“ขอบคุณอะไรคะ”“ขอบคุณที่ช่วยพี่ตั้งหลายอย่างเลย”“ไม่เป็นไรค่ะ ก็แค่เรื่องเล็กน้อยเอง”นีรนารายิ้ม ยังคงปล่อยให้ตัวเองถูกกอดเอาไว้แบบนั้นเพราะเริ่มรู้สึกว่าอ้อมแขนนี้อบอุ่นมากกว่าเดิมขึ้นทุกวันอย่างบอกไม่ถูก มันคือความสบายใจที่ทำให้รู้สึกเหมือนได้พักผ่อนกับทุกๆอย่างแบบที่เธอไม่เคยได้รับจากใครมาก่อน
“นี่เหรอคะที่ที่พี่กรอยากจะมา”นีรนาราถามพลางเบิกตามองไปรอบๆอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าคนแบบวิกรจะชอบอะไรแบบนี้ด้วย สามเดือนแล้วที่ลุยงานกันมาจนล้าแทบไม่ได้พักในที่สุดก็หาเวลาว่างได้สักที แต่เพราะไม่อยากออกต่างจังหวัดเลยตกลงกันว่าจะหาที่เที่ยวแค่ในกรุงเทพก็พอ“ครับ แปลกเหรอ”“ไม่แปลกค่ะ แต่เกินคาดมากกว่า
“นีน…”พอได้คำตอบที่เกินคาดกลายเป็นวิกรเองที่รับความรู้สึกดีใจนั้นไม่ไหว ใจที่ลุ้นเมื่อครู่กลับเต้นแรงขึ้นมาจนควบคุมไม่ได้ รอยยิ้มกว้างบนใบหน้าก็เช่นกัน นีรนาราที่เห็นอาการคนพี่ก็อดจะขำออกมาไม่ได้แม้ตัวเองจะเขินมากไม่ต่างกันก็ตาม“ทำไมทำหน้าแบบนั้นคะ ไหนบอกอยากรู้ไง”“โอ้ย เหมือนจะวูบเลย”“พี่กรเว่อ
“พี่นีน เย็นนี้พ่อสั่งให้พี่โทรหาอ่ะ”“อืม เดี๋ยวพี่โทรไปเอง”นีรนารารับคำน้องสาวที่โทรมาหาในตอนพักเที่ยงด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยใจ ไม่ใช่กับน้องแต่เป็นเพราะคนเป็นพ่อที่สั่งให้โทรไปต่างหาก ปาริฉัตรที่เข้าใจพี่สาวตัวเองดีรีบปลอบใจทันที“ไม่ต้องไปคิดมากนะพี่นีน พ่อจะพูดอะไรก็ช่างเค้าเถอะ”“อื้อ ไม่ต้องง
“ไม่ได้มองข้ามค่ะพ่อ นีนรู้ว่าพี่เค้าดีมากๆแต่นีนไม่ได้ชอบเค้าแบบนั้นจะให้ทำยังไงล่ะคะ”“สักวันแกจะต้องเสียใจที่ไม่ฟังพ่อ ช่างเถอะพูดไปก็อารมณ์เสียเปล่าๆยังไงก็ดูเรื่องเรียนน้องมันด้วยอย่าให้เกรดตกได้ ส่งไปเรียนกันตั้งแพงอย่าให้พ่อขายหน้าเค้า”“ค่ะพ่อ ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะน้องมันเก่งอยู่แล้ว”“เก่งแค่ไ
“ไงคะ คุณนีนสุดสวย”เสียงทักทายจากอันนาที่เพิ่งเดินเข้ามาที่โต๊ะเรียกสายตาของนีรนาราและเปรมาที่คุยกันอยู่ให้หันไปมอง “ก็ดี แล้วแกอ่ะช่วงนี้รับงานเยอะเลยเหรอ”นีรนาราตอบพลางขยับที่ให้เพื่อนนั่งลงใกล้ๆ“แน่นอนค่ะ ช่วงนี้ขาขึ้นต้องรีบตักตวงไว้ก่อน วงการบันเทิงมันไม่มั่นคงพวกแกก็รู้”“อย่างแกต้องกลัวขา
“เอ่อ ก็ยังเลย”นีรนาราอึกอักเมื่อเพื่อนถามในสิ่งที่ตัวเองก็หลงลืมไปแล้วเช่นกัน เปรมากับอันนาทำหน้าตกใจก่อนจะถามออกมาเสียงดัง“อะไรนะ!”“คือ อันที่จริงเราก็เผลอลืมเรื่องนี้ไปแล้วอ่ะแก”“จะบ้าเหรอนีน”“เอ้า ก็มันนานแล้วอ่ะตั้งกี่เดือนแล้ว อีกอย่างเราก็ไม่เคยพูดเรื่องนี้กันเลยทุกวันมันดีมากๆจนไม่ได้นึ
“ไง ไม่เจอกันกี่เดือนแล้ววะเนี่ย”พีรวิชญ์เอ่ยทักทันทีเมื่อเข้ามาในห้องที่เพื่อนนัดเอาไว้ ร้านเหล้าร้านเดิมที่เป็นลูกค้าประจำกันไปแล้วแม้จะไม่ได้มาบ่อยก็ตาม“มึงก็เกินไปมาก เพิ่งผ่านมาอาทิตย์เดียวเถอะ”“เหรอวะ ไม่เห็นจำได้เลย”“อันนี้มึงน่าจะความจำเสื่อมเพราะเหล้าแล้วล่ะพีนัท”อัคคีขัดขึ้นอย่างหมั่น
“เลิกเล่นแล้วไปอาบน้ำได้แล้วค่ะ จะได้มาทานข้าวเย็นกัน”“โอเคครับ”—-------------------------------“ไหน ลูกชายพ่อทำไมยังไม่หลับอีกครับเนี่ย”วิกรที่เพิ่งเข้ามาในห้องนอนชะโงกดูลูกชายที่นอนอยู่ในเปลข้างๆเตียง นีรนาราที่นั่งกล่อมลูกอยู่หันมายิ้มก่อนจะบอกให้สามีรีบนอน“วันนี้ตาใสมากเลยค่ะ พี่กรนอนก่อนได
วิกรอธิบายเพิ่ม เพราะคนอื่นๆที่ไม่รู้จักเค้ามักจะเข้าใจผิดกันตลอดว่าที่บ้านจะต้องเข้มงวดและบังคับให้สืบทอดธุรกิจแน่ๆ แต่ที่จริงทั้งพ่อและแม่ไม่เคยมีใครมากำหนดชีวิตลูกๆเลยสักคน แค่ทำสิ่งที่ชอบก็พร้อมสนับสนุนทุกอย่างอยู่แล้ว ถือว่าเป็นโชคดีก็ได้ที่ได้ต้นทุนชีวิตที่ดีพร้อมแบบนี้ การได้ทำทุกอย่างจนรู้ว
“ไม่ไปยุโรปกันแน่นะคะลูก”วิภาดาถามย้ำอีกครั้งแม้ลูกจะยืนยันว่าจะเปลี่ยนที่เที่ยวก็ตาม วันครบรอบแต่งงานที่เคยวางแผนกันไว้ว่าจะไปแถวๆยุโรปกลายเป็นต้องเปลี่ยนแผนใหม่เพราะว่านีรนาราท้องขึ้นมาซะก่อน “ไม่ไปครับ ผมกลัวนีนจะลำบากถ้าเดินทางไกลมากเราเลยตกลงจะไปแค่ที่ภูเก็ตครับ”“นั่นสิเนอะกำลังท้องอยู่ด้วย
“รวมผมด้วยเหรอครับ”วิกรที่ได้ยินว่าตัวแสบรีบหันไปถามแม่อย่างไม่เชื่อว่าตัวเองจะถูกเหมารวมกับน้องๆด้วย“เราตอนเด็กก็ใช่ย่อยที่ไหนล่ะตากร ให้แม่แฉเลยดีมั้ยคะ”“อย่าเลยครับ วันนี้คุณแม่คงเหนื่อยรีบพักผ่อนนะครับ”วิกรยิ้มเอาใจก่อนจะรีบห้ามไม่ให้แม่แฉความดื้อต่อหน้าภรรยาสุดที่รัก วิภาดามองค้อนก่อนจะยอมไ
“มีแต่ของโปรดทั้งนั้นเลย ขอบคุณทุกคนที่ช่วยเตรียมให้นะครับ”วิกรบอกก่อนจะนั่งลงใกล้ๆกับนีรนารา เพราะมีกันอยู่สามคนเลยทำให้อาหารวันนี้เยอะเป็นพิเศษจนเจ้าของวันเกิดตาเป็นประกายและยิ้มไม่หุบกับความใส่ใจของทั้งแม่และภรรยาตัวเอง“เดี๋ยวมีพิเศษกว่านี้อีกค่ะลูก ยังไม่ต้องรีบดีใจไป”“โห คุณแม่ทำผมตื่นเต้นนะ
“ไม่ไปโรงพยาบาลแน่นะครับ”วิกรถามด้วยความเป็นห่วงเพราะหลายวันมานี้นีรนารามีอาการป่วยบ่อยๆจนวันนี้ถึงกับลุกไปทำงานไม่ไหว แต่เจ้าตัวก็ยังยืนยันว่าจะไม่ไปโรงพยาบาลอยู่ดี“ไม่ต้องหรอกค่ะ แค่เวียนหัวนิดหน่อยนอนพักไม่นานก็หาย”“ตามใจครับ แต่ว่าถ้าไม่โอเครีบโทรหาพี่เลยนะครับรู้มั้ย”“รู้แล้วค่า พี่กรไม่ต้อ
“ค่ะ”นีรนารารับคำพลางมองตามหลังคนพี่ไปด้วยความอ่อนใจ มาไม้นี้มีหรือจะเดาไม่ออกว่าคืนนี้สามีต้องการอะไร การดื่มมันก็แค่ข้ออ้างเท่านั้นแหละเธอรู้ดี“ดื่มได้มั้ยครับ”วิกรถามเมื่อนีรนาราจิบไวน์ที่เอามาให้ไปแล้ว“ได้ค่ะ แต่ว่าเหมือนมันจะแรงไปหน่อย”นีรนาราตอบพลางมองขวดไวน์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนอย่างสนใจ“
“หนาวมั้ยครับ”วิกรหันมาถามภรรยาที่เดินข้างๆด้วยความเป็นห่วง ช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ญี่ปุ่นนั้นอากาศหนาวมากๆ มือหนาเอื้อมไปกระชับผ้าพันคอให้นีรนาราอีกครั้งแล้วจับมือเล็กมากุมไว้เหมือนเดิม“นิดหน่อยค่ะ พี่กรล่ะคะ”“เหมือนกันครับ แต่ว่าอากาศดีมากเลยไม่ได้เดินสูดอากาศแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ”วิกรบอกพลางยิ้
“งั้นก็ได้ครับ แต่ว่าต้องดูแลตัวเองดีๆนะครับที่นั่นอากาศหนาวแถมยังฝนตกบ่อยมาก คุณแม่ไม่สบายง่ายด้วย”“แหม่ คุณพี่ชายครับผมกับยัยกชก็อยู่ด้วยจะห่วงอะไรครับพี่ อยู่นี่รีบมีหลานตัวน้อยให้พวกเราไวๆก็พอครับ”วิศวะมองค้อนพี่ชายที่ทำเหมือนว่าแม่จะไม่มีใครดูแลทั้งที่มีพวกเค้าอยู่ด้วยตั้งสองคน แต่ท้ายประโยคด