง เขาขืนใจนางได้ทุกท่วงท่าด้วยลีลาร้ายกาจ แต่...อืม...หรือว่าเป็นนางที่ขืนใจเขาหลิงเวยสลัดศีรษะเบาๆ กะพริบตาขึ้นลงไล่ความมึนงงให้หลุดออกไป เห็นได้ชัดว่าในเหล้านั้นมียาบางอย่าง หากนางไม่เป็นคนดื่มมันแน่นอนว่าคนที่ดื่มมันย่อมต้องเป็นฟงชินหยางและหากว่านางมิได้เข้ามาแทรกกลางแน่นอนว่าคนที่มานอนที่เตียงนี่ย่
“เจ้าหน้าบาก”“...!”เส้นเสียงทุ้มห้าวคำรามออกมาจากแม่ทัพฟงผู้ยิ่งใหญ่ทำเอาคนถูกเรียกถึงกับหางคิ้วกระดิกมุมปากกระตุกไม่คิดจะถามชื่อแซ่กันเลยรึพี่ใหญ่!ฟงชินหยางยืนถมึงทึงเอ่ยสั่งการเสียงดังไปทางบุรุษตัวโตที่ใบหน้ามีหนวดเครารุงรังพร้อมรอยแผลเป็นลากยาวที่กำลังนั่งคุกเข่าอยู่กลางลานกว้าง “เจ้าจงตามไปไต่สวนห้าคนนี้ร่วมกับรองแม่ทัพจิ่น เข้าใจหรือไม่เจ้าหน้าบาก”ฟงจินหมิงจึงลุกขึ้นยืนนิ่งๆ จ้องมองฟงชินหยางด้วยมาดไม่ธรรมดาพร้อมสายตาคมกล้าเอ่ยออกมา “ขอรับท่านแม่ทัพฟง”ฮึ่ม! ชื่อเจ้าหน้าบากก็ได้!“ออกไปให้หมด!” แม่ทัพหนุ่มคำรามอีกคราพาเอาเหล่าทหารกล้ารีบประสานมือเสียงดังพรึ่บพั่บก้มหัวคำนับแล้วรีบหมุนตัวจากไปอย่างไวฟงชินหยางจึงเดินตรวจตราภายในค่ายตามวิสัย ทุกทิศที่สายตาคมปลาบมองปราดไป เหล่าทหารทั้งหลายได้แต่อกสั่นขวัญแขวนรีบตรึงตัวขึงขังทำหน้าที่รับผิดชอบของตนเองอย่างเต็มกำลังคนใดฝึกยิ่งฝึกหนัก คนใดแบกหามยิ่งแบกหาม คนใดกวาดลานยิ่งกวาดลาน คนใดแอบหลับยิ่งต้องตื่นเต็มตาหาไม่แล้วคงไม่แคล้วได้หลับไปตลอดกาล ความเจ้ากฎเจ้าระเบียบเที่ยงตรงไม่อาจดูแคลน ความโหดเหี้ยมแต่เปี่ยมไปด้วยความเที่ยงธรรมไม่อา
หลิงเวยหน้าแดงก่ำไม่สร่างซาเมื่อถูกบุรุษตัวใหญ่หนากระทำตามใจไม่เปลี่ยนแปลงแต่ทว่านางยังคงเชื่อฟังคำสั่งของแม่สามีเป็นอย่างดีถึงการปลอมตัวในครั้งนี้“ท่านไม่ควรทำตัวอย่างนี้กับสตรีแปลกหน้า” หลิงเวยเอ่ยคำเพื่อตักเตือนฟงชินหยางขณะถูกเขาช้อนร่างขึ้นอุ้มแล้วพานางมาวางบนเตียงนอนเตียงเดิมหลังจากที่เขาเข้ามาหานางตามคำเรียกหาแล้วพานางอาบน้ำใส่ผ้าแต่ทว่าเขากลับถอดผ้าของนางออกแล้วอุ้มนางมาที่เตียงนอน นางยังขาสั่นอยู่เลยทำต่อไม่ไหวเสียแล้ว“ลืมเรื่องเมื่อคืนแล้วหรือไร ไยความจำสั้น นี่มิใช่ว่าเราควรทำความรู้จักกันให้มากเข้าไว้หรอกหรือ” ฟงชินหยางยังคงให้ความร่วมมือในการปลอมตัวของภรรยาตัวน้อยเป็นอย่างดีขณะกำลังขึ้นคร่อมนางแบบทั้งตัว“หากว่าเรารู้จักกันแล้วอย่างไร ภรรยาของท่านคงไม่ยินดี” หลิงเวยตีมึนถามเจ้าของแผงอกแข็งตึงที่กำลังเบียดเสียดกับหน้าอกนุ่มๆ ของนางอย่างต้องการลองหยั่งเชิงเขา“อา...ข้าจะบอกว่าอย่างไรดี อืม...” ฟงชินหยางทำท่าคิดหนักบางอย่าง “ข้าควรบอกว่ายังไม่มีภรรยา”“...!”และอีกคราที่หลิงเวยต้องส่งค้อนวงใหญ่ใส่ฟงชินหยางชายหนุ่มไม่สนใจดวงตาสวยใสที่กำลังมองค้อนขวับๆ ตรงหน้า เขายังคงก้มหน
ฟงชินหยางเฝ้ากลืนกินภรรยาตัวน้อยตักตวงความสุขจากร่างบางนุ่มนิ่มพร้อมตอบกลับจัดให้ด้วยความสุขไม่ต่างกันหลิงเวยแหงนหน้าปรือตามองคนตัวใหญ่ด้วยสายตาหยาดเยิ้มฉ่ำน้ำสบเข้าไปในดวงตาคู่คมที่กำลังทอประกายร้อนแรงก่อนถูกเขาปล้นลมหายใจด้วยจุมพิตเร่าร้อนเคล้าคลึงด้วยอารมณ์รัญจวนให้ยิ่งกระพือหวามไหวหัวใจเต้นเร่าๆ แทบทะลุออกมานอกอก ปลายลิ้นของทั้งสองโรมรันพัลวันก่อนจะลากไล้พันกันอีกเพียงครู่แล้วปล่อยออกจากกันเพื่อให้อิสระในการส่งเสียงครางครวญยามเมื่อเส้นทางปลายฝันเริ่มกระชั้นเข้ามาซึ่งเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็มิรู้ได้ เส้นทางฝั่งฝันระยิบระยับของพวกเขาช่างมีมากเส้นนักหนา พวกเขาไต่เส้นฝันกันทั้งวันทั้งคืนไม่รู้กี่เส้นต่อกี่เส้น กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง จนเตียงตั่งขาโก่งขางอคนสองคนร่างสองร่างที่กำลังสอดประสานเข้าออกรุนแรงยังคงเร่าร้อนไต่ระดับพายุอารมณ์โดยไม่มีเก็บข่มใดๆกายหนาหยาบแกร่งกระแทกกระทั้นกระตุ้นเร้าให้ร่างบางสั่นสะท้านขึ้นลงไม่หนักไม่เบามอบความกระสันเสียวซ่านสาดเข้าใส่จนมีบางอย่างสาดกระเซ็นคล้ายระลอกคลื่นของสายธารคล้ายลาวาร้อนฉ่าท่วมทุ่งหญ้าเขียวชอุ่มอ่อนนุ่มจนชุ่มชื้นถึงแม้จะมิได้เอื้อนเอ่ย ถึงแ
หลายวันผ่านไป...ภายในค่ายทหารยังคงฝึกหนักเสียงดังโชร้งเชร้งเคล้งคล้างดังเดิม มีการซ้อมเคลื่อนพลเคลื่อนทัพดังเดิม มีการผลิตอาวุธอันทรงพลังตามคำสั่งของท่านแม่ทัพตามเดิม มีกฎระเบียบที่แสนจะเคร่งครัดไม่มีลดหย่อนดังเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมและเพิ่มเติมมาก็คือท่านแม่ทัพฟงผู้ยิ่งใหญ่ที่เคยอยู่เหนือผู้ใดกำลังถูกสตรีอัปลักษณ์นางหนึ่งครอบงำ หลิงเวยยังคงดูแลจัดการเรื่องเสื้อผ้าอาภรณ์ดูแลทำแผลที่ได้รับจากการฝึกหนักดูแลเรื่องอาหารการกินให้ฟงชินหยางเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าจะยังคงตีเนียนทำตัวเป็นเพียงทหารหญิงรับใช้คนสนิทให้เขาโดยหาได้เปิดเผยฐานะจริงๆ ของตนไม่ ด้วยยังคงยึดมั่นในคำสั่งของแม่สามีเป็นอย่างดีเยี่ยม ในขณะที่ฟงชินหยางก็ยังคงให้ความร่วมมือกับภรรยาตัวน้อยเป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน เขาย่อมตามใจภรรยาในทุกๆ เรื่องโดยไม่ถามหาเหตุผลอันใดให้มากความ ในยามกลางวันนางอยากเป็นทหารหญิงรับใช้ให้เขาก็ให้เป็นไป เพียงแต่ในยามค่ำคืนนางต้องตามใจเขาในทุกกระบวนท่าลีลารักที่เขามอบให้ภายในห้องโถงของเรือนท่านแม่ทัพฟงบนโต๊ะอาหารที่มีกับข้าวมากมายหน้าตาน่าทานถูกจัดการเป็นพิเศษเพื่อท่านแม่ทัพฟงแต่เพียงผู้เดียวหลิงเวย
หลิงเวยสังเกตเห็นอาการตื่นเต้นนั้นของฟงชินหยาง นางจึงเริ่มขมวดคิ้วพันมุ่นเริ่มขัดเคืองฉับพลัน แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยถามคำใด สตรีตั้งครรภ์นางหนึ่งก็เดินนวยนาดเข้ามายังห้องโถงแห่งนี้“ท่านแม่ทัพฟง” เสียงอ่อนหวานของสตรีตั้งครรภ์ดังขึ้นทำให้หลิงเวยยิ่งเพิ่มระดับความขุ่นเคืองมองค้อนฟงชินหยางขวับๆฟงชินหยางเห็นหลิงเวยส่งสายตาสวยหวานพิฆาตมองมาจึงได้แต่เสียวสันหลังวาบๆ อย่างไม่เข้าใจอันใด ไยรู้สึกหนาว!จินฮวาผู้ไม่เข้าใจอันใดในบรรยากาศแปลกประหลาดจึงพาท้องกลมๆ ของตนเองมานั่งยังเก้าอี้บนโต๊ะอาหารตามวิสัยที่เคยกระทำมาเนื่องด้วยว่าท่านแม่ทัพฟงอนุญาตให้นางเป็นกรณีพิเศษ หลิงเวยเห็นสตรีตั้งครรภ์นางนี้ลงนั่งที่โต๊ะอาหารกับฟงชินหยางอย่างนั้นยิ่งเพิ่มระดับความโกรธกรุ่นจึงเอ่ย“ท่านแม่ทัพฟง” น้ำเสียงหวานล้ำแต่กลับแฝงความเย็นเยียบไม่ธรรมดาของหลิงเวยทำเอาฟงชินหยางถึงกับขนลุกชูชันนั่งตัวตรงแข็งทื่อกลายร่างเป็นก้อนหินก้อนใหญ่หลิงเวยยังคงเอ่ย “ท่านบอกแก่ข้าว่าไม่มีภรรยา เห็นได้ชัดว่าท่านโกหก!” ฟงชินหยางเลิกคิ้วคมเข้มขึ้นเล็กน้อยแล้วเอ่ยตอบเสียงเรียบซ่อนคลื่นสั่นไหวในอารมณ์ในแบบที่ไม่เคยเป็นกับใคร “ย่อมเป็น
“อันใดหรือเจ้าคะ” จินฮวาเอ่ยถามทหารหญิงคนสนิทของท่านแม่ทัพฟงในทันทีเมื่อมองเห็นผ้าปักงดงามล้ำค่ามากมายตรงหน้า “สำหรับลูกน้อยของเจ้าที่กำลังจะเกิดมา หวังว่าเจ้าคงไม่รังเกียจ” หลิงเวยบอกกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานจริงใจ“เอ่อ...มันงดงามมากเลยเจ้าค่ะ ไม่ธรรมดาเลย บุตรของข้ามิอาจเอื้อมเจ้าค่ะ” จินฮวาเอ่ยอย่างเกรงใจ ทุกวันนี้ท่านแม่ทัพฟงก็ดูแลพวกเราสองสามีภรรยาเป็นอย่างดีมากแล้ว“ข้ามีเยอะทีเดียว เจ้าอย่าได้เกรงใจ” หลิงเวยยังคงตั้งใจจริงจังในการขอโทษสตรีตั้งครรภ์ตรงหน้าจึงไม่คิดจะยินยอมให้จินฮวาปฏิเสธ “หากเจ้าไม่รับข้าเกรงว่าท่านแม่ทัพคงไม่พอใจ”“อา...เจ้าค่ะ” จินฮวายิ้มจนตาหยีรีบรับผ้าปักทั้งหมดเอาไว้ นางยอมรับว่าชมชอบอยู่ไม่น้อย ฝีมือปักผ้านี้ นางนั่งทำสิบปียังเทียบไม่ได้ “ผ้าปักพวกนี้ใส่ได้ทั้งบุตรสาวและบุตรชาย ไม่ว่าเจ้าจะได้บุตรเป็นชายหรือหญิงย่อมใช้ได้ทั้งหมด” “ขอบคุณแม่นางมากๆ เจ้าค่ะ ขอบคุณจริงๆ”สองสาวเพียงส่งยิ้มให้กันพร้อมเสียงหัวเราะสดใสดังกังวานคุยกันถูกปากถูกคอในเรื่องบุตรที่จะมีในไม่ช้าทำเอาในเวลาต่อมาเป็นฝ่ายบุรุษบ้างที่ต้องกลับกลายเป็นฝ่ายรอให้ฝ่ายสตรีเสวนาพาทีกันจนพอใจ
หลิงเวยสังเกตเห็นอาการตื่นเต้นนั้นของฟงชินหยาง นางจึงเริ่มขมวดคิ้วพันมุ่นเริ่มขัดเคืองฉับพลัน แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยถามคำใด สตรีตั้งครรภ์นางหนึ่งก็เดินนวยนาดเข้ามายังห้องโถงแห่งนี้“ท่านแม่ทัพฟง” เสียงอ่อนหวานของสตรีตั้งครรภ์ดังขึ้นทำให้หลิงเวยยิ่งเพิ่มระดับความขุ่นเคืองมองค้อนฟงชินหยางขวับๆฟงชินหยางเห็นหลิงเวยส่งสายตาสวยหวานพิฆาตมองมาจึงได้แต่เสียวสันหลังวาบๆ อย่างไม่เข้าใจอันใด ไยรู้สึกหนาว!จินฮวาผู้ไม่เข้าใจอันใดในบรรยากาศแปลกประหลาดจึงพาท้องกลมๆ ของตนเองมานั่งยังเก้าอี้บนโต๊ะอาหารตามวิสัยที่เคยกระทำมาเนื่องด้วยว่าท่านแม่ทัพฟงอนุญาตให้นางเป็นกรณีพิเศษ หลิงเวยเห็นสตรีตั้งครรภ์นางนี้ลงนั่งที่โต๊ะอาหารกับฟงชินหยางอย่างนั้นยิ่งเพิ่มระดับความโกรธกรุ่นจึงเอ่ย“ท่านแม่ทัพฟง” น้ำเสียงหวานล้ำแต่กลับแฝงความเย็นเยียบไม่ธรรมดาของหลิงเวยทำเอาฟงชินหยางถึงกับขนลุกชูชันนั่งตัวตรงแข็งทื่อกลายร่างเป็นก้อนหินก้อนใหญ่หลิงเวยยังคงเอ่ย “ท่านบอกแก่ข้าว่าไม่มีภรรยา เห็นได้ชัดว่าท่านโกหก!” ฟงชินหยางเลิกคิ้วคมเข้มขึ้นเล็กน้อยแล้วเอ่ยตอบเสียงเรียบซ่อนคลื่นสั่นไหวในอารมณ์ในแบบที่ไม่เคยเป็นกับใคร “ย่อมเป็น
หลายวันผ่านไป...ภายในค่ายทหารยังคงฝึกหนักเสียงดังโชร้งเชร้งเคล้งคล้างดังเดิม มีการซ้อมเคลื่อนพลเคลื่อนทัพดังเดิม มีการผลิตอาวุธอันทรงพลังตามคำสั่งของท่านแม่ทัพตามเดิม มีกฎระเบียบที่แสนจะเคร่งครัดไม่มีลดหย่อนดังเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมและเพิ่มเติมมาก็คือท่านแม่ทัพฟงผู้ยิ่งใหญ่ที่เคยอยู่เหนือผู้ใดกำลังถูกสตรีอัปลักษณ์นางหนึ่งครอบงำ หลิงเวยยังคงดูแลจัดการเรื่องเสื้อผ้าอาภรณ์ดูแลทำแผลที่ได้รับจากการฝึกหนักดูแลเรื่องอาหารการกินให้ฟงชินหยางเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าจะยังคงตีเนียนทำตัวเป็นเพียงทหารหญิงรับใช้คนสนิทให้เขาโดยหาได้เปิดเผยฐานะจริงๆ ของตนไม่ ด้วยยังคงยึดมั่นในคำสั่งของแม่สามีเป็นอย่างดีเยี่ยม ในขณะที่ฟงชินหยางก็ยังคงให้ความร่วมมือกับภรรยาตัวน้อยเป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน เขาย่อมตามใจภรรยาในทุกๆ เรื่องโดยไม่ถามหาเหตุผลอันใดให้มากความ ในยามกลางวันนางอยากเป็นทหารหญิงรับใช้ให้เขาก็ให้เป็นไป เพียงแต่ในยามค่ำคืนนางต้องตามใจเขาในทุกกระบวนท่าลีลารักที่เขามอบให้ภายในห้องโถงของเรือนท่านแม่ทัพฟงบนโต๊ะอาหารที่มีกับข้าวมากมายหน้าตาน่าทานถูกจัดการเป็นพิเศษเพื่อท่านแม่ทัพฟงแต่เพียงผู้เดียวหลิงเวย
ฟงชินหยางเฝ้ากลืนกินภรรยาตัวน้อยตักตวงความสุขจากร่างบางนุ่มนิ่มพร้อมตอบกลับจัดให้ด้วยความสุขไม่ต่างกันหลิงเวยแหงนหน้าปรือตามองคนตัวใหญ่ด้วยสายตาหยาดเยิ้มฉ่ำน้ำสบเข้าไปในดวงตาคู่คมที่กำลังทอประกายร้อนแรงก่อนถูกเขาปล้นลมหายใจด้วยจุมพิตเร่าร้อนเคล้าคลึงด้วยอารมณ์รัญจวนให้ยิ่งกระพือหวามไหวหัวใจเต้นเร่าๆ แทบทะลุออกมานอกอก ปลายลิ้นของทั้งสองโรมรันพัลวันก่อนจะลากไล้พันกันอีกเพียงครู่แล้วปล่อยออกจากกันเพื่อให้อิสระในการส่งเสียงครางครวญยามเมื่อเส้นทางปลายฝันเริ่มกระชั้นเข้ามาซึ่งเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็มิรู้ได้ เส้นทางฝั่งฝันระยิบระยับของพวกเขาช่างมีมากเส้นนักหนา พวกเขาไต่เส้นฝันกันทั้งวันทั้งคืนไม่รู้กี่เส้นต่อกี่เส้น กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง จนเตียงตั่งขาโก่งขางอคนสองคนร่างสองร่างที่กำลังสอดประสานเข้าออกรุนแรงยังคงเร่าร้อนไต่ระดับพายุอารมณ์โดยไม่มีเก็บข่มใดๆกายหนาหยาบแกร่งกระแทกกระทั้นกระตุ้นเร้าให้ร่างบางสั่นสะท้านขึ้นลงไม่หนักไม่เบามอบความกระสันเสียวซ่านสาดเข้าใส่จนมีบางอย่างสาดกระเซ็นคล้ายระลอกคลื่นของสายธารคล้ายลาวาร้อนฉ่าท่วมทุ่งหญ้าเขียวชอุ่มอ่อนนุ่มจนชุ่มชื้นถึงแม้จะมิได้เอื้อนเอ่ย ถึงแ
หลิงเวยหน้าแดงก่ำไม่สร่างซาเมื่อถูกบุรุษตัวใหญ่หนากระทำตามใจไม่เปลี่ยนแปลงแต่ทว่านางยังคงเชื่อฟังคำสั่งของแม่สามีเป็นอย่างดีถึงการปลอมตัวในครั้งนี้“ท่านไม่ควรทำตัวอย่างนี้กับสตรีแปลกหน้า” หลิงเวยเอ่ยคำเพื่อตักเตือนฟงชินหยางขณะถูกเขาช้อนร่างขึ้นอุ้มแล้วพานางมาวางบนเตียงนอนเตียงเดิมหลังจากที่เขาเข้ามาหานางตามคำเรียกหาแล้วพานางอาบน้ำใส่ผ้าแต่ทว่าเขากลับถอดผ้าของนางออกแล้วอุ้มนางมาที่เตียงนอน นางยังขาสั่นอยู่เลยทำต่อไม่ไหวเสียแล้ว“ลืมเรื่องเมื่อคืนแล้วหรือไร ไยความจำสั้น นี่มิใช่ว่าเราควรทำความรู้จักกันให้มากเข้าไว้หรอกหรือ” ฟงชินหยางยังคงให้ความร่วมมือในการปลอมตัวของภรรยาตัวน้อยเป็นอย่างดีขณะกำลังขึ้นคร่อมนางแบบทั้งตัว“หากว่าเรารู้จักกันแล้วอย่างไร ภรรยาของท่านคงไม่ยินดี” หลิงเวยตีมึนถามเจ้าของแผงอกแข็งตึงที่กำลังเบียดเสียดกับหน้าอกนุ่มๆ ของนางอย่างต้องการลองหยั่งเชิงเขา“อา...ข้าจะบอกว่าอย่างไรดี อืม...” ฟงชินหยางทำท่าคิดหนักบางอย่าง “ข้าควรบอกว่ายังไม่มีภรรยา”“...!”และอีกคราที่หลิงเวยต้องส่งค้อนวงใหญ่ใส่ฟงชินหยางชายหนุ่มไม่สนใจดวงตาสวยใสที่กำลังมองค้อนขวับๆ ตรงหน้า เขายังคงก้มหน
“เจ้าหน้าบาก”“...!”เส้นเสียงทุ้มห้าวคำรามออกมาจากแม่ทัพฟงผู้ยิ่งใหญ่ทำเอาคนถูกเรียกถึงกับหางคิ้วกระดิกมุมปากกระตุกไม่คิดจะถามชื่อแซ่กันเลยรึพี่ใหญ่!ฟงชินหยางยืนถมึงทึงเอ่ยสั่งการเสียงดังไปทางบุรุษตัวโตที่ใบหน้ามีหนวดเครารุงรังพร้อมรอยแผลเป็นลากยาวที่กำลังนั่งคุกเข่าอยู่กลางลานกว้าง “เจ้าจงตามไปไต่สวนห้าคนนี้ร่วมกับรองแม่ทัพจิ่น เข้าใจหรือไม่เจ้าหน้าบาก”ฟงจินหมิงจึงลุกขึ้นยืนนิ่งๆ จ้องมองฟงชินหยางด้วยมาดไม่ธรรมดาพร้อมสายตาคมกล้าเอ่ยออกมา “ขอรับท่านแม่ทัพฟง”ฮึ่ม! ชื่อเจ้าหน้าบากก็ได้!“ออกไปให้หมด!” แม่ทัพหนุ่มคำรามอีกคราพาเอาเหล่าทหารกล้ารีบประสานมือเสียงดังพรึ่บพั่บก้มหัวคำนับแล้วรีบหมุนตัวจากไปอย่างไวฟงชินหยางจึงเดินตรวจตราภายในค่ายตามวิสัย ทุกทิศที่สายตาคมปลาบมองปราดไป เหล่าทหารทั้งหลายได้แต่อกสั่นขวัญแขวนรีบตรึงตัวขึงขังทำหน้าที่รับผิดชอบของตนเองอย่างเต็มกำลังคนใดฝึกยิ่งฝึกหนัก คนใดแบกหามยิ่งแบกหาม คนใดกวาดลานยิ่งกวาดลาน คนใดแอบหลับยิ่งต้องตื่นเต็มตาหาไม่แล้วคงไม่แคล้วได้หลับไปตลอดกาล ความเจ้ากฎเจ้าระเบียบเที่ยงตรงไม่อาจดูแคลน ความโหดเหี้ยมแต่เปี่ยมไปด้วยความเที่ยงธรรมไม่อา
บนเตียงนอนหนานุ่มภายในห้องนอนของเรือนประจำตำแหน่งแม่ทัพหลิงเวยสะลึมสลือตื่นขึ้นมาพร้อมอาการปวดหัวตุบๆ รู้สึกพะอืดพะอมทั้งยังอ่อนเปลี้ยเพลียแรงมากมายนักนางพยายามหยัดกายลุกขึ้นนั่งพลันรู้สึกเจ็บแปลบตรงกลางหว่างขาและยิ่งปวดหนึบยิ่งกว่าตั้งแต่ช่วงเอวลงไปนางรู้สึกคล้ายเอวจะเคล็ดเสียด้วยอา...สะโพกระบมไปหมดผิวเนื้อของนางถึงขั้นบวมน้ำเลยเชียวหญิงสาวนั่งระลึกถึงเรื่องราวเมื่อยามค่ำคืนอันร้อนแรงถึงจิตถึงใจกับฟงชินหยางสามีของนางนางพอจะจำได้เลือนรางว่านางรู้สึกแปลกๆ หลังจากที่ดื่มเหล้าของเขาเข้าไปหลังจากนั้นบนเตียงนอนนี้นางก็ถูกเขาจัดการเสียหลายท่าไม่ว่าจะเป็น นอนหงายฉีกขา นั่งผสานชันเข่า นอนคว่ำโก่งโค้ง นอนคว่ำคร่อมหลัง คลานเข่าเดินหน้า กึ่งนอนที่ขอบเตียง กระทั่งท่ายืนหันหน้าหันหลัง เขาขืนใจนางได้ทุกท่วงท่าด้วยลีลาร้ายกาจ แต่...อืม...หรือว่าเป็นนางที่ขืนใจเขาหลิงเวยสลัดศีรษะเบาๆ กะพริบตาขึ้นลงไล่ความมึนงงให้หลุดออกไป เห็นได้ชัดว่าในเหล้านั้นมียาบางอย่าง หากนางไม่เป็นคนดื่มมันแน่นอนว่าคนที่ดื่มมันย่อมต้องเป็นฟงชินหยางและหากว่านางมิได้เข้ามาแทรกกลางแน่นอนว่าคนที่มานอนที่เตียงนี่ย่
ภายในตลาดอันยิ่งใหญ่ของหัวเมืองหลักแห่งแคว้นเฉินยังคงมีผู้คนพลุกพล่านมากมายยิ่งกว่าในเมืองหลวงแห่งแว่นแคว้น ฟงลี่หลินได้รับหน้าที่ให้มาอารักษ์ขาองค์ชายฉีเล่ออย่างไม่เต็มใจแต่ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เนื่องจากฉีเล่อนั้นเข้าไปเอ่ยปากกับชินอ๋องด้วยตนเองว่าต้องการท่องเที่ยวและต้องการให้สตรีหน้าตาอัปลักษณ์อย่างฟงลี่หลินคอยดูแลปรนนิบัติหญิงสาวเดินตามแผ่นหลังกว้างใหญ่ของฉีเล่อด้วยสายตาเรียวสวยพิฆาตฟาดฟันบุรุษร่างสูงสง่าตรงหน้าอยู่ตลอดเวลาเนื่องจากว่าฉีเล่อนั้นเน้นย้ำเหลือเกินกับคำว่าปรนนิบัติ ทำเอาชินอ๋องเข้าใจผิดคิดว่าฉีเล่อนั้นติดอกติดใจนางตั้งแต่เมื่อคืนหลังจากที่ได้รับการปรนนิบัติจากนาง ชินอ๋องรีบเอ่ยสั่งการให้นางที่เป็นผู้น้อยสมควรทำตามใจองค์ชายสูงศักดิ์ทุกอย่างทุกค่ำคืน หาไม่แล้วนางต้องรับโทษทัณฑ์ แค่นั้นยังไม่พอ ยามนางเดินผ่านข้ารับใช้ในวังชินอ๋องคนพวกนั้นยังกระซิบกระซาบว่าต้องการที่จะมาเรียนรู้ลีลากระบวนท่าการปรนนิบัติบุรุษจากนางทั้งๆ ที่หน้าตาของนางมีมลทิน นางยังมีความสามารถเหลือร้ายกระทั่งทำให้องค์ชายสูงศักดิ์ติดใจ หลายคนคิดอยากจะเป็นลูกศิษย์นางเลยเชียวฮึ่ม! ฟงลี่หลินครางฮึม
ฟงชินหยางพาเรือนร่างสูงใหญ่มายืนตระหง่านอยู่ที่ลานกว้างของค่ายทหารในเวลาแค่เพียงไม่นานหลังจากที่เอ่ยสั่งการลงโทษนายทหารหน้าห้องที่บังอาจมายืนเรียกเขาเสียงดังจนทำภรรยาตกใจชายหนุ่มกวาดสายตาคมดำเย็นเยียบแผ่กลิ่นอายมืดครึ้มมองไปทั่วยังบุคคลทั้งหลายที่กำลังยืนอยู่ตรงกลางลานกว้างที่ลานกว้างแห่งนี้มีทหารหลายนายยืนคุมเชิงอยู่โดยรอบ ในขณะที่ตรงกลางลานมีบุคคลแปลกหน้าในอาภรณ์แปลกตาอยู่ห้าคนที่ถูกจับมัดตรึงเสียแน่นให้นั่งเรียงรายในสภาพสะบักสะบอมเนื้อตัวฟกช้ำมีบาดแผลหลายแห่งร่องรอยคล้ายกับถูกพยัคฆ์กัดขย้ำฟงชินหยางหรี่ตาลงมองที่สองในห้ามีสตรีสองนางที่อยู่ในอาภรณ์บางเบาวาบหวิวกำลังนั่งตัวสั่นงันงกผิดกับเมื่อยามค่ำคืนที่พยายามเหลือเกินกับการยั่วเย้ายั่วยวน และหนึ่งในสตรีสองนางนี้ยังบังอาจใส่ยาปลุกกำหนัดในเหล้าของเขานอกจากนั้นยังมีบุรุษหนุ่มคนหนึ่งนั่งคุกเข่าไกลออกไปจากห้าคนที่ถูกจับมัดเป็นห่อนึ่ง บุรุษผู้นั้นมีรอยบากของแผลเป็นพาดเฉียงจากหว่างคิ้วลากมาถึงสันกรามข้างขวาฟงชินหยางกระตุกยิ้มบางเบาตรงมุมปากไร้ใครสังเกตนั่นมันน้องรองที่ปลอมตัวมามิใช่หรือไร?“เรียนท่านแม่ทัพ” เสียงของทหารนายหนึ่งที่ม