ฉันใช้เวลาอาบยาเป็นเวลานาน เพื่อบ่มเอ็นและกระดูก ทุกครั้งมันจะสามารถระบายสิ่งสกปรกออกไปได้จำนวนไม่น้อย เป็นไปได้ไหมว่า ที่ฉันสวยขึ้นขนาดนี้ สาเหตุเป็นเพราะฉันทำความสะอาดสิ่งสกปรกของตัวเองอย่างสมบูรณ์?แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ขอแค่กลายเป็นคนสวยก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีแล้ว“นี่เธอส่องกระจกมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วนะ จะส่องไปถึงเมื่อไหร่กัน?” ถังหมิงหลีกล่าวพลางหัวเราะจุนเหยาหน้าแดงพลันก้มศีรษะลง “ก็ฉันไม่เคยเห็นตัวเองหน้าตาแบบนี้มาก่อนนี่หน่า”นัยน์ตาของเขาสื่อความเอ็นดูเล็กน้อยพลางยกมือขึ้นมาลูบหัวจุนเหยาเบา ๆ “จุนเหยา ฉันเคยบอกแล้ว ว่าเธอสามารถทำให้ฉันเซอร์ไพส์ได้ตลอด”ตาคมแอบดูถังหมิงหลีก่อนคิดในใจว่า ฉันในตอนนี้เหมาะสมกับเขาแล้วหรือยังนะ?“จุนเหยา ตอนนี้เธออยากไปไหนไหม?” เขาถาม “กลับบ้านหรือว่านั่งรถเล่นไปเรื่อย ๆ ดี?”ฉันเงียบไปชั่วขณะก่อนเอ่ยตอบ “ฉันอยากไปไนต์คลับ”“อะไรนะ?” เขามองฉันด้วยสายตาแปลกประหลาดเล็กน้อย แต่ก็ยังพาฉันไปไนต์คลับแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ ๆ ละแวกนั้น ไฟสปอตไลต์หลากสีหมุนวนไปรอบ ๆ วิบวับ ๆ อย่างไม่หยุดพัก หนุ่มสาวแต่งตัวสวยหรูนับจำนวนไม่ถ้วนกำลังบิดส่ายไปมาอยู่
ป้าหลี่รู้สึกไม่ค่อยพอใจและพูดขึ้น “งั้นก็น่าเสียดายมาก”เธอมองมาที่แผ่นหลังของฉัน มีแสงบางอย่างแวบเข้ามาในดวงตาของเธอหลังจากกลับบ้าน ฉันก็ส่งข้อความถึงราชาตัวจริงแห่งเจิ้งหยาง นางฟ้าหยุนเซี๋ย และราขาแห่งหวางซาน โดยบอกพวกเขาว่ารอยแผลแห่งปีศาจบนใบหน้าของฉันได้หายแล้ว ขอบคุณความช่วยเหลือจากพวกเขา ฉันไม่รู้ว่าจะตอบแทนอย่างไรราชาตัวจริงแห่งเจิ้งหยางและนางฟ้าหยุนเซี๋ยล้วนไม่อยู่ ทว่าราชาแห่งหวางซานได้รับข้อความแล้วตอบฉันกลับมาว่า “นังหนูหยวน เธออยากตอบแทนฉันจริง ๆ เหรอ?”“แน่นอนค่ะ” ฉันรีบพยักหน้า “ราชาแห่งหวางซาน ท่านมีเรื่องอะไรต้องการจะให้ฉันทำไหม?”“งั้นดีเลย” ราชาแห่งหวางซานกล่าว “ ฉันได้ยินมาว่ามีหนังเรื่องหนึ่งเป็นที่นิยมมากในรัฐตงอิ๋ง มีชื่อเรื่องว่าหนังรักแอ็คชั่น เธอช่วยหาหนังเรื่องนั้นแล้วส่งมาให้ฉันได้ไหม?”ฉันตกใจไปสักพักหนึ่ง “ท่านจริงจังใช่ไหมคะ?”“ระยะนี้ฉันได้พบกับปัญหาในระหว่างการบำเพ็ญปฏิบัติ มีครั้งหนึ่งได้เห็นความกลมเกลียวกันระหว่างด้านมืดและด้านสว่างของคนอื่นโดยบังเอิญ ทำให้ฉันค้นพบว่าภาพที่เห็นนี้สามารถทำให้พลังงานจิตของฉันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และสามารถช่วยก
“ผีตัวที่สาม” ผู้นี้ มีประวัติว่า บ้านเกิดของเขาอยู่ที่อำเภอเฟิงกวาง เมืองซานเฉิง เป็นเขตเมืองเก่าที่อยู่ทางตะวันออกของอำเภอ ที่นั่นมีย่านที่อยู่อาศัยที่เก่าแก่มากอยู่ที่หนึ่ง แถวนั้นล้วนเป็นบ้านหลังเล็ก ๆ และผู้ที่พักอยู่อาศัยส่วนใหญ่ได้ย้ายออกไปแล้วเมื่อหลายปีก่อน เมื่อตอนที่ครอบครัวของเขาย้ายออกไปยังมีสมาชิกเหลืออยู่แค่ประมาณห้าคนเท่านั้นเมื่อหลายเดือนก่อน เขากลับบ้านเกิดไปหาเพื่อนวัยเด็กและพบว่าย่านที่อยู่อาศัยนั่นได้เปลี่ยนไปอย่างแปลกประหลาดมาก ผู้ที่พักอยู่อาศัยไม่กี่ครอบครัวล้วนลาออกจากงานแล้วอยู่แต่ในบ้านทุกวัน มีแค่นาน ๆ ครั้งถึงจะออกไปซื้อผัก เมื่อคนนอกพื้นที่เห็นพวกเขาก็ต่างพากันเดินอ้อมไม่เข้าใกล้ผีตัวที่สามบอกว่าเขาได้เจอกับเพื่อนวัยเด็กคนนั้นพอดี และพบว่าเบ้าตาของอีกฝ่ายจมลงลึกมาก สีหน้าขาวซีด บนตัวของเด็กชายมีกลิ่นเหม็นเน่าที่แรงมากจนน่าขยะแขยง เขาจึงได้ทักทายเพื่อนของวัยเด็ก แต่เพื่อนวัยเด็กของเขาคนนั้นกลับไม่สนใจกันเลยเขาจึงไปสอบถามหลาย ๆ คนและได้ยินมาว่า เมื่อสามปีก่อน ย่านที่อยู่อาศัยนั่นมีคนถูกสลากรางวัลและได้รางวัลเป็นสมบัติล้ำค่ามาชิ้นหนึ่ง แต่ที่แปลกประหลาด
ฉันขมวดคิ้วมุ่น แต่ไหนแต่ไรคนสายบันเทิงพวกนี้ก็มักจะดูถูกแอดมินไลฟ์สดอย่างพวกเรา แต่แค่คิดไม่ถึงว่าทั้ง ๆ ที่พวกเขาขอให้พวกเราช่วยแท้ ๆ แต่กลับไม่มีความเกรงใจเลยสักนิดดังนั้นถังหมิงหลีจึงพูดอย่างไม่เกรงใจ “พวกเรามีเงื่อนไขแบบนี้ ถ้าพวกคุณไม่เห็นด้วย จะไม่เข้าร่วมก็ได้นะ”ผู้หญิงในชุดทางการคนนี้คือ ผู้จัดการส่วนตัวของเถิงหลาน เธอเริ่มตอบกลับอย่างไม่พอใจ“ทำไมพวกคุณพูดจาแบบนี้ล่ะ? เถิงหลานของพวกเราเป็นถึงดาราดัง มีแฟนคลับผู้หญิงเยอะแยะมากมาย มีเขาเข้าร่วมสามารถช่วยให้เรตติ้งของพวกคุณเพิ่มสูงขึ้นได้นะ”ถังหมิงหลียกยิ้ม “คิดว่าสามารถเพิ่มสูงขึ้นถึงเท่าไหร่?”ผู้จัดการส่วนตัวหญิงพูดอย่างภูมิใจทันที “เราสามารถดึงดูดผู้ชมประมาณสามหมื่นถึงห้าหมื่นคนได้อย่างไม่มีปัญหาแน่นอน” “สามหมื่นถึงห้าหมื่นคนงั้นเหรอ?” ถังหมิงหลีหัวเราะ “ครั้งที่แล้วพวกเราไลฟ์สดมีผู้ชมเข้ามาดูหนึ่งล้านกว่าคน แค่สามหมื่นหรือห้าหมื่นน่ะ มันยังน้อยเกินไป”“อะไรนะ? หนึ่งล้านกว่าคน?” ผู้จัดการหญิงตกใจไปครู่หนึ่ง แม้แต่เถิงหลานเองก็ยังแสดงท่าทีไม่อยากจะเชื่อออกมาก็แค่ไลฟ์สดในอินเตอร์เน็ต สามารถทำให้ผู้คนติดตามได้มากมายข
อันที่จริง ตอนนี้ฉันไม่รู้ว่าในใจเขาคิดอะไรอยู่ ถ้าไม่อย่างนั้นฉันคงจะเตะเขาไปหาถังหมิงหลีนานแล้ว ให้ถังหมิงหลีสั่งสอนเขาเสียหน่อยเราเดินเข้าไปด้านใน ห้องครัวโดนเผาไปหมดแล้ว ทั้งบ้านเต็มไปด้วยความมืด ตามที่อ่านมา ตอนนั้นลวี้สามได้จุดไฟเผาตัวเองที่นี่ฉันเหลือบไปมองเถิงหลาน เขาไม่ได้สนใจการไลฟ์สดเลยสักนิด เขาไม่เชื่อด้วยซ้ำว่าห้องไลฟ์สดของฉันจะมีคนดูเป็นล้านจะว่าไปแล้วถึงแม้ว่าจะมีคนดูนับล้าน แต่ก็ไม่สามารถเปรียบเทียบกับสถานีโทรทัศน์ได้ทว่าจู่ ๆ สายตาก็เห็นว่ามีอะไรบางอย่างเดินผ่านใต้เตาไปอย่างรวดเร็ว ฉันตกใจไปพักหนึ่งแล้วหยิบด้ามไม้ท้อขึ้นมาอย่างระวังเถิงหลานหัวเราะ “แค่หนูตัวใหญ่เอง ไม่เห็นต้องตื่นเต้นขนาดนั้น”[เถิงหลานคนนี้สายตาไม่ดีรึไง คุณเคยเจอหนูตัวใหญ่ขนาดนั้นเหรอ?][ทุกคนช่วยยกโทษให้เขาหน่อย ยังไงเขาก็เป็นนักแสดง จะมีสติปัญญาสักแค่ไหนเชียว? ][เฮย เฮย ด้วยสติปัญญาของเขา เขาสามารถอยู่ในหนังสยองขวัญได้ตั้งสามนาทีมาแล้วนะ]ฉันจ้องไปที่ตู้ใต้เตา ประตูของตู้ถูกซ่อนเอาไว้อยู่ มือเรียวยื่นดาบไม้ท้อออกไปเพื่อที่จะผลักประตูให้เปิดออก พลันเสียงผู้หญิงคนหนึ่งก็พูดเบา ๆ ว่า
ผู้หญิงคนนั้นเอ่ยขึ้นด้วยเสียงช้า ๆ เบา ๆ “ลวี้สามถูกสลากรางวัลเป็นของล้ำค่าชิ้นหนึ่ง และบอกว่ามันมีราคาหลายสิบล้าน เขาตามหาเถ้าแก่ที่มีเงินหลายคนมาดูของเพราะอยากจะขายมันออกไป แต่คิดไม่ถึงว่าหยกอันนั้นจะมีความแปลกประหลาดขนาดนี้ มีเถ้าแก่คนหนึ่งกลับมาจากพม่า เมื่อดูแล้วเขาก็พูดขึ้นว่า ‘รูปสลักด้านบนของเครื่องประดับชิ้นนี้คือเทพที่ร้ายกาจในอดีต ใครได้รับมันไปครอบครัวจะต้องพังพินาศและจะมีคนเสียชีวิต’ ตอนนั้นลวี้สามยังไม่เชื่อ เขาคิดว่าเถ้าแก่คนนั้นจะกดราคา ผลคือวันต่อมาก็เกิดเรื่องพวกนี้ขึ้นกับครอบครัวของเขา ทุกคนในครอบครัวล้วนเสียชีวิตหมด อนิจจา ความร้ายกาจของมันยังส่งผลมาถึงพวกฉันด้วย”เมื่อพูดมาถึงตอนนี้ ในตาของเธอก็มีความเกลียดชังแวบเข้ามา“น้ำเย็นแล้ว ฉันจะไปตั้งไฟใหม่สักหน่อย” ผู้หญิงคนนั้นถือเหยือกน้ำขึ้นและหมุนตัวเดินเข้าไปในครัวฉันรีบดึงเถิงหลานและพูดด้วยเสียงต่ำ “ที่นี่มีอะไรแปลก ๆ รีบไปกันเถอะ”เถิงหลานไม่ใส่ใจ เขาพูดยิ้ม ๆ “มีอะไรแปลก ๆ เหรอ? หรือว่าในห้องนี้มีผี? อย่าบอกนะว่า ผู้หญิงคนนี้ก็คือผี? ฮ่า ฮ่า ฮ่า”[พิสูจน์ได้อีกครั้งว่านักแสดงชายคนนี้สมองนิ่มจริง ๆ น่าเสียดา
เถิงหลานถือกาต้มน้ำที่หักอยู่ในมือ เขาพูดเสียงตะกุกตะกักอย่างหวาดกลัว “ฉัน ฉันตีเขาแล้ว!”[โอ้ว ที่แท้เขาก็ไม่ได้ขี้ขลาดขนาดนั้น][ฉันคิดว่าเขาจะกลัวจนฉี่รดกางเกงไปแล้ว คิดไม่ถึงว่าเขาจะสามารถช่วยเหลือแอดมินได้จริง ๆ][น้องชาย นายทำให้ฉันเปลี่ยนใจได้สำเร็จแล้ว สู้ ๆ! ถ้านายสามารถผ่านเรื่องทั้งหมดครั้งนี้ไปได้ ต่อไปพี่ชายจะเป็นแฟนคลับของนายเอง]ฉันหยิบกริชไม้ท้อออกมาแล้วโยนให้เขา “ต่อสู้เป็นไหม?”เขาชะงักไปพักหนึ่ง “เมื่อก่อนเคยรับละครกำลังภายใน ก็เลยได้เรียนเคล็ดลับสองอย่างกับอาจารย์คนหนึ่งมา”แต่นี่มันก็ไม่ต่างกับสู้ไม่เป็นไม่ใช่เหรอ?ไม่สนใจแล้ว อย่างไรเขาก็เป็นผู้ชาย ต้องก็มีแรงมากกว่าผู้หญิงอยู่แล้ว“ถือดาบไม้ท้อไว้ดี ๆ เด็กคนนี้เก่งมาก!” ฉันยกดาบไม้ท้อขึ้นและมองดูเด็กไม่ปกติที่กำลังโมโหอยู่ตรงหน้าอย่างละเอียด เขาเป็นเหมือนศัตรูตัวร้ายขณะเดียวกันที่ในห้องนอนของลวี้สาม ถังหมิงหลีได้เปิดกล่องตู้นิรภัยในตู้เสื้อผ้าออกกล่องตู้นิรภัยอันนี้มองดูแล้วเหมือนกับของเก่าโบราณ อันที่จริงมันถูกล็อคไว้อย่างแน่นหนา เขาต้องใช้ทักษะและความพยายามอยู่พักหนึ่งถึงจะเปิดมันออกได้แสงจันทร์ส่
การตัดแบบนี้ทำให้พลังทั้งหมดในร่างของเขาหมดไป หัวของผีน้อยหล่นลงมาจากคอแล้วกลิ้งตกพื้นเถิงหลานคิดไม่ถึงว่าเขาจะทำสำเร็จ เจ้าตัวตะลึงไปพักหนึ่งถึงจะพูดอย่างตื่นเต้นออกมา “ฉัน ฉันตัดหัวของเขาได้จริง ๆ! ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฉันฆ่าผีตัวหนึ่งได้จริง ๆ”[ไม่เลว เด็กนี่ยังมีอนาคตที่สามารถสอนได้][เถิงหลาน ฉันจะไม่พูดว่าคุณเป็นเด็กขี้ขลาดอีกแล้ว ฉันขอโทษกับคำพูดเมื่อก่อนหน้านี้ คุณเก่งมาก!][เปลี่ยนเป็นแฟนคลับแล้ว! ดอกไม้ในแจกันอย่างเขาก็หล่อเหมือนกันนะ]ฉันคลานขึ้นมาจากบนพื้นพร้อมยกนิ้วโป้งให้เขา “เก่งมาก”เถิงหลานทำหน้าภาคภูมิใจ ทว่าจู่ ๆ เขาก็เบิกตากว้างมองที่ใบหน้าของฉัน ก่อนหน้านี้เมื่อตอนที่ต่อสู้กับผีน้อยบนพื้น หมวกที่ใส่อยู่หลุดออก หน้ากากเองก็ถูกดึงขาดไปแล้ว ดังนั้นใบหน้ารูปไข่ของฉันก็ได้ถูกเปิดเผยอย่างละเอียดต่อหน้าเขาฉันตกใจไปพักหนึ่งและรีบหยิบหมวกมาสวม เขาชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “คิดไม่ถึงว่าเธอจะสวยขนาดนี้ ดาราหญิงในบริษัทของพวกเราหลายคนล้วนมีชื่อเสียงมากมาย แต่ก็ไม่มีใครเทียบกับเธอได้เลยสักคน เธอเพรียบพร้อมขนาดนี้จะเป็นแอดมินไปทำไม? มาเป็นนักแสดงโดยตรงดีกว่า บริษัทกำลังวางแผ
เธอหยุดชั่วคราวและกล่าวอย่างยิ้ม ๆ อีกครั้งว่า “ฉันยังมีคำขอที่ไม่สมเหตุสมผลอีกข้อหนึ่ง หวังว่าคุณหยวนจะตกลง”“เรื่องอะไรเหรอคะ?” ฉันไม่พอใจเล็กน้อยกับสายตาที่มีความดูถูกเหยียดหยามของเธอ แต่ฉันก็ยังถามอย่างเก็บอารมณ์เธอพูดว่า “ในการไลฟ์สดครั้งนี้ มีบางฉากที่ทำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้ง่าย ฉันอยากให้คุณหยวนได้โปรดอธิบายให้ผู้ชมฟังในการไลฟ์สดครั้งต่อไปด้วย เพื่อไม่ให้คนอื่นเข้าใจลูกเทียนของเราผิด”ใจของฉันสงบลงและรอยยิ้มบนใบหน้าได้เปลี่ยนเป็นไม่เต็มใจเล็กน้อย “คุณนายเสวีย การไลฟ์สดของฉันเป็นการไลฟ์สดจับผีไม่ใช่การไลฟ์สดเกี่ยบกับความรู้สึก”คุณนายเสวียพูดอย่างสุภาพแต่ไม่ยอมปฏิเสธ “ฉันก็กลัวว่าจะทำลายชื่อเสียงของคุณเหยาเหมือนกัน ถึงอย่างไรคุณก็เข้าใจสถานะของตระกูลเราในเมืองจินหลิงชัดเจนอยู่แล้ว ถ้าเกิดทำให้คนอื่นเข้าใจคุณเหยาผิดว่าประจบและแอบอิงผู้มีอิทธิพลก็คงจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่”สีหน้าของฉันเย็นลงมา นี่เป็นการเปลี่ยนวิธีที่จะบอกว่าฉันกำลังประจบและแอบอิงผู้มีอิทธิพลฉันยิ้มจาง ๆ “คุณนายเสวีย ไม่รู้ว่าคุณชายเสวียเคยบอกคุณไหมว่าฉันเป็นคนรักษาอาการป่วยของเขาให้หายดี”คุณนายเสวียตะลึงไปคร
ยังไม่ถึงสองวัน ชาวเน็ตผู้หญิงที่ซื้อสบู่ทำมือเหล่านี้ไปก็มาโพสต์ที่หมวดยา พวกเธอพูดอย่างตื่นเต้นว่าสบู่ทำมือนี้ใช้ดีมาก ๆ พึ่งจะใช้ไปไม่กี่วันสภาพผิวก็ดีขึ้นมาก ริ้วรอยตรงขอบตาและมุมปากต่างก็ตื้นขึ้นเยอะด้วยมีหญิงสาวนักรบสายขาวคนหนึ่งบอกว่าบนใบหน้าของเธอมีสิวเยอะมาก เมื่อก่อนนี้เธอใช้เครื่องประทินผิวเยอะเยอะหลายชนิด แต่ก็ไม่ได้ผล และนั่นทำให้เธอเป็นทุกข์มาก ๆ แต่หลังจากที่เธอได้ใช้สบู่ทำมือ สิวบนใบหน้าของเธอก็หายไป และไม่มีวี่แววว่าจะเกิดขึ้นมาอีก เธอยังปล่อยภาพเปรียบเทียบก่อนและหลังออกมาเป็นพิเศษอีกด้วยในไม่ช้า สบู่ทำมือนี้ก็ถูกอัปโหลดลงบนนักเล่นแร่แปรธาตุเน็ตเวิร์กทั้งหมด และนักเล่นแร่แปลธาตุผู้หญิงจำนวนมากต่างก็ฝากข้อความต้องการจะซื้อไว้ทางบริษัทเครื่องสำอางก็มีผลตอบรับกลับมาว่าได้กำหนดสูตรสบู่ทำมือแล้วสามชนิด ชนิดที่หนึ่งคือ กลิ่นหอมของหอมหมื่นลี้ที่ใช้สำหรับขาวใส ชนิดที่สองคือกลิ่นหอมของลาเวนเดอร์ที่ใช้สำหรับป้องกันสิว และอีกหนึ่งชนิดก็คือกลิ่นหอมของว่านหางจระเข้ที่ใช้สำหรับให้ความชุ่มชื้นเป็นพิเศษผลลัพธ์ของทั้งสามชนิดต่างก็ดีมาก ๆ และทีมผู้บริหารของบริษัทก็พร้อมที่จะทำ
เมื่อมองดูรถของพวกเขาหายไป ฉันก็แอบถอนหายใจในใจ ถึงแม้ว่าคุณนายเสวียจะลืมช่วงความตายของคุณชายเสวียไปแล้ว แต่ความเจ็บปวดที่เหมือนโดนกรวยแหลมคมแทงทะลุเข้าไปในใจก็ยังฝังลึกอยู่ในก้นบึ้งหัวใจของเธอฉันยักไหล่ ถึงอย่างไรฉันก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ฉันไม่สามารถขอให้ทุกคนมาชอบตัวเองได้หรอกร่างบางกลับมาถึงห้องก็นอนหลับอย่างสบายใจ จนเช้าวันรุ่งขึ้นก็โดนปลุกให้ตื่นโดยเสียงเคาะประตูอย่างแรงฉันหาวหวอดพลางเดินไปเปิดประตูห้อง แล้วก็เห็นถังหมิงหลียืนอยู่นอกประตู เขาถือกระเป๋าสัมภาระธรรมดาใบหนึ่ง เขาหน้าซีดเผือดมาก ราวกับว่าไม่ได้นอนมาตลอดทั้งคืนเพราะรีบกลับมาเมื่อเขาเห็นฉันก็รีบโผเข้ามากอดไว้แน่น ทำให้ใบหน้าของฉันฝังอยู่ที่คอของเขาอย่างแรงและเขาก็พูดขึ้นทันที “ก่อนหน้านี้ฉันอยู่บนเกาะหิมะตลอด ฉันไม่รู้เลยว่าเธอว่าได้เจอกับอันตรายแบบนั้น ไม่อย่างนั้นฉันต้องรีบกลับมาช่วยเธอโดยเร็วที่สุดแน่นอน”ฉันยิ้มออกมา “เป็นเพราะอย่างนี้เองเหรอ วางใจเถอะ ฉันไม่เป็นอะไร”เขาจับหน้าของฉันไว้แล้วก้มหน้าลงจูบอย่างเร็วฉันตะลึงไปครู่หนึ่งแล้วรีบผลักเขาออก พลันพูดอย่างร้อนใจ “นายเป็นบ้าไปแล้วเหรอ?”“ใช่ ฉันบ้าไปแ
พลังที่เก้าเอ่ยแทรก “หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ที่จริงผีตัวนี้มีชีวิตและมีเนื้อหนัง แค่เนื้อหนังของมันก็คือทั้งหมดของโรงเรียนแห่งนี้เท่านั้นเอง”ราชาตัวจริงแห่งเจิ้งหยางยังกล่าวอีกว่า “ฉันไม่ได้เจอผีที่มีเลือดเนื้อในร่างกายมนุษย์แบบนี้มาหลายปีแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะยังมีอยู่ในโลกมนุษย์”“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ถึงแม้ว่าในตอนนี้ในโลกมนุษย์จะขาดแคลนพลังปราณ แต่อารมณ์เจ็ดอายตนะหกของผู้คนก็ยังแข็งแกร่งมากขึ้น” พลังที่เก้าพูดขึ้น “ผีก็มากขึ้นเรื่อย ๆ”หัวใจที่ยังคงเต้นอยู่ก้อนนั้นเริ่มเผาไหม้และควันหนาค่อย ๆ ลอยออกมา ผีใบหน้าสีดำตัวนั้นเผยหน้าตาที่แสนเจ็บปวดออกมา พลันกำแพงรอบ ๆ ก็เริ่มลุกไหม้ขึ้นมา เปลวไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็วและพวกเราก็ได้วิ่งออกมาจากโรงเรียนแห่งนั้น อาคารร้างทั้งหลังล้วนจมลงไปในเปลวไฟ ริ้วลิ้นแห่งเปลวไฟยังกระโจมอยู่อย่างไม่หยุดยั้ง ดูเหมือนว่าฉันจะเห็นวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งขึ้นไปในอากาศด้วยแสงไฟ“อ๊าก!” ในที่สุดผีใบหน้าสีดำก็ปรากฏขึ้นมาในเปลวไฟ มันโดนไฟเผาจนเล็กลงเรื่อย ๆ และมองไม่เห็นอีกต่อไปฉันถอนหายใจอย่างโล่งอกยาว ๆ ในที่สุดก็จบลงแล้ว จะไม่มีเกมส์แห่งความตายอีกต่อไปแล้ว และก
เมื่อมองดูใบหน้าที่หล่อเหลาแต่เปื้อนเลือดของคุณชายเสวีย ในใจของฉันก็รู้สึกเหน็บหนาวขึ้นมาเป็นพัก ๆ[เป็นไปไม่ได้มั้ง คุณเสวียตายแล้ว?][จะเป็นไปได้ยังไง ถึงแม้ว่าคุณเสวียจะมาเข้าร่วมไลฟ์สดแค่ชั่วคราว แต่จะตายง่าย ๆ แบบนี้ได้อย่างไร? เขาเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้เชียวนะ][ใครบอกว่าจะไม่มีคนตาย? ทุกครั้งที่แอดมินไลฟ์สดล้วนอันตรายมาก แต่ก็ยังเอาชีวิตรอดจากภัยอันตรายมาได้หลายครั้ง เมื่อก่อนที่จอมเผด็จการไม่ตายก็แค่โชคดีมากเท่านั้นเอง พวกคุณคิดว่าพวกเขาจะมีรัศมีของตัวเอกจริง ๆ เหรอ?][แอดมิน ฉันคือคนใช้ของครอบครัวคุณเสวีย เมื่อสักครู่แม่ของเขาก็ดูไลฟ์สดอยู่ แต่ตอนนี้ได้เป็นลมหมดสติไปแล้ว คุณเตรียมใจรอรับความโกรธของตระกูลเสวียได้เลย][คนข้างบนที่อาศัยบารมีคนอื่นมาอวดเบ่งชาวบ้าน ถ้าพวกคุณมีความสามารถก็ไปจัดการกับผีใบหน้าเองสิ จะระบายอารมณ์ใส่แอดมินทำไม?][แอดมิน...จะมีชีวิตกลับมาไหม?]ขณะนี้ในใจของฉันว่างเปล่า ฉันคุกเข่าลงบนพื้นและกอดหัวของเสวียห้าวเทียนไว้ ทั้งยังรู้สึกหนาวเย็นไปทั่วร่างกายฉันและคุณชายเสวียไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น แต่เขากับฉันได้ร่วมเป็นร่วมตายกันมาในเกมส์แห
เพี๊ยะ เพี๊ยะ! ไฟในเมรุเผาศพดังขึ้นและลัดวงจร กระแสไฟฟ้ารวมตัวกันในมือของฉันจนกลายเป็นก้อนใหญ่ [ว้าว ใช้กระแสไฟฟ้าหนึ่งแสนโวลต์ควบแน่นเป็นสายฟ้าก้อนกลม แอดมินเธอเก่งขั้นเทพเลยอ่ะ] [แรงดันไฟฟ้าสูงเท่าหนึ่งแสนโวลต์ที่ไหนกัน!] [ฉันพูดเกินจริงไม่ได้เหรอ? คุณจะยุ่งเกินไปแล้ว?] “คุณเสวีย หลบไปเร็วเข้า!” ฉันตะโกนเสียงดังแล้วโยนกระแสไฟฟ้าในมือออกไป ตูม! เกิดเสียงดังสนั่นขึ้น กระแสไฟฟ้าพุ่งเข้าใส่ร่างของผีกองกอย ร่างของมันเปล่งแสงสีม่วงออกมาและส่งเสียงร้องเหมือนสัตว์ป่า แต่สุดท้ายร่างกายก็ไหม้กลายเป็นศพไหม้เกรียม “เร็วเข้า เอามันเข้าไปในเตาเผาศพ!” ฉันและเสวียห้าวเทียนอดทนต่อกลิ่นเหม็นเน่าเพื่อยกผีกองกอยขึ้น แล้วรีบเข้าไปในห้อง พร้อมเปิดเตาเผาศพและโยนศพเข้าไป บึ้ม! ในเตาเผามีเปลวไฟลุกโชนออกมา ผีกองกอยดิ้นทุรนทุรายอย่างดุเดือด ฉันตะโกน “ปิดประตู!” ประตูเตาเผาได้ปิดลงเสียงดังปัง เสียงดิ้นรนดังออกมาจากด้านใน ศพถูกเผาเป็นเวลานานมากก่อนที่จะหยุดลง และท้ายที่สุดก็มีเศษกระดูกออกมาจากรูด้านหลัง กระดูกไม่ได้ถูกเผาจนเป็นเถ้าถ่านทั้งหมด แต่เผาแล้วกลายเป็นเศษเล็ก ๆ พวกมัน
[เพื่อเงินเพียงเล็กน้อย แต่เขากลับฆ่าพ่อของตัวเอง ช่างน่าเศร้าจริง ๆ] [มีลูกชายแบบนี้ มิน่าล่ะพ่อของเขาถึงได้โกรธทะยานขึ้นจนศพเปลี่ยนไป] [จะไปโทษใครได้? นอกจากตัวเขาเอง ใครบอกให้เขารักลูกชายมากเกินไปล่ะ? รู้จักแต่เลี้ยงแต่ไม่รู้จักอบรม นั่นเป็นความผิดขอพ่อแม่] ในห้องไลฟ์สดมีการโต้เถียงทุกแบบอย่าง ผีดิบฟางเหวินตัวนั้นกระโดดออกมาจากโลงศพ โลงศพเป็นโลงไม้เนื้อแข็งแบบดั้งเดิม และสูงพอ ๆ กับไหล่ของผู้ใหญ่ แต่มันสามารถมันกระโดดออกมาได้ในพริบตา ในตอนนั้นเอง ร่างกายของฟางเหวินก็เริ่มมีขนงอกออกมาอย่างรวดเร็ว เขามีขนปุกปุยราวกับลิงอุรังอุตังที่เป็นบรรพบุรุษ [ผีกองกอย! นี่มันผีกองกอยจริง ๆ!] [ผีกองกอยเป็นกระดูกเหล็กทองแดงในตํานาน! มันเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว กระโดดขึ้นอาคารบ้านเรือนไปบนต้นไม้ กระโดดโลดเต้นราวกับบิน ไม่กลัวไฟธรรมดา หรือแม้แต่แสงอาทิตย์] [ข้างบนมีความรู้เยอะจัง] [ไร้สาระ เว็บไป๋ตู้ก็เขียนเอาไว้แบบนั้น] ฉันเองก็ประหลาดใจเช่นกัน เขาถูกลูกชายแท้ ๆ ของตัวเองฆ่าตาย ลูกชายก็อกตัญญู และมักจะด่าทอเขา เขามีความคับข้องใจมาเป็นเวลานาน แถมลูกชายก็ไม่ได้จัดงานศพให้ หลังจ
ฉันถามถึงที่อยู่และเรียกแท็กซี่กับเสวียห้าวเทียน จนมาถึงเมืองเล็ก ๆ ที่เรียกว่าฝางเจีย เมืองนี้ค่อนข้างหดหู่กว่าเมืองชิงหยาง มีเพียงคนแก่ใกล้วาระสุดท้ายที่นั่งอาบแดดอยู่หน้าประตู เราสอบถามเกี่ยวกับโรงฌาปนกิจศพในเมืองฝางเจีย วันนี้ไม่มีการจัดงานศพ ภายในนั้นเงียบมาก และมีชายชราคนหนึ่งกําลังกวาดพื้น “ขอถามหน่อยค่ะ คุณคือผู้เฒ่าฟางใช่ไหมคะ?” ฉันก้าวไปข้างหน้าและถามเขาทันที เขามองฉันอย่างระมัดระวังพลางกล่าว “คุณมีธุระอะไร?” “เมื่อสองวันก่อน มีช่างขนศพพาศพหกศพมาค้างคืนที่นี่ใช่ไหมคะ?” ฉันถาม ความระแวดระวังในดวงตาของชายชรายิ่งทวีความรุนแรงขึ้น “ผมจําไม่ได้แล้ว” พูดจบก็เดินเข้าบ้านไป เสวียห้าวเทียนเดินไปข้างหน้าและจับไหล่ของอีกฝ่ายไว้ “ผู้เฒ่าฟาง อย่าเพิ่งรีบไปสิ มาคุยกับพวกเราเถอะครับ” พร้อมกันนั้น เขาก็ยัดธนบัตรสีแดงสองใบใส่มือชายชราไปด้วย เขาลังเลเล็กน้อยและกำธนบัตรสีแดงไว้ ก่อนจะกล่าว “คุณต้องการถามอะไร?” เสวียห้าวเทียนยิ้มบาง “เราแค่อยากรู้ว่าในโลงศพทั้งหกศพนั้นบรรจุอะไรไว้” “แล้วมันจะเป็นอะไรได้อีกล่ะ? แน่นอนว่าต้องเป็นศพอยู่แล้ว” ตาแก่ฟางพูดอย่างไม่สบอารมณ์
ฉันยิ่งงงเข้าไปใหญ่ การที่ภูตผีจากโรงเรียนมัธยมหวนซานนี้ รวบรวมเรื่องลี้ลับที่เกิดขึ้นจริงไว้มากมายเพื่อทดสอบคนอื่น ที่แท้เพราะอะไรกันแน่นะ? เขาวางแผนอะไรอยู่นะ? จริงสิ! ความกลัวไงล่ะ! ความกลัวที่พวกเราประสบในมิติวิญญาณจะกลายเป็นแหล่งพลังงานของมัน ทําให้มันแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ นี่เป็นเหตุผลว่าทําไมภูตผีถึงชอบทำให้คนกลัว หลังจากที่มนุษย์หวาดกลัวแล้ว พลังหยางจะถูกทําลาย ทำให้ถูกสิงได้ง่ายขึ้น แต่ภูตผีบางชนิดสามารถดูดซับความกลัวได้ เพื่อทำให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้น พอดึกขึ้นเรื่อย ๆ ก็มีเสียงกรนดังมาจากห้องเวร ตอนแรกฉันว่าจะไปผนึกศพพวกนี้ก่อน แต่ตัวอักษรเลือดพูดถึงผีดิบที่ฆ่าศพฟื้นคืนชีพ ถ้าฉันฝืนเปลี่ยนเค้าโครงเรื่อง ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ยังไงก็ต้องระวังตัวไว้จะดีกว่า พริบตาเดียวก็เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว และเป็นตอนที่พลังหยินพลุ่งพล่านที่สุด พระจันทร์เสี้ยวสีแดงเลือดดวงนั้นสว่างจนแสบตาเป็นพิเศษ ฉันสอนวิธีเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เสวียห้าวเทียน โดยการปิดปากและจมูก เพื่อให้ผีดิบไม่ได้กลิ่นมนุษย์บนตัวเรา ทันใดนั้นกลิ่นอายวิญญาณก็พวยพุ่งออกมาจากในห้อง ศพทั้งหกพลันลืมตาขึ้นมาพร้อ