Share

ไต่เต้า
ไต่เต้า
Author: จักรพรรดินีหนู่ตี้

บทที่ 1

Author: จักรพรรดินีหนู่ตี้
last update Last Updated: 2024-11-19 16:30:35
กลางดึก ขณะขับรถไปส่งประธานหยิ่น จิตใจผมไม่อยู่กับเนื้อกับตัว สายตาคอยเหลือบมองกระจกหลังอยู่บ่อยครั้ง

เพราะตอนนี้ บนเบาะหลังของรถออดี้ A6 ที่ผมกำลังขับอยู่นั้น กำลังมีฉากหนังสดอันเร่าร้อนแสดงอยู่!

“อา... ประธานหยิ่น คุณเก่งเหลือเกินค่ะ ฉันแทบทนไม่ไหวแล้ว”

“ฮ่าๆ เสี่ยวเหยียน ดูสิ สามีเธอกำลังแอบมองอยู่แน่ะ!”

“คิกๆ ประธานคะ คุณนี่มันร้ายจริงๆ!”

......

เมื่อได้ยินคำหยอกล้อนั้น ผมที่กำลังรู้สึกกระอักกระอ่วนก็รีบเบือนสายตากลับไปจดจ่ออยู่กับถนนเบื้องหน้าในทันที!

แม้จะเห็นแค่แวบเดียว แต่ฉากอันเร่าร้อนนั้นกลับทำให้หัวใจผมถึงกับเต้นผิดจังหวะ !

ใช่แล้ว! ผู้หญิงที่กำลังเกาะพนักพิง นั่งอยู่บนตักประธาน เอวส่ายไปมาไม่หยุดคนนี้ เธอคือ “ภรรยาตามกฎหมาย” ของผม แต่เราไม่ได้เป็นสามีภรรยากันจริงๆหรอกนะ!

เรื่องทั้งหมดต้องย้อนกลับไปเมื่อเดือนก่อน จากข้อตกลงลับๆ เรื่องหนึ่ง

ผมชื่อเจียงหมิง จบปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยเกษตรไห่เฉิง สาขาสัตวแพทย์ เอกการดูแลแม่สุกรก่อนคลอด

พูดให้เข้าใจง่ายๆ สาขานี้ใช้การนวดแบบแพทย์แผนจีนและยาสมุนไพรเพื่อแก้ปัญหาแม่หมูไม่มีอารมณ์ผสมพันธุ์ เพื่อเพิ่มอัตราการให้กำเนิดของลูกหมู

ดูเหมือนอนาคตหน้าที่การงานจะสดใส แต่ปัจจุบันฟาร์มหมูใช้เครื่องจักรทั้งหมดจึงไม่ต้องพึ่งแรงงานคนอีกแล้ว หลังเรียนจบผมเลยหางานไม่ได้สักที

หลังจากพยายามอยู่หลายครั้ง ในที่สุดผมก็ได้งานมาเป็นเสมียนในสำนักงานของประธานบริษัทผลิตไส้กรอก

แต่เพิ่งทำงานได้ไม่กี่วัน ผมก็ได้รับข่าวร้ายจากทางบ้าน น้องสาวผมที่เพิ่งขึ้น ม.4 ตรวจพบว่าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว ต้องใช้เงินก้อนใหญ่ในการรักษาด่วน

ครอบครัวผมอยู่ในชนบท ไม่มีทางหาเงินเป็นแสนๆ ได้แน่นอน

นอกจากความกังวลในใจแล้ว แม่ที่หมดหนทางถึงกับบอกให้ผมลองไปปรึกษาเจ้านายว่าจะขอยืมเงินบริษัทมาช่วยชีวิตน้องสาวไว้ได้ไหม

แม่ผมก็ช่างไร้เดียงสาเหลือเกิน! บริษัทเอกชนที่ให้พนักงานทำงาน 10 ชั่วโมงต่อวัน 6 วันต่อสัปดาห์แบบนี้ จะให้พนักงานยืมเงินไปรักษาญาติได้ยังไง?

โดยเฉพาะอย่างยิ่งผมที่เป็นแค่พนักงานใหม่!

แต่เรื่องบางเรื่องไม่ลองก็ไม่รู้! ด้วยความเป็นห่วงน้องสาว ผมจึงไปเคาะประตูห้องท่านประธานหยิ่นเพื่อขอความช่วยเหลือ

แต่เดิมคิดว่า คนที่เจ้าเล่ห์และไม่มีความเห็นอกเห็นใจคนอื่นแบบเขา คงต้องหัวเราะเยาะผมว่าบ้า แล้วตะโกนไล่ให้ผมไสหัวออกไปเป็นแน่!

เหนือความคาดหมาย ประธานหยิ่นกลับตกลงทันที! เพียงแต่มีข้อแม้อย่างหนึ่งคือให้ผมแต่งงานกับเลขาฯ ของเขา เหยียนเสี่ยวฝู (ชื่อเล่น“เสี่ยวเหยียน”) แล้วเล่นเป็นคู่สามีภรรยาจอมปลอมเพื่อช่วยอำพรางเรื่องอื้อฉาวของเขา

ความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวระหว่างประธานหยิ่นกับเลขาฯ เหยียนเสี่ยวฝูไม่ได้เป็นความลับอะไรในบริษัทอยู่แล้ว

คนรวยชอบมี “เมียน้อย” แต่นานไปก็กลายเป็นปัญหา!

การที่ประธานหยิ่นตั้งตัวขึ้นมาได้ก็เป็นเพราะภรรยา ทุกสิ่งทุกอย่างในตอนนี้ก็เป็นของที่พ่อตาให้มาทั้งนั้น

ถ้าภรรยาท่านประธานรู้ว่าเขามีเมียน้อย ไม่อยากจะคิดถึงหายนะที่จะเกิดขึ้น!

ดังนั้น เขาจึงต้องแต่งตั้งชู้รักให้เป็น “ภรรยา” ของคนอื่น

แบบนี้นอกจากจะปิดปากคนซุบซิบนินทาแล้ว ยังไม่กระทบความสัมพันธ์ลับๆ ของทั้งคู่ด้วย

เพื่อเป็นการตอบแทน ประธานหยิ่นสัญญาว่าจะรับผิดชอบค่ารักษาทั้งหมดของน้องสาวผม และหลังแต่งงาน จะให้ผมกับเสี่ยวเหยียนอยู่คอนโดใจกลางเมืองที่ว่างอยู่ฟรี พร้อมรถออดี้ A6 หนึ่งคัน และเงินค่าน้ำมันเดือนละ 25,000 บาท

นอกจากนั้นยังเลื่อนตำแหน่งผมเป็นรองผู้อำนวยการของสำนักงานท่านประธานพร้อมเงินเดือน 100,000 บาท

เงื่อนไขดีขนาดนี้ มีหรือผมจะปฏิเสธ และที่สำคัญคือผมต้องรีบช่วยน้องสาว อาการของเธอรอไม่ได้แล้ว!

ผมรีบตอบรับข้อตกลงนี้ไว้ราวกับคว้าฟางเส้นสุดท้ายเอาไว้ และแทบไม่เชื่อว่านี่จะเป็นเรื่องจริง!

ตามข้อตกลง ผมแค่ต้องเป็นสามีปลอมๆ ของเหยียนเสี่ยวฝูห้าปี หลังจากนั้นก็ค่อยหย่าร้าง

พอกลับถึงสำนักงาน มองดูเลขาฯ สาวที่กำลังก้มหน้าทำงาน เธอที่ทั้งเซ็กซี่และมีเสน่ห์ แทบไม่อยากจะเชื่อว่าผมจะได้มาเกี่ยวข้องกับเธอแบบนี้

ต้องยอมรับว่าเธอสวยมากจริงๆ ผู้หญิงคนนี้ เอวบางร่างน้อย สะโพกผาย ผิวขาวผ่อง หน้าตาสวยหมดจด โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้นที่ทั้งเย้ายวนและซุกซน มีเสน่ห์ที่ชวนหลงใหล

เวลาเดิน สะโพกของเธอส่ายไปส่ายมาอย่างน่าหลงไหล เสียงส้นสูงกระทบกับพื้นดังเป็นจังหวะ ดูสะโอดสะอง เฉียบคม และเซ็กซี่ ทำให้ใครต่อใครถึงกับต้องใจเต้นตุบๆ

อย่างที่หัวหน้าเฉาแผนกวางแผนบอกเอาไว้นอนกับผู้หญิงคนนี้สักคืน โดนประหารพรุ่งนี้ก็คุ้ม!

พูดตามตรง ถ้าไม่นับเรื่อง “ชู้สาว” กับเจ้านาย เลขาฯ เสี่ยวเหยียนก็เป็นคนดีทีเดียว เธอร่าเริง ใจกว้าง ชอบช่วยเหลือคนอื่น เรื่องงานก็ช่วยผมมาไม่น้อย

หลังแต่งงาน ยกเว้นเรื่อง “มีชู้” จริงๆ แล้วเธอก็เป็น “ภรรยาที่ดี” คนหนึ่ง

ไม่เพียงแต่ขยันทำงานบ้าน ยังลงครัวทำอาหารให้ผมด้วยความใส่ใจทุกวัน

โดยเฉพาะเวลาเรียก “ที่รัก” เสียงหวานชวนฟัง ออกไปข้างนอก ไม่ว่าจะไปทำงานหรือซูเปอร์มาร์เก็ต เธอจะคล้องแขนผมเสมอ ดูหวานชื่นมีความสุขราวกับคู่รักที่กำลังคลั่งรัก

มีภรรยาคนงามอยู่ในอ้อมแขน คนอื่นต่างมองมาที่ผมด้วยความอิจฉา

แต่ในใจผมรู้ดี และคอยเตือนตัวเองเสมอว่า เราเป็นแค่ “รูมเมท” กันเท่านั้น ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์ ห้ามคิดอะไรเกินเลยเด็ดขาด

แต่บางสิ่งบางอย่าง เมื่อเวลาผ่านไป ก็ทำให้จิตใจคนเปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าประหลาด

โดยเฉพาะตอนนี้เป็นช่วงหน้าร้อน วันเสาร์อาทิตย์ เสี่ยวเหยียนจะใส่ชุดชั้นในลูกไม้เดินไปมาในบ้าน เรือนร่างงดงามเย้ายวนใจ และเสียง “ที่รัก” ที่เรียกอย่างสนิทสนม บางครั้งก็ทำให้ผมแทบลืมตัวจะหลงเข้าไปในบทบาทที่กำลังแสดงอยู่

จริงๆ แล้วผมก็ไม่เข้าใจว่าเสี่ยวเหยียนคิดยังไง

เราต่างก็แค่รับใช้เจ้านาย จำเป็นต้องทำตัวแบบนี้ในชีวิตจริงด้วยหรือ?

หรือเธอหวังว่าสักวันผมจะยอมรับอดีตของเธอ และยอมเป็นไอ้โง่ที่รับช่วงต่อ?

ถึงเธอจะสวยแค่ไหน แต่ผมก็ไม่ใช่ผู้ชายไร้ศักดิ์ศรีนะ

รอให้ข้าหาเงินให้พอก่อนเถ๊อะ แล้วข้าจะหาผู้หญิงที่บริสุทธิ์และจริงใจมาแต่งงานด้วยแน่ๆ!

แม้จะพยายามใช้เหตุผลและสติ แต่บางครั้งก็อดใจอ่อนกับความใส่ใจในชีวิตประจำวันของเสี่ยวเหยียนไม่ได้จริงๆ

เช่น ทุกเช้าก่อนไปทำงาน เธอจะขัดรองเท้าให้ผมจนเงาวับ แถมยังซักถุงเท้าที่เหม็นหึ่งให้ผมอีก!

ผมบอกแล้วว่าไม่ต้องซัก แต่เธอกลับบอกว่าเป็นผัวเมียกันซักถุงเท้าให้กันจะเป็นไรไป?

คนเรามักจะหวาดกลัวคำว่า “รัก” และเมื่อจิตใจอ่อนไหว ก็จะต้องพบเจอกับความเจ็บปวด!

ผมไม่ได้รักเสี่ยวเหยียนหรอก แต่ทุกครั้งที่เธอออกไปพบประธานหยิ่น ในใจผมกลับรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก

ตามหลักแล้ว มันต้องไม่ใช่อย่างนี้สิน่า!

หากไม่รัก แล้วจะแค้นได้ยังไง?

ผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นบ้าอะไรเหมือนกัน

หรือว่าคนสวยทำอะไรก็ไม่ผิด ผมหลงรักเสี่ยวเหยียนจริงๆ หรือนี่?

อย่างคืนนี้ ที่พวกเขากำลังมีอะไรกันที่เบาะหลัง ผมที่กำลังขับรถอยู่นั้นควบคุมจิตใจของตัวเองไม่ได้เลย

ได้ยินเสียงครางหวานของเสี่ยวเหยียน ใจผมเต็มไปด้วยความอิจฉาและความเกลียดชัง มันอัดอั้นอย่างบอกไม่ถูก!

หลังส่งประธานหยิ่นกลับถึงบ้าน ระหว่างทางกลับบ้าน เราทั้งคู่ต่างฝ่ายต่างเงียบกริบ

นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเล่นบทสวาทกันต่อหน้าผม ก่อนหน้านี้ เสี่ยวเหยียนมักจะอ้างว่า “ทำงานล่วงเวลา” หรือออกไปข้างนอก

พอเข้าบ้าน เธอคงรู้สึก “ผิด” ทำท่ากัดริมฝีปาก ก้มหน้า แล้วเอ่ยขอโทษผมว่า “ที่รัก ฉันขอโทษนะคะ”

ผมยิ้ม “คุณเสี่ยวเหยียน พูดอะไรแบบนั้นล่ะครับ เราไม่ได้เกี่ยวอะไรกันซักหน่อย”

“ที่รักคะ พวกเราต่างก็เป็นคนโชคร้าย ชีวิตมันไม่ง่าย หวังว่าคุณจะเข้าใจนะคะ” เสี่ยวเหยียนพูดอย่างสำนึกผิด แล้วน้ำตาจากดวงตาคู่นั้นก็ไหลลงมา

“เฮ้อ พูดอะไรเนี่ย? ผมเข้าใจ เข้าใจครับ” ผมปลอบเธอ

“ที่รัก... หรือว่าคืนนี้... ฉันไปนอนกับคุณไหม?” เธอก้มหน้าพูดเสียงแผ่วเบา เบากว่าเสียงยุงบินเสียอีก

พูดตามตรง พอได้ยินคำนั้น ร่างกายผมก็มีปฏิกิริยาขึ้นมาทันที แต่สติยังมีอยู่ จึงปฏิเสธอย่างนุ่มนวล “อย่าล้อเล่นน่า กลับห้องไปพักผ่อนเถอะ”

กลับถึงห้องนอน พอปิดประตู จุดบุหรี่สูบเงียบๆ ผมก็ยิ่งไม่เข้าใจเสี่ยวเหยียน

มันก็แค่ข้อตกลงทางธุรกิจ จะมาพูด “ขอโทษ” ทำไม? ทำเหมือนตัวเองทำผิดอะไร ถึงกับร้องไห้

แต่ประโยคที่เธอบอกว่า “พวกเราต่างก็ลำบาก” กลับทำให้ผมรู้สึกเห็นใจและสงสารเธอ

บางที... เธออาจจะมีเรื่องที่พูดไม่ได้

ด้วยความระมัดระวังเรื่อง “ล้ำเส้น” ผมจึงไม่เคยคุยเรื่องลึกซึ้งกับเสี่ยวเหยียน ไม่รู้อดีตของเธอ แต่รู้สึกได้ว่าเธอเป็นคนที่มีเรื่องราวซ่อนอยู่

หลังจากผมไล่เธอไป เธอก็ยังไม่ยอมแพ้ แกล้งเอาน้ำมาให้ผมดื่ม หวังจะค้างคืนที่ห้องผม แต่ผมก็ปฏิเสธอีก

น้ำแก้วนั้นผมไม่ได้ดื่ม เห็นต้นไม้ที่หน้าต่างใกล้เหี่ยว เลยเอาไปรดต้นไม้แทน

ดึกมากแล้ว ผมนอนไม่หลับ สมองวุ่นวายไปหมด ทั้งเป็นห่วงอาการของน้องสาว ทั้งนึกถึงภาพที่เห็นในกระจกมองหลัง

ตอนที่เสี่ยวเหยียนสบตาผมในกระจก ใบหน้าที่กำลังขมวดคิ้วอย่างดื่มด่ำนั้นกลับมีรอยยิ้มไร้ยางอายแฝงอยู่...

แม่งเอ๊ย! อ่อยเก่งฉิบหาย! ร่านเก่งจริงๆ!

ยั่วเก่งขนาดนี้ แล้วทำไมตอนอยู่กับผมสองต่อสอง ถึงได้ทำเป็นบริสุทธิ์ไร้เดียงสาแบบนี้นะ

ไม่รู้กี่โมงแล้ว ตอนที่ผมกำลังจะเคลิ้มหลับ กลับได้ยินเสียงเปิดประตูจากห้องนั่งเล่น และเสียงคนสองคนคุยกัน!

แม่งเอ๊ย! ประธานหยิ่น!

ใช่ ไม่ผิด!

มาที่บ้านดึกๆ ดื่นๆ ทำไม?

แถมเขากับเหยียนเสี่ยวฝูกลับไม่ได้เข้าไปในห้องนอนอีกห้อง แต่กำลังมาที่ห้องผม

บ้าเอ๊ย! สองคนนี้จะทำอะไรกันวะเนี่ย?

ผมแกล้งหลับ หลังจากประตูถูกเปิดออกก็ ได้ยินเสียงประธานหยิ่นกระซิบ “จะไม่ตื่นใช่ไหม?”

“วางใจเถอะค่ะ ใส่ยานอนหลับไปตั้งสามเม็ด ไม่ตื่นหรอก!” เหยียนเสี่ยวฝูตอบ

สมองผมว่างเปล่าในบัดดล แม่งจะทำอะไรกันวะเนี่ย? ฆ่าปิดปากเรอะ?

Related chapters

  • ไต่เต้า   บทที่ 2

    ผมหรี่ตามอง สังเกตการณ์เงียบๆ ในใจคิดว่า ประธานหยิ่นที่ร่างกายอ่อนแอจากการเสพสุรานารีมานาน ถ้าทั้งสองคนคิดร้ายขึ้นมาจริงๆ ก็คงสู้ผู้ชายร่างใหญ่ตัวสูง 180 กว่าอย่างผมไม่ได้แน่ แต่เมื่อทั้งสองเข้ามาในห้อง พวกเขากลับกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันทันที “ประธานหยิ่น อย่าค่ะ...ฉันผิดต่อสามีมามากแล้ว ทำแบบนี้ไม่ได้...” เหยียนเสี่ยวฝูพูดพร้อมทำท่าขัดขืนเบาๆ “เลขาฯเหยียน เธอคงไม่อยากให้สามีเธอตกงานใช่ไหมล่ะ?” ประธานหยิ่นพูดพร้อมยิ้มอย่างน่ารังเกียจ ... เห็นภาพตรงหน้า สมองผมช็อตไปชั่วขณะ ไม่เข้าใจว่าพวกเขากำลังแสดงละครอะไรกัน มันไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย! เรื่องบ้าๆ ห่าเหวของพวกแก มันไม่ควรจะมีบทสนทนาแบบนี้สิห้องผมเป็นห้องเตียงคู่ เพราะผมชอบนอนตะแคง ปกติผมจึงนอนฝั่งที่ติดประตูเท่านั้น สองคนนั้น “กึ่งผลักกึ่งดึง” กันไปที่อีกด้านของเตียง แล้วนอนลงด้วยกัน แม้ว่าผมจะหันหลังให้พวกเขา แต่ผมยังคงตื่นตัวคอยเงี่ยหูฟัง เผื่อว่าพวกเขาจะเข้ามาเล่นงานผมเข้าให้! “ประธานหยิ่น อย่าทำแบบนี้เลยค่ะ ฉันแต่งงานแล้ว” “เพียะ!” “อ๊าา!”เสียงตบดังมาพร้อมกับเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของเสี่ยวเหยียน “อินังผ

  • ไต่เต้า   บทที่ 3

    “ที่รัก ตื่นสิคะ ตื่นเถอะค่ะที่รัก” เสียงกระซิบของเหยียนเสี่ยวฝูดังแผ่วเบาข้างหูผม มือของเธอลูบไล้อยู่บนหน้าอกผมไม่หยุด หึ! เป็นไปตามคาด เธอทำตามคำสั่งของประธานหยิ่นจริงๆ คืนนี้ตั้งใจจะจัดการผมให้ได้! ผมรู้ดีว่าการ “ยอมตามน้ำ” เป็นกลยุทธ์ที่ดีที่สุด แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียดายที่ต้องมอบครั้งแรกให้กับผู้หญิงคนนี้ ไม่ใช่ว่าผมจะหยิ่งยโสอะไร แค่รู้สึกว่าเธอไม่คู่ควรก็เท่านั้นลองคิดดูจริงๆ เถอะ มีผู้ชายคนไหนบ้างที่อยากมอบครั้งแรกให้ผู้หญิงแบบนี้? แถมยิ่งไปกว่านั้น เธอเพิ่งผ่านการถูกประธานหยิ่นซัดมาหมาดๆ ผมไม่มีแรงจะไปคิดวิเคราะห์โลกภายในใจของเธอหรอก รู้แต่ว่าผู้หญิงคนนี้มันมารยาร้อยเล่มเกวียน เล่นได้สมบทสมบาทจริงๆ แต่ถ้าไม่ยอมร่วมมือกับเธอ “ความรู้สึก” มันก็ไม่สมจริง “บทบาทสมมติ” นี้จะทำให้ประธานหยิ่นรู้สึกไม่สนุก เพราะมันดูไม่สมจริง แล้วทุกสิ่งที่ผมได้มาตอนนี้ จะรักษาเอาไว้ได้อีกกี่วันกันเชียว? แต่นั่นเป็นเรื่องรอง เรื่องสำคัญคือการรักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวของน้องสาว ต้องใช้เวลาสองถึงสามปี ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนานทีเดียว ผมต้องทำให้แน่ใจว่าในช่วงเวลานี้ ประธานหยิ่น

  • ไต่เต้า   บทที่ 4

    ทุกคนในบริษัทรู้ว่า หลินหลาน ภรรยาของประธานหยิ่น เป็นธิดาของหลินกั๋วตง มหาเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์แห่งเมืองไห่เฉิง ว่ากันว่าเธอเป็นหญิงงามที่มีความสวยไม่แพ้ดาราดังระดับแถวหน้า บริษัทไห่ต้าอสังหาริมทรัพย์ของตระกูลหลินมีทรัพย์สินมูลค่าหลายล้านล้าน ไม่เพียงเป็น “นามบัตร” ของเมืองไห่เฉิงเท่านั้น แต่ยังเป็นหนึ่งในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศ จริงๆ แล้วพวกเราพนักงานเล็กๆ ก็คิดไม่ออกว่า ทำไมคุณหนูตระกูลหลินที่เป็นเหมือน “นางฟ้าจากสวรรค์” ถึงได้มาชอบเจ้านายของเราอย่างประธานหยิ่นที่ดูน่ารังเกียจ เหม็นเขียว และมีความสามารถธรรมดาๆ แบบนี้ได้ พ่อตาอย่างหลินกั๋วตงก็ไม่ได้ให้ประธานหยิ่นเข้าไปทำงานในบริษัทครอบครัว แต่กลับลงทุนให้เขาทำโรงงานอาหารขนาดกลาง ให้เขาไปวิจัยไส้กรอก วันๆ เอาแต่ยุ่งอยู่กับ “เนื้อไก่” และ “เนื้อหมู” ตอนนี้คุณหนูตระกูลหลินโทรมาหาผมโดยตรง มันเป็นเรื่องกระทันหันที่ “ช็อตฟีล” ผมมากๆ เธอรู้เบอร์โทรศัพท์ผมได้ยังไง? การที่เธอติดต่อผมได้อย่างถูกคนขนาดนี้ แสดงว่าเรื่องระหว่างผมกับประธานหยิ่นคงถูกเปิดโปงแล้ว! “วันนี้ตอนเช้าคุณไม่ได้ไปทำงานเหรอ?” หลินหลานถาม

  • ไต่เต้า   บทที่ 5

    ประธานหยิ่นเป็นคนวิปริตคนหนึ่ง ภรรยาของเขาอย่างหลินหลานก็ไม่ใช่คนธรรมดา กล้ามาเล่น “ของต่ำ” กับผม! จริงๆ เลย สมแล้วที่เป็นครอบครัวเดียวกัน... นี่คือความคิดสุดท้ายที่ผ่านสมองผมก่อนจะหมดสติไป... เมื่อผมตื่นขึ้นมา พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงนุ่มๆ ข้างๆ มีผู้หญิงสวยคนหนึ่งนอนอยู่ เธอกำลังพิงหัวเตียงคุยโทรศัพท์ เสียงโทรศัพท์ของเธอนี่แหละที่ปลุกผมตื่น หัวใจผมเต้นรัวๆ ผู้หญิงคนนี้ใส่แค่เสื้อชั้นในลูกไม้สีดำ ผิวขาวผ่อง หน้าอกขาวๆ ลอดผ้าเป็นระยะ... ใบหน้าเธอสวยได้รูป ใส่แว่นกรอบดำแบบผู้หญิง ทั้งเซ็กซี่และมีเสน่ห์แฝงด้วยความเป็นปัญญาชน งดงามเป็นที่สุด... เดี๋ยวก่อน ทำไมเธอถึงดูคุ้นตาจัง? ตอนนี้เองผมถึงนึกออก เธอเหมือนจะเป็น... เลขาฯ ของคุณหลิน เธอนี่แหละที่รินน้ำให้ผม! ปัดโธ่เว้ย! นี่มันอิหยังอีกล่ะนี่? ตอนนี้ผมถึงรู้ตัวว่า ตัวเองเปลือยเปล่าไม่มีอะไรติดตัว มีแค่ผ้าห่มทอจากไหมที่ใช้ร่วมกับเลขาฯ คนนี้... สภาพแวดล้อมในห้องดูเหมือนจะเป็นห้องสวีทในโรงแรม... “คิกๆๆ ไม่ต้องกังวล น้องชายเขาเป็นคนดี คงไม่เอาไปพูดที่ไหนหรอก” เลขาฯ พูด “...” “เรื่องนี้วางใจได้ ไม่มีทาง!” “...”

  • ไต่เต้า   บทที่ 6

    “ที่นี่ไม่ใช่ว่าใครก็มาได้นะ” เฟิงเหวินมองผมพร้อมรอยยิ้ม พูดพร้อมรอยยิ้มที่แฝงความหมาย“อ๋อๆ พี่ครับ คือว่า...” “พูดมาสิ อย่ามัวอ้ำอึ้ง” “คือผมหมายถึง...” ผมพูดอย่างเก้อเขิน “เมื่อกี้ เราสองคนไม่ได้ป้องกันอะไรเลย ถ้าพี่ท้องขึ้นมาจะทำยังไง?” “คิกๆ!” ดวงตาของเฟิงเหวินหรี่เป็นเส้นบางๆ ดวงตาสั่นระริกพูดว่า “งั้นก็เลี้ยงดูพี่สิ” “หา?” “คิกๆๆ!” เฟิงเหวินยิ้มพลางก้าวเข้ามา จัดปกเสื้อให้ผม แล้วปัดฝุ่นที่ไหล่ พูดอย่างอ่อนโยน “พอเถอะ อย่าคิดมากเรื่องไร้สาระ เดี๋ยวเธอเรียกแท็กซี่กลับไปเองนะ คอยดูข้อความจากพี่”ลมหายใจหอมหวานของเธอ ใบหน้างามทำให้ผมหลงใหล อดใจไม่ไหวรวบเอวเธอเข้ามาจูบอีกครั้ง เฟิงเหวินหลบไม่ทัน โดนผมจูบไปที หลังจากนั้นก็ผลักผมออกเบาๆ “อย่าทำแบบนี้ ในลิฟต์มีกล้อง!” “อ๋อๆ พี่ครับ ผมยังอยากได้ คืนนี้พี่นอนกับผมได้ไหม?” ผมพูดด้วยความคลั่งไคล้ “หึๆ !” เฟิงเหวินยิ้มน้อยๆ “เจ้าแมวขี้โลภ คืนนี้ไม่ได้ ดูผลงานต่อไปของเธอก่อน ถ้าเธอทำได้ดี ทำภารกิจสำเร็จทุกครั้ง พี่ก็จะนอนกับเธอ” “จริงเหรอครับ?” “อืม! จริง” ... ลิฟต์ถึงชั้นหนึ่งอย่างรวดเร็ว เฟิงเหวินไม่ได้ลงจากลิฟต์ แ

  • ไต่เต้า   บทที่ 7

    ในการสนทนาระหว่างหลินหลานและพี่เหวิน เกี่ยวกับว่าผมจะจีบอาจารย์เจินได้หรือไม่ หลินหลานพูดว่า: “ดูออกว่าเด็กคนนี้ค่อนข้างหลงใหลผู้หญิง คงไม่มีปัญหา!” แย่แล้ว! ทำไมผมถึงดูเป็นคนหลงใหลผู้หญิงล่ะ? ผมไม่เข้าใจจริงๆ! ตอนที่ผมเจอหลินหลาน ผมยังไม่ทันได้เงยหน้ามองเธอเลย! แต่เธอกลับบอกว่าผมหลงใหลผู้หญิง! หรือว่า ยิ่งผมถ่อมตัว เธอยิ่งมองว่าผมแกล้งทำ? บ้าจริง! “พี่เหวิน ทำไมคุณหลินถึงบอกว่าผมหลงใหลผู้หญิงครับ?” ผมถามอย่างงุนงง “คิๆๆ” พี่เหวินหัวเราะ “พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน อาจเป็นเพราะสายตาของนายดูลับๆ ล่อๆ ทำให้เขารู้สึกว่านายยิ่งปิดยิ่งโป๊ะ? ฮ่าๆ ไม่เป็นไรหรอก ถือว่าหัวหน้าเชื่อมั่นในตัวนาย เป็นเรื่องดีนะ!” ผมหมดคำพูดโดยสิ้นเชิง! “อีกอย่าง เมื่อกี้พี่กำลังประชุมอยู่ นายโทรมา ต่อไปใช้แชทส่งข้อความแทนนะ” พี่เหวินเตือน “อ๋อ ครับ ผมเข้าใจแล้ว” ผมพูดอย่างเก้อเขินวางสายแล้ว ผมจมอยู่ในความหดหู่และครุ่นคิด พวกคนรวยพวกนี้ช่างไม่ได้เรื่อง มองคนด้วยสายตาอคติ! แล้วอีกอย่าง ผลงานของผมเกี่ยวพันกับค่าคอมมิชชั่นของพี่เหวินด้วยหรือ? กติกาของเกมนี้ทำให้มุมมองชีวิตผมเปลี่ยนไปอีกครั้ง! ส

  • ไต่เต้า   บทที่ 8

    งานเลี้ยงวันนี้ แท้จริงแล้วเป็นการนัดพบที่มีจุดประสงค์แอบแฝง ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์และศิษย์ ทำให้บรรยากาศเริ่มออกนอกทิศทาง พี่เหวินพยายามทำลายความอึดอัด จึงพยายามสร้างสถานการณ์ให้ผมและอาจารย์เจินได้ใกล้ชิดกัน จากการกระทำนั้น ใบหน้าของอาจารย์เจินแดงขึ้นทันที เธอขมวดคิ้วกัดริมฝีปาก และก้มหน้าด้วยความเขินอาย เธอพยายามจะถอยห่าง แต่พี่เหวินก็ขัดขวางไว้ พร้อมกับส่งสัญญาณให้ผม ผมไม่รีรอ รีบเข้าไปใกล้อาจารย์เจิน อาจารย์เจินยิ่งรู้สึกอึดอัดมากขึ้น ขมวดคิ้วแน่น แต่เธอก็ไม่ได้ต่อต้านอะไร ผมพยายามเข้าใกล้เธอมากขึ้น อาจารย์เจินก็ไม่ได้ปฏิเสธ แต่เธอมองมาที่ผมด้วยสายตาที่มีความน้อยใจและต่อต้านในเวลาเดียวกัน“มาดื่มกันอีกแก้วนะ!” พี่เหวินเห็นว่าผมเข้าใจสถานการณ์แล้ว จึงรินไวน์แดงให้ผมและอาจารย์เจิน เห็นได้ชัดว่าอาจารย์เจินไม่อยากดื่มแล้ว แต่ด้วยความเกรงใจจึงยกแก้วขึ้นอย่างลำบากใจ อาจารย์เจินแสดงท่าทางไม่สบายใจ และส่งสายตาต่อต้านมาที่ผม จริงๆ แล้ว เธอเข้าใจผมผิด ผมไม่ได้มีเจตนาไม่ดี เพียงแค่รู้สึกประทับใจในความงามของเธอ “อาจารย์เจิน ผมขอดื่มอวยพรอาจารย์ครับ” ผมยกแ

  • ไต่เต้า   บทที่ 9

    ในจังหวะที่ริมฝีปากสัมผัสกัน ผมแทบไม่อยากเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า อาจารย์เจินริเริ่มจูบผมเอง... ไม่ใช่ว่าจูบของเธอหวานกว่าพี่เหวิน แต่เธอคืออาจารย์ของผมนะ! เป็นหญิงในฝันที่ผมเคยจินตนาการตั้งแต่สมัยเรียน... หลายสิ่งหลายอย่าง เมื่อก้าวข้ามเส้นแบ่งไปแล้ว ก็ไม่อาจหวนคืน อาจารย์เจินหันตัวมากอดผมเต็มตัว จูบผมอย่างจริงจังและหลงใหล... เธอทุ่มเทกับมันมาก ดวงตาหลับสนิท ลมหายใจอุ่นๆ จากจมูกของเธอรินรดใบหน้าผม ความรู้สึกนั้นช่างชัดเจน... คอยเตือนผมทุกวินาทีว่า ทุกอย่างตรงหน้านี้เป็นความจริง ไม่ใช่ความฝัน มือผมเลื่อนไปที่ใต้แขนเธอโดยไม่รู้ตัว จับซิปชุดของเธอ และเธอก็ไม่ได้ปฏิเสธ... พูดตามตรง ผมงงไปหมดแล้ว ก่อนหน้านี้เธอแสร้งทำตัวเรียบร้อยหรือว่า... ทักษะของผมใช้ได้ผลจริงๆ แต่ไม่ว่าจะยังไง ดูเหมือนภารกิจแรกของผมจะสำเร็จแล้ว!อย่างน้อยก็คุ้มค่าเงินที่พี่หลินจ่ายมา... อาจเป็นเพราะแรงกระตุ้นจากเหตุการณ์คืนนั้นที่เสี่ยวฝูกับหยิ่นฮ่าวอยู่ในรถ ผมยกขาขาวสวยของอาจารย์เจิน หวังให้เธอคุกเข่าบนตักผม แล้ว... “อย่าค่ะ เสี่ยวเจียง!” อาจารย์เจินกอดผมแน่น เขยิบปากมาใกล้หูผม กระซิบเสียงแผ่ว

Latest chapter

  • ไต่เต้า   บทที่ 40

    “มือเธอซุกซนนักนะ!” เธอมองผมยิ้มๆ อย่างเจ้าเล่ห์ “เธอจับเอวพี่ แล้วก็กดจุดบนหลัง เธอคิดว่าพี่ยังแสดงออกไม่มากพอหรือไง?” “ไม่ใช่! ผมไม่ได้คิดอย่างนั้นซะหน่อย...” ผมแก้ตัว “เธอคิด!” พี่เหวินพูด “เธออยากจะดูว่าถ้าที่ยั่วเธอสุดจะเป็นยังไง ใช่ไหมล่ะ ยิ่งพี่ปล่อยตัวปล่อยใจมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งตื่นเต้น ยังงั้นใช่ไหม?” “ฮ่า!” ผมหัวเราะอย่างเขินๆ “หึ! คิดว่าพี่ไม่รู้หรือไงว่าเธอคิดอะไร?” พี่เหวินพูดอย่างมีนัย “แต่เธอก็เก่งใช่ย่อยนะ... จับเอวพี่แล้วก็ทำแรงแบบนั้นน่ะ โอ๊ย! จะเอาให้ตายกันไปข้างเลยหรือไง?” “แล้วมันรู้สึกยังไง?” ผมถามอย่างใคร่รู้ พี่เหวินถอนหายใจยาว ครุ่นคิดก่อนพูด “พี่รู้สึกเหมือนอยากตายในอ้อมกอดเธอ... จริงๆ นะ! สมองว่างเปล่าไปหมด อยากให้เธอครอบครองพี่ แม้กระทั่งรังแก” “เฮ้อ!” เธอถอนหายใจพูด “พี่ไม่เชื่อว่าหลินหลานจะทนได้...”“ที่รัก เราทำข้อตกลงกันดีไหม?” พี่เหวินมองผมอย่างจริงจัง “อืม ว่ามา!” ผมเอาผมของเธอไปไว้หลังหู พี่เหวินพูด “พี่จะเป็นที่ปรึกษาให้เธอ! ช่วยเชื่อมสายสัมพันธ์ให้เธอได้รู้จักกับพี่น้องตระกูลหลิน... แล้วเราค่อยๆ จัดการทีละคน ให้พวกเขาตกอยู่ใต้อำน

  • ไต่เต้า   บทที่ 39

    คำพูดของพี่เหวินสะกิดใจผมมาก ในโลกนี้ ถ้าไม่ถูกบีบบังคับ ใครจะอยากเป็นหมากให้คนอื่นกัน? แค่คำว่า “จน” ก็ทำให้คนต้องหักสันหลังแล้ว! “งั้นพี่ก็อยากให้หลินหลานเป็นหมากบ้างสินะ?” ผมถามอย่างมีนัยยะ “เฮ้อ...” พี่เหวินถอนหายใจอย่างหดหู่ ไม่พูดอะไร แค่ใช้เล็บลากเบาๆ บนอกผม... “มีอะไรก็พูดมาตรงๆ เถอะ” ผมลูบไหล่เธอพลางพูด “ฉันไม่แน่ใจ!” เธอพึมพำ “ไม่แน่ใจอะไร?” ผมถาม พี่เหวินพูด “ฉันไม่แน่ใจว่าตัวเองมีตำแหน่งแค่ไหนในใจคุณ...” “ฮ่า!” ผมหัวเราะ “พี่พูดแบบนี้ ไม่เหมือนคนที่ผ่านโลกมามากเลยนะ รู้สึกเหมือน... เด็กสาวที่เพิ่งเริ่มมีความรักยังไงยังงั้น...” “เฮอะ” พี่เหวินหัวเราะเยาะ “พูดยังไงก็เถอะ ฉันก็แค่ผู้หญิงขายตัว คุณไม่มีทางรักฉันจริงๆ หรอก” “ทำไมพี่พูดแบบนี้ล่ะ?” ผมขมวดคิ้วถาม ก่อนหน้านี้ เธอบอกว่าตัวเองเป็นโสเภณีหรือไก่ ผมก็รู้สึกแสบหูมากแล้ว! แต่เธอยังมาพูดว่าตัวเองเป็น “คนขายตัว” อีก! “ฉันพูดความจริง” พี่เหวินถอนหายใจพูด “พวกผู้ชายชอบผู้หญิงที่บริสุทธิ์ อย่างน้อยก็ต้องเป็นสาวพรหมจรรย์ แต่ฉันไม่ใช่...”“พี่เหวิน อย่าคิดมากเรื่องนี้เลยได้ไหม?” ผมขมวดคิ้ว “สังคมทุกวั

  • ไต่เต้า   บทที่ 38

    “มันมีอะไรให้ต้องงงด้วย!” สีหน้าพี่เหวินดูจริงจัง พูดว่า “แค่คุณใช้เทคนิคนี้ให้ดี ไม่มีผู้หญิงคนไหนต้านทานได้!” “พูดเรื่อยเปื่อย!” ผมหัวเราะ “หรือว่าแม้แต่หลินหลานก็ยังได้?” พี่เหวินสูดหายใจลึกด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “เธอก็แค่คนธรรมดา!” แม่เจ้า! ไม่คิดว่าพี่เหวินจะพูดถึงหลินหลานแบบนี้! “พี่กล้าจังเลยนะ กล้าพูดถึงประธานหลินแบบนี้?” ผมพูดอย่างตกใจ “เฮอะ!” พี่เหวินกลอกตา “ฉันคุยกับผู้ชายของฉันเอง เธอก็ไม่ได้ยิน นอกจากคุณจะไปฟ้องเธอ!” “ผมไม่มีทางทรยศพี่หรอก!” “งั้นก็ไม่ต้องกลัวอะไรสิ?” พี่เหวินหยุดคิดแล้วพูดต่อ “ฉันก็เดินสายในวงการมาหลายปี เรื่องน้ำใจมนุษย์อะไรไม่เข้าใจ สถานการณ์แบบไหนไม่เคยเจอ... ตามหลักแล้ว เด็กหนุ่มใหม่ๆ แบบคุณ ฉันไม่น่าจะรู้สึกอะไรด้วย ไม่ใช่แค่คุณ ผู้ชายคนไหนในโลก ฉันก็ไม่เคยรู้สึกจริงจัง ฉันจริงจังแค่กับเงิน!” “ฮ่าๆ!” ผมหัวเราะ “นั่นสิ พูดความจริง!” พี่เหวินขมวดคิ้วเล็กน้อย ครุ่นคิดพูด “แต่หลังจากถูกคุณจับเอวแล้ว ฉันรู้สึกว่าร่างกายควบคุมไม่ได้ คิดแต่จะอยู่กับคุณ ในหัวมีแต่ภาพพวกนั้น... ความรู้สึกแบบนี้ฉันไม่เคยมีมาก่อน! พูดตามตรง ถึงฉันจะชอบพูดมุขส

  • ไต่เต้า   บทที่ 37

    พี่เหวินปล่อยตัวอย่างเต็มที่ในบ้านของเธอ เสียงดังมากจนผมกังวลว่าเพื่อนบ้านจะมาถามไถ่ หลังจากฝนหยุดตก (สำนวน) เราสองคนไปอาบน้ำในห้องน้ำด้วยกัน เธอนั่งยองๆ ใช้ฟองน้ำถูสบู่ให้ผม ไม่รู้ทำไม วันนี้ที่บ้านของอาจารย์เจิน อาจารย์เจินถึงได้คุกเข่าให้ผม... ตอนที่หัวเข่าในถุงน่องสีเนื้อแตะพื้น มันทำให้ผมตกใจมาก! ยากที่จะจินตนาการว่านี่คืออาจารย์ที่เคยสอนผม ผมไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ ต้องการเอาใจหรือ? ก็ไม่ใช่ทั้งหมด! ผมก็ไม่ได้แสดงว่าชอบพฤติกรรมแบบนี้... แต่ไม่ว่าจะอย่างไร มันทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน! ความรู้สึกอยากพิชิตได้รับการตอบสนองอย่างเต็มที่ “พี่เหวินครับ?” ผมก้มลงมองพี่เหวินที่กำลังเช็ดขาให้ผม “หืม?” พี่เหวินเงยหน้าขึ้น ดวงตากลมโตสวยงาม ยิ้มหวานให้ผม “พี่คุกเข่าให้ผมได้ไหม?” ผมถามเสียงเบา ผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงพูดแบบนั้นออกไป อาจเป็นเพราะเรามีความสนิทสนมกันมากพอแล้ว ถือว่าเป็นการหยอกเย้ากันระหว่างคู่รัก “ฮ่าๆ!” พี่เหวินหัวเราะ ดวงตาคมเจ้าเล่ห์กะพริบปริบๆ แล้วค่อยๆ คุกเข่าลง“แบบนี้พอใจหรือยังคะ ที่รัก?” พี่เหวินเงยหน้ายิ้มอย่างมีเสน่ห์ “คุณน

  • ไต่เต้า   บทที่ 36

    “ค่ะ ดิฉันเข้าใจแล้วประธานหลิน...” พี่เหวินขมวดคิ้วเล็กน้อย วางสาย “เธอจะให้พี่ไปอยู่กับคนอื่นเหรอ?” ผมถามอย่างกังวล พี่เหวินส่ายหน้าพร้อมยิ้มขื่นๆ “ทำไมคุณชอบคิดไปทางนั้นตลอดล่ะ?” “ก็ผมเห็นสีหน้าพี่เปลี่ยนไปนี่” ผมพูดอย่างกังวล พี่เหวินบอก “คือ PPT ที่ฉันทำตอนบ่าย มีข้อผิดพลาดหลายจุด เธอเลยตำหนิฉัน...” “อ๋อ” พอได้ยินพี่เหวินพูดแบบนั้น ผมถึงได้โล่งอก “ทำไมถึงผิดพลาดล่ะ?” ผมถามยิ้มๆ พี่เหวินมองผมด้วยแววตาเต็มไปด้วยความรัก “คุณคิดว่าทำไม? ตอนบ่ายฉันใจลอย สมาธิไม่อยู่กับงานเลย คิดถึงแต่คุณ... ที่รัก บอกฉันจริงๆ สิ คุณใช้วิธีอะไรกับฉันกันแน่?” “ไม่ได้ใช้อะไรเลยนะ?” ผมทำหน้าไร้เดียงสา “ผมก็ว่าพี่แปลกเหมือนกัน... จู่ๆ ก็มารักผมขนาดนี้?” พี่เหวินมองผมด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ แต่เต็มไปด้วยความสงสัย “เออใช่! ประธานหลินวางแผนจะให้ผมแต่งงานกับเธอเมื่อไหร่?” ผมถามอย่างสงสัย พี่เหวินส่ายหน้า “ไม่รู้ รอการแจ้งอีกที... อย่างน้อยก็ต้องหลังจากเธอหย่ากับหยิน เหาก่อนนะ” “เฮ้อ!” ผมถอนหายใจ “เหยียนเสี่ยวฝู คนนี้ ไม่รู้คิดยังไงกันแน่? ทำให้ผมลำบากใจมากช่วงนี้!”“คุณยังกังวลเรื่องนี้อยู่อี

  • ไต่เต้า   บทที่ 35

    “อืม ผมเข้าใจแล้ว...” ผมเช็ดน้ำตาให้เธอ พูดด้วยความเป็นห่วง “คุณอย่าคิดมากเลย ผมไม่ใช่ผู้ชายคิดมาก” พี่เหวินไม่สนใจที่ผมพูด เธอพูดต่อไป “ทุกอย่างที่พวกเราทำ ไม่เกี่ยวกับความรู้สึก เป็นเรื่องผลประโยชน์ล้วนๆ คุณทำตามที่กำหนด ฉันรับโบนัสค่าคอมมิชชั่น ส่วนต่อไปคุณจะชอบใคร อยู่กับใคร ไม่ใช่เรื่องที่ฉันต้องสนใจ...” “ตอนนี้คุณยังคิดแบบนั้นอยู่ไหม?” ผมถาม พี่เหวินถอนหายใจยาว ขมวดคิ้วครุ่นคิด สักพักจึงพูดช้าๆ “ฉันไม่รู้ว่าคุณใช้วิธีอะไรกับฉัน... ตอนนี้ฉันรู้สึกจริงๆ กับคุณแล้ว อยากอยู่กับคุณ แต่... ฉันรู้ว่าคุณคงไม่ยอมรับผู้หญิงที่เคยเป็นสาวบริการ” “อย่าพูดถึงตัวเองแบบนั้น...” ผมขมวดคิ้ว “คุณแค่เคยอยู่ในคณะนาฏศิลป์ ไม่ใช่สาวบริการ คุณก็บอกเองว่าคนทั่วไปเข้าไม่ได้ไม่ใช่หรือ?” “เฮอะ ต่างกันตรงไหน?” พี่เหวินหัวเราะเยาะ “โสเภณีในคณะนาฏศิลป์ ก็ไม่ใช่โสเภณีเหรอ?” “ถ้าพูดแบบนั้น ท่านหลินก็เป็นโสเภณี เธอก็ขายตัวเพื่อผลประโยชน์เหมือนกัน” ผมพูด “เฮอะ!” คำพูดผมทำให้พี่เหวินที่ตาแดงจากการร้องไห้ต้องหัวเราะ “คุณอยากตายจริงๆ สินะ! กล้าพูดทุกอย่างเลย!” “ก็มีแค่เราสองคนนี่...” ผมกอดเธอแน่น “ตอน

  • ไต่เต้า   บทที่ 34

    “ซี้ดดด!” ผมสูดลมหายใจเฮือก สิ่งที่เฟิงเหวินพูดมีเหตุผลมาก พอฟังเธออธิบาย ผมรู้สึกสบายใจขึ้นมาก ท่านหลินยังมีชีวิตที่น่าเศร้าขนาดนี้ แล้วผมจะมาเรื่องมากอะไรอีก “แต่ว่า ท่านหลินทำแบบนี้ก็มีความเสี่ยงนะ ถ้าภรรยาของคนใหญ่คนโตรู้เข้าล่ะ? กฎหมายอาจจะไม่ยุติธรรมกับภรรยาหลวงในบางเรื่อง แต่ก็ให้สิทธิ์พวกเธอในการปกป้องชีวิตคู่นะ เช่น สามารถเรียกคืนทรัพย์สินจากบุคคลที่สามได้! เมื่อก่อนก็มีดาราผู้ชายคนหนึ่งไง เล่นๆ กับคนอื่นมาหลายปี สุดท้ายต้องคืนเงินทั้งหมด แถมยังติดคุกด้วย” ผมพูดอย่างรำพึง “ฮ่าๆ! นั่นไงล่ะ ถึงต้องมีคนอย่างคุณกับหยิ่นฮ่าวมาเป็นฉากบังหน้า” พี่เหวินพูด “อีกอย่าง ท่านหลินเป็นคนขาดเงินเหรอ? เธอขาดอำนาจต่างหาก ขาดคนที่จะเปิดไฟเขียวให้เธอ ไฟเขียวที่เปิดไปแล้ว อำนาจที่ได้มาแล้ว จะให้ ท่านหลินคืนยังไง? ใช่ไหม! แค่ก! รายละเอียดพวกนี้คุณไม่ต้องกังวลหรอก ไม่เกี่ยวกับคุณด้วย...” “อ๋อๆ” ผมพูดอย่างครุ่นคิด “ถ้างั้น... เจ้านายใหญ่คนนั้นชอบเล่นสนุก ชอบแกล้งหยิ่นฮ่าว มีความเป็นไปได้ไหมว่า การให้ผมมาเป็นสามีตามกฎหมายของ ท่านหลิน เป็นความคิดของเขา?” “เป็นไปได้นะ!” พี่เหวินหัวเราะ “ยังไงค

  • ไต่เต้า   บทที่ 33

    “พี่หมายความว่า...?” ผมเงยหน้ามองเธอด้วยความตกใจ “ใช่!” พี่เหวินก้มหน้ายิ้มเจ้าเล่ห์ “คุณหลินสนใจคุณ หวังจะใช้คุณแทนที่หยิ่นฮ่าว ในบทบาท 'สามี'!” ผมกลืนน้ำลายอย่างเก้อเขิน ไม่รู้จะพูดอะไร “เพราะงั้นถึงบอกว่า... เงินเดือนคุณปีละ 10 ล้านนี่แน่นอน แค่คุณว่าง่าย ไม่ทำอะไรให้คุณหลินไม่พอใจ ชีวิตคุณก็สบายไปตลอด!” “ทำไมถึงเลือกผมล่ะ?” ผมถามอย่างตกใจ “เพราะคุณเหมาะสมไง!” พี่เหวินยิ้ม “คุณอดทนได้มากกว่าคนทั่วไป แถมยังหนุ่ม หน้าตาดี เป็นคนซื่อ แค่แต่งตัวนิดหน่อยก็เป็นดาวรุ่งในวงการธุรกิจ เข้ากับคุณหลินได้ดี...” “เอ่อ... ทำไมผมรู้สึกว่าคุณกำลังด่าผมเนี่ย?” ผมถอนหายใจ “ผมไม่มีทางเลือก น้องสาวป่วย ต้องใช้เงินด่วน ไม่ใช่ว่าผมอดทนได้” “อย่าสนใจรายละเอียดพวกนี้เลย” พี่เหวินพูด “เดี๋ยวพี่จะมีลูกให้เธอ เราจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ดีไหมล่ะ? นี่ก็เป็นสิ่งที่เธอต้องการไม่ใช่เหรอ?” ผมขมวดคิ้วถาม “คุณหลินคิดแบบนี้มาตั้งแต่แรก หรือเพิ่งตัดสินใจสองวันนี้?” “สำคัญด้วยเหรอ?” พี่เหวินยิ้ม “โอ๊ย! อย่าคิดว่าแต่งงานกับคุณหลินเป็นเรื่องใหญ่โตอะไร! เธอจดทะเบียนกับเขา ก็เหมือนเขาจ้างเธอเป็นคนขับรถหรือบอด

  • ไต่เต้า   บทที่ 32

    “ดังนั้น ให้หยิ่นฮ่าวแต่งงานปลอมๆ กับท่านหลิน ให้เขาเป็นสามีหุ่นเชิดงั้นเหรอ?” ผมถามอย่างตกใจ “อืม!” พี่เหวินพยักหน้าอย่างจริงจัง พอได้ยินแบบนั้น ผมถึงกับช็อก... ไม่แปลกใจแล้วที่หยิ่นฮ่าวมีจิตใจผิดปกติ ที่แท้ก็มีที่มาแบบนี้! “ถ้าพูดแบบนั้น ผมกับหยิ่นฮ่าว...ก็ไม่ต่างกันสิ?” ผมขมวดคิ้วพูด พี่เหวินพูด “คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันหรอก อย่างน้อย เสี่ยวฟูก็ไม่ได้ท้องกับหยิ่นฮ่าว ทำให้คุณต้องเป็นพ่อเด็กนี่” “ขอโทษที!” ผมไอเขินๆ แล้วถาม “แล้วยังไงต่อ?” พี่เหวินเล่า “ตอนนั้น หยิ่นฮ่าวเป็นอาจารย์ของท่านหลิน... พยายามเอาใจท่านหลินตลอด” “เดี๋ยวก่อน” ผมขัด “ผมได้ยินหลินซานบอกว่า... หยิ่นฮ่าวจบแค่อนุปริญญา จะเป็นอาจารย์ท่านหลินได้ยังไง?” “โอ้ย!” พี่เหวินพูด “อนุปริญญาเป็นวุฒิแรกของหยิ่นฮ่าว ไม่ได้หมายความว่าเป็นวุฒิสูงสุด แล้วอีกอย่าง หยิ่นฮ่าวเป็นคนยุคไหน? คุณเป็นคนยุคไหน? เขาแก่กว่าคุณเกือบ 20 ปีนะ!” “อ้อ เล่าต่อเลยครับ...” พี่เหวินเล่าต่อ “ตอนนั้นตกลงกันว่า ท่านหลินจะจ่ายเงินให้หยิ่นฮ่าวทุกปี หยิ่นฮ่าวจะมีผู้หญิงคนอื่น มีลูก ท่านหลินไม่ยุ่ง แต่ต้องรักษาภาพลักษณ์ภายนอก และต้องปิด

DMCA.com Protection Status