Share

บทที่ 2

Author: เอ้อไป๋ยา
last update Last Updated: 2024-02-27 16:02:14
เมื่อได้ยินประโยคนี้ สีหน้าของหลู้เหวินโจวก็เย็นชาลงทันที

ดวงตาดำขลับสุดลึกล้ำจ้องมองไปที่เฉียวอี

“ฉันบอกเธอแล้วไงว่าฉันจะไม่แต่งงาน ถ้ารับไม่ได้ ก็อย่าตกลงแต่แรก”

หางตาของเฉียวอีแดงก่ำ “เพราะว่าตอนแรกมันเป็นความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคน แต่ตอนนี้มันกลายเป็นสามไปแล้ว”

“เธอไม่ได้คุกคามเธอ”

เฉียวอียิ้มให้กับตัวเอง

"เธอโทรมาแค่สายเดียวก็ทำให้คุณทิ้งฉันไว้ตามลำพังได้ ไม่ว่าฉันจะเป็นหรือตาย หลู้เหวินโจว คุณบอกฉันหน่อยสิ ว่ายังไงถึงจะเรียกว่าคุกคาม"

ความโกรธในดวงตาของหลู้เหวินโจวนั้นชัดเจน:"เฉียวอี แค่ปวดท้องประจำเดือนทำไมเธอต้องทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ด้วย?"

“แล้วถ้าฉันท้องล่ะ?”

"อย่าพยายามเอาเรื่องลูกมาเป็นข้อแก้ตัว ฉันป้องกันดีทุกครั้ง!"

น้ำเสียงของชายหนุ่มเย็นชาโดยไม่ลังเลเลยสักนิด

ถ้าลูกนั้นยังอยู่ เขาก็คงจะลากเธอไปเอาออกซะ

ภาพเพ้อฝันเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เหลืออยู่ในใจของเฉียวอีก็พังทลายลงอย่างสิ้นเชิง

มือทั้งสองข้างของเธอกำหมัดเอาไว้แน่น จนเธอไม่รู้สึกเจ็บปวดแม้ว่าเล็บจะเจาะเข้าไปในเนื้อของเธอแล้วก็ตาม

เธอยกคางขึ้น และยิ้มอย่างขมขื่น

“คุณเคยพูดเอาไว้ว่า เราอยู่ด้วยกันจะคุยกันแต่เรื่องความรู้สึกเท่านั้น และไม่คุยเรื่องแต่งงานกัน ถ้าวันไหนที่มีคนหนึ่งเบื่อแล้ว เราคบกันและเลิกกันได้ง่าย ๆ เลย”

หลู้เหวินโจว ฉันเบื่อแล้ว เราเลิกกันเถอะ!"

เธอพูดออกมาอย่างชัดเจนและรัดกุม อย่างไม่เยิ่นเย้อ

แต่ไม่มีใครรู้ ว่าขณะนี้มีเลือดสูบฉีดออกมาจากหัวใจของเธอ

เส้นเลือดที่หลังมือของหลู้เหวินโจวโป่งขึ้นมา และเขาก็จ้องมองเฉียวอีอย่างดุเดือด

“เธอรู้ผลของการพูดแบบนี้ไหม!”

“ฉันรู้ว่าการพูดแบบนี้ออกมาจากของฉันมันทำให้คุณไม่พอใจเอามาก ๆ แต่หลู้เหวินโจว ฉันเหนื่อยแล้ว ฉันไม่ต้องการความรักแบบคนสามคน”

ในอดีตเธอคิดในสิ่งที่ไม่สามารถเป็นจริงได้มากเกินไป โดยมักจะคิดอยู่เสมอว่าตราบใดที่คนสองคนรักกัน ก็ไม่สำคัญว่าจะต้องแต่งงานกันหรือไม่

แต่เธอคิดผิดไป เพราะหัวใจของหลู้เหวินโจวไม่เคยอยู่ที่เธอเลย

หลู้เหวินโจวบีบคางของเฉียวอี

“จะบังคับให้ฉันแต่งงานกับเธอด้วยวิธีนี้เหรอ? เฉียวอี เป็นฉันที่ประเมินเธอต่ำไป หรือเธอคิดว่าตัวเองแน่มากเกินไป”

เฉียวอีมองเขาด้วยความผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง "ไม่ว่าคุณจะคิดอย่างไร วันนี้ฉันก็จะย้ายออกไปจากที่นี่"

พูดจบ เธอก็ลุกขึ้นจากเตียง และกำลังจะเดินออกไป แต่กลับถูกหลู้เหวินโจวดึงเธอเข้าไปในอ้อมแขนของเขา

ริมฝีปากที่เปียกและร้อนกัดเข้าที่ริมฝีปากของเธออย่างแม่นยำ

เสียงอันน่าดึงดูดที่ทุ้มลึกก็ดังขึ้นมาพร้อมกับความเยือกเย็น

“หลังจากที่แยกทางกับฉันแล้ว ไม่กลัวหรือว่าตระกูลเฉียวจะย้อนกลับไปเป็นดั่งอดีต? นี่คือสิ่งที่เธอใช้ความเยาว์ทั้งสามปีแลกมานี่”

ทันใดนั้นสมองของเฉียวอีก็เหมือนดั่งเกิดระเบิดขึ้นมา และดวงตาก็เบิกกว้างขึ้นมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

“คุณพูดให้ชัดเจนว่าความเยาว์ทั้งสามปีมันคืออะไร?”

แล้วปลายนิ้วอันเย็นเฉียบของหลู้เหวินโจวก็บดขยี้รอยกัดบนริมฝีปากของเธออย่างไม่ใส่ใจ และยิ้มขึ้นตรงมุมริมฝีปากของเขาอย่างเยาะเย้ย

“เธอวางกับดักให้ฉันช่วยเธอ และเต็มใจที่จะติดตามฉันแม้ว่าจะไม่ได้แต่งงานก็ตาม ถ้าไม่ใช่เพื่อช่วยพ่อของเธอกอบกู้ตระกูลเฉียว แล้วเธอมีเหตุผลอื่นใดที่จะให้ฉันเชื่อหรือเปล่าล่ะ?"

เมื่อสามปีที่แล้วตระกูลเฉียวต้องเผชิญกับวิกฤตทางเศรษฐกิจที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

หลังจากที่หลู้เหวินโจวคบกับเธอ เขาก็ช่วยให้ตระกูลเฉียวมีธุรกิจมากมาย และหลุดพ้นจากวิกฤติมาได้

ในตอนนั้นเธอคิดว่าหลู้เหวินโจวชอบเธอ ดังนั้นจึงเต็มใจที่จะช่วยเหลือ

เฉียวถามด้วยริมฝีปากที่สั่นเทาว่า “ดังนั้นในช่วงสามปีมานี้ ความเมตตากรุณาทั้งหมดที่คุณมีต่อฉันก็เป็นเพียงเพื่อความสนุกสนาน ไม่ได้มีความรู้สึกใด ๆ อยู่เลยอย่างงั้นเหรอ?”

หลู้เหวินโจวโกรธมากกับคำพูดของเฉียวอีจนเส้นเลือดที่หน้าผากของเขาพุ่งขึ้นมา

เขากัดฟันพูดขึ้นว่า: "เกมที่ใช้ท้องน้อยไม่ได้ใช้ใจ เธอคิดว่าฉันจะจริงจังกับมันเหรอ?"

ประโยคสั้น ๆ นี้ทำให้ใจของเฉียวอีเจ็บปวด

เธออุทิศตนอย่างสุดซึ้งมาเป็นเวลาสามปี แต่ได้รับการปฏิบัติจากหลู้เหวินโจวเสมือนเป็นการแลกเปลี่ยนระหว่างเงินกับเซ็กส์

เธอเป็นเพียงคนเดียวที่โง่ที่คิดไปว่าเขาจะรักเธอ

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เฉียวอีก็รู้สึกราวกับว่าผิวหนังในทุกตารางนิ้วของเธอกำลังถูกสุนัขล่าสัตว์ฉีกเป็นชิ้น ๆ อยู่

แล้วความเศร้าโศกในดวงตาก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นเย็นชา

“ความเยาว์สามปีก็น่าจะเพียงพอที่จะตอบแทนน้ำใจของประธานหลู้ได้แล้ว ตอนนี้เราก็ไม่มีอะไรติดค้างกันแล้ว จากนี้ไป เราก็ต่างคนต่างอยู่กันอย่างสันติ!”

หลู้เหวินโจวจ้องมองไปที่ใบหน้าเล็ก ๆ ที่ดื้อรั้นของเฉียวอีด้วยความโกรธในดวงตาของเขาที่เริ่มรุนแรงขึ้นมาเรื่อย ๆ

“เฉียวอี ฉันจะให้เวลาเธอคิดทบทวนให้ชัดเจนหนึ่งคืน แล้วค่อยมาคุยกับฉัน!”

ชายหนุ่มหันหลังกลับและเดินออกไปพร้อมกับรัศมีที่เย็นชา

เฉียวอีถูกทิ้งให้ขดตัวอยู่บนเตียงเพียงลำพัง

น้ำตาที่อดกลั้นเอาไว้ก็ไหลลงมาอาบแก้มโดยไม่รู้ตัว

ความรักเจ็ดปีของเธอ และการดูแลอย่างพิถีพิถันตลอดสามปีของเธอ ได้กลายเป็นข้อตกลงที่คลุมเครือในสายตาของหลู้เหวินโจว

ในความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคน ใครหวั่นไหวก่อน คนนั้นก็จะแพ้

ยิ่งไปกว่านั้นเธอนั้นตกหลุมรักหลู้เหวินโจวเมื่อสี่ปีก่อน

เธอจึงพ่ายแพ้อย่างน่าอนาถ และเวทนาเกินกว่าจะทนดูได้

หลังจากที่เฉียวอีเศร้า เธอก็เก็บสัมภาระและจากไปโดยไม่หันกลับมามอง

——

ในอีกฝั่ง

รถโรลส์-รอยซ์ คัลลิแนนสีดำได้พุ่งทะยานผ่านถนนอันเงียบสงบไปราวกับสายฟ้า

ในหัวของหลู้เหวินโจวเต็มไปด้วยท่าทางอันเด็ดเดี่ยวของเฉียวอีที่พูดคำว่า'เราเลิกกันเถอะ'ออกมา

เพียงเพราะว่าไม่ได้ฉลองวันเกิดกับเธอ เพียงเพราะความหึงหวง

เธอถึงได้จะเลิกกับเขา

ดูเหมือนว่าเขาจะต้องดูแลคนเจ้าแง่แสนงอนนี้ให้ดี

หลู้เหวินโจวโกรธมากจนฉีกเนคไทและโยนมันทิ้งไป

โทรศัพท์มือถือดังขึ้นมาหลายครั้งกว่าเขาจะรับสาย

"มีอะไร?"

เสียงคนเสเพลดังมาจากสายอีกด้านหนึ่ง

“ทำอะไรอยู่ ไม่รับโทรศัพท์เสียตั้งนาน”

"ขับรถ!"

ซู่เหยียนจือหัวเราะอย่างชั่วร้าย:"ขับรถคันไหนล่ะ? คันของเลขาเฉียวเหรอ? ฉันรบกวนนายหรือเปล่า?"

“นายว่างมากเหรอ?”

"เปล่า ฉันก็แค่ถามดู คลับไนท์บาร์มาเปล่า? อาเฉินเลี้ยง"

สิบนาทีต่อมา

ณ คลับไนท์บาร์

ซู่เหยียนจือยื่นแก้วเหล้าให้หลู้เหวินโจว แล้วมองเขาด้วยรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์

“หน้าจะลากพื้นอยู่แล้ว เป็นอะไร เลิกกับเฉียวอีแล้วเหรอ?”

หลู้เหวินโจวจ้องมองเขาด้วยสายตาเย็นชา"ไม่เคยเห็นคู่รักหนุ่มสาวที่แง่งอนกันเพื่อกระชับความสัมพันธ์เหรอ?"

“อุ๊ย! นายหลงรักใครคนหนึ่งมานานแล้วเหรอ?”

ซู่เหยียนจือจงใจเน้นคำบางคำ และรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็ดูดุร้ายและเสเพล

หลู้เหวินโจวเตะเขาอย่างไร้ความปราณี:"ออกไป!"

“ได้ ฉันจะไป แต่อย่าหาว่าฉันไม่เตือนนายนะ ถ้าคุณชอบเฉียวอี ก็ขีดเส้นตายกับซ่งชิงหยาให้มันชัดเจน อย่ารีบไปหาเธอเพียงโทรมาแค่สายเดียวแบบนั้นอีก พอถึงเวลานั้นที่เมียของนายหายไปแล้วก็อย่ามาร้องไห้กับฉันก็แล้วกัน”

หลู้เหวินโจวขมวดคิ้ว:"ฉันบอกเธอไปแล้วว่าเธอไม่อาจคุกคามอะไรเธอได้ แต่เธอไม่เชื่อ"

"น่าจะผู้หญิงคนไหนก็ไม่เชื่อหรอก ซ่งชิงหยาเป็นคู่รักในวัยเด็กของนาย และหมั้นหมายกันมาตั้งแต่เด็ก นายเคยเห็นผู้หญิงคนไหนที่สามารถทนให้ผู้ชายของเธอไปหาคนรักในวัยเด็กของเขาได้ตลอดเวลาหรือเปล่าล่ะ?"

หลู้เหวินโจวหยิบบุหรี่ออกมาจากซองบุหรี่ ลดศีรษะลงแล้วจุดบุหรี่ ก่อนจะสูบเข้ามาลึก ๆ และช้า ๆ

ม่านตาสีเข้มก็ขุ่นมัวลงมาทันที

“ฉันกับเธอ…...”

ก่อนที่เขาจะพูดจบ ประตูห้องส่วนตัวก็ถูกผลักให้เปิดออก

ซ่งเยี่ยนเฉินเข้ามาพร้อมกับจูงมือซ่งชิงหยาเข้ามาด้วย

“ขออภัย วันนี้ชิงหยาอารมณ์ไม่ดีฉันพาเธอมาด้วย พวกนายไม่รังเกียจใช่ไหม”

ซู่เหยียนจือเหลือบมองไปที่หลู้เหวินโจวที่มีสีหน้าเศร้าหมอง แล้วหัวเราะเยาะขึ้นมา

"จะรังเกียจได้อย่างไร น้องสาวนายก็คือน้องสาวฉัน ชิงหยา มานั่งกับพี่เหยียนจือทางนี้สิ"

รอยยิ้มบนใบหน้าของซ่งชิงหยานั้นอ่อนโยนและเรียบง่าย ซึ่งไม่ได้แสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมา “คุณอยู่หน้าเครื่องปรับอากาศ มันหนาวเกินไปค่ะ ฉันนั่งอยู่ที่นี่ก็ดีอยู่แล้วค่ะ”

พูดจบ เธอก็นั่งลงข้าง ๆ หลู้เหวินโจว

จากนั้นก็หยิบกล่องเล็ก ๆ ที่ละเอียดอ่อนออกมาจากกระเป๋าแล้ววางไว้ตรงหน้าของหลู้เหวินโจว

“พี่เหวินโจวคะ คราวที่แล้วพี่ต้องพลาดวันเกิดแฟนไปเพราะช่วยฉันเอาไว้ เธอไม่ได้โกรธพี่ใช่ไหมคะ?”

หลู้เหวินโจวพูดอย่างใจเย็นว่า:"ไม่"

“งั้นก็ดีค่ะ นี่คือลิปสติกที่ฉันฝากให้เธอแทนคำขอโทษค่ะ หากเธอเข้าใจผิดอะไร ฉันสามารถไปอธิบายต่อหน้าเธอให้ได้นะคะ”

หลู้เหวินโจวปฏิเสธอย่างไม่แม้แต่จะมอง

"ไม่ต้องหรอก"

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ดวงตาของซ่งชิงหยาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำทันที

“พี่เหวินโจว พี่โทษฉันที่ไปรบกวนพี่อยู่ตลอดหรือเปล่าคะ แต่สิ่งที่ฉันไม่ได้คิดก็คือ ฉันมักจะลืมตัวโทรหาพี่เสมอเมื่อฉันป่วยค่ะ”

พูดจบ น้ำตาเม็ดใหญ่ ๆ ก็ไหลอาบแก้มของเธอ

หลู้เหวินโจวเหลือบมองเธอ แล้วขมวดคิ้ว

เขาใส่ลิปสติกลงในกระเป๋าแล้วกระซิบว่า: "ฉันจะรับเอาไว้แทนเธอก็แล้วกัน"

จู่ ๆ ซ่งชิงหยาก็เปลี่ยนจากขุ่นมัวมาเป็นสดใส ก่อนจะยิ้มและรินเหล้าหนึ่งแก้วส่งให้กับหลู้เหวินโจว

"พี่เหวินโจว ลองชิมเหล้านี้ดูสิคะ พี่ชายฉันได้มาจากการประมูลในต่างประเทศค่ะ ซึ่งผลิตขึ้นในปีหนึ่งพันเก้าร้อยแปดสิบสองค่ะ"

เมื่อเธอยื่นแก้วเหล้าไปให้หลู้เหวินโจว นิ้วของเธอก็ไปแตะเข้าที่ข้อมือของเขาอย่างไม่ได้ตั้งใจ

หลู้เหวินโจวหลบทันที และนำบุหรี่ที่อยู่ในปากไปเขี่ยลงที่เขี่ยบุหรี่

เขาพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า:"วางไว้ตรงนั้นเถอะ"

เมื่อซ่งชิงหยาเห็นเขาปฏิเสธเธอเอามาก ๆ แววตาของเธอก็เย็นชาขึ้นมา

แต่ไม่นานก็กลับมามีพฤติกรรมที่ดีและเป็นคนรู้เรื่องรู้ราวขึ้นมา อีกครั้ง

ซ่งเยี่ยนเฉินชนแก้วเหล้ากับหลู้เหวินโจวแล้วพูดว่า"ฉันยังไม่เคยได้เจอแฟนนายเลย พาเธอมานั่งด้วยกันสักวันสิ"

ซู่เหยียนจือยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์:"ช่วงนี้อาจจะไม่ได้นะ ทั้งสองกำลังทะเลาะกันอยู่น่ะ"

ซ่งเยี่ยนเฉินมองดูใบหน้าที่ขุ่นมัวของหลู้เหวินโจวแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า:"ทะเลาะก็ส่วนของทะเลาะ ง้อนิดง้อหน่อยเดี๋ยวก็ดีกันแล้ว แต่อย่าเป็นเหมือนสามีของหญิงสาวที่ฉันเคยช่วยชีวิตเอาไว้ในวันนั้น ที่เธอกำลังจะตายจากการแท้งลูกและตกเลือด โทรหาเขายังไงก็ไม่รับสาย และได้ยินมาว่าอยู่กับผู้หญิงคนอื่นอยู่”

Related chapters

  • ไม่ยอมแต่ง พอลาออกมาร้องไห้หาอะไร   บทที่ 3

    มือของหลู้เหวินโจวจับแก้วเหล้าแน่นแล้วแน่นอีกหัวใจราวกับถูกแทงขึ้นในขณะนั้นวันนั้นซ่งชิงหยาฆ่าตัวตาย และเฉียวอีก็โทรหาเขาหลายสายมากเพราะความเจ็บปวดของประจำเดือน ในตอนแรกเขาก็รับสายโทรศัพท์ แต่หลังจากนั้นพอโมโหก็วางสายลงทันทีเธอคงไม่อยากเลิกกันเพราะเหตุนี้หรอกใช่ไหมหลู้เหวินโจวหลับตาลง ฟังซ่งเยี่ยนเฉินกับซู่เหยียนจือด่าทอสามีห่วย ๆ คนนี้ จนไม่รู้สึกถึงบุหรี่ที่ไหม้ไปตามปลายนิ้วของเขาจนมาถึงยังหลังมือเลยด้วยซ้ำเขากระสับกระส่ายตลอดทั้งคืนเขาไม่กลับไปในเวลานี้ เฉียวอีปกติคงจะโทรมาแสดงความเป็นห่วงตั้งนานแล้วแต่ตอนนี้เป็นเวลาตีหนึ่งกว่า ๆ แล้ว เขายังไม่ได้รับแม้แต่ข้อความด้วยซ้ำจู่ ๆ เขาก็รู้สึกไม่ดีและรีบดับก้นบุหรี่ลงทันที ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือแล้วเดินออกไปทันทีที่เขาออกมาจากประตูของบาร์ เขาก็เห็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เดินตรงมาหาเขาพร้อมกับถือตะกร้าดอกไม้สดอยู่ในมือเด็กสาวยิ้มแล้วถามเขาว่า"คุณผู้ชายคะ อยากจะซื้อให้แฟนสักสองสามดอกไหมคะ?"หลู้เหวินโจวมองดูดอกกุหลาบสีแชมเปญที่เรียงรายและแข่งกันเบ่งบานอยู่ในตะกร้า และทันใดนั้นคำพูดของซ่งเยี่ยนเฉินก็ดังก้องขึ้นมาในหัวว่

    Last Updated : 2024-02-27
  • ไม่ยอมแต่ง พอลาออกมาร้องไห้หาอะไร   บทที่ 4

    จูบของหลู้เหวินโจวนั้นรุนแรงและเอาแต่ใจอยู่เสมอ ทั้งยังไม่ให้โอกาสเฉียวอีได้หลุดพ้นออกไปเขาวางเธอไว้บนโต๊ะ และใช้มือข้างหนึ่งจับคางของเธอ ส่วนอีกมือก็จับเอวของเธอเอาไว้แน่นสัมผัสที่นุ่มนวลและอ่อนหวานกระตุ้นทุกเส้นประสาทในร่างกายของเขาสัตว์ร้ายที่อยู่ในร่างของเขาก็ราวกับกำลังตีกรงและพยายามจะออกไปในช่วงเวลาที่เขาและเฉียวอีอยู่ด้วยกัน สิ่งต่าง ๆ ก็เป็นไปอย่างกลมกลืนกันมากและไม่ว่าเขาจะต้องการมากแค่ไหน เฉียวอีก็ทำตามความปรารถนาของเขาตลอดบางครั้งก็รู้สึกเหนื่อยและเป็นวิงเวียน แต่ก็ไม่มีข้อกังขาใด ๆแต่ตอนนี้เธอที่อยู่ใต้ร่างเขานั้น กลับแข็งแกร่งมาก และดิ้นรนแทบตายอยู่ตลอดและน้ำตาอุ่น ๆ ก็ยังไหลออกมาจากหางตาหลู้เหวินโจวไม่ได้ทำต่อนิ้วเรียวยาวเช็ดน้ำตาออกจากหางตาของเฉียวอีเบา ๆในน้ำเสียงนั้นแหบแห้งและแฝงไปด้วยความไม่พอใจ“เฉียวอี เกมระหว่างเราจะจบลงได้เมื่อฉันเป็นคนพูดเท่านั้น! เข้าใจไหม?”เฉียวอีมองดูเขาทั้งน้ำตา และริมฝีปากที่เปื้อนเลือดก็เผยอเปิดออกมาเล็กน้อย“หลู้เหวินโจว ฉันจะไม่อยู่เป็นความอัปยศให้กับคุณ!”หลู้เหวินโจวก้มศีรษะลงและเลียเลือดบนริมฝีปากของเธอออก พร

    Last Updated : 2024-02-27
  • ไม่ยอมแต่ง พอลาออกมาร้องไห้หาอะไร   บทที่ 5

    เฉียวอีเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และก้าวออกไปข้าง ๆ รวดเร็วดุจสายฟ้า แต่อย่างไรก็ตาม กาแฟร้อน ๆ บางส่วนก็ยังคงกระเด็นใส่เท้าของเธอเธอหายใจไม่ออกด้วยความเจ็บปวดและในตอนที่กำลังจะโต้เถียงกับซ่งชิงหยา พอเงยหน้าขึ้น ก็เห็นซ่งชิงหยาทุบไปที่ตู้กระจกที่อยู่ด้านหลังเธอจึงเอื้อมมือออกไปดึงตามสัญชาตญาณแต่ซ่งชิงหยากลับหลบพ้น"เพล้ง"แขนของซ่งชิงหยาทำให้กระจกแตกและเลือดก็ไหลไปตามแขนของเธอลงไปสู่พื้นในขณะนี้ เสียงเย็นชาของหลู้เหวินโจวก็ดังมาจากด้านหลัง“เฉียวอี เธอทำอะไรน่ะ!”ร่างสูงเพรียวของหลู้เหวินโจวพุ่งเข้าไปข้าง ๆ ซ่งชิงหยาอย่างรวดเร็วดวงตาที่ดำขลับก็เริ่มเข้มขึ้นเรื่อย ๆ"เธอเป็นยังไงบ้าง?"จากนั้นก็มีน้ำตาไหลอยู่บนหน้าซีด ๆ ของซ่งชิงหยา และปากของเธอก็กระตุก“พี่เหวินโจว ทั้งหมดมันเป็นความผิดของฉันเองค่ะ ฉันไม่ทันระวังทำกาแฟหกใส่เลขาเฉียว ทำให้เธอเข้าใจผิดว่าฉันตั้งใจสาดใส่เธอ เธอจึงผลักฉันค่ะพี่อย่าไปโทษเธอเลยจะได้ไหมคะ?"เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ดวงตาของเฉียวอีก็เบิกกว้างขึ้นมาทันทีเธอไม่คาดคิดว่าซ่งชิงหยาจะใช้อุบายทำร้ายตัวเองเพื่อใส่ร้ายเธอเช่นนี้เธอรีบอธิบายขึ้น

    Last Updated : 2024-02-27
  • ไม่ยอมแต่ง พอลาออกมาร้องไห้หาอะไร   บทที่ 6

    ดวงตาของหลู้เหวินโจวแข็งค้างและมองเฉียวอีอย่างเย็นชา“ถ้าเธออยากตาย ก็ลองดู”สีหน้าเยาะเย้ยปรากฏขึ้นบนใบหน้าอันละเอียดอ่อนของเฉียวอี: "ทำไมคุณถึงคิดว่าฉันไม่เคยลองล่ะ? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันเสียเลือดไปสองพันซีซี คุณจะยังให้ฉันบริจาคให้กับเธออยู่หรือเปล่า?""เฉียวอี อย่าสร้างปัญหาเกินสมควร การสูญเสียเลือดสูงสุดในช่วงมีประจำเดือนนั้นไม่เกินหกสิบซีซีเท่านั้น ดังนั้นควรหาข้อแก้ตัวที่สมเหตุสมผลหน่อย"เฉียวอียิ้มเศร้า ๆเธอพูดชัดเจนขนาดนี้แล้ว แต่เขาไม่เชื่อเลยด้วยซ้ำหากเขาจะใส่ใจเธอมากขึ้นอีกหน่อย เขาก็คงจะถามเธอสักหน่อยแม้ว่าเขาจะเข้าใจเธอเพียงเล็กน้อย แต่เขาก็น่าจะรู้ว่าเธอไม่ใช่คนที่จะปฏิเสธที่จะช่วยเหลือใครซักคนนี่คือความแตกต่างระหว่างรักกับไม่รักปากเล็ก ๆ ของซ่งชิงหยาทำให้เขาสับสนได้มากมายแต่เธอที่ได้ผ่านการแท้งที่อันตรายเช่นนี้มา เขากลับไม่สังเกตเห็นเลยสักนิดในตอนที่เฉียวอีกำลังเจ็บปวดใจอยู่ เธอก็เห็นร่างของชายผู้นั้นอยู่ที่ประตูหน้าวอร์ดเฉียวอีก็ตัวแข็งทื่อไปครู่หนึ่งขณะที่หมดสติไปในวันนั้น เฉียวอีก็ได้เห็นร่างหนึ่งเข้าเสียงที่อ่อนโยนและแผ่วเบาของผู้ชายคนนี้ก็ย

    Last Updated : 2024-02-27
  • ไม่ยอมแต่ง พอลาออกมาร้องไห้หาอะไร   บทที่ 7

    เฉียวอีลืมตาขึ้น และเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยราวกับว่าเธอ กำลังจับที่พึ่งสุดท้ายไว้ได้อยู่มือทั้งสองข้างจับเสื้อของชายคนนั้นเอาไว้แน่น และพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาว่า: "รุ่นพี่ พาฉันออกไปจากที่นี่ทีค่ะ"เธอไม่อยากให้หลู้เหวินโจวเห็นเธออยู่ในสภาพที่จนตรอกเช่นนี้เธอไม่ต้องการสายตาน่าสงสารแบบนั้นจากเขาเธอไม่ต้องการอะไร นอกจากออกไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุดเหยียนซิงเฉิงมองดูเธออย่างกังวล: "เธอจะกลับไปทั้งแบบนี้ได้ยังไง? ฉันจะพาเธอไปหาหมอนะ"“ไม่ต้องค่ะ รุ่นพี่! ฉันเพิ่งบริจาคเลือดมา ร่างกายก็เลยไม่ไหวนิดหน่อยค่ะ คุณแค่ไปส่งฉันกลับไปที่บ้านก็ได้แล้วค่ะ”ดวงตาอันอ่อนโยนของเหยียนซิงเฉิงแสดงความเป็นห่วงออกมาเล็กน้อยเขาก้มลงและอุ้มเฉียวอีไว้ในแนวนอนและกระซิบอย่างแผ่วเบาว่า: "ไม่ต้องกลัวนะ ฉันจะพาเธอออกไปเอง"เมื่อหลู้เหวินโจวไล่ตามออกมา ก็เห็นเฉียวอีถูกชายคนหนึ่งอุ้มเข้าไปในรถพอดีชายคนนั้นมองเธอด้วยความเป็นห่วงและสงสารหลู้เหวินโจวโกรธมากจนกำหมัดแน่นเขามองดูรถที่ขับออกไปจากสายตาของเขาด้วยสายตาที่ขุ่นมัว——เมื่อเฉียวอีตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ก็เป็นเช้าวันรุ่งขึ้นแล้วไม่ได้กินอะไรมา

    Last Updated : 2024-02-27
  • ไม่ยอมแต่ง พอลาออกมาร้องไห้หาอะไร   บทที่ 8

    เสียงของซ่งชิงหยาดังมาก จนเฉียวอีได้ยินอย่างชัดเจนรวมทั้งคำพูดที่บีบหัวใจของหลู้เหวินโจวเมื่อครู่นี้ทำให้เฉียวอีรู้สึกว่าความรักตลอดเจ็ดปีของตัวเองนั้นมันสูญเปล่าเธอมองหลู้เหวินโจวด้วยสายตาที่เย็นชา "ฉันแค่ขอให้เสี่ยวหลี่ช่วยบันทึกวิดีโอนั้น ไม่ได้ขอให้เธอลบมัน"หลู้เหวินโจวมองเธออย่างไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมา: "พยานและหลักฐานทางกายภาพก็อยู่กันหมด เธอยังจะเล่นลิ้นอยู่อีกเหรอ?"เฉียวอียิ้มอย่างเศร้าสร้อยเล็กน้อยทำไมเธอจะต้องอธิบายให้เขาฟังด้วยเป็นไปได้ไหมที่จะคาดหวังว่าหลู้เหวินโจวจะเชื่อเธอ?แต่หากเกิดเรื่องยุ่งวุ่นวายกับซ่งชิงหยา หลู้เหวินโจวก็จะยืนเคียงข้างเธออย่างไม่มีเงื่อนไขเฉียวอีเม้มริมฝีปากและพยายามควบคุมอารมณ์ให้มั่นคงพอ“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นเราก็มาเปิดคดีสอบสวนกันเถอะ เรื่องที่ฉันไม่ได้ก่อ ใครหน้าไหนก็อย่ามาให้ฉันยอมรับ มันทำให้ตระกูลเฉียวต้องเสียหาย แต่ฉันก็ต้องเคลียร์ด้วยตัวเอง”เธอนั้นอ่อนโยนและสง่างาม ทั้งยังประพฤติตัวดีและเชื่อฟังมาโดยตลอดนี่เป็นครั้งแรกที่หลู้เหวินโจวเห็นเธอเป็นแบบนี้เขายิ้มเบา ๆ แล้วพูดว่า "ปากเธอยังห้าวหาญอยู่เลย""ประธานหลู้อย่า

    Last Updated : 2024-02-27
  • ไม่ยอมแต่ง พอลาออกมาร้องไห้หาอะไร   บทที่ 9

    “คุณย่าพูดว่าอะไรนะ? ตอนนั้นย่าเป็นคนผลักฉันเข้าไปหาหลู้เหวินโจวเองงั้นเหรอ?”คุณย่าเฉียวตะคอกอย่างเย็นชา"ไม่เช่นนั้น เธอคิดจริง ๆ เหรอว่าหลู้เหวินโจวจะเป็นฮีโร่ที่ช่วยปกป้องสาวงามเอาไว้? เธอไม่ลองใช้สมองคิดดูหน่อยเหรอ คนที่มีสถานะแบบนั้นอย่างหลู้เหวินโจวจะไปอยู่ในตรอกที่ห่างไกลเช่นนี้โดยไม่มีเหตุผลได้อย่างไรถ้าไม่ใช่เพราะฉันกับพี่ชายของเธอวางกับดักเพื่อหลอกให้เขาไป เธอจะไม่มีทางมีชีวิตที่วิเศษเหมือนในช่วงสามปีที่ผ่านมาหรอกแต่เธอมันไม่รู้จักพอ และยังต้องการปีนขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งท่านหญิงหลู้อีกเธอไม่คิดหน่อยเหรอ ด้วยการมีแม่ที่ไร้ยางอายเช่นนี้ ไม่มีครอบครัวที่ร่ำรวยในเมืองบีหน้าไหนที่กล้าแต่งงานกับเธอหรอกเธอจะต้องกลับไปหาหลู้เหวินโจวไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ไม่เช่นนั้น ฉันจะป่าวประกาศทุกอย่างเกี่ยวกับแม่ของเธอ"หญิงชรากัดฟันในขณะที่พูดราวกับว่าเฉียวอีนั้นไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับเธอเลือดบนหน้าผากของเฉียวอีไหลลงมาตามแก้มและเข้าไปในปากรสเลือดแพร่กระจายไปทั่วปากของเธอ อย่างรวดเร็วจู่ ๆ เธอก็รู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมาและรู้สึกรังเกียจที่ตัวเองมีคนในครอบครัวแบบนี้ย่าของเธอร

    Last Updated : 2024-02-27
  • ไม่ยอมแต่ง พอลาออกมาร้องไห้หาอะไร   บทที่ 10

    เฉียวอีตอบโดยไม่ต้องคิด: "ยกเว้นเรื่องนี้ ให้ฉันสัญญาอะไรกับคุณก็ได้ทั้งนั้นค่ะ"หลู้เหวินโจวบีบคางของเธอแล้วหัวเราะเบา ๆ :"แต่ฉันต้องการแค่สิ่งนี้เท่านั้น"“หลู้เหวินโจว แม้ว่าคุณจะคิดว่าฉันมีจุดประสงค์ที่เข้าหาคุณ แต่ฉันก็ดูแลคุณอย่างดีตลอดสามปีที่ผ่านมา ฉันไม่ได้เป็นหนี้คุณเลย คุณไม่มีเหตุผลที่จะไม่ปล่อยฉันไป”หลู้เหวินโจวมองดูดวงตาที่ดื้อรั้นของเฉียวอีกับปากเล็ก ๆ นั้นที่กำลังพูดพล่ามอยู่รวมทั้งร่องอกของเธอที่โผล่ออกมานั้นลูกกระเดือกของเขาก็อดไม่ได้ที่จะขยับเนื่องจากกลืนน้ำลายอยู่หลายครั้งเขากอดเฉียวอีมาไว้บนตัก วางคางลงบนไหล่ของเธอ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง: “งั้นบอกฉันมาอย่างละเอียดหน่อยสิ ว่าเธอดูแลฉันยังไงบ้าง?”เสียงอันน่าดึงดูดที่ทุ้มลึกของเขาทำให้หนังศีรษะของเฉียวอีชาไป และมือใหญ่ ๆ ของเขาก็ล้วงเข้าไปในเสื้อผ้าของเฉียวอีอย่างคิดไม่ซื่อเฉียวอีอยากจะผละตัวออก แต่หลู้เหวินโจวก็จับเธอเอาไว้แน่นด้วยความสิ้นหวัง เธอจึงก้มหัวลงกัดไหล่ของเขาเธอใส่ความคับข้องใจและความไม่พอใจทั้งหมดไว้บนรอยกัดนี้และเธอจะปล่อยก็ต่อเมื่อได้รสเลือดในปากเฉียวอีมีน้ำตาไหล และเสียงของเธ

    Last Updated : 2024-02-27

Latest chapter

  • ไม่ยอมแต่ง พอลาออกมาร้องไห้หาอะไร   บทที่ 100

    หลู้เหวินโจวเงยหน้าขึ้นพร้อมสายตาที่เย็นชา: "แล้วจะทำไม"ซู่เหยียนจือเตะเขา: "นายมันคนไร้ประโยชน์ ไปแย่งมาดิวะ ไม่ลงมือตอนนี้ นายจะรอเฉียวอีส่งการ์ดงานแต่งงานมาให้นายก่อนถึงคิดได้ทีหลังหรือยังไง"หลู้เหวินโจวถูกประโยคนี้ซัดเข้าอย่างจังแค่คิดภาพเฉียวอีแต่งงานกับชายอื่นในอนาคตก็ทําให้หัวใจของเขาเจ็บปวดราวกับเขาถูกสุนัขล่าเนื้อสองสามตัวรุมฉีก ดวงตาสีเข้มของเขาเล็กลงเล็กน้อย ใบหน้าเขาเริ่มสดใสขึ้น "เฉินจัว ไปที่ห้องเก็บไวน์ที เอาไวน์ชั้นดีจากคอลเลคชั่นฉันมา"เฉินจัวตอบทันทีด้วยรอยยิ้ม: "โอเคครับ ประธานหลู้ผมจะนํามันมาเดี๋ยวนี้" "ความเร็วของเขาน่าทึ่งจริง ไปไม่ถึงห้านาทีก็กลับมาพร้อมอุ้มขวดไวน์ชั้นดีที่มีสะสมมานานหลายปีในอ้อมแขนของเขา หลู้เหวินโจวคว้าขวดไวน์ ก่อนจะสาวเท้าออกจากห้องรับรองไปพร้อมเสียงตะโกนตามหลังจากชายหนุ่มสองสามคน"สู้ๆ ขอให้นายตามภรรยากลับมาได้ อย่าไปจุดไฟเผาตัวเองนะ"เฉียวอีกําลังตั้งใจฟังคุณนายเหยียนเล่าเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจให้เธอฟัง รอยยิ้มที่อ่อนโยนและบริสุทธิ์ผุดบนใบหน้าเธอตอนนั้นเองบริกรก็เคาะประตูและเดินเข้ามา เขายิ้มและพูดว่า: "คุณชายเหยียน ประธาน

  • ไม่ยอมแต่ง พอลาออกมาร้องไห้หาอะไร   บทที่ 99

    พูดจบ เธอก็ทำท่าจะหันหลังเดินจากไปเหยียนซิงเฉิงรีบหยุดเธอไว้:"เฉียวอี ลูกค้าที่เรามาพบก็คือพวกเขา แม่ฉันอยากฟ้องคดีลอกเลียนแบบ ฉันเป็นเครือญาติปรากฎตัวในศาลจะไม่ดี เพราะงั้นฉันเลยแนะนำเธอให้พวกเขา" เฉียวอีรู้ว่าแม่ของเหยียนซิงเฉิงเป็นนักออกแบบระดับแนวหน้าของแบรนด์ การลอกเลียนในอุตสาหกรรมพวกนี้ถือเป็นเรื่องปกติเธอลดกำแพงตัวเองลง เดินไปหาคุณนายเหยียนและพูดอย่างสุภาพ: "ขอบคุณคุณนายเหยียนสําหรับความไว้วางใจของคุณค่ะ ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อต่อสู้คดีนี้ค่ะ" คุณนายเหยียนดึงเธอให้นั่งลง ก่อนจะรินชาดอกไม้ให้เธอด้วยตัวเองและพูดด้วยรอยยิ้ม: "สมัยเธอเรียน ฉันเคยได้ยินเสี่ยวจิ่วมาเล่าให้ว่าเธอมีความสามารถ มีเธอมาช่วยคดี ฉันก็วางใจ" "คุณนายเหยียนชมเกินไปแล้วค่ะ ในเมื่อคุณให้โอกาสฉัน แน่นอนว่าฉันต้องพยายามเต็มที่ค่ะ"พวกเขาไม่กี่คนคุยกันอย่างสนิทสนม คุยเรื่องงานจบก็เปลี่ยนมาคุยเรื่องครอบครัวคุณนายเหยียนเป็นคนพูดเก่ง เธอคุยกับเฉียวอีเรื่องปัญหาที่เหล่าผู้หญิงต่างต้องเผชิญในการเข้าสังคมเรื่องพวกนี้เฉียวอีเองก็เคยงงกับมันมาก่อน เธอจึงฟังอย่างตั้งใจเธอยิ้มอย่างเห็นด้วยและพยักหน้าเ

  • ไม่ยอมแต่ง พอลาออกมาร้องไห้หาอะไร   บทที่ 98

    เฉียวอีกำลังยืนอยู่ตรงล็อบบี้สนามบิน แค่กวาดตาครั้งเดียวเธอก็เห็นชายหนุ่มสูงใหญ่ท่ามกลางฝูงชนถึงชายหนุ่มคนนั้นจะสวมแว่นกันแดด เธอก็ยังดูออกว่าเขาคือ ไป๋ชื่อซื่อ หลานชายของอาจารย์เธอใส่เสื้อผ้าลายพรางทั้งตัวก็ยังดูดีมีสไตล์ได้ สมแล้วที่ได้ชื่อ ‘หนุ่มดาวเด่นประดับกองทหาร’ เป็นสมญาเฉียวอีกวักมือเรียกเขาพร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆ บนหน้าเธอ"เสี่ยวไป๋ พี่ชื่อเฉียวอี ปู่นายให้พี่มารับน่ะ"ไป๋ชื่อซื่อถอดแว่นกันแดดออก ก่อนจะมองเฉียวอีทั้งขึ้นทั้งลงใบหน้าที่เย็นชาเมื่อครู่ ทันทีที่ได้เห็นเฉียวอีก็ปรากฎออกมาเป็นใบหน้าที่มีรอยยิ้มอบอุ่นแทนแถมยังมีลักยิ้มเล็กๆ สองข้างน่ารักอยู่ข้างริมฝีปาก"พี่อีอี ผมไม่คิดมาก่อนว่าพี่จะสวยกว่าในรูปอีก"ถ้าไม่ใช่เพราะได้ยินเขาชื่อเธอล่ะก็ เฉียวอีคงคิดว่าตัวเองจำคนผิดแล้วนี่ใช่คนที่อาจารย์บอกว่าเป็นเด็กหนุ่มหัวแข็งตั้งแต่เด็กจริงเหรอแบบนี้ก็เป็นคนน่ารักมากแล้วนี่แถมยังมีมารยาทมากด้วยเฉียวอียื่นมือออกไปจะช่วยยกกระเป๋า แต่ถูกไป๋ชื่อซื่อปฏิเสธ"พี่อีอี ผมโตเป็นหนุ่มจะมาปล่อยให้ผู้หญิงถือกระเป๋าได้ไง"พูดจบเขาก็หยิบกระเป๋าเป้ทหารขนาดใหญ่ขึ้นมาสะพายไว้

  • ไม่ยอมแต่ง พอลาออกมาร้องไห้หาอะไร   บทที่ 97

    เขากําหมัดแน่นและมองไปที่เซี่ยหนานด้วยดวงตาแดงก่ำ"โยนมันเข้าโรงพยาบาลบ้าและหาคนมาจับตาดูให้ดี "พูดจบ เขาก็จากไปโดยไม่หันหลังกลับมามองเฉียวอีเช้านี้ได้รับโทรศัพท์จากอาจารย์ว่าหลานชายเขาเพิ่งออกจากกรม อยู่บ้านไม่ได้ทำอะไร มารับหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดให้เธอได้เมื่อนึกถึงเรื่องวุ่นวายในช่วงนี้ เธอก็รีบตอบรับอย่างดีใจหลังกินอาหารเช้าเสร็จ ค่อยขับรถไปรับคนนั้นที่สนามบินคนเดียวขณะที่เธอเดินลงมาชั้นล่าง เธอก็เห็นร่างที่คุ้นเคย หลู้เหวินโจวสวมเสื้อดำกางเกงดำ ดำไปทั้งตัวราวกับเทพที่เพิ่งออกมาจากความมืดมิด ดวงตาเขาจ้องมองเธอไม่กระพริบจู่ๆ เฉียวอีก็นึกถึงสิ่งที่หลู้เหวินโจวพูดเมื่อวานนี้ปล่อยวางอดีตและเริ่มต้นใหม่มุมปากบางของเธอกระตุกยิ้มขึ้นเล็กน้อยคว้ากุญแจแล้วเดินตรงไปที่ลานจอดรถ "เฉียวอี"หลู้เหวินโจวตะโกนเรียกเธอจากด้านหลังเฉียวอีหยุดนิ่ง ก่อนจะค่อยๆหันไปมองใบหน้าหม่นหมองของหลู้เหวินโจวน้ำเสียงที่ไม่ค่อยอบอุ่นเอ่ยถาม: "ประธานหลู้มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ"มือของหลู้เหวินโจวเกร็งขึ้นเล็กน้อย เสียงของเขาก็แหบแห้งลง: " มีร้านก๋วยเตี๋ยวเสฉวนอยู่ใกล้ๆ มีก๋วยเตี๋ยวถั่วที่เธอ

  • ไม่ยอมแต่ง พอลาออกมาร้องไห้หาอะไร   บทที่ 96

    "ไม่ครับ เป็นแม่ของเธอ เซี่ยหนาน ผมได้ยินมาว่าเธอรีบขายเพราะต้องการเงินสด คาดว่าเอาไปจ่ายหนี้พนัน ผมคิดว่าเรื่องนี้ต้องมีบางอย่างซ่อนอยู่ครับ ไม่แน่ทนายเฉียวอาจจะถูกบังคับครับ"เมื่อได้ยินอย่างนั้นนัยน์ตาหลู้เหวินโจวก็เย็นลงเล็กน้อยทันใดนั้นเขาก็จําได้ว่าในวันครบรอบเฉียวอีสวมสร้อยคอเส้นนี้ เธอเกลียดเซี่ยหนานมากขนาดนั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะให้สิ่งที่มีค่าแบบนี้กับเธอ นอกจากว่าจะถูกบังคับเมื่อนึกได้แบบนั้น เขาก็ลุกขึ้นทันที "ไปที่โรงแรมแล้วเช็คกล้องวงจรปิดซะ" "ครึ่งชั่วโมงต่อมา หลู้เหวินโจวนั่งอยู่ในห้องรักษาความปลอดภัยของโรงแรม ดูมาครึ่งวันแล้วไม่เห็นเงาของเซี่ยหนานเลยตอนที่เขากำลังจะยอมแพ้นั้น จู่ๆก็เห็นภาพเฉียวอีวิ่งไปที่บันไดด้วยความตื่นตระหนก ที่คอเธอสวมสร้อยคอเส้นนี้อยู่เมื่อเฉียวอีปรากฎตัวอีกครั้งบนจอ เธอกำลังถูกเหยียนซิงเฉิงอุ้มอยู่ หลู้เหวินโจวรีบให้คนซูมภาพทันทีปรากฎว่าสร้อยคอที่คอของเฉียวอีหายไปแล้วเมื่อเปรียบเทียบทั้งสองภาพ เขาพอเดาอะไรบางอย่างได้แล้ว เขามองภาพด้วยดวงตาอำมหิตและสั่งด้วยเสียงเย็นชา: "หาตัวเซี่ยหนานมาให้ฉันหลู้เหวินโจวเปรียบเหมือนองค์ช

  • ไม่ยอมแต่ง พอลาออกมาร้องไห้หาอะไร   บทที่ 95

    "พี่เหวินโจว พี่ฉันมันพูดจาไร้สาระ พี่อย่าไปฟังเลย พวกเราตอนเที่ยงมีนัด ไม่ได้ไปกินข้าวกับพี่แล้วล่ะ"มองไปที่ด้านหลังของพวกเขาสองคนที่ออกไปอย่างร้อนรน หลู้เหวินโจวก็ยิ่งรู้สึกทะแม่งๆ มากขึ้นเรื่อยๆทําไมซ่งเยี่ยนเฉินถึงรู้เรื่องทุกอย่าง แต่เขากลับไม่รู้เขากับเฉียวอีไปรู้จักกันเมื่อไหร่ จู่ๆ เขาก็จําได้ว่า วันที่เฉียวอีบริจาคเลือดให้ซ่งชิงหยา เธอเรียกซ่งเหยียนเฉินออกไป ไม่รู้สองคนคุยอะไรกัน เมื่อนึกขึ้นได้ หลู้เหวินโจวก็โกรธจนหยิบลูกกอล์ฟสีขาวขึ้นมา ก่อนจะปามันเข้าไปในสนามกอล์ฟขณะนั้นเอง เฉินจัวก็ขับรถมารับเขาพอดีเห็นสีหน้าหม่นหมองของเขา ก็รู้ทันทีว่าทะเลาะกับเฉียวอีอีกแล้วเขารีบพูดปลอดใจว่า:"ประธานหลู้ ผู้หญิงบางครั้งก็ต้องการให้ง้อ บางครั้งการให้ของขวัญพิเศษก็ได้ผลกว่าการคุกเข่าบนเปลือกทุเรียนครั้งก่อนแฟนผมโกรธมาก ผมเลยซื้อสร้อยคอให้เธอเส้นหนึ่ง เธอให้อภัยผมทันทีเลยครับผมได้ยินมาว่าที่งานประมูลคืนนี้มีสมบัติหายากอยู่ชิ้นหนึ่ง ใครก็ตามที่ได้มันมาครอบครองมักจะได้มีชีวิตที่สมบูรณ์แบบหากคุณประมูลมาให้เธอได้ล่ะก็เธอต้องคืนดีกับคุณแน่นอน"สีหน้าโศกเศร้าของหลู้เหวินโจวใ

  • ไม่ยอมแต่ง พอลาออกมาร้องไห้หาอะไร   บทที่ 94

    สายตาที่ร้อนแรงของเขาจับจ้องไปที่เฉียวอีราวกับว่าเขาอ่านความคิดทั้งหมดของเธอออกเฉียวอีรู้สึกราวกับถูกแทงที่หัวใจ เธอเงยหน้าขึ้นมองหลู้เหวินโจว"ถ้าฉันตอบว่าใช่ล่ะ ประธานหลู้วางแผนจะทำยังไงต่อ สามารถให้ความรักหรืองานแต่งงานที่ฉันต้องการได้หรือเปล่า"หลู้เหวินโจวสําลักจนพูดไม่ออกริมฝีปากบางของเขาขยับอยู่สองสามครั้ง แต่ก็ไม่มีคำพูดใดออกมาเห็นท่าทางเขาที่เป็นแบบนี้ เฉียวอีก็หัวเราะอย่างประชดประชัน"เกรงว่าประธานหลู้สักอย่างก็ให้ไม่ได้สินะ ถ้างั้นจะรื้อฟื้นอดีตขึ้นมาทำไม เพราะเปิดแผลใจคนอื่นเล่นมันเป็นเรื่องสนุกงั้นสินะ""เฉียวอี" มือทั้งสองข้างของหลู้เหวินโจวจับไหล่เธอและจ้องมองเธอด้วยดวงตาที่ส่องแสงและเป็นไฟ "ในงานฉลองครบรอบ ฉันเคยให้โอกาสเธอ ตราบใดที่เธอเต้นรำกับฉันในเพลงแรก ฉันจะยอมรับกับทุกคนว่าเธอเป็นแฟนฉัน หลู้เหวินโจว เป็นเธอที่ไม่รู้จักพอ ช่วงเวลาเข้าด้ายเข้าเข็มดันไปยุ่งกับเหยียนซิงเฉิง ไม่ใช่ฉันไม่ให้ เธอต่างหากที่ไม่อยากได้"เฉียวอียิ้มอย่างขมขื่น:" ถ้าอย่างนั้นฉันคือต้องขอบคุณประธานหลู้หรือเปล่าสำหรับความใจกว้าง""เฉียวอี ฉันจะปล่อยอดีตให้ผ่านไป เรามาเริ่มต้นใหม่ก

  • ไม่ยอมแต่ง พอลาออกมาร้องไห้หาอะไร   บทที่ 93

    หลู้เหวินโจวพาเฉียวอีมาถึงสนาม ก่อนจะชี้ไปที่ต้นไม้ใหญ่ด้านหน้า: “ฉันทำของตกไว้ใต้ต้นไม้นั่น ไม่รู้ทนายเฉียวพอจะช่วยฉันหาได้ไหม”เฉียวอีไม่ได้อยากคุยกับเขามากเท่าไหร่ เธอจึงเดินตรงไปที่ต้นไม้นั่นทว่าเธอวนรอบต้นไม้ใหญ่อยู่แล้วรอบ แต่ก็ไม่เจออะไรเลยและจังหวะนั้นที่เธอรู้ตัวว่าโดนหลอกเข้าแล้ว ก็ได้ยินเสียงหัวเราะต่ำๆ ของหลู้เหวินโจวอยู่ข้างหลัง"ทนายเฉียวจะไม่ถามเลยหรอว่าฉันทำอะไรหาย"เฉียวอีมองเขาอย่างเย็นชา:" ถ้าประธานหลู้ไม่จริงจังจะให้ความร่วมมือ ฉันไม่มีเวลามาเล่นกับคุณหรอกนะ"พูดเสร็จ เธอก็หันหลังเตรียมจากไปแต่กลับถูกหลู้เหวินโจวขวางทางไว้ใบหน้าสดใสชายหนุ่มและดวงตาของเขามองเจาะลึกเข้ามาที่เธอเสียงต่ำๆ ที่น่าดึงดูด ดังออกจากลำคอ"สามปีที่แล้ว จูบแรกของฉันหายไปที่นี่ ทนายเฉียวช่วยฉันเอามันคืนมาได้ไหม"เมื่อได้ยินประโยคนี้ หัวใจของเฉียวอีหยุดเต้นไปชั่วขณะ ปลายนิ้วสั่นเทาอย่างช่วยไม่ได้เพียงพริบเดียว ก็ปรากฎภาพความทรงจำเมื่อสามปีก่อนขึ้นมาในหัวเธอตอนนั้นร่างกายหลู้เหวินโจวเพิ่งฟื้นตัว เขาพาเธอมาเล่นที่นี้เธอในตอนนั้นอะไรก็ไม่เป็น เป็นหลู้เหวินโจวที่สอนเธอมาทั้งหมด

  • ไม่ยอมแต่ง พอลาออกมาร้องไห้หาอะไร   บทที่ 92

    เมื่อได้ยินเสียงนี้ ซ่งชิงหยาก็ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวเธอหันหลังกลับไปหาหลู้เหวินโจวทันที"พี่เหวินโจว คืนนั้นทนายเฉียวถูกคนวางยาถึงได้ไปอยู่กับเหยียนซิงเฉิง เธอไม่ได้ตั้งใจ พี่อย่าโทษเธอเลยค่ะ"ซ่งชิงหยาทำตัวราวกับคนไม่รู้สึกรู้สาอะไรเธอหยิบผ้าเช็ดตัวเพื่อช่วยหลู้เหวินโจวเช็ดเหงื่อ แต่กลับถูกเขาผลักออกดวงตาเย็นชาคู่นั้นของเขามองตรงไปที่เฉียวอี:"พูดออกมาให้ชัดๆ ตกลงคืนนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่"เขาดึงเฉียวอีออกจากเก้าอี้เข้าไปในอ้อมแขนของเขา หยาดเหงื่อบนหน้าผากของเขาไหลลงมาตามแนวกราม ก่อนหยดลงบนใบหน้าของเฉียวอีเฉียวอีมองเขาอย่างว่างเปล่า:" คุณไม่ใช่ว่าเห็นทั้งหมดและได้ยินทุกอย่างแล้วเหรอ""เธอถูกคนวางยา เพราะอย่างงั้นเธอถึงได้ไปอยู่กับเหยียนซิงเฉิงใช่ไหม""มีอะไรแตกต่างงั้นเหรอ ในสายตาคุณฉันก็ยังสกปรกอยู่ดีไม่ใช่เหรอ"เส้นเลือดปูดขึ้นบนหน้าผากของหลู้เหวินโจวลึกลงไปในดวงตาดอกท้อคู่นั้นก็ถูกเคลือบด้วยสีแดงทันทีมือใหญ่ยกเอาฝ่ามือร้อนไปวางไว้บนหัวเฉียวอี ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงต่ำเต็มไปด้วยอารมณ์ที่เขาพยายามข่มไว้ "ฉันจะสืบหาให้ชัดว่าใครเป็นคนทํา "" ไม่จำเป็น ฉันแค

DMCA.com Protection Status