Tous les chapitres de : Chapitre 1 - Chapitre 10

16

ตอนที่ 1 วีรสตรีของแผ่นดินสยาม

ปีพุทธศักราช ๒๓๐๘อาณาจักรอยุธยา สมัยราชวงศ์บ้านพลูหลวง พม่าส่งกองทัพเข้าโจมตีทั่วแคว้นแดนสยาม ข้าศึกได้เหิมเกริมรุกรานเข้ามาทั่วแดน จนทำให้ชาวบ้านล้มตายไปเป็นจำนวนไม่น้อย บ้างก็ถูกจับไปเป็นเชลย บ้างก็ถูกฆ่าตาย บ้างก็ถูกข่มเหงรังแก จนทำให้มีชาวบ้านหลายกลุ่มพากันลุกขึ้นมาต่อสู้ เพื่อปกป้องชีวิตและบ้านเมืองจากทหารของข้าศึก เช่นเดียวกับหมู่บ้านแห่งนี้ที่มีชาวบ้านลุกขึ้นมาฝึกฝนตนเองเพื่อเตรียมพร้อมที่จะรับมือในการถูกพวกข้าศึกเข้ามารุกราน“เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!’เสียงของคมดาบปะทะกันดังไปทั่วทั้งบริเวณลานฝึกภายในหมู่บ้านบางระกำ หมู่บ้านที่ห่างไกลออกมาจากเมืองอยุธยามากโข แม้จะเป็นหมู่บ้านเล็กๆ แต่ทว่ากลับมีความแข็งแกร่งจนข้าศึกไม่อาจตีพ่ายได้ในคราเดียว เพราะสถานที่แห่งนี้มีทั้งบุรุษและสตรีแกร่งรวมตัวกันอาศัยอยู่มากมาย จึงถือเป็นด่านหน้าคอยปกป้องเมืองอโยธยาได้เป็นอย่างดี“ย๊าก.....”“เคร้ง!!!” ดาบยาวที่มือหนาของบุรุษหนุ่มร่างโตถืออยู่กระเด็นหลุดออกจากมือร่วงหล่นลงสู่พื้นดิน“เฮ้อ!!! นี่ข้าแพ้ให้เอ็งอีกแล้วรึ นังคำเอื้อย” นายดู่กล่าวออกมาก่อนที่จะเดินไปเก็บดาบของตน“พี่ดู่ก็อย่ามัวแต่เกียจคร้าน
last updateDernière mise à jour : 2025-04-22
Read More

ตอนที่ 1 - 1 วีรสตรีของแผ่นดินสยาม

ในขณะที่ทุกคนกำลังไปทำตามหน้าที่ของตน จู่ ๆ พวกทหารพม่าที่ยังคงซุ่มอยู่บริเวณนี้ก็ได้นำกำลังกลับมายังหมู่บ้านนี้อีกครา พวกมันใช้กำลังพลนับห้าสิบปิดล้อมหมู่บ้านเอาไว้ เพราะมีทหารลาดตระเวนได้เห็นว่ายังมีชาวบ้านหลงเหลืออยู่“แย่แล้วนังคำเอื้อย!!! ไอ้พวกข้าศึกมันล้อมพวกเราเอาไว้รอบหมู่บ้านเลย แล้วพวกเราจะทำเยี่ยงไรกันดีรึ”แม่ลำดวนเอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงตื่นตกใจครั้นได้เห็นว่าพวกทหารพม่ามันพากันย้อนกลับมา ทุกคนรีบมารวมตัวกันเพื่อฟังทางออกที่จะออกจากสถานที่แห่งนี้“ไม่มีหนทางอื่นนอกจากตีฝ่าวงล้อมของพวกมันออกไป”คำเอื้อยบอกถึงหนทางแก้ปัญหาในเพลานี้ของนาง นางไม่หวั่นเกรงหากว่านางต้องตายไปในวันนี้ แต่นางจะไม่มีวันยอมสวามิภักดิ์ต่อพวกกบฏแน่นอนนายคล้าวเริ่มวางแผนด้วยการที่จะยอมเป็นตัวหลอกล่อพวกมันแล้วให้พวกสตรีหนีออกไปก่อน คำเอื้อยไม่เห็นด้วยเพราะนางจะไม่มีวันยอมทอดทิ้งสหายร่วมรบของนางเป็นอันขาด ทุกคนก็มีความเห็นเช่นเดียวกันกับคำเอื้อย สุดท้ายทางออกเดียวคือฝ่าออกไปแม้จะต้องสิ้นชีพไปในวันนี้ก็ตามทันทีที่นายคล้าวส่งสัญญาณทุกคนก็หยิบดาบซึ่งเป็นอาวุธคู่กายของตนออกมา เพลานี้แม้จะต้องแลกด้วยเลือดเ
last updateDernière mise à jour : 2025-04-22
Read More

ตอนที่ 2 ชิงเหมย เด็กหญิงผู้อาภัพ

ณ หมู่บ้านซานฉี เมืองถิงฮวา แคว้นเจียงโจว“ขนมจ้า…. แวะมาชิมแวะมาอุดหนุนกันก่อนสิจ๊ะ ขนมของยายข้านั้นรสหวานอร่อยหาผู้ใดในเมืองนี้เทียบเคียงมิได้เลยเจ้าค่ะ” เสียงเล็กกำลังร้องเรียกลูกค้าที่กำลังเดินเลือกซื้อสินค้าในตลาดซานฉี ให้แวะเวียนมาซื้อขนมหวานในร้านเล็กๆ ของท่านยายเด็กหญิงวัยสิบปีที่กำพร้าทั้งบิดามารดาตั้งแต่นางยังเยาว์วัย นางอาศัยอยู่กับยายที่มีอาชีพทำขนมขายในตลาดเมืองถิงฮวา แม้จะอยู่กันเพียงสองยายหลาน ซุนฉีก็ไม่เคยปล่อยให้หลานสาวเพียงคนเดียวอย่างชิงเหมยอดอยาก แม้นว่านางยังเยาว์วัยแต่ก็รู้ความนัก คอยช่วยเหลือผู้เป็นยายขายขนมทุกวัน“เหมยเอ๋อร์… มาดื่มน้ำสักนิดเถิดลูก เสียงของเจ้าแหบแห้งหมดแล้ว”ซุนฉีบอกหลานสาวเพียงคนเดียว ชิงเหมยหันกลับไปมองใบหน้าของท่านยายแล้วส่งยิ้มให้ก่อนที่จะเดินกลับเข้าไปภายในร้านขนม มือเล็กหยิบถ้วยน้ำขึ้นมาดื่มเพื่อดับกระหายลูกค้าเริ่มแวะเวียนกันเข้ามาเลือกซื้อขนมของซุนฉีที่มีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นขนมเซาปิ่ง ขนมกุ้ยฮวา และหมั่นโถวอุ่นร้อน ร้านของซุนฉีแม้จะเป็นร้านเล็กๆ แต่ก็เป็นที่รู้จักของชาวบ้านซานฉีแห่งนี้ ลูกค้าหลายคนต่างรู้สึกเอ็นดูสงสารหลานสาวของนาง
last updateDernière mise à jour : 2025-04-22
Read More

ตอนที่ 2 - 1 ชิงเหมย เด็กหญิงผู้อาภัพ

หมอสวีหันกลับไปมองเด็กหญิงผู้น่าสงสารที่นอนหายใจแผ่วเบาอยู่บนเตียง ขึ้นอยู่กับโชคชะตาของนางแล้ว ว่านางจะพ้นวิบากกรรมในครานี้ไปได้หรือไม่ เพราะเขาเองก็จนปัญญาที่จะรักษานาง ที่เขาทำได้แค่เพียงต้มยาให้แก่นางเพื่อรักษาสัญญาณชีพของนางเอาไว้เพียงเท่านั้นหนึ่งคืนกับการนอนที่โรงหมอของท่านหมอสวี ซุนฉีจึงขอพาหลานสาวกลับไปพักที่เรือนของนาง ร่างเล็กถูกเคลื่อนย้ายไปยังเรือนหลังเล็กที่อยู่ไม่ไกลจากตลาดมากนัก ชาวบ้านฉีซานต่างมองมาที่สองยายหลานด้วยแววตาเวทนา บ้างก็ตำหนิญาติฝั่งบิดาของชิงเหมยที่ทอดทิ้งหลานแท้ๆ ให้มาตกระกำลำบากกับสตรีที่เป็นแม่หม้ายตั้งแต่ยังสาวเช่นนางซุนฉี แม้นางจะขยันขันแข็งแต่ก็มิอาจทำให้ชีวิตของหลานสาวดีขึ้นได้“วันนี้ยายจะทำน้ำแกงที่เจ้าชอบ ตื่นขึ้นมาเถิดหลานยาย เจ้านอนไปสองวันหนึ่งคืนแล้วหนา” มือหยาบกร้านที่ทำงานหนักมาตั้งแต่ยังสาวกุมมือเล็กของหลานสาววัยเจ็ดปีเอาไว้พลางกล่าวออกมาทั้งน้ำตา“เคราะห์กรรมอันใดกัน เหตุใดถึงได้เลือกเจ้า เหตุใดถึงมิไปเลือกพวกคนใจดำตระกูลซิ่ว”ซุนฉีพึมพำออกมาทั้งน้ำตา หากโชคชะตาจะเลือกผู้ที่ต้องทนทุกข์ทรมาน เหตุใดถึงมิใช่พวกฝั่งพ่อของหลานสาว เหตุใดถึงให
last updateDernière mise à jour : 2025-04-22
Read More

ตอนที่ 3 จากมือที่เคยถือดาบต้องมาปั้นแป้ง

หลังจากหลานสาวตื่นขึ้นมาจากการนอนหลับไปถึงสามคืน ซุนฉีก็ได้ไปตามท่านหมอสวีให้กลับมาช่วยตรวจดูอาการของชิงเหมยอีกครา คำเอื้อยที่เพิ่งได้กลับมาเกิดใหม่ยังคงไม่อาจปรับตนให้เข้ากับชีวิตใหม่ได้ แม้นภาพในอดีตของเด็กหญิงจะวนเวียนเข้ามาภายในห้วงนึกคิดของนาง ราวกับได้รับรู้ทุกเหตุการณ์ที่เจ้าของร่างประสบพบเจอมาตั้งแต่เกิดเหตุใดเด็กหญิงผู้นี้ถึงช่างอาภัพและน่าสงสารยิ่งนัก เทียบกับชีวิตของนางในชาติภพก่อนแล้ว ชีวิตของเด็กหญิงนั้นช่างโชคร้ายกว่านางยิ่งนัก ทั้งสูญเสียบิดาที่เป็นขุนนางไปในสนามรบ และสูญเสียมารดาไปตั้งแต่นางเยาว์วัย ตระกูลของบิดาก็ทอดทิ้งทำให้นางต้องมาอาศัยอยู่กับท่านยายที่เป็นเพียงแม่ค้าขายขนมในตลาด ถูกเด็กๆ วัยเดียวกันที่เป็นลูกหลานของขุนนางกับพวกเศรษฐีกลั่นแกล้งรังแก“เหมยเอ๋อร์… ไหนขอลุงตรวจดูอาการของเจ้าเสียหน่อยเถิด…”เด็กหญิงนอนมองผู้ที่นางรู้มาจากท่านยายว่าเขาเป็นท่านหมอที่รักษาให้แก่นางอีกทั้งยังเป็นสหายเก่าของท่านยาย เรียวแขนเล็กยื่นออกไปให้เขาจับชีพจรที่ข้อมือของนาง ใบหน้าที่มีร่องรอยตามวัยเผยรอยยิ้มออกมา“อาการของนางเป็นเช่นไรบ้างท่านหมอสวี” ซุนฉีเอ่ยถามอาการของหลานสาวด้วย
last updateDernière mise à jour : 2025-04-22
Read More

ตอนที่ 3 - 1 จากมือที่เคยถือดาบต้องมาปั้นแป้ง

สามวันต่อมาร้านขายขนมของซุนฉีในวันนี้นั้นดูจะมีลูกค้ามาอุดหนุนมากกว่าทุกวัน เป็นเพราะเด็กหญิงที่กำลังป่าวร้องเชิญชวนลูกค้าให้เข้ามาเลือกซื้อขนมที่ร้าน ผู้ใดผ่านมาเห็นนางเข้าก็รู้สึกเอ็นดู เด็กที่ขยันขันแข็งเช่นนี้เหตุใดถึงได้มีชีวิตที่อาภัพยิ่งนัก ยิ่งหลังจากที่ได้รับรู้เรื่องที่ว่าเด็กหญิงผู้อาภัพต้องล้มป่วยและนอนหลับไปนานถึงสามคืนทุกคนจึงพร้อมใจกันมาอุดหนุนขนมของซุนฉีเพราะอยากช่วยเหลือนาง ซุนฉีเป็นคนดีและมีน้ำใจ ยามที่นางลำบากจึงไม่มีผู้ใดในตลาดเมินเฉยต่อนางครั้นเห็นว่าซาลาเปากับเกี๊ยวใกล้จะหมด สองยายหลานจึงช่วยกันลงมือปั้นแป้งอย่างเคย แต่สิ่งที่ทำให้ซุนฉีรู้สึกประหลาดใจนั่นก็คือฝีมือการปั้นแป้งของหลานสาวนั้นเปลี่ยนไป ดูเชื่องช้าลงจากที่เคยและดูเละเทะไม่จับก้อนเช่นก่อนหน้า หรือการล้มป่วยลงจะทำให้หลานสาวของนางลืมเลือนการปั้นแป้งไปเสียแล้ว“เหมยเอ๋อร์… ก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่าเจ้าจะช่วยยายปั้นแป้งได้ไวกว่านี้อีกหนา หากเจ้ายังรู้สึกไม่ค่อยดีกลับไปพักผ่อนที่เรือนก่อนดีหรือไม่ อีกไม่นานก็ยามโหย่วแล้ว" ซุนฉีกล่าวออกมาชิงเหมยจึงชะงักมือพลางมองก้อนแป้งตรงหน้าของนางกับของท่านยายมันช่างแตกต่
last updateDernière mise à jour : 2025-04-22
Read More

ตอนที่ 4 ชีวิตนี้ก็ดีไม่น้อย

หนึ่งเดือนพ้นผ่านเสียงเจื้อยแจ้วของเด็กหญิงวัยสิบปีกำลังเชิญชวนลูกค้าที่กำลังเดินผ่านไปผ่านมาหน้าร้านขนมของท่านยายให้แวะอุดหนุนขนมของพวก ลูกค้าหลายคนนึกเอ็นดูเด็กหญิงที่ขยันขันแข็ง จึงแวะเวียนเข้าไปซื้อขนมของซุนฉีติดไม้ติดมือกลับไป แต่ก็มีลูกค้าประจำอยู่หลายคนที่แวะเวียนมาอุดหนุนเพราะชื่นชอบในรสชาติของขนมร้านซุนฉี“ข้าขอซื้อซาลาเปากับเซาปิงอย่างละห้า”เสียงของลูกค้าประจำดังขึ้นมาทำให้ชิงเหมยหันไปมอง ครั้นได้เห็นว่าเป็นผู้ใดนางจึงคำนับเขา ครั้นคุณชายหนุ่มพยักหน้าพลางส่งยิ้มให้ นางจึงหันกลับไปสนใจเรียกลูกค้าที่กำลังเดินผ่านหน้าร้านของท่านยายต่อ คุณชายรองสกุลเฉียวยิ้มน้อยๆ ออกมาก่อนที่น้ำเสียงที่คุ้นเคยจะดังขึ้นเบื้องหน้า“มาแต่เช้าเลยหรือเจ้าค่ะคุณชาย”“วันนี้ขายดีหรือไม่” เด็กหนุ่มถามผู้ที่ทักทายเขาออกมา“วันนี้ขายดียิ่งนักเจ้าค่ะ คงจะเป็นเพราะเหมยเอ๋อร์หนึ่งเดือนมานี้นางขยันขันแข็งเรียกลูกค้าเข้าร้านมาเรื่อยๆ นี่ข้าน้อยกับนางก็ปั้นแป้งทำซาลาเปากันไปสามรอบแล้วเจ้าค่ะ”ซุนฉีมองไปยังร่างเล็กที่อยู่หน้าร้านก่อนที่จะหันมาคีบซาลาเปาและขนมเซาปิงใส่ปิ่นโตไม้ที่บ่าวรับใช้คนสนิทคุณชายสกุลเฉียว
last updateDernière mise à jour : 2025-04-22
Read More

ตอนที่ 4 - 1 ชีวิตนี้ก็ดีไม่น้อย

“ที่เขาบอกว่าเจ้าสลบไปสามคืนแล้วตื่นมาเปลี่ยนไปเป็นคนละคนนี่คงไม่ใช่เรื่องโป้ปดสินะ” คุณหนูสกุลชิวเอ่ยถามออกมา“ข้าน้อยมิได้เปลี่ยนไปหรอกเจ้าค่ะคุณหนู เพียงแต่ข้าน้อยได้เติบโตขึ้นเท่านั้นเอง” คำตอบของชิงเหมยเรียกเสียงหัวเราะจากเด็กเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี“คิกๆๆ เติบโตอันใดกัน เจ้าก็วัยเดียวกับพวกข้าที่ต้องเล่นสนุกสิ โอ้…ใช่สิ เจ้าดูอวบอ้วนขึ้นนะชิงเหมย หรือว่าเจ้ากินเยอะจนยายของเจ้าต้องบังคับให้เจ้าทำงานตอบแทนนาง”“ก็คงจะเป็นเช่นนั้นแหละเจ้าค่ะ นี่ก็ถึงยามที่ข้าน้อยต้องถึงเรือนแล้ว แต่ว่าข้าน้อยยังคงอยู่ที่นี่ เช่นนั้นข้าน้อยขอตัวก่อนหนาเจ้าคะ ข้าน้อยยังมีงานที่ต้องทำ”ซุนเหมยคร้านจะต่อล้อต่อเถียงกับเด็กๆ เหล่านี้ นางคำนับลาบรรดาคุณชายและคุณหนูผู้สูงศักดิ์ก่อนที่นางจะรีบสาวเท้าก้าวเดินไปตามเส้นทางกลับเรือนของท่านยายโดยที่ไม่ได้รั้งรอฟังคำอนุญาตจากเด็กๆ เหล่านี้อีก เด็กทุกคนมองตามนางไปด้วยสายตางุนงงและรู้สึกไม่สนุกด้วยที่เด็กหญิงที่เคยเป็นเด็กอ่อนแอยอมให้พวกตนรังแก วันนี้กลับไม่เกรงกลัวพวกตนเช่นทุกครา“ไม่สนุกเลย หาคนใหม่มาเล่นด้วยเถิด” คุณชายสกุลเฟยกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย“นั่
last updateDernière mise à jour : 2025-04-22
Read More

ตอนที่ 5 หลานสาวแม่ค้าขายขนม

เสียงตีฆ้องร้องบอกยามเหม่าดังขึ้น ปลุกให้ร่างเล็กของเด็กหญิงวัยสิบปีลุกขึ้นจากที่นอน เสียงนกที่ร้องเรียกพวกพ้องให้ออกไปหากินดังก้องไปทั่วท้องนภาแม้ว่าแสงจันทรายังไม่ลาลับไปก็ตาม ผู้คนต่างก็ตื่นนอนหุงหาอาหารกันเฉกเช่นทุกวัน วันนี้เป็นวันสำคัญของชิงเหมย เพราะเป็นวันที่สำนักศึกษาหวุนซีจะเปิดรับศิษย์ที่สามารถผ่านการทดสอบของสำนักศึกษา ชิงเหมยนั้นเตรียมตัวมาเป็นอย่างดีเพราะไม่อยากที่จะพลาดโอกาสในปีนี้ไป“อาบน้ำแต่งกายให้เรียบร้อยแล้วออกมากินข้าวเถิดเหมยเอ๋อร์…”น้ำเสียงอบอุ่นอ่อนโยนของท่านยายที่ดังมาจากด้านนอกทำให้ชิงเหมยยิ้มกว้างออกมา ท่านยายของนางนั้นช่างดีต่อนางยิ่งนัก ถึงแม้นจะไม่มีบิดามารดานางกลับไม่รู้สึกว่าตนเองโหยหาความรักเลย“เจ้าค่ะท่านยาย” ชิงเหมยที่กำลังแต่งกายด้วยอาภรณ์ชุดใหม่ที่ท่านยายเป็นผู้ตัดเย็บให้นางเพื่อไปสอบในวันนี้ตอบกลับทันทีไม่ถึงหนึ่งเค่อเด็กหญิงในชุดฮั่นฝูสีฟ้าอ่อนก็เดินออกมาจากห้องนอน โต๊ะอาหารกลางเรือนมีอาหารสามถึงสี่อย่างวางอยู่บนโต๊ะ ทั้งผัดผัก เกี๊ยวผัก และไก่สับหน่อไม้ฉีก ซุนฉีตักข้าวให้หลานสาวก่อนที่นางจะตักให้ตนเองเช่นกัน สองยายหลานนั่งกินมื้อเช้าร่วมกัน ก
last updateDernière mise à jour : 2025-04-22
Read More

ตอนที่ 5 - 1 หลานสาวแม่ค้าขายขนม

แต่ลำดับที่สิบทำให้ทุกคนประหลาดใจไม่น้อย เพราะผู้ที่สอบได้ลำดับที่สิบคือชิงเหมย หลานสาวเพียงคนเดียวของซุนฉี แม่ค้าขายขนมในตลาดเมืองซานฉีที่เป็นที่รู้จักว่าทำขนมได้รสเลิศ แม้ฐานะของซุนฉีจะไม่ได้ร่ำรวยเป็นเศรษฐี แต่นางก็ไม่เคยปล่อยให้หลานสาวได้อดอยาก ภาพที่เห็นจนชินตาของชาวบ้านซานฉีก็คือภาพที่ชิงเหมยช่วยยายของนางขายขนมที่ร้าน และเป็นผู้ลงมือปั้นซาลาเปาเองกับมือ“ท่านยาย… ข้าสอบได้ลำดับที่สิบเจ้าค่ะ ข้าได้เป็นศิษย์ของสำนักศึกษาหวุนซีแล้วเจ้าค่ะ” ชิงเหมยกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเพราะความตื้นตันใจที่ความพยายามของนางไม่สูญเปล่า“หลานยาย… ยายภูมิใจในตัวเจ้ายิ่งนัก”ซุนฉีกล่าวออกมาทั้งน้ำตาครั้นได้ยินหลานเดินมาบอกลำดับที่นางสอบได้ในครานี้ แม้นนางจะไม่คาดหวังว่าหลานจะสอบได้ลำดับดีๆ แต่พอได้ยินว่าหลานสาวสอบติดอันดับสิบก็ทำให้นางรู้สึกยินดีจนเก็บน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ สองยายหลานสวมกอดกันด้วยความดีใจ“ข้ายินดีกับเจ้าด้วยเหมยเอ๋อร์” หนึ่งในแม่ค้าที่พาบุตรหลานมาสอบเข้าที่สำนักศึกษาแห่งนี้กล่าวออกมาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มยินดี“ขอบน้ำใจท่านน้าซุ่ยหรูเจ้าค่ะ”“สอบได้ลำดับที่สิบนี่มิใช่เรื่องง่ายๆ เลย
last updateDernière mise à jour : 2025-04-22
Read More
Dernier
12
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status