บททั้งหมดของ ห้วงฝันใต้แสงจันทรา: บทที่ 21 - บทที่ 30

34

บทที่ 4.3 ความเจ็บปวด

หลี่หานถูกสั่งลงโทษโบยด้วยความร้ายแรงสำหรับองครักษ์ที่ทำผิดกฎ โดยไม่มีการสืบสาวหาความถูกผิด แส้ที่โบยลงบนแผ่นหลังของเขาจะมีจำนวนครั้งมากกว่าคนทั่วไปสองเท่าเพราะหมายถึงการทรยศต่อความไว้ใจของฮ่องเต้ซึ่งเป็นผู้คัดเลือกเหล่าองครักษ์ด้วยตนเอง เป็นบุคคลที่เติบโตและอยู่เคียงข้างกันกับเขาหลี่หานถูกนำตัวไปทั้ง ๆ ที่ยังไม่ตื่นดีและมึนงงจากฤทธิ์ยา ผู้ที่ทำการลงแส้ปรากฏตัวขึ้นในลานลงโทษของเหล่าองครักษ์ เสียงแส้หวายกระทบบาดเนื้อหนังของเขาอยู่นาน แต่ไม่มีใครได้ยินเสียงร้องของหลี่หานเลยแม้แต่น้อย เมื่อครบจำนวนครั้งเขาจึงถูกนำตัวไปขังไว้ในคุกใต้ดินห้องสุดท้ายหลี่เหลียนฮวาคิดทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น พลางซักไซ้ไล่เรียงเหตุการณ์ทั้งหมดกับจิ่วเอ๋อร์ แต่ก็หาคำตอบไม่ได้ว่าเรื่องทั้งหมดเกิดจากอะไร นางจำได้เพียงว่านอนทานยาแล้วหลับไปตามปกติ หากแต่ยาที่ได้รอบนี้คล้ายฤทธิ์จะมากนัก แม้จะทานยาก็ต้องรู้สึกตัวหากมีคนเข้ามาในห้องแต่ครานี้กลับไม่ตื่นขึ้นจนเกิดเรื่องร้ายแรง“จิ่วเอ๋อร์ หลี่หานเป็นเช่นไรบ้าง”“ฮองเฮา บทลงโทษจบไปแล้ว เวลานี้ถูกคุมขังในคุกใต้ดินเพคะ”
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-10
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 4.4 ลูกศรอาบยาพิษ

คืนวันสิ้นปี“เจ้าส่งคนไปกักตัวเหยากุ้ยเฟยไว้ที่ตำหนัก ห้ามนางมาร่วมงาน หากผู้ใดถามให้บอกว่านางไม่สบาย” เสนาบดีเหยาสั่งทหารผู้หนึ่งให้กันเหยากุ้ยเฟยออกจากการลอบโจมตีครั้งนี้เขาเดินทางมาร่วมงานด้วยใจฮึกเหิมหมายจะจัดการเรื่องราวในราชสำนักให้เป็นไปตามแผน แต่ทว่าเขาไม่รู้ตัวเลยว่าแผนอันยิ่งใหญ่ที่วางไว้ ฮ่องเต้ได้ล่วงรู้หมดแล้วฮ่องเต้พาฮองเฮามาที่นั่งหน้าพระแท่นตามธรรมเนียม โดยมีหัวหน้าองครักษ์และหลี่หานตามประกบไม่ห่างสองฝั่งซ้ายขวา เมื่อนั่งที่เรียบร้อยแล้ว เหล่าขุนนางและแขกสูงศักดิ์ที่ได้รับเชิญเข้าร่วมงานก็เข้าประจำที่นั่งของตนแบ่งออกเป็นฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวาอาหารของคาวหวานมากมายถูกนำออกมาวางเรียงรายบนโต๊ะ รวมทั้งเหล้าหมัก สุราชั้นดีที่ฮ่องเต้ประทานแจกจ่ายให้ผู้เข้าร่วมงานวันสิ้นปีค่ำคืนนี้หลี่เหลียนฮวามองไปที่หลี่หาน เพียงแค่ทั้งสองสบตากันก็เข้าใจสิ่งที่ต้องการสื่อ ก่อนจะหันไปหาฮ่องเต้“ฝ่าบาท ข้าไม่เคยเห็นงานส่งท้ายปียิ่งใหญ่เช่นนี้มาก่อนเลยเพคะ”“ข้ามีอาหารของโปรดมาให้เจ้าด้วย” เขาคีบแล้วมาวางไว้
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 5.1 ความห่างเหิน

หลิวลี่เซียง ดีแค่ไหนแล้วที่ยังรักษาชีวิตไว้ได้ แต่ทำไมถึงไม่ตื่นจากฝันแทนเล่า ทำไมฝันต่อกันแถมเปลี่ยนมาเป็นฝั่งตัวร้ายเสียด้วย ความฝันนี่เล่นงานข้าแทบทุกครั้งจริงเชียว ครานี้เป็นเหยากุ้ยเฟย ข้าจะเอาตัวรอดในตำหนักเย็นเช่นไรดี เฮ้อ! เหยากุ้ยเฟยถอนหายใจอยู่สองสามครั้ง“พระสนม ฝ่าบาทมีรับสั่งให้นำยามาให้พระองค์” ทหารผู้หนึ่งกล่าวกับนาง“แม้แต่แผลก็ต้องทำเองหรือ เฮ้อ!” เหยากุ้ยเฟยพูดกับตัวเองพร้อมกับถอนหายใจอีกครั้งเหยากุ้ยเฟยถอดเสื้อออกแล้วส่องกระจก แผลจากลูกธนูในคืนนั้นเริ่มดีขึ้นแล้ว นางค่อย ๆ ใส่ยาลงบนแผล“โอ๊ย! แสบ” เหยากุ้ยเฟยอุทานเสียงหลงทันที่ที่ยาสัมผัสผิวหนังของนาง ก่อนจะค่อย ๆ พันผ้าปิดแผลให้เรียบร้อยยังดีที่ได้เรียนปฐมพยาบาลมาบ้าง ไม่คิดว่าจะได้ใช้ที่นี่เมื่อทำแผลเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหยากุ้ยเฟยเดินสำรวจรอบ ๆ ตำหนัก เวลานี้ไม่มีผู้ใดอยู่ข้างใน ตำหนักอันกว้างขวางดูอ้างว้างราวกับป่าช้า ด้านนอกมีเพียงทหารยามยืนเฝ้าอยู่สี่คนเพื่อกันไม่ให้มีผู้ใดมาพบนาง และไม่ให้นางออกนอกตำหนัก ทุก ๆ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 5.2 แผนลวงครั้งใหม่

หลี่หานรู้สึกตัวตอนที่เหยากุ้ยเฟยงัวเงียลงมาจากเตียง จึงไม่ได้ขยับตัวหนีทำท่านั่งหลับตาต่อไป เขาอยากรู้ว่านางจะทำอันใด แต่พอรู้สึกได้ว่าไออุ่นจากใบหน้าของนางขยับเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ ทั้งยังยกมือขึ้นมาเพื่อสัมผัสใบหน้าของเขา หลี่หานจึงรีบจับข้อมือของนางไว้แล้วลืมตามองคนที่อยู่ตรงหน้า“หลี่หาน คิดถึงเจ้าเหลือเกิน” น้ำเสียงของนางโหยหาราวกับไม่พบเจอกันนาน ทันทีที่พูดจบนางหลับตาแล้วทิ้งตัวลงในอ้อมแขนอันอบอุ่นของเขา“เหลวไหล” เขาพูดออกมาเบา ๆ ทั้งยังคิดในใจว่าสนมผู้นี้เหลวไหลสิ้นดี สตรีร้ายกาจเช่นนี้ นางกำลังคิดวางแผนอันใดไว้ในใจ แล้วนางจะต้องคิดถึงเขาไปทำไมหลี่หานไม่อาจทนให้สนมผู้ที่เคยใส่ร้ายฮองเฮากับเขานอนหลับต่อในอ้อมแขนต่อไปได้จึงวางนางไว้บนพื้น ทิ้งให้เหยากุ้ยเฟยผู้นี้นอนขดตัวไร้ผ้าห่มกาย แล้วเดินไปนั่งพิงเสาฝั่งตรงข้าม คิดหลายสิ่งหลายอย่างในใจ หากแต่ไม่ยอมออกไปข้างนอกเพราะอย่างน้อยนอนข้างในตำหนักก็ยังมีกะละมังไฟเช้าวันต่อมาเหยากุ้ยเฟยตื่นสายกว่าปกติเพราะอาการมึนค้าง จากฤทธิ์สุราชั้นดี เมื่อได้ยินเสียงของขันทีที่มาตรวจตราประจำทุกเช
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-13
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 5.3 เริ่มใจอ่อนและหวั่นไหว

หลี่หานคอยนั่งเฝ้าเหยากุ้ยเฟยอยู่ข้างเตียงตลอดทั้งคืน พยายามถามตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่านางเป็นคนเช่นไร หากแผนการครั้งนี้สามารถช่วยเหลือบิดา พี่ชายและตัวนางเองได้ ทำไมถึงไม่ทำ ทำไมถึงต้องทนรับความเจ็บปวดไว้กับตนเอง เรื่องของนางที่เขาพบเจอในก่อนหน้านี้ดูต่างจากตอนนี้ราวฟ้ากับเหวเหยากุ้ยเฟยลืมตาตื่นนอนตอนเช้าเหมือนคนปกติราวกับเมื่อคืนวานไม่ได้โดนยาพิษเดือนหนาวทำไมข้ายังไม่ตื่นจากฝัน ทำไมข้ายังอยู่ที่นี่ เหยากุ้ยเฟยตัดพ้อทันทีที่เห็นเพดานของตำหนักเย็น เมื่อหันมาทางด้านซ้าย ใบหน้าคุ้นเคยของคนผู้หนึ่งทำให้นางคิดว่า“หลี่หาน นี่ข้ากำลังฝันซ้อนฝันหรือย่างไร เหยากุ้ยเฟยเอื้อมลูบใบหน้าของเขา“ท่านทำอันใด” เขาสะดุ้งตื่นเพราะเพิ่งได้นอนเพียงหนึ่งก้านธูปเหยากุ้ยเฟยได้ยินเช่นนั้นจึงหยิกแก้มตัวเอง“โอ๊ย! ไม่ได้ฝันหรอกหรือ แต่เจ้าดูจะเหมือนจริงมากเกินไปแล้ว ไม่มีทางที่เจ้ามาอยู่ใกล้ข้าได้ถึงเพียงนี้หรอก” นางเอื้อมแตะที่แก้มเขาอีกครั้ง“เหยากุ้ยเฟย! ท่านไม่ได้ฝัน” หลี่หานบอกนาง“แล้วทำไ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 5.4 ความทรงจำที่เลือนลาง

หลี่หานค่อย ๆ ถอนริมฝีปากออก แต่มือทั้งสองข้างยังคงจับอยู่ที่เดิม เขามองเห็นหน้าของเหยากุ้ยเฟยกำลังแดงและนางกำลังหลับตา“เหยากุ้ยเฟย” เขากระซิบข้างหูนาง“เจ้า! เคยทำแบบนี้กับผู้ใด”“ไม่เคย” หลี่หานตอบด้วยแววตาที่ใสซื่อ“หลี่หานการละครหรืออย่างไร”“อื้ม คนพวกนั้นไปแล้ว” เขาชี้ให้ดูว่าไม่มีผู้ใดคอยแอบตาม“ใครเขาจะอยู่ดูเล่า เจ้าปล่อยข้าได้หรือยัง” นางถามเขาเพราะมือทั้งสองข้างยังอยู่ที่เดิมจากนั้นพวกเขาทั้งสองคนก็เดินกลับตำหนักเย็นอย่างเงียบ ๆ ไม่คุยกันตลอดทาง ต่างฝ่ายต่างนึกถึงเรื่องที่ผ่านมาเมื่อครู่-------------------------------------------------------------------------เช้าวันต่อมาม้าเร็วจากเมืองชายแดนส่งสารเรื่องกองทัพของอ๋องชิงหมิงให้ฮ่องเต้ที่ท้องพระโรง“ถวายรายงานพ่ะย่ะค่ะ”สีหน้าของฮ่องเต้เต็มไปด้วยความกังวล ก่อนจะประกาศให้เหล่าเสนาบดีรับรู้ว่าในเวลานี้กองทัพของอ๋องชิงหมิงและอ๋องจิ้งเมืองชายแดนกำลังถูกล้อมโด
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-15
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 6.1 หัวใจที่ยังคงเจ็บปวด

             ถานลี่อิง หญิงสาวอายุย่างยี่สิบลี้ภัยสงครามจากแคว้นฉินมายังเมืองต้าซิงเพียงลำพัง หวังจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เงียบสงบในเมืองแห่งนี้ หลังจากเดินทางรอนแรมกลางทะเลทรายมาเกือบหนึ่งเดือน ในที่สุดก็มาถึงหมู่บ้านซึ่งอยู่ห่างจากเมืองหลวงต้าซิงไม่มากนัก เรี่ยวแรงของนางแทบจะไม่มีเหลือแล้ว และนางรู้ตัวว่าร่างกายอันอ่อนแอใกล้จะทนไม่ไหวจึงเดินเข้าไปขอความช่วยเหลือผู้คนในหมู่บ้าน“พี่สาว ท่านเจ็บป่วยที่ใดหรือ” เด็กน้อยคนหนึ่งถามเมื่อเห็นสภาพอิดโรยของนาง“น้ำ ขอน้ำได้หรือไม่”“ท่านรอตรงนี้สักครู่” เด็กน้อยรีบวิ่งไปตักน้ำมาให้นางเมื่อได้ดื่มน้ำดับกระหาย นางขอบคุณเด็กคนนี้ที่ช่วยเหลือ พอได้มองไปรอบหมู่บ้าน กลับเห็นแค่เพียงเด็ก และคนชราไม่กี่คนจึงรู้สึกสงสัย“เจ้าชื่ออะไรหรือ”“เสี่ยวเฟย”“ครอบครัวของเจ้าล่ะ”“ท่านพ่อกับท่านแม่เข้าไปในเมืองหลวงได้สามวันแล้ว ยังไม่กลับมา” เขาตอบพลางมองไปยังทิศทางนั้นขณะที่ทั้ง
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 6.2 อดีตที่หลอกหลอน

หลี่หงจวิ้นเข้ามาสวมกอดเหออี้เทียนโดยไม่สนใจสายตาของคนรอบข้าง“ข้าขอโทษที่ปกป้องเจ้าไม่ได้ ข้าขอโทษจริง ๆ” หลี่หงจวิ้นพูดกับเขา น้ำตาลูกผู้ชายรินไหล หากคนจากพรรคมารมาเห็นคงต้องบอกว่าเป็นน้ำตาแห่งคำลวงเป็นแน่ ไม่มีทางที่หลี่หงจวิ้นจะร้องไห้ให้กับผู้ใด มีแต่ผู้อื่นที่เสียน้ำตาให้เขา“คุณชายท่านนี้ ปล่อยข้าก่อนได้หรือไม่” เหออี้เทียนพยายามบอกเขาให้ปล่อยตัวเอง ในใจคิดว่าบุรุษสองคนยืนกอดกันแนบแน่น แถมอีกคนยังร้องไห้อาวรณ์เป็นภาพที่ค่อนข้างดูแปลกตาอยู่บ้าง“คุณชาย ปล่อยข้าก่อนเถิด ข้าไม่เป็นอันใดแล้ว” เหออี้เทียนบอกเขาอีกครั้งเพราะคนผู้นี้กลับกอดเขาแน่นขึ้นอีก“เหออี้เทียน เขาคือผู้ใดหรือ” ถานลี่อิงถามเขาด้วยความสงสัย แต่เหออี้เทียนกลับส่ายหัวแทนคำตอบ นางจึงพยายามช่วยแกะมือที่โอบเพื่อนของนางอยู่“คุณชาย ท่านปล่อยเพื่อนของข้าได้หรือไม่” น่าสงสัยว่าหลี่หงจวิ้นรู้สึกกำลังถูกขัดขวางอยู่ เขาปรายตามองถานลี่อิงด้วยสายตาพิฆาต จนนางผงะถอยหลังสามก้าว“ลี่อิง ทำไมหรือ เจ้ามาช่วยข้าก่อน”
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 6.3 อยู่เคียงข้างกัน

เมื่อเหออี้เทียนเห็นเขาเป็นเช่นนั้น ยังคงไม่นึกสงสัยในตอนแรกจึงถามเขาด้วยความเป็นห่วง“หลี่หงจวิ้น เจ้าเป็นอันใด”คำตอบของเขามีเพียงรอยยิ้มหิวกระหายวิญญาณของเหออี้เทียน“เทียนเทียน เกิดอันใดขึ้น” ถานลี่อิงวิ่งมาหลบอยู่ข้างหลังเขา“ลี่อิง เจ้าถอยไปก่อน” เขาบอกนางก่อนจะหันมาพูดกับหลี่หงจวิ้น“หลี่หงจวิ้น มองหน้าข้า เจ้าต้องตั้งสติ เข้าใจหรือไม่” เหออี้เทียนพูดกับเขาเมื่อนึกเรื่องหนึ่งออกเหออี้เทียนเคยศึกษาในตำรามาก่อน อาการเช่นนี้คืออาการของคนในพรรคมารยามที่พลังมารควบคุมร่างกายและจิตใจ ไม่ทันที่เขาจะได้พูดอะไรต่อ หลี่หงจวิ้นเดินเข้ามาใกล้เขาก่อนจะเอื้อมมือมาลูบใบหน้าของเหออี้เทียน แววตาของเขาหิวกระหาย ปากขยับท่องวิชามารพลันดอกพลับพลึงแดงเริ่มผุดขึ้นมารอบบริเวณ เตรียมพร้อมที่จะเสพวิญญาณของคนที่อยู่ตรงหน้า“หลี่หงจวิ้น หยุดได้แล้ว” เหออี้เทียนจ้องตาเขาตอบอย่างไม่เกรงกลัว เมื่อเห็นว่าหลี่หงจวิ้นไม่มีท่าทีจะฟังเขา จึงวาดฝ่ามือผลักเขาออกไปหนึ่งชุ่นแล้วใช้วิชาสายหนึ่งพยายามทำให้จิตใ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 6.4 ห่วงหาอาวรณ์

“เทียนเทียน” ถานลี่อิงร้องไห้เรียกเขา จิตใจของนางเริ่มสั่นไหวทีเล็กทีละน้อย ทำให้ผนึกที่อยู่ในตัวนางเกิดรอยร้าวใหญ่ขึ้น“ช้าก่อน” เสียงของต้วนจื่อเยี่ยนดังขึ้นพร้อมกับคนในพรรคฝนโลหิตราวห้าสิบคน“เพิ่งจะโผล่มาตอนนี้ เจ้านี่มันจอมฉวยโอกาส” หวังเหว่ยตวาดเขา“หุบปาก เจ้าพวกโง่” ต้วนจื่อเยี่ยนตอกกลับ แล้วถามเหออี้เทียน“หลี่หงจวิ้นเล่า เจ้าฆ่าเขาหรือยัง”“...” เหออี้เทียนไม่ตอบอันใด เรี่ยวแรงของเขาเริ่มจะหมด ทั้งยังเจ็บปวดบาดแผลไปทั่วร่าง“ยังไม่ฆ่ามันสินะ” ต้วนจื่อเยี่ยนเห็นท่าทีของเหออี้เทียนก็พอเดาได้ เมื่อรู้ข่าวจากคนในพรรคว่าหาตัวหลี่หงจวิ้นไม่เจอ เขาก็รีบมาที่นี่ทันที“...” เหออี้เทียนยังคงนิ่งเงียบ“หรือว่าเจ้าโดนเสน่ห์มารของมันแล้ว เฮอะ เจ้าหลี่หงจวิ้นคิดจะเก็บของดีไว้กินผู้เดียว” หวังเหว่ยพูดออกมา“แล้วเจ้านั่นหายไปที่ใด ทำไมไม่มาชิงเหยื่อของตนกลับไป” พรรคหมอกทมิฬสงสัยมองไปรอบ ๆ ตัว“หม
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-19
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1234
DMCA.com Protection Status