แชร์

ตระกูลจาง

ผู้เขียน: Sanassetong
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-05 19:14:52

"ตอนเมื่อสิบหกปีที่แล้วพวกข้าเองก็ยังเด็กอยู่ ตอนนั้นพี่ข้าอายุได้เพียง3ขวบส่วนข้าเองก็ได้เพียงขวบเดียว และที่ข้าละเล่าให้เจ้าทั้งสองฟังนี้ ข้าเองก็ได้ฟังผู้อื่นมาอีกทีนะ"

จางซินกล่าวขึ้นมา เพราะตนเองก็ยังไม่รู้แน่ชัดดี ทำให้สองคนสนใจกว่าเดิมนัก

"วันนี้เจ้าจะได้เริ่มเล่าหรือป่าวล่ะ"

ซิงอีกล่าวถามเพราะนางตั้งใจฟังมาก

"เอาเริ่มตรงไหนก่อนดีล่ะพี่หยง"

จางซินถามความคิดเห็นพี่ชาย

"เอาเป็นว่าแนะนำก่อนเลยว่าเราคือคนตระกูลจาง ที่เป็นตระกูลอันดับสามของมิติเชื่อมจิต เนื่องจากที่ตระกูลเราเป็นหมอยา ผู้คนจึงนับถือมากและได้เป็นหนึ่งในสามของตระกูลใหญ่ ตระกูลลำดับหนึ่งคือตระกูลซู ตระกูลลำดับสองคือตระกูลอี้ ส่วนตระกูลเราคือตระกูลจางลำดับที่สาว ส่วนลำดับที่สี่คือตระกูลหวัง และตระกูลหวังกับตระกูลจางก็มีอะไรที่มันจะเทียบเท่ากันได้ทุกอย่างยกเว้นแต่ว่าตระกูลจางนั้นมีหยกเย้ ที่พวกเจ้าเอาออกมาให้ข้าดูนั่นแหละ และมารดาของข้าเป็นอนุคนที่สองของตระกูลจาง ซึ่งมารดาของข้า คือซูหนี่ที่เป็นบุตรสาวของตระกูลซูที่อยู่ในลำดับที่หนึ่ง แต่แม่ข้าก็เป็นบุตรของอนุในลำดับที่ห้า แต่เรื่องนี้ข้าไม่สามารถรับรู้ได้ ว่าทำไมท่า
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   สมรส

    "อย่างนั้นก็คือพวกเราทั้งสี่เป็นพี่น้องพ่อเดียวกัน แต่คนล่ะแม่นั้นหรือ"จินเป่ากล่าว"แล้วทำไมเจ้าทั้งสองไม่ช่วยท่านแม่ของเจ้าล่ะ เจ้าพูดเหมือนตอนนั้นเจ้าก็ไร้เดียงสาอยู่ แต่เจ้าไม่ได้มีความคิดเองเอียงไปทางท่านแม่ของเจ้าเลยเหรอ แล้วจางซินก็ยอมมากับพี่จางหยงหรอ"ซิงอีถามขึ้นเพราะตนเองก็งงๆ"ข้าเองก็ไม่รู้ความสักเท่าไหร่ ถูกคนของท่านแม่ของพวกเจ้ารับพาตัวมาตอนกลางคืน เพราะตื่นอีกทีข้าก็อยู่ที่สำนักเก่าๆของท่านอาจารย์แล้ว พี่หยงเองก็เล่าให้ข้าฟังเพียงเล็กน้อย ไม่ได้เล่าเยอะขนาดนี้ด้วยซ้ำ "จางซินกล่าวขึ้น"เพราะว่าพวกข้าไม่ใช่สิข้าคนเดียวที่ไม่เห็นด้วยกับท่านแม่ ที่จะทำกับท่านพ่อและก็ท่านแม่พวกเจ้าแบบนี้ และพวกเจ้าขนาดนี้และอีกอย่าง ข้าก็ไม่ชอบความไม่ยุติธรรมที่ท่านแม่ทำลงไป และข้าเองก็ไม่คิดที่จะรับตำแหน่งประมุขของตระกูลจางด้วย ในเมื่อประมุขของตระกูลจางต้องเป็นของจางเหมย เพราะที่มิติเชื่อมจิตแห่งนั้นผู้ที่แกร่งและเป็นผู้สืบทอดตระกูลสายหลัก จำเป็นต้องเป็นประมุข ถึงแม้จะเป็นสตรีก็ตาม ซึ่งณเวลานี้เราก็สามารถดูได้แล้วว่าจินเป่านั้นน่าจะแข็งแกร่งกว่าข้าด้วยซ้ำ แต่ที่ข้ารู้ว่าท่านแม่ไม่ได้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-05
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ปรึกษากัน

    ถึงแม้จะรู้แล้วว่าครอบครัวของตัวเองอยู่ที่ใดก็จริง แต่จินเป่าเองก็ไม่สบายใจเพราะรู้ว่าท่านพ่อกับท่านแม่ถูกจับขังไว้เช่นนี้ แถมยังถูกทำลายฐานวรยุทธอีก และอีกอย่างพวกตนทั้งสี่ก็เป็นพี่น้องคนละแม่กัน แล้วพี่ซิงอีเองกับจางหยงก็มีใจให้กัน นางเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผู้ที่มีสายเลือดเดียวกันจะแต่งงานกันได้หรือไม่ เพราะโลกที่ตนจากมานั้นมีกฎเกฑเรื่องนี้อยู่ จินเป่าได้แต่คิดแทนพี่สาวของตัวเอง"เจ้าคิดสิ่งใดอยู่หรือจินเป่า หรือเจ้าคิดถึงข้ากันแน่ระหว่างที่เราจากกันตั้งเป็นปีเลยนะ ที่เจ้าไปจากข้าและไม่กลับมาหาข้าอีกเลย"เสียงห่าวอู๋อวี่ดังขึ้น ทำให่จินเป่าหลุดออกจากความคิดของตน และหันมายิ้มให้ชายหนุ่มเล็กน้อย"คุณชายสี่มาพอดีเลยพวกข้าอยากสอบถามอะไรสักหน่อย"จางหยงกล่าวขึ้นอย่างขัดจังหวะของทั้งสอง เหมือนพี่ชายที่คอยหวงน้องสาว ทั้งที่จินเป่ายังไม่ตอบอะไรเลย"มีอะไรหรือ เราเดินไปคุยกันในเรือนดีหรือไม่ "ห่าวอู๋อวี่กล่าวเสียงขรึมและเดินเข้าไปในเรือนของตัวเอง ทุกคนที่กำลังนั่งสนทนากันอยู่ก็ยิ้มออกมา เมื่อห่าวอู๋อวี่มาถึง"แล้วคุณชายใหญ่ล่ะไม่มาด้วยหรอกหรือ"จางซินถาม ทำให้จางหยงมองหน้านางขึ้นมา"เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-06
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   มิติล่องหล

    ในคืนของวันนั้นจินเป่าต้องการรู้อะไรบางอย่าง จึงนำถังน้ำขนาดใหญ่และนำไปวางไว้หน้าห้องพักของจางซินและใส่น้ำอมฤตของตัวเองลงไปจนเต็ม และเข้านอนไป"เจ้าทำอะไรหรือ ถึงกลับมาป่านนี้ไม่ใช้ว่าไปหาคุณชายสี่หรอกนะ"เสียงซิงอีที่งัวเงียถามมา"พี่ซิงอีนอนเถอะข้าแค่ต้องการพิสูจน์อะไรเล็กน้อย"จินเป่ากล่าวและหลับตาลงและเข้าไปในมิติ เพื่อที่จะดูต้นหยางเหมยที่ตอนนี้กำลังมีผลถึงสิบสามผลแนะ และอยู่ๆการเชื่อมต่อกับกระต่ายหยกก็หายไป เหมือนอยู่คนละมิติกัน"ลี่หลินข้ารู้สึกว่าเจ้ากระต่ายหยกนั้นมันหายไปแล้ว สัมผัสถึงมันไม่ได้เลย ไม่ใช่ว่ามันถูกใครฆ่าตายแล้วหรือ"จินเป่ากล่าวกับลี่หลิน"มันเป็นสัตว์อสูรที่แข็งแรงกว่าข้าอีก มันไม่มีทางปล่อยให้ตัวมันเองตายหรอกเจ้านายท่านวางใจเถอะ"ลี่หลินกล่าวขึ้นทางด้านจางซินได้กลิ่นหอมหวานของน้ำอมฤต ก็ตื่นขึ้นมาและพบถังน้ำอมฤตอยู่หน้าห้อง นางยังไม่ได้ทันที่จะไตร่ตรองสิ่งใดก็เก็บน้ำอมฤตนั้นเข้ามาในมิติทั้งหมดทันที หลังจากที่เก็บเข้าไปแล้วมิติของนางนั้นก็อุดมสมบูรณ์ด้วยน้ำอมฤต มิติติดกายของนางได้มาจากสายเลือดของตระกูลจาง ที่บังเอิญมีหนึ่งในร้อยคนเท่านั้น ภายในเก็บของได้มากมาย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-06
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   อาหาร

    หลังจากออกจากถ้ำอมฤตแล้วทั้งหกก็มุ่งหน้าไปยังทิศเหนือทันที อีกาดำสามขาจื่ออี้เฉินบินไปด้วยความเร็วเป็นเวลาครึ่งวันห่าวอู่อวี่ก็ให้มันร่อนลงเพื่อพักก่อน""เราคงออกมาไกลแล้วล่ะ พักสักหน่อยก็คงจะดีไม่น้อย"ห่าวอู๋อวี่กล่าวขึ้น จินเป่าจึงหยิบน้ำอมฤตให้จื่ออี้เฉินกระบอกหนึ่ง"นายหญิงท่านห่อน้ำอมฤตใส่กระบอก ตอนไหนกันข้าไม่เห็นจะรู้เลย ท่านนี้ช่างรอบคอบเสียจริง นายท่านของข้าส่วนมากจะบรรจุใสขวดเล็กจิ๋ว ไม่ได้ใส่กระบอกเช่นนี้ เพราะกระบอกเช่นนี้อาจทำให้น้ำอมฤตต้องหมดฤทธิ์เป็นแน่ "จื่ออี้เฉินถามขึ้นพลางจิบน้ำอมฤตเพียงเล็กน้อยพลังงานทั้งหมดที่หายไปก็กลับคืนมา มันช่างดีกว่าน้ำอมฤตของตนเสียจริง จื่ออี้เฉินได้แต่คิดในใจ"น้ำอมฤตจำเป็นแก่พวกเรามาก ข้าเลยตัดกระบอกไม้ไผ่มาตั้งหลายอันแนะ ในนี้ใส่น้ำอมฤตไว้ได้ทุกอันเลย และต้นไผ่ที่เราตัดมานั้นยังเป็นไผ่วิเศษที่เก็บฤทธิ์น้ำอมฤตได้ดีด้วย "ซิงอีกล่าวพลางถือถุงมิติออกมาและก็หยิบกระบอกน้ำออกมาให้ดู และยื่นให้ทุกคนและตัวเองก็ดื่ม "อาหารตอนนี้เราต้องการอาหาร ของที่ข้าใส่หีบมามีแต่อาหาร แล้วแม่นางจางจะรู้หรือไม่ล่ะว่าอยู่ที่ถุงมิติใบไหนกันแน่ มีตั้งสามใบแนะ"

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-07
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ถูกหลอกลวง

    "ให้คนจับตาดูว่าคนเหล่านั้นยังอยู่ในจวนหรือป่าว ทำไมต้องปิดเรือนเงียบ แต่คนของเรารายงานว่าคุณหนูกับคุณชายจางไม่ได้ออกจากจวนแต่อย่างใดแต่มันมีอะไรแปลกๆไม่น้อย"บุรุษที่มาจากมิติเชื่อมจิตคุยกัน ในโรงเตี๊ยมชื่อดังในเมืองตะวัน ในเมืองตะวันทุกทีมีสายสืบของคนใหญ่คนโตมากมายเรื่องที่ผู้นำตระกูลห่าวอู๋ต้องการอยากรู้จึงสืบได้ไม่ยากเลย"คนกลุ่มนั้นต้องการตัวสหายของคุณชายทั้งสองนี้เอง พวกเขามาจากต่างเมืองหรอ เราจะต้องจัดการอย่างไรดี ถ้าส่งตัวสหายทั้งสองของคุณชายสี่ไป ข้าก็ไม่อยากมีปัญหากับคุณชายสี่ แต่ถ้าไม่ส่งตัวคนไปพวกเราอาจมีปัญหาตามมา เอาอย่างนี้ห้ามคนเข้าออกจวนห่าวอู๋ไปก่อนและเรียกๆคุณหนูคุณชายและฮูหยินมา"ท่านผู้นำตระกูลห่าวอู๋กล่าวขึ้นบ่าวรับใช้จึงรีบไปตามฮูหยินและคุณหนูกับคุณชายทั้งสองมา"ท่านพี่มีสิ่งใดถึงเรียกน้องและพวกลูกๆมาเจ้าคะ"ฮูหยินห่าวอู๋ถามขึ้นเมื่อมาถึงเรือนแล้ว"ทุกคนนั่งลงก่อนวันนี้ที่ข้าให้บ่าวไปตามพวกเจ้ามา เพราะว่าพวกเราน่าจะมีปัญหากับคนนอกเมืองเสียแล้ว ท่านอาจารย์ที่แม่นางตระกูลหลี่พามานั้นเป็นผู้ที่ออกตามหาสหายของคุณชายสี่ ซึ่งข้าคิดว่าน่าจะมีปัญหากันแน่ แต่ตอนนี้เร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-07
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   หมั้นหมาย

    "ไม่มีสิ่งใดอยู่ในนั้นเลยทำไมถึงเป็นแบบนี้แล้วทำไมคนถึงเฝ้าเยอะแยะขนาดนี้มันเป็นเพราะสิ่งใด ไปจับผู้หนึ่งผู้ใดมาสอบถามให้มันรู้เรื่อง พินิจจิตใจมันเลยไม่ต้องถามอะไรให้มันมากกว่า"บุรุษผู้หนึ่งที่อยู่ในมิติเชื่อมจิตกล่าวขึ้น พอบังคับจับบุรุษผู้หนึ่งมาได้ก็พินิจจิตใจทันที ผู้นั้นเป็นบ่าวรับใช้ของคุณชายใหญ่ และในสมองของเขาก็ไม่รู้อะไรเลยรู้เพียงว่าทั้งหกนั้นได้เข้ามาในถ้ำแห่งนี้ พวกนั้นขนหีบของมามากมาย และไม่ได้ออกมาอีกเลย“แล้วของกับคนมันหายไปได้อย่างไรกันนะ หาคนที่มีความรู้มากกว่านี้หน่อยเถอะเอาคนที่รู้จักถ้ำแห่งนี้ ไม่งั้นก็หัวหน้าอ่ะ”บุรุษผู้หนึ่งกล่าวขึ้น ลูกน้องจึงไปนำตัวคนมาใหม่ จึงได้ความเพิ่มเติมว่าคุณชายสี่สามารถพาทุกคนออกจากถ้ำนี้ได้โดยอีกาดำสามขาที่เป็นผู้เฝ้าที่นี่ และทั้งหกน่าจะไปได้นานแล้ว"อย่างน้อยเราก็ได้รู้แล้วว่า พวกนั้นหายไปนานแล้ว ไม่ได้อยู่ในเมืองนี้นานแล้ว ขนาดหัวหน้าตระกูลห่าวอู๋เองนั้น ก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าบุตรและสหายพวกนั้นหายไปไหน เป็นดังที่แม่นางผู้นั้นกล่าวจริงๆเอาแบบนี้พรุ่งนี้เช้าเตรียมตัวออกเดินทางไปจากที่นี่เถอะ พวกนั้นน่าจะรู้ตัวแล้ว และรีบหนีไปแต่ข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-08
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ป่าม่าน

    ทางด้านทั้งหกคนเมื่อออกจากเมืองตะวันและหยุดพักเป็นเวลาหนึ่งคืนพอตอนเช้าก็รีบเดินทางต่อโดยใช้ทางเท้า พวกเข้าทั้งหกเข้าไปในป่าใหญ่ ที่ไม่ค่อยรกสักเท่าไหร่"ป่าแห่งนี้ชื่อว่าอะไรหรือและเราจะต้องเดินทางเท้ากี่วันกัน"จินเป่าถามขึ้นขณะเดินเข้าป่าได้สักหนึ่งก้านธูป ก็รู้สึกเหนื่อยหอบ เหงื่องไหลท่วมตัว"เดินเพียงหนึ่งก้านธูปเจ้าก็ทนไม่ได้แล้วหรือ ข้าเห็นตอนที่พวกเราเรียนอยู่ที่สำนักตะวันเลือน เจ้าก็เดินป่าออกจะบ่อย แถมแข็งแรงกว่าใครๆเสียอีก หรือว่าเจ้าอยากให้ข้าอุ้มกันนะ หรือจะขึ้นหลังข้าดี"ห่าวอู๋อวี่ถามขึ้นอย่างยิ้มๆ"คุณชายสี่ก็เหมือนผู้ที่ติดตามพวกเราจังเลยนะ เพราะเวลาที่พวกเราเดินป่าพวกเราก็ไปกันเพียงสี่คน แต่คุณชายสี่เหมือนจะรู้ดีมากเลย"จางซินถามแบบยิ้มๆเช่นกัน"ป่าแห่งนี้คือป่าม่าน เราจะบินผ่านหรือหายตัวผ่านไม่ได้เด็ดขาด ม่านก็แปลว่าช้าลง เราจะใช้เวลาอย่างน้อยก็สามวัน ถึงจะผ่านพ้นป่านี้ไปได้ และเราจะใช้สัตว์อสูรกันอีกครั้ง ตอนที่พวกขามาก็ไม่พบสิ่งใดที่น่ากังวลสักเท่าไหร่ พบแต่สัตว์อสูเล็กๆน้อยๆเท่านั้น"จางหยงกล่าวให้ทุกคนฟัง"ท่านพี่ข้ากำลังจะตอบอยู่แล้วเชียว ท่านพี่แย่งข้าตอบตลอด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-08
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   คางคกพิษ

    แสกสาก แสกสาก เจ้าคางคกตัวใหญ่สี่ม่วงเข้มค่อยๆเดินออกมาจากป่า มือข้างหนึ่งของมันถือสิ่งคล้ายๆกระบองตรงปลายมีหนามๆออกมา และตรงหัวของพวกมัน มีสิ่งแหลมๆเหมือนงาช้างไม่ผิด และด้านหลังเหมือนจะมีหน่อออกมาสามอัน แต่ละอันแหลมคมมาก ลายที่ตัวเหมือนลงอักขระยันต์อะไรซักอย่าง เดินเข้ามาหาพวกเขาทั้งหกอย่างช้าๆ และอยู่ก็มีเสียงเดินตุบ ตุบ ตุบตุบ มาและสิ่งที่เห็นก็คือร่างของคางคกอีกตัว แต่มีลักษณะที่ใหญ่กว่าตัวที่อยู่กลุ่มที่เดินเข้ามาหาพวกนางก่อนหน้านี้ ใหญ่กว่าเป็นหนึ่งเท่าตัวเลยทีเดียวและมือที่ถือกระบองนั้นไม่ใช่กระบองธรรมดาอีกแล้วเป็นกระบองที่ตรงปลายเป็นหัวกระโหลกสัตว์ชนิดหนึ่ง"แม่นางจินเป่าเจ้าคิดว่าเงียบเหงาไม่ใช่หรือ นี่เป็นทางออกของเจ้าแล้วนะ ที่เจ้าจะได้ไม่เหงาอีกต่อไป แต่ข้าก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเราจะรอดหรือไม่ เพราะตอนข้ากับซินเออร์มาไม่ได้พบเจออะไรอย่างนี้ด้วย เอาอย่างไรดีล่ะ ที่นี่หายตัวก็ไม่ได้ เหาะก็ไม่ได้เสียด้วย แถมเหมือนถูกกดพลังไว้อีกต่างหาก"ห่าวอู๋มู่ลี่กล่าว ทั้งหกคนยื่นหันหลังชนกันเพื่อป้องกันการที่คางคกพิษจะเข้ามาทำร้ายผู้ใดผู้หนึ่ง "ลงมือก่อนได้เปรียบ เอาเลย"จินเป่ากล่าวพลา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-09

บทล่าสุด

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   สายฝนศาสตราวุธ

    "คู่ต่อไปน่าจะไปได้แล้วล่ะ เสียงเงียบหายไปแล้ว"ไป๋อวิ้นกล่าวขึ้น เนื่องจากส่วนมากเขามาเพียงลำพังย่อมไม่รู้สถานการณ์เมื่อมาหลายคน และเขาก็คิดเองว่าหากเดินผ่านสายฝนศาสตราวุธนั้น หากใช้คนเดินทางน้อยก็จะสะดวกต่อการกำจัดศาสตราวุธพวกนั้นแต่หากรวมกันเป็นกลุ่มเกรงว่าจะทำร้ายผู้ที่เดินทางร่วมกันเสี่ยงมากกว่าจึงตัดสินใจให้เดินไปครั้งละสองคน"เจ้าพาจินเป่าไปเถอะ พร้อมกับเจ้าสัตว์อสูรนี้ด้วย"ไป๋อวิ้นกล่าวขึ้น จินเป่าจึงขึ้นหลังห่าวอู๋อวี่ และกระต่ายหยกเองก็กรายร่างของมันเป็นเหมือนดังวัตถุโปร่งแสงสีเขียวหยกแล้วคลุมตัวของจินเป่าไว้ แล้วลี่หลินก็ยืนข้างห่าวอู๋อวี่แล้วออกเดินพร้อมกัน เมื่อลงพื้นดินไปสักพักก็ไม่เห็นพวกเขาแล้ว และก็ได้ยินเสียงกระทบกันดังขึ้น เหมือนเสียงนั้นจะดังกว่าครั้งที่แล้วเสียงโลหะกระทบกันถี่มาก แต่ไม่มีเสียงร้องใดๆเลย จินเป่ามองเห็นสายฝนสตราวุธลงมาห่าใหญ่ ร่างกายของเขาเองไร้รอยขีดข่วนใดๆทั้งสิ้น เพราะตัวกระต่ายหยกเองห่อหุ้มนางไว้ ลี่หลินใช้กริชด้ามสั้นที่ตนเคยให้ในการต่อต้านสายฝนศาสตราวุธเหล่านั้น นางร่ายรำดั่งเช่นนางรำทั้งหลบทั้งปัดสตราวุธเหล่านั้น ทางด้านห่าวอู๋อวี่เองถึงแม้ว

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   แผนที่

    เมื่อปรมาจารย์ไป๋อวิ้นนี้เป็นคนแรกที่จะปีนขึ้นไปด้านบนเนินสูงนั้น ห่าวอู๋อวี่ก็วางจินเป่าลงและนำสมุนไพรต้มที่มารดาของปรมาจารย์ไป๋อวิ้นต้มให้ออกมาอุ่นและส่งให้ซิงอีเพื่อที่จะป้อนสมุนไพรให้จินเป่า ซิงอีรับน้ำยามาแล้วก็ยิ้มก่อนที่จะป้อน เดียวพวกเจ้าไปกันก่อนนะข้ากับจางหยงจะรอดูพวกเจ้าขึ้นไปก่อน หากมีเหตุผิดพลาดอย่างไรพวกข้าจะได้ช่วยเจ้าได้"ซิงอีหันหน้าไปกล่าวกับห่าวอู๋อวี่ หากจินเป่าตกลงมานางกับจางหยงก็จะต้องคอยรับ ถึงแม้จะไม่สูงมากแต่นางไม่มีแรงเลยสักนิดหากตกมาเพียงเล็กน้อยก็อาจจะทำให้นางเสียชีวิตได้เลย"เจ้านายเดี๋ยวข้าจะขึ้นไปดูข้างบนเสียก่อนหากว่ามีอันตรายใดๆข้าจะได้จัดการให้"ลี่หลินกล่าวขึ้น เจ้ากระต่ายหยกก็พยักหัวตาม"ข้าอยากรู้จังว่าเจ้ากระต่ายหยกนั้นมันชื่ออะไร มันเหมือนไม่ค่อยรู้ภาษามนุษย์เลยเจ้านาย มันต้องเรียนภาษามนุษย์อีก"ข้าไม่ได้มีชื่อเรียกเหมือนพวกสัตว์อสูรแบบเจ้าหรอก แล้วข้าก็ไม่จำเป็นต้องรู้ภาษามนุษย์มากมาย เพราะข้าแค่อาศัยสื่อสารกับสิ่งที่ข้าองครักษ์ก็เท่านั้นไม่จำเป็นต้องให้สัตว์อสูรหรือมนุษย์มารับรู้'เสียงเด็กน้อยพูดขึ้น ทำให้ลี่หลินขันท่าทีของมัน ที่ไม่ต้องการสื่

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   เดินทางกัน

    หลังจากออกเดินทางจากวังหลวงก็ไม่มีสิ่งใดที่เป็นอันตรายจึงทำให้พวกเขาใช้เวลาเพียงสองวันก็ถึงหมู่บ้านอมตะแล้ว ทำให้จางซินรู้สึกไม่ยุติธรรมเอาเสียเลยเพราะตอนไปพวกเขารีบร้อน มารดาของของท่านอาจารย์ไป๋อวิ้นก็เอาแต่หยุดพักผ่อนตลอดเส้นทางทำให้พวกเขาล่าช้า "วันนี้พวกเจ้าพักผ่อนในหมู่บ้านข้าเสียก่อนพรุ่งนี้เช้าค่อยออกไปกัน อวิ้นจะพาพวกเจ้าเดินทาง"หว่าฮว่ากล่าวขึ้น ทั้งเจ็ดจึงไปพักผ่อน"ที่ตอนพวกข้าเดินทางไปวังหลวงนะพวกเจ้ารู้ไหม มารดาของปรมาจารย์ไป๋อวิ้นนั้นหยุดพักผ่อนเป็นว่าเล่นเลย"จางซินระบายความโกรธออกมา"ปรมาจารย์ของเจ้าก็ชี้แจงแล้วนิ ว่ามารดาของเขาสามารถรับรู้ภัยได้ นางจึงจำเป็นต้องพาพวกเราหยุดบ่อยๆไง เพื่อป้องกันความผิดพลาดและภัยที่เกิดขึ้น"ห่าวอู๋มู๋ลี่กล่าวขึ้น"จินเป่าเจ้าเป็นอย่างไรบ้างเหน็ดเหนื่อยหรือไม่"ซิงอีถามขึ้นพร้อมกับป้อนน้ำอมฤตให้นาง ตลอดเส้นทางนางถูกห่าวอู๋อวี่อุ้มแทบตลอดเวลา เวลาลงเดินเองสักพักก็เหนื่อยหอบ จนซิงอีทนไม่ไหวเอ่ยปากให้ห่าวอู๋อวี่อุ้มนางบ้าง ให้นางขึ้นหลังบ้างแต่ห่าวอู๋อวี่เองก็เต็มมาก ครั้นหยุดพักซิงอีก็ปฏิบัติห่าวอู๋อวี่ดังน้องชายตัวเอง ทำให้ห่าวอู๋อวี่

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   คาดการณ์ลวงหน้าได้

    "ปรมาจารย์ไป๋อวิ้น ทำไมมารดาของท่านกล่าวว่านางไม่สามารถที่จะเข้าไปในป่าอมตะนั้นได้ ในเมื่อพวกท่านก็อยู่หมู่บ้านอมตะนั้น"จางซินถามขึ้น จึงทำให้จินเป่าสนใจ จึงมองไปดูผู้ที่จางซินกำลังซักถามอยู่ก็เป็นปรมาจารย์ไป๋อวิ้น"ท่านอาจารย์"จินเป่ากล่าวออกมาได้เท่านี้ก็หมดแรง นางไม่สามารถพูดยาวๆได้ เพียงแค่ใช้แรงในการพูดก็หมดแรงเสียแล้วจะให้นางเดินทางไปได้อย่างไรกัน"เจ้าไม่ต้องพูดแล้วลูกศิษย์เจ้าพักผ่อนเถอะ แล้วเรื่องที่มารดาของข้าไม่สามารถเข้าป่าอมตะนั้นได้ ก็เป็นเพราะว่านางเป็นกินรีชั้นสูง ที่พวกเจ้ารับรู้นั่นแหละ ถึงว่าข้าจะได้เป็นกินรีชั้นสูงแล้วแต่ข้าก็ไม่มีประสิทธิภาพเหมือนกับมารดาของข้า นางสามารถรับรู้อันตรายที่อยู่เบื้องหน้าได้นางสามารถคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ ส่วนข้าจุดนี้ค่ายังไม่สามารถที่จะฝึกฝนมันได้ ข้าจึงคิดว่าข้าจะไปกับพวกเจ้าได้ เพราะในเมื่อถ้าหากว่าคาดการณ์ถึงอันตรายได้แล้ว เราก็จะเลี่ยงอันตรายเหมือนที่เราเดินทางเข้ามาในวังหลวงนี้ไง เมื่อถึงจุดอันตรายมารดาของข้าก็จะให้พวกเราหยุดขบวนเดิน แล้วให้ผู้ที่เก่งกาจเข้าไปจัดการกับอันตราย แล้วเราก็เดินมากันแบบไร้อันตรายใดๆ แล้วที่มาร

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ทัณฑ์สายฟ้า

    ระหว่างที่จินเป่าฟังห่าวอู๋อวี่ท่องเกร็ดวิชาไปเรื่อยๆ ตอนนี้นางเองทำสิ่งใดไม่ได้ จึงลองขับเคลื่อนวรยุทธ์ภายในและจดจำเคล็ดวิชาที่ห่าวอู๋อวี่ท่องออกมา นางรู้สึกว่าภายในของนางนั้นปั่นป่วนยิ่งนักไม่สามารถที่จะขับเคลื่อนวรยุทธเหมือนเดิมอีกแล้ว นางจึงล้มเลิกความพยายามแล้วหันมาจดจ่อกับเคล็ดวิชานั้นแทน นางจดจำทุกคำพูดที่ออกมาจากปากของห่าวอู๋อวี่ได้ดีทุกคำ จนในที่สุดก็ครบเจ็ดวันจินเป่าค่อยค่อยลืมตาขึ้น ดวงตาสีดำอันโตของนางมองไปซ้ายมองไปขวา เหมือนกับหลายวันก่อนไม่มีผิด นางอยู่ในอะไรสักอย่างที่เป็นสีม่วงลาเวนเดอร์ และมีน้ำสีดำม่วงอยู่รอบๆ กลิ่นน้ำนี้ก็หอมสมุนไพรเอาเสียมากๆ น้ำอุ่นกำลังพอดี จินเป่ารู้สึกไม่สบายหัว จึงมุดลงไปในน้ำสมุนไพรนั้นแล้วโพล่หัวขึ้นมา นางรู้สึกโล่งอย่างบอกไม่ถูก นางมองออกว่าตอนนี้ร่างกายของนางยังไม่สามารถกลับไปฝึกยุทธได้อีก แต่นางก็เคยไร้วรยุทธ์มาแล้วนิ แต่ตอนนั้นตอนที่นางมาอยู่ร่างนี้ใหม่ๆ ร่างกายนางไม่ได้อ่อนแอถึงเพียงนี้เท่านั้นเอง แต่สักวันคงจะดีขึ้น "วันนี้ครบวันที่เจ็ดแล้ว ร่างกายแม่นางน่าจะไม่เย็นอีกแล้วล่ะป่ะพวกเจ้าไปช่วยข้าเอาแม่นางขึ้นมาจากหม้อกัน"หว่าฮว่ากล่าว

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   สัตว์มหาอสูร

    "เอาเข้าจริงๆข้าก็ไม่แน่ใจว่าทำไมเคล็ดวิชาดัชนีสุริยันอะไรนั่นแค่เพียงท่านห่าวอู๋อวี่ท่องให้จินเป่าฟังแล้วนางจะดีขึ้น"ซิงอีกล่าวถามความคิดเห็นของสหายท่านอื่น"เจ้าต้องรู้จักเคล็ดวิชาดัชนีสุริยันก่อนเจ้าลองถามองค์ชายรัชทายาทดูสิว่ามันเกี่ยวข้องกับสิ่งใด"จางซินพูดขึ้น"ในเมื่อองค์ชายรัชทายาทนั้นเคยร่ำเรียนตำราดัชนีสุริยันต์แล้วทำไมไม่ให้องค์ชายรัชทายาทเข้าไปท่องให้จินเป่าฟังล่ะ"ซิงอีกล่าวขึ้นพลางมองไปยังองค์ชายรัชทายาท"ทำเป็นว่าหากองค์ชายรัชทายาทเข้าไปท่องเกล็ดวิชาดัชนีสุริยันให้จินเป่าฟังแล้วเจ้าจะยินยอมอย่างไรอย่างนั้น"จางหยงกล่าวถามขึ้น"มันก็ใช่ที่เจ้าพูดแต่ข้าก็ไม่รู้ไงว่าในเมื่อท่านห่าวอู๋อวี่ไม่รู้เคล็ดวิชาดัชนีสุริยันต์แล้วเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าไปท่องให้จินเป่าฟังแล้วจะดีขึ้น"ซิงอีถามขึ้นอีก"ผู้ใดท่องก็ดีขึ้นได้ทั้งนั้นแหละ ถ้าน้ำเสียงนั้นเป็นน้ำเสียงที่แม่นางผู้นี้คุ้นเคย และเจ้าสัตว์อสูรจิ๋วนั้นก็เลือกบุรุษผู้นั้นให้ท่องให้เจ้านายมันฟัง มันก็คงจะรู้ความพิเศษพิโสของบุรุษผู้นั้นอยู่ แม่นางผู้นี้ข้ามองดูเจ้าเป็นห่วงแม่นางที่อยู่ในหม้อกลั่นสมุนไพรอยู่หรอก แต่เจ้าก็ต้องหัดฟัง

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ดัชนีสุริยันต์

    เมื่อเจ้ากระต่ายกับลี่ลินเข้าไปอยู่ในห้องที่มีหม้อตุ๋นสมุนไพรของจินเป่าอยู่ ลี่หลินเองก็นั่งขัดสมาธิอยู่ข้างๆ หม้อหยกใบนั้น นางขับวรยุทธภายใน นางเป็นสัตว์อสูรที่อยู่ในป่านางต้องฝึกควบคุมวรยุทธไปด้วย ส่วนกระต่ายหยกนั้นเป็นสัตว์อสูรประจำต้นหลิวต้องแสงจันทร์ไม่จำเป็นต้องศึกษาเคล็ดวิชาหรือตำราใดๆและไม่ต้องขับเคลื่อนวรยุทธ หากว่ามันบาดเจ็บเพียงรักษาสักพักก็หายขึ้น มันไม่เหมือนสัตว์อสูรแบบหลีหลินถ้ามันบำเพ็ญตบะได้สูงมันก็จะไม่รู้สึกเจ็บรู้สึกอะไรทั้งสิ้น"เจ้ากระต่ายหยกเจ้ารู้ใช่ไหมว่าดัชนีสุริยันต์เล่มนี้มีอะไรพิเศษเจ้าถึงเร่งให้ข้าทวงจากองค์ชายรัชทายาทนัก"เสียงห่าวอู๋อวี่ดังขึ้น ทำให้เจ้ากระต่ายหยกดีใจยิ่งนัก ทีห่าวอู๋อวี่มาและเขาก็นำดัชนีสุริยันมาด้วย"ท่อง ต้องท่องเคล็ดวิชา ท่านอ่านเคล็ดวิชาให้เจ้านายฟังได้"เจ้ากระต่ายหยกพยายามพูดภาษามนุษย์พร้อมกับทำท่าทางชี้ไปที่ปากของตัวเองแล้วก็หูของมันเอง"เจ้าจะให้ข้าท่องเคร็ดวิชาดัชนีสุริยันให้นางฟังหรือ"ห่าวอู๋อวี่เองก็ถามขึ้นอย่างสงสัย เจ้าเด็ดน้อยพยักหน้าหงึกๆด้วยความดีใจ เขาเข้าใจความหมายของมัน หลี่หลินจึงลืมตาขึ้นมาดูว่าเขาพูดถึงอะไรกัน ห

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ตุ่นสมุนไพร

    "เสวุ่ยเจ้าไปหาหม้อสมุนไพรใบใหญ่มาหนึ่งใบอยู่ในท้องพระคลังน่าจะมีอยู่หนึ่งหม้อ เจ้าไปตรวจดูแล้วให้องครักษ์ยกมาที่เรือนรับรอง"องค์ชายรัชทายาทกล่าวขึ้น องค์ชายหกเลยพาทหารองครักษ์ไปหาหม้อสมุนไพรใบใหญ่ ในท้องพระคลังมา เมื่อเขาเข้าไปดูก็พบหม้อสมุนไพรใบใหญ่สีเขียวหยกหนึ่งใบ ซึ่งน่าจะให้สตรีผู้นั้นเข้าไปได้จึงสั่งให้ทหารองครักษ์ยกออกมาให้ หมอหยกใบนั้นเป็นหยกสีเขียวมันแพะดูแล้วมีค่ายิ่งนัก เมื่อนำมาเรือนรับรองแล้วก็วางไว้กลางห้อง"ข้าขอเพียงสมุนไพรเท่านั้น แล้วบุรุษน่าจะออกไปด้านนอกได้แล้วกระมังเพราะว่าสตรีผู้นี้ต้องถอดเสื้อผ้าก่อนที่จะลงหม้อ จางซินข้าต้องพึ่งเจ้าอยู่หากเจ้ายังมีธุระที่จัดการยังไม่เสร็จ ช่วยข้าสักพักแล้วเดี๋ยวค่อยไป"หว่าฮว่ากล่าวขึ้น"ข้าคือสัตว์อสูรของเจ้านายข้าสามารถช่วยเจ้านายได้เจ้าค่ะให้ข้าอยู่ช่วยท่านนะเจ้าคะ"ลี่หลินรีบพูดขึ้น"นางคือน้องสาวของข้าเหมือนกันเจ้าค่ะให้ข้าอยู่ช่วยอีกแรงนะเจ้าคะ"ซิงอีรีบกล่าวขึ้น"ได้เลยแม่หนูเพราะข้าต้องให้สตรีช่วยอยู่แล้วล่ะ ลำพังข้าคนเดียวไม่ไหวหรอก บุรุษทั้งหลายออกไปได้แล้วกระมัง เจ้าเด็กน้อยเจ้าอยู่ก่อนอย่าเพิ่งไปไหน"หว่าฮว่ากล่าวข

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   กินรีชั้นสูง

    "แม่ก็ว่าอยู่แล้วหล่ะว่านางต้องเจ็บสาหัดบ้าง ดูสิอยากได้เคล็ดวิชาดัชนีสุรียันนั้น เป็นไงล่ะจะได้ใช้อยู่หรือนั้น ทำกับลูกเราไว้เยอะเลย เขาเป็นถึงองค์ชายรัชทายาททำให้เขามีสภาพย่ำแย่แบบนี้ใช้ได้ที่ไหน"ฮองเฮากล่าวขึ้น นางนึกย้อนที่เห็นบุตรชายของตัวเองสภาพย่ำแย่ในการประลองยุทธในช่วงก่อนที่จะเกิดเหตุ"ท่านแม่หากเขาต้องการ เขาก็สมควรที่จะได้รับมัน ท่านแม่ดูไม่ออกเลยหรือว่าเป็น ลูกรับมือเขาไม่ได้ทุกกระบวนท่า แต่เขาก็ยอมให้ลูกชนะเขา เพื่อชื่อเสียงของลูกในยุทธภพแห่งนี้ และเป็นบุรุษผู้นั้นที่เอาชนะตงหมิงได้"องค์ชายรัชทายาทกล่าวขึ้น"แต่ก็เป็นลูกไม่ใช่หรอที่ใช้ห่วงสันนิบาตนั้น ทำให้ตรงหมิงนั้นตายไปมันก็เท่ากับลูกเอาชนะเขาได้"ผู้เป็นแม่ยังอยากที่จะให้ลูกได้ชื่อเสียง"ฮองเฮาท่านไม่ใช่ว่าดูไม่ออกกระมัง เพียงแค่เจ้าเห็นองค์ชายรัชทายาทนั้นสบักสะบอมขนาดนั้น เจ้าก็มีความคิดแบบนี้ แต่เอาเข้าจริงๆเราก็ต้องยอมรับว่าคนที่อยู่มิติล่างเหล่านั้นทำให้เรื่องมันจบแบบง่ายๆ ครั้งนี้ข้าคิดว่าข้าจะให้เขาได้ลำดับหนึ่งของเวทีประลองยุทธในครั้งนี้ ในเมื่อสตรีผู้นั้นต้องการดัชนีสุริยันขนาดนั้นเจ้าต้องการมอบให้เขาหรือไม

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status