Share

บทที่ 75

last update Last Updated: 2025-02-10 14:46:11

“เซียนเซียน มีหลายอย่างที่ข้าต้องการพูดคุยกับเจ้าให้เข้าใจ แต่ยามนี้ยังมิสมควรนัก จำไว้ โปรดเชื่อใจข้า”

ไป๋ฟางเซียนนั่งมองหน้าหลี่เหวินหลางที่ยามนี้ยังมิยอมออกจากจวนทั้ง ๆ ที่ม้าเร็วจากวังหลวงมาตามเขาไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้ได้ราวสองเค่อ[1]แล้ว นางเห็นถึงความหนักใจและกังวลใจของเขา ทว่าก็ยังรู้สึกมิอยากพูดกับเขาตอนนี้อยู่ดี

“ท่านรีบไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทเถิด ปล่อยให้พระองค์รอนานมิใช่เรื่องดี และมิใช่สิ่งที่ควรกระทำ ส่วนเรื่องของข้ากับท่านเราค่อยพูดคุยกันในภายหลัง”

“เซียนเซียนเชื่อใจข้าหรือไม่” แล้วก็ยังเป็นเขาที่ดื้อดึง ไม่รู้ว่านางพูดประโยคเช่นนี้ไปกี่ครั้งแล้ว สุดท้ายคนตัวโตก็ไม่ยอมจากไป เอาแต่ถามว่าเชื่อใจเขาหรือไม่ซ้ำไปซ้ำมา

“ไม่รู้เช่นกัน เอาไว้ค่อยพูดคุยกันในภายหลัง ท่านรีบไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทก่อนเถิด อย่าปล่อยให้พระองค์รอนานนัก”

“แต่ว่า...”

“เอาเป็นว่าข้าจะรอฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากของท่าน หากท่านพร้อมค่อยบอกกล่าวให้ข้าได้ฟัง หลังจากนั้นข้าจะตัดสินใจเอง ท่านรีบไปได้แล้ว”

“ก็ได้... แต่เซียนเซียนต้องสัญญากับข้าก่อน ว่าจะไม่พูดคำว่าเกลียดออกมาอีก ไม่มองกันด้วยสายตาเย็นชาหรือว่างเปล่าแบบเมื่อวานอี
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 76

    ในขณะที่ไป๋ฟางเซียนกำลังรู้สึกสบายใจอย่างมาก หลี่เหวินหลางกลับรู้สึกหนักใจยิ่ง คิ้วเข้มของเขาขมวดเข้าหากันแล้วคลายออก และกลับมาขมวดเข้าหากันใหม่อีกครั้งเป็นเช่นนี้อยู่บ่อยครั้ง บ่งบอกได้เลยว่าเรื่องที่กำลังสนทนาและหารือกันอยู่ตอนนี้เคร่งเครียดแค่ไหน หลายครั้งที่แม่ทัพหนุ่มส่ายหน้าไม่เห็นด้วยกับแผนการที่หลาย ๆ ฝ่ายเสนอขึ้นมา ก่อนจะแย้งกลับไปด้วยเหตุผลที่ทำให้หลายคนต้องยอมรับ ในที่สุดความตึงเครียดที่มีมาทั้งหมดก็ลดน้อยลง คนในวงสนทนาผ่อนคลายขึ้นมาก แม้จะยังสนทนากันไม่จบก็ตาม“เป็นอย่างไรเล่าท่านแม่ทัพ ครานี้เห็นด้วยกับเจิ้นแล้วใช่หรือไม่”ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นกษัตริย์ครองแคว้นจ้าว นาม จ้าวเทียนหลง อยู่ในฉลองพระองค์สีเหลืองทองนั่งบนบัลลังก์สูงสุดในท้องพระโรงของวังหลวงด้วยท่วงท่าสง่างามและองอาจ เอ่ยขึ้นทันทีที่บทสนทนาผ่อนคลายลงมากแล้ว “พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท พระองค์มากความสามารถ กระหม่อมย่อมต้องเห็นด้วยอยู่แล้วพ่ะย่ะค่ะ” หลี่เหวินหลางเอ่ยแย้งด้วยรู้ดีว่าฮ่องเต้พระองค์นี้มิได้ต้องการว่าร้ายตนแต่อย่างใด“เหอะ อย่ามาพูดเอาใจเจิ้น ก่อนหน้านี้เป็นผู้ใดเล่าที่ขัดเจิ้นอยู่ร่ำไป” แม้น้ำเสียงของผู้เป็นให

    Last Updated : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 77

    ในขณะที่จวนตระกูลหลี่บทสนทนาเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ จวนตระกูลโจวกลับเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก ทว่าในความเคร่งเครียดนั้นมีแววสมใจและยินดีซ่อนอยู่“หลี่เหวินหลางจะเดินทางไปต่างเมืองพร้อมภรรยาของตน เราควรใช้โอกาสนี้กระทำสิ่งต่าง ๆ ให้เรียบร้อย” โจวเหลียงเกา เสนาบดีกรมคลังเอ่ยกับคู่สนทนาอย่างหมายมาด“เรื่องนี้จริงหรือไม่”“จริงแท้แน่นอน ข้าเพิ่งกลับจากวังหลวง ฝ่าบาทเป็นคนตรัสให้แม่ทัพหนุ่มผู้นั้นไปตรวจตราราชกิจที่ต่างเมืองด้วยพระองค์เอง” เสนาบดีโจวเหลียงเกาบอกด้วยรอยยิ้ม แววตาของเขามั่นใจเสียจนคู่สนทนาอดแย้มยิ้มตามไปด้วยไม่ได้ ทั้งสองมองตากันอย่างสุขสมใจ ก่อนคู่สนทนาคนดังกล่าวจะเอ่ยในสิ่งที่ตนต้องการ“นอกจากจัดการเรื่องงานทุกอย่างให้เสร็จสิ้นในครั้งนี้ เราควรฉวยโอกาสนี้กำจัดศัตรูที่คิดบ่อนทำลายพวกเราดีหรือไม่”“โอ... นั่นสินะ เป็นท่านข่านที่ฉลาดหลักแหลม ข้าลืมเรื่องนี้ไปเลย” เสนาบดีโจวเหลียงเกาเอ่ยเย้าอีกฝ่าย ส่วน ‘ท่านข่าน’ นามเต็มคือ สวีข่าน คู่สนทนาหรือคู่ค้าคนสำคัญของเขานั่นเอง“ฮะฮะฮ่า ท่านก็พูดเกินไป ข้าหรือจะฉลาดหลักแหลมเท่าทัน แต่พูดก็พูดเถิด หากจะกระทำงานใหญ่เช่นนี้คงหาโอกาสอื่นไม

    Last Updated : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 78

    3 วันผ่านไปณ จวนตระกูลโจว“ที่ข้าสั่งไปเรียบร้อยดีหรือไม่”“เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะคุณหนู ข้านำจดหมายว่าจ้างให้พี่ลี่ไท่แล้วเจ้าค่ะ”“ดี หากงานนี้สำเร็จข้าจะตกรางวัลให้พี่ชายเจ้าและตัวเจ้าอย่างงาม แต่หากผิดพลาด เจ้ารู้ใช่หรือไม่ว่าข้าจะจัดการกับเจ้าเช่นไร”“เจ้าค่ะคุณหนู” เห็นสายตาที่คุณหนูใหญ่มองมา ลี่หวาก็รู้โดยทันทีว่างานนี้จะผิดพลาดไม่ได้ ไม่เช่นนั้นชีวิตนางและพี่ชายคงได้จบสิ้นแล้ว นางรู้สึกกลัวอยู่บ้าง ทว่าก็มั่นใจในฝีมือของพี่ชายตน เรื่องโฉดชั่วเลวระยำเช่นนี้ พี่ชายของนางไม่มีวันผิดพลาดแน่ ทั้งยังจะทำได้อย่างดีเสียมากกว่า“คุณหนูวางใจได้เจ้าค่ะ ทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามที่คุณหนูต้องการแน่นอน”โจวเฟิ่งจิ่วไม่พูดสิ่งใด นางมองตรงไปเบื้องหน้าอย่างหมายมาด แล้วมุมปากของนางก็แสยะยิ้มอย่างสะใจแค่เพียงคิดว่า สตรีที่ตนแสนเกลียดชังกำลังจะถูกทำลายและย่ำยี ก่อนจะกลายเป็นสุขล้นเมื่อมีภาพหลี่เหวินหลางพร่ำบอกรักตนในห้วงความคิด“พี่เหวินเป็นของข้า หากการมีอยู่ของเจ้าจะทำให้ข้าเสียพี่เหวินไปเช่นนั้นข้าจะกำจัดเจ้าเอง และครั้งนี้จะต้องไม่พลาดเหมือนครั้งก่อนแน่ เจ้าจะโทษข้าไม่ได้นะฟางเซียน หากเจ้าตายไป

    Last Updated : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 79

    “หากเซียนเซียนรู้สึกไม่สบายตัวบอกข้าได้ทุกเมื่อ ทั้งยังจะบีบนวดให้คลายเมื่อยด้วยตนเอง”“มิจำเป็น ข้ามีจื่อถิงแล้วคงไม่รบกวนท่าน” ได้ยินคำตอบของนางหลี่เหวินหลางก็ถอนหายใจ ก่อนจะตวัดสายตาไม่พอใจไปยังจื่อถิง“อย่ามองคนของข้าด้วยสายตาเช่นนั้นนะ” นางแหวใส่เขา หลี่เหวินหลางรู้สึกเอ็นดูนางยิ่ง ท่วงท่าของนางตอนนี้ราวกับจิ้งจอกน้อยกำลังพองขนแยกเขี้ยวขู่เขา“ข้ายังมิได้ทำอันใดเลยนะ” ไป๋ฟางเซียนคร้านจะเอ่ยกับเขาจึงสะบัดหน้าหนีไปทางอื่นแทน“เป็นอันใด เหตุใดทำหน้าเช่นนั้น” หลี่เหวินหลางเมื่อเห็นว่านางเงียบไปทั้งยังมีสีหน้าไม่ค่อยดีจึงไถ่ถามด้วยความเป็นห่วงไป๋ฟางเซียนเงยหน้ามอง ดวงตากลมโตนัยน์ตาดำขลับจ้องไปยังหลี่เหวินหลาง สบสายตาคมกล้านัยน์ตาดำขลับเช่นเดียวกับของนางอย่างครุ่นคิด ก่อนจะตอบออกไปอย่างว่าง่าย“ไม่รู้เหมือนกัน ข้ารู้สึกแปลก ๆ”“แปลกอย่างไร”“...” นางยังคงไม่ตอบ คิ้วเรียวสวยมุ่นเข้าหากันมากกว่าเดิม“เซียนเซียนกังวลอันใด” เขาถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงจริงจัง กระวนกระวายใจกลัวนางจะเป็นอันใดไป“ข้ากังวลเจ้าค่ะ ตั้งแต่ออกจากจวนมาข้ารู้สึกไม่ดีเลย คล้ายกับว่า... จะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นเจ้าค่

    Last Updated : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 80

    การเดินทางที่ไร้อุปสรรคทำให้ไป๋ฟางเซียนคลายความกังวลลงไปได้มาก ทว่าก็ไม่ทั้งหมด นางยังระแวงอยู่บ่อยครั้ง และคิดว่าหากไม่เข้าเมืองเสียทีนางคงมิสามารถหายกังวลได้เป็นแน่เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างนางและหลี่เหวินหลางก็นับว่าดีขึ้นเรื่อย ๆ แม้มิได้หวือหวาเช่นก่อนหน้า แต่ก็นับว่าดีมากแล้ว ต้องยอมรับเลยว่าหลี่เหวินหลางเป็นบุรุษปากหวานและหน้าด้านจริง ๆ หลายวันที่ผ่านมาพวกนางเดินทางด้วยกันตลอด แม้จะไม่ถึงขั้นนอนกลางดินกินกลางทราย แต่ก็นับว่าใกล้เคียงไม่น้อย เพราะเดินทางชนิดที่เรียกได้ว่า ค่ำไหนนอนนั่นยามกลางวันอยู่ด้วยกันบนรถม้า ยามค่ำคืนนอนเคียงข้าง แม้ว่าไป๋ฟางเซียนจะมิต้องการให้หลี่เหวินหลางนอนพักในกระโจมเดียวกัน เนื่องจากว่ายังคงไม่หายขุ่นเคืองกับเรื่องราวก่อนหน้า แต่ความต้องการของนางก็มิเป็นผล เพราะความหน้าด้านหน้าทนของเขา!หลี่เหวินหลางคือใคร เขาคือบุรุษที่เอาแต่ใจตนเองยิ่ง ทั้งยังหน้าด้านหน้ามึน ดุด่าก็แล้ว ไล่ก็แล้ว สุดท้ายก็ยิ้มแฉ่งล้มตัวนอนลงเคียงข้าง คว้าเอวบางของนางเข้าไปกอดรัดจนใบหน้างามจมหายลงไปในแผงอกกว้าง กอดหอมให้ทำตัวไม่ถูก เผลอไผลไปกับการชักจูง สุดท้ายก็หลงลืมความต้องการของ

    Last Updated : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 81

    เสียงโห่ร้องและเสียงดาบกระทบกันทำให้สตรีสองนางที่นั่งอยู่ในรถม้ารู้สึกหวาดหวั่น จื่อถิงกอดแขนเจ้านายสาวแน่น ทั้งยังสะอึกสะอื้นอย่างหวาดกลัวระคนตกใจ“คุณหนู”“อย่าร้อง เราต้องไม่เป็นไร” พูดเสร็จก็สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ นึกถึงผลบุญกรรมที่เคยทำมา ก่อนจะลืมตาขึ้น ดวงตากลมโตฉายแววมั่นคง มั่นใจ และกล้าหาญในทันทีนางเป็นสตรีมาจากยุคสองพัน ยามนี้ตนเป็นถึงภรรยาแม่ทัพ จะตื่นตระหนกไร้ซึ่งสติมิได้ สติมาปัญญาเกิด หัวสมองของนางขบคิดหาทางหนีทีไล่ ด้วยมิอยากอยู่เฉยให้เป็นเป้านิ่ง รวมถึงให้บุรุษเจ้าเล่ห์ต้องเป็นกังวล นางจึงคิดที่จะขัดคำสั่งเขา เพราะรู้ว่าหากอยู่ในรถม้าต่อไปนางคงไม่รอดแน่ จะให้รอดได้เช่นไรเล่า ดูสภาพรถม้าเถิด จะพรุนไปด้วยลูกธนูอยู่แล้ว แม้มิอยากขัดคำสั่งก็ต้องขัดแล้วระหว่างที่ไป๋ฟางเซียนชั่งน้ำหนักความคิดระหว่างลงจากรถม้าหรือไม่ลงอยู่นั้น อีกด้านหนึ่งมีชายหนุ่มพร้อมด้วยลูกสมุนอีกสามสี่คนมองดูเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างใกล้ชิด“ลูกพี่ คนพวกนั้นเป็นใคร” หนึ่งในลูกสมุนเอ่ยถามลูกพี่ของตน“ข้าก็มิรู้เช่นกัน ดูจากฝีมือแล้วคงไม่ใช่โจรธรรมดาแน่”“นั่นสิลูกพี่ ฝีมือล้วนร้ายกาจทั้งนั้น จะว่าไปกลุ่มขอ

    Last Updated : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 82

    “ไหวไหมจื่อถิง เราเข้าไปหาที่หลบไม่ไกลจากที่นี่กันเถิด”“เจ้าค่ะคุณหนู” แม้จะเจ็บแผลที่เข่าและมือ แต่สาวใช้ตัวน้อยก็รีบตอบรับและพยักหน้าอย่างเห็นด้วยทันที“โอ๊ย!”“จื่อถิง! เป็นอันใดมากหรือไม่” ไป๋ฟางเซียนถามอย่างร้อนรน แม้รถม้าจะไปไกลจากพวกนางแต่ก็ยังไม่มากนัก เพราะนางยังมองเห็นท้ายรถม้าอยู่เลยจะชักช้าอยู่ตรงนี้นานไม่ได้! ทว่าอาการของสาวใช้คนสนิทก็น่าเป็นห่วง เห็นใบหน้าเหยเกของอีกฝ่ายแล้วก็ไม่รู้จะทำเช่นไร“เจ้าเป็นอันใดจื่อถิง เจ็บมากหรือไม่”“คุณหนู จื่อถิงเจ็บข้อเท้าเจ้าค่ะ” นางกัดฟันตอบดวงตาของนางเอ่อคลอด้วยม่านน้ำตาไป๋ฟางเซียนรีบก้มตัวลงไปดูที่ข้อเท้าของอีกฝ่ายก็เห็นว่ามันบวมแดงไม่น้อย ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างกลัดกลุ้ม“ข้อเท้าเจ้าพลิก บวมแดงมาก”!!!จื่อถิงพูดไม่ออกบอกไม่ถูก ไม่ใช่เพราะอาการเท้าแพลงของตน ด้วยรู้ว่าสามารถรักษาให้หายได้ พักฟื้นไม่กี่วันก็ดีขึ้นแล้ว ทว่าที่ตกใจเป็นเพราะนางกลัว กลัวว่าคนร้ายที่ขับรถม้าคนนั้นจะย้อนกลับมาทันท่วงทีก่อนที่นางและคุณหนูจะหาที่หลบได้“คุณหนูรีบไปเจ้าค่ะ!”“ไป ไปไหน?”“ไปหาที่หลบไงเจ้าคะ จื่อถิงเดินไม่สะดวก ปล่อยจื่อถิงอยู่ที่นี่ แล้วคุณ

    Last Updated : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 83

    ชะตากรรมของไป๋ฟางเซียนไม่รู้ว่าเป็นเช่นไร แต่ยามนี้หลี่เหวินหลางตรึงมือมากแล้ว รับมือกับนักฆ่ามืออาชีพทั้งห้าด้วยตัวคนเดียวนั้นไม่ง่ายเลย เป็นห่วงไป๋ฟางเซียนที่อยู่ในรถม้าก็ด้วย แม่ทัพหนุ่มรับมือกับคนทั้งห้าด้วยความว้าวุ่นใจ ฉัวะ!ดาบคู่กายของเขาเสียบเข้าที่ท้องของหนึ่งในนักฆ่าเข้าอย่างจัง ส่งผลให้ชายผู้นั้นทรุดลงไปกับพื้นตายคาที่ ทว่าแม่ทัพหนุ่มกลับไม่มีเวลาหายใจ เมื่อนักฆ่าหมายเลขสองที่อยู่ด้านหลังแทงสวนเข้ามา เขาเอี้ยวกายไปด้านข้าง พร้อมกับยกดาบของตนทานรับดาบของนักฆ่าตรงหน้าที่ฟันลงมาไว้ กำลังขาของแม่ทัพหนุ่มค่อย ๆ ย่อลง เขารู้ในทันทีว่าหากเป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ดีแน่หลี่เหวินหลางกัดฟันส่งแรงไปที่แขน ผลักดาบที่ทานรับไว้ออกไปพร้อมกับกระโดดถีบฝ่ายตรงข้าม แล้วหมุนตัววาดดาบฟันเข้าที่คอนักฆ่าที่อยู่ด้านซ้ายจนตกตาย ยามนี้เหลือนักฆ่าที่เขารับมืออยู่สามคน แต่แม่ทัพหนุ่มกลับไม่รู้สึกดีใจเลยสักนิด เนื่องด้วยตนรับมือกับนักฆ่าทั้งห้ามานาน คนคนเดียวสู้กับคนหลายคนเรี่ยวแรงย่อมถดถอยหลี่เหวินหลางมุ่นคิ้วอย่างขัดใจที่ไม่อาจสลัดหรือกำจัดนักฆ่าเหล่านี้ให้หมดลงไปในคราเดียวได้ เหลียวมองคนของตนก็เห็นว่

    Last Updated : 2025-02-10

Latest chapter

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 134 จบ

    ไป๋ฟางเซียนที่รับรู้ได้ถึงความเยือกเย็นเบื้องหลังจึงหันกลับไปมอง ก็พบเห็นสามีของตนใบหน้าเขียวคล้ำสลับแดง เขาหรี่ตามองราวกับคนกำลังจับผิด สายตาของเขาทำเอานางรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ เสียงลมหายใจหอบถี่ของผู้เป็นสามีทำให้นางเข้าใจได้ทันทีว่านางทำให้เขาไม่พอใจแล้ว ขณะที่กำลังจะเอื้อนเอ่ย ร่างของผู้เป็นสามีก็สะบัดชายอาภรณ์ตรงกลับไปยังห้องนอน ไป๋ฟางเซียนนิ่งคิดเล็กน้อย ก่อนจะผุดลุกตามไปขณะเดินไปยังห้องนอนของตน นางก็ขบคิดกับตนเองว่าจะง้องอนเขาเช่นไรดี เขาจึงจะหายจากท่าทางปั้นปึ่งเช่นนั้น แต่คิดไปคิดมาพลันนึกขึ้นได้ว่า ตัวนางเองไม่ได้ผิดอันใดเสียหน่อย คนที่มาหานางในวันนี้ล้วนเป็นสหายนางทั้งนั้น ให้ตายนางก็ไม่ยอมง้อเขาหรอกแน่นอนว่านั่นเป็นเพียงแค่ความคิด เพราะทันทีที่เข้ามาในห้องนอนเห็นสีหน้าปั้นปึ่งมองนางตาขวางด้วยแล้ว ไป๋ฟางเซียนก็รีบก้าวเท้าเดินไปเบื้องหน้าตรงเข้าหาเขาอย่างเร็วรี่ พลางลอบกลืนน้ำลายเงียบ ๆ “ท่านพี่เจ้าขา เหตุใดถึงทำหน้าเช่นนี้เล่าเจ้าคะ ประเดี๋ยวจะไม่หล่อเอานา” นางเอ่ยเสียงหวานหยอกเย้าเขา หวังให้เขาโต้แย้งเช่นทุกครั้ง แต่กลับได้ความเงียบตอบมาแทนดวงตากลมโตช้อนสายตาหวานขึ้นมองอ

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 133

    หนึ่งเดือนผ่านไปนับจากวันที่ไป๋ฟางเซียนฟื้นขึ้นมา ทุกอย่างในชีวิตของนางและหลี่เหวินหลางก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ความรักของคนทั้งสองต่างผลิบานและสุกงอมเต็มที่ หลี่เหวินหลางกระทำอย่างปากว่า เขาไม่เคยปล่อยให้นางห่างจากตัวหรือห่างจากสายตาอีกเลย ไม่รู้เช่นกันว่าเขาไปทำเช่นไร จึงสามารถทำให้องค์ฮ่องเต้พระราชทานวันหยุดมาให้ถึงสองเดือนด้วยกัน ทว่าจะบอกว่าหยุดเลยก็คงไม่ถูกนัก เพราะระหว่างนี้หลี่เหวินหลางก็ต้องไปดูระเบียบในค่ายทหารเป็นครั้งคราวด้วยเช่นกัน กระนั้นเขาก็มีเวลาอยู่กับนางมากขึ้นอยู่ดี และนอกจากชีวิตของนางและเขาจะเปลี่ยนไปแล้ว ชีวิตของผู้อื่นก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกันยามนี้สาวใช้ตัวน้อยของนางและคนสนิทของหลี่เหวินหลาง จื่อถิงกับตงผิง ต่างก็กราบไหว้ฟ้าดินเป็นสามีภรรยากันแล้วทั้งคู่ ตลอดหนึ่งเดือนมานี้นางจึงไม่เห็นหน้าสาวใช้คนสนิทเลย แต่ก็เป็นนางอีกนั่นแหละที่ให้จื่อถิงหยุดและใช้ชีวิตคู่หลังแต่งงานบ้าง แน่นอนว่าคำของนางทำให้ตงผิงมีความสุขอย่างมาก เพราะถ้านางบอกให้จื่อถิงหยุด หลี่เหวินหลางก็จะบอกให้ตงผิงหยุดงานชั่วคราวเช่นเดียวกัน แต่นี่ก็ครบกำหนดเวลาที่นางให้ไปแล้ว คาดว่าไม่เกินสองวันนี้คงได้เห็นห

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 132

    หลี่เหวินหลางกอดร่างบางแนบแน่น คางสากเกยไหล่มนของนางไว้พร่ำบอกแนบชิดริมหู จนคนป่วยที่เพิ่งฟื้นอดหัวเราะน้อย ๆ ไม่ได้ มือบางยกมือขึ้นโอบกอดบุรุษร่างโตด้วยความรู้สึกไม่ต่างกัน ความรู้สึกรักและห่วงหาทว่าดูเหมือนพวกเขาจะหลงลืมไปว่าในห้องนี้หาได้มีพวกเขาไม่ ยามนี้ทั้งท่านหมอชรา หลี่เหวินชิง เหลียนฮวา จื่อถิงและตงผิงต่างมีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทำหน้าไม่ถูกกันแทบทั้งสิ้น ก่อนจะเป็นไป๋ฟางเซียนที่ตั้งสติได้ นางมีกิริยาเลิ่กลั่ก พยายามดันตัวตนเองออกจากอ้อมกอดของหลี่เหวินหลาง แต่เจ้าของอ้อมกอดแสนอบอุ่นหาได้ยินยอมไม่“เซียนเซียน พี่คิดถึงเจ้าเหลือเกิน คิดถึงเหลือเกิน เจ้ารู้หรือไม่ว่าพี่กลัวมากเพียงใด กลัวว่าเจ้าจะจากพี่ไป กลัวว่าเจ้าจะไม่กลับมาหาพี่อีก พี่คิดไปต่าง ๆ นานา นอนก็ไม่เคยหลับ กินก็ไม่เคยอิ่ม ใจภวงคิดถึงเป็นกังวลแต่เรื่องของเจ้า เซียนเซียน ขอบคุณที่เจ้ากลับมาหาพี่ นับว่าการรอคอยที่แสนทรมานของพี่สิ้นสุดลงแล้ว ขอบคุณ ขอบคุณจริง ๆ”“เอ่อ ท่านปล่อยข้าก่อนดีไหมเจ้าคะ”“ไม่! จากนี้ไปพี่จะไม่ยอมห่างเจ้าอีกแล้ว ทั้งยังไม่ยอมให้เจ้าห่างสายตาจากพี่อีกด้วย”“ท่านพี่ ปล่อยข้าก่อนเถิดเจ้าค่ะ

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 131

    “ข้าขอโทษ” น้ำเสียงแผ่วเบาเอื้อนเอ่ยออกมาอย่างรู้สึกผิด เจ้าของร่างตัวจริงทำเพียงยิ้มรับ ก่อนจะส่ายหน้าช้า ๆ“เจ้าไม่จำเป็นต้องขอโทษ สุดท้ายแล้วข้าและเจ้าก็คือคนคนเดียวกัน เจ้าคิดว่าจะมีใครที่ไหนจะมีชื่อแซ่เดียวกับตนเองบ้างเล่า สิ่งที่เจ้าควรรู้คือ เจ้าคือข้า ข้าคือเจ้า ดังนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด”“แต่ว่า...”“ตอนแรกข้าก็สงสัยเหมือนเจ้า ในยามที่ข้าตกตายเพราะจมน้ำ ข้าก็ถูกพามายังสถานที่แห่งนี้ เฝ้ามองดูเจ้าเข้าไปในร่างของข้าอย่างไม่ยินยอมนัก หลายครั้งที่ข้าคิดทำร้ายเจ้า หากแต่ไม่สามารถกระทำได้ เพราะทุกครั้งที่คิด ข้าจะรู้สึกเจ็บไปด้วยเช่นกัน ข้าไม่เข้าใจและเฝ้าถามตนเองมาตลอดว่าทำไม กระทั่งวันหนึ่งข้าก็ได้คำตอบจากคนผู้หนึ่ง”“ผู้ใดรึ”“คนผู้นั้นบอกกับข้าว่า แท้จริงแล้วทั้งข้าและเจ้าต่างเป็นคนคนเดียวกัน เพียงแต่ว่าตอนเกิด ดวงจิตของเราได้แยกเป็นสอง หนึ่งคือข้า สองคือเจ้า เมื่อดวงจิตแยกไม่รวมเป็นหนึ่งชะตาชีวิตของคนผู้นั้นย่อมเปลี่ยนแปลงไป เจ้าไม่สงสัยบ้างหรือ ว่าทำไมตอนที่อยู่ในโลกเดิมทั้ง ๆ ที่เจ้ามีทุกอย่าง มีครอบครัวที่ดีพร้อมและอบอุ่น แต่เจ้ากลับรู้สึกมีความสุขได้ไม่เต็มที่นัก เ

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 130

    สภาพของหลี่เหวินหลางทำให้ผู้เป็นใหญ่ของจวนตระกูลหลี่รู้สึกเป็นห่วงอย่างมาก หากจะบอกว่าอาการของไป๋ฟางเซียนน่าเป็นห่วง สภาพของผู้เป็นบุตรชายก็น่าเป็นห่วงไม่ต่างกันหลี่เหวินชิงและเหลียนฮวามองสภาพบุตรชายที่หน้าประตูด้วยสายตาเป็นห่วงอย่างสุดแสน คิ้วของคนทั้งคู่ขยับเข้าหากันจนแน่นขนัด ใบหน้าที่ร่วงโรยไปตามวัยฉายความกังวลออกมาอย่างมาก ก่อนจะเป็นหลี่ฮูหยินที่ทนไม่ไหวพูดมันออกมา“ท่านพี่ น้องเป็นห่วงบุตรของเราจังเลยเจ้าค่ะ อาเหวินแทบไม่ออกจากห้องนอนของเซียนเอ๋อร์เลยนะเจ้าคะ เห็นอาการของลูกเราตอนนี้แล้ว น้องกลัวเหลือเกินเจ้าค่ะ น้องกลัวว่าลูกจะล้มป่วยไปอีกคน” เหลียนฮวาเอ่ยขึ้นอย่างหนักอกหนักใจ มองหลี่เหวินหลางที่กอบกุมมือไป๋ฟางเซียนด้วยความห่วงใยอย่างถึงที่สุด ด้วยไม่เคยเห็นบุตรชายของตนมีสภาพซึมเศร้าเช่นนี้มาก่อน“ไม่ต้องกังวลหรอกน้องหญิง อาเหวินรู้ขีดจำกัดของร่างกายตนเองดี เราแค่อยู่ข้าง ๆ เขาในยามที่เขาต้องการก็พอ ตอนนี้เราไปนั่งรับลมที่ศาลากันก่อนเถิด อยู่ตรงนี้ไปก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา ประเดี๋ยวน้องหญิงจะเป็นกังวลห่วงคนนั้นคนนี้จนพานจะไม่สบายไปอีกคน”“ท่านพี่”แม้จะเป็นห่วงบุตรชายแต่ก

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 129

    “เซียนเซียน ตื่นขึ้นมาเถิดนะคนดี พี่คิดถึงเจ้า อยากได้ยินเสียงของเจ้าจนแทบจะทานทนไม่ไหวแล้ว หรือที่เจ้าไม่ยอมตื่นขึ้นมาเพราะอยากลงโทษที่พี่เคยพูดไม่ดีกับเจ้าในวันแรกที่เจ้าลืมตาขึ้นมาที่จวนเรือนหลังนี้ใช่หรือไม่ เซียนเซียน พี่ขอโทษเจ้า กลับมาเถิดนะคนดี กลับมาหาพี่ พี่รักเจ้า รักเจ้าเหลือเกิน” หลี่เหวินหลางทอดสายตาแห่งความคะนึงหาไปยังดวงหน้างาม ก่อนที่ชั่วพริบตาแววตาของเขาจะมีความโกรธแค้นวาบผ่าน หากแล้วก็ปล่อยวางลงอย่างรวดเร็ว เพราะคนที่ทำให้คนรักของเขาต้องเป็นเช่นนี้ได้ตกตายไปแล้ว เขาจึงไม่รู้ว่าต้องจ้องเวรไปเพื่อสิ่งใดแท้จริงแล้วการตกน้ำของนางอันเป็นที่รักใช่ว่าเขาไม่คิดติดใจสงสัย เขาย่อมต้องสงสัยแน่นอน และมั่นใจมากว่านางคงไม่กระโดดน้ำฆ่าตัวตายแน่ ที่ไม่ได้สืบหาตั้งแต่วันแรกเพราะเป็นห่วงนางจนไม่เป็นอันทำสิ่งใด พอตั้งสติกับตนเองได้เขาจึงเริ่มสอบถามเรื่องราวคาดคั้นกับจื่อถิงอีกครั้ง แต่นางก็ตอบสิ่งใดไม่ได้ ทั้งยังไม่รู้ว่าว่ามันเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่ นอกจากร่ำไห้ด้วยความรู้สึกผิดและโทษว่าที่ไป๋ฟางเซียนเป็นเช่นนี้ ทั้งหมดเป็นความผิดของตน หลี่เหวินหลางจึงสั่งให้ตงผิงและจื่อถิงกลับไปที่สร

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 128

    “เซียนเซียน! เซียนเซียน ฟื้นสิเซียนเซียน” หลี่เหวินหลางร้องเรียกชื่อภรรยาด้วยความกระวนกระวายใจ ภายในอกของเขาร้อนรุ่มเต็มไปด้วยความวิตกกังวล กลัวเหลือเกินว่านางจะเป็นอันใดไป กลัวสูญเสียนางอย่างไม่มีวันหวนกลับ ความกังวลฉายชัดทั้งสีหน้าและแววตา โชคยังดีที่เขามาได้ทันเวลา ไม่เช่นนั้นเขาคงเป็นกังวลมากกว่านี้“พาคุณหนุกลับจวนก่อนเถิดเจ้าค่ะท่านแม่ทัพ จะได้รีบตามท่านหมอมาดูอาการ” จื่อถิงบอกอย่างร้อนรนและกระวนกระวายใจไม่แพ้กัน พลางมองเจ้านายสาวด้วยความเป็นห่วงเป็นใยอย่างถึงที่สุด น้ำตาเอ่อคลอไปทั่วดวงตาสวย เหตุใดจึงเกิดเรื่องกับคุณหนูทุกครั้งที่นางไม่ได้อยู่ด้วยก็ไม่รู้ โชคดีที่ทั้งนางและท่านแม่ทัพมาได้ทันท่วงที ไม่เช่นนั้นก็ไม่รู้ว่าคุณหนูของนางจะเป็นเช่นไร“รีบกลับจวนให้เร็วที่สุด!” หลี่เหวินหลางบอกคนขับรถม้าพร้อมทั้งอุ้มนางเข้าไปนั่งภายใน โอบกอดนางไว้อย่างหวงแหน มองดวงหน้าหวานด้วยสายตาเป็นห่วงเป็นใยอย่างถึงที่สุดก่อนหน้านี้หลี่เหวินหลางกลับมาถึงเมืองหลวงแล้ว และได้เข้าไปรายงานทุกอย่างให้องค์ฮ่องเต้รับรู้เรียบร้อยถึงการปราบโจรของตน หลังจากนั้นก็รีบพาตนเองออกจากวังหลวงอย่างรวดเร็ว ด้วยคิดถ

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 127

    “ไม่จริง! ข้าไม่เชื่อ เจ้าอย่ามาโกหกข้า ข้าไม่สนว่าใครจะเป็นคนคิด ในเมื่อพี่เหวินเป็นคนทำเขาก็ต้องรับผิดชอบ เจ้าก็ด้วย ในเมื่อวันนี้ข้าสูญสิ้นไม่เหลืออะไร พวกเจ้าก็ต้องสูญสิ้นไม่เหลือสิ่งใดเช่นเดียวกัน อย่างไรวันนี้ทุกอย่างก็ต้องจบลง ไม่ข้าและเจ้าก็ต้องตายกันไปข้างหนึ่ง ครั้งที่แล้วข้าหวังให้เจ้าจมน้ำตายที่นี่ เพราะต้องการให้เจ้าทรมานถึงที่สุด กระทั่งหลังความตายก็ยังคงทุกข์ทรมานเพราะความเย็นของกระแสน้ำ ได้แต่เหน็บหนาวแต่เพียงผู้เดียวไร้ซึ่งคนเหลียวแล ครั้งที่แล้วเป็นโชคดีของเจ้าที่ข้าทำไม่สำเร็จ แต่ครั้งนี้มันจะไม่เหมือนเดิม เจ้าต้องตาย ตายเพราะข้า!” โจวเฟิ่งจิ่วตวาดกร้าว ไป๋ฟางเซียนได้ฟังแล้วรู้ว่าถึงเจรจาต่อไปย่อมไม่เป็นผล ดังนั้นจึงโพล่งไปอย่างไม่เกรงกลัวเช่นกัน เช่นไรนางก็เคยตายมาแล้ว ตายอีกสักครั้งจะเป็นไรไป ไม่มีสิ่งใดน่ากลัวเลยสักนิด ห่วงก็แต่หลี่เหวินหลาง หากนางจากไปเขาจะรู้สึกเช่นไร จะเสียใจหรือคิดถึงนางบ้างหรือไม่เท่านั้นเอง “ตายก็ตายสิ คนอย่างไป๋ฟางเซียนไม่เคยกลัวตายอยู่แล้ว หากข้าตาย เจ้าก็ต้องตายเช่นกัน” จบคำพูดของไป๋ฟางเซียนร่างของโจวเฟิ่วจิ่วก็พุ่งตรงเข้ามาหวังจะกร

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 126

    “ข้าไปทำอะไรให้เจ้านักหนาจึงได้คิดทำร้ายข้า”“ฮ่าฮ่า เพราะเจ้ามาแย่งทุกสิ่งทุกอย่างของข้าไปไงเล่า! คนไม่มีบิดามารดาเป็นกำพร้าเช่นเจ้า กล้าดีอย่างไรลงประกวดสาวงาม แย่งชิงตำแหน่งสาวงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวงจากข้าไป เท่านั้นยังไม่พอเจ้ายังเป็นคู่หมั้นของพี่เหวิน คิดอยากได้และครอบครองเขา เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงคิดว่าตนเองเหมาะสมกับบุรุษเก่งกล้าและรูปงามเช่นเขา แทนที่เจ้าจะสำนึกในบุญคุณของบิดามารดาของพี่เหวิน กล่าวยกเลิกงานหมั้นนั่นเสีย เจ้ากลับเร่งรัดให้ทุกอย่างเร็วขึ้นกว่าเดิม ทั้ง ๆ ที่เจ้าก็รู้ตนเองดี ว่าพี่เหวินมิได้รักเจ้าเลยแม้แต่น้อย แล้วข้าจะให้คนหน้าด้านเช่นเจ้าเชิดหน้าอยู่ในระดับเดียวกันกับข้าได้เช่นไร คิดว่าข้าไม่รู้รึว่าเจ้าคิดเทียบเคียงข้ามาโดยตลอด หวังใช้ฐานะฮูหยินแม่ทัพตีเสมอข้าน่ะสิ หึ ไม่เจียมตน”“เจ้าบ้าไปแล้วโจวเฟิ่งจิ่ว ข้าไม่เคยคิดตีตนเสมอเจ้า ข้ารู้ตนเองดี เจ้าเอาแต่ว่าข้าแล้วเจ้าเล่าดีตรงไหน วัน ๆ ตามแต่คู่หมั้นของสหาย นอกจากไม่รู้สึกผิดแล้ว ยังคิดทำร้ายผู้อื่น นี่มันไม่น่ารังเกียจกว่าข้ารึ” ไป๋ฟางเซียนย้อนกลับทันควัน เพราะนางไม่ชอบให้ใครมาว่านางเช่นกัน แม้ว่าคนที่ถูก

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status