สีหว่านเอ๋อร์ไม่ทันได้ตั้งรับ ผ่านไปเกือบครึ่งนาทีถึงหลับตาลงแล้วเช็ดน้ำบนใบหน้าออกไม่นานก็คิดจะพุ่งเข้าไปตบหน้าอวิ๋นซูอวิ๋นซูจับมือเธอเอาไว้ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ก็เมื่อกี้รองหัวหน้าแผนกพูดเองนี่คะว่าอย่าทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่!?”สีหว่านเอ๋อร์ได้แต่ระงับอารมณ์เอาไว้ในใจ ไม่กล้าทำอะไรออกมาเธอโมโหจนแทบจะบ้าแต่ทำได้แค่กัดฟันเอาไว้ “อวิ๋นซู!”อวิ๋นซูยกยิ้มก่อนจะหันไปมองคนอื่นๆในแผนกที่มามุงดูสถานการณ์ “ตราบใดที่ฉันยังอยู่ที่นี่ จะไม่ให้มีเหตุการณ์กลั่นแกล้งกันเกิดขึ้นอีก ถ้ายังมีเรื่องแบบนี้ก็ลาออกไปเองเลย ไม่อย่างนั้นฉันจะเป็นคนเขียนใบลาออกให้พร้อมกับเขียนอธิบายเหตุผลที่ให้ออกไปด้วย!”พูดจบเธอก็หันไปมองเสิ่นเสี่ยวรุ่ย “ไปกัน”เสิ่นเสี่ยวรุ่ยมองไปทางอวิ๋นซูด้วยสายตานับถือ รอจนอีกฝ่ายเดินไปไกลแล้วเธอถึงเหมือนตื่นจากฝันแล้วรีบเดินตามอีกคนไปพอเข้ามาในห้องทำงาน เสิ่นเสี่ยวรุ่ยก็อดไม่ได้ “พี่อวิ๋นซู เมื่อกี้พี่หล่อมาก”อวิ๋นซูยิ้มน้อยๆ “เสี่ยวรุ่ย คราวหน้าถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก เธอต้องเรียนรู้ที่จะโต้ตอบ ถ้าเราเป็นคนดีไปก็จะถูกรังแกก็เหมือนกับม้าถ้าเป็นม้าพันธุ์ดีก็จะถูกขี่
Read more