นั่งอยู่ท่ามกลางขบวนรถหรูกว่าพันคันก็เป็นความเพลิดเพลินอย่างหนึ่งตระกูลใหญ่พวกนี้ ทุกตระกูลมีรถอยู่ในขบวนหลักร้อยถึงสองคันเฮลิคอปเตอร์ก็บินขึ้นอย่างช้า เตรียมบินกลับไปยังชายแดนใต้หลังจากทุกคนนั่งอยู่รถแล้ว มีรถหุ้มเกราะเปิดทางให้ขบวน และมีรถหรูกว่าพันคนแล่นอยู่ทางด้านหลังมาติดๆ ขบวนขันหมากมุ่งตรงไปยังโรงแรมรุ่ยหลงอย่างยิ่งใหญ่ภาพขบวนขันหมากอันกึกก้องแบบนี้ทำให้ทั้งเมืองหนานหูต้องสั่นสะเทือน ชาวบ้านเรือนเคียงก็ต่างออกมายืนรอคอยอยู่ริมถนน ทุกคนต่างอยากเห็นงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่อลังการนี้“หว่านเอ๋อร์ ผ่อนคลายหน่อย” จางเหยาก็รู้สึกค่อนข้างตื่นเต้น แต่เธอยังปลอบซูหว่านเอ๋อร์“ทำไมฉันรู้สึกว่าเธอตื่นเต้นมากกว่าฉันอีกล่ะ!” ซูหว่านเอ๋อร์พูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม“ตอนนี้ฉันทั้งอิจฉาทั้งหมั่นไส้จริงเลย สามีของเธอก็ยอดเยี่ยมเกินไปแล้ว ถ้าฉันหาสามีได้อย่างหลินเซียวบ้าง ฉันต้องมีความสุขมากแน่ๆ” จางเหยาพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความอิจฉา“หลินเซียว คุณเป็นใครกันแน่?” ซูหว่านเอ๋อร์อยากรู้ตัวตนของหลินเซียวไม่ไหวแล้ว“รอคืนนี้ไม่มีคนอยู่แล้วผมถึงจะบอกคุณนะ” หลินเซียวพูดขึ้น……รอให้รถหุ
เฉียนว้านชิง คุณชายตระกูลเฉียนมอบคฤหาสน์สองชั้นวิวแม่น้ำหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่บนที่ดินที่ดีที่สุดและวิวสวยที่สุดในมืองหนานหูให้กับหลินเซียวและซูหว่านเอ๋อร์ พร้อมกับตกแต่งไว้อย่างสวยงาม และสามารถเข้าอยู่ได้เลยเพราะเขารู้ดีว่าหลินเซียวและซูหว่านเอ๋อร์ตกอยู่ในฐานะอะไรในตระกูลซู และคู่บ่าวสาวแต่งงานใหม่ก็จะต้องมีเรือนรักเป็นของตัวเองซุนเฟิง คุณชายตระกูลซุน มอบรถโรลส์-รอยซ์ แฟนทอม รุ่นสั่งทำพิเศษส่วนตัวที่ผลิตด้วยงานฝีมือล้วนหนึ่งคันให้กับหลินเซียวโจวเจิ้งคุณ คุณชายตระกูลโจวมอบรถเมอร์เซเดส-มายบัครุ่นกันกระสุนหนึ่งคันแม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยเห็นหลินเซียวมาก่อน แต่พวกเขาก็พอจะรู้ชีวิตประจำวันของหลินเซียวอยู่บ้าง และในฐานะที่เขาเป็นถึงราชามังกร ยานพาหนะก็จะต้องโดดเด่นจึงเลือกมอบรถยนต์สองคันนี้ส่วนแขกคนอื่น พวกเขาของขวัญอวยพรงานแต่งที่เตรียมมาก็เป็นของล้ำค่ามากเช่นเดียวกัน ทุกชิ้นทุกอันล้วนมีมูลค่าสูงมากบางคนมอบพระหยก และบางคนสองภาพเขียนราคาหลักร้อยล้าน ราคาของทุกชิ้นต่างทำให้ผู้คนตื่นตะลึงจนอ้าปากค้างวันนี้หลินเซียวมอบให้ซูหว่านเอ๋อร์ที่สัมผัสได้มากที่สุดก็คือความตกตะลึงตลอดงานแต่งงา
เมื่อเทียบกับความหรูหราของโรงแรมรุ่ยหลง ที่งานแต่งงานของซูชิงเอ๋อร์และหวังเทียนเฟิงถือได้ว่าเงียบเหงาห้าวนอนเป็นที่สุด ทั้งงานแต่งมีเพียงคนตัวเอง และไม่มีแขกเดินทางมาร่วมงานเลยซูชิงเอ๋อร์และหวังเทียนเฟิงยิ่งเคียดแค้นหลินเซียวมากขึ้นณ ภายในโรงแรมรุ่ยหลงพิธีกรงานแต่งพร้อมแล้ว หลังจากที่เขาเปิดงานแล้ว งานแต่งงานที่เป็นที่จับตามองของหลินเซียวและซูหว่านเอ๋อร์ก็ได้เริ่มขึ้นมาถึงพิธีการยกน้ำชา หลินเซียวโค้งทำนับพ่อแม่ของซูหว่านเอ๋อร์เพียงหนึ่งครั้ง แต่ไม่ได้คุกเข่าคำนับเขาเป็นถึงราชามังกร ไม่สามารถคุกเข่าให้กับคนอื่นได้ง่ายๆตามด้วยช่วงการอ่านประวัติของเจ้าบ่ายเจ้าสาว ซูหว่านเอ๋อร์ถามหลินเซียวทั้งที่ยังสงสัยอยู่: “หลินเซียว คนที่มีฐานะอย่างคนทำไมถึงต้องแต่งงานกับฉัน? และทำไมต้องแต่งเข้าตระกูลซูด้วย?”ทุกคนภายในงานเงียบสนิท พวกเขาต่างรอคอยคำตอบของหลินเซียว“เพราะตอนที่ผมทำงานอยู่ที่บริษัท มีแค่คุณคนเดียวที่ช่วยผม และไม่เคยดูถูกผมเลย” หลินเซียวพูดขึ้นซูหว่านเอ๋อร์ตกลึงไปชั่วครู่ ก่อนจะพูดขึ้นต่อว่า: “แค่นี้เองเหรอ? แล้วคนที่มีฐานะแบบนี้อย่างคุณจะหาผู้ที่ดีกับคุณสักคนหนึ่งน่าจะง่า
หลังจากที่ทุกคนในงานเห็นปืนแล้วต่างก็ตกตะลึงอ้าปากค้างจนไม่สามารถขับตัวได้!ซูหว่านเอ๋อร์ย ชู๋ยู่หยาน และจางเหยาที่ยืนอยู่ข้างกายของหลินเซียวยิ่งหวาดกลัวจน. เครื่องสำอางบนหน้าถอดสี“ปังปังปัง.....”เสียงปืนดังลั่นโรงแรมอย่างไม่ทันตั้งตัว “อ้า!”พนักงานบริการในโรงแรม รวมทั้งแขกเหรื่อภายในงานต่างก็กลัวจนวิ่งหนีไปคนละทิศละททางพวกเขาไม่เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน พอเห็นมีคนควักปืนพกออกมากราดยิงต่างก็หลบอย่างหวาดกลัว สวนคนที่ปลอมเป็นพนักงานบริการคนนั้นที่อยากจะลอบฆ่าหลินเซียว ก่อนที่จะทำสำเร็จก็ถูกตีจนแขนและขาทั้งสีข้างหักจนไม่มีชิ้นดีไปแล้ว!เพื่อนเจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าสาวที่อยู่ข้างกายของหลินเซียวและซูหว่านเอ๋อร์ได้เตรียมพร้อมอยู่แล้ว พวกเขาตอบสนองต่อสถานการณ์แบบนี้ได้อย่างรวดเร็ว และเมื่อลงมือก็ยิ่งไม่มีการลังเลแต่อย่างใดเลยพวกเขารู้ข่าวว่ากองทหารระดับพยัคฆ์ของอาณาจักรพยัคฆ์จะลงมือในงานแต่งงานของหลินเซียวและซูหว่านเอ๋อร์ตั้งนานแล้วดังนั้น ตั้งแต่ตอนที่งานแต่งงานเริ่มขึ้น พวกเขาก็ไม่เคยที่จะประมาท สังเกตสถานการณ์ภายในงานอย่างระมัดระวังอยู่ตลอดเพียงแค่มีสิ่งที่จะเป็นภัยต่อควา
ทุกคนตื่นตะลึงอย่างสุดขีด“วันนี้ผมไม่อยากลงมือ เรื่องนี้ให้นายเป็นคนจัดการเถอะ” หลินเซียวพูดขึ้น“ผมเข้าใจแล้วครับ ไว้ชีวิตมันก่อน จากนั้นจับไปทรมาน ดูสิว่าจะได้ข้อมูลของอาณาจักรพยัคฆ์ไหม” วังต้าไห่พูดกับองครักษ์ที่อยู่รอบๆ“ทุกคนไม่ต้องตกใจนะครับ ทุกอย่างปลอดภัยแล้วครับ เริ่มงานแต่งต่อได้ ทุกคนโปรดกลับไปยังที่นั่งของตัวเองครับ พวกเราเริ่มงานกันต่อครับ!” หลินเซียวพูดขึ้น“พนักงาน มาทำความสะอาดตรงนี้หน่อย” วังต้าไห่พูดกับพนักงานบริการที่กำลังตกใจกลัวพวกนั้นพนักงานบริการของโรงแรมพยักหน้า ก่อนจะเริ่มทำความสะอาดคราบเลือดที่อยู่บนพื้นซูหว่านเอ๋อร์และคนตระกูลซูได้เห็นเบื้องหลังของหลินเซียวอีกครั้ง รอบกายของเขากลับมีคนปกป้องเยอะขนาดนี้พิธีการของงานแต่งงานก็ค่อยๆ กลับเป็นปกติ“หลินเซียว คุณเป็นอะไรไป ทำไมสีหน้าดูไม่ดีเลย หรือว่ากลัวใช่ไหม?” ซูหว่านเอ๋อร์เห็นสีหน้าของหลินเซียวซีดลง และดูเหมือนจะเป็นสีหน้าของความเจ็บปวดก็เลยถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงหลินเซียวอับอายจนเหงื่อตก ตัวเองเป็นถึงราชามังกร ยกทัพเข้าสู้สงครามมานักต่อนัก ไม่ว่าจะเป็นความอันตรายแบบไหน และเหตุการณ์แบบนี้ก็เคยเห็นม
“พวกเราคอยอยู่ข้างนอกนะคะ เวลาไม่เคยรอใครค่ะ ท่านรีบเข้าเถอะค่ะ” เหลิ่งซวงกระซิบกับหลินเซียวที่อยู่ข้างๆในขณะที่หลินเซียวและเหลิ่งซวงพูดคุยกัน ซูหว่านเอ่อร์ หยางฮุยฟางและซูเฉิงกงก็ได้เดินเข้าไปในคฤหาสน์แล้วเมื่อซูหว่านเอ๋อร์ หยางฮุยฟาง และซูเฉิงกงเข้าไปถึงภายในคฤหาสน์แล้วก็ถูกทุกอย่างตรงหน้าทำให้ต้องตื่นตะลึงการตกแต่งภายในคฤหาสน์หรูหราเป็นอย่างมาก และมีสิ่งของเครื่องทุกสิ่งอย่างทุกอย่าง สมแล้วที่เป็นคฤหาสน์หรูมูลค่ากว่าพันล้านบาทเฉียนว้านชิง คุณชายของเมืองหลวงคนนี้ ไม่คิดว่าจะเป็นเศรษฐีที่ใจกว้างและมีน้ำใจขนาดนี้“เหลิ่งซวง ก่อนผมจะไป ช่วยผมจัดการเรื่องหนึ่ง เรื่องนี้จำเป็นต้องให้คุณไปจัดการด้วยตนเอง” หลินเซียวสั่งกับเหลิ่งซวงที่อยู่ข้างๆ“ท่านราชามังกรคะ ท่านมีอะไรก็สั่งมาได้เลยค่ะ” เหลิ่งซวงพยักหน้า“คุณไปรับแม่บุญธรรมที่อยู่ในชนบทนอกเมืองหนานหูมาที่นี่นะ” หลินเซียวพูด“แม่บุญธรรมเหรอคะ? ท่านราชามังกรคะ ไม่เคยจะได้ยินว่าท่านยังมีแม่บุญธรรมด้วยเหรอคะ?” เหลิ่งซวงถามขึ้นด้วยความสงสัย“มันเป็นเรื่องหลายปีก่อนแล้ว” หลินเซียวพูดไปพร้อมครุ่นคิดในค่ำคืนที่ฟ้าฝนตกกระหน่ำ ในตอนท
“ผมเคยบอกกลับหว่านเอ๋อร์ไปแล้วว่าผมเคยช่วยนายพลท่านหนึ่งไว้ และนายพลท่านนั้นก็คือวังต้าไห่ ผมเคยช่วยเขาจัดการนักฆ่าสามคนที่ต้องการจะลอบฆ่าเขา และผมยังบาดเจ็บจากการถูกยิงด้วย ส่วนเรื่องเคลื่อนกองกำลังอาวุธพวกนั้นก็เพื่อคุ้มกันวังต้าไห่ เพราะเขาเป็นถึงนายพลระดับสูงจะเกิดเรื่องขึ้นกับเขาไม่ได้เป็นอันขาด” หลินเซียวสร้างเรื่องขึ้นมาให้ตรงกับเรื่องที่ตัวเองเคยบอกซูหว่านเอ๋อร์ไปก่อนหน้านี้“เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด ถึงว่าวังต้าไห่จะถูกลูกช่วยไว้จริง แต่ทำไมเหล่าคุณชายตระกลูใหญ่ที่เดินทางมาไกลจากเมืองหลวง และยังมีนักการเมืองและนักธุรกิจเศรษฐีจากทั่วอาณาจักรต่างก็มาร่วมงานแต่งงานของลูกและหว่านเอ๋อร์ได้ล่ะ?” หยางฮุยฟางยังคงสงสัย จึงถามขึ้นต่อ“ทั้งหมดนี้วังต้าไห่เป็นคนจัดการ” หลินเซียวพูดขึ้น“ทำไมวังต้าไห่ถึงเชิญคนพวกนี้มา?” หยางฮุยฟางถามต่อ“ตอนนี้สถานการณ์สงครามชายแดนใต้กำลังตึงเครียด เหลิ่งซวงอยากให้ผมกลับเข้ากองทหารแนวหน้าอีกครั้ง ผมเคยให้สัญญากับหว่านเอ๋อร์ไว้ว่าจะมอบงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่อลังการที่สุดให้กับเธอ ดังนั้นถึงได้ขอร้องให้วังต้าไห่ช่วย และเขาก็ได้เชิญเหล่าคนมีชื่อเสียงจากทั้งใกล้แ
ภายในห้องนอนหลักก็ถูกตกแต่งหรูหรามาก และห้องนอนนี้มีเฟอร์นิเจอร์ครบครันทันทีที่ถึงห้องนอนแล้ว ซูหว่านเอ๋อร์ก็ถามหลินเซียวอย่างจริงจังขึ้นว่า: “คุณเป็นแค่องครักษ์วังต้าไห่จริงๆ ใช่ไหม?”“ถ้าไม่ใช่ล่ะ?” หลินเซียวไม่ได้เปิดเผยตัวตนของตัวเองไปตรงๆ และมีอีกเหตุผลก็คืออยากที่จะพิสูจน์ซูหว่านเอ๋อร์สักหน่อยว่าเธอซื่อสัตย์และรักเขาจริงไหม“ถ้าคุณเป็นแค่ทหารองครักษ์ธรรมดา ทำไมตอนงานเลี้ยงตำแหน่งนายพลระดับกลางอย่างเหลิ่งซวง เธอยังพาคนมาช่วยพวกเรา ฉันยังเห็นเธอพูดกับคุณด้วยความเคารพ คุณจะอธิบายเรื่องพวกนี้ยังไง?”“ก่อนหน้านี้คุณก็บอกเลยไม่ใช่เหรอ? เรื่องพวกนี้เป็นการแสดง คุณก็รู้ว่าสถานการณ์ตอนงานเลี้ยงว่าจริงๆ แล้วเป็นเพราะผมเคยช่วยชีวิตวังต้าไห่ไว้ เหลิ่งซวงจึงช่วยพวกเรา” หลินเซียวพูดถาม“จริงใช่ไหม?” ซูหว่านเอ๋อร์เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง“ใช่ ตัวตนของผมไม่ได้สุดยอดอย่างที่คุณคิด คุณผิดหวังหรือเปล่า?” หลินเซียวถามขึ้น“ก็ไม่เท่าไหร่นะ แต่ฉันก็พอใจมากแล้ว ยังไงซะวันนี้คุณจัดงานแต่งที่ยิ่งใหญ่อลังการให้ฉัน วันนี้คือฉันดูมีอำนาจที่สุดวันหนึ่งตลอดหลายปีมานี้ ฉันก็ไม่เคยคิดว่าคุณจะเป็นคนสุดยอด