แชร์

บทที่ 56

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-10 14:38:13

หลี่เหวินหลางที่รับรู้ตลอดเวลาว่ามีคนจ้องมองตนและไป๋ฟางเซียนด้วยเจตนาฆ่า เขาจึงลอบส่งสายตาให้องครักษ์ของตนไปตามสืบทันที หลังไม่มีสิ่งใดต้องสั่งความแล้ว แม่ทัพหนุ่มก็ได้เวลาพาภรรยาคนงามท่องเที่ยวน่ะสิ

อาชาสีดำทมิฬตัวใหญ่ขนเงางามเดินเข้ามาหาหลี่เหวินหลางอย่างเชื่องช้าและองอาจ ยามเดินผ่านผู้อื่นมันจะปรายตามองด้วยสายตาหยิ่งผยองก่อนเชิดหน้าขึ้นอย่างถือตัว ทว่าพอมาถึงหน้าแม่ทัพหนุ่มกับก้มหัวคลอเคลียไม่ต่างจากหมาน้อยน่ารัก ทั้งยังเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ออดอ้อนสตรีบอบบางอย่างไป๋ฟางเซียนด้วยอีกคน มันใช้หัวใหญ่โตของมันคลอเคลียที่ข้างแก้มราวกับแมวน้อยอ้อนขอความรัก ไป๋ฟางเซียนที่เป็นคนรักสัตว์อยู่แล้วถึงกับหลงเจ้าตัวใหญ่อย่างง่ายดาย จึงได้ยกมือรูปแผงคอของมันด้วยความอ่อนโยน ไม่สนใจผู้ใดแม้กระทั่งหลี่เหวินหลาง!

ทั้งม้าทั้งคนไม่ได้รับรู้เลยว่าการกระทำของพวกตนนั้นจะทำให้แม่ทัพหนุ่มอารมณ์ฉุนเฉียว ประกายฟาดฟันถูกส่งไปให้เจ้าม้าตัวใหญ่จนมันนึกกลัวเข้าไปคลอเคลียหญิงสาวมากกว่าเดิม ไป๋ฟางเซียนจึงได้ผินหน้ากลับมามองคนข้างกายด้วยสายตาตำหนิ พลางขบคิด

‘อย่าบอกนะว่าหึงหวงกระทั่งม้า นี่ออกจะเกินไปหน่อยกระมัง’

“ฮึ่ม!
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 57

    หนึ่งบุรุษหนึ่งสตรีควบขี่อาชาสีดำตัวเดียวกัน ผมทั้งสองลู่ไปตามแรงลม เกิดเป็นภาพสวยงามท่ามกลางธรรมชาติของป่าเขา เจ้าเสี่ยวเฮยหยุดวิ่งตามคำสั่งของแม่ทัพหนุ่มที่ใช้มือกระตุกบังเหียน เขาโน้มหน้าไปพูดชิดริมหูบอกกล่าวกับเจ้าของกลิ่นกายหอมกรุ่นว่า“ถึงแล้ว เป็นเช่นไร ชอบหรือไม่” ไป๋ฟางเซียนแม้จะทำตัวไม่ถูกและเขินอายกับคำพูดของเขา ทว่านางกลับไม่ใส่ใจนัก เนื่องจากตอนนี้ภาพตรงหน้าดึงดูสายตาและความสนใจของนางมากกว่าทุ่งดอกไม้กว้างไกลมีสีเหลืองนวลบานสะพรั่ง ไม่แน่ชัดว่าเป็นดอกไม้ชนิดใด ทว่ามันกลับเกิดอยู่ตรงหน้านางนี้แล้ว เหล่าดอกไม้เอนไหวไปตามแรงลมจนกลีบดอกปลิวละล่อง ช่างสวยงามยิ่งหมู่มวลวิหคบินอยู่น่านนภาร้องขับขานไปมาสอดคล้องกับทิวทัศน์เบื้องล่าง โดยมีเหล่าภมรตัวเล็ก ๆ ที่กำลังลิ้มชิมรสความหวานของดอกไม้เข้าคู่กันอย่างลงตัว ไป๋ฟางเซียนเหม่อมองภาพตรงหน้าราวกับถูกสะกด“ลงมาเถิด” หลี่เหวินหลางที่กระโดดลงจากหลังม้าเมื่อไรไม่รู้ได้กล่าวบอกนาง พร้อมยื่นมือทั้งสองจับที่เอวของนางไว้แน่นคล้ายกับจะบอกว่า กระโดดมาสิเขาประคองไว้อยู่ไป๋ฟางเซียนจับที่ท่อนแขนแกร่งทั้งสองข้างไว้แน่น ปล่อยให้เขาอุ้มนางลงจากหล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 58

    หลี่เหวินหลางกระชับมือซ้ายไว้ที่ท้ายทอยของหญิงสาว ตรึงไว้เพื่อไม่ให้นางเบือนหน้าหนี ก่อนจะโน้มใบหน้าลงต่ำ ทาบทับริมฝีปากตนกับริมฝีปากของนางทันที ถึงจะเป็นการกระทำที่อุกอาจเอาแต่ใจไปบ้าง ทว่าไป๋ฟางเซียนกลับรู้สึกดี ไม่ได้นึกรังเกียจหรือกรุ่นโกรธเมื่อถูกเขาจูบรสจูบที่เขากำลังมอบให้ในตอนนี้มันเต็มไปด้วยความอ่อนโยน หาได้เร่าร้อนหรือเร่งรัด เขาทำทุกอย่างอย่างเชื่องช้าและทะนุถนอม รักษาคำพูดที่เคยพูดกับนางไว้อย่างดีที่สุด ทว่าถึงทุกอย่างจะเชื่องช้าและไม่ร้อนแรงเท่าที่ตนเคยมีประสบการณ์มา หลี่เหวินหลางกลับรู้สึกอิ่มเอมใจยิ่งแม่ทัพหนุ่มไม่ได้รีบร้อนเอาแต่ใจตนมากนัก เขาค่อย ๆ และเล็มละเมียดชิมความหวานขบเม้มริมฝีปากของนางเบา ๆ หลอกล่อให้นางหลงใหลและติดกับ ความอ่อนโยนของเขาพาใจไป๋ฟางเซียนอ่อนไหว นางแหงนเงยใบหน้ารับจูบเพื่อให้เขากระทำได้ถนัดขึ้น ครั้นได้จังหวะและองศาที่เหมาะสม หลี่เหวินหลางก็สอดแทรกเรียวลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปากหวาน แล้วควานหาลิ้นเล็กก่อนจะเข้าพัวพันอย่างรวดเร็วเรียวลิ้นร้อนที่ขยับไหวภายในโพรงปาก เกี่ยวกระหวัดดูดดึงลิ้นเล็กของตนพาไป๋ฟางเซียนหวามไหว นางทำใจกล้าส่งปลายลิ้นเข้าพัวพัน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 59

    “คนบ้า! บ้า ๆ ๆ ๆ บ้าที่สุดเลย” ไป๋ฟางเซียนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงไม่เบาไม่ดังนัก ยามนางพูดมือทั้งสองข้างก็จะทุบตีหมอนที่ตนใช้หนุนนอนด้วย ใบหน้าของนางแดงก่ำ กลีบปากสีชมพูระเรื่อบวมแดงเล็กน้อยจื่อถิงส่ายศีรษะด้วยความอ่อนใจที่เห็นเจ้านายสาวเป็นเช่นนี้ คุณหนูของตนตีอกชกลมตั้งแต่กลับจากท่องเที่ยวที่ป่านอกเมืองหลวงแล้ว คราแรกนางตกใจอย่างมากที่คุณหนูของนางแนบหน้าลงกับหมอนแล้วกรีดร้องออกมา เกือบจะเรียกท่านแม่ทัพให้มาช่วยอยู่แล้วเชียว หากไม่สังเกตเห็นว่ามุมปากของเจ้านายสาวฉีกยิ้ม และแววตาของนางฉายแววแห่งความสุข หากจื่อถิงคาดเดาไม่ผิด อาการเช่นนี้เกรงว่าคุณหนูของนางกำลังระบายอารมณ์เขินอายเป็นแน่แท้ คิดแล้วก็ส่ายหัว ทว่าจื่อถิงกลับรู้สึกมีความสุข สายตาจับจ้องผู้เป็นนายด้วยความจงรักภักดีไป๋ฟางเซียนไม่สนใจว่าจื่อถิงจะคิดเห็นเช่นไร ยามนี้นางหวนนึกถึงคำพูดของหลี่เหวินหลาง คำพูดที่ทำให้ใจนางเต้นแรง คำพูดที่ทำให้นางไม่สามารถหุบยิ้มได้ คำพูดที่ว่าเขาและนางเกินมาคู่กัน เกิดมาเพื่อเป็นคนรัก เกิดมาเพื่อกันและกันยามได้ยินหัวใจของนางเต้นโครมครามเสียจนกลัวจะกระเด็นออกมานอกอก ประจานให้เขาได้รู้ว่านางรู้สึ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 60

    หลี่เหวินหลางเดินเข้ามาในห้องนอนอย่างคุ้นชิน พลางมองสำรวจไปทั่วห้องเพื่อค้นหาร่างงามที่เขาคิดถึง ตั้งใจจะกอดนอนให้เต็มรัก กอดแน่น ๆ แล้วหลับไปพร้อมกัน หาใช่ลักลอบเข้ามาแอบกอดยามนางหลับใหล แล้วหลบลี้จากไปก่อนนางตื่นสายตาคมกวาดมองไปรอบห้องเมื่อไม่เห็นไป๋ฟางเซียนอยู่ภายในก็รู้ได้ทันทีว่า ถ้าไม่อาบน้ำก็คงกำลังแต่งตัว คราแรกเขาคิดจะรั้งรอนางที่เตียง ทว่าความอยากแกล้งมีมากกว่า จึงได้เดินลึกไปยังปีกห้องทางด้านขวามือ ไม่นานก็เห็นฉากกั้นและเรือนร่างสะโอดสะองสะท้อนผ่านฉากกั้นเป็นเงาราง ๆ ออกมา หลี่เหวินหลางกลืนน้ำลายลงคอ ความร้อนรุ่มปะทุที่กึ่งกลางกายจนต้องใช้มือใหญ่กุมไว้พลางนวดคลึงไปมาอย่างปลอบโยนหวังให้มังกรที่ต้องการคำรามสงบลงไหนเลยมังกรตัวเขื่องจะเชื่อฟัง หากไม่ได้สำแดงฤทธิ์เดชมีหรือจะยอมสงบ สุดท้ายหลี่เหวินหลางจึงต้องกัดฟันข่มกลั้นความต้องการทางธรรมชาติเอาไว้ แล้วหันหลังเดินจากมาอย่างรวดเร็ว แม่ทัพหนุ่มทิ้งกายนั่งที่ตั่งเตียงพลางรินน้ำชาขึ้นดื่ม แม้ว่ามันจะเย็นชืดเขาก็มิได้สนใจอะไร ทั้งยังรู้สึกว่าดีแล้วที่มันเย็น เพราะถ้ามันยังร้อน ๆ อยู่ เขาคงไม่อาจทานทนความต้องการไหว เข้าไปกระชากเจ้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 61

    “ฟางเซียน! วันนี้สามีของเจ้าไม่มาด้วยหรือ ทุกทีเห็นตัวติดกันยิ่ง” หยางตงเยว่เอ่ยถามสหาย หลังจากที่เข้ามาอยู่ในห้องทำงานส่วนตัวของไป๋ฟางเซียน บนชั้นสามของร้านเฟยเจิน แล้วไม่เจอบุรุษผู้เป็นแม่ทัพที่ชอบทำหน้าตาน่ากลัวใส่เขา“ไม่มา เขาไปค่ายทหารน่ะ ไปหลายวันอยู่” นางตอบกลับด้วยรอยยิ้มอ่อน พลางนึกถึงเหตุการณ์ในวันที่เขาต้องไปที่ค่ายทหาร‘เซียนเซียน ข้าคงขาดใจตายแน่ที่ไม่ได้เห็นหน้าเจ้า ฝ่าบาททรงมีรับสั่งชัดเจนให้ข้าฝึกทหารที่ค่ายเป็นเวลากว่าอาทิตย์ ข้าจะไม่โวยวายเลยหากพระองค์ให้ข้ากลับมานอนที่จวนได้’ หลี่เหวินหลางพูดกับนางด้วยใบหน้าแง่งอน คิ้วย่นติดกันจนนางทนไม่ไหวต้องยื่นมือไปคลึงบริเวณหัวคิ้วให้มันคลายออก ‘แล้วท่านจะบ่นให้ได้อะไรขึ้นมา เพราะสุดท้ายแล้วท่านก็ต้องทำตามรับสั่งของพระองค์อยู่ดี อีกอย่าง แค่อาทิตย์เดียวไม่นับว่านานเลย ท่านจะเกินไปแล้วหรือไม่’ นางเอ่ยตอบเขายิ้ม ๆ มือก็ยังไม่หยุดคลึงหัวคิ้ว ‘หึ! เจ้าไม่เป็นข้าจะไปรู้อะไร เซียนเซียน เจ้าไม่รู้หรือว่าตอนนี้ข้าติดเจ้ามากขนาดไหน ยามกินต้องเห็นหน้า ยามนอนต้องได้จูบ ยามหลับใหลต้องได้กอด ยามลืมตาหรือทำสิ่งใดเจ้าล้วนต้องอยู่ในสายตาข้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 62

    หลายวันมานี้มีหลายครั้งที่ไป๋ฟางเซียนตั้งคำถามกับตนเองว่าความหวั่นไหวที่เกิดขึ้นคืออะไร นางมิได้ถามว่าความหวั่นไหวนี้หมายถึงสิ่งใด ด้วยความที่มาจากสังคมที่เปิดกว้าง ทำให้ไป๋ฟางเซียนรู้ว่าความหวั่นไหวที่เกิดขึ้นคือความรู้สึกเช่นใดหากแต่ว่าที่นางมักตั้งคำถามกับตนเองเป็นเพราะว่า ด้วยยังไม่แน่ใจนัก ว่าความหวั่นไหวและความรู้สึกที่เกิดขึ้นหลาย ๆ อย่างกับตนเองนั้น มันเป็นความรู้สึกของนางเอง หรือเป็นความรู้สึกที่ยังคั่งค้างของเจ้าของร่างเดิมกันแน่เป็นคำถามที่นางเฝ้าถามตัวเองย้ำ ๆ มาโดยตลอด แต่ก็ยังไม่ได้คำตอบเสียที ไม่สิ! ไม่ใช่ นางรู้คำตอบอยู่แล้วต่างหาก เพียงแต่ว่ายังไม่ใคร่อยากยอมรับเสียเท่าไร วันนี้ หลังจากได้ฟังคำพูดของหยางตงเยว่เรื่องที่หลี่เหวินหลางตามใจนางยิ่ง ไป๋ฟางเซียนก็ต้องมานั่งคิดและถามตัวเองใหม่อีกครั้ง พลางหวนคิดถึงการกระทำและสายตาของเขาที่มอบให้นาง ความอ่อนโยนทะนุถนอม กลั่นแกล้งให้นางเขินอายของเขา แท้จริงแล้วนางรู้สึกอย่างไรกับการกระทำเช่นนั้นกันแน่ ไป๋ฟางเซียนนั่งคิดไม่ตกคิ้วเรียวสวยของไป๋ฟางเซียนมุ่นเข้าหากันจนยับยู่ยี่ แววตาก็เคร่งเครียดเสียจนองครักษ์เงาที่จับจ้องอยู่ด้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 63

    ณ ค่ายทหาร“มัวรออะไรอยู่ ชักช้ายิ่ง”“ออกแรงให้มากกว่านี้ไม่ได้หรือ เรี่ยวแรงเช่นนี้จะสู้กับศัตรูได้เช่นไร”“ข้าวปลาที่พวกเจ้ากินไปหายไปไหนหมด เหตุใดจึงได้เหลาะแหละเช่นนี้ ซ้อมให้หนักขึ้นอีก ต่อให้ไม่มีศึกสงครามพวกเจ้าก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม และฝึกปรือฝีมือของตนต่อไปอย่าได้ขาด มิเช่นนั้นหากบ้านเมืองเกิดศึกผู้ใดจะมาช่วยชายชาตรีเช่นพวกเจ้า เอ้า! ฝึกต่อไป ฝึกเสร็จแล้วจึงไปกินข้าว พวกที่วิ่งอยู่นั่นก็ด้วย วิ่งอีกสิบรอบค่อยพัก”น้ำเสียงนุ่มทุ้มน่าฟังยามพูดกับไป๋ฟางเซียน บัดนี้ไม่หลงเหลือแล้ว หลี่เหวินหลางบอกทหารที่ตนต้องดูแลฝึกสอนด้วยน้ำเสียงห้าวหาญกล้าแกร่ง ทั้งยังต้องประพฤติตนให้เป็นเยี่ยงอย่าง มิเช่นนั้นคงจะบอกสอนใครไม่ได้ ตลอดหลายวันที่ผ่านมา แม่ทัพหนุ่มตรากตรำทำงานไม่หยุด และไม่ยอมให้ตนว่างจนเกินไป เพราะหากว่างคราใดเป็นอันว่าต้องเหงาเดียวดายทุกที ยามนี้ก็เช่นกันหลี่เหวินหลางคิดถึงไป๋ฟางเซียนเหลือเกิน...เขาคิดถึงน้ำเสียงไพเราะเสนาะหูยามเรียกขายเขาว่าท่านพี่เจ้าคะท่านพี่เจ้าขา คิดถึงใบหน้างามราวนางเซียนยิ่ง คิดถึงรอยยิ้มหวานจับใจ คิดถึงดวงตาแววใสราวกวางป่า คิดถึงใบหน้างามบูดบึ้งยามถู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 64

    “เรื่องตระกูลโจวเป็นเช่นใดบ้าง” ซูเฉินเปิดบทสนทนาทันทีที่เข้ามานั่งด้านในของกระโจม“เป็นเช่นที่ฝ่าบาททรงสงสัย หลังจากที่ข้าสอบถามบางสิ่งบางอย่างกับโจวเฟิ่งจิ่ว รวมกับข้อมูลต่าง ๆ ที่สืบได้ สรุปได้ว่า ภายหลังมานี้ ตระกูลโจวร่ำรวยผิดหูผิดตาจริง ๆ ทั้งยังร่ำรวยเพราะกระทำความผิด เช่นการยักยอกคลังหลวงน่ะ” ได้ยินเช่นนี้แล้วกุนซือหนุ่มก็สูดลมหายใจเข้าลึกแววตาฉายความเสียดาย และไม่อยากเชื่อว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ทั้งยังเกิดขึ้นจากคนมีอำนาจในมือซึ่งเป็นบุคคลสำคัญในราชสำนัก “ไม่น่าเชื่อว่าท่านเสนาบดีโจวเหลียงเกาจะทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจของฝ่าบาทเช่นนี้ ตนเป็นเสนาบดีกรมคลังกลับยักยอกคลังเสียเอง ความผิดนี้ไม่รู้ว่าฝ่าบาทจะทรงลงโทษเช่นไร”“เพราะความโลภเช่นไรเล่า ความโลภบังตาจึงได้ใช้ความไว้วางใจของฝ่าบาทมากระทำในสิ่งที่มิชอบ ส่วนเรื่องความผิดนั้น ข้ายังมิรู้เช่นกันว่าฝ่าบาทคิดเห็นเช่นใด ได้แต่ตามสืบความ และจับตาดูตระกูลโจวอย่างลับ ๆ เท่านั้น เจ้าเล่าซูเฉินได้สิ่งใดมาบ้างหรือไม่” หลี่เหวินหลางกล่าว“จริงสิ ข้าสืบได้ว่าเสนาบดีโจวผู้นี้แอบติดต่อกับคหบดีคนหนึ่งอย่างลับ ๆ คาดว่าคงจะกระทำการมิชอบ แ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10

บทล่าสุด

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 134 จบ

    ไป๋ฟางเซียนที่รับรู้ได้ถึงความเยือกเย็นเบื้องหลังจึงหันกลับไปมอง ก็พบเห็นสามีของตนใบหน้าเขียวคล้ำสลับแดง เขาหรี่ตามองราวกับคนกำลังจับผิด สายตาของเขาทำเอานางรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ เสียงลมหายใจหอบถี่ของผู้เป็นสามีทำให้นางเข้าใจได้ทันทีว่านางทำให้เขาไม่พอใจแล้ว ขณะที่กำลังจะเอื้อนเอ่ย ร่างของผู้เป็นสามีก็สะบัดชายอาภรณ์ตรงกลับไปยังห้องนอน ไป๋ฟางเซียนนิ่งคิดเล็กน้อย ก่อนจะผุดลุกตามไปขณะเดินไปยังห้องนอนของตน นางก็ขบคิดกับตนเองว่าจะง้องอนเขาเช่นไรดี เขาจึงจะหายจากท่าทางปั้นปึ่งเช่นนั้น แต่คิดไปคิดมาพลันนึกขึ้นได้ว่า ตัวนางเองไม่ได้ผิดอันใดเสียหน่อย คนที่มาหานางในวันนี้ล้วนเป็นสหายนางทั้งนั้น ให้ตายนางก็ไม่ยอมง้อเขาหรอกแน่นอนว่านั่นเป็นเพียงแค่ความคิด เพราะทันทีที่เข้ามาในห้องนอนเห็นสีหน้าปั้นปึ่งมองนางตาขวางด้วยแล้ว ไป๋ฟางเซียนก็รีบก้าวเท้าเดินไปเบื้องหน้าตรงเข้าหาเขาอย่างเร็วรี่ พลางลอบกลืนน้ำลายเงียบ ๆ “ท่านพี่เจ้าขา เหตุใดถึงทำหน้าเช่นนี้เล่าเจ้าคะ ประเดี๋ยวจะไม่หล่อเอานา” นางเอ่ยเสียงหวานหยอกเย้าเขา หวังให้เขาโต้แย้งเช่นทุกครั้ง แต่กลับได้ความเงียบตอบมาแทนดวงตากลมโตช้อนสายตาหวานขึ้นมองอ

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 133

    หนึ่งเดือนผ่านไปนับจากวันที่ไป๋ฟางเซียนฟื้นขึ้นมา ทุกอย่างในชีวิตของนางและหลี่เหวินหลางก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ความรักของคนทั้งสองต่างผลิบานและสุกงอมเต็มที่ หลี่เหวินหลางกระทำอย่างปากว่า เขาไม่เคยปล่อยให้นางห่างจากตัวหรือห่างจากสายตาอีกเลย ไม่รู้เช่นกันว่าเขาไปทำเช่นไร จึงสามารถทำให้องค์ฮ่องเต้พระราชทานวันหยุดมาให้ถึงสองเดือนด้วยกัน ทว่าจะบอกว่าหยุดเลยก็คงไม่ถูกนัก เพราะระหว่างนี้หลี่เหวินหลางก็ต้องไปดูระเบียบในค่ายทหารเป็นครั้งคราวด้วยเช่นกัน กระนั้นเขาก็มีเวลาอยู่กับนางมากขึ้นอยู่ดี และนอกจากชีวิตของนางและเขาจะเปลี่ยนไปแล้ว ชีวิตของผู้อื่นก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกันยามนี้สาวใช้ตัวน้อยของนางและคนสนิทของหลี่เหวินหลาง จื่อถิงกับตงผิง ต่างก็กราบไหว้ฟ้าดินเป็นสามีภรรยากันแล้วทั้งคู่ ตลอดหนึ่งเดือนมานี้นางจึงไม่เห็นหน้าสาวใช้คนสนิทเลย แต่ก็เป็นนางอีกนั่นแหละที่ให้จื่อถิงหยุดและใช้ชีวิตคู่หลังแต่งงานบ้าง แน่นอนว่าคำของนางทำให้ตงผิงมีความสุขอย่างมาก เพราะถ้านางบอกให้จื่อถิงหยุด หลี่เหวินหลางก็จะบอกให้ตงผิงหยุดงานชั่วคราวเช่นเดียวกัน แต่นี่ก็ครบกำหนดเวลาที่นางให้ไปแล้ว คาดว่าไม่เกินสองวันนี้คงได้เห็นห

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 132

    หลี่เหวินหลางกอดร่างบางแนบแน่น คางสากเกยไหล่มนของนางไว้พร่ำบอกแนบชิดริมหู จนคนป่วยที่เพิ่งฟื้นอดหัวเราะน้อย ๆ ไม่ได้ มือบางยกมือขึ้นโอบกอดบุรุษร่างโตด้วยความรู้สึกไม่ต่างกัน ความรู้สึกรักและห่วงหาทว่าดูเหมือนพวกเขาจะหลงลืมไปว่าในห้องนี้หาได้มีพวกเขาไม่ ยามนี้ทั้งท่านหมอชรา หลี่เหวินชิง เหลียนฮวา จื่อถิงและตงผิงต่างมีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทำหน้าไม่ถูกกันแทบทั้งสิ้น ก่อนจะเป็นไป๋ฟางเซียนที่ตั้งสติได้ นางมีกิริยาเลิ่กลั่ก พยายามดันตัวตนเองออกจากอ้อมกอดของหลี่เหวินหลาง แต่เจ้าของอ้อมกอดแสนอบอุ่นหาได้ยินยอมไม่“เซียนเซียน พี่คิดถึงเจ้าเหลือเกิน คิดถึงเหลือเกิน เจ้ารู้หรือไม่ว่าพี่กลัวมากเพียงใด กลัวว่าเจ้าจะจากพี่ไป กลัวว่าเจ้าจะไม่กลับมาหาพี่อีก พี่คิดไปต่าง ๆ นานา นอนก็ไม่เคยหลับ กินก็ไม่เคยอิ่ม ใจภวงคิดถึงเป็นกังวลแต่เรื่องของเจ้า เซียนเซียน ขอบคุณที่เจ้ากลับมาหาพี่ นับว่าการรอคอยที่แสนทรมานของพี่สิ้นสุดลงแล้ว ขอบคุณ ขอบคุณจริง ๆ”“เอ่อ ท่านปล่อยข้าก่อนดีไหมเจ้าคะ”“ไม่! จากนี้ไปพี่จะไม่ยอมห่างเจ้าอีกแล้ว ทั้งยังไม่ยอมให้เจ้าห่างสายตาจากพี่อีกด้วย”“ท่านพี่ ปล่อยข้าก่อนเถิดเจ้าค่ะ

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 131

    “ข้าขอโทษ” น้ำเสียงแผ่วเบาเอื้อนเอ่ยออกมาอย่างรู้สึกผิด เจ้าของร่างตัวจริงทำเพียงยิ้มรับ ก่อนจะส่ายหน้าช้า ๆ“เจ้าไม่จำเป็นต้องขอโทษ สุดท้ายแล้วข้าและเจ้าก็คือคนคนเดียวกัน เจ้าคิดว่าจะมีใครที่ไหนจะมีชื่อแซ่เดียวกับตนเองบ้างเล่า สิ่งที่เจ้าควรรู้คือ เจ้าคือข้า ข้าคือเจ้า ดังนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด”“แต่ว่า...”“ตอนแรกข้าก็สงสัยเหมือนเจ้า ในยามที่ข้าตกตายเพราะจมน้ำ ข้าก็ถูกพามายังสถานที่แห่งนี้ เฝ้ามองดูเจ้าเข้าไปในร่างของข้าอย่างไม่ยินยอมนัก หลายครั้งที่ข้าคิดทำร้ายเจ้า หากแต่ไม่สามารถกระทำได้ เพราะทุกครั้งที่คิด ข้าจะรู้สึกเจ็บไปด้วยเช่นกัน ข้าไม่เข้าใจและเฝ้าถามตนเองมาตลอดว่าทำไม กระทั่งวันหนึ่งข้าก็ได้คำตอบจากคนผู้หนึ่ง”“ผู้ใดรึ”“คนผู้นั้นบอกกับข้าว่า แท้จริงแล้วทั้งข้าและเจ้าต่างเป็นคนคนเดียวกัน เพียงแต่ว่าตอนเกิด ดวงจิตของเราได้แยกเป็นสอง หนึ่งคือข้า สองคือเจ้า เมื่อดวงจิตแยกไม่รวมเป็นหนึ่งชะตาชีวิตของคนผู้นั้นย่อมเปลี่ยนแปลงไป เจ้าไม่สงสัยบ้างหรือ ว่าทำไมตอนที่อยู่ในโลกเดิมทั้ง ๆ ที่เจ้ามีทุกอย่าง มีครอบครัวที่ดีพร้อมและอบอุ่น แต่เจ้ากลับรู้สึกมีความสุขได้ไม่เต็มที่นัก เ

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 130

    สภาพของหลี่เหวินหลางทำให้ผู้เป็นใหญ่ของจวนตระกูลหลี่รู้สึกเป็นห่วงอย่างมาก หากจะบอกว่าอาการของไป๋ฟางเซียนน่าเป็นห่วง สภาพของผู้เป็นบุตรชายก็น่าเป็นห่วงไม่ต่างกันหลี่เหวินชิงและเหลียนฮวามองสภาพบุตรชายที่หน้าประตูด้วยสายตาเป็นห่วงอย่างสุดแสน คิ้วของคนทั้งคู่ขยับเข้าหากันจนแน่นขนัด ใบหน้าที่ร่วงโรยไปตามวัยฉายความกังวลออกมาอย่างมาก ก่อนจะเป็นหลี่ฮูหยินที่ทนไม่ไหวพูดมันออกมา“ท่านพี่ น้องเป็นห่วงบุตรของเราจังเลยเจ้าค่ะ อาเหวินแทบไม่ออกจากห้องนอนของเซียนเอ๋อร์เลยนะเจ้าคะ เห็นอาการของลูกเราตอนนี้แล้ว น้องกลัวเหลือเกินเจ้าค่ะ น้องกลัวว่าลูกจะล้มป่วยไปอีกคน” เหลียนฮวาเอ่ยขึ้นอย่างหนักอกหนักใจ มองหลี่เหวินหลางที่กอบกุมมือไป๋ฟางเซียนด้วยความห่วงใยอย่างถึงที่สุด ด้วยไม่เคยเห็นบุตรชายของตนมีสภาพซึมเศร้าเช่นนี้มาก่อน“ไม่ต้องกังวลหรอกน้องหญิง อาเหวินรู้ขีดจำกัดของร่างกายตนเองดี เราแค่อยู่ข้าง ๆ เขาในยามที่เขาต้องการก็พอ ตอนนี้เราไปนั่งรับลมที่ศาลากันก่อนเถิด อยู่ตรงนี้ไปก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา ประเดี๋ยวน้องหญิงจะเป็นกังวลห่วงคนนั้นคนนี้จนพานจะไม่สบายไปอีกคน”“ท่านพี่”แม้จะเป็นห่วงบุตรชายแต่ก

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 129

    “เซียนเซียน ตื่นขึ้นมาเถิดนะคนดี พี่คิดถึงเจ้า อยากได้ยินเสียงของเจ้าจนแทบจะทานทนไม่ไหวแล้ว หรือที่เจ้าไม่ยอมตื่นขึ้นมาเพราะอยากลงโทษที่พี่เคยพูดไม่ดีกับเจ้าในวันแรกที่เจ้าลืมตาขึ้นมาที่จวนเรือนหลังนี้ใช่หรือไม่ เซียนเซียน พี่ขอโทษเจ้า กลับมาเถิดนะคนดี กลับมาหาพี่ พี่รักเจ้า รักเจ้าเหลือเกิน” หลี่เหวินหลางทอดสายตาแห่งความคะนึงหาไปยังดวงหน้างาม ก่อนที่ชั่วพริบตาแววตาของเขาจะมีความโกรธแค้นวาบผ่าน หากแล้วก็ปล่อยวางลงอย่างรวดเร็ว เพราะคนที่ทำให้คนรักของเขาต้องเป็นเช่นนี้ได้ตกตายไปแล้ว เขาจึงไม่รู้ว่าต้องจ้องเวรไปเพื่อสิ่งใดแท้จริงแล้วการตกน้ำของนางอันเป็นที่รักใช่ว่าเขาไม่คิดติดใจสงสัย เขาย่อมต้องสงสัยแน่นอน และมั่นใจมากว่านางคงไม่กระโดดน้ำฆ่าตัวตายแน่ ที่ไม่ได้สืบหาตั้งแต่วันแรกเพราะเป็นห่วงนางจนไม่เป็นอันทำสิ่งใด พอตั้งสติกับตนเองได้เขาจึงเริ่มสอบถามเรื่องราวคาดคั้นกับจื่อถิงอีกครั้ง แต่นางก็ตอบสิ่งใดไม่ได้ ทั้งยังไม่รู้ว่าว่ามันเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่ นอกจากร่ำไห้ด้วยความรู้สึกผิดและโทษว่าที่ไป๋ฟางเซียนเป็นเช่นนี้ ทั้งหมดเป็นความผิดของตน หลี่เหวินหลางจึงสั่งให้ตงผิงและจื่อถิงกลับไปที่สร

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 128

    “เซียนเซียน! เซียนเซียน ฟื้นสิเซียนเซียน” หลี่เหวินหลางร้องเรียกชื่อภรรยาด้วยความกระวนกระวายใจ ภายในอกของเขาร้อนรุ่มเต็มไปด้วยความวิตกกังวล กลัวเหลือเกินว่านางจะเป็นอันใดไป กลัวสูญเสียนางอย่างไม่มีวันหวนกลับ ความกังวลฉายชัดทั้งสีหน้าและแววตา โชคยังดีที่เขามาได้ทันเวลา ไม่เช่นนั้นเขาคงเป็นกังวลมากกว่านี้“พาคุณหนุกลับจวนก่อนเถิดเจ้าค่ะท่านแม่ทัพ จะได้รีบตามท่านหมอมาดูอาการ” จื่อถิงบอกอย่างร้อนรนและกระวนกระวายใจไม่แพ้กัน พลางมองเจ้านายสาวด้วยความเป็นห่วงเป็นใยอย่างถึงที่สุด น้ำตาเอ่อคลอไปทั่วดวงตาสวย เหตุใดจึงเกิดเรื่องกับคุณหนูทุกครั้งที่นางไม่ได้อยู่ด้วยก็ไม่รู้ โชคดีที่ทั้งนางและท่านแม่ทัพมาได้ทันท่วงที ไม่เช่นนั้นก็ไม่รู้ว่าคุณหนูของนางจะเป็นเช่นไร“รีบกลับจวนให้เร็วที่สุด!” หลี่เหวินหลางบอกคนขับรถม้าพร้อมทั้งอุ้มนางเข้าไปนั่งภายใน โอบกอดนางไว้อย่างหวงแหน มองดวงหน้าหวานด้วยสายตาเป็นห่วงเป็นใยอย่างถึงที่สุดก่อนหน้านี้หลี่เหวินหลางกลับมาถึงเมืองหลวงแล้ว และได้เข้าไปรายงานทุกอย่างให้องค์ฮ่องเต้รับรู้เรียบร้อยถึงการปราบโจรของตน หลังจากนั้นก็รีบพาตนเองออกจากวังหลวงอย่างรวดเร็ว ด้วยคิดถ

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 127

    “ไม่จริง! ข้าไม่เชื่อ เจ้าอย่ามาโกหกข้า ข้าไม่สนว่าใครจะเป็นคนคิด ในเมื่อพี่เหวินเป็นคนทำเขาก็ต้องรับผิดชอบ เจ้าก็ด้วย ในเมื่อวันนี้ข้าสูญสิ้นไม่เหลืออะไร พวกเจ้าก็ต้องสูญสิ้นไม่เหลือสิ่งใดเช่นเดียวกัน อย่างไรวันนี้ทุกอย่างก็ต้องจบลง ไม่ข้าและเจ้าก็ต้องตายกันไปข้างหนึ่ง ครั้งที่แล้วข้าหวังให้เจ้าจมน้ำตายที่นี่ เพราะต้องการให้เจ้าทรมานถึงที่สุด กระทั่งหลังความตายก็ยังคงทุกข์ทรมานเพราะความเย็นของกระแสน้ำ ได้แต่เหน็บหนาวแต่เพียงผู้เดียวไร้ซึ่งคนเหลียวแล ครั้งที่แล้วเป็นโชคดีของเจ้าที่ข้าทำไม่สำเร็จ แต่ครั้งนี้มันจะไม่เหมือนเดิม เจ้าต้องตาย ตายเพราะข้า!” โจวเฟิ่งจิ่วตวาดกร้าว ไป๋ฟางเซียนได้ฟังแล้วรู้ว่าถึงเจรจาต่อไปย่อมไม่เป็นผล ดังนั้นจึงโพล่งไปอย่างไม่เกรงกลัวเช่นกัน เช่นไรนางก็เคยตายมาแล้ว ตายอีกสักครั้งจะเป็นไรไป ไม่มีสิ่งใดน่ากลัวเลยสักนิด ห่วงก็แต่หลี่เหวินหลาง หากนางจากไปเขาจะรู้สึกเช่นไร จะเสียใจหรือคิดถึงนางบ้างหรือไม่เท่านั้นเอง “ตายก็ตายสิ คนอย่างไป๋ฟางเซียนไม่เคยกลัวตายอยู่แล้ว หากข้าตาย เจ้าก็ต้องตายเช่นกัน” จบคำพูดของไป๋ฟางเซียนร่างของโจวเฟิ่วจิ่วก็พุ่งตรงเข้ามาหวังจะกร

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 126

    “ข้าไปทำอะไรให้เจ้านักหนาจึงได้คิดทำร้ายข้า”“ฮ่าฮ่า เพราะเจ้ามาแย่งทุกสิ่งทุกอย่างของข้าไปไงเล่า! คนไม่มีบิดามารดาเป็นกำพร้าเช่นเจ้า กล้าดีอย่างไรลงประกวดสาวงาม แย่งชิงตำแหน่งสาวงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวงจากข้าไป เท่านั้นยังไม่พอเจ้ายังเป็นคู่หมั้นของพี่เหวิน คิดอยากได้และครอบครองเขา เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงคิดว่าตนเองเหมาะสมกับบุรุษเก่งกล้าและรูปงามเช่นเขา แทนที่เจ้าจะสำนึกในบุญคุณของบิดามารดาของพี่เหวิน กล่าวยกเลิกงานหมั้นนั่นเสีย เจ้ากลับเร่งรัดให้ทุกอย่างเร็วขึ้นกว่าเดิม ทั้ง ๆ ที่เจ้าก็รู้ตนเองดี ว่าพี่เหวินมิได้รักเจ้าเลยแม้แต่น้อย แล้วข้าจะให้คนหน้าด้านเช่นเจ้าเชิดหน้าอยู่ในระดับเดียวกันกับข้าได้เช่นไร คิดว่าข้าไม่รู้รึว่าเจ้าคิดเทียบเคียงข้ามาโดยตลอด หวังใช้ฐานะฮูหยินแม่ทัพตีเสมอข้าน่ะสิ หึ ไม่เจียมตน”“เจ้าบ้าไปแล้วโจวเฟิ่งจิ่ว ข้าไม่เคยคิดตีตนเสมอเจ้า ข้ารู้ตนเองดี เจ้าเอาแต่ว่าข้าแล้วเจ้าเล่าดีตรงไหน วัน ๆ ตามแต่คู่หมั้นของสหาย นอกจากไม่รู้สึกผิดแล้ว ยังคิดทำร้ายผู้อื่น นี่มันไม่น่ารังเกียจกว่าข้ารึ” ไป๋ฟางเซียนย้อนกลับทันควัน เพราะนางไม่ชอบให้ใครมาว่านางเช่นกัน แม้ว่าคนที่ถูก

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status