ร่างของเทียนหอมถูกพาเข้ามาในห้อง ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าคนที่พ่อเธอเรียกว่าเสี่ยคือใคร แต่สิ่งที่เธอเห็นคือชายฉกรรจ์ราวห้าคนยืนอยู่ในห้อง ทุกคนดูน่ากลัว ส่วนตัวเธอนั่งก้มหน้าอยู่บนโซฟากว้าง ด้วยอาการสั่นเทา
ไม่นานนักเสียงฝีเท้าของคนที่สวมรองเท้าขัดมันก็เดินเข้ามาดัง ตึก ตึก พร้อมเสียงหัวใจของเธอที่เต้นแรงอยู่อย่างนั้น ไม่นานก็ได้ยินเสียงทุ้มพูดขึ้น "สวัสดีครับเสี่ย ผมพาลูกสาวมาให้ดู" เป็นทรงพลที่ยกมือไหว้ชายหนุ่มที่อ่อนกว่าเขาหลายปี มาร์คัส เป็นนักธุรกิจที่ชอบลงทุน และชอบลงทุนกับบ่อยการพนันหลายที ไม่เพียงเท่านั้นเขายังเป็นเจ้าของโครงการหลายแห่ง "นายครับ ไอ้ทรงพลที่เสนอลูกสาวมาใช้หนี้ เราจ่ายหนี้บ่อนให้มันหนึ่งล้าน มันบอกว่าลูกสาวมันยังสาว มันเลยขอเพิ่ม...." สิงห์คนสนิทยังพูดไม่จบ มาร์คัส ก็หย่อนก้นลงนั่งแล้วจ้องมองมาทาง เทียนหอม ที่ก้มหน้าตัวสั่นระริก "นี่นะเหรอที่ขอเพิ่มล้านหนึ่ง หน้าตาดีแต่ดูซอมซ่อไปหน่อย" ประโยคของชายหนุ่มทำให้คนที่นั่งก้มหน้าต้องเงยขึ้นมามองเพียงแวบเดียว เป็นจังหวะที่สบตากับ มาร์คัสพอดี จึงทำให้ เทียนหอมงุดหน้าลงอีกรอบ "ถึงนางเทียนมันจะดูซอมซ่อแต่เชื่อเถอะครับว่ามันไม่เคยมีผัว ผมรับประกัน" "พ่อ!!" "มึงเงียบไปเลย!" มาร์คัส จ้องมองเรือนร่างของเทียนหอมตั้งแต่หัวจรดเท้า สายตาของเขาบ่งบอกได้ถึงความพอใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า แม้นว่าการเจอกันจะเป็นครั้งแรกแต่สิงห์ลูกน้องคนสนิทก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ความเงียบภายในห้องหรูเกิดขึ้นแค่ชั่วครู่ มีเพียงแค่ทรงพลที่เงยหน้าขึ้นมาฉีกยิ้มให้เสี่ยที่เขาเรียกอย่างเป็นมิตร ทว่ามาร์คัสก็ไม่ได้สนใจตัวเขาแม้แต่น้อย เมื่อเห็นว่าเงินที่จะยอมจ่ายไปในวันนี้มันคุ้มค่า เขาเองก็ไม่รอช้าที่จะสั่งลูกน้อง "เซ็นเช็คให้มันเพิ่ม แล้วก็ไสหัวไปได้แล้ว" เขาหันมาสั่งสิงห์ลูกน้องคนสนิท ไม่นานเกิดรอเช็คใบโปรดพร้อมจำนวนเงินหนึ่งล้านบาทก็อยู่ในมือของทรงพล "ขอบคุณครับเสี่ย ลูกผมมันว่านอนสอนง่าย อยากให้มันทำอะไรมันทำหมด" "ไม่ต้องพูดมาก ไสหัวมึงไปได้แล้ว" ชายวัยกลางคนยกมือขึ้นมาไหว้สุดหัวจากนั้นก็ยิ้มให้สิ่งที่เห็นตรงหน้า จำนวนเงินไม่น้อยที่เขาจะใช้ต่อลมหายใจในบ่อน ต้องเรียกว่าทุนเสียมากกว่า "งั้นผมไปนะครับ" มาร์คัสพยักหน้าอย่างไร้เหยื่อใย สำหรับเขาทรงพลก็แค่เศษสวะเท่านั้น แต่เพราะบ่อนเป็นของเขาครึ่งหนึ่งแม้จะยอมจ่ายแพงเพราะผู้หญิงคนเดียว แต่ก็ยังดีกว่าฆ่ามันทิ้งแต่ไม่ได้อะไรกลับมา เพียงแค่ผู้ที่เทียนหอมเรียกว่าพ่อลุกขึ้นจากโซฟาตัวกว้าง เธอก็ไม่รอช้าที่จะรั้งแขนพ่อไว้พร้อมกับทำท่าจะลุกตาม ทว่า "ปล่อยสิวะ" "พ่อหนูกลัว หนูอยากกลับบ้าน" "อีลูกคนนี้นิ" ทรงพลทำท่าเหมือนจะง้างมือขึ้นมาตบ จนเทียนหอมต้องเสหลบใบหน้าเรียวไปอีกทาง แต่ก็ต้องชะงักไว้เพราะเกรงใจชายหนุ่มที่เขาเรียกว่าเสี่ย "ต้องขอโทษด้วยนะครับเสี่ย" พูดจบเขาก็เดินออกไปทันที โดยไม่สนใจเทียนหอมสักนิด ทำราวกับว่าหญิงสาวที่เขาเลี้ยงมาตั้งแต่สองขวบไม่ใช่คน แค่กระดาษแผ่นเดียวทำให้เขาทำเรื่องผิดมนุษย์ไร้จิตใต้สำนึก เทียนหอมนั่งตัวสั่นระริกอยู่อย่างนั้น เธอก้มหน้าตลอดพลางมือก็บีบกันแน่น ส่วนมาร์คัสเขาไม่ได้พูดแต่สิ่งที่เขาทำคือนั่งจ้องเธออยู่อย่างนั้น "พวกมึงออกไปก่อน" เสียงเข้มโพล่งเสียงออกมาสั่ง จากนั้นลูกน้องที่อยู่ภายในห้องต่างก็ออกมารออยู่ด้านนอก ตอนนี้ก็เหลือแค่ เทียนหอมกับมาร์คัสเท่านั้น "เงยหน้าขึ้นมาสิ!" ชายหนุ่มเอ่ยพูดเสียงเรียบแต่คนที่นั่งก้มหน้าเหมือนจะตื่นกลัวอยู่มาก แม้ว่าสายตาจะแอบเหลือบขึ้นมามองใบหน้าเขา แต่เธอก็ไม่กล้าที่จะมองมาร์คัสเต็มตาเสียทีเดียว "เงยหน้าขึ้นสิ!" คราวนี้น้ำเสียงที่พูดมันเปลี่ยนไป เสียงเข้มดุดันโพล่งขึ้นจนเทียนหอมต้องยอมเงยหน้าขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นเธอยังยกมือขึ้นมาทาบที่อกพร้อมอาการที่เรียกว่าสั่นเทาเพราะความกลัว จากนั้นก็พูดขึ้น "หนูกลัวแล้ว หนูไม่อยากขายตัว เงินที่พอหนูเอาไป หนูขอหามาคืนให้ได้ไหมคะ!" มาร์คัสเผยรอยยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าคำพูดของเด็กสาวดูเหมือนจะง่าย ทว่าเขากับมองเป็นเรื่องน่าขำ "เธอชื่ออะไร?" เขาไม่ตอบคำถามของเทียนหอม แต่กลับถามเรื่องส่วนตัวของเธอแทน และแน่นอนว่าคนที่ถูกถามก็ต้องตอบ "หนูชื่อ เทียนหอม" "เทียนหอมอย่างนั้นเหรอ ดูเหมือนเธอจะเป็นเด็กที่โชคร้ายมากนะ ที่มีพ่ออย่างไอ้ทรงพล มีอย่างที่ไหนเอาลูกมาใช้หนี้ " "หนูไม่ใช่ลูกเขา!" คำตอบที่สวนกลับมาทำเอามาร์คัสที่นั่งอยู่ชะงักไปเล็กน้อยแต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ คิดแค่ว่าสิ่งตรงหน้าคือของชิ้นหนึ่งที่เขาซื้อมาแล้ว และจะทำอะไรกับมันก็ได้มาร์คัสเผยรอยยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าคำพูดของเด็กสาวดูเหมือนจะง่าย ทว่าเขากับมองเป็นเรื่องน่าขำ "เธอชื่ออะไร?" เขาไม่ตอบคำถามของเทียนหอม แต่กลับถามเรื่องส่วนตัวของเธอแทน และแน่นอนว่าคนที่ถูกถามก็ต้องตอบ "หนูชื่อ เทียนหอม" "เทียนหอมอย่างนั้นเหรอ ดูเหมือนเธอจะเป็นเด็กที่โชคร้ายมากนะ ที่มีพ่ออย่างไอ้ทรงพล มีอย่างที่ไหนเอาลูกมาใช้หนี้ " "หนูไม่ใช่ลูกเขา!" คำตอบที่สวนกลับมาทำเอามาร์คัสที่นั่งอยู่ชะงักไปเล็กน้อยแต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ คิดแค่ว่าสิ่งตรงหน้าคือของชิ้นหนึ่งที่เขาซื้อมาแล้ว และจะทำอะไรกับมันก็ได้ "คืนนี้เธอรู้ใช่ไหมว่าต้องทำอะไร" เทียนหอมชะงักนิ่ง เหงื่อที่หน้าผากเริ่มผุดออกมาให้เห็นเป็นเงา จริงอยู่ว่าเธอโตเป็นสาวผ่านอายุมาถึง20ปี แต่ก็ไม่เคยมีแฟนมาก่อนเพราะเวลาส่วนมากเอามาช่วยแม่ทำงานแถมเธอยังเป็นเด็กเรียนดี สิ่งที่เธอคิดคือ อยากเรียนให้จบทำงานดี ๆ แม่ของเธอจะได้สบาย แต่ไม่คิดเลยว่าพ่อเลี้ยงใจร้ายจะทำกับเธอแบบนี้ แค่เขาทุบตีตั้งแต่เธอยังเด็กก็น่าจะเกินพอ "คือ...คือ" "ไปอาบน้ำ ฉันจะรอเธออยู่ในห้อง" มาร์คัสสั่งแล้วก็ลุกเดินออกไปจากโซฟาตัวใหญ่ ส่วนเทียนหอมเธออ
เนื้อหาต่อไปนี้มีความรุนแรง ขัดขืน ฝืนใจ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน  ชายหนุ่มร่างสูงโอบรัดเรือนร่างของเทียนหอมเอาไว้แน่น ไม่เพียงเท่านั้น เขายังซุกใบหน้าอันหล่อเหลาลงที่ต้นคอของเทียนหอมอีกต่างหาก ริมฝีปากหยักทำหน้าที่กดจูบประพรมความร้อนไปทุกส่วนของต้นคอขาวๆ ส่วนคนที่ถูกกระทำเหมือนจะผลักอกเขาให้ถอย แต่ก็ไร้ผล ด้วยความที่มาร์คัสเป็นลูกครึ่งรูปร่างของเขาสูงใหญ่กว่าเธอมาก "ปล่อยหนูเดี๋ยวนี้นะ" "อย่าเล่นตัวให้มากนักได้ไหม เธอมันก็เด็กใจแตกคนหนึ่งเท่านั้น" ประโยคที่หลุดออกมาเป็นคำพูดทิ่มแทงใจของเด็กสาวมาก เทียนหอมเธอทั้งร้องห้าม ทั้งพยายามขัดขืนการกระทำที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่ดูเหมือนมาร์คัสจะไม่สนใจความรู้สึกของเธอเลย เพราะปกติแล้ว เด็กที่เข้าหาเขาก็หวังแค่เงินทั้งนั้น ปึก! "ฮืออ" ร่างเล็กของเทียนหอมถูกเหวี่ยงไปที่เตียงนอน ในขณะที่ร่างของเธอยังคงแผ่หลา มาร์คัสก็รีบขึ้นคร่อมในทันที ดูเหมือนสิ่งที่เขาทำจะไม่ต่างจะเสือที่ตะปบเหยื่อตรงหน้า สองมือของเขาแหวกเสื้อคลุมสีขาวออกจนเห็นเนินอกของเทียนหอม ใบหน้าหล่อเผยรอยยิ้มออกมา ทว่าเด็กสาวที่ไร้หนทางต่อสู้กับร้องขอด้วยความเมตตา "หนูกลัว...อย่า
ร่างเล็กนอนสั่นระริกอยู่ใต้ร่างของมาเฟียหนุ่ม ที่ใคร ๆ ก็ต่างรู้จักในวงการนักธุรกิจอสังหาฯ มาร์คัส ไร้ความอ่อนโยนอย่างน่าแปลก ดูเหมือนคนที่หิวโหย ทำเหมือนคนที่นอนร้องไห้ตัวสั่นอยู่ตรงหน้าจะไม่มีจิตวิญญาณ ที่เขาต้องเห็นใจเมตตาแม้แต่น้อย แก่นกายที่แข็งขืนของชายหนุ่มพยายามแหวกทางรักที่มันคับแคบไปให้ได้ แต่เขาคงลืมคิดไปว่า ร่างเล็กที่ร้องไห้เพราะความเจ็บปวดมันรู้สึกแทบขาดใจแล้วตอนนี้"แน่นชะมัด เธอนี่สมกับคำที่พ่อเธอเสนอมาจริงๆ ฮึก"เขากลืนก้อนน้ำลายลงที่ลำคอเกร็ง ขบกัดสันกรามจนนูนเด่นชัด ยิ่งช่องทางรักของเทียนหอมมันคับแคบจนยากที่จะแหวกเข้าไป ยิ่งทำให้เขารู้สึกว่าอยากจะเอาชนะมันให้ได้เสียเดี๋ยวนี้"อ๊ะ ฮือ ฮื้อ จะ เจ็บ หนูเจ็บ" เสียงกระเส่าร้องบอกให้คนที่กระทำยังร่างของเธอได้รับรู้ แต่แล้วเขากับยกยิ้มขึ้นมาอย่างได้ใจ จากนั้นก็พูดขึ้นอย่างไร้จิตสำนึก"ดี! แน่นแบบนี้แหละดี ฉันยากรู้ว่าข้างในของเธอมันจะตอดดีขนาดไหน!""ยะอย่า นะคะ อร้าย!"สวบมาร์คัส จับสองขาเรียวของเทียนหอมให้อ้าออก รั้งมันไว้แน่น ดันแก่นกายเข้าไปจนสุดแรง จนทำให้สาวน้อยที่พึ่งแรกแย้มร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวด ไม่เพียงเท่านั้น
เสียงเอะอะภายในบ้านหลังหนึ่งแถวลาดพร้าว เด็กสาวอายุเพียง20ปีถูกดึงกระชากพร้อมทั้งเสียงทุบตีจนเธอต้องร้องขอความช่วยเหลือ"แม่ ช่วยเทียนหน่อย แม่...พ่อปล่อยหนูนะ""กูเลี้ยงมึงมาตั้งแต่สองขวบ ถึงเวลาที่มึงจะต้องทดแทนบุญคุณกูแล้ว"มือที่ดึงกระชากเด็กสาว พร้อมเสียงที่ตวาดออกไปมันยิ่งทำให้ เทียนหอมน้ำตาร่วงพรู แน่นอนว่าชายคนนี้ไม่ใช่พ่อแท้ ๆ ของเธอ เทียนหอม เป็นเด็กกำพร้าพ่อตั้งแต่สองขวบ แม่ของเธอมีสามีใหม่ และชายคนนี้เขาก็คือพ่อเลี้ยงของเธอนั้นเอง"พี่ ฉันขอละปล่อยลูกไปเถอะ สงสารเทียน นะพี่นะ"เด่นดวงยกมือขึ้นมาทาบที่ยก สองมือพนมไหว้ผู้เป็นสามี ดูเหมือนจะไร้ผล ไม่เพียงทรงพลไม่ปล่อยเขายังหันมาดุด่าผู้เป็นภรรยาอีกต่างหาก"มึงเองก็เหมือนกัน แค่ขายข้าวแกงมันจะไปพอยาไส้อะไร วันนี้กูจะเอาอีเทียนไปให้เสี่ย มึงรู้ไหมว่าอีเทียนค่าตัวมันได้เท่าไหร่ มึงกับกูจะได้ไม่ลำบาก อีดวง!"ไม่น่าเชื่อว่าคำที่หลุดออกมาจากปากคนที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่เด็กจะทำให้ เทียนหอม ต้องหลั่งน้ำตาลงมาเป็นสาย แววตาอ้อนวอนผู้เป็นพ่อไม่ได้ช่วยให้คนที่ฉุดกระชากร่างเธออยู่นั้น เบามือลงได้แม้แต่น้อย แม้ว่าเธอจะหันไปหาแม่ผู้ให้กำเนิ
ร่างเล็กนอนสั่นระริกอยู่ใต้ร่างของมาเฟียหนุ่ม ที่ใคร ๆ ก็ต่างรู้จักในวงการนักธุรกิจอสังหาฯ มาร์คัส ไร้ความอ่อนโยนอย่างน่าแปลก ดูเหมือนคนที่หิวโหย ทำเหมือนคนที่นอนร้องไห้ตัวสั่นอยู่ตรงหน้าจะไม่มีจิตวิญญาณ ที่เขาต้องเห็นใจเมตตาแม้แต่น้อย แก่นกายที่แข็งขืนของชายหนุ่มพยายามแหวกทางรักที่มันคับแคบไปให้ได้ แต่เขาคงลืมคิดไปว่า ร่างเล็กที่ร้องไห้เพราะความเจ็บปวดมันรู้สึกแทบขาดใจแล้วตอนนี้"แน่นชะมัด เธอนี่สมกับคำที่พ่อเธอเสนอมาจริงๆ ฮึก"เขากลืนก้อนน้ำลายลงที่ลำคอเกร็ง ขบกัดสันกรามจนนูนเด่นชัด ยิ่งช่องทางรักของเทียนหอมมันคับแคบจนยากที่จะแหวกเข้าไป ยิ่งทำให้เขารู้สึกว่าอยากจะเอาชนะมันให้ได้เสียเดี๋ยวนี้"อ๊ะ ฮือ ฮื้อ จะ เจ็บ หนูเจ็บ" เสียงกระเส่าร้องบอกให้คนที่กระทำยังร่างของเธอได้รับรู้ แต่แล้วเขากับยกยิ้มขึ้นมาอย่างได้ใจ จากนั้นก็พูดขึ้นอย่างไร้จิตสำนึก"ดี! แน่นแบบนี้แหละดี ฉันยากรู้ว่าข้างในของเธอมันจะตอดดีขนาดไหน!""ยะอย่า นะคะ อร้าย!"สวบมาร์คัส จับสองขาเรียวของเทียนหอมให้อ้าออก รั้งมันไว้แน่น ดันแก่นกายเข้าไปจนสุดแรง จนทำให้สาวน้อยที่พึ่งแรกแย้มร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวด ไม่เพียงเท่านั้น
เนื้อหาต่อไปนี้มีความรุนแรง ขัดขืน ฝืนใจ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน  ชายหนุ่มร่างสูงโอบรัดเรือนร่างของเทียนหอมเอาไว้แน่น ไม่เพียงเท่านั้น เขายังซุกใบหน้าอันหล่อเหลาลงที่ต้นคอของเทียนหอมอีกต่างหาก ริมฝีปากหยักทำหน้าที่กดจูบประพรมความร้อนไปทุกส่วนของต้นคอขาวๆ ส่วนคนที่ถูกกระทำเหมือนจะผลักอกเขาให้ถอย แต่ก็ไร้ผล ด้วยความที่มาร์คัสเป็นลูกครึ่งรูปร่างของเขาสูงใหญ่กว่าเธอมาก "ปล่อยหนูเดี๋ยวนี้นะ" "อย่าเล่นตัวให้มากนักได้ไหม เธอมันก็เด็กใจแตกคนหนึ่งเท่านั้น" ประโยคที่หลุดออกมาเป็นคำพูดทิ่มแทงใจของเด็กสาวมาก เทียนหอมเธอทั้งร้องห้าม ทั้งพยายามขัดขืนการกระทำที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่ดูเหมือนมาร์คัสจะไม่สนใจความรู้สึกของเธอเลย เพราะปกติแล้ว เด็กที่เข้าหาเขาก็หวังแค่เงินทั้งนั้น ปึก! "ฮืออ" ร่างเล็กของเทียนหอมถูกเหวี่ยงไปที่เตียงนอน ในขณะที่ร่างของเธอยังคงแผ่หลา มาร์คัสก็รีบขึ้นคร่อมในทันที ดูเหมือนสิ่งที่เขาทำจะไม่ต่างจะเสือที่ตะปบเหยื่อตรงหน้า สองมือของเขาแหวกเสื้อคลุมสีขาวออกจนเห็นเนินอกของเทียนหอม ใบหน้าหล่อเผยรอยยิ้มออกมา ทว่าเด็กสาวที่ไร้หนทางต่อสู้กับร้องขอด้วยความเมตตา "หนูกลัว...อย่า
มาร์คัสเผยรอยยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าคำพูดของเด็กสาวดูเหมือนจะง่าย ทว่าเขากับมองเป็นเรื่องน่าขำ "เธอชื่ออะไร?" เขาไม่ตอบคำถามของเทียนหอม แต่กลับถามเรื่องส่วนตัวของเธอแทน และแน่นอนว่าคนที่ถูกถามก็ต้องตอบ "หนูชื่อ เทียนหอม" "เทียนหอมอย่างนั้นเหรอ ดูเหมือนเธอจะเป็นเด็กที่โชคร้ายมากนะ ที่มีพ่ออย่างไอ้ทรงพล มีอย่างที่ไหนเอาลูกมาใช้หนี้ " "หนูไม่ใช่ลูกเขา!" คำตอบที่สวนกลับมาทำเอามาร์คัสที่นั่งอยู่ชะงักไปเล็กน้อยแต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ คิดแค่ว่าสิ่งตรงหน้าคือของชิ้นหนึ่งที่เขาซื้อมาแล้ว และจะทำอะไรกับมันก็ได้ "คืนนี้เธอรู้ใช่ไหมว่าต้องทำอะไร" เทียนหอมชะงักนิ่ง เหงื่อที่หน้าผากเริ่มผุดออกมาให้เห็นเป็นเงา จริงอยู่ว่าเธอโตเป็นสาวผ่านอายุมาถึง20ปี แต่ก็ไม่เคยมีแฟนมาก่อนเพราะเวลาส่วนมากเอามาช่วยแม่ทำงานแถมเธอยังเป็นเด็กเรียนดี สิ่งที่เธอคิดคือ อยากเรียนให้จบทำงานดี ๆ แม่ของเธอจะได้สบาย แต่ไม่คิดเลยว่าพ่อเลี้ยงใจร้ายจะทำกับเธอแบบนี้ แค่เขาทุบตีตั้งแต่เธอยังเด็กก็น่าจะเกินพอ "คือ...คือ" "ไปอาบน้ำ ฉันจะรอเธออยู่ในห้อง" มาร์คัสสั่งแล้วก็ลุกเดินออกไปจากโซฟาตัวใหญ่ ส่วนเทียนหอมเธออ
ร่างของเทียนหอมถูกพาเข้ามาในห้อง ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าคนที่พ่อเธอเรียกว่าเสี่ยคือใคร แต่สิ่งที่เธอเห็นคือชายฉกรรจ์ราวห้าคนยืนอยู่ในห้อง ทุกคนดูน่ากลัว ส่วนตัวเธอนั่งก้มหน้าอยู่บนโซฟากว้าง ด้วยอาการสั่นเทา ไม่นานนักเสียงฝีเท้าของคนที่สวมรองเท้าขัดมันก็เดินเข้ามาดัง ตึก ตึก พร้อมเสียงหัวใจของเธอที่เต้นแรงอยู่อย่างนั้น ไม่นานก็ได้ยินเสียงทุ้มพูดขึ้น "สวัสดีครับเสี่ย ผมพาลูกสาวมาให้ดู" เป็นทรงพลที่ยกมือไหว้ชายหนุ่มที่อ่อนกว่าเขาหลายปี มาร์คัส เป็นนักธุรกิจที่ชอบลงทุน และชอบลงทุนกับบ่อยการพนันหลายที ไม่เพียงเท่านั้นเขายังเป็นเจ้าของโครงการหลายแห่ง "นายครับ ไอ้ทรงพลที่เสนอลูกสาวมาใช้หนี้ เราจ่ายหนี้บ่อนให้มันหนึ่งล้าน มันบอกว่าลูกสาวมันยังสาว มันเลยขอเพิ่ม...." สิงห์คนสนิทยังพูดไม่จบ มาร์คัส ก็หย่อนก้นลงนั่งแล้วจ้องมองมาทาง เทียนหอม ที่ก้มหน้าตัวสั่นระริก "นี่นะเหรอที่ขอเพิ่มล้านหนึ่ง หน้าตาดีแต่ดูซอมซ่อไปหน่อย" ประโยคของชายหนุ่มทำให้คนที่นั่งก้มหน้าต้องเงยขึ้นมามองเพียงแวบเดียว เป็นจังหวะที่สบตากับ มาร์คัสพอดี จึงทำให้ เทียนหอมงุดหน้าลงอีกรอบ "ถึงนางเทียนมันจะดูซอมซ่อแต่เชื่อเ
เสียงเอะอะภายในบ้านหลังหนึ่งแถวลาดพร้าว เด็กสาวอายุเพียง20ปีถูกดึงกระชากพร้อมทั้งเสียงทุบตีจนเธอต้องร้องขอความช่วยเหลือ"แม่ ช่วยเทียนหน่อย แม่...พ่อปล่อยหนูนะ""กูเลี้ยงมึงมาตั้งแต่สองขวบ ถึงเวลาที่มึงจะต้องทดแทนบุญคุณกูแล้ว"มือที่ดึงกระชากเด็กสาว พร้อมเสียงที่ตวาดออกไปมันยิ่งทำให้ เทียนหอมน้ำตาร่วงพรู แน่นอนว่าชายคนนี้ไม่ใช่พ่อแท้ ๆ ของเธอ เทียนหอม เป็นเด็กกำพร้าพ่อตั้งแต่สองขวบ แม่ของเธอมีสามีใหม่ และชายคนนี้เขาก็คือพ่อเลี้ยงของเธอนั้นเอง"พี่ ฉันขอละปล่อยลูกไปเถอะ สงสารเทียน นะพี่นะ"เด่นดวงยกมือขึ้นมาทาบที่ยก สองมือพนมไหว้ผู้เป็นสามี ดูเหมือนจะไร้ผล ไม่เพียงทรงพลไม่ปล่อยเขายังหันมาดุด่าผู้เป็นภรรยาอีกต่างหาก"มึงเองก็เหมือนกัน แค่ขายข้าวแกงมันจะไปพอยาไส้อะไร วันนี้กูจะเอาอีเทียนไปให้เสี่ย มึงรู้ไหมว่าอีเทียนค่าตัวมันได้เท่าไหร่ มึงกับกูจะได้ไม่ลำบาก อีดวง!"ไม่น่าเชื่อว่าคำที่หลุดออกมาจากปากคนที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่เด็กจะทำให้ เทียนหอม ต้องหลั่งน้ำตาลงมาเป็นสาย แววตาอ้อนวอนผู้เป็นพ่อไม่ได้ช่วยให้คนที่ฉุดกระชากร่างเธออยู่นั้น เบามือลงได้แม้แต่น้อย แม้ว่าเธอจะหันไปหาแม่ผู้ให้กำเนิ