ฉันถอนหายใจ ถ้านายอยากเสี่ยงตายทำไมต้องพาฉันไปเสี่ยงด้วยเนี่ย?แต่คิดไปคิดมาฉันก็เอาเงินเขามาแล้วหนึ่งแสน จู่ ๆ ก็หงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย เลยทำทีดื่มซุปเงียบ ๆเขานั่งมองฉันดื่มซุป พลางคิดว่าดูเหมือนอารมณ์ฉันจะดีขึ้นแล้ว ร่างสูงจึงบอกกับฉันว่าจะไปหาเบาะแสมาเพิ่ม พูดแค่นั้นก็เดินจากไปทางด้านคนที่เดินออกจากโรงพยาบาลไปเมื่อครู่ ขณะที่ก้าวเท้าฉับ ๆ เขาก็ได้รับสายโทรศัพท์สายหนึ่ง ปลายสายเอ่ยอย่างเคารพ “นายน้อยถัง เรื่องที่ท่านให้ผมตรวจสอบอันธพาลสองคนนั้น ผมเจอแล้วครับ”ถังหมิงหลีตอบเสียงขรึม “ส่งที่อยู่ของพวกมันมาให้ฉันเดี๋ยวนี้”ในโรงแรมเล็ก ๆ ข้างถนนแห่งหนึ่ง อันธพาลสองคนนั้นกำลังดื่มเหล้า สูบบุหรี่และเล่นไพ่ ในห้องเต็มไปด้วยบรรยากาศของกลิ่นควันบุหรี่“ครั้งนี้ต้องหลบจริง ๆ ตอนแรกเราแค่ต้องจับนางพยาบาลนั่นไม่ใช่เหรอ แต่กลับเจอผีซะได้ พี่หู่ก็ตายไปแล้วด้วย แถมเรายังต้องหลบอยู่ในที่โสโครกแบบนี้อีก” หนึ่งในอันธพาลจิบเหล้าพลางบ่นยาวอันธพาลอีกคนด่าเสริม “พี่ชุนเคยบอก ถ้ามีคนตาย ตำรวจก็จะตรวจสอบอย่างเข้มงวด ทางที่ดีควรให้เรากลับไปหลบที่บ้านสักสองสามวันนะ”“พี่ชุนให้เงินพวกเราคนละหนึ่ง
“แปลกจัง ทำไมวันนี้อากาศมันร้อนแบบนี้ แมลงสักตัวก็ไม่มี?” ฉันพูด “ซากศพก็ไม่มีหนอนไม่มีแมลงวันเลยสักตัว”ในห้องไลฟ์สดเริ่มมีเสียงโอดครวญ[แอดมิน ฉันกำลังกินข้าวอยู่นะ!][บล็อกม่านกระสุน!]แน่นอนว่าถ้ามีคนส่งม่านกระสุนเยอะเกินไป ทำให้เกิดการปิดกั้นจนโดนผู้ชมต่อว่าบ้างในบางครั้งถังหมิงหลีเอ่ยแทรก “มีบางอย่างอยู่ใต้นี้”เขาปิดปากและจมูก แล้วหยิบขาเก้าที่หักขึ้นมากวาดซากงู แมลง หนู และมดทั้งหมดออก จึงเจอกับสมุดบันทึกเล่มหนึ่งสมุดบันทึกเล่มนี้เขียนไว้ว่า เมนูหนึ่งสัปดาห์ของห้องสามศูนย์สี่พวกเราเปิดดูเนื้อหาข้างใน มันคือสูตรอาหารธรรมดา ๆ เท่านั้น แต่มีใครบางคนใช้ปากกาหมึกสีแดงขีดฆ่าเมนูอย่างรุนแรงแล้วเขียนที่ด้านหลังว่า หนูขาวย่าง แมลงสาบดิบ และอื่นๆอีกมากมายแทนอ่านแล้วท้องไส้ก็ปั่นป่วนจนต้องรีบกลืนน้ำลายเพื่อให้กรดไหลย้อนกลับลงไปถังหมิงหลีครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง เสียงเข้มเอ่ย “ฉันเข้าใจแล้ว อันซื่อปิงคนนี้ถูกทารุณกรรมอย่างไร้มนุษยธรรมในอพาร์ตเมนต์หลังนี้ พยาบาลที่ดูแลเขาไม่เอาข้าวให้เขากิน แต่ให้เขากินพวกงู แมลง หนู มด แทน ทำให้เขาต้องทนทรมานจนตายในที่สุด สุดท้ายเขาก็เลยกลับมาแ
แต่ฉันไม่เห็นม่านกระสุนที่เอ่ยเตือนพวกนั้น จึงใช้มือหยิบค้อนงัดตะปูออกมาจากกระเป๋าเป้ ทว่าขณะกำลังจะดึงตะปูออก โทรศัพท์ก็สั่นอย่างรุนแรงถังหมิงหลีเหรอ?ฉันหยิบมือถือขึ้นมาดู ปรากฏว่าเป็น “ราชาตัวจริงแห่งเจิ้งยาง” ที่เคยเพิ่มเพื่อนฉันในทีวี ถ้าเพิ่มเพื่อนกันแล้วก็จะสามารถพูดคุยกับแอดมินได้ ในใจลังเลเล็กน้อยแต่สุดท้ายก็ยอมรับเป็นเพื่อนกับเขาผู้เชี่ยวชาญระดับทองหลังจากเพิ่มเพื่อนเสร็จ ก็มีเสียงของคนสูงวัยดังขึ้น “สาวน้อย อย่าไปเชื่อผี ถ้าเธออยากจัดการมัน ก็ให้ทำตามที่ฉันบอก” ร่างบางสะดุ้งตกใจ อายุเยอะขนาดนี้เขายังดูไลฟ์สดอีกเหรอ?“เธอมีเลือดหมาดำติดตัวมาหรือเปล่า? ให้ใช้เลือดหมาดำวาดตัวอักษรคำว่า “คำสั่งของจักรพรรดิ” ที่หน้าผากของเธอ” ราชาตัวจริงแห่งเจิ้งหยางกล่าวว่ากันว่าผู้เฒ่าหลายคนจะรู้วิธีปราบผี ฉันเลยหยิบขวดเลือดหมาดำออกมา และวาดตามที่เขาบอก ผีสาวจ้องมองมาที่ฉันด้วยความเกลียดชังปนอาฆาตแค้น สายตานั้นมันทำให้ฉันรู้สึกขนลุกซู่โชคดีที่ยังไม่ได้งัดตะปูออก ไม่อย่างนั้นคนแรกที่ตายคือฉันแน่นอน“งัดตะปูออกได้” ราชาตัวจริงแห่งเจิ้งหยางพูดอีกครั้งฉันใช้ค้อนงัดตะปูออกทีละตัว
ทันทีที่ม่านกระสุนพูดจบ ปรากฏว่าคนที่ใช้ชื่อว่า “สายลมของฉัน” ก็ให้ของรางวัลฉันเป็นมงกุฎห้าอัน[ให้จริงด้วย ฉันนับถือเลย ฉันก็ให้นะ แต่ไม่เยอะเท่าไหร่หรอก จี้หยกหนึ่งอันก็พอแล้วแหละ][แอดมิน ครั้งหน้าเธอจะไปไลฟ์สดที่ไหนเหรอ][เสียดายโอกาสดี ๆ แบบนี้ ทำไมแอดมินไม่ล้มท่านประธานจอมเผด็จการ]เห็นไอเท็มรางวัลแน่น ๆ แบบนี้ เป็นตายร้ายดียังไงก็คุ้มแล้วหลังจากปิดห้องไลฟ์สด ฉันกับถังหมิงหลีก็พากันออกมาจากบ้านพัก เขามองฉันแปลก ๆ และสายตาของเขาทำให้ฉันรู้สึกไม่สบายใจ“เธอรู้วิธีปราบผีเหรอ” เขาถามจุนเหยาส่ายหน้า “ฉันมีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำ” ฉันบอกเขาเกี่ยวกับเทพเจ้าตัวจริงแห่งเจิ้งหยาง แต่ตอนนี้เขาออฟไลน์ไปแล้ว มาดูอีกทีก็เพิ่งเห็นว่าเขาให้ของรางวัลฉันเป็นมงกุฎหนึ่งอันด้วยฉันรู้สึกขอบคุณเขามาก จึงทิ้งข้อความขอบคุณไว้ให้เขา สักพักถังหมิงหลีก็เอ่ยต่อ “เธอเจอผู้เชี่ยวชาญแล้ว แต่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่มักจะมีโลกส่วนตัวสูง เขาเข้ามาดูไลฟ์สด และยังให้คำแนะนำเธออีก โชคดีจังเลยนะ”ส่วนตัวฉันชอบเวลาได้นับรายได้จากการไลฟ์สด คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีของรางวัลตั้งสองหมื่นกว่าหยวน! ก่อนหน้านี้ ทำงานหนึ่งปี
เป็นไปได้ไหมที่คุณชายถังกับก้งชายอาจจะมีรสนิยมเหมือนกัน?ส่วนจุนเหยาที่กำลังนอนอยู่บนเตียงก็ขนลุกยามก้งชายกำลังเอื้อมมือมาหา ฉันทนไม่ไหวจึงกลิ้งตัวจนตกลงมาใต้เตียงก้งชายหัวเราะหึหึ “สาวน้อย ฉันรู้ว่าเธอตื่นแล้ว เชื่อฟังฉันแล้วออกมาเถอะ แล้วฉันจะทำให้เธอทรมานน้อยลง”ฉันมุดเข้าใต้เตียง ตัวสั่นไปทั้งตัวพร้อมน้ำตาก็ไหลออกมาฉันไม่ยอมเด็ดขาด ถึงแม้ว่าฉันจะต่ำต้อย แต่ฉันก็อยากจะใช้ชีวิตดี ๆ แบบคนอื่นบ้าง ถึงฉันจะขี้เหร่ แต่ขอขี้เหร่แบบมีศักดิ์ศรี!“ฮ่า ฮ่า ฉันไม่ทำให้เธอทรมานหรอกหน่า เธอไม่รู้เหรอว่าฉันเก่งแค่ไหน” เขาหยิบงูสีทองตัวเล็ก ๆ ออกมาจากกล่องหวาย ทันใดนั้นงูก็เลื้อยเข้ามาใกล้ ขาเรียวจึงรีบถอยออกด้วยความกลัวแต่จะถอยกลับก็ถอยไม่ได้ฉันมองดูมันเลื้อยขึ้นมาที่เท้า และเริ่มเลื้อยเข้าขากางเกง เสียงเล็กร้องตะโกนด้วยความตกใจเนื่องจากมันเลื้อยขึ้นมาที่จี้หยกของฉัน ฉันเลยตีหัวงูสีทองนั้นไม่ยั้งมือไม่อยากจะเชื่อ พอดูอย่างละเอียดอีกที ก็พบว่าหัวของงูไหม้เกรียมตาคมเหลือบมองดูจี้หยกอย่างสงสัยว่ามันยังอยู่ไหม?“หนอนพิษกู่สีทองของฉัน!” ก้งชายตะโกนสุดเสียง “แก แกฆ่าหนอนพิษกู่สีทองอันล้
ฉันรีบขอบคุณเขา และอีกฝ่ายก็ตอบกลับ “ถ้าอยากปราบผี ก็ต้องฝึกลมปราณก่อน ถ้าในร่างกายของเธอไม่มีพลัง ก็ใช้ได้แค่วิธีที่คนธรรมดาใช้กัน อันนั้นจะสามารถจัดการพวกวิญญาณอาฆาตได้ แต่ถ้าจะจัดการพวกวิญญาณชั่วร้าย วิญญาณมุ่งร้าย พลังจะไม่พอเอาได้ ในตอนท้ายของหนังสือเล่มนี้มีวิธีการฝึกลมปราณ เธอลงไปฝึกดู ถ้าเธอฝึกได้ ฉันค่อยสอนขั้นตอนที่ลึกกว่านั้น”ฉันเห็นเขากำลังจะออฟไลน์ จึงรีบถาม “ราชาตัวจริง คุณรู้จักแผลจากกรรมชั่วไหมคะ?”“ห๊ะ?” ราชาตัวจริงแห่งเจิ้งหยางตอบด้วยความแปลกใจ “เธอถามฉันทำไม?”ฉันหัวเราะแห้ง ๆ “แค่ถามเฉย ๆ”ราชาตัวจริงแห่งเจิ้งหยางว่าต่อ “แผลจากกรรมชั่วมันคือคำสาปชนิดหนึ่ง บรรพบุรุษของเราได้ทำกรรมชั่วอย่างร้ายแรงไว้ บาปกรรมของเขาจึงส่งต่อไปยังรุ่นลูกรุ่นหลาน ทำให้พวกเขามีแผล”จุนเหยาได้ยินแล้วขนลุกทันที บรรพบุรุษของฉันไปทำบาปกรรมอะไรไว้ มันถึงได้ตกมาอยู่บนร่างกายฉันอย่างนี้นะฉันมันไร้เดียงสามาก ๆ“แล้วจะมีวิธีแก้ไขไหมคะ?” ฉันถามอย่างรอบคอบ“ถ้าอยากแก้ก็ไม่ยาก แค่ฆ่าคนชั่ว ฆ่าวิญญาณชั่วร้ายให้เยอะหน่อยก็ได้แล้ว”ในที่สุดฉันก็เข้าใจแล้ว ไม่แปลกที่หลังจากฉันฆ่าผีหมอเจิ้ง ผีอ
ดูเหมือนว่าเขาจะกินเหล้าไปแล้วสองแก้ว อีกฝ่ายยิ้มมุมปาก “รสนิยมเลือกผู้หญิงของคุณชายถังนี่ดีเหมือนกันนะ ผมก็อยากจะดูเหมือนกันว่าคุณสวยสักแค่ไหน ถึงทำให้เขาปกป้องเธอขนาดนี้” พูดแล้วเขาก็ดึงหน้ากากของฉันออก มือนั่นรวดเร็วมากจนไม่สามารถหยุดเขาไว้ได้ทัน “ไม่ได้!” ฉันพูดเสียงดัง พร้อมปิดหน้าของตัวเอง แต่ความจริงเขาได้มองเห็นหน้าของฉันแบบชัดเจนไปแล้ว พลันแสดงสีหน้าตกใจออกมา “คิดไม่ถึงว่าจะหน้าตาน่าเกลียดขนาดนี้? หรือว่าคุณชายถังจะตาบอดไปแล้ว?”ฉันตัวสั่นไปทั้งตัว อยากจะวิ่งหนีไป แต่โดนเขาขวางทางเอาไว้ ชายคนนี้ยังพูดต่ออีก “ฉันเข้าใจแล้ว คุณชายถังคบสาวสวยจนเบื่อแล้วก็เลยอยากจะลองคบกับคนหน้าตาน่าเกลียดดู” เขาลูบคางแล้วพูดขึ้นว่า “ถึงแม้หน้าตาจะน่าเกลียด แต่รูปร่างไม่เลว ปิดหน้าเอาไว้ก็ถือว่าได้อยู่” ฉันยิ่งตัวสั่นมากกว่าเดิมทำไมนะ? ทำไมผู้ชายพวกนี้ถึงไม่มองฉันก็เป็นคนบ้าง แม้แต่การให้เกียรติเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกเขาก็ไม่มีให้ฉันสักนิดเลยเหรอ? ไม่ว่าอย่างไรก็จะมองฉันเป็นแค่วัชพืชที่คอยเหยียบย่ำให้จมโคลนถึงจะพอใจสินะ “หรือเธอจะบอกว่า เธอมีความสามารถอะไรเป็นพิเศษ?” สายตาของคุณหลงเต็มไปด้ว
หยินเฉิงเหยาเหลือบมองมาที่ฉัน เห็นแบบนั้นฉันเลยรีบเข้าไปในห้องไปถังหมิงหลีถามด้วยความประหลาดใจ “มีอะไรรึเปล่า? เจอผีเข้าแล้วหรอ ผีออกมาแล้ว?”มือเรียวเช็ดเหงื่อที่หน้าผากพลางตอบ “ไม่มีอะไร นายรีบกินก่อนดีกว่า” พวกเราสองคนดื่มไปพูดคุยไป แต่ฉันมักจะชอบใจลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จนกระทั่งถึงเวลาเที่ยงคืน ก็เริ่มไลฟ์สดอีกครั้ง[แอดมิน ในที่สุดคุณก็มาแล้ว ฉันรอคอยจนดอกไม้ได้โรยราไปแล้วค่ะ][แอดมิน ถ้าคุณยังยั่วให้อยากรู้แบบนี้ ฉันจะไม่ตบรางวัลให้คุณแล้วนะ]ถึงแม้ว่าผู้ชมจะบ่น แต่ในห้องไลฟ์สด คนก็ยิ่งมาดูมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับตอนนี้ที่ทะลุหนึ่งหมื่นคนไปแล้ว รวมทั้งรางวัลเองก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ“ฉันทำให้ทุกทานรอนานเลย ตอนนี้ก็เวลาเที่ยงคืนแล้ว” จุนเหยาเริ่มอธิบาย “ตอนนี้พวกเราก็รอเงียบ ๆ ให้ผีออกมา” ทว่าครั้งนี้ไม่เหมือนกับสองครั้งที่ผ่านมา พวกเรารอประมาณสิบกว่านาทีแล้ว แต่ยังไม่มีเรื่องอะไรแปลก ๆ เกิดขึ้น ผู้ชมเองก็รอจนรู้สึกหงุดหงิดเหมือนกัน[หรือว่าตอนนี้คุณกลายเป็นเจียงหลางผู้หมดความสามารถซะแล้ว เลยให้ฉันดูอันนี้][ตกลงผีจะออกมาหรือไม่ออกมากันแน่ พรุ่งนี้ฉันต้องทำงานอีก]
เธอหยุดชั่วคราวและกล่าวอย่างยิ้ม ๆ อีกครั้งว่า “ฉันยังมีคำขอที่ไม่สมเหตุสมผลอีกข้อหนึ่ง หวังว่าคุณหยวนจะตกลง”“เรื่องอะไรเหรอคะ?” ฉันไม่พอใจเล็กน้อยกับสายตาที่มีความดูถูกเหยียดหยามของเธอ แต่ฉันก็ยังถามอย่างเก็บอารมณ์เธอพูดว่า “ในการไลฟ์สดครั้งนี้ มีบางฉากที่ทำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้ง่าย ฉันอยากให้คุณหยวนได้โปรดอธิบายให้ผู้ชมฟังในการไลฟ์สดครั้งต่อไปด้วย เพื่อไม่ให้คนอื่นเข้าใจลูกเทียนของเราผิด”ใจของฉันสงบลงและรอยยิ้มบนใบหน้าได้เปลี่ยนเป็นไม่เต็มใจเล็กน้อย “คุณนายเสวีย การไลฟ์สดของฉันเป็นการไลฟ์สดจับผีไม่ใช่การไลฟ์สดเกี่ยบกับความรู้สึก”คุณนายเสวียพูดอย่างสุภาพแต่ไม่ยอมปฏิเสธ “ฉันก็กลัวว่าจะทำลายชื่อเสียงของคุณเหยาเหมือนกัน ถึงอย่างไรคุณก็เข้าใจสถานะของตระกูลเราในเมืองจินหลิงชัดเจนอยู่แล้ว ถ้าเกิดทำให้คนอื่นเข้าใจคุณเหยาผิดว่าประจบและแอบอิงผู้มีอิทธิพลก็คงจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่”สีหน้าของฉันเย็นลงมา นี่เป็นการเปลี่ยนวิธีที่จะบอกว่าฉันกำลังประจบและแอบอิงผู้มีอิทธิพลฉันยิ้มจาง ๆ “คุณนายเสวีย ไม่รู้ว่าคุณชายเสวียเคยบอกคุณไหมว่าฉันเป็นคนรักษาอาการป่วยของเขาให้หายดี”คุณนายเสวียตะลึงไปคร
ยังไม่ถึงสองวัน ชาวเน็ตผู้หญิงที่ซื้อสบู่ทำมือเหล่านี้ไปก็มาโพสต์ที่หมวดยา พวกเธอพูดอย่างตื่นเต้นว่าสบู่ทำมือนี้ใช้ดีมาก ๆ พึ่งจะใช้ไปไม่กี่วันสภาพผิวก็ดีขึ้นมาก ริ้วรอยตรงขอบตาและมุมปากต่างก็ตื้นขึ้นเยอะด้วยมีหญิงสาวนักรบสายขาวคนหนึ่งบอกว่าบนใบหน้าของเธอมีสิวเยอะมาก เมื่อก่อนนี้เธอใช้เครื่องประทินผิวเยอะเยอะหลายชนิด แต่ก็ไม่ได้ผล และนั่นทำให้เธอเป็นทุกข์มาก ๆ แต่หลังจากที่เธอได้ใช้สบู่ทำมือ สิวบนใบหน้าของเธอก็หายไป และไม่มีวี่แววว่าจะเกิดขึ้นมาอีก เธอยังปล่อยภาพเปรียบเทียบก่อนและหลังออกมาเป็นพิเศษอีกด้วยในไม่ช้า สบู่ทำมือนี้ก็ถูกอัปโหลดลงบนนักเล่นแร่แปรธาตุเน็ตเวิร์กทั้งหมด และนักเล่นแร่แปลธาตุผู้หญิงจำนวนมากต่างก็ฝากข้อความต้องการจะซื้อไว้ทางบริษัทเครื่องสำอางก็มีผลตอบรับกลับมาว่าได้กำหนดสูตรสบู่ทำมือแล้วสามชนิด ชนิดที่หนึ่งคือ กลิ่นหอมของหอมหมื่นลี้ที่ใช้สำหรับขาวใส ชนิดที่สองคือกลิ่นหอมของลาเวนเดอร์ที่ใช้สำหรับป้องกันสิว และอีกหนึ่งชนิดก็คือกลิ่นหอมของว่านหางจระเข้ที่ใช้สำหรับให้ความชุ่มชื้นเป็นพิเศษผลลัพธ์ของทั้งสามชนิดต่างก็ดีมาก ๆ และทีมผู้บริหารของบริษัทก็พร้อมที่จะทำ
เมื่อมองดูรถของพวกเขาหายไป ฉันก็แอบถอนหายใจในใจ ถึงแม้ว่าคุณนายเสวียจะลืมช่วงความตายของคุณชายเสวียไปแล้ว แต่ความเจ็บปวดที่เหมือนโดนกรวยแหลมคมแทงทะลุเข้าไปในใจก็ยังฝังลึกอยู่ในก้นบึ้งหัวใจของเธอฉันยักไหล่ ถึงอย่างไรฉันก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ฉันไม่สามารถขอให้ทุกคนมาชอบตัวเองได้หรอกร่างบางกลับมาถึงห้องก็นอนหลับอย่างสบายใจ จนเช้าวันรุ่งขึ้นก็โดนปลุกให้ตื่นโดยเสียงเคาะประตูอย่างแรงฉันหาวหวอดพลางเดินไปเปิดประตูห้อง แล้วก็เห็นถังหมิงหลียืนอยู่นอกประตู เขาถือกระเป๋าสัมภาระธรรมดาใบหนึ่ง เขาหน้าซีดเผือดมาก ราวกับว่าไม่ได้นอนมาตลอดทั้งคืนเพราะรีบกลับมาเมื่อเขาเห็นฉันก็รีบโผเข้ามากอดไว้แน่น ทำให้ใบหน้าของฉันฝังอยู่ที่คอของเขาอย่างแรงและเขาก็พูดขึ้นทันที “ก่อนหน้านี้ฉันอยู่บนเกาะหิมะตลอด ฉันไม่รู้เลยว่าเธอว่าได้เจอกับอันตรายแบบนั้น ไม่อย่างนั้นฉันต้องรีบกลับมาช่วยเธอโดยเร็วที่สุดแน่นอน”ฉันยิ้มออกมา “เป็นเพราะอย่างนี้เองเหรอ วางใจเถอะ ฉันไม่เป็นอะไร”เขาจับหน้าของฉันไว้แล้วก้มหน้าลงจูบอย่างเร็วฉันตะลึงไปครู่หนึ่งแล้วรีบผลักเขาออก พลันพูดอย่างร้อนใจ “นายเป็นบ้าไปแล้วเหรอ?”“ใช่ ฉันบ้าไปแ
พลังที่เก้าเอ่ยแทรก “หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ที่จริงผีตัวนี้มีชีวิตและมีเนื้อหนัง แค่เนื้อหนังของมันก็คือทั้งหมดของโรงเรียนแห่งนี้เท่านั้นเอง”ราชาตัวจริงแห่งเจิ้งหยางยังกล่าวอีกว่า “ฉันไม่ได้เจอผีที่มีเลือดเนื้อในร่างกายมนุษย์แบบนี้มาหลายปีแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะยังมีอยู่ในโลกมนุษย์”“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ถึงแม้ว่าในตอนนี้ในโลกมนุษย์จะขาดแคลนพลังปราณ แต่อารมณ์เจ็ดอายตนะหกของผู้คนก็ยังแข็งแกร่งมากขึ้น” พลังที่เก้าพูดขึ้น “ผีก็มากขึ้นเรื่อย ๆ”หัวใจที่ยังคงเต้นอยู่ก้อนนั้นเริ่มเผาไหม้และควันหนาค่อย ๆ ลอยออกมา ผีใบหน้าสีดำตัวนั้นเผยหน้าตาที่แสนเจ็บปวดออกมา พลันกำแพงรอบ ๆ ก็เริ่มลุกไหม้ขึ้นมา เปลวไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็วและพวกเราก็ได้วิ่งออกมาจากโรงเรียนแห่งนั้น อาคารร้างทั้งหลังล้วนจมลงไปในเปลวไฟ ริ้วลิ้นแห่งเปลวไฟยังกระโจมอยู่อย่างไม่หยุดยั้ง ดูเหมือนว่าฉันจะเห็นวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งขึ้นไปในอากาศด้วยแสงไฟ“อ๊าก!” ในที่สุดผีใบหน้าสีดำก็ปรากฏขึ้นมาในเปลวไฟ มันโดนไฟเผาจนเล็กลงเรื่อย ๆ และมองไม่เห็นอีกต่อไปฉันถอนหายใจอย่างโล่งอกยาว ๆ ในที่สุดก็จบลงแล้ว จะไม่มีเกมส์แห่งความตายอีกต่อไปแล้ว และก
เมื่อมองดูใบหน้าที่หล่อเหลาแต่เปื้อนเลือดของคุณชายเสวีย ในใจของฉันก็รู้สึกเหน็บหนาวขึ้นมาเป็นพัก ๆ[เป็นไปไม่ได้มั้ง คุณเสวียตายแล้ว?][จะเป็นไปได้ยังไง ถึงแม้ว่าคุณเสวียจะมาเข้าร่วมไลฟ์สดแค่ชั่วคราว แต่จะตายง่าย ๆ แบบนี้ได้อย่างไร? เขาเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้เชียวนะ][ใครบอกว่าจะไม่มีคนตาย? ทุกครั้งที่แอดมินไลฟ์สดล้วนอันตรายมาก แต่ก็ยังเอาชีวิตรอดจากภัยอันตรายมาได้หลายครั้ง เมื่อก่อนที่จอมเผด็จการไม่ตายก็แค่โชคดีมากเท่านั้นเอง พวกคุณคิดว่าพวกเขาจะมีรัศมีของตัวเอกจริง ๆ เหรอ?][แอดมิน ฉันคือคนใช้ของครอบครัวคุณเสวีย เมื่อสักครู่แม่ของเขาก็ดูไลฟ์สดอยู่ แต่ตอนนี้ได้เป็นลมหมดสติไปแล้ว คุณเตรียมใจรอรับความโกรธของตระกูลเสวียได้เลย][คนข้างบนที่อาศัยบารมีคนอื่นมาอวดเบ่งชาวบ้าน ถ้าพวกคุณมีความสามารถก็ไปจัดการกับผีใบหน้าเองสิ จะระบายอารมณ์ใส่แอดมินทำไม?][แอดมิน...จะมีชีวิตกลับมาไหม?]ขณะนี้ในใจของฉันว่างเปล่า ฉันคุกเข่าลงบนพื้นและกอดหัวของเสวียห้าวเทียนไว้ ทั้งยังรู้สึกหนาวเย็นไปทั่วร่างกายฉันและคุณชายเสวียไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น แต่เขากับฉันได้ร่วมเป็นร่วมตายกันมาในเกมส์แห
เพี๊ยะ เพี๊ยะ! ไฟในเมรุเผาศพดังขึ้นและลัดวงจร กระแสไฟฟ้ารวมตัวกันในมือของฉันจนกลายเป็นก้อนใหญ่ [ว้าว ใช้กระแสไฟฟ้าหนึ่งแสนโวลต์ควบแน่นเป็นสายฟ้าก้อนกลม แอดมินเธอเก่งขั้นเทพเลยอ่ะ] [แรงดันไฟฟ้าสูงเท่าหนึ่งแสนโวลต์ที่ไหนกัน!] [ฉันพูดเกินจริงไม่ได้เหรอ? คุณจะยุ่งเกินไปแล้ว?] “คุณเสวีย หลบไปเร็วเข้า!” ฉันตะโกนเสียงดังแล้วโยนกระแสไฟฟ้าในมือออกไป ตูม! เกิดเสียงดังสนั่นขึ้น กระแสไฟฟ้าพุ่งเข้าใส่ร่างของผีกองกอย ร่างของมันเปล่งแสงสีม่วงออกมาและส่งเสียงร้องเหมือนสัตว์ป่า แต่สุดท้ายร่างกายก็ไหม้กลายเป็นศพไหม้เกรียม “เร็วเข้า เอามันเข้าไปในเตาเผาศพ!” ฉันและเสวียห้าวเทียนอดทนต่อกลิ่นเหม็นเน่าเพื่อยกผีกองกอยขึ้น แล้วรีบเข้าไปในห้อง พร้อมเปิดเตาเผาศพและโยนศพเข้าไป บึ้ม! ในเตาเผามีเปลวไฟลุกโชนออกมา ผีกองกอยดิ้นทุรนทุรายอย่างดุเดือด ฉันตะโกน “ปิดประตู!” ประตูเตาเผาได้ปิดลงเสียงดังปัง เสียงดิ้นรนดังออกมาจากด้านใน ศพถูกเผาเป็นเวลานานมากก่อนที่จะหยุดลง และท้ายที่สุดก็มีเศษกระดูกออกมาจากรูด้านหลัง กระดูกไม่ได้ถูกเผาจนเป็นเถ้าถ่านทั้งหมด แต่เผาแล้วกลายเป็นเศษเล็ก ๆ พวกมัน
[เพื่อเงินเพียงเล็กน้อย แต่เขากลับฆ่าพ่อของตัวเอง ช่างน่าเศร้าจริง ๆ] [มีลูกชายแบบนี้ มิน่าล่ะพ่อของเขาถึงได้โกรธทะยานขึ้นจนศพเปลี่ยนไป] [จะไปโทษใครได้? นอกจากตัวเขาเอง ใครบอกให้เขารักลูกชายมากเกินไปล่ะ? รู้จักแต่เลี้ยงแต่ไม่รู้จักอบรม นั่นเป็นความผิดขอพ่อแม่] ในห้องไลฟ์สดมีการโต้เถียงทุกแบบอย่าง ผีดิบฟางเหวินตัวนั้นกระโดดออกมาจากโลงศพ โลงศพเป็นโลงไม้เนื้อแข็งแบบดั้งเดิม และสูงพอ ๆ กับไหล่ของผู้ใหญ่ แต่มันสามารถมันกระโดดออกมาได้ในพริบตา ในตอนนั้นเอง ร่างกายของฟางเหวินก็เริ่มมีขนงอกออกมาอย่างรวดเร็ว เขามีขนปุกปุยราวกับลิงอุรังอุตังที่เป็นบรรพบุรุษ [ผีกองกอย! นี่มันผีกองกอยจริง ๆ!] [ผีกองกอยเป็นกระดูกเหล็กทองแดงในตํานาน! มันเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว กระโดดขึ้นอาคารบ้านเรือนไปบนต้นไม้ กระโดดโลดเต้นราวกับบิน ไม่กลัวไฟธรรมดา หรือแม้แต่แสงอาทิตย์] [ข้างบนมีความรู้เยอะจัง] [ไร้สาระ เว็บไป๋ตู้ก็เขียนเอาไว้แบบนั้น] ฉันเองก็ประหลาดใจเช่นกัน เขาถูกลูกชายแท้ ๆ ของตัวเองฆ่าตาย ลูกชายก็อกตัญญู และมักจะด่าทอเขา เขามีความคับข้องใจมาเป็นเวลานาน แถมลูกชายก็ไม่ได้จัดงานศพให้ หลังจ
ฉันถามถึงที่อยู่และเรียกแท็กซี่กับเสวียห้าวเทียน จนมาถึงเมืองเล็ก ๆ ที่เรียกว่าฝางเจีย เมืองนี้ค่อนข้างหดหู่กว่าเมืองชิงหยาง มีเพียงคนแก่ใกล้วาระสุดท้ายที่นั่งอาบแดดอยู่หน้าประตู เราสอบถามเกี่ยวกับโรงฌาปนกิจศพในเมืองฝางเจีย วันนี้ไม่มีการจัดงานศพ ภายในนั้นเงียบมาก และมีชายชราคนหนึ่งกําลังกวาดพื้น “ขอถามหน่อยค่ะ คุณคือผู้เฒ่าฟางใช่ไหมคะ?” ฉันก้าวไปข้างหน้าและถามเขาทันที เขามองฉันอย่างระมัดระวังพลางกล่าว “คุณมีธุระอะไร?” “เมื่อสองวันก่อน มีช่างขนศพพาศพหกศพมาค้างคืนที่นี่ใช่ไหมคะ?” ฉันถาม ความระแวดระวังในดวงตาของชายชรายิ่งทวีความรุนแรงขึ้น “ผมจําไม่ได้แล้ว” พูดจบก็เดินเข้าบ้านไป เสวียห้าวเทียนเดินไปข้างหน้าและจับไหล่ของอีกฝ่ายไว้ “ผู้เฒ่าฟาง อย่าเพิ่งรีบไปสิ มาคุยกับพวกเราเถอะครับ” พร้อมกันนั้น เขาก็ยัดธนบัตรสีแดงสองใบใส่มือชายชราไปด้วย เขาลังเลเล็กน้อยและกำธนบัตรสีแดงไว้ ก่อนจะกล่าว “คุณต้องการถามอะไร?” เสวียห้าวเทียนยิ้มบาง “เราแค่อยากรู้ว่าในโลงศพทั้งหกศพนั้นบรรจุอะไรไว้” “แล้วมันจะเป็นอะไรได้อีกล่ะ? แน่นอนว่าต้องเป็นศพอยู่แล้ว” ตาแก่ฟางพูดอย่างไม่สบอารมณ์
ฉันยิ่งงงเข้าไปใหญ่ การที่ภูตผีจากโรงเรียนมัธยมหวนซานนี้ รวบรวมเรื่องลี้ลับที่เกิดขึ้นจริงไว้มากมายเพื่อทดสอบคนอื่น ที่แท้เพราะอะไรกันแน่นะ? เขาวางแผนอะไรอยู่นะ? จริงสิ! ความกลัวไงล่ะ! ความกลัวที่พวกเราประสบในมิติวิญญาณจะกลายเป็นแหล่งพลังงานของมัน ทําให้มันแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ นี่เป็นเหตุผลว่าทําไมภูตผีถึงชอบทำให้คนกลัว หลังจากที่มนุษย์หวาดกลัวแล้ว พลังหยางจะถูกทําลาย ทำให้ถูกสิงได้ง่ายขึ้น แต่ภูตผีบางชนิดสามารถดูดซับความกลัวได้ เพื่อทำให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้น พอดึกขึ้นเรื่อย ๆ ก็มีเสียงกรนดังมาจากห้องเวร ตอนแรกฉันว่าจะไปผนึกศพพวกนี้ก่อน แต่ตัวอักษรเลือดพูดถึงผีดิบที่ฆ่าศพฟื้นคืนชีพ ถ้าฉันฝืนเปลี่ยนเค้าโครงเรื่อง ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ยังไงก็ต้องระวังตัวไว้จะดีกว่า พริบตาเดียวก็เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว และเป็นตอนที่พลังหยินพลุ่งพล่านที่สุด พระจันทร์เสี้ยวสีแดงเลือดดวงนั้นสว่างจนแสบตาเป็นพิเศษ ฉันสอนวิธีเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เสวียห้าวเทียน โดยการปิดปากและจมูก เพื่อให้ผีดิบไม่ได้กลิ่นมนุษย์บนตัวเรา ทันใดนั้นกลิ่นอายวิญญาณก็พวยพุ่งออกมาจากในห้อง ศพทั้งหกพลันลืมตาขึ้นมาพร้อ