บททั้งหมดของ ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย: บทที่ 191 - บทที่ 200

1225

บทที่ 191

“ใช่ เจ้าควรคืนตำลึงแก่พวกข้า!” ”คืนเงินพวกข้า!” หลิวฮุ่ยเซียงถูกประชาชนประท้วงคืนเงิน นางรู้สึกอับอายจนอยากจะหาซอกดินมุดลงไปฉับพลัน เงินหนึ่งกล่องใหญ่ ๆ ถูกยกมาวางหน้าอ๋องสำเร็จราชการ “ท่านอ๋อง นี่คือเงินที่ท่านชนะพ่ะย่ะค่ะ” ฟู่เฉินหวนยังมิทันรับ ลั่วชิงยวนก็ตัดหน้าเสียก่อน นางกระตุกมุมปาก “ขอบใจยิ่ง!” คนใช้ผู้นั้นเผยยิ้ม “พวกข้ามากกว่าที่ควรขอบคุณพระชายา!” พูดจบก็วิ่งออกไปทันที การพนันด้านนอก แท้จริงก็จัดขึ้นโดยหอเริงรมย์ นี่เป็นหนึ่งในวิธีหาเงิน และขยายชื่อเสียงเพื่อเรียกลูกค้าของพวกเขา “ลั่วชิงยวน” จู่ ๆ เสียงทุ้มต่ำของฟู่เฉินหวนดังขึ้นเบื้องหลัง แฝงความไม่พอใจเล็กน้อย แต่กลับมิได้โมโหจริง ลั่วชิงยวนหันร่าง สบเข้ากับดวงตาลึกซึ้งคู่นั้นของฟู่เฉินหวน นางกระตุกมุมปาก “ท่านอ๋อง หม่อมฉันบอกไปแล้วว่ายืม จึงถือว่าหม่อมฉันเป็นคนพนันเงิน มิใช่ท่าน!” เงินอยู่ในมือนางแล้ว ใครก็อย่าคิดแย่งไปทั้งนั้น “อีกอย่าง ท่านคงมิถือสาเงินเล็กน้อยแค่นี้กับหม่อมฉันใช่หรือไม่?” ฟู่เฉินหวนไขว้มือไว้ด้านหลัง หัวเราะเสียงต่ำทีหนึ่ง “เงินแค่นี้รึ?” ตรงหน้าอย่างน้อย ๆ ก็เป็นหมื่นตำลึงเ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 192

“เป็นเช่นไรหรือ?” ฟู่จิ่งหานถามอย่างสงสัย “เหมือนจะไม่ได้ไร้ประโยชน์อย่างที่ล่ำลือ” เสียงฟู่เฉินหวนต่ำทุ้ม ฟู่จิ่งหานกล่าวไตร่ตรอง “มิเหมือนในคำล่ำลือ วันนี้ทำเอาข้าเปิดโลกเสียจริง!” “วันนี้ข้าอุตส่าห์ออกจากวัง ไปหอจิ่นชุนเป็นเพื่อนข้าเร็ว!” พูดจบก็ดึงตัวฟู่เฉินหวนไปทันที สีหน้าฟู่เฉินหวนย่ำแย่ “ท่านจะไปหอนางโลมหรือ? ท่านเป็น…” “เป็นอะไรกันเล่า ไปกันเถิด” ฟู่จิ่งหานกดเสียงต่ำ และดึงตัวฟู่เฉินหวนโดยบังคับ …… ลั่วชิงยวนกอดตั๋วเงินลังใหญ่กลับตำหนักมาอย่างอารมณ์ดี มองดูพระชายาที่กลับตำหนักมาด้วยสีหน้าหยาดเยิ้ม เฉียงเวยรีบไปรายงานข่าวให้กับลั่วเยวี่ยอิงทันที ลั่วชิงยวนกลับถึงตำหนัก หยิบตั๋วเงินหนึ่งพันตำลึงออกมา ยื่นให้กับแม่นมเติ้ง “เจ้าหาเวลาเอาให้ซูโหยว” แม่นมเติ้งเห็นเงินตำลึงและตั๋วเงินมากมายเช่นนี้ก็นึ่งอึ้ง “พระชายาออกไปรอบเดียวได้เงินกลับมามากเพียงนี้เชียวหรือเจ้าคะ?” “ข้าหามาได้!” ลั่วชิงยวนแยกเงินตำลึงและตั๋วเงิน พร้อมนับอย่างละเอียด ทั้งหมดหนึ่งหมื่นสามพันหกร้อยตำลึง! สำหรับลั่วชิงยวนในตอนนี้ ถือเป็นทรัพย์ก้อนยักษ์ เพียงแต่ คิดถึงลั่วอวิ๋นสี่… นางจ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 193

พูดจบ ลั่วชิงยวนจึงไปเยี่ยมลั่วหลางหลาง ลั่วหลางหลางรู้ว่านางจะมา รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก จึงสั่งคนให้ไปเตรียมน้ำชาและขนมหวานทันที ”ชิงยวน!” ลั่วหลางหลางเดินเข้ามาจูงมือนางด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ลั่วชิงยวนเห็นลั่วหลางหลางใบหน้าชมพูฝาดเลือด สีหน้าค่อนข้างดี เหมือนว่าใกล้จะหายดีแล้ว “ร่างกายของพี่หลางหลางดีขึ้นแล้ว ไยถึงยังอยู่แต่ในห้องเล่า?” ลั่วชิงยวนถามอย่างสงสัย ลั่วหลางหลางกวาดตาลง “ข้า… มิได้อยากออกไปนัก” มิใช่นางมิอยากออกไป แต่นางมิกล้าออกไปต่างหาก ลั่วชิงยวนรู้อยู่แก่ใจ นางจูงมืออีกฝ่ายนั่งลง “วันนี้ข้ามีเรื่องจักมาเล่าให้ท่านพี่ฟัง” จากนั้นนางก็เล่าเรื่องทั้งหมดที่ประสบในหอเริงรมย์วันนี้ ได้ยินว่าลั่วชิงยวนถูกผู้อื่นล้อขัน ลั่วหลางหลางก็ดึงแขนเสื้อไว้อย่างกังวล “พวกนางเกินไปเสียจริง!” ลั่วชิงยวนพยักหน้า “ใช่ พวกนางพูดจาน่าเกลียดมาก เจ้าลองทายดูข้าทำอย่างไร?” “ทำอย่างไรหรือ?” คิ้วของลั่วหลางหลางขมวดแน่น กังวลใจเป็นอย่างมาก ลั่วชิงยวนยิ้มกล่าว “ข้าจึงเตะหลิวฮุ่ยเซียงตกน้ำ!” ลั่วหลางหลางได้ยิน รู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก นางคิดมิถึงจริง ๆ ว่านิสัยอย่างลั่วชิงยว
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 194

เพียะ เสียงดังชัดเจน เฉียงเวยถูกตบจนอึน และยืนนิ่งอยู่กับที่ ลั่วชิงยวนมองนางด้วยสายตาดุดัน “เจ้าลองพูดอีกรอบซิ” เฉียงเวยกุมหน้าไว้อย่างอึดอัด นางร้องไห้พร้อมมองไปทางลั่วชิงยวน “พระชายารังแกผู้อื่น! เงินนี้เป็นเงินช่วยชีวิตของคุณหนูรอง! ท่านแย่งไปเช่นนี้ คุณหนูรองจะทำเช่นไร…” ลั่วชิงยวนมองลั่วเยวี่ยอิงที่ร้องไห้เสียใจอยู่อีกด้าน หัวเราะเย็นทีหนึ่ง “เงินช่วยชีวิตงั้นรึ? เจ้าก็ลองบอกมาท่านพ่อให้เจ้ามาเท่าไร ตรงกับยอดของเงินในกล่องหรือไม่?” ลั่วเยวี่ยอิงมิโง่อยู่แล้ว นางเพียงพูดสะอื้น “ข้ารู้ว่าท่านพี่ต้องการเงิน ข้าสามารถแบ่งท่านพี่ได้ครึ่งหนึ่ง แต่ท่านพี่ช่วยเหลือให้ข้าสักนิดได้หรือไม่ ข้ายังต้องรักษาหน้า” การเอาแต่ใจที่ร้องไห้เป็นอย่างเดียว ลั่วชิงยวนเห็นจนชินแล้ว บัดนี้นางรู้สึก คนอย่างหลิวฮุ่ยเซียงยังรู้จักการถกเถียง แต่ลั่วเยวี่ยอิงนั้น เอะอะก็เอาแต่ร้องไห้ ไม่มีเหตุผลแม้แต่นิด! ลั่วชิงยวนแค่เห็นท่าทีร้องไห้ของนางก็รู้สึกขยะแขยง เสียงร้องไห้นางทำแก้วหูลั่วชิงยวนแสบไปหมด นางรำคาญจนสะบัดฝ่ามือใส่หน้านาง และตบนางล้มลงบนพื้น เฉียงเวยกระโจนขึ้นไป พร้อมตะโกนสุดเสียง
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 195

ในสมองของนางสามารถนึกภาพที่เขาโมโหนาง ตักเตือนนาง เค้นถามนาง และข่มขู่นางมิให้ไปทำร้ายลั่วเยวี่ยอิงออกเลย กระทั่งบางครั้งเขาอาจลงโทษนาง เพื่อเอาคืนให้กับลั่วเยวี่ยอิง ภายในห้องตำรา ฟู่เฉินหวนหลับตานึกคิด เรื่องบางเรื่อง เขาจำเป็นต้องถามให้ชัดแล้ว ท่าทีไร้ประโยชน์ของลั่วชิงยวนก่อนหน้านี้ นางแกล้งทำงั้นหรือ? ภาพวาดในวันนี้ นางวาดออกมาได้เช่นไร แล้ววันนั้นที่จู่ ๆ ลั่วเยวี่ยอิงก็เสียสติ เป็นฝีมือของนางหรือไม่? บนตัวลั่วชิงยวน มีความลับอะไรซ่อนอยู่กันแน่ ทั้งคู่คิดเรื่องที่แตกต่างจนสติหลุด จนลั่วชิงยวนมาถึงในห้องตำรา รอบด้านเต็มไปด้วยความเงียบ ลั่วชิงยวนมองเขานิ่ง ๆ “ฟู่เฉินหวน” ฟู่เฉินหวนกำลังจะเอ่ยปาก มิคิดว่าลั่วชิงยวนจะพูดขึ้นเสียก่อน ใบหน้าที่แสนนิ่งสงบของนาง พูดกับเขาด้วยน้ำเสียงไม่แฝงความรู้สึก และชัดถ้อยชัดคำ “หย่าหม่อมฉันเถิด” เมื่อพูดจบ หัวใจของฟู่เฉินหวนกระตุก ราวกับมีสายฟ้าระเบิดที่กลางหัวของเขา สีหน้าของลั่วชิงยวนมิเหมือนวันก่อน ๆ นางในวันนี้ นัยน์ตามิมีโทสะ และมิมีความเจ็บใจ มีเพียงความสงบ ความสงบที่ล้ำลึก ทำคนมองอารมณ์ของนางตอนนี้ไม่ออก แต่กลับจ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 196

”ลั่วชิงยวน ตั้งแต่ตอนที่เจ้าฝืนเข้ามาอยู่ในตำแหน่งนี้ เจ้าก็ทำอะไรตามใจอยากมิได้แล้ว”เขาพูดอย่างเด็ดขาดชัด ๆ ทีละคำ “อยากให้ข้าเขียนหนังสือหย่ารึ? ฝันไปเถอะ”หลังจากที่ได้พูดปฏิเสธไปอย่างหนักแน่นเช่นนั้น หน้าอกของเขาก็รู้สึกเจ็บปวดบีบรัด มีกลิ่นคาวของเลือดพลุ่งขึ้นมาในปากและเขาพยายามกดข่มมันเอาไว้ลั่วชิงยวนมองแววตาเด็ดขาดของเขาและรู้สึกหนาวเหน็บในใจ เขาต้องการทรมานนางจนถึงตายเลยหรืออย่างไร?นางยิ้มเย็นชา “บางครั้งข้าก็รู้สึกว่าท่านอ๋องไม่ใช่คนไม่มีเหตุผล แม้ท่านจะไม่มีเหตุผลที่จะปกป้องลั่วเยวี่ยอิง แต่ข้าก็ยังรู้สึกว่าท่านก็แค่หลงเล่ห์ของนางเท่านั้น”“เห็นชัดว่าท่านทำให้หม่อมฉันสับสนนัก ท่านมิให้หนังสือหย่าหม่อมฉัน แต่ท่านก็ยังกักขังหม่อมฉันไว้เพราะการสลับตัวแต่งงานอย่างนั้นหรือ?”“ฟู่เฉินหวน หม่อมฉันมองท่านผิดไปจริง ๆ”นางไม่ควรมีความคิดว่าจะเปลี่ยนความรู้สึกที่มีต่อเขาเลย เขาเป็นท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการของแคว้นเทียนเซวีย เป็นท่านอ๋องผู้ไร้ปรานีเมื่อพูดจบ ลั่วชิงยวนก็หันหลังจากไปอย่างฉุนเฉียวฟู่เฉินหวนอดกลั้นโทสะเอาไว้ในใจจนสุดท้ายไม่สามารถทนเก็บกักเลือดในปากต่อไปได้จนต้อ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 197

ตอนที่เทียบถูกส่งเข้ามาที่ห้องตำราของฟู่เฉินหวน บนโต๊ะก็มีเทียบกองอยู่นับสิบใบแล้วฟู่เฉินหวนไม่ได้เปิดดู สีหน้าเขาก็มืดครึ้มซูโหยวพูดเสียงขรึม “วันนี้เจ้ากรมหลิวเพิ่งยื่นฎีการ้องเรียนพระชายาไปตอนเช้า ตอนนี้ก็มีคนมาหานางมากมาย นี่เป็นเพราะหญิงงามซีหลานหรือว่ามีเจตนาอื่นกันแน่”แววตาฟู่เฉินหวนเย็นชา เขาพูดเบา ๆ ว่า “พวกเขาหาประโยชน์จากข้ามิได้ ดังนั้นเลยมุ่งเป้าลั่วชิงยวน”“นี่ไม่ใช่เพราะว่าบุตรสาวของเขาแพ้พนันให้กับลั่วชิงยวนแล้วเกิดอับอายขึ้นมาหรอกหรือ แต่เขาบอกว่า หลิวฮุ่ยเซียงนั้นถึงกับล้มป่วยหนักเป็นตายเท่ากัน เขาทำให้เป็นเรื่องใหญ่เช่นนี้ต้องมีผู้อยู่เบื้องหลังแน่”ยิ่งได้ยินเช่นนี้ซูโหยวยิ่งร้อนใจ “พวกเขาจะทำร้ายพระชายาหรือ…”“ปฏิเสธเทียบเชิญไปให้หมด ห้ามใครเข้าพบทั้งนั้น แล้วก็ไม่ต้องรับเทียบเชิญจากใคร” แววตาฟู่เฉินหวนมืดครึ้ม เขาชำเลืองมองกองเทียบบนโต๊ะ“พ่ะย่ะค่ะ”……แม่นมเติ้งปลุกลั่วชิงยวนให้ตื่นจิ่นชูนางกำนัลของไทเฮามาขอพบ หลังจากที่ลั่วชิงยวนล้างหน้าล้างตาเสร็จ นางก็รีบออกไปที่ห้องโถงในห้องโถงรับแขก นางกำนัลจิ่นชูนั่งอยู่ที่เก้าอี้ เมื่อนางเห็นลั่วชิงยวนเข้า
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 198

เป็นไปได้ไหมว่าฉินไป๋หลี่มาหานางหลังจากที่ได้ยินเรื่องเกี่ยวกับรูปหญิงงามซีหลาน?ฟู่อวิ๋นโจวพยักหน้าและบอกว่า “ใช่ ข้าได้ยินคนรับใช้ของข้าบอกเช่นนั้น”“ดูเหมือนว่าเขาอยากจะมาชมภาพหญิงงามซีหลานของเจ้า”ลั่วชิงยวนตกใจ นี่ไม่ผิดแน่ฟู่อวิ๋นโจวยิ้มและบอกว่า “ชิงยวน ข้าไม่รู้มาก่อนว่าทักษะการวาดภาพของเจ้าจะยอดเยี่ยมเช่นนี้ แม้ว่าข้าจะไม่ได้เห็นกับตา แต่ก็ได้ยินข่าวจากด้านนอกว่าฝีมือเจ้าไม่ธรรมดายิ่ง”ลั่วชิงยวนอึ้งไปเล็กน้อย ช่วงนี้ฟู่อวิ๋นโจวโดนกักบริเวณให้อยู่แต่ในตำหนักใต้ เขารู้ข่าวเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดที่หอเริงรมย์เมื่อวานนี้เร็วเช่นนี้ได้อย่างไร?ขณะที่นางกำลังคิดเรื่องนี้ จู่ ๆ ฟู่อวิ๋นโจวก็ถามขึ้นมาอย่างใคร่รู้ “ชิงยวน ข้าสงสัยว่าเจ้าวาดรูปหญิงงามซีหลานได้อย่างไรรึ?“เจ้าเคยเจอเวินซีหลานคนนี้หรือ? นางนั้นเป็นภรรยาคนก่อนของฉินไป๋หลี่”ลั่วชิงยวนตอบอย่างจริงจัง “ข้าไม่รู้ว่านางเป็นใคร แค่วันหนึ่งข้าฝันเห็นนาง ข้าคิดว่านางต้องเป็นนางฟ้านางสวรรค์เป็นแน่จึงได้นำมาเป็นแบบวาดภาพ”“ไม่คิดว่าท่านจะบอกข้าว่านางเป็นภรรยาของฉินไป๋หลี่่… ข้าไม่รู้จักฉินไป๋หลี่ด้วยซ้ำ”ลั่วชิงยวนพูดอย่
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 199

ชายผู้นี้ไร้เหตุผลนัก“เสด็จพี่ ชิงยวนก็แค่…” ฟู่อวิ๋นโจวกำลังจะเอ่ยปากฟู่เฉินหวนมองเขาสายตาเย็นเยียบ น้ำเสียงของเขาก็หนาวเยือกไปถึงกระดูก “ลั่วชิงยวนเองก็แต่งงานเข้าตำหนักอ๋องมานานแล้ว เหตุใดองค์ชายห้าถึงยังไม่เปลี่ยนใจ? คำว่าชายาอ๋องและคำว่าพระชายานั้น ท่านอาจารย์ลืมสอนสั่งสองคำนี้กับองค์ชายห้าหรือ?”น้ำเสียงเย็นนั้นแฝงแววข่มขู่และสีหน้าฟู่อวิ๋นโจวก็ซีดเผือดเขาก้มหน้าลงด้วยความหวาดกลัว “พ่ะย่ะค่ะ อวิ๋นโจวจะฟังคำสั่งสอนของท่านอ๋อง”ลั่วชิงดวยดูไม่มีปัญหาอะไรกับการที่องค์ชายห้าเรียกนางด้วยชื่ออย่างสนิทสนม“หากไม่มีอะไรแล้ว ข้าขอตัวไปก่อน” นางยังร้อนใจอยากจะไปหาฉินไป๋หลี่แต่ใบหน้าฟู่เฉินหวนกลับบิดเบี้ยวน่ากลัว เขาตวาดเสียงแข็ง “จากวันนี้เป็นต้นไป เจ้ามิได้รับอนุญาตให้ออกไปไหน”“ในฐานะพระชายา เจ้าเตร็ดเตร่ไปมาในเมืองทั้งวันวี่ สร้างเรื่องให้ผู้คนพูดกันไม่หยุดหย่อน จากวันนี้เป็นต้นไป เจ้าต้องอยู่แต่ในตำหนักทบทวนความผิดของตัวเจ้า เจ้ามิอาจออกไปนอกตำหนักได้โดยไม่ได้รับคำอนุญาตจากข้า”ลั่วชิงยวนตะลึง “ฟู่เฉินหวน ไยท่านถึงได้เสียสตินัก? หม่อมฉันไปยั่วโทสะท่านเมื่อใดรึ? ท่านมิได้รั
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 200

เด็กที่แทบไม่พูดเลยนั้นกลับพูดขึ้นมาเป็นครั้งแรกเมื่อได้ยินแล้วก็เศร้าโศกยิ่งนักเวินซีหลานปลอบ “ไม่หรอก ท่านพ่อไม่ลืมพวกเรา”ลั่วชิงยวนดูเคร่งขรึม หากว่าตอนนี้นางออกไปด้านนอกมิได้ ส่วนฉินไป๋หลี่เองก็เข้ามามิได้เป็นแน่สถานการณ์พลันหยุดนิ่ง ณ จุดนี้“พวกเจ้าอดทนรอสักสองสามวัน วันนี้ฉินไป๋หลี่มาแล้ว วันนี้เขารีบร้อนมา เขาต้องคิดถึงพวกเจ้าแล้วอยากหาความจริงเป็นแน่”“เขาจะมาอีกแน่ ข้าจะให้พวกเจ้าได้พบ”ลั่วชิงยวนพูดอย่างมุ่งมั่นเวินซีหลายพยักหน้า “ขอบคุณมากเจ้าค่ะ”เมื่อพูดไปเช่นนี้ลั่วชิงยวนก็ไม่กล้าฝากความหวังไว้กับความกระตือรือร้นของฉินไป๋หลี่ว่าจะมาที่หน้าตำหนักเอง นางจะพยายามโน้มน้าวให้แม่นมเติ้งมาร่วมมือกับนางเพื่อหนีไปจากตำหนักแอบออกทางประตูหลังปีนกำแพงสวนออกไปกลางดึกนางลองทำทุกทางแต่ไม่ว่าวิธีไหนก็ล้มเหลวเพราะว่าเซียวชูนั้นลอบจับตามองนางอยู่ และทุกครั้งที่นางต้องการหนี องครักษ์ของตำหนักก็จะมาพาตัวนางกลับไปเพราะแบบนี้ ลั่วชิงยวนจึงล้มเลิกความคิดที่จะหนีออกจากตำหนักนางนั้นเบื่อมาก แล้วทำได้เพียงขอให้องครักษ์ในตำหนักอ๋องนำหุ่นไม้มาตั้งไว้ให้นางในเรือนสองสามตั
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
1819202122
...
123
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status