"ต่อให้แกแฉออกไปตอนนี้ฉันก็ไม่มีเงิน อีกอย่างถ้าเรื่องนี้ถูกแฉออกไป แกก็ต้องติดคุกเหมือนกัน!"เสียงถกเถียงของทั้งสองคนรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ในที่สุดจี้อี่หนิงก็รู้แล้วว่าคนที่ลักพาตัวตนเองคือพ่อของเจิ้งโหยวโหย่ว เจิ้งกั๋วอันแต่ตัวเธอเคยเขาแค่ครั้งเดียวเอง เขารู้ได้ยังไงว่าเธออยู่ที่ไหน? อีกทั้งยังแอบซุ่มอยู่ในบ้านเธออีก...เธอสามารถมั่นใจได้ว่า นี่ไม่ใช่วิธีที่แรงงานเกษตรคิดออกมาได้แน่ ๆ ต้องมีคนคอยบงการเขาอยู่เบื้องหลังแน่นอนและคนคนนั้น เห็นได้ชัดว่าเป็นหลิ่วอี๋หนิงผ่านไปสักพัก เสียงถกเถียงข้างนอกก็หยุดลง ตามมาด้วยเสียงสตาร์ทรถยนต์ และไม่นานบริเวณโดยรอบก็เหลือแต่ความเงียบจี้อี่หนิงหายใจช้า ๆ โดยไม่รู้ตัว ไม่กล้าหอบหายใจเสียงดังทันใดนั้น เธอก็รู้สึกว่ากระเป๋าเดินทางขยับ จากนั้นก็เป็นเสียงล้อลากกับพื้นเมื่อสังเกตได้ว่าอีกฝ่ายกำลังลากตัวเธอไปที่ไหนก็ไม่รู้ ในใจจี้อี่หนิงก็ตื่นตระหนกทันที ครุ่นคิดอย่างรวดเร็วว่าจะหนียังไงดีเธอค่อย ๆ รูดซิปบนหัวออก แต่ข้างนอกมืดสนิท มีแค่แสงสว่างเพียงเล็กน้อยคอยส่องทางจากไฟฉายกระบอกหนึ่งในมือของคนข้างหน้าที่ลากกระเป๋าเดินทางจี้อี่หนิงมองไม่ส
"ใครน่ะ?"เมื่อฟังออกว่าเป็นฉินจืออี้ สีหน้าของจี้อี่หนิงก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย"ฉันคือจี้อี่หนิง ฉันต้องการคุยกับเสิ่นเยี่ยนจือ เอาโทรศัพท์ให้เขา"เสียงหัวเราะเบาๆ ดังมาจากปลายสาย "เธอบอกว่าเยี่ยนจือน่ะหรอ เขากำลังอาบน้ำอยู่ เกรงว่าจะไม่ว่างรับสายเธอน่ะสิ คุณจี้ มีธุระอะไรกับเขาบอกฉันได้เลย ฉันจะช่วยบอกเขาให้"จี้อี่หนิงกัดริมฝีปากเล็กน้อย มือที่ทิ้งน้ำหนักลงข้างตัวกำแน่นโดยอัตโนมัติ"ฉินจืออี้ ฉันถูกลักพาตัว..."ยังพูดไม่ทันจบ ฉินจืออี้ก็ตัดบทเธอขึ้นมา "จี้อี่หนิง เธอคิดว่าคำโกหกเงอะงะแบบนี้จะทำให้เยี่ยนจือไปหาเธอได้หรอ? ถ้าเธออยากจะเขาจริงๆ เธอก็มาหาเขาเองสิ แต่คืนนี้เขาต้องอยู่เป็นเพื่อนฉันกับลูก เกรงว่าจะไม่ว่างสนใจเธอหรอก"เวลานี้เหตุการณ์เกี่ยวพันกับชีวิต จี้อี่หนิงจึงไม่มีเวลามาคิดแค้นหล่อน"ฉันโดนลักพาตัวจริงๆ...ขอแค่เธอบอกเขาเรื่องนี้ก็พอ...""ถ้าเธอโดนลักพาตัวจริง งั้นก็ไปตายซะสิ ถ้าไม่มีเธอสักคน ลูกในท้องของฉันก็เชิดหน้าชูตาเกิดมาได้อย่างภาคภูมิ ฉันเองก็จะได้อยู่กับเยี่ยนจือ ไม่ต้องห่วงนะ ถ้าเธอตายไป ฉันจะเผากระดาษเงินกระดาษทองไปให้ทุกปีเลยล่ะ"น้ำเสียงของฉินจืออี้เต
สีหน้าของเสิ่นซื่อเปลี่ยนทันที เขาพูดเสียงเย็น "เกิดอะไรขึ้น?""ในบ้านของคุณจี้เละเทะไปหมด โทรศัพท์ของเธอวางอยู่บนโซฟา แต่เจ้าตัวหายไปครับ""รีบไปสืบเดี๋ยวนี้"ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ซุนสิงก็สืบได้ว่าจี้อี่หนิงถูกลักพาตัวไป จีบรีบรายงานเสิ่นซื่อทันทีรถตู้ไม่ติดป้ายทะเบียนเพิ่งจะเข้าเขตตัวเมืองได้ไม่เท่าไหร่ ก็ถูกกลุ่มคนขวางเอาไว้เมื่อเห็นชายชุดดำสิบกว่าคนยืนล้อมตัวรถ ชายหนุ่มก็ชะงักไป เปิดประตูลงจากรถ ขณะกำลังจะถามว่ามีอะไร ก็ถูกคนถีบเข้าอย่างแรง จนทรุดลงไปนั่งคุกเข่ากับพื้น"โอ๊ย!"เขาโอดครวญอย่างน่าสังเวช ความเจ็บปวดจากหัวเข่าที่แตกทำให้เขาหน้าซีด เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นเต็มไปหน้าไม่หยุดซุนสิงมีสีหน้าเย็นยะเยือก "แกลักพาตัวคนไปไว้ที่ไหน?"แววตาของชายหนุ่มเผยความลนลานเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะรีบส่ายหน้า "พวกแกพูดอะไร...ฉันไม่รู้เรื่อง"ซุนสิงแค่นหัวเราะเสียงเย็น "ไม่รู้เรื่องใช่ไหม? งั้นก็จะกระทืบจนกว่าจะรู้"วินาทีที่เขาพูดจบ ชายชุดดำสิบกว่าคนรุมเข้าไป เสียงโอดครวญดังเป็นระลอกๆไม่ถึงห้านาที ชายหนุ่มก็พูดอย่างสังเวช "อย่าทำผมเลย...อย่าทำผมเลย ผมจะบอกแล้ว...ผมจะบอก"ซุนสิงส่งซิ
ตอนนี้หากจี้อี่หนิงตายไป นอกจากอีกฝ่ายจะไม่ให้เงินแล้ว ดีไม่ดีจะโยนขี้ให้เขาว่าเป็นคนฆ่าจี้อี่หนิง เขาไม่มีอำนาจ แถมตอนนี้เจิ้งโหยวโหย่วยังโดนขังอยู่ในคุกอีก เขาจะเอาอะไรไปสู้หลิ่วอี๋หนิงเพราะงั้นเวลานี้การที่จี้อี่หนิงมีชีวิตต่อไป จะเป็นผลดีกับเขามากกว่า"แกเป็นบ้าไปแล้วหรอ? ดีไม่ดีตอนนี้เสิ่นเยี่ยนจือรู้แล้วว่าพวกเราจับตัวหล่อนมา ยิ่งชักช้ายิ่งจะไม่เป็นผลดีกับพวกเรา""ฉันแค่ต้องการเห็นเงินก่อน ถ้าคุณอยากฆ่าเธอผมจะไม่ยุ่ง""ดึกดื่นป่านนี้ ฉันจะไปโอนเงินให้แกได้ยังไง อย่างน้อยๆ ก็ต้องรอพรุ่งนี้เช้า ให้เจ้าหน้าที่ธนาคารเข้างานก่อน!"หลิ่วอี๋หนิงโมโหจนจะบ้า เจิ้งกั๋วอันเหมือนกับเจิ้งโหยวโหย่วไม่มีผิด ร่วมมือกับคนโง่ มีแต่จะพาเธอลงเหวอีกอย่างถึงจะโอนเงิน เธอก็ต้องใช้บัญชีต่างประเทศ ไม่งั้นถึงตอนนั้นเธอจะโดนตรวจพบได้"ฉันไม่สน ฉันจะเอาเงิน"ขณะที่ทั้งสองคนกำลังมีปากเสียงกัน แสงไฟจากที่ไกลๆ ก็เคลื่อนตัวเข้ามาเรื่อยๆสีหน้าของหลิ่วอี๋หนิงเปลี่ยนในทันใด เธอสั่งเสียงเย็นชา "เร็ว รีบพาเธอขึ้นบนดาดฟ้า!"เจิ้งกั๋วอันเองก็ตระหนักได้ถึงความตึงเครียดของสถานการณ์ ก็ไม่ได้โต้เถียงกับหลิ่วอ
วินาทีที่กริดทะลุเข้าไปบนหลังมือ จี้อี่หนิงหลุดร้องออกมา เจ็บปวดจนใบหน้าขาวซีดเลือดสดๆ รินไหลจากหลังมือของเธอ ดูน่าสยดสยองเป็นอย่างมากหลิ่วอี๋หนิงหัวเราะ แล้วดึงกริดออกมาจนเลือดพุ่งกระฉูดตามไปด้วย จี้อี่หนิงกัดริมฝีปากอย่างแรง จึงไม่มีเสียงโหยหวนเล็ดลอดออกมาดูสีหน้าอดทนอดกลั้นของเธอแล้ว มุมปากของหลิ่วอี๋หนิงก็ยกยิ้มกว้างขึ้น"ไม่คิดว่ากระดูกของเธอมันจะแข็งเอาเรื่อง แต่ก็ไม่รู้ว่า มันจะแข็งไปได้ถึงเมื่อไหร่"หล่อนชูกริดขึ้นอีกครั้ง เตรียมจะแทงลงไปยังหน้าอกของจี้อี่หนิงสุดแรงเกิดทว่าจังหวะที่กริดอยู่ห่างจากหน้าอกข้างซ้ายของจี้อี่หนิงเพียงไม่กี่เซนติเมตร จู่ๆ ความปวดร้าวก็ส่งตรงมาจากข้อมือ กริดที่กำอยู่ก็ตกลงบนพื้นเช่นกันหลิ่วอี๋หนิงมองลูกดอกที่แทงใส่ข้อมือของหล่อนอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา แล้วช้อนสายตาขึ้นมองไปยังทิศทางที่ลูกดอกยิงมาในทันที ก่อนจะเห็นร่างใครบางคนกำลังวิ่งมายังที่หล่อนอยู่แววตาของหล่อนเผยความลนลาน รีบก้มหน้าไปเก็บกริด ทว่าจังหวะที่กำลังก้มหน้าอยู่นั้น หล่อนก็ถูกเตะเข้าตรงลิ้นปี่อย่างรุนแรง จนกระเด็นออกไปทั้งร่างร่างกายของหล่อนกระแทกลงบนพื้นราวกับว่าวที่ด้
ระหว่างทาง จี้อี่หนิงลอบมองเสิ่นซื่อเป็นระยะๆ ทำหน้าเหมือนอยากจะพูดอะไรแต่ก็ไม่กล้าเสิ่นซื่อหันมามองเธอ แล้วพูดเสียงทุ้ม "อยากจะพูดอะไร?"จี้อี่หนิงเม้มริมฝีปาก "ประธานเสิ่น ฉันก็แค่อยากถามคุณว่า...คุณรู้เรื่องที่ฉันโดนลักพาตัวได้ยังไง...มิหนำซ้ำยังหาเจอถึงที่นี่...""ซุนสิงอยากจะถามเธอเรื่องข้อมูลการทดลอง โทรไปหาก็ไม่ติด พอไปหาเธอที่บ้านถึงรู้ว่าเธอหายตัวไป ก็เลยไปสืบดู"เขาพูดแบบไม่ลงรายละเอียด ทว่าในใจของจี้อี่หนิงกลับผุดความรู้สึกตื้นตันขึ้นมา"ประธานเสิ่น ขอบคุณคุณมากจริงๆ ค่ะ...ถ้าไม่ใช่เพราะคุณกับเลขาซุนตามมาทัน บางทีฉันคงไม่รอดพ้นคืนนี้"เสิ่นซื่อมีสีหน้าเรียบๆ "อย่าคิดมากแบบนั้น ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือรักษาบาดแผลให้หาย"จี้อี่หนิงไม่ได้พูดอะไร ทอดสายตาลงแล้วตัดสินใจว่าจะต้องหาโอกาสตอบแทนเสิ่นซื่อให้จงได้ตอนที่ใกล้ถึงโรงพยาบาล จี้อี่หนิงหันไปมองเขา"ประธานเสิ่น ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว คุณไปส่งฉันที่หน้าโรงพยาบาลก็พอค่ะ ฉันไปตรวจร่างกายเองได้ คุณรีบกลับไปพักเถอะนะคะ"เสิ่นซื่อไม่พูดอะไร กระทั่งรถจอดลงหน้าโรงพยาบาล เขาปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วลงจากรถ จากนั้นอุ้มจี้อี่หนิงเด
ตลอดทาง จี้อี่หนิงพยายาามขัดขืนหวังให้เสิ่นเยี่ยนจือปล่อยเธอลง แต่กลับไม่มีประโยชน์แต่อย่างใดกระทั่งวางเธอลงบนเตียงคนไข้ในห้องฉุกเฉิน เสิ่นเยี่ยนจือกดข้อมือทั้งสองข้างของเธอไปบนหัวเตียง แล้วพูดเสียงทุ้ม "อี่หนิง ตอนนี้ฉันกำลังหงุดหงิดมาก เชื่อฟังหน่อยจะดีกว่านะ"ได้ยินคำข่มขู่จากน้ำเสียงของเขา จี้อี่หนิงสะบัดมือของเขาออก มองหน้าเขาด้วยแววตานิ่งสงบ"นายหงุดหงิดแล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน? ชอบผู้หญิงที่เชื่อฟัง ก็ไปหาฉินจืออี้นู่น จะให้ฉันเข้าอกเข้าใจนายเหมือนเธอ ฉันทำไม่ได้หรอก"เสิ่นเยี่ยนจือจ้องใบหน้าด้านของที่แสนเย็นชาของเธอ จู่ๆ ก็หัวเราะออกมา"อี่หนิง เธอกำลังหึงหรอ?"จี้อี่หนิงขมวดคิ้ว ไม่รู้จริงๆ ว่าเขาใช้อะไรมองถึงเข้าใจไปว่าเธอหึง?แต่เธอก็ไม่อยากจะโต้เถียงกับเขา อยากคิดอะไรก็เชิญไม่นานคุณหมอก็มา หลังจากตรวจร่างกายโดยละเอียดให้จี้อี่หนิงเสร็จ หมอก็ช่วยพันแผลให้ใหม่ แล้วสั่งให้เธออยู่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการต่ออีกวันสองวันเมื่อไปถึงห้องพักฟื้น จี้อี่หนิงเห็นว่าเสิ่นเยี่ยนจือยังไม่ไป ในแววตาก็เผยความรำคาญ"นายไปได้แล้ว""ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนเธอที่นี่"พอเห็นสายตาแน่วแน่ของ
"ฉินจืออี้ สงสัยว่าระยะนี้ฉันจะดีกับเธอมากไป จนเธอลืมสถานะของตัวเองไปแล้วสินะ"เจ็บเจ็บแสบจากหนังศีรษะทำให้ฉินจืออี้น้ำตาคลอเบ้า อีกทั้งท่าทางดุร้ายของเสิ่นเยี่ยนจือในเวลานี้ก็ทำให้เธอหวาดกลัว"เยี่ยนจือ...คุณพูดอะไร ฉันไม่เข้าใจ...""ไม่เข้าใจงั้นหรอ? ในเมื่อไม่เข้าใจ งั้นเธอก็ไปคุกเข่าตรงหน้าห้องพักฟื้นของอี่หนิง คุกเข่าจนกว่าเธอจะเข้าใจก็แล้วกัน"สีหน้าของฉินจืออี้เปลี่ยนไป จนถึงตอนนี้มีหรอที่จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น"ฉันไม่รู้...คุณจี้โทรมาบอกว่าเธอโดนลักพาตัว ฉันนึกว่ามันเป็นอุบายที่เธอแค่อยากให้คุณไปหา...ขอโทษค่ะ..."วินาทีที่สิ้นสุดคำพูด เสิ่นเยี่ยนจือก็ยกมือขึ้นแล้วตวัดใส่เธอเขาแรงเยอะมาก ถ้าไม่ใช่เพราะอีกมือนึงจิกผมของฉินจืออี้อยู่ เธอคงได้หงายท้องไปแล้วฉินจืออี้ร้องด้วยความสังเวช ความแสบร้อนส่งตรงมาจากใบหน้า แก้มของเธอก็บวมขึ้นมาเสิ่นเยี่ยนจือมองหน้าเธอแล้วแสยะยิ้ม ในแววตาทั้งสองข้างเต็มไปด้วยความเย็นยะเยือกที่ทำให้รู้สึกเสียวสันหลัง"เธอเป็นภรรยาของฉัน ต่อให้เธอจะใช้ลูกไม้กับฉัน ฉันก็ยอม ไม่ต้องให้เธอมาสาระแน ถ้าไม่อยากตาย ก็อย่ามาลองดีกับขีดจำกัดของฉัน"ที่สำคั
จี้อี่หนิงแววตาเต็มไปด้วยความรำคาญ “ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับเธอ และก็ไม่ได้คิดว่าเธอเป็นตัวอันตรายอะไร สำหรับฉัน เธอก็แค่คนแปลกหน้าคนหนึ่งเท่านั้นเอง”เสิ่นเยี่ยนจือสีหน้าเจือความจนใจเล็กน้อย “เธอไม่ต้องดื้อขนาดนี้ก็ได้ เราก็เคยรักกันมาก่อน ถึงแม้ตอนนี้จะเลิกกันไปแล้ว ผมก็ยังอยากให้เธอมีชีวิตที่ดีขึ้น แค่อาเล็กของผม เขาไม่เหมาะกับเธอเลยจริงๆ”จี้อี่หนิงขมวดคิ้ว พูดอย่างเย็นชา “ฉันไม่อยากฟังคำพูดไร้สาระพวกนี้ หลบไป!”วันนี้เธอเจอหลี่เหวิน เดิมทีก็อารมณ์ดีอยู่แล้ว ไม่นึกว่าจะมาเจอเสิ่นเยี่ยนจือเลยทำให้อารมณ์ดีๆ หายหมดฉินจืออี้ที่อยู่ข้างๆ หัวเราะเยาะ “เยี่ยนจือ เธอไม่ต้องพูดแล้ว ปล่อยให้เธออยากเป็นเมียน้อยเถอะ ยังไงคนที่น่าอับอายสุดท้ายก็ไม่ใช่เธออยู่ดี”เดิมทีจี้อี่หนิงไม่คิดจะสนใจพวกเขาแล้ว แต่พอได้ยินแบบนี้ก็อดหันไปมองฉินจืออี้ไม่ได้“พูดถึงเรื่องเป็นเมียน้อย คุณฉินน่าจะมีประสบการณ์นะ ก็ในเมื่อเธอเองก็ได้ขึ้นแท่นภรรยาจากการเป็นเมียน้อยนี่ไม่ใช่เหรอ?”ใบหน้าฉินจืออี้เปลี่ยนสีทันที ตะโกนว่า “จี้อี่หนิงเธอพูดบ้าอะไร?! ฉันกับเยี่ยนจือจดทะเบียนสมรสกันแล้ว ตอนนี้ฉันคือคุณนายเสิ่นอย่างถู
หลังจากที่รุ่นพี่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย เธอก็ไปเรียนต่อที่เมืองเป่ย์เฉิง ส่วนจี้อี่หนิงกลับมาที่เมืองเซิน นับๆ ดูแล้ว ทั้งสองคนก็ไม่ได้เจอกันมานานกว่า 4 ปีแล้วจี้อี่หนิงตอบกลับข้อความ จากนั้นก็ถามว่าโรงแรมของรุ่นพี่อยู่ที่ไหน แล้วก็หาร้านอาหารท้องถิ่นใกล้โรงแรมไว้หนึ่งแห่งตอนหกโมงเย็นกว่าๆ จี้อี่หนิงเพิ่งเดินเข้าไปในร้านอาหาร ก็เห็นผู้หญิงผมสั้น หน้าเหมือนตุ๊กตาคนหนึ่งนั่งอยู่ริมหน้าต่างโบกมือให้เธอ“อี่หนิง นี่!”เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของรุ่นพี่แล้ว จี้อี่หนิงก็รู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปสมัยเรียนมหาวิทยาลัย มุมปากของเธอก็เผลอยิ้มตามอย่างไม่รู้ตัวชื่อของรุ่นพี่คือหลี่เหวิน เป็นผู้เรียนเก่ง พอเรียนต่อก็สอบเข้าเรียนปริญญาเอกโดยไม่ต้องสอบอีกครั้ง ครั้งนี้มาเข้าร่วมงานสัมมนาพร้อมอาจารย์ที่ปรึกษาหลังจากจี้อี่หนิงนั่งลง หลี่เหวินก็พูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มว่า “อี่หนิง เธอแทบไม่เปลี่ยนไปจากสมัยเรียนเลยนะ”“รุ่นพี่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย พอเห็นพี่ก็ทำให้นึกถึงตอนที่พี่พาหนูทำการทดลองสมัยเรียนมหาวิทยาลัยค่ะ"“อย่าเลย... พี่ไม่กล้ารับคำชม หลังๆ ก็เป็นเธอที่คอยช่วยพี่ด้วยซ้ำ ว่าแต่ สามีเธอล่ะ?
ไม่นาน ซุนสิงก็กลับมา"ประธานเสิ่นครับ เช้านี้คุณจี้มีปากเสียงกับพนักงานของชิงหงที่หน้าประตูลิฟต์ คุณจี้ถูกผลักจนล้ม เวินลี่เจ๋อน่าจะพาคุณจี้ไปโรงพยาบาลครับ"เสิ่นซื่อขมวดคิ้ว "เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงมีการปะทะกัน?"ซุนสิงลังเลเล็กน้อย ก่อนจะพูดด้วยความระมัดระวัง "ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่คุณกับคุณฉีกลับมาคบกัน... นี่คือวิดีโอจากกล้องวงจรปิด คุณดูเองเลยครับ"เสิ่นซื่อรับแท็บเล็ตจากมือซุนสิง แล้วเปิดดูวิดีโอ กลับพบว่าหน้าตาของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก"ไล่ออกพนักงานที่ก่อเรื่องคนนั้น""ประธานเสิ่นครับ อย่างนี้จะไม่ดีเหรอครับ? เพราะว่าคุณจี้ก็ยังตบพนักงานคนนั้นเหมือนกัน"เสิ่นซื่อมองไปที่ซุนสิงด้วยสีหน้าที่เย็นชา "ถ้าผมจำไม่ผิด ผมเคยประกาศว่าในบริษัทห้ามพูดถึงเรื่องส่วนตัวของผม"เมื่อเห็นดวงตาของเขามีความโกรธ ซุนสิงก็รีบพูดว่า "ครับ ผมจะไปดำเนินการเดี๋ยวนี้ครับ"ไม่นาน ข่าวการถูกไล่ออกของพนักงานคนนั้นก็แพร่กระจายไปในบริษัท พร้อมกับประกาศฉบับหนึ่ง【พนักงานทุกคนของชิงหง หากมีใครพูดถึงเรื่องส่วนตัวของประธานบริษัท หรือสร้างปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ จะถูกไล่ออกทันที!】พนักงานคนอื่นๆ ที่เคยพูดถ
"เธอกับเธอเป็นอะไร ทำไมต้องช่วยเธอ?"ผู้หญิงพยายามจะสะบัดมือเขาออก แต่ไม่สำเร็จ สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความโกรธ"ผมกับเธอเป็นอะไรไม่จำเป็นต้องบอกเธอ พฤติกรรมที่เธอผลักเธอลงไปเมื่อกี้ถูกกล้องวงจรปิดจับได้หมดแล้ว เดี๋ยวผมจะพาเธอไปตรวจอาการ บิลค่ารักษาพยาบาลและค่าเสียหายทางจิตใจ ผมจะให้ทนายคุยกับเธอ""ฮ่ะๆ เธอก็ไม่ได้ตบฉันเหรอ? ตรวจอาการ ใครๆ ก็ทำได้! ฉันก็จะไปตรวจ!"เวินลี่เจ๋อมีแววความเย็นชาในตา เขาเข้าใกล้ผู้หญิงและพูดเสียงต่ำที่มีแค่สองคนฟังได้: "เธอควรอธิษฐานให้เธอไม่มีอะไร มิฉะนั้นผมจะฆ่าเธอ!"เสียงของเขาเย็นชาและใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม ทำให้ผู้หญิงรู้สึกหนาวเยือกในใจเธอมีลางสังหรณ์ว่า ผู้ชายคนนี้ไม่ได้ขู่เธอ เขากำลังพูดจริง!ขณะที่เธอยืนอึ้งไปด้วยความกลัว เขาก็ปล่อยมือเธอและหันหลังเดินไปทันที โดยอุ้มจี้อี่หนิงขึ้นและเดินเร็วไปที่ประตูจี้อี่หนิงไม่คิดว่า เมื่อคืนนี้ที่เธอพูดกับเวินลี่เจ๋อเขาจะช่วยเธอในวันนี้จนกระทั่งออกจากประตู เธอถึงได้สติและรีบพูดว่า: "ปล่อยฉันลงก่อน ฉันเดินเองได้ และก็ไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจ"ถึงแม้จะล้มแรง แต่คงไม่กระทบกระดูกอ
เสียงแตรดังขึ้นจากข้างหลัง จี้อี่หนิงหันกลับไปและรีบขับรถไปจอดข้างทางเมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา มือของเธอสั่นสายยังคงเชื่อมต่ออยู่ เสียงของสือเวยที่เต็มไปด้วยความกังวลดังออกมาจากโทรศัพท์"อี่หนิง เธอเป็นอะไรหรือเปล่า? ไม่มีอะไรใช่ไหม? เธอกำลังขับรถไปทำงานใช่ไหม? ฉันมันโง่จริงๆ ไม่ควรบอกข่าวนี้ตอนนี้เลย!"จี้อี่หนิงเช็ดน้ำตาที่มุมตาแล้วพูดเสียงเบาๆ "ไม่มีอะไร แค่โทรศัพท์หลุดจากมือไป""ถ้าไม่มีอะไรฉันก็โล่งใจ... ฉันไม่ควรโทรหาตอนนี้จริงๆ..."เสียงของสือเวยเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ก่อนหน้านี้ตอนที่เธอเห็นข่าวนั้นเธอโกรธมากจนไม่ได้คิดอะไร รีบโทรหาจี้อี่หนิงตอนนี้คิดแล้วรู้สึกเสียใจสุดๆ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับจี้อี่หนิง เธอคงไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้!"อืม ฉันต้องขับรถแล้ว เอาไว้คุยทีหลัง"พูดจบ จี้อี่หนิงก็วางสายเธอสูดหายใจลึก เปิดเว็บค้นหาเกี่ยวกับเสิ่นซื่อและฉีรั่วอวี่ข่าวทั้งหมดที่ปรากฏคือพวกเขาประกาศกลับมาคบกัน【รอแฟนเก้าห้าปี CEOชิงหง เสิ่นซื่อในที่สุดก็สมหวัง!】【เปิดเผยสาเหตุที่เสิ่นซื่อโสดมานาน เพราะรอแฟนเก่าไปเรียนต่อต่างประเทศ!】【เผยข่าวเสิ่นซื่อกับแฟนเก่ากลับมาคบกัน ทั้งค
เสิ่นซื่อสีหน้าเย็นชา "วันนั้นที่เธอกลับมาประเทศ"เหนียเว่ยชิงตัวสั่นเล็กน้อย เขาสูดหายใจลึกก่อนพูดอย่างช้าๆ: "ที่เธอเลิกกับจี้อี่หนิงแล้วกลับไปอยู่กับรั่วอวี่ก็เพราะเธอเหลือเวลาแค่สามเดือนใช่ไหม?"เสิ่นซื่อขมวดคิ้ว "ผมไม่ได้กลับไปคบกับเธอ"เขาแค่สัญญาว่าจะอยู่กับเธอในช่วงสามเดือนนี้ แต่ไม่ได้ตั้งใจจะกลับไปคบกัน"งั้น... เธอไม่รักรั่วอวี่แล้วจริงๆ เหรอ?""ตั้งแต่วันที่เธอเลือกจะไปต่างประเทศ พวกเราก็ไม่มีทางเป็นไปได้อีกแล้ว"มือที่ลงข้างลำตัวของเหนียเว่ยชิงกำแน่นทันที สีหน้าก็เริ่มตื่นเต้น "แต่รั่วอวี่รักเธอมาโดยตลอด ไม่เคยเปลี่ยนเลย และตอนนี้รั่วอวี่เหลือเวลาแค่สามเดือน เธอช่วย... หลอกรั่วอวี่สักหน่อยไม่ได้เหรอ?""ไม่ได้ มันไม่ยุติธรรมกับจี้อี่หนิง"เขาให้เธอรอเขาสามเดือน และก็เคยให้สัญญาว่าจะไม่กลับไปคบกับฉีรั่วอวี่แม้ว่าเธอจะไม่เชื่อ เขาก็จะไม่ลืมคำสัญญานั้น"อะไรที่ไม่ยุติธรรมล่ะ?รั่วอวี่ต้องการแค่สามเดือน หลังจากนั้นเธอก็สามารถกลับไปหาจี้อี่หนิงได้ นี่คือคำขอสุดท้ายของรั่วอวี่ ถึงแม้เธอจะไม่รักรั่วอวี่แล้ว แต่ครั้งหนึ่งพวกเธอก็เคยรักกัน เธอจะใจแข็งปล่อยให้รั่วอวี่จากไปอย
"ขอบใจนะ แต่ไม่ต้องหรอก ต่อไปเราควรหลีกเลี่ยงการติดต่อกันเป็นการส่วนตัว ฉันไม่อยากถูกคนอื่นชี้หน้าด่าอีกแล้ว"หลังจากพูดอย่างเย็นชาจบ จี้อี่หนิงก็กำลังจะเดินผ่านเขาไป แต่เขากลับขวางไว้"อี่หนิง คำพูดที่แม่ผมพูดกับเธอ ผมขอโทษแทนเธอด้วยนะ ผมก็พูดกับเธอแล้ว เธอสัญญาว่าจะไม่มายุ่งกับเธออีก อย่าโกรธเลยนะ ได้ไหม?""ถ้าเธอคิดว่าคำพูดพวกนั้นมันผิดจริงๆ คนที่มาที่นี่คืนนี้ก็ควรเป็นเธอไม่ใช่เธอ"เวินลี่เจ๋อขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วมองเธอพร้อมพูดเสียงเบา "ถ้าเธอมาขอโทษด้วยตัวเอง เธอจะให้อภัยเธอไหม?"ใบหน้าของจี้อี่หนิงแสดงความไม่พอใจออกมา เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเวินลี่เจ๋อถึงต้องการให้เธอให้อภัยเวินจิ้งหงเวินจิ้งหงเป็นแค่แม่เลี้ยงของเธอ พวกเธอแทบไม่มีความเกี่ยวข้องกัน ไม่จำเป็นต้องปรับความเข้าใจ"สิ่งที่เธอพูดกับฉัน ฉันไม่มีวันลืม และก็ให้อภัยไม่ได้ ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว อย่ามาหาฉันอีกเลย"ไม่ให้โอกาสเวินลี่เจ๋อพูดอีก จี้อี่หนิงก็เปิดประตูเข้าไปในบ้านทันทีเวินลี่เจ๋อยืนอยู่หน้าประตูสักพักก่อนจะจากไป พอกลับถึงบ้านก็เจอกับเวินจิ้งหงที่เพิ่งกลับมาหยิบเสื้อผ้าเมื่อเห็นกล่องอาหารในมือเขาเวินจิ้ง
จี้อี่หนิงเม้มริมฝีปากแน่น แล้วกดโทรหาเขาโดยตรง“ฉันยังอยู่ข้างนอก ครั้งหน้าหาอะไรมาให้ไม่ต้องลำบากหรอกนะ”ปลายสายเงียบไปไม่กี่วินาที เสียงอบอุ่นของเวินลี่เจ๋อจึงดังขึ้น “โอเค ตอนนี้ก็เกือบสี่ทุ่มแล้ว ให้ฉันไปรับเธอไหม?”เพราะคำพูดของเวินจิ้งหง จี้อี่หนิงจึงไม่อยากมีปฏิสัมพันธ์กับเวินลี่เจ๋อมากนัก“ไม่ต้อง ฉันมีเพื่อนมาส่ง ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็แค่นี้นะ”หลังจากวางสาย สือเวยถามด้วยความสงสัย “เมื่อกี้คุยกับใครน่ะ?”“พี่ชายต่างแม่ของฉัน”สือเวยดูตกใจเล็กน้อย “เขากลับมาแล้วเหรอ? เมื่อไหร่น่ะ?”เมื่อก่อนสือเวยไปบ้านจี้อี่หนิงบ่อย เลยเจอเวินลี่เจ๋ออยู่หลายครั้ง“ก็แค่ไม่กี่วันก่อนเอง”“โอ้ ตอนนี้เขาดูห่วงเธอดีนะ ฉันจำได้ว่าเมื่อก่อนไปบ้านเธอ เขาดูเย็นชาออก”“ก็โอเคล่ะ ใช่สิ…คืนนี้ฉันเป็นคนชวนแท้ๆ สุดท้ายเธอเป็นคนจ่าย เธอส่งบิลให้ฉันสิ เดี๋ยวฉันโอนให้”สือเวยมองค้อนเธอ “กับฉันยังจะคิดมากอีกเหรอ? ไว้คราวหน้าเลี้ยงคืนก็พอ แล้วเธอไปโรงพยาบาลกับเสิ่นซื่อทำไมล่ะ? เธอบาดเจ็บเหรอ?”จี้อี่หนิงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องน้ำคร่าวๆ ให้ฟัง หลังจากฟังจบสือเวยก็เดือดดาลทันที“ฉันก็รู้ว่าเธอนั่นม
“ฉันไม่อยากเลือกทั้งสองอย่าง ตอนนี้จอดรถเดี๋ยวนี้ ฉันจะลงรถ”เสิ่นซื่อขับรถต่อด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ในเมื่อเธอไม่อยากเลือก งั้นผมเลือกให้เอง”จี้อี่หนิงหัวเราะออกมาอย่างขมขื่น เธอรู้ว่าไม่ว่าเธอจะพูดอะไร เสิ่นซื่อก็ไม่มีทางปล่อยให้เธอลงรถ เธอจึงเงียบแล้วหันไปมองนอกหน้าต่างด้วยสีหน้าเย็นชาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ถึงหน้าโรงพยาบาล เสิ่นซื่ออุ้มเธอเข้าไปข้างในทันทียังไงขัดขืนก็ไม่มีประโยชน์ จี้อี่หนิงจึงนิ่งเงียบด้วยใบหน้าเย็นชาหลังจากตรวจเสร็จ หมอบอกว่าไม่มีอะไรน่ากังวล แค่จ่ายยาแบบรับประทานและยาทาตอนออกจากโรงพยาบาล เสิ่นซื่อยังจะอุ้มเธออีก แต่เธอก้าวถอยหลังหลบเธอพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คืนนี้ขอบคุณมาก ฉันจะกลับเองโดยแท็กซี่ก็ได้”พูดจบ เธอก็ถือถุงยาแล้วหันหลังเดินออกจากโรงพยาบาลเสิ่นซื่อเดินตามเธอมาเงียบ ๆ จนใกล้ถึงรถ เขาถึงได้ขวางเธอไว้แล้วพูดเสียงต่ำว่า “ผมจะไปส่งเธอ”จี้อี่หนิงเงยหน้ามองเขาอย่างจนใจ “เราก็เลิกกันไปแล้ว สิ่งที่คุณทำตอนนี้ไม่มีความหมาย ฉันจะไม่กลับไป และไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคุณกับฉีรั่วอวี่ค่ะ”“ฉันไม่ได้กลับไปคบกับเธอ และจะไม่กลับไปคบด้วย”