“อย่างเดียวที่จะทำให้ฉันมีความสุขได้คือ การที่ไม่มีคุณมาวุ่นวายในชีวิตฉันอีก ฉันขอบอกคุณอีกครั้งว่า ฉันยกโทษให้คุณแล้ว ได้โปรดเถอะคุณรบ ได้โปรดออกจากชีวิตฉันไป...” แก้วกานดาสะบัดมือออกจากการเกาะกุม แล้วเดินหนีไปอย่างรวดเร็ว เธอต้องรีบหนีไปจากตรงนี้ก่อน เพราะหัวใจเธออ่อนแอนัก มันอ่อนแอจนน่ากลัวว่าจะให้อภัยคนที่เคยทำร้ายมัน โดยที่เขายังไม่ได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดที่สาสม
นักรบไม่รู้จะเรียกรั้งหญิงสาวไว้อย่างไร เขาได้แต่ก้มหน้ามองพื้นดินด้วยหัวใจเต้นแรง ไหล่กว้างลู่ลงอย่างคนอ่อนแรง ร่างใหญ่ไหวสะท้านจากแรงสะอื้นที่ตีตื้นออกมาจากหัวใจ ขอบตาร้อนผ่าวรับรู้ได้ถึงน้ำอุ่นๆที่รินออกจากตา ทำไมมันถึงเจ็บปวดนักนะ เจ็บปวดจนแทบขาดใจ เขาจะต้องสูญเสียแก้วกานดาไปจริงๆหรือ แล้วเขาจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างไร ในเมื่อหัวใจกำลังเดินหนีเขาไป ไม่มีโอกาสสำหรับเขาแล้วใช่ไหม ตอนนี้เขาไม่เหลือเรี่ยวแรงพอจะลุกขึ้นวิ่งตามหัวใจตัวเองไปด้วยซ้ำ
“รบ!” เสียงเข้มที่เรียกชื่อของตนทำให้นักรบหันกลับไปมองเจ้าของเสียง ที่กำลังเดินตรงมาที่เขา ชายหนุ่มเหลียวกลับไปมองแก้วกานดาอีกครั้ง ซึ่งหญิงสาวหายเข้าบ้านไปแล้ว เ
“เอ่อ...พี่ณตไปไหนหรือคะ ทำไมไม่มารับฝ้ายเอง” แก้วกานดาเอ่ยถามเมื่อรถแล่นมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว คนขับรถใส่หมวกแก๊ป แว่นตาดำและใส่ผ้าปิดจมูกกันฝุ่น ทำให้เธอเห็นใบหน้าเขาไม่ชัดเท่าไร หากแต่รูปร่างและท่าทางเขาเธอดูคุ้นตานัก“แคกๆ...คุณณตติดธุระครับ” น้ำเสียงที่ฟังเหมือนดัดนั้นทำให้แก้วกานดาขมวดคิ้วมุ่น แต่เธอก็เลือกที่จะพยักหน้ารับทราบ แล้วมองตรงไปข้างหน้าแทน ประณตคงจะติดธุระจริงๆ แต่เขาก็ยังรักษาคำพูดส่งคนมารับเธอ น่านับถือน้ำใจจริงๆณ ไร่องุ่นปรานีบ้านไม้หลังใหญ่ตั้งอยู่บนเนินกลางไร่องุ่นหลายร้อยไร่ หน้าบ้านมีชุดเก้าอี้ไม้รับแขก หญิงสูงวัยนั่งรอแก้วกานดาอยู่ก่อนแล้ว“สวัสดีค่ะคุณป้า” แก้วกานดายกมือไหว้ผู้สูงวัยกว่าด้วยรอยยิ้มหวาน ปรานีรับไหว้อย่างยินดี“สวัสดีจ้ะหนูฝ้าย ไม่เจอตั้งนาน...โตเป็นสาวแล้ว แล้วพ่อกับแม่เราสบายดีไหม ป้าว่าจะแวะไปเยี่ยมที่บ้านก็ยังไม่ว่างสักที”“คุณแม่กับพ่อสบายดีค่ะ ฝ้ายต้องรบกวนคุณป้าหน่อยนะคะ คงต้องมาเรียนรู้อะไรหลายๆอย่างที่นี่”“รบกวนอะไรกันล่ะ คนกันเองทั้งนั
“ขอบคุณค่ะ” คนเปิดประตูให้อยากจะจับประคองร่างเล็กอย่างใจ แต่ก็ทำได้เพียงคอยระวังอยู่ใกล้ๆ หากว่าเธอเกิดสะดุดหกล้มไป เขาก็พร้อมที่จะช่วยเหลือได้ทันท่วงทีปิ่นหล้าและแก้วกานดาเดินนำหน้าสองหนุ่มไปไกลพอสมควร ประณตจึงหันมาถามคนที่ปิดหน้าพรางตายิ้มๆ“เมื่อไรนายจะถอดอุปกรณ์ปกปิดใบหน้าออกสักที เดี๋ยวคนก็แตกตื่นกันทั้งโรงพยาบาลหรอก” คนถูกถามมองตามแผ่นหลังของร่างเล็กข้างหน้า ก่อนจะหันมาตอบเพื่อน“ขืนถอดออกฝ้ายก็จับได้สิ” เสียงทุ้มเอ่ยเบาๆ อย่างกลัวคนข้างหน้าจะได้ยิน“แล้วปกปิดหน้าซะมิดชิดอย่างนี้ มีแผนจะเข้าไปในห้องตรวจกับเขายังไง เจ้าหน้าที่เขาคงให้เข้าไปหรอกนะ” มือใหญ่ถอดแว่นตาดำออกสบตาเพื่อนอย่างอ้อนวอน“เราไม่มีแผนอะไรให้นายนะรบ คิดแผนไม่ออกจริงๆว่ะ” ประณตตบบ่าเพื่อนสองที แล้วเร่งฝีเท้าตามคุณแม่ยังสาวทั้งสองไป ปล่อยให้นักรบยืนนิ่งถอนหายใจแรงอย่างคิดไม่ตก ว่าจะทำยังไงถึงจะได้เข้าไปในห้องตรวจครรภ์พร้อมกับแก้วกานดา เขาอยากเห็นภาพแรกของลูกพร้อมกับแก้วกานดา อยากฟังคุณหมอบอกเล่าถึงลูก อยากรู้ว่าตอนนี้เขาตัวโตแค่ไหนแล้ว และอยากให้กำลังใจคนที่อุ้มท้องลูกของเขาด้
“ผู้หญิงค่ะ แข็งแรงดีค่ะพี่ปิ่น แล้วลูกพี่ปิ่นล่ะคะ”“ผู้ชายจ้ะ แข็งแรงดี สมใจพ่อเขาล่ะ พี่ณตเขาอยากได้ลูกชาย” ปิ่นหล้าตอบยิ้มๆบุ้ยใบ้ไปทางประณตที่มีสีหน้าภาคภูมิใจในฝีมือตัวเอง“ถ้าอย่างนั้น พี่ขอหมั้นลูกสาวน้องฝ้ายไว้ให้ลูกชายพี่เลยนะ ฮ่าๆ” ประณตหัวเราะพร้อมกับเหล่ตาไปมองนักรบ“แหม...เล่นขอหมั้นกันตั้งแต่อยู่ในท้องเลยเหรอคะ อืม...ตกลงค่ะ แต่มีข้อแม้ว่าพี่ณตต้องสอนทุกเคล็ดลับในการทำไร่องุ่นให้ฝ้าย โดยไม่หมกเม็ดใดๆนะคะ” แก้วกานดายิ้มหวานรับคำขอหมั้นลูกสาวของตน“จัดไปครับน้องฝ้าย” สายตาคมเข้มของนักรบภายใต้แว่นกันแดดหรี่ตามองเพื่อนอย่างไม่พอใจ ซึ่งประณตเองก็พอจะเดาอาการของเพื่อนออก เขาตีคิ้วข้างเดียวอย่างท้าทายคุณพ่อที่เริ่มแอบหวงลูกสาวอยู่เงียบๆ แต่แสดงออกไม่ได้“เอ่อ...น้องฝ้ายครับ พอดีที่ไร่โทรมาบอกว่ามีงานด่วน พี่ขอกลับไร่ก่อนแล้วค่อยให้คนขับรถไปส่งน้องฝ้ายที่ร้านนะครับ” ประณตพยายามวางแผนให้โอกาสเพื่อนเต็มที่“ได้ค่ะพี่ณต แค่นี้ก็เกรงใจจะแย่”“เกรงใจอะไรกันล่ะครับ คนกันเองทั้งนั้น” แก้วกานดายิ้มกว้างยกมือไหว้ขอบคุณทั้งสองคน&
“สวัสดีค่ะคุณเควิน” แก้วกานดายิ้มต้อนรับหนุ่มต่างชาติอย่างยินดี เควินยิ้มกว้างหันไปยกมือไหว้กานต์แก้วอย่างนอบน้อม แต่ก็ยังดูขัดตาอยู่นิดๆ “สวัสดีครับคุณแม่” “แม่คะนี่คุณเควินที่ฝ้ายเคยเล่าให้ฟังค่ะ” กานต์แก้วพยักหน้ารับทราบ “ตามสบายนะคุณเควิน แม่ขอตัวไปพักผ่อนสักหน่อยนะ” เควิน พยักหน้ารับยิ้มกว้าง กานต์แก้วเดินออกจากร้านไปแล้ว แก้วกานดาเดินนำเควินไปนั่งด้านนอกของร้าน “คุณเควินมากับเพื่อนๆอีกหรือคะ” เควินส่ายหน้าช้าๆเป็นคำตอบ “ผมมาตามเสียงเรียกร้องของหัวใจ” แก้วกานดายิ้มอย่างยากเย็น “ผมอยากดูแลแฟรี่กับลูก ขอโอกาสให้ผมได้ไหมครับ” เควินรุกเร็ว เขาไม่อยากรอช้า เพราะเวลามันกระชั้นชิดเข้ามาทุกที แก้วกานดาถอนหายใจเบาๆ หญิงสาวยิ้มน้อยๆขณะที่สบตาเควิน “คุณเควินเป็นคนดี ฝ้ายอยากให้คุณได้เจอคนที่ดี” แก้วกานดาว่าแล้วยิ้มหวาน หากแต่เควินกลับถอนหายใจยาวอย่างเคร่งเครียด “แฟรี่จะไม่เปิดโอกาสทำความรู้จักกับผมหน่อ
“แย่จัง อุตส่าห์อธิษฐานมาทั้งคืนว่าให้แฟรี่ยอมใจอ่อนให้ผมบ้าง” แก้วกานดาหัวเราะเบาๆ เอื้อมมือไปกุมมือใหญ่ไว้ เพราะอยากถ่ายทอดความจริงใจให้ชายหนุ่มได้รับรู้“คุณเควินสัญญากับฝ้ายนะคะ ว่าเราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป ที่นี่ยินดีต้อนรับคุณเสมอ” เควินถอนหายใจแรง เขาจับมือบางขึ้นมาแตะจุมพิตแผ่วเบา ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาแก้วกานดาที่มองอย่างตกใจเล็กน้อย“ผมสัญญาว่าเราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไปครับ ขออนุญาตทักทายคนที่กุมหัวใจคุณไว้ทั้งหมดได้ไหมครับ” เควินหลุบสายตาลงไปตรงกลางท้องของหญิงสาว แล้วเงยขึ้นสบตากับแก้วกานดา“ได้สิคะ คุณลุงเควิน” มือใหญ่ทาบทับลงบนท้องนูน แล้วก้มลงพูดเศร้าๆ“ลุงคงไม่ได้ดูแลหนูอย่างที่ต้องการแล้วล่ะ หนูต้องเป็นเด็กดี อย่าดื้อกับแฟรี่นะครับ ลาก่อนครับ” เควินชักมือกลับ แล้วรวบมือบางมากุมไว้“ผมขอสัญญาข้อหนึ่งได้ไหมครับ” แก้วกานดาขมวดคิ้วมุ่น“ถ้าแฟรี่จะมองหาใครมาดูแลสักคน ขอให้ผมเป็นตัวเลือกแรกได้ไหมครับ” แก้วกานดาสบตาเควินยิ้มๆ“ฝ้ายจะโทรหาคุณเควินคนแรกเลยค่ะ” สองหนุ่มสาวหัวเราะขึ้นพร้อมกัน ความรู้สึกดีๆที่เกิดขึ้นถึงแม้จะไม่ลงได้ล
“ขอบใจมากนะณต ฝากลาคุณแม่ปรานีกับปิ่นด้วย เราคงต้องรีบกลับแล้วล่ะ” ประณตพยักหน้าเข้าใจเพื่อน แต่ก่อนที่นักรบจะก้าวขึ้นรถ สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นรถคันคุ้นตาแล่นเข้ามาภายในไร่องุ่นปรานี“จะไปไหนรบ” คุณนัยนาลงจากรถก่อนใคร แล้วเดินตรงมาหาลูกชายทันที ประณตยกมือไหว้ทักทาย ขณะที่นักรบถอนหายใจเฮือกใหญ่แววตาหม่นเศร้าฉายชัด นลินและนายแพทย์ชัยชนะเดินมายืนข้างคุณนัยนาแล้วยกมือไหว้ทักทายประณต ทุกคนมองนักรบด้วยความเห็นใจ“รบยอมแพ้แล้วเหรอ” นักรบสบตามารดาแล้วพยักหน้าช้าๆ ร่างสูงใหญ่ขยับเข้าใกล้คุณนัยนา วงแขนแกร่งกอดร่างมารดาแน่น เขาหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้าหัวใจนัก น้ำตาลูกผู้ชายไหลรินบนบ่าของผู้เป็นแม่ คุณนัยนาลูบแผ่นหลังกว้างเบาๆ เธอรับรู้ถึงแรงสั่นสะท้านของผู้ชายตัวโต หัวใจคนเป็นแม่เจ็บปวดยิ่งนัก เมื่อสำนึกได้ว่าตัวเองคือคนที่ทำร้ายลูกชายให้ต้องตกอยู่ในสภาพนี้“ฝ้ายเขาไม่ให้โอกาสผมแล้วครับแม่...บางทีการที่ผมออกไปจากชีวิตฝ้าย น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับฝ้ายแล้ว” เสียงทุ้มเจือสะอื้นฟังดูเศร้าและหมดหวัง“รบ...ฟังแม่นะ รบต้องสู้นะ รบรอแม่อยู่นี่ก่อนนะ แม่จะแก้ไขความผิ
“เอ่อ...แม่จะให้รบมารับฝ้ายกลับไปอยู่บ้านเรานะ” แก้วกานดาปล่อยวงแขนเรียวจากร่างของคุณนัยนา หญิงสาวยิ้มพร้อมกับส่ายหน้า“ฝ้ายให้อภัยคุณแม่กับคุณรบแล้วค่ะ แต่ฝ้ายคงไม่กลับไปอยู่กับคนที่ไม่เชื่อมั่นในความรักของฝ้ายหรอกค่ะ” คุณนัยนาถอนหายใจแรง“ฝ้าย...”“ปล่อยให้ฝ้ายอยู่ที่นี่กับคนที่เชื่อมั่นในรักของฝ้าย และฝ้ายก็เชื่อมั่นในรักของท่านเถอะค่ะ” คุณนัยนาขมวดคิ้วมุ่น แก้วกานดายิ้มกว้าง“ความรักของพ่อกับแม่เป็นความรักที่ฝ้ายเชื่อมั่นที่สุดค่ะ”“เอ่อ...ฝ้ายจะว่าอะไรไหมถ้าแม่จะขอคุยกับคุณพ่อคุณแม่ของฝ้าย แม่อยากขอโทษคุณกานต์แก้ว คุณธาดา ที่แม่เคยทำร้ายแก้วตาดวงใจของเขา” เมื่อแก้วกานดาไม่ยอมเปิดโอกาสให้นักรบเลย คนที่พอจะช่วยได้ก็คงจะเป็นพ่อกับแม่ของเธอ คุณนัยนาต้องการขอโอกาสจากทั้งสองคน โอกาสที่จะทำให้เรื่องราวทุกอย่างจบลงด้วยความสุขของคนเป็นลูก“ได้สิคะ คุณแม่รอตรงนี้นะคะ เดี๋ยวฝ้ายไปเรียกคุณพ่อคุณแม่ให้”“พรุ่งนี้จะมีคนงานมาพักกับเราหนึ่งคนนะฝ้าย” คุณธาดาบอกกับลูกสาวขณะรับประทานอาหารมื้อค่ำด้วยกันสามคนพ่อแม่ลูก แ
“อือ...” นลินอมยิ้มขณะที่ตอบรับ เธอยอมรับว่าการอยู่ในอ้อมกอดแข็งแกร่งของชายหนุ่มทำให้เธอรู้สึกอบอุ่น และมีความสุข“งั้นก็มากินกันเถอะ” นลินหันกลับมาทำหน้าแปลกใจ ก่อนที่จะถึงบางอ้อ เมื่อชายหนุ่มพยักพเยิดไปยังโต๊ะไม้ที่ตั้งอยู่มุมระเบียงกว้างอีกด้าน ซึ่งบนโต๊ะมีอาหารหลายอย่างถูกจัดวางไว้รออยู่แล้ว“นี่วินวางแผนไว้ก่อนแล้วใช่ไหม” คนถูกกล่าวหาเลิกคิ้วสูง“กินกันเถอะ วินหิวแล้ว” นายแพทย์ชัยชนะเลือกที่จะไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ เขากุมมือนุ่มจูงไปยังเก้าอี้ มือใหญ่วางบนบ่าบอบบางทั้งสองก่อนจะกดลงเบาๆให้หญิงสาวนั่งลง แล้วตัวเขาเองก็นั่งลงที่เก้าอี้ตรงกันข้าม“สงบศึกชั่วคราว เติมพลังก่อนนะ” นลินจิกสายตามองคนพูด ชายหนุ่มพยักหน้า ผายมือเชื้อเชิญให้เธอรับประทานอาหารตรงหน้า สองหนุ่มสาวยิ้มให้กันก่อนที่จะเริ่มลงมือรับประทานมื้อเย็นอย่างมีความสุข ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติสายน้ำและแมกไม้“หนังท้องตึง หนังตามันก็หย่อนอะ วินขอนอนพักหน่อยนะ เดี๋ยวค่อยเดินทางต่อ” นายแพทย์ชัยชนะพูดขึ้นมา หลังจากที่ทั้งสองจัดการอาหารมื้อเย็นกันเรียบร้อยได้สักพัก ร่างสูงลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินโซเ
“พี่นวดให้ฝ้ายดีกว่า” แก้วกานดายิ้มอยู่กับอกกว้างอย่างรู้ทัน ร่างของคนตัวเล็กกว่าถูกพลิกให้นอนลงบนเตียงนุ่ม นักรบทาบทับตามติดมันที สองสายตาประสานกันนิ่ง แก้วกานดายกมือขึ้นลูบไล้ใบหน้าของสามีเบาๆ “พี่ชอบเวลาฝ้ายสัมผัสตัวพี่” สายตากรุ้มกริ่มของสามีทำให้เธอรู้ความหมายของเขา มือเล็กยันแผงออกกว้างให้เขาเป็นฝ่ายนอนหงายลง เสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่และกางเกงนอนขายาวถูกถอดออกอย่างว่องไวโดยเจ้าของ แก้วกานดาขมวดคิ้วมุ่น หัวเราะกับท่าทางกระตือรือร้นของสามี “พี่ไม่อยากให้ฝ้ายเหนื่อย” นักรบยิ้มกว้างนอนรออย่างมีความหวัง ใบหน้านวลแดงซ่านเมื่อกวาดตามองเรือนกายกำยำของสามี ถึงจะอยู่กินกันมาหลายปีแล้ว แต่เธอก็ไม่ชินกับการมองเห็นเขาในสภาพเปล่าเปลือยสักที มือเล็กลูบไล้ทั่วแผ่นอกกำยำ ขณะที่สายตาจับจ้องใบหน้าหล่อคมของสามี นักรบหลับตาพริ้ม พ่นลมออกจากปากเป็นการระบายอารมณ์ร้อนแรงภายใน ที่เริ่มจะเดือดปุดๆ เพราะเกรงว่าตัวเองจะทนไม่ไหว จะต้องเป็นฝ่ายรุกเสียก่อนที่ภรรยาสาวจะสำรวจร่างของตนจนถ้วนทั่ว “อา...เลื่อนลงไ
“เห็นไหมลิน...ลูกมีความสุขกับการมีเพื่อนเล่น เราต้องจริงจังกับการผลิตน้องให้น้องนีแล้วนะ” นลินเงยหน้าสบตาสามี มือเล็กบิดสีข้างของคนตัวใหญ่เบาๆ“โอ๊ย!”“ไม่ต้องเอาลูกมาอ้างเลยนะวิน เดี๋ยวเถอะ” นลินจิกสายตามองอย่างรู้ทัน หญิงสาวสะบัดหน้าหนีผละออกจากวงแขนแกร่ง รีบสาวเท้าเดินตามลูกน้อยไป นายแพทย์ชัยชนะมองตามร่างภรรยาด้วยสายตามุ่งมั่นหลังจากมื้อค่ำที่แสนสุขของครอบครัวใหญ่ นักรบ แก้วกานดา นายแพทย์ชัยชนะ นลินและเด็กๆมารวมตัวกันที่โต๊ะไม้สักตัวใหญ่บริเวณระเบียงหลังบ้าน ส่วนผู้สูงอายุเลี่ยงไปคุยกันอีกมุมหนึ่งของบ้าน เด็กๆส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวกันดังลั่น สลับกับเสียงหัวเราะของผู้ใหญ่ดังขึ้นเป็นระยะ“ลินทำไมไม่มีน้องให้น้องนีสักทีล่ะ ลูกคนเดียวเหงานะ”“เอ่อ...” นลินเพียงแค่อ้าปากกำลังจะตอบ สามีเธอก็แย่งหน้าที่ตอบคำถามให้ก่อน“กำลังพยายามอยู่ฝ้าย ลินไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าไร ส่วนวินน่ะพร้อมทุกที่ทุกเวลา”คำพูดของนายแพทย์หนุ่มเรียกเสียงหัวเราะของทุกคน แต่คนที่ถูกพาดพิงกลับส่งสายตาเขียวปั้ดให้สามีตัวเอง“น้องนีครับ คืนนี้นอนกับคุณยายนะลูก” นา
“ฝ้ายติดลูกค้า ช่วงนี้ที่รีสอร์ตยุ่งๆ...สวัสดีครับปกป้องสุดหล่อ” เด็กชายปกป้องยิ้มแหยๆ ก้าวมายืนข้างหน้าบิดาแล้วยกมือไหว้ผู้มาเยือนอย่างนอบน้อม“สวัสดีครับพ่อรบ” นักรบยื่นมือใหญ่ไปยีศีรษะเล็กของเด็กชายเบาๆ เด็กหญิงคนเดียวท่ามกลางหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ ก้าวมายืนเคียงข้างบิดา จ้องมองลูกชายของเพื่อนพ่ออย่างข่มเต็มที่“เข้าไปในบ้านกันเถอะน้องปองเพิ่งกินนมเสร็จพอดี” ประณตเดินนำหน้าทุกคนเข้าไปในบ้าน เด็กชายธงรบจับมือบิดาเดินเข้าไปบ้านไปแล้ว“เดี๋ยวสิน้องป้อง” เด็กชายปกป้องหยุดการก้าวเดิน แล้วหันกลับไปมองคนที่เรียกตนเองด้วยสายตาไม่พอใจ“ป้องไม่ใช่น้องใคร ป้องเป็นพี่” คนถูกเรียกน้องแสดงความไม่พอใจออกมาทั้งหน้าตาและน้ำเสียง โดยไม่ปิดบัง เด็กหญิงแก้วกัลยายิ้มเยาะ“คุณพ่อบอกว่าป้องเกิดทีหลังนับหนึ่งตั้งสองวัน ป้องต้องเรียกนับหนึ่งว่า...พี่นับหนึ่ง” เด็กหญิงผมเปียยิ้มอย่างผู้ชนะ“คุณพ่อบอกว่านับหนึ่งเป็นคู่หมั้นของป้อง โตขึ้นนับหนึ่งต้องมาเป็นแฟนของป้อง นับหนึ่งนั่นแหละต้องเรียกป้องว่าคุณแฟน” เด็กชายตัวน้อยตอบโต้กลับ สบตาดวงตากลมโตอย่างเหนือกว่า“ไม่
“นับหนึ่งไม่ได้เล่นนะ นับหนึ่งกำลังช่วยคุณตาปลูกดอกกุหลาบแปลงใหม่อยู่” เสียงเจื้อยแจ้วบ่งบอกว่างอน ทำให้ผู้เป็นพ่อหัวเราะในลำคอ“ตัวเล็กแค่นี้ขยันจังเลย สงสัยพ่อต้องมีรางวัลให้ซะแล้ว” เด็กหญิงตาโตเมื่อได้ยินคำว่ารางวัล“รางวัลอะไรคะ” นักรบยิ้มส่ายศีรษะ“ยังไม่บอก จนกว่านับหนึ่งจะไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่สวยๆ” หรี่ตามองบิดาอย่างชั่งใจ“ก็ได้ค่ะ” ร่างเล็กดิ้นลงจากอกบิดา แล้ววิ่งเข้าบ้านไปทันที แก้วกานดาอุ้มลูกชายตัวเล็กอายุสามขวบเดินออกมาจากในบ้าน สวนทางกับเด็กหญิงแก้วกัลยาที่วิ่งปรู๊ดเข้าไปบ้านพอดี“โกหกอะไรนับหนึ่งอีกล่ะคะ ถึงได้ยิ้มหน้าบานขนาดนั้น” นักรบรับเด็กชายธงรบมาอุ้มไว้ แล้วโอบร่างภรรยาไว้หลวมๆ ริมฝีปากหยักได้รูปจุมพิตที่ขมับของคนร่างเล็กหนักๆ“ไม่ได้โกหกสักหน่อย พี่ว่าจะพานับหนึ่งไปเยี่ยมน้องปองที่ไร่ปรานี ฝ้ายไปด้วยกันนะ” ปิ่นหล้าภรรยาของประณตเจ้าของไร่องุ่นใกล้เคียงกันเพิ่งคลอดบุตรสาวคนเล็ก นักรบจึงอยากไปเยี่ยมตามประสาเพื่อนกัน“วันนี้มีกรุ๊ปทัวร์คุณหมอเพื่อนของวินมาค่ะ พี่รบจำไม่ได้เหรอ ถ้าฝ้ายไปด้วยใครจะดูแลลูกค้าล่ะคะ” หลังจาก
“จ้า...ฝ้ายก็ต้องดูแลตัวเองด้วยนะ อาไปก่อนนะนับหนึ่ง” นลินก้มลงคุยกับหลานที่ยังอยู่ในท้องของแก้วกานดา“ฝากดูแลลินด้วยนะหมอวิน” นักรบหันไปฝากฝังน้องสาวกับว่าที่น้องเขย นายแพทย์ชัยชนะยิ้มพยักหน้ารับ“เป็นหน้าที่ของผมออยู่แล้วครับพี่รบ” นลินตวัดสายตามองคนพูดอย่างหมั่นไส้ ช่างสรรหาคำพูดมาทำคะแนนเหลือเกิน คนที่ถูกหมั่นไส้ตีคิ้วยิ้มด้วยแววตาเป็นประกาย จนนลินต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาเอง“ขับรถดีๆนะวิน” แก้วกานดาโบกมือลาเพื่อนด้วยรอยยิ้ม“เราต้องแต่งงานกันเดือนหน้านะลิน” หลังจากรถแล่นออกจากประตูรั้ว นายแพทย์ชัยชนะก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง“ลินรู้แล้ว วินจะย้ำอะไรนักหนา”“ก็ย้ำเพื่อให้ลินรู้ว่าห้ามบ่ายเบี่ยงอีกเด็ดขาด”นลินเบี่ยงตัวหันมามองหน้าคนขับรถ คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่น นายแพทย์ชัยชนะยิ้มกว้าง หันหน้ามาสบตาคนนั่งข้างแวบหนึ่ง แล้วหันกลับไปตั้งใจขับรถต่อ“คืนที่ผ่านมา มันเป็นช่วงที่ร่างกายของลินพร้อมตั้งครรภ์ที่สุด และวินก็ตั้งใจทำเต็มที่ ไม่แน่นะว่าลูกของวินอาจจะอยู่ในท้องของลินแล้วก็ได้”นลินอ้าปากค
“อื๊อ...พี่รบ” แก้วกานดาประท้วงเสียงพร่า“รู้ไหม...นอกจากพี่จะเป็นตาแก่ขี้หวงแล้ว พี่ยังเป็นตาแก่หื่นกามจอมอึดด้วยนะ” เสียงทุ้มกระซิบริมหูเล็ก แก้วกานดายิ้มหวานพลิกร่างนอนหงาย“จะอึดแค่ไหนกันเชียว...ขี้โม้” คนตัวเล็กไม่ยอมลดราวาศอก บังอาจท้าทายคนตัวโต“พี่ถือว่าเป็นสาส์นท้ารบ นักรบอย่างพี่ไม่มีวันถอยทัพแน่ ถ้าศัตรูไม่พ่ายทัพแตกหนีไปเสียก่อน และถึงจะพ่ายทัพแตกกระเจิง พี่สาบานว่าจะรุกไม่ให้ได้หายใจหายคอกันทีเดียว หึๆ” คำพูดของสามีทำให้แก้วกานดาใจสั่น รู้แน่ว่าเขาคิดเป็นจริงเป็นจัง หญิงสาวจึงหวีดร้องเบาๆ เมื่อร่างเล็กของตัวเองถูกจับลอกคราบอย่างรวดเร็ว“พี่รบขา ใช้แผนการรบแบบละมุนละม่อมนะ ห้ามใช้แผนการรบขั้นรุนแรง ลูกอยู่ในนี้นะคะ” แก้วกานดาเตือนสติสามี“ครับผม” รับคำเรียบร้อย นักรบก็ไม่ปล่อยให้ภรรยาได้ทันตั้งตัว เขาจู่โจมรุกหนักด้วยการมอบจุมพิตที่เร่าร้อน มือใหญ่ลูบไล้ไปตามร่างนุ่มนิ่มอวบอิ่ม หยุดทักทายบีบเคล้นอกอวบสลับกับการคีบเม็ดสีหวานเบาๆ ริมฝีปากร้อนเคลื่อนที่ช้าๆดื่มด่ำกับผิวเนียนหอมกรุ่นทั่วร่างอย่างหลงใหล“เมียพี่หวานที่สุด น่ากินไปทั้ง
“อื้มมมม...รักลินที่สุด” เสียงครางทุ้มต่ำบ่งบอกว่า เขาได้ล่องลอยอยู่ในเวิ้งฟ้าเดียวกันกับคนรัก คำบอกรักกระซิบด้วยเสียงพร่าแว่วหวานนัก ร่างใหญ่พลิกกายนอนหงาย โดยกอดคนร่างเล็กให้นอนแนบกายทาบทับอยู่บนร่างของตน สองร่างยังคงประสานกันอยู่กลางกาย นลินซบหน้าบนแผ่นอกคนคนรัก ลมหายใจของเธอยังหอบถี่กระชั้น “พักยกก่อนเนอะ” เสียงทุ้มกระซิบกระซาบ แล้วจูบซับเรือนผมหอมกรุ่น “บ้า” ถึงจะยังเหนื่อยกับเกมรักที่เพิ่งผ่านไป แต่นลินก็ยังพอที่อ้าปากต่อว่าคนหื่นได้ มือใหญ่กดลงบนสะโพกเต่งตึงแรงๆ พร้อมกับยกสะโพกของตนสวนรับค้างไว้ ความซาบซ่านละมุนที่ยังวนเวียนอยู่ในร่างสาวทำให้นลินเสียววูบขึ้นมาทันที “อ๊ะ! วิน...อย่าแกล้งกันสิ” คนแกล้งหัวเราะชอบใจ “ก็ลินน่ารัก อยากแกล้งแบบนี้ทั้งวันทั้งคืนเลย” “จะบ้าเหรอ...งานการไม่มีทำหรือไง” “มี...แต่ชอบทำลินมากกว่า” “อุ๊ย! วิน” มือหนาจับบ่าเล็กดันขึ้นให้ร่างของนลินนั่งคร่อมอยู่บนร่างตนเอง หญิงสาวหน้าแด
นายแพทย์ชัยชนะหัวเราะในลำคอ “เพราะรักหรอกน่า...เดือนหน้าเราจะต้องแต่งงานกันนะ วินไม่ อยากนอนคนเดียว อยากตื่นมาตอนเช้าแล้วเห็นลินเป็นคนแรก” มือหนาลูบไล้ไปตามแผ่นหลังนุ่ม“ปากหวานก็เป็นด้วย” นลินพูดเสียงอู้อี้อยู่ชิดแผงอกกว้าง“วินรักลินนะ” นลินผงกศีรษะขึ้นสบตาแวววาวของชายหนุ่ม สองสายตาประสานกันอยู่เนิ่นนาน นายแพทย์ชัยชนะค่อยๆพลิกร่างตัวเองขึ้นคร่อมร่างของหญิงสาวให้อยู่ใต้ร่างของตนเอง นลินพ่นลมหายใจออกเบาๆ หลับตาลงช้าๆเมื่อใบหน้าหล่อเหลาของคนบนร่างโน้มลงมาใกล้ ริมฝีปากบางจิ้มลิ้มของเธอถูกครอบครองแผ่วเบา หญิงสาวเผยอปากรับอย่างเต็มใจ ชายหนุ่มเริ่มรุกเร่าร้อน ลิ้นสากของเขาไล่ต้อนตวัดรัดรึงลิ้นเล็กของเธอด้วยความโหยหา นลินจูบตอบด้วยประสบการณ์ที่น้อยนัก แต่กลับทำให้ชายหนุ่มครางกระหึ่มในลำคอด้วยความพึงพอใจ“วินรักลินที่สุด” เสียงทุ้มดังอยู่ชิดริมหูเล็ก นายแพทย์ชัยชนะละจากริมฝีปากของนลิน ใช้จมูกโด่งซอกซอนดอมดมไปตามใบหน้าเนียนและลำคอหอมกรุ่น ชุดนอนของหญิงสาวดูจะเกะกะสายตาเขาเป็นที่สุด มือใหญ่จึงลงมือแกะและถอดปราการบนร่างบางทุกชิ้นออกอย่างรวดเร็ว นลินนอนหอบหายใจแรงอย่างเขิน
“รีบๆแต่งกันไปเถอะหนูลิน หมั้นกันนานๆผู้คนจะมองไม่ดี มีคนมาดูแลหนูลิน คุณนัยนาจะได้สบายใจ” กานต์แก้วพยายามเกลี้ยกล่อมนลินช่วยอีกคน เพราะหน้าตาของหญิงสาวบ่งบอกว่างอนมารดาอย่างเห็นได้ชัด“หรือหมอวินทำอะไรให้ลินไม่พอใจหรือเปล่า” นักรบลุกขึ้นยืนขึงขัง เงื้อกำปั้นขึ้นเล็งไปที่นายแพทย์หนุ่มที่นั่งอยู่ข้างน้องสาว นลินรีบยกมือห้ามทันควัน“ไม่ๆค่ะ พี่รบจะทำอะไรเนี่ย วินเขาไม่ได้ทำอะไรลินสักหน่อย” ประโยคสุดท้ายของนลินฟังแล้วไม่ค่อยมั่นใจนัก เสียงหัวเราะของคนรอบข้างทำให้นลินกวาดสายตาดูทุกคนอายๆ ที่เผลอออกโรงปกป้องชายหนุ่ม“นั่นไง...เป็นห่วงหมอวินล่ะสิ...สรุปแต่งกันเดือนหน้าเลยนะ ฝากดูแลลินด้วยนะหมอวิน” คนเป็นพี่พูดจบก็นั่งลง สบตากับว่าที่น้องเขยยิ้มๆ นลินมองหน้าว่าที่เจ้าบ่าวของตนอย่างหมั่นไส้ ก็เขาเล่นยิ้มแก้มแทบจะปริอยู่แล้วนะเช้าวันต่อมาผู้สูงอายุทั้งสามออกจากบ้านแต่เช้า นักรบและแก้วกานดาช่วยกันทำงาน แต่ส่วนใหญ่จะหนักไปทางสามีเป็นผู้ทำทั้งหมดเสียมากกว่า ด้วยเกรงว่าภรรยาจะเหนื่อย ไม่ได้พักผ่อน นลินและนายแพทย์ชัยชนะนั่งพักผ่อนอยู่บริเวณซุ้มไม้นอกร