All Chapters of บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง: Chapter 201 - Chapter 210

274 Chapters

บทที่ 201

แม้เขาจะไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ก็เคยได้ยินราชครูสวรรค์พูดถึงวิธีการใช้ของสิ่งนั้นดูท่านางคงทำลายค่ายกลโดยไม่ตั้งใจจริงๆ เพราะหากนางเจตนาของนางเต็มไปด้วยความเป็นศัตรูแล้วละก็ ราชครูสวรรค์คงกำจัดนางไปแล้วแน่ภายใต้ผืนฟ้าแห่งนี้ ไม่มีผู้ใดรอดจากเงื้อมมือของราชครูสวรรค์ไปได้เขาจงใจกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “ในเมื่อเจ้ารู้ความผิดแล้ว ก็จงคิดหาวิธีชดเชยเสียเถิด”“ที่บอกว่าสามารถซ่อมแซมค่ายกลนั่นได้ เช่นนั้นก็ลองพูดให้ข้าฟังดูทีว่าจะซ่อมอย่างไร?”ซือเจ๋อเยว่ตอบว่า “ค่ายกลนี้เป็นเวทวิชาโบราณที่เก่าแก่มากชนิดหนึ่ง การตั้งค่ายกลให้สำเร็จมีเงื่อนไขที่เข้มงวดมาก”“บัดนี้ ถูกข้าทำลายลงโดยไม่ได้ตั้งใจ คิดจะซ่อมแซมมันให้ดีดังเดิมนั้น มิใช่เรื่องง่ายเลย”“และเพราะหลายปีมานี้ จวนหนิงกั๋วกงเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์โดยตรงที่สุด ดังนั้น จึงต้องให้ผู้ที่มีสายเลือดในสายนี้ของจวนกั๋วกง มาเป็นผู้สังเวยและเคลื่อนย้าย”เมื่ออวิ๋นเยว่ปิงได้ยินนางพูดถึงที่มาของค่ายกลนี้ออกมา และวิธีการซ่อมแซมที่นางกล่าวก็คล้ายกับคำอธิบายที่ราชครูสวรรค์เหลือทิ้งไว้ก่อนหน้าอย่างมากแววตาของเขาก็ลุ่มลึกขึ้นเล็กน้อย “เจ้ารู้เรื
Read more

บทที่ 202

ซือเจ๋อเยว่ถอนใจ “ท่านดูสภาพที่ไม่มีแรงแม้แต่จะฆ่าไก่ของข้าสิ ข้าจะไปฆ่าเขาได้อย่างไร?”ดวงตาของอวิ๋นเยว่ปิงหรี่ลงเบาๆ “เรื่องนี้ง่ายมาก องค์หญิงสามารถดูอยู่ด้านข้างได้”“รอตอนที่มันใกล้ตาย องค์หญิงแค่มาแทงมันเพิ่มอีกดาบก็พอแล้ว”ทันทีที่เขากล่าวจบก็โบกมือครั้งหนึ่ง จากนั้นองครักษ์พวกนั้นก็พุ่งเข้ามาดั่งฝูงหมาป่าทันทีซือเจ๋อเยว่รู้ว่าการที่อวิ๋นเยว่ปิงสามารถกลายเป็นซื่อจื่อของจวนกั๋วกงได้ คนจะต้องไม่โง่แน่ นางก็ไม่สามารถหลอกเขาได้นานทว่าตอนนี้ เพียงแค่พบหน้า นางก็พบว่าเขาระมัดระวังตัวและอำมหิตกว่าที่นางคาดการณ์นักนางถอนใจทีหนึ่งแล้วกล่าวว่า “ธรรมเนียมของจวนหนิงกั๋วกงไม่ค่อยดีจริงๆ อะไรนิดอะไรหน่อยก็จะฆ่าคนแล้ว ไม่กลัวผลกรรมจะตามสนองหรืออย่างไร”เยียนเซียวหรานกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “ถ้าพวกเขากลัวกรรมตามสนอง ก็ไม่มีทางสร้างค่ายกลที่ชั่วช้าไร้มโนธรรมเช่นนี้ออกมาแล้ว”ขณะที่ปากของเขาเอ่ยวาจา กระบี่ในมือก็ถูกยกขึ้นมาแล้ว บีบบังคับให้องครักษ์ที่อยู่ใกล้พวกเขาถอยออกไป จากนั้นจับมือซือเจ๋อเยว่ได้ก็วิ่งออกไปทันทีซือเจ๋อเยว่รู้สึกว่าน่าเสียดายอยู่บ้าง อีกเพียงนิดเดียวก็จะหลอก
Read more

บทที่ 203

ช่วงนี้ดวงเขาไม่ค่อยดีจริงๆ ไม่ว่าไปที่ใด เรื่องโชคร้ายที่สุดก็จะเกิดขึ้นกับเขาแค่เพราะวรยุทธ์ของเขาดี จึงรอดมาได้อย่างหวุดหวิดทุกครั้ง รวมกับยามปกติเขาก็ไม่พูดถึงเรื่องเช่นนี้ดังนั้นแม้ซือเจ๋อเยว่จะรู้ว่าดวงชะตาของเขาถูกขโมย แต่ก็มิได้รู้สึกอย่างชัดเจนนักนางจึงรีบกล่าวอย่างร้อนใจว่า “เช่นนั้นก็ไม่ต้องพูดแล้ว พวกเรารีบไปกันเถอะ!”หากมีเพียงเยียนเซียวหรานคนเดียว เมื่อเผชิญกับกำแพงการขวางกั้นของที่กำลังถล่มเช่นนี้ เขาย่อมสามารถหนีออกไปได้อย่างแน่นอนแต่เพราะบนร่างของเขาแบกซือเจ๋อเยว่ไว้ แม้ตัวนางจะเบา แต่ถึงอย่างไรก็มีน้ำหนัก จึงยากที่จะเลี่ยงไม่ให้กระทบต่อความเร็วของเขาขณะที่เขากำลังร้อนใจ จู่ๆ ก็รู้สึกว่าตลอดร่างตั้งแต่บนจรดร่างเบาขึ้นมา ความเร็วเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวของยามปกติในทันที!ในช่วงเวลาอันคับขันที่กำแพงกำลังถล่มลงมา คนทั้งสองหนีผ่านทางเดินแคบๆ นั่นออกไปได้ส่วนองครักษ์ที่ไล่ตามมาทางด้านหลังของพวกเขา กลับมิได้โชคดีเช่นนี้ ส่วนมากล้วนถูกทับอยู่ใต้กำแพงแล้วซือเจ๋อเยว่กล่าวอยู่บนหลังเยียนเซียวหรานว่า “ต้องขอโทษด้วย ก่อนหน้านี้ข้าลืมไปว่าข้ายังใช้ยันต์ตัวเบากับยันต์เร่
Read more

บทที่ 204

เห็นเพียงซือเจ๋อเยว่หยิบแหวนออกมาวงหนึ่ง แล้วส่องไปทางทิศของเครื่องประดับเหล่านั้นคราหนึ่ง จากนั้นพื้นที่แถบนั้นก็ว่างเปล่าแล้วก่อนหน้านี้ เยียนเซียวหรานก็พบว่าของที่นางพกไว้บนร่างมีน้อยมาก แต่กลับหยิบสิ่งต่างๆ ที่ทั้งมีและไม่มีออกมาบ่อยครั้ง บัดนี้จึงได้รู้ว่าภายในมีความมหัศจรรย์ซ่อนอยู่ก่อนหน้านี้ เขาเคยได้ยินว่าลัทธิเต๋ามีแหวนมิติที่ใช้วิชาเต๋าสร้างขึ้นมา ดูเหมือนชิ้นเล็กๆ แต่ในความเป็นจริงกลับสามารถบรรจุของได้มากมายคิดว่าเจ้าสิ่งที่อยู่ในมือนางก็คือของประเภทนั้นแล้วดังนั้น เขาจึงเฝ้าดูนางกวาดทุกสิ่งในคลังเก็บของไปจนหมด ด้วยความเร็วอันยิ่งยวดอย่างเหม่อลอย!ทุกครั้งที่เยียนเซียวหรานคิดว่า เขานับได้ว่าเข้าใจในตัวนางแล้ว นางก็มักจะแสดงสิ่งใหม่ออกมาอีกหลังจากที่ซือเจ๋อเยว่เก็บของเสร็จ เพลิงจากอัสนีบนหลังคาจึงได้ไหม้ลงมาถึงด้านล่างภายนอก เสียงร้องตะโกนให้ดับไฟดังสนั่นไปทั่วแล้วซือเจ๋อเยว่กล่าวกับเยียนเซียวหรานว่า “รีบออกทางหน้าต่างเร็ว”เยียนเซียวหราน “…”หนนี้นางเป็นฝ่ายกระโดดขึ้นหลังของเขาโดยตรง “อย่าบอกข้าว่าเจ้าปีนหน้าต่างอะไรพวกนั้นไม่เป็นนะ ครั้งก่อนที่เจ้าเข้าห้อง
Read more

บทที่ 205

เพราะไม่มีผู้ใดขัดขวาง ครั้งนี้พวกเขาจึงหนีออกไปได้ราบรื่นกว่าเดิมมากถึงจะเจอองครักษ์สองสามคนบ้างบางครั้ง เยียนเซียวหรานล้วนสามารถรับมือได้ในไม่ช้า พวกเขาก็จะบุกไปถึงเรือนส่วนหน้าแล้ว เมื่อผ่านเรือนส่วนหน้า ก็จะสามารถออกจากจวนหนิงกั๋วกงได้แล้วเพียงแต่พวกเขายังไปไม่ถึงประตูของเรือนส่วนหน้า ก็เห็นชายชราที่ผมขาวโพลนผู้หนึ่ง นำองครักษ์กลุ่มหนึ่งขวางอยู่ตรงนั้นทั่วร่างของชายชราผู้นั้นรายล้อมไปด้วยไอพลังสีม่วง ดูไปแล้วน่าเกรงขามอย่างมาก ทว่ารายละเอียดเล็กๆ บริเวณมุมคิ้วและหางตา กลับแสดงออกถึงความอำมหิตไอพลังสีม่วงที่เข้มข้นเช่นนี้ เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายคือผู้ที่ได้รับประโยชน์จากค่ายกลชั่วร้ายนั่น และเป็นผู้ที่กุมอำนาจอย่างแท้จริงในเวลานี้ของจวนหนิงกั๋วกงทันทีที่ซือเจ๋อเยว่เห็นลักษณะใบหน้าของชายชรา ก็รู้ได้ทันทีว่าเขาก็คืออดีตหนิงกั๋วกง ท่านตาของนางนั่นเองก่อนหน้านี้นางก็เดาได้แล้วว่าการจัดตั้งค่ายกลนั่นเกี่ยวข้องกับอดีตกั๋วกงเพียงแต่หลายปีมานี้ อดีตหนิงกั๋วกงมีชื่อเสียงดีงามอย่างยิ่งในเมืองหลวง เลื่องชื่อในฐานะผู้ที่มีจิตใจเมตตา และมิได้ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ อีก
Read more

บทที่ 206

ซือเจ๋อเยว่ยิ้มบางๆ “ช่วยไม่ได้เจ้าค่ะ ข้าไม่มีบิดามารดาหรือญาติพี่น้องให้พึ่งพา ทุกเรื่องจึงได้แต่อาศัยตนเอง”“หากไม่ตั้งใจเรียนวิชาเต๋าดีๆ เพื่อใช้ตั้งแผงหาเงิน เกรงว่าคงหิวตายไปนานแล้ว”อดีตหนิงกั๋วกงคล้ายฟังไม่ออกถึงการเยาะหยันที่อยู่ในคำพูดของนาง เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบว่า “แต่ไม่ว่าองค์หญิงจะมีความสามารถมากเพียงใด วันนี้ก็อย่าได้คิดจะไปจากที่นี่แล้ว”“เพราะตั้งแต่จวนหนิงกั๋วกงสร้างเสร็จ ก็ไม่เคยได้รับความเสียเปรียบเช่นนี้มาก่อน”ซือเจ๋อเยว่กล่าวเรียบๆ ว่า “ไม่เป็นไร นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น วันหลังเมื่อท่านเสียเปรียบมากหน่อย เสียเปรียบจนเคยชินแล้วก็จะดีเอง”อดีตหนิงกั๋งกงพูดอย่างเย็นชาว่า “ช่างปากคอเราะรายนัก ข้าไม่ถกเถียงปะทะฝีปากกับเจ้าแล้ว”เมื่อเขากล่าวจบ ก็หยิบของสิ่งหนึ่งออกมาจากอกเสื้อ ในขณะที่กำลังจะลงมือ ที่ด้านหลังของเขาก็มีเสียงของเหวยอิ้งหวนดังมา“นำตัวเยียนเซียวหรานและองค์หญิงเจ๋อเยว่กลับศาลต้าหลี่เพื่อสอบสวน ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือด้วย!”เมื่ออดีตหนิงกั๋วกงได้ยินคำพูดนี้ ก็หันไปมองซือเจ๋อเยว่ทันทีสายตาในครั้งนี้ของเขาดุจคมดาบที่ส
Read more

บทที่ 207

ภายในจวนหนิงกั๋วกง มีความลับที่ไม่อาจให้ผู้คนรู้มากมาย เขาไม่ต้องการให้คนของศาลต้าหลี่เข้ามาตรวจสอบในจวนเขาจึงกล่าวว่า “คนในจวนทำตะเกียงล้มโดยไม่ทันระวัง ไหม้เรือนไปสองสามหลัง มิได้สลักสำคัญอะไร”“เรื่องเล็กน้อยพวกนี้ ก็ไม่ขอรบกวนใต้เท้าเหวยแล้ว”เมื่อเหวยอิ้งหวนได้ยินเขาพูดเช่นนี้ ก็ยิ่งมั่นใจว่าเรื่องนี้จะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอนเพียงแต่การที่ศาลต้าหลี่จะสืบคดีต้องมีหลักฐาน เมื่ออดีตหนิงกั๋วกงรับเรื่องนี้ไว้ด้วยตนเอง เขาก็ไม่อาจแทรกแซงได้เขาจึงกล่าวว่า “ท่านอดีตกั๋วกงเกรงใจไปแล้วขอรับ หากมีเรื่องจำเป็น สามารถมาหาข้าที่ศาลต้าหลี่ได้ทุกเมื่อ”คนทั้งสองสนทนากันอย่างเกรงใจอีกสองสามประโยค จากนั้นเหวยอิ้งหวนก็พาซือเจ๋อเยว่กับเยียนเซียวหรานออกจากจวนหนิงกั๋วกงไปหลังซือเจ๋อเยว่ออกมา ก็ลูบหน้าอกว่า “ยังดีที่วันนี้ใต้เท้าเหวยมาได้ทันเวลา ไม่เช่นนั้นเกรงว่าข้ากับน้องสามคงต้องจบชีวิตอยู่ในจวนหนิงกั๋วกงแล้ว”เหวยอิ้งหวนตอบอย่างเย็นชาว่า “เมื่อคืนที่องค์หญิงทรงส่งจดหมายมา ให้ข้ามาหาท่านที่จวนหนิงกั๋วกงในช่วงเค่อแรกขอยามโหย่ว”“ตัวข้ายังมาไม่ถึงจวนหนิงกั๋วกง ก็เห็นภายในจวนเกินเพลิงไหม้แ
Read more

บทที่ 208

เหวยอิ้งหวนเหลือบมองนางทีหนึ่ง รู้ว่านางกล่าวไม่ผิด ละครฉากนี้จำเป็นต้องเล่นให้จบจริงๆมิเช่นนั้น เรื่องอื่นไม่พูดถึง ทางด้านหนิงกั๋วกงจะต้องถือโอกาสสร้างความลำบากให้เขาแน่นอกจากนี้ เขาก็อยากรู้มากว่าที่แท้วันนี้ซือเจ๋อเยว่กับเยียนเซียวหรานไปทำสิ่งใดที่จวนหนิงกั๋วกงกันแน่จนขนาดที่ จู่ๆ ก็เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ขึ้นในจวนหนิงกั๋วกง แต่อดีตกั๋วกงกลับไม่เอาความเรื่องนี้ไม่ว่าจุดใดก็แสดงความผิดปกติออกมาทั้งนั้นเมื่อมาถึงศาลต้าหลี่ ซือเจ๋อเยว่และเยียนเซียวหรานก็ตรงไปที่ห้องของเหวยอิ้งหวนหลังพวกเขาเข้าไป ซือเจ๋อเยว่ก็ถามเหวยอิ้งหวนว่า “ใต้เท้าเหวยเคยได้ยินคดีเมื่อยี่สิบปีก่อน ที่มีคนหายไปจำนวนมากในเมืองหลวงหรือไม่?”เหวยอิ้งหวนไม่รู้ว่าเหตุใดเขาจึงกล่าวเช่นนี้ แต่กลับรู้ว่าแม้นางจะชอบพูดจาและมีพฤติกรรมแปลกๆ ดูลึกลับอยู่บ้าง ทว่าเมื่อเอ่ยปากถามย่อมต้องมีเรื่องแน่เขามองนางทีหนึ่งแล้วกล่าวว่า “ยี่สิบปีก่อน ตอนที่อดีตฮ่องเต้เพิ่งก่อตั้งแคว้นต้าฉู่ได้ไม่นานนัก ทั้งในและนอกเมืองหลวงยังคงมีความวุ่นวายอยู่บ้าง”“ในเวลานั้น แต่ละหน่วยงานยังไม่นับว่าสมบูรณ์ เอกสารที่เหลืออยู่จึงมีไม่มาก”“ร
Read more

บทที่ 209

ซือเจ๋อเยว่จึงกล่าวว่า “ข้าจำชื่อที่เป็นทางการของค่ายกลนั่นไม่ได้แล้ว แต่กลับรู้คุณสมบัติของมันอยู่”“นั่นเป็นค่ายกลที่ใช้หลักแผนภูมิแปดทิศห้าธาตุเป็นพื้นฐาน ใช้การสังเวยชีวิตมนุษย์เพื่อพลิกผันดวงชะตาของผู้อื่น ทั้งชั่วร้ายและอำมหิต”“ข้าจำได้ว่าตอนที่อดีตหนิงกั๋วกงติดตามเสด็จพ่อของข้า ผลงานที่เขาได้สร้างไว้ไม่นับว่ายิ่งใหญ่ เมื่ออยู่ในหมู่ขุนนางราชสำนักก็ไม่นับว่าโดดเด่นกระไร”“แต่หลายปีมานี้ ขุนนางผู้มีผลงานในตอนนั้น ที่แก่ก็แก่ ป่วยก็ป่วย ตายก็ตาย พิการก็พิการ มีเพียงจวนหนิงกั๋วกงเท่านั้นที่เจริญรุ่งเรืองอยู่จวนเดียว”“ในเรื่องนี้ ใต้เท้าเหวยไม่รู้สึกแปลกหรือ?”ก่อนที่นางกล่าวเปิดโปงออกมา เหวยอิ้งหวนก็ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้จริงๆคล้ายกับว่าความเข้าใจที่เขามีต่อจวนหนิงกั๋วกงก็คือ ในปีนั้น อดีตหนิงกั๋วกงได้สร้างผลงานอันยิ่งใหญ่ ประกอบกับที่อวิ๋นไท่เฟยอภิเษกกับอดีตฮ่องเต้กลายเป็นฮองเฮาอีก จึงได้มีจวนหนิงกั๋วกงในวันนี้แต่หลังจากที่ซือเจ๋อเยว่แถลงไขออกมาแล้ว เหวยอิ้งหวนก็ได้ลองคิดทบทวนถึงข้อมูลในอดีตที่เขารู้อย่างละเอียด ผลงานที่หนิงกั๋วกงสร้างไว้ก็ไม่ถือว่ายิ่งใหญ่จริงๆความรู้ส
Read more

บทที่ 210

แววตาที่เยียนเซียวหรานใช้มองคนทั้งสองขรึมลงเล็กน้อย เขากล่าวเรียบๆ ว่า “ค่ายกลชั่วนั่นชั่วร้ายอำมหิตอย่างถึงที่สุด”“ครั้งนี้หากองค์หญิงไม่ทรงทำลายค่ายกลนั่นไป ก็ไม่รู้ว่าจวนหนิงกั๋วกงจะทำร้ายผู้คนอีกเท่าใด”ซือเจ๋อเยว่รีบกล่าวสนับสนุนว่า “ใช่ๆ ๆ น้องสามกล่าวได้ถูกต้อง!”“ใต้เท้าเหวยก็จริงๆ เลย ทำคดีมามากมายขนาดนั้นแล้ว กลับจับประเด็นสำคัญไม่ได้”เหวยอิ้งหวนมองนางด้วยแววตาลึกซึ้ง พลางกล่าวว่า “คดีที่ข้าทำมีมาก แต่ไม่เคยมีผู้ใดสามารถทำลายซากกระดูกนับพันของผู้อื่นในคราเดียวเลย…”ซือเจ๋อเยว่ “...”คราวนี้จบไม่ลงแล้วใช่ไหม!หลังซือเจ๋อเยว่และเยียนเซียวหรานจากไป อารมณ์ของเหวยอิ้งหวนก็ออกจะซับซ้อนอยู่บ้างหากเป็นเมื่อก่อน หากผู้ใดไม่มีหลักฐานแล้วมาพูดเช่นนี้กับเขา เขาคงไล่คนออกไปในทันทีแล้วแต่หลังจากที่ซือเจ๋อเยว่เบิกตาทิพย์ให้เขาในคืนนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแปลกประหลาดใดเขาก็เชื่อแล้วเนื่องจากนางไม่มีแรงจูงใจในการให้ร้ายจวนหนิงกั๋วกงต่อให้ความสัมพันธ์ฉันท์แม่ลูกระหว่างซือเจ๋อเยว่กับอวิ๋นไท่เฟยจะย่ำแย่เช่นไร จวนหนิงกั๋วกงก็ถือเป็นตระกูลฝั่งมารดาของนางต่อให้เหวยอิ้งหวนไม่เคยได้
Read more
PREV
1
...
1920212223
...
28
Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status