Semua Bab เงียบงัน: Bab 1 - Bab 10

24 Bab

บทที่ 1

ภาพของฉันที่กำลังหาขวดพลาสติกในถังขยะ ได้ถูกถ่ายและโพสต์ลงบนอินเทอร์เน็ต ทำให้เกิดกระแสถกเถียงอย่างมากในทันที"สาวเก็บขยะที่สวยที่สุด""สาวน้อย คนในเน็ตนี่ต่างก็บอกว่าเธอดูดีมากเลยนะ"ฉันกัดซาลาเปาคำเล็กๆและฟังเฉยๆ ขณะที่ฉีโม่อ่านคอมเมนท์ไปเรื่อยๆเขาปัดผมที่ตกลงมาที่หน้าผาก ก่อนจะมองที่โทรศัพท์ต่อและเริ่มอ่านออกเสียงอีกครั้ง"เธอไม่ใช่คุณหนูแห่งตระกูลหลินหรอกเหรอ หลินชูถงน่ะ?""ฉันมีภาพเป็นหลักฐานว่าเธอคือหลินชูถง ที่ทำให้เฮ่อซือเหยียนหลงรักและยังทำให้พ่อของเขาต้องตายด้วย"เมื่ออ่านถึงตรงนี้ ฉีโม่ก็เงียบลง ฉันตัวแข็งทื่อไปทันทีซาลาเปาเกือบจะหลุดจากมือ ตาของฉันเหลือบไปเห็นภาพที่ถูกขยายจากหน้าจอโทรศัพท์หญิงสาวที่ยิ้มสวยสดใสกับชายหนุ่มที่มีสีหน้าเรียบเฉยนี่คือภาพถ่ายงานแต่งงานของฉันกับเฮ่อซือเหยียน
Baca selengkapnya

บทที่ 2

ฉันได้ยินชื่อเขาอีกครั้งหลังจากผ่านไปสามปีความหวาดหวั่นได้ถูกแทนที่ด้วยความหวาดกลัวฉันทำได้เพียงคิดที่จะหนีไป“ไม่เป็นไรนะ ฉันจะปกป้องเธอเอง อีกสักพักฉันจะพาเธอออกไปจากที่นี่”ฉีโม่รู้ถึงความผิดปกติในตัวฉันเขาไม่ได้ถามอะไร แต่กลับปลอบฉันอย่างอ่อนโยนการใช้ชีวิตเร่ร่อนมาตลอดสามปี ในขณะที่ทุกคนมองฉันด้วยสายตาที่เหยียดหยามนั้นมีเพียงแค่เขาเท่านั้นที่กล้าเข้ามาใกล้และช่วยเหลือฉัน เขามักพูดกับฉันแบบนี้เสมอแม้ว่าฉันจะโง่ แต่ในใจฉันก็รู้ดีว่าคราวนี้เขาช่วยฉันไม่ได้จริงๆฉันกลับไปที่บ้านร้างเพื่อเก็บขยะ เตรียมที่จะขายเพื่อหาเงินหลบหนีไปแต่ไม่คิดว่าฉันจะมาช้าเกินไปขณะที่กำลังลากถุงออกไปข้างนอก เสียงชายหนุ่มเย็นชาก็ดังเข้ามาในหูฉันทันที“หลินชูถง เธอคิดว่าจะหนีไปไหน?”ใต้แสงแดดในเดือนกรกฎาคม ฉันรู้สึกได้ถึงเหงื่อเย็นๆที่ไหลออกมาทั่วตัวแม้ว่าจะไม่ได้ยินเสียงนี้มานานกว่าสามปี แต่ฉันก็ยังจำได้เป็นอย่างดีฝ่ามือของฉันเย็นเฉียบ กำถุงในมือไว้แน่นขึ้น หัวใจของฉันเต้นรุนแรงจนรู้สึกได้ความกลัวที่ฝังลึกในความทรงจำกลับมาท่วมท้นฉันอีกครั้งเสียงรองเท้าหนังก็ค่อยๆ เข้าใกล้ฉันทีละก้า
Baca selengkapnya

บทที่ 3

ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ฉันรักเฮ่อซือเหยียนอย่างหมดใจแต่เขากลับเกลียดฉันเข้ากระดูกดำฉันและเขาเป็นคู่หมั้นที่ถูกกำหนดโดยคุณปู่ทั้งสองคนโชคร้ายที่เขากลับมีผู้หญิงที่หมายปองไว้อยู่แล้วและต่อต้านการแต่งงานของเราเป็นอย่างมากซึ่งในตอนแรกฉันไม่รู้เรื่องนี้เลยในฐานะลูกสาวคนเดียวของตระกูลหลิน ฉันถูกตามใจเสมอทำให้ฉันพยายามที่จะให้เขายอมรับความรักของฉันที่มีต่อเขาในปีนั้นธุรกิจของตระกูลเฮ่อเกิดปัญหาพ่อฉันจึงนำเงินมาลงทุนกับเขา เพื่อบีบบังคับให้เขาแต่งงานกับฉันฉันโง่เขลาเกินไปฉันเชื่ออย่างหมดใจว่าการแต่งงานของเรานั้นเป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นแน่นอนฉันรักเขา และเขาก็จะรักฉันเช่นกันแต่ฉันคิดผิดไม่ว่าฉันจะทำดีแค่ไหน เขาก็ยังไม่รักฉันอยู่ดีแต่ทั้งหมดนี้กลับกลายเป็นเหมือนการราดน้ำมันบนกองไฟความเกลียดชังของเขาที่มีต่อฉันนั้นทวีความรุนแรงขึ้นในวันที่เราแต่งงานกันวันนั้น พ่อของเขาได้ฆ่าตัวตายในห้องแต่งงานของเราเขาทิ้งจดหมายลาตายไว้ กล่าวหาว่าฉันเป็นคนบังคับทำให้เขาต้องฆ่าตัวตายงานแต่งงานของเรากลายเป็นงานศพ เขาเปลี่ยนไปในทันทีฉันพยายามอธิบายและปฏิเสธว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยว
Baca selengkapnya

บทที่ 4

“หลินชูถง เธอเป็นอะไรไป?”เขาดูเหมือนจะตกใจจากปฏิกิริยาของฉันแล้วก้าวเข้ามาหาฉัน พร้อมกับกอดฉันไว้ในอ้อมแขนไม่สนใจเลยว่าจะทำให้ชุดสูทราคาแพงของเขาสกปรกแค่ไหนมีคนได้ยินเสียงดังจึงวิ่งมาดูเหตุการณ์และยังแนะนำเขาว่า “คุณครับ คุณควรอยู่ห่างๆ จากนางใบ้คนนี้ดีกว่านะครับ เธอออกจะเพี้ยนๆ น่ะครับ”“ใบ้? เพี้ยน?”เขาถามออกมาด้วยความเหลือเชื่อ“ก็ใช่น่ะสิครับ เธออยู่ที่นี่มาหลายปีแล้ว ชอบทำตัวบ้าๆ บอๆ แบบนี้แหละครับ”ฉันเริ่มตัวสั่นมากขึ้นเฮ่อซือเหยียนไม่ลังเลอีกต่อไป เขาอุ้มฉันขึ้นแล้วเดินไปที่รถฉันตาเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัว ร่างแข็งทื่อจนไม่กล้าขัดขืนปล่อยให้เขาวางฉันลงที่เบาะหลังในรถเริ่มมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ลอยมาฉันแนบตัวแน่นกับประตูรถ ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองความชื้นในกางเกงทำให้ฉันรู้สึกหวาดกลัวมากยิ่งขึ้นเมื่อก่อนเฮ่อซือเหยียนไม่เคยอนุญาตให้ฉันได้แตะต้องของของเขาเลยแต่ตอนนี้ฉันกลับทำให้เสื้อผ้าและรถของเขาสกปรกเขาจะต้องโกรธมากแน่ๆฉันกลัวอารมณ์ที่รุนแรงของเขาเหลือเกินแต่ครั้งนี้เฮ่อซือเหยียนกลับไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาเพียงสตาร์ทรถเงียบๆเขาพาฉันไปที่โรงพยาบาล เ
Baca selengkapnya

บทที่ 5

เขาพาฉันมาที่วิลล่านี้ ซึ่งเป็นบ้านที่พ่อของฉันมอบให้เราในวันแต่งงานและยังเป็นสถานที่ที่พ่อของเฮ่อซือเหยียนฆ่าตัวตายความกลัวอันใหญ่หลวงถาโถมเข้ามา เสมือนมีมือใหญ่ๆกำลังบีบคอฉันราวกับว่ามันกำลังจะฆ่าฉันในวินาทีถัดไปสีหน้าของเฮ่อซือเหยียนสับสน และข้างในดวงตาเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง “หลินชูถง เธออย่าคิดว่าการกระทำแบบนี้จะทำให้เธอชดใช้ความผิดได้ มันไม่พอ.. มันไม่พอหรอก”เขาหยุดงานและเริ่มหันมาดูแลฉันอย่างใกล้ชิดทุกสิ่งในบ้านยังคงเหมือนเดิมสิ่งเดียวที่เปลี่ยนไปคือทัศนคติของเขาที่มีต่อฉันนักล่าที่มีฝีมือไม่เคยทำร้ายเหยื่อที่อ่อนแอฉันรู้ดีอยู่ในใจว่านี่เป็นเพียงความอดทนชั่วคราวของเขาเท่านั้นดังเช่นเมื่อก่อนสิ่งดีๆ ที่เขาปฏิบัติต่อฉันทุกอย่างล้วนต้องมีราคาที่ต้องจ่ายแต่ตอนนี้ฉันไม่มีปัญญาจ่ายราคานั้นอีกแล้วฉันรู้สึกตึงเครียดตลอดเวลา ไม่กล้าผ่อนคลายแม้แต่นิดเดียวฉันไม่กล้าทานอาหาร แม้แต่จะขึ้นเตียงนอนก็ยังไม่กล้าเพราะพ่อของเขาก็ตายอยู่ในห้องนี้เพียงแค่หลับตา ก็เห็นภาพพ่อของเขานอนอยู่ในกองเลือดนั้นเฮ่อซือเหยียนก็ไม่ได้พยายามโน้มน้าวฉัน แค่คอยส่งข้าวส่งน้ำมาให้ฉ
Baca selengkapnya

บทที่ 6

ในอีกไม่กี่วันถัดมา คนที่เอาอาหารมาให้ ก็เปลี่ยนเป็นคุณป้าแทนส่วนเฮ่อซือเหยียนก็ไม่เคยปรากฏตัวอีกเลยแต่กลับเป็นเจียงอี่โม่ที่มาเยี่ยมฉันฉันเคยเห็นเธอมาก่อนหลายครั้ง รู้ว่าเธอคือบุตรบุญธรรมของตระกูลเฮ่อเธอคือ "แสงสว่างในใจ" ของเฮ่อซือเหยียนใบหน้าของเธอสวยงามอ่อนโยนและมีดวงตาที่กลมโตที่ชื้นน้ำตา ทำให้ฉันอดที่จะรู้สึกสงสารไม่ได้เธอเดินเข้ามาหาฉันด้วยท่าทางที่ดูมีอำนาจ สวมรองเท้าส้นสูง ทำให้รูปร่างของเธอดูเพรียวบางยิ่งขึ้นเธอสวมเดรสสีดำ รูปร่างของเธอเลยโดดเด่นยิ่งขึ้น“ได้ยินมาว่าเธอใช้ชีวิตเร่ร่อนมาสามปีแล้ว กลายเป็นคนบ้าและใบ้ไปแล้วเหรอ?”“อาเฮ่อเกลียดเธอมาก ถ้าเธออยู่ที่นี่ ชีวิตคงไม่ดีแน่ แต่ถ้าอยากออกไป ฉันช่วยเธอได้นะ”ฉันเงยหน้าขึ้นด้วยความสั่นเทา และสบตากับรอยยิ้มเหยียดชั่วขณะหนึ่งที่ผุดขึ้นมุมปากของเธอกระดกขึ้นเป็นรอยยิ้ม แววตาอ่อนโยนขึ้นฉันอยากออกไปจากที่นี่เหลือเกินกลัวว่าจะพลาดโอกาสอันน้อยนิดนี้ ฉันจึงรีบตอบตกลงอย่างกระตือรือร้นเธอให้ฉันเปลี่ยนเสื้อผ้ากับเธอ และใส่แว่นกันแดดให้ฉันยังใจดีเตือนฉันอีกครั้งว่า “ต้องทำแบบนี้ ถึงจะหลบจากพวกรปภ.หน้าประตูได้
Baca selengkapnya

บทที่ 7

ฉันเต็มไปด้วยความดีใจที่ได้หลุดพ้นจากกรงขังนี้แต่ไม่ทันได้ตั้งตัว กลับพบว่าตัวเองถูกพามาที่งานเลี้ยงไม่นานก็มีคนจำฉันได้“อ้าว นี่มันคุณหนูใหญ่จากตระกูลหลินไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงมาที่นี่ได้ล่ะ?”“คุณหนูหลินอะไรกัน? ไม่ได้ดูข่าวที่เป็นกระแสเหรอ? เธอเป็นแค่คนขอทานตัวเหม็นๆคนหนึ่งต่างหากล่ะ”“ฉันก็ว่า คุณหนูหลินชูถงที่มักดูถูกคนอื่นอยู่ตลอดจะมาที่งานเลี้ยงเล็กๆ แบบนี้ได้ยังไง นึกว่ามาเก็บขยะที่นี่ซะอีก”“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า…”เมื่อก่อน ฉันเคยเป็นคนที่เย่อหยิ่ง ที่อยู่ภายใต้การปกป้องจากพ่อ ทำให้ไม่เคยเรียนรู้ที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นเลยและเพราะแบบนั้นฉันจึงเคยทำให้หลายคนไม่พอใจแต่ตอนนี้ ความตกต่ำของฉันกลับกลายเป็นเรื่องขบขันของพวกเขาท่ามกลางเสียงหัวเราะ ฉันรู้สึกอึดอัดมาก จนกำชายกระโปรงของตัวเองไว้แน่นฉันเอาแต่มองไปที่ประตูทางออกตลอดเวลาในขณะนั้น เงาร่างสีขาวก็มาปรากฏขึ้นมาอยู่ในสายตาของฉันเจียงอี่โม่ที่หน้าผากมีรอยแดง ดูเธอเหมือนอยู่ในสภาพที่น่าสงสารฉันไม่มีเวลาให้คิดมาก รีบเข้าไปจับแขนเธอและอ้อนวอนให้พาออกไปจากที่นี่สายตาของเธอหันไปที่ด้านหลังฉัน ก่อนจะร้องออกมาด้ว
Baca selengkapnya

บทที่ 8

ฉันถูกพากลับไปยังวิลล่ารอการแก้แค้นของเขาอย่างสิ้นหวังผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงเฮ่อซือเหยียนก็กลับมาเขามองดูอาหารที่วางอยู่โดยไม่ถูกแตะต้อง และลมหายใจของเขาก็เริ่มหนักหน่วงเหมือนเขากำลังพยายามอดทนต่อความโกรธที่อยู่ภายในฉันกลัวจนอยากจะร้องไห้ แต่กลับก็ไม่กล้าทำเช่นนั้นเมื่อก่อนฉันเคยเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลหลิน เอาแต่ใจและชอบงอแงไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ต้องหลั่งน้ำตาไว้ก่อนแต่เฮ่อซือเหยียน ก็มักจะรำคาญและผลักฉันออกไปเสมอ “หลินชูถง น้ำตาของเธอทำให้ฉันรู้สึกขยะแขยงจริงๆ”ดังนั้น เพื่อไม่ให้เขารู้สึกขยะแขยง ฉันจึงเก็บน้ำตาไว้ตั้งแต่นั้นมาเฮ่อซือเหยียนย่อตัวลงครึ่งหนึ่งต่อหน้าฉันกลิ่นยาสูบจางๆ ลอยเข้ามาในจมูกเขาจับคางฉันให้เงยหน้าขึ้นมองเขาดวงตาที่งดงามของเขาหรี่ลงแน่น แสดงออกถึงความเย็นชาที่แข็งกระด้างฉันอดไม่ได้ที่จะคุกเข่าเพื่อขอโทษเขา แต่เขาก็จับฉันไว้แน่น“เธอกลัวฉันขนาดนี้เลยเหรอ?”“หลินชูถง ทำไมเธอถึงได้อ่อนแอขนาดนี้?”“เธอแกล้งทำแบบนี้ใช่ไหม? คุณหนูจากตระกูลหลินที่ทนความทุกข์ไม่ได้เลยสักนิด แต่กลับทนกับกลิ่นเหม็นจากถังขยะได้ และแถมยังกลั้นฉี่ไม่ได้ด้วยเนี่ยนะ?
Baca selengkapnya

บทที่ 9

“มือเธอไปโดนอะไรมา?”เขาจับข้อมือฉันแน่นความเจ็บทำให้ฉันรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรง มือขวาของฉันที่เคยดูสวยงามกลับกลายเป็นมือที่น่าเกลียดอย่างไม่น่าเชื่อหลังมือก็เต็มไปด้วยรอยแผลเป็นจากความหนาวเย็นขณะที่บาดแผลตรงกลางฝ่ามือยังคงมีเลือดซึมออกมาอย่างต่อเนื่องฉันพยายามดึงมือกลับ แต่แรงของเขามากเกินไป ทำให้การพยายามทั้งหมดดูไร้ประโยชน์ความโกรธของเขาก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น จนกระดูกในมือของฉันแทบจะแตกสลาย “ทำไมถึงไม่บอกว่าบาดเจ็บ?”ฉันไม่กล้าตอบอะไรเพียงแค่ก้มหน้าลงอย่างระมัดระวัง เหมือนคนที่ทำผิดที่ต้องการหลบซ่อนจากความผิดพลาดเฮ่อซือเหยียนไม่ชอบเห็นฉันมีบาดแผลอยู่ต่อหน้าเขาเมื่อก่อนเวลาที่ฉันเจ็บตัวแล้วไปงอแงใส่เขา เขาก็มักจะดุว่าฉันอ่อนแอเป็นเช่นนั้นเรื่อยมา จนฉันก็เริ่มรู้สึกว่าตัวฉันเป็นแบบนั้นจริงๆฉันจึงเรียนรู้ที่จะทำแผลและไปหาหมอเองและไม่ไปรบกวนเขาอีกแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังคงโกรธอยู่ดีเขาจูงมือฉันไปที่ห้องนั่งเล่น แล้วนำกล่องยาออกมาเพื่อทำแผลให้ฉันใบหน้าที่ดูสง่าของเขาก้มต่ำลง เขาทำแผลไปอย่างนุ่มนวลความหลงลืมไปชั่วขณะหนึ่ง ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกลับไปอยู่ในว
Baca selengkapnya

บทที่ 10

หลังจากวันนั้นเฮ่อซือเหยียนก็หายตัวไปอีกครั้งจนกระทั่งหนึ่งเดือนต่อมา เขาก็กลับมาพร้อมกับกลิ่นเหล้าที่คละคลุ้งเต็มตัวเขาเดินตรงมาที่มุมห้อง ดึงฉันขึ้นแล้วโยนลงบนเตียงอย่างแรงในวินาทีถัดมา ร่างกายของเขาก็ถาโถมเข้ามาอย่างดุดันฉันพยายามข่มอาการมึนหัวจากการถูกโยน และดิ้นรนสุดกำลังแต่การดิ้นรนของฉันไม่ได้ช่วยอะไรเลย กลับทำให้เขาโกรธมากขึ้นไปอีกในแสงไฟสลัวๆ ทำให้ฉันเห็นดวงตาของเขาที่แดงก่ำและน่ากลัวราวกับสัตว์ป่าที่เสียสติ"หลินชูถง เธอไปรู้จักกับคนตระกูลฉีได้ยังไง?"ฉันเบิกตากว้าง รู้สึกตกใจและสับสนเขาหัวเราะเยาะ แล้วพูดขึ้นอีกครั้ง“ตระกูลฉีถึงกับยอมตัดสัมพันธ์กับฉันเพราะเธอ...หลินชูถง เธอนี่มันเก่งจริง ๆ”ด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ทำให้เขาสูญเสียสติไปอย่างสิ้นเชิงมือของเขาบีบคอฉันแน่นขึ้น ขณะเดียวกันก็เริ่มกระชากเสื้อผ้าของฉันอย่างรุนแรงความทรงจำอันเลวร้ายในอดีตพุ่งเข้ามาในหัวฉันราวกับคลื่นที่ถาโถมตรอกมืดที่น่าขนลุก รอยยิ้มชั่วร้ายของคนพวกนั้นและสายโทรศัพท์ที่ถูกตัดขาดในตอนที่ฉันขอความช่วยเหลือ...ฉันอ้าปากพะงาบๆอย่างสิ้นหวัง ราวกับปลาที่กำลังใกล้ตายความหวาดกลัวที
Baca selengkapnya
Sebelumnya
123
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status