〝 พวกเราไปก่อนนะกร! 〞〝 อย่าพลาดสอบตกคนเดียวในกลุ่มซะล่ะ! 〞〝 ฮะฮ่ะ! เข้าใจแล้วน่า 〞 มีอาและเมอร์ลินโบกมือให้กรและแยกไปตามสนามสอบของตัวเอง ส่วนสนามสอบของกรนั้นคือ สนามฝึกซ้อมชั้นใต้ดินของกิลด์ จึงไม่จำเป็นต้องไปไหน〝 ว่าแต่ แล้วชาลอตหล่ะ? 〞เพราะเหลืออยู่แค่สองคน กรเลยถามชาลอตออกมาแบบนั้น〝 ดิฉันจะติดตามนายท่านไปด้วยค่ะ! 〞 ชาลอตตอบกลับด้วยแววตาเป็นประกาย แฝงไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น〝 งั้นเหรอ? 〞 กรถอนหายใจออกมาด้วยรอยยิ้ม ราวกับจะบอกว่า ช่วยไม่ได้ ก่อนจะตอบเธอไปแบบนั้น เพราะสนามสอบมันเป็นสนามฝึกซ้อม เลยทำให้มีอัฒจันทร์ไว้นั่งชมด้วย ชาลอตเลยตั้งใจจะตามไปให้กำลังใจเจ้านายเช่นกร แน่นอนว่าด้วยความเป็นห่วง แต่ที่จริงแล้วเธอกำลังสงสัยผลการสอบของกรมากกว่า...❖❖❖❖❖ ทันทีที่กรและชาลอตเดินตามบันไดมาพร้อมๆกับนักผจญภัยกลุ่มสอบเดียวกัน เพียงไม่ถึง 5 นาทีก็เดินทางมาถึงสนามฝึกซ้อมใต้ดิน... สนามฝึกซ้อมใต้ดินมีทั้งหมด 3 แห่งเรียงกันเป็นแนวเดียว โดยมีแหล่งกำเนิดแสงเป็นเพดานราวกับแสงจากสปอร์ตไลท์ และที่น่าตกใจก็คือ แต่ละสนาม มันมีขนาดพอๆ กับสนามฟุตบอลมาตรฐานเลยที
หลังจากที่กรได้ทำให้สนามฝึกซ้อมทั้งหมดเกิดความเสียหายเกินกว่าครึ่ง เหล่าพนักงานทุกคนก็พากันลงมาที่สนามฝึกซ้อมแห่งที่กรอยู่ในทันที และหากไม่ติดว่ากิลด์มาสเตอร์มีธุระอยู่เมืองอื่น เขาเองก็คงมาด้วยเช่นกัน...〝 ขอประทานโทษด้วยครับ!!! 〞กรโค้งคำนับให้กับพนักงานทุกคน รวมถึงนักผจญภัยทุกคนที่เข้ามามุงล้อมรอบตัวกร โดยมีชาลอตคำนับอยู่ด้านหลังของเขาไปพร้อมกันด้วย〝 ฮะฮ่ะ กะ โกหกใช่ไหมเนี่ย? นี่เธอเป็นคนทำงั้นเหรอ 〞เบลล่าหัวเราะออกมาแห้งๆ ด้วยความที่ยังตะลึงไม่หาย ทั้งที่รู้คำตอบดีอยู่แล้วแต่เธอก็ยังถามไปแบบนั้น ส่วนนึงก็เป็นเพราะเธอทำอะไรไม่ถูกและไม่รู้จะเริ่มยังไงดีนั่นแหล่ะ〝 ครับ... ขอโทษด้วยจริงๆ 〞กรที่ยังคงโค้งคำนับ ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมา และยังคงตอบเบลล่าไปด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดและกระวนกระวายใจ พนักงานทุกคนรวมถึงเบลล่า... และนักผจญภัยทุกคนต่างก็ทำอะไรไม่ถูกเมื่อกรเอาแต่คำนับอยู่แบบนั้น แต่ก็ยังมีบางคนใจกล้าเข้าไปถามถึงความแข็งแกร่งและชื่นชมกร แต่กรก็ทำแค่อ้าปากพะงาบๆเพื่อเลี่ยงที่จะตอบเท่านั้น เพื่อรอให้สถานการณ์คลี่คลาย กรและเบลล่า เหล่าพนักงานและนักผจญภัยจึง
หลังจากนั้นพวกเรา 4 คน ก็เดินไปที่เคาน์เตอร์แล้วก็ถามคุณเบลเรื่องการลงทะเบียน『กิลด์ปาร์ตี้』แล้วก็เหมือนเดิม เธอพาพวกเราเดินเข้าไปที่ห้องรับรองหลังเคาน์เตอร์เหมือนตอนที่มาสมัครเป็นนักผจญภัยไม่มีผิด แต่เป็นคนละห้องกับตอนนั้นหน่ะนะ〝 ว่าแต่ไม่คิดเลยแฮะ... ปกติคนเขาไม่ค่อยจะลงทะเบียนเจ้านี่กันหรอกนะ เพราะต่อให้สมัครไปแต่ถ้าไม่ดังพอจะมีคนส่งเควสให้มันก็เปล่าประโยชน์อยู่ดี〞 ในระหว่างที่นั่งกับโต๊ะตัวในสุด เบลล่าที่กำลังเตรียมเอกสารก็พูดแบบนั้นออกมา ให้พวกกรที่นั่งอยู่ตรงข้ามฟัง〝 แต่พวกผมดันกลายเป็นคนดังแล้วเนี่ยสิ 〞 กรพูดแบบนั้นออกมาด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย〝 ก็นั่นสิ... เธอนี่ช่างเลือกโอกาสจริงนะ 〞ไม่ใช่ว่าเพราะเป็นคนดัง เลยจะถือโอกาสเพิ่มรายได้หรอกครับคุณเบลกระผมแค่กังวลเรื่องเงื่อนไข ข้ออ้างการทำเควสของลูกจ้างหัวหมอต่างหาก〝 งั้นก็ทั้งสามคน เอาบัตรนักผจญภัยออกมาที 〞 ทันทีที่เบลล่าพูดจบ พวกกรก็นำบัตรให้กับเธอตามที่บอกในทันที〝 ว่าแต่... เธอ? 〞เบลล่าหันหน้าไปทางชาลอต แล้วถามออกมาแบบนั้น〝 ชาลอตค่ะ... ดิฉันไม่มีบัตรหรอกค่ะ ขอลงทะเบียนเป็น『ผู้ติดตาม』แทนก็แล้วกันนะคะ 〞 ชาลอตที่เข้าใจเจตนา
อือ....... เสียงครางของเด็กหนุ่มนามอุษณกรที่ยังคงหลับไหลไม่ได้สติ ดังขึ้นในตอนที่เช้าวันใหม่มาเยือน ราวกับจะเป็นสัญญาณบอกทางอ้อมว่า ยังไม่อยากลุกจากเตียงยังไงอย่างงั้น แม้ตามปกติแล้วร่างกายของกรจะไม่จำเป็นต้องนอนนานนัก ก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพียงแต่ไม่ใช่ในกรณีที่ไม่ปกติของกรนี้... ว่ากันว่าการนอน เป็นกิจกรรมที่ร่างกายและสมองพักผ่อน รวมถึงการจัดระเบียบความทรงจำ ซึ่งสาเหตุหลักที่กรต้องนอนก็มาจากอย่างหลังนั่นเอง อย่างที่รู้กันว่า กรนั้นได้เคยเผชิญกับนรกบนดินของทศกัณฑ์ ที่เรียกว่าเป็นลูปนรกก็ไม่ปานนั่นเอง ทำให้กรต้องรับภาระข้อมูลจำนวนมหาศาลกว่าแสนปีเข้าไป หากร่างกายของเขายังคงปกติ สมองคงระเบิดเพราะรับภาระความตึงเครียดทางจิตใจไม่ไหวแน่นอน กรจึงต้องอาศัยการจัดระเบียบความทรงจำนี้เองในการผ่อนคลายความเครียดนั้นโดยไม่รู้ตัว แถมยังเป็นการหลับลึกจนแทบไม่ได้ยินเสียงหรือรู้สึกอะไรจากภายนอกอีกต่างหาก เว้นแต่จะตื่นขึ้นมาในตอนที่ถึงเวลากระทบแสงแดดพอดี นั่นทำให้กรในตอนนี้เป็นคนตื่นยากแบบสุดๆ แม้ก่อนหน้าจะโดนลูปนรกนั่นกรมักจะนอนแบบรู้สึกตัวถึงสภาพแวดล้อมร
เมื่ออยู่ต่อหน้าประตูห้องบอส ทุกคนต่างก็มีปฏิกิริยาแตกต่างกันไป แต่ที่เหมือนกันเลยคือ ใบหน้าทุกคนต่างก็มีความตะลึงแฝงอยู่〝 เฮ้ยๆ! โกหกใช่ไหมเนี่ย? 〞 แมซที่ตกตะลึงปนดีใจจนก้าวขาไม่ออก พูดแบบนั้นออกมาในทันที〝 เหลือเชื่อไปเลย... 〞 ร็อบเองก็ดีใจที่เห็นมันเช่นกัน รวมถึงเชนที่พูดอะไรไม่ออกเพราะกำลังคิดถึงเม็ดเงินที่จะได้รับเมื่อเจอห้องบอสใหม่นี้ แต่เสียงกระแอมของกรที่จงใจทำ ก็ได้ดึงพวกเขาจากฝันหวานกลับมาสู่ความเป็นจริงอีกครั้งจนได้〝 อะแฮ่ม! ก็รู้อยู่หรอกครับว่ามันน่าดีใจ... แต่ก่อนหน้านั้นเรามีเรื่องที่ต้องทำก่อนนะ! 〞 กรจงใจพูดแบบนั้นออกมาให้ดังเกินความจำเป็น ราวกับต้องการให้ทั้งชั้นในดันเจี้ยนได้ยินเสียงของเขา พอกรทำแบบนั้นมีอาและเมอร์ลินก็พยักหน้าให้ทีนึง นั่นเลยทำให้ชาลอตและพวกแมซงงเป็นไก่ตาแตก ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่...〝 กระต่ายเนี่ยชอบซ่อนอยู่ในโพรงจริงนะ ว่ามั้ยเมอร์ลิน! 〞กรหันหลังให้ประตูห้องบอส และพูดแบบนั้นเสียงดังอีกครั้ง โดยจงใจส่งมันไปยังสุดขอบผนังที่อยู่ตรงข้าม〝 เอ๋ๆ? แต่ถ้าหมาป่าไปเจอโพรงเข้าเนี่ย กระต่ายจะไม่แย่เอาเหรอ? 〞 เมอร์ลินเองก็ตอบก
แฮ่!〝 ไม่สบอารมณ์ขนาดนั้นเชียว? 〞 ทันทีที่กรเข้าประชิดบอสได้『อีลิทโคบอลต์』ก็ทำแววตาอาฆาตใส่กรด้วยความไม่พอใจ และมันก็พยายามขู่กรด้วยการหายใจ แต่ก็แน่นอนว่ากรไม่กลัวซักนิด ทั้งยังตอบกลับบอสไปราวกับพยายามยั่วยุมัน แต่ก็แน่นอนว่าอีลิทโคบอลต์ไม่ได้ตอบกลับมา อีลิทโคบอลต์ดันขวานที่การ์ดเป็นกากบาทมาทางกร แต่สเตตัสของกรมีมากกว่าโข เลยไม่เป็นผลซักนิด แต่กรก็ไม่ใจไม่ไส้ระกำขนาดนั้น... กรจึงดันดาบไปข้างหน้าเบาๆ เพื่อพละดาบของตัวเองออกจากขวานทั้งสองของอีลิทโคบอลต์เพื่อให้มันตั้งตัว ด้วยการกระทำนี้ มีเพียงเมอร์ลินที่มองออก เธอจึงแอบขำอยู่ในใจ นั่นเพราะดูยังไงที่กรทำ มันก็เป็นการเล่นกับมันมากกว่าต่อสู้เอาชีวิตกันชัดๆ...〝 สุดยอด... เมื่อกี้นี้อย่างเร็วเลย 〞 เจนนี่ที่กำลังอึ้งกิ่มกี่ พูดชมกรออกมาแบบนั้นในทันที〝 ปัดอาวุธของบอสได้ด้วยสิ... สมแล้วหล่ะเฮ้ย! 〞 แมซที่เห็นกรสามารถคุมเกมกับบอสได้ แม้จะเข้าไปคลุกวงใน ก็ชื่นชมกรออกมาอีกคน รวมถึงสีหน้าของคนอื่นที่กำลังกังวลก่อนหน้า... บัดนี้มันได้ถูกเปลี่ยนสีหน้าแห่งความมั่นใจในชัยชนะในชั่วพริบตาที่กรเข้าถึงบอสได้... ก
〝 ท่านโรนี่... เหรอคะ? 〞 ชาลอตที่ตอนนี้กลับมายืนไหวแล้ว ถามกรออกมาแบบนั้นด้วยความสงสัยเช่นเดียวกับกร〝 อา.... 〞 กรตอบกลับเพื่อยืนยันอีกครั้ง ด้วยน้ำเสียงกังวลเล็กน้อย กรอยากจะอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม รวมถึงต้องการถามความเห็นของทุกคน พวกกรเลยไปหาที่นั่งอยู่ตรงมุมของกิลด์ซึ่งไม่มีคนเพื่อที่จะปรึกษากันได้แบบไร้สิ่งรบกวน〝 ว่าแต่... คุณโรนี่จ้างเราแล้วแปลกเหรอกร? 〞 มีอาที่ยังคงสงสัย ถามกรออกมาแบบนั้น〝 คืองี้มีอา... คุณโรนี่จ้างเรามาคุ้มกันทั้งที่เราเป็นเด็กใหม่หน่ะสิ นั่นแหล่ะที่แปลก... 〞 พอกรตอบไปแบบนั้น มีอาก็ยังเอียงคอสงสัยอยู่เหมือนเดิม เมอร์ลินที่ฟังมาตลอดเลยอธิบายเสริมอีกว่า〝 งานคุ้มกันนอกจากจะมีฝีมือแล้ว... ยังต้องมีความน่าเชื่อถือ เพราะถ้าคนคุ้มกันเป็นสายโจรซะเองก็คงซวย... แล้วก็ต้องมีประสบการณ์สูงในกรณีที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์เฉพาะหน้าด้วย ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่เด็กใหม่ไม่มี... 〞มีอาที่ได้ยินเมอร์ลินอธิบายก็เอานิ้วจิ้มแก้มในขณะวิเคราะห์ซักพัก เธอก็เข้าใจได้〝 งั้นเหรอ!? เข้าใจแล้ว! ก็เลยแปลกที่โรนี่มาจ้างเด็กใหม่แบบเราที่ไม่เหมาะกับงานคุ้มกันเลยสินะ! 〞〝 ใช่แล้วมีอา... ถึง
หลังจากกลับถึงโรงแรมด้วยความเหนื่อยล้าทั้งที่ไม่ได้ทานข้าวเที่ยง แต่เวลามันก็เลยไปแล้ว พวกกรเลยคิดว่าจะรวบไปทานมื้อเย็นทีเดียว ส่วนการดูผลสอบเลื่อนระดับก็จะไปดูพรุ่งนี้พร้อมกับการรับภารกิจของคุณโรนี่ไปพร้อมกัน แล้วจากกำหนดการ พวกกรจะต้องเดินทางในอีก 2 วันข้างหน้าตอนเช้ามืด เวลาว่างของพวกกรจึงเหลือพรุ่งนี้อีกวันเดียว พอกลับมาถึงห้องและเปลี่ยนเป็นชุดลำลองกันหมดแล้ว ทุกคนต่างก็พักผ่อนกันตามอัธยาศัย ในขณะที่เมอร์ลินกำลังนั่งโต๊ะอ่านหนังสือ และมีอาก็กำลังนั่งงีบอย่างสบายใจโดยเอาไหล่พิงหลังกรที่นั่งอยู่ขอบเตียง กรที่คิดบางอย่างขึ้นมาได้เลยถามชาลอตซึ่งนั่งพับเพียบอย่างเรียบร้อยอยู่บนพื้น(สำหรับนั่งเล่น)ออกมาว่า〝 ชาลอต จะว่าไปเลเวลช่างตีเหล็กของเธอตอนนี้เป็นเท่าไหร่แล้วหล่ะ? 〞〝 ค่ะ... คือที่จริงแล้ว มันเพิ่งจะถึงเลเวล 3 ตอนที่เอาชนะบอสได้นี้เองค่ะ 〞 ชาลอตพูดแบบนั้นแล้วก็เปิดหน้าต่างสเตตัสให้กรดูเป็นการยืนยันหืม? งั้นเวลก็เต็มแล้วอ่ะดิ?สมเป็นบอสเลยแฮะ... แต่ค่าประสบการณ์กับความชำนาญมันไม่เกี่ยวกันนี่?แต่เห็นชาลอตเองก็ใช้ค้อนคล่องขึ้นเยอะเลย...คงถึงเวลาทำให้ชาลอตเปล่ง
———— 1 เดือนต่อมา1 เดือนผ่านไปไวยังกับโกหก... ที่เขาว่ากันว่าเวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปเร็วนี่ดูท่าจะเป็นเรื่องจริงแฮะเพราะแล้วพอรู้ตัวอีกที ก็มาถึง ‘วันตัดสินชี้ชะตา’ ซะแล้วถึงจะไม่อยาก แต่ไม่ช้าก็เร็วยังไงวันนี้ก็ต้องมาถึงเข้าซักวันอยู่ดีส่วนเรื่องที่ว่าตลอด 1 เดือนที่ผ่านมามีอะไรเกิดขึ้นบ้างนั้น...ขออดเปรี้ยวไว้กินหวาน พูดถึงเรื่องงานก่อนก็แล้วกันหลังจากการประชุมสภาโต๊ะจัตุรัสหนก่อน จนได้ข้อสรุปว่าจะขยายกองกำลังป้องกันให้มากขึ้นกว่าเดิม พวกเราก็ดำเนินการตามแผนกันในทันทีเริ่มจากการจัดหาทรัพยากรสร้างเรือรบ ไม่สิ เพราะมีฟังก์ชั่นลอยตัวของแกนเวทใหม่ของเมอร์ลิน เพราะงั้นก็ต้องเป็น ‘เรือเหาะเวทมนตร์’เดิมทีแผนก็คือสร้างอู่ต่อเรือ 10 แห่งให้เสร็จภายในเวลา 1 สัปดาห์ แต่พอเอาเข้าจริง พวกเราภาคีโต๊ะจัตุรัสก็ทำผลงานได้ดีกว่าที่คิดเอาไว้ผลก็คือสามารถสร้างอู่ต่อเรือเพิ่มได้ถึง 15 แห่งในเวลาเพียงแค่ 6 วันอาจมองว่าเป็นความต่างเล็กน้อย แต่ในความเป็นจริงแล้วมันมากมหาศาลเลยเชียวล่ะเพราะตอนแรกประมาณการณ์ไว้ว่าจะมีเรือเหาะที่เป็นกำลังรบได้ 42 ลำ จากการใช้เวลาสร้าง 1 ลำต่อ 1 สัปดาห์ โดยใช้อู่
หลังจากที่ประชุมแผนการพิชิตมหาดันเจี้ยนอย่างเป็นรูปธรรมเสร็จแล้ว พวกเราทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองเป็นภาระหน้าที่ที่หนักอึ้งเอาเรื่องเลยสำหรับเด็กหนุ่มเด็กสาวอายุไม่ถึง 20 (ไม่นับอายุทางจิตใจของฉันนะ)พอมานึกดูเล่น ๆ... กลับกลายเป็นพวกเราทุกคนมีงานมีการ มีหน้าที่รับผิดชอบกันเป็นชิ้นเป็นอันกันหมดแล้วก็ถ้าเป็นในโลกเดิม พวกเราทุกคนกำลังเรียน ม.ปลายกันอยู่เลยนี่นะแต่ดูตอนนี้สิ... มีทั้งงาน มีทั้งบ้าน มีทั้งครอบครัวแล้วด้วยมาไกลเหมือนกันแฮะตัวเรา... ทั้งที่เพิ่งจากโลกเดิมมาได้ไม่ถึงครึ่งปีเลยแท้ ๆที่เป็นแบบนี้ก็เพราะเรามีคู่ชีวิตดี ๆ นั่นแหล่ะนะ ถึงมาได้ไกลขนาดนี้อ๊ะ... เผลอนอกเรื่องอีกแล้วประเด็นที่อยากจะบอกก็คือ ถึงตอนนี้จะมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ แต่ก็อย่าลืมครอบครัวที่คอยสนับสนุนอยู่ต่างหากก็นะ ถึงฉันจะยกเรื่องครอบครัวเป็นอันดับหนึ่งเหนือเรื่องงานอยู่แล้วก็เถอะ แต่ก็ยังอยากจะย้ำกับตัวเองอีกหลาย ๆ รอบอยู่ดีแล้วก็เพราะแบบนั้น ถึงได้ทำให้นึกถึงเรื่องสำคัญที่อยากจะทำออกด้วยคุยกับแมรี่ไว้แล้วนี่นะว่าจะให้แกเข้าโรงเรียนแล้วเดิมที จุดประสงค์หลักที่เป็นแบบนั้นก็คือ อยากจะ
เฮ้อ... ท่ามกลางบรรยากาศสงบสุขในเมือง กลางท้องถนนย่านการค้าที่กำลังคึกคักมากขึ้นเรื่อย ๆ กลับมีเด็กหนุ่มถอนหายใจราวกับไม่พอใจอะไรบางอย่างในชีวิต ทั้งที่เขาคนนี้มีสาวน้อยน่ารักเดินควงแขนอยู่แท้ ๆ“ กร ไม่สนุกที่มาเดทกับดิฉันเหรอคะ ” เด็กสาวเอ่ยถามเด็กหนุ่มที่ทำหน้าเหมือนกับผิดหวังอะไรบางอย่าง แต่พอเห็นสีหน้ากังวลใจของเด็กสาวที่เป็นแฟนของตัวเอง เด็กหนุ่มก็ดีดผึงจนหลังตรงหันมาให้ความสนใจกับเธอในทันที“ ไม่ ๆ ไม่ได้ไม่สนุกที่มาเดทกับเธอหรอกชาลอต แค่นึกถึงเรื่องเมื่อกี้นิดหน่อยน่ะ ” เด็กหนุ่ม... กรตอบกลับแฟนสาวอย่างชาลอตในทันทีเพื่อแก้ความเข้าใจผิด เพราะเดิมที การมาเดทกับเจ้าตัวก็เพื่อให้ชาลอตอารมณ์ดี รวมถึงต้องการจะเห็นแผนสาวสุดที่รักอย่าชาลอตยิ้มออกมาเยอะ ๆ ดังนั้นหากจะทำอะไรให้เธอกังวลและไม่พอใจ นั่นคงเป็นการผิดจุดประสงค์ที่ตั้งใจไว้ของตัวเอง“ เรื่องเมื่อกี้? ที่ทุกคนตกลงว่ากรต้องเดทกับทุกคนทุกวันน่ะเหรอ? ” ชาลอตเอ่ยถาม คิ้วเธอขมวดเล็กน้อยเหมือนไม่เข้าใจว่ากรจะกังวลเรื่องนี้ทำไม ซึ่งก็จริง เพราะกรมีแต่ได้กับได้“ ก็ฉันกลัวจะรับมือกับทุก
“ นาย... เอลกินจริงเหรอ? ” กรถึงกับต้องขมวดคิ้วจ้องมองชายคนที่อยู่ตรงหน้าเพราะไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง ซึ่งมีอาเองก็ทำแบบเดียวกัน“ ขอโทษด้วยนะครับ มากะทันหันแบบนี้คงตกใจกันน่าดู ” เอลกินยิ้มตอบแบบไม่ได้คิดมาก“ ไม่ไม่ไม่ ไม่ได้ตกใจเรื่องที่มาปุบปับซะหน่อย ” กรอดที่จะพูดเหมือนกับตกมุกแบบนั้นไม่ได้“ นั่นสิ... ยังกับคนละคนเลยเนาะกร ” มีอาเองก็แอบกระซิบแบบนั้นข้างหูกรเหมือนกัน“ นั่นสินะครับ ต้องอธิบายเรื่องนั้นด้วย แต่ก่อนอื่น... ” และดูเหมือนเอลกินเองก็ได้ยินเสียงกระซิบของมีอา แต่ยังไงก็ตาม เจ้าตัวก็พยายามทำเรื่องที่ตั้งใจไว้หนแรกก่อน เขาจึงยื่นช่อดอกไม้ในมือให้กับกร“ อันนี้แทนคำขอโทษของผมนะครับ ขอโทษด้วยจริง ๆ ที่พูดจาเสียมารยาทไปมากมายเมื่อตอนนั้น ” เอลกินพูดจบก็โค้งให้พวกกรอย่างนอบน้อม ท่าทางนั้นออกมาจากใจจริงอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เดิมที หากเขาเป็นคนที่หยิ่งในศักดิ์ศรีและโอ้อวดศักดาตัวเองแบบที่เจอกันครั้งแรกจริง เขาคงไม่มีทางยอมทำเรื่องแบบนี้อย่างเต็มใจแน่“ อืม... ยังไงก็เข้ามาก่อนแล้วกัน ว่างั้นไหมมีอา ”“ นั่นสินะ ถ้าขอโทษกันแล้วฉันก็ไม่ต
หลังจากค่ำคืนแห่งพันธะสัญญาจบสิ้นลง ความตื่นเต้นที่ได้รับมาตลอดทั้งวันแปรเปลี่ยนเป็นนิทราทำเอาเหล่าหนุ่มสาวนอนหลับเป็นตายทันทีที่หัวลงถึงหมอนในห้องส่วนตัวของบ้าน ทว่าทุกคนคงไม่คาดคิดมาก่อน ว่าความตื่นเต้นที่สั่งสมมาตลอดทั้งวันจะมีปริมาณเหลือล้นมาจนถึงเช้าอีกวัน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้กรตื่นนอนเช้ากว่าปกติ 30 นาที ทั้งยังไร้อาการสะลึมสะลือใด ๆ“ ...เด็กชะมัดเลยเราเนี่ย ” หลังบ่นอุบแบบนั้นด้วยรอยยิ้มแห้ง ๆ ให้ตัวเอง กรก็ชันตัวขึ้นจากเตียงทันที ต้องขอบคุณเวททำความสะอาดที่เมอร์ลินร่ายให้ทุกคนหลังจากที่กลับมาทำให้ไม่จำเป็นต้องอาบน้ำก่อนเข้านอน แน่นอนว่ามันไม่ดีสำหรับแมรี่เพราะอาจทำให้ติดสบาย แต่ก็อย่างที่รู้ว่าแกเป็นเด็กฉลาด ย่อมมีวิจารณญาณพอจะเข้าใจได้ว่าอะไรจำเป็นไม่จำเป็นต่อให้เป็นเด็กก็ตาม และก็ต้องขอบคุณเวทของเมอร์ลินนั่น แม้จะผ่านไปคืนนึงแต่ยังรู้สึกสะอาดเหมือนเพิ่งจะขึ้นจากอ่างน้ำอยู่เลยเชียวอยากเจอทุกคนแล้วสิ คิดแบบนั้นกรจึงไม่รอช้าที่จะเปิดลูกบิดออกไปด้วยความตื่นเต้นที่เหลือล้นมาจากเมื่อคืน และคงเป็นแบบนี้ไปอีกหลายวันหรือ
“ ทุกคนคะ... ความรัก คืออะไรเหรอคะ? ”“ “ “ เอ๋!? ” ” ” สิ่งที่เฮเลน่าถามออกมากลางห้องรับรองเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนหันมามองเป็นสายตาเดียวกัน แต่กระนั้นก็ไม่ได้ทำให้หญิงสาวผู้ไร้อารมณ์คนนี้ตื่นตระหนก แม้จะมีคนมากถึง 18 คนจ้องเธออยู่ ในมือที่ถือทั้งดินสอและสมุดบันทึกเล่มเล็กเองก็ไม่มีแต่การสั่นไหว อนึ่ง... เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ฟลอร่ากับยูมิน่าลากตัวกรออกไปประมาณ 2 ชม. เห็นจะได้“ เห... ทำไมจู่ ๆ ถึงสนใจเรื่องนั้นกันล่ะ ” คนที่แสดงความสนใจเป็นคนแรกอย่างออกนอกหน้าคือเมอร์ลินเจ้าเดิม เธอที่อ่านหนังสือมาตลอดถึงกับปิดหนังสือในมือแล้วหันมาถามเฮเลน่าอย่างจริงจัง“ ฉันแค่ทำตามคำสั่งของมาสเตอร์เท่านั้นค่ะ ” เฮเลน่าตอบกลับในทันทีอย่างที่ทุกคนคาด แน่นอนว่าด้วยสีหน้าไร้อารมณ์เหมือนกับที่เป็นมาตลอด “จงตามหาความหมายในการใช้ชีวิตของตัวเอง” คำพูดของกรที่เป็นคำสั่งเพียงหนึ่งเดียวซึ่งมอบให้กับเฮเลน่า ในวันที่เฮเลน่าถูกปลดปล่อยจากพันธะทั้งปวงและเป็นอิสระ ทุกคนเองก็อยู่ที่นั่นจึงเข้าใจแม้ไม่ต้องเอ่ยปาก“ แล้ว? ” เมอร์ลินถามย้ำคล้ายกับกำลังสอบปากคำ แต่ในอี
หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นมาตลอดสองวัน(เรื่องที่เจนนี่ ไมน์และรีเบคก้าสุดท้ายก็ตอบตกลงคบกับกรในที่สุด) จนทำให้สถานการณ์ความปั่นป่วนของสาว ๆ รอบตัวกรลดน้อยลงไปครึ่งนึง ...ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ“ “ “ ยินดีด้วย!!! ” ” ” เสียงโห่ร้องแสดงความยินดีดังก้องไปทั่วทั้งบาร์ของโรงแรมอิกดราซิล มาจากเสียงของเหล่านักผจญภัยรวมถึงเพื่อนพ้องของกร ...ส่งไปยังเด็กสาว 3 คนที่กำลังยืนเด่นเป็นสง่ากลางร้าน ประกอบด้วยเจนนี่(ในร่างของเบลนด้า อัลบา) ไมน์และรีเบคก้า ที่กำลังน่าแดงก่ำเพราะความอาย“ พอเถอะน่า มันน่าอายนะ ”“ แหม ๆ เรื่องน่ายินดีแบบนี้ไม่ใช่เรื่องน่าอายซักหน่อยนะฮ้า! ” คาลอสเอ่ยขึ้นพร้อมกับส่งเสียง วี๊ดวิ้ว! คล้ายกับจะกลั่นแกล้งสาว ๆ ที่กำลังบิดตัวไปมาด้วยความเขินอาย กรเห็นแบบนั้นก็เริ่มจะทนไม่ไหวจนต้องก้าวเข้ามาขัดจังหวะ“ เอาล่ะ ๆ แค่พอหอมปากหอมคอก็พอแล้ว... งานเลี้ยงจบแล้ว แยกย้าย ๆ ” กรพูดตัดบทพร้อมกับเดินเข้าไปกลางวงทั้งสามคนก่อนจะดันหลังทั้งสามให้ออกมาจากจุดรวมสายตา กระนั้นก็ไม่วายถูกทุกคนล้อในเชิงประมาณว่า “หึงด้วยเว้ย” ไ
“ แม้นโกรธาราวสิขานล แต่สิ่งที่ผู้อื่นยลต้องเป็นเหมันต์ ”นั่นคือคติประจำตระกูลของฉัน... มีความหมายว่า ต่อให้รู้สึกอย่างไรก็จงแสดงออกมาเสมือนว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้นอย่าให้ใครรู้ว่าโกรธ... อย่าให้ใครรู้ว่ากำลังเศร้า... อย่าให้ใครรู้ว่ากำลังดีใจ...นั่นแหล่ะคือความหมายของมัน และยังเป็น... คุณสมบัติสำคัญขององครักษ์ที่ควรมีสำหรับฉันที่เกิดมาก็ได้รับหน้าที่นั้นเป็นเหมือนชนักติดตัว ถึงจะคิดว่าลำบากก็เถอะแต่ตอนนี้ก็ชินไปแล้วและสิ่งที่ทำให้ฉันสามารถทำมันได้ ก็เพราะรอยยิ้มของคนที่ฉันต้องปกป้อง... รอยยิ้มของไมน์เด็กคนนี้เหมือนกับทุ่งดอกไม้หลากสี ร่าเริงสดใส เริงระบำไปตามเสียงบรรเลงเพลงตามแต่สายลมจะพัดพา เป็นเด็กที่ชอบเรื่องสนุกสนาน ฉันถึงอยู่ด้วยไม่มีเบื่อ ถึงจะไม่แสดงออกก็เถอะเพราะยังไงการเก็บความรู้สึกสุขไว้ในใจไม่ให้แสดงออกมา มันง่ายกว่าการกักเก็บความทุกข์ไว้ในอกคนระดับเลยแต่ถึงคิดแบบนั้น เดิมทีตัวฉันก็ไม่ได้เป็นคนคิดอะไรมากอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเจอสถานการณ์แบบไหนก็พร้อมรับมือได้หมด และต่อให้ต้องสละชีวิตเพื่อปกป้องไมน์ก็ไม่รู้สึกเสียใจแม้แต่น้อยเพราะงั้นความรู้สึกทุกข์ใจจึงไม่ค่อยมี หรือไม่ก
ตั้งแต่ตอนเด็ก ตัวฉันที่เป็นเจ้าหญิงก็ได้แต่อยู่ในปราสาทตามคำบอกกล่าวของคุณพ่อแต่มันก็ไม่ได้แย่นักหรอก เพราะอย่างน้อยฉันก็มีเพื่อนเล่นอยู่ คน ๆ นั้นก็คือรีเบคก้าที่เป็นเพื่อนอายุเท่ากันของฉัน คอยดูแลและเล่นด้วยกันมาตลอดตั้งแต่ที่จำได้แล้วและสิ่งที่ใช้ฆ่าเวลาอีกอย่างคือ หนังสือนิทานในห้องสมุดสำหรับเด็กผู้หญิงอย่างฉัน นิทานทั้งหมดเต็มไปด้วยเรื่องราวที่ไม่เคยพบเคยเห็น โดยเฉพาะฉันที่ไม่เคยออกไปนอกตัวปราสาท เพราะแม้แต่การเดินทางฉันยังต้องปิดบังใบหน้าเอาไว้เลย แต่ตอนนั้นฉันยังเด็กถึงไม่รู้สึกว่าแปลกอะไรน่าตลกดี ที่สิ่งที่สอนให้ฉันรู้จักโลกภายนอกคือหนังสือเหล่านั้นที่อยู่ข้างกายมาตลอดความลึกลับอันน่าพิศวง มอนสเตอร์น่ากลัว ความงดงามของธรรมชาติ วิถีชีวิตของผู้คน เรื่องราวทั้งหมดที่ร้อยเรียงทำให้ฉันจินตนาการภาพฝันของโลกภายนอกไว้อย่างสวยงาม และหวังว่าซักวันจะได้ออกไปและในวันหนึ่ง ฉันก็ได้รู้จักอาชีพที่เรียกว่า ‘นักผจญภัย’อาชีพที่สามารถไปได้ทุกที่ที่อยากไป ทำได้ทุกสิ่งที่ต้องการ แสวงหาทุกสิ่งด้วยตัวเองกับพวกพ้องที่ไว้ใจได้แต่ถ้าจะว่ากันตามตรง เนื้อหาของมันก็ไม่ต่างจากนิทานทั่วไปที่มีพระเอ