วินาทีที่กริดทะลุเข้าไปบนหลังมือ จี้อี่หนิงหลุดร้องออกมา เจ็บปวดจนใบหน้าขาวซีดเลือดสดๆ รินไหลจากหลังมือของเธอ ดูน่าสยดสยองเป็นอย่างมากหลิ่วอี๋หนิงหัวเราะ แล้วดึงกริดออกมาจนเลือดพุ่งกระฉูดตามไปด้วย จี้อี่หนิงกัดริมฝีปากอย่างแรง จึงไม่มีเสียงโหยหวนเล็ดลอดออกมาดูสีหน้าอดทนอดกลั้นของเธอแล้ว มุมปากของหลิ่วอี๋หนิงก็ยกยิ้มกว้างขึ้น"ไม่คิดว่ากระดูกของเธอมันจะแข็งเอาเรื่อง แต่ก็ไม่รู้ว่า มันจะแข็งไปได้ถึงเมื่อไหร่"หล่อนชูกริดขึ้นอีกครั้ง เตรียมจะแทงลงไปยังหน้าอกของจี้อี่หนิงสุดแรงเกิดทว่าจังหวะที่กริดอยู่ห่างจากหน้าอกข้างซ้ายของจี้อี่หนิงเพียงไม่กี่เซนติเมตร จู่ๆ ความปวดร้าวก็ส่งตรงมาจากข้อมือ กริดที่กำอยู่ก็ตกลงบนพื้นเช่นกันหลิ่วอี๋หนิงมองลูกดอกที่แทงใส่ข้อมือของหล่อนอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา แล้วช้อนสายตาขึ้นมองไปยังทิศทางที่ลูกดอกยิงมาในทันที ก่อนจะเห็นร่างใครบางคนกำลังวิ่งมายังที่หล่อนอยู่แววตาของหล่อนเผยความลนลาน รีบก้มหน้าไปเก็บกริด ทว่าจังหวะที่กำลังก้มหน้าอยู่นั้น หล่อนก็ถูกเตะเข้าตรงลิ้นปี่อย่างรุนแรง จนกระเด็นออกไปทั้งร่างร่างกายของหล่อนกระแทกลงบนพื้นราวกับว่าวที่ด้
ระหว่างทาง จี้อี่หนิงลอบมองเสิ่นซื่อเป็นระยะๆ ทำหน้าเหมือนอยากจะพูดอะไรแต่ก็ไม่กล้าเสิ่นซื่อหันมามองเธอ แล้วพูดเสียงทุ้ม "อยากจะพูดอะไร?"จี้อี่หนิงเม้มริมฝีปาก "ประธานเสิ่น ฉันก็แค่อยากถามคุณว่า...คุณรู้เรื่องที่ฉันโดนลักพาตัวได้ยังไง...มิหนำซ้ำยังหาเจอถึงที่นี่...""ซุนสิงอยากจะถามเธอเรื่องข้อมูลการทดลอง โทรไปหาก็ไม่ติด พอไปหาเธอที่บ้านถึงรู้ว่าเธอหายตัวไป ก็เลยไปสืบดู"เขาพูดแบบไม่ลงรายละเอียด ทว่าในใจของจี้อี่หนิงกลับผุดความรู้สึกตื้นตันขึ้นมา"ประธานเสิ่น ขอบคุณคุณมากจริงๆ ค่ะ...ถ้าไม่ใช่เพราะคุณกับเลขาซุนตามมาทัน บางทีฉันคงไม่รอดพ้นคืนนี้"เสิ่นซื่อมีสีหน้าเรียบๆ "อย่าคิดมากแบบนั้น ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือรักษาบาดแผลให้หาย"จี้อี่หนิงไม่ได้พูดอะไร ทอดสายตาลงแล้วตัดสินใจว่าจะต้องหาโอกาสตอบแทนเสิ่นซื่อให้จงได้ตอนที่ใกล้ถึงโรงพยาบาล จี้อี่หนิงหันไปมองเขา"ประธานเสิ่น ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว คุณไปส่งฉันที่หน้าโรงพยาบาลก็พอค่ะ ฉันไปตรวจร่างกายเองได้ คุณรีบกลับไปพักเถอะนะคะ"เสิ่นซื่อไม่พูดอะไร กระทั่งรถจอดลงหน้าโรงพยาบาล เขาปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วลงจากรถ จากนั้นอุ้มจี้อี่หนิงเด
ตลอดทาง จี้อี่หนิงพยายาามขัดขืนหวังให้เสิ่นเยี่ยนจือปล่อยเธอลง แต่กลับไม่มีประโยชน์แต่อย่างใดกระทั่งวางเธอลงบนเตียงคนไข้ในห้องฉุกเฉิน เสิ่นเยี่ยนจือกดข้อมือทั้งสองข้างของเธอไปบนหัวเตียง แล้วพูดเสียงทุ้ม "อี่หนิง ตอนนี้ฉันกำลังหงุดหงิดมาก เชื่อฟังหน่อยจะดีกว่านะ"ได้ยินคำข่มขู่จากน้ำเสียงของเขา จี้อี่หนิงสะบัดมือของเขาออก มองหน้าเขาด้วยแววตานิ่งสงบ"นายหงุดหงิดแล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน? ชอบผู้หญิงที่เชื่อฟัง ก็ไปหาฉินจืออี้นู่น จะให้ฉันเข้าอกเข้าใจนายเหมือนเธอ ฉันทำไม่ได้หรอก"เสิ่นเยี่ยนจือจ้องใบหน้าด้านของที่แสนเย็นชาของเธอ จู่ๆ ก็หัวเราะออกมา"อี่หนิง เธอกำลังหึงหรอ?"จี้อี่หนิงขมวดคิ้ว ไม่รู้จริงๆ ว่าเขาใช้อะไรมองถึงเข้าใจไปว่าเธอหึง?แต่เธอก็ไม่อยากจะโต้เถียงกับเขา อยากคิดอะไรก็เชิญไม่นานคุณหมอก็มา หลังจากตรวจร่างกายโดยละเอียดให้จี้อี่หนิงเสร็จ หมอก็ช่วยพันแผลให้ใหม่ แล้วสั่งให้เธออยู่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการต่ออีกวันสองวันเมื่อไปถึงห้องพักฟื้น จี้อี่หนิงเห็นว่าเสิ่นเยี่ยนจือยังไม่ไป ในแววตาก็เผยความรำคาญ"นายไปได้แล้ว""ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนเธอที่นี่"พอเห็นสายตาแน่วแน่ของ
"ฉินจืออี้ สงสัยว่าระยะนี้ฉันจะดีกับเธอมากไป จนเธอลืมสถานะของตัวเองไปแล้วสินะ"เจ็บเจ็บแสบจากหนังศีรษะทำให้ฉินจืออี้น้ำตาคลอเบ้า อีกทั้งท่าทางดุร้ายของเสิ่นเยี่ยนจือในเวลานี้ก็ทำให้เธอหวาดกลัว"เยี่ยนจือ...คุณพูดอะไร ฉันไม่เข้าใจ...""ไม่เข้าใจงั้นหรอ? ในเมื่อไม่เข้าใจ งั้นเธอก็ไปคุกเข่าตรงหน้าห้องพักฟื้นของอี่หนิง คุกเข่าจนกว่าเธอจะเข้าใจก็แล้วกัน"สีหน้าของฉินจืออี้เปลี่ยนไป จนถึงตอนนี้มีหรอที่จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น"ฉันไม่รู้...คุณจี้โทรมาบอกว่าเธอโดนลักพาตัว ฉันนึกว่ามันเป็นอุบายที่เธอแค่อยากให้คุณไปหา...ขอโทษค่ะ..."วินาทีที่สิ้นสุดคำพูด เสิ่นเยี่ยนจือก็ยกมือขึ้นแล้วตวัดใส่เธอเขาแรงเยอะมาก ถ้าไม่ใช่เพราะอีกมือนึงจิกผมของฉินจืออี้อยู่ เธอคงได้หงายท้องไปแล้วฉินจืออี้ร้องด้วยความสังเวช ความแสบร้อนส่งตรงมาจากใบหน้า แก้มของเธอก็บวมขึ้นมาเสิ่นเยี่ยนจือมองหน้าเธอแล้วแสยะยิ้ม ในแววตาทั้งสองข้างเต็มไปด้วยความเย็นยะเยือกที่ทำให้รู้สึกเสียวสันหลัง"เธอเป็นภรรยาของฉัน ต่อให้เธอจะใช้ลูกไม้กับฉัน ฉันก็ยอม ไม่ต้องให้เธอมาสาระแน ถ้าไม่อยากตาย ก็อย่ามาลองดีกับขีดจำกัดของฉัน"ที่สำคั
"ร้ายกาจ?"มุมปากของจี้อี่หนิงฉีกยิ้มเย็นชา"ลูกสาวคุณสั่งให้เพื่อนร่วมงานลอบทำร้ายฉัน จนฉันเกือบจะเสียโฉมนี่ไม่ร้ายกาจหรอ? ไปจ้างคนให้มาคุกเข่าตรงหน้าฉันแล้วแอบถ่ายก่อนจะเอาไปโพสต์ในโซเชียล จนโดนชาวเน็ตรุมด่านี่ไม่เรียกร้ายกาจ? ลักพาตัวฉัน ฆ่าฉันจนเกือบตายนี่ไม่ร้ายกาจใช่ไหม?"จ้าวหยุนซุ่ยอยากจะเถียงกลับ แต่เมื่อสบเข้ากับดวงตาเย็นชาของจี้อี่หนิงก็อึ้ง จนลืมว่าตัวเองอยากจะพูดอะไรเมื่อเห็นว่าจี้อี่หนิงต่อปากต่อคำได้อย่างเจ็บแสบ หลิวเฉิงจื้อก็พูดเสียงเย็น "อี่หนิง ตอนนี้พ่อของเธอสุขภาพไม่แข็งแรง ถ้าเขารู้เรื่องที่เธอโดนลักพาตัว คงจะเป็นห่วงมากนะ?"จี้อี่หนิงเงยหน้าขึ้นขวับ สบเข้ากับสายตาข่มขู่ของหลิวเฉิงจื้อ มือที่อยู่ใต้ผ้าห่มก็กำแน่นโดยอัตโนมัติเธอกัดฟันกรอด ขณะอยากจะพูดอะไรบางอย่าง จู่ๆ ประตูห้องพักฟื้นก็ถูกเปิดออก"เวลาอยู่ข้างนอกผู้จัดการหลิวใหญ่คับฟ้าจังเลยนะ ถึงขนาดกล้าข่มขู่คนอื่น"สีหน้าของหลิวเฉิงจื้อแข็งในทันที หันกลับไปเห็นสายตาเย็นยะเยือกของเสิ่นซื่อกำลังมองมายังเขา ก็ใจฝ่อขวัญผวาขึ้นมาทันที"ประธานเสิ่น มาที่นี่ได้ยังไงครับ?"เขาเป็นผู้จัดการแผนกในบริษัทชิงหง เม
"เอาที่เธอสะดวก""ค่ะ อาเล็กงานยุ่ง ถ้าไม่มีเหตุจำเป็นไม่ต้องมาเยี่ยมฉันก็ได้ค่ะ"เสิ่นซื่อเลิกคิ้ว สายตาที่มองเธอแฝงไว้ด้วยการสำรวจ"เธอปฏิบัติตัวแบบนี้กับผู้มีพระคุณหรอ?"จี้อี่หนิงช้อนสายตาขึ้นมองเขา แล้วพูดช้าๆ "ก็เพราะว่าอาเล็กเป็นผู้มีพระคุณไงคะ เพราะงั้นก็ยิ่งต้องสำนึกบุญคุณให้มากๆ ถึงไม่อยากให้อาเล็กเสียเวลามาเยี่ยมฉันทั้งที่งานก็ยุ่งขนาดนี้"เห็นเธอเรียกเขาว่าอาเล็กไม่ขาดปาก คอยย้ำเตือนความสัมพันธ์ของทั้งคู่ทุกวินาที ทันใดนั้นเสิ่นซื่อก็โน้มตัวเข้าไปใกล้เธอเมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาซูมเข้ามาใกล้ตรงหน้า จี้อี่หนิงก็ชะงักไป ก่อนจะรีบถอยหลัง ราวกับเห็นเขาเป็นกิ้งกือก็ไม่ปานเสิ่นซื่ออยากจะพูดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นประตูห้องพักฟื้นก็ถูกเปิดออก"อี่หนิง..."เสียงของเสิ่นเยี่ยนจือหายไปทันทีเมื่อได้เห็นเสิ่นซื่อมิหนำซ้ำท่าแบบนั้น ดูยังไงก็เหมือนอยากจะจูบจี้อี่หนิงชัดๆสีหน้าของเสิ่นเยี่ยนจือเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือก สาวเท้าเดินไปข้างเตียงอย่างรวดเร็ว มองเสิ่นซื่อด้วยสายตาเย็นชา"อาเล็ก ผมเคยบอกอาแล้วนะ ว่าหวังว่าอาจะอยู่ให้ห่างจากอี่หนิง!"เสิ่นซื่อมองเขาด้วยสีหน้าเฉยชา ความเ
เสิ่นเยี่ยนจือแค่นหัวเราะ ขณะกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง จู่ๆ โทรศัพท์ในกระเป๋าก็ดังขึ้นเมื่อเห็นว่าเป็นฉินจืออี้ แววตาของเขาก็เย็นชาขึ้นไม่น้อย แล้วตัดสายทิ้งทันที"อี่หนิง เธอคิดว่าอาเล็กชอบเธอจริงๆ หรอ? ถ้าเขาแคร์เธอจริงๆ คงไม่มาเกี้ยวพาราสีตอนที่เธอยังเป็นเมียฉันหรอก การที่เขาทำแบบนี้ก็แปลว่าเขาแค่เห็นเธอเป็นของเล่นก็เท่านั้น..."จี้อี่หนิงสะอิดสะเอียนกับคำพูดของเขา เธอมองเขาด้วยสายตาเย็นชา"เสิ่นเยี่ยนจือ ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าคิดว่าคนอื่นเขาจะทุเรศเหมือนนาย""ฉันทุเรศ? แล้วเขาที่มีสถานะเป็นอา แต่คิดไม่ซื่อกับเธอนี่ไม่ทุเรศ?"จี้อี่หนิงขมวดคิ้ว สายตาก็เปลี่ยนเป็นเย็นชามากขึ้น"นายมีสิทธิ์อะไรไปว่าคนอื่น? ทีตัวเองยังไม่มีปัญญาจัดการเมียน้อยกับเด็กในท้อง เสิ่นเยี่ยนจือ คนที่ทุเรศอย่างที่จริงก็คือนาย"สีหน้าของเสิ่นเยี่ยนจือเปลี่ยนเป็นหม่นหมองในเสี้ยววินาที แววตาที่มองจี้อี่หนิงก็แฝงไว้ด้วยความโกรธเกรี้ยวจนน่าเขย่าขวัญ"อี่หนิง ดูท่าทางเธอจะไม่มีวันเชื่องแล้วสิ"มุมปากของเขายกยิ้มเย็นชา หยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออก"ไตก้อนใหม่ของพ่อตา ไม่ต้องหาต่อแล้ว"สีหน้าของจี้อี่หนิงเปลี่ยนไปท
หลังจากให้ปากคำเสร็จ เธอกำลังจะออกเดินทาง ก็มีตำรวจคนหนึ่งเดินเข้ามาหยุดเธอไว้“คุณจี้ สงสัยว่า ผู้ต้องสงสัยอยากเจอคุณสักครั้ง ก่อนที่จะพบคุณ เธอจะไม่ยอมให้ข้อมูลอะไรเลย รบกวนคุณช่วยประสานงาน และไปพบเธอสักหน่อยได้ไหมครับ”จี้อี่หนิง ขมวดคิ้ว เพราะรู้สึกว่าห หลิ่วอี๋หนิง มีเจตนาไม่ดีเมื่อเห็นความกังวลของเธอ ตำรวจจึงพูดต่อไปว่า "ไม่ต้องกังวล คุณพบเธอโดยมีกระจกกั้น เธอทำร้ายคุณไม่ได้แน่นอนครับ"ได้ยินแบบนั้น จี้อี่หนิงก็พยักหน้าตกลงในที่สุด "งั้นก็ได้ค่ะ"เมื่อเธอมาถึง หลิ่วอี๋หนิง ก็รออยู่ที่ฝั่งตรงข้ามแล้วเมื่อพบเธอ หลิ่วอี๋หนิง ดูสงบมาก คาดว่าเธอรู้ว่าไม่ว่าจะเกลียดแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำอะไรได้แล้วจี้อี่หนิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วพูดด้วยสีหน้าหมดอารมณ์ "คุณตามหาฉัน เพื่อจะบอกอะไรค่ะ?"หลิ่วอี๋หนิง ยิ้มเยาะอย่างน่าขนลุก "จี้อี่หนิง เธอคิดว่าเธอชนะฉันแล้วใช่ไหม?"จี้อี่หนิงหลุบตาลง ใบหน้าไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆสำหรับคนอย่างหลิ่วอี๋หนิง แม้แต่การเกลียดเธอ จี้อี่หนิงยังคิดว่ามันเป็นสิ่งที่เกินความจำเป็น“เธอคิดมากไปแล้ว ฉันไม่เคยคิดที่จะเอาชนะใครเลย เป็นความโลภและความสุดโต่งของเธอเอง
จี้อี่หนิงแววตาเต็มไปด้วยความรำคาญ “ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับเธอ และก็ไม่ได้คิดว่าเธอเป็นตัวอันตรายอะไร สำหรับฉัน เธอก็แค่คนแปลกหน้าคนหนึ่งเท่านั้นเอง”เสิ่นเยี่ยนจือสีหน้าเจือความจนใจเล็กน้อย “เธอไม่ต้องดื้อขนาดนี้ก็ได้ เราก็เคยรักกันมาก่อน ถึงแม้ตอนนี้จะเลิกกันไปแล้ว ผมก็ยังอยากให้เธอมีชีวิตที่ดีขึ้น แค่อาเล็กของผม เขาไม่เหมาะกับเธอเลยจริงๆ”จี้อี่หนิงขมวดคิ้ว พูดอย่างเย็นชา “ฉันไม่อยากฟังคำพูดไร้สาระพวกนี้ หลบไป!”วันนี้เธอเจอหลี่เหวิน เดิมทีก็อารมณ์ดีอยู่แล้ว ไม่นึกว่าจะมาเจอเสิ่นเยี่ยนจือเลยทำให้อารมณ์ดีๆ หายหมดฉินจืออี้ที่อยู่ข้างๆ หัวเราะเยาะ “เยี่ยนจือ เธอไม่ต้องพูดแล้ว ปล่อยให้เธออยากเป็นเมียน้อยเถอะ ยังไงคนที่น่าอับอายสุดท้ายก็ไม่ใช่เธออยู่ดี”เดิมทีจี้อี่หนิงไม่คิดจะสนใจพวกเขาแล้ว แต่พอได้ยินแบบนี้ก็อดหันไปมองฉินจืออี้ไม่ได้“พูดถึงเรื่องเป็นเมียน้อย คุณฉินน่าจะมีประสบการณ์นะ ก็ในเมื่อเธอเองก็ได้ขึ้นแท่นภรรยาจากการเป็นเมียน้อยนี่ไม่ใช่เหรอ?”ใบหน้าฉินจืออี้เปลี่ยนสีทันที ตะโกนว่า “จี้อี่หนิงเธอพูดบ้าอะไร?! ฉันกับเยี่ยนจือจดทะเบียนสมรสกันแล้ว ตอนนี้ฉันคือคุณนายเสิ่นอย่างถู
หลังจากที่รุ่นพี่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย เธอก็ไปเรียนต่อที่เมืองเป่ย์เฉิง ส่วนจี้อี่หนิงกลับมาที่เมืองเซิน นับๆ ดูแล้ว ทั้งสองคนก็ไม่ได้เจอกันมานานกว่า 4 ปีแล้วจี้อี่หนิงตอบกลับข้อความ จากนั้นก็ถามว่าโรงแรมของรุ่นพี่อยู่ที่ไหน แล้วก็หาร้านอาหารท้องถิ่นใกล้โรงแรมไว้หนึ่งแห่งตอนหกโมงเย็นกว่าๆ จี้อี่หนิงเพิ่งเดินเข้าไปในร้านอาหาร ก็เห็นผู้หญิงผมสั้น หน้าเหมือนตุ๊กตาคนหนึ่งนั่งอยู่ริมหน้าต่างโบกมือให้เธอ“อี่หนิง นี่!”เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของรุ่นพี่แล้ว จี้อี่หนิงก็รู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปสมัยเรียนมหาวิทยาลัย มุมปากของเธอก็เผลอยิ้มตามอย่างไม่รู้ตัวชื่อของรุ่นพี่คือหลี่เหวิน เป็นผู้เรียนเก่ง พอเรียนต่อก็สอบเข้าเรียนปริญญาเอกโดยไม่ต้องสอบอีกครั้ง ครั้งนี้มาเข้าร่วมงานสัมมนาพร้อมอาจารย์ที่ปรึกษาหลังจากจี้อี่หนิงนั่งลง หลี่เหวินก็พูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มว่า “อี่หนิง เธอแทบไม่เปลี่ยนไปจากสมัยเรียนเลยนะ”“รุ่นพี่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย พอเห็นพี่ก็ทำให้นึกถึงตอนที่พี่พาหนูทำการทดลองสมัยเรียนมหาวิทยาลัยค่ะ"“อย่าเลย... พี่ไม่กล้ารับคำชม หลังๆ ก็เป็นเธอที่คอยช่วยพี่ด้วยซ้ำ ว่าแต่ สามีเธอล่ะ?
ไม่นาน ซุนสิงก็กลับมา"ประธานเสิ่นครับ เช้านี้คุณจี้มีปากเสียงกับพนักงานของชิงหงที่หน้าประตูลิฟต์ คุณจี้ถูกผลักจนล้ม เวินลี่เจ๋อน่าจะพาคุณจี้ไปโรงพยาบาลครับ"เสิ่นซื่อขมวดคิ้ว "เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงมีการปะทะกัน?"ซุนสิงลังเลเล็กน้อย ก่อนจะพูดด้วยความระมัดระวัง "ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่คุณกับคุณฉีกลับมาคบกัน... นี่คือวิดีโอจากกล้องวงจรปิด คุณดูเองเลยครับ"เสิ่นซื่อรับแท็บเล็ตจากมือซุนสิง แล้วเปิดดูวิดีโอ กลับพบว่าหน้าตาของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก"ไล่ออกพนักงานที่ก่อเรื่องคนนั้น""ประธานเสิ่นครับ อย่างนี้จะไม่ดีเหรอครับ? เพราะว่าคุณจี้ก็ยังตบพนักงานคนนั้นเหมือนกัน"เสิ่นซื่อมองไปที่ซุนสิงด้วยสีหน้าที่เย็นชา "ถ้าผมจำไม่ผิด ผมเคยประกาศว่าในบริษัทห้ามพูดถึงเรื่องส่วนตัวของผม"เมื่อเห็นดวงตาของเขามีความโกรธ ซุนสิงก็รีบพูดว่า "ครับ ผมจะไปดำเนินการเดี๋ยวนี้ครับ"ไม่นาน ข่าวการถูกไล่ออกของพนักงานคนนั้นก็แพร่กระจายไปในบริษัท พร้อมกับประกาศฉบับหนึ่ง【พนักงานทุกคนของชิงหง หากมีใครพูดถึงเรื่องส่วนตัวของประธานบริษัท หรือสร้างปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ จะถูกไล่ออกทันที!】พนักงานคนอื่นๆ ที่เคยพูดถ
"เธอกับเธอเป็นอะไร ทำไมต้องช่วยเธอ?"ผู้หญิงพยายามจะสะบัดมือเขาออก แต่ไม่สำเร็จ สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความโกรธ"ผมกับเธอเป็นอะไรไม่จำเป็นต้องบอกเธอ พฤติกรรมที่เธอผลักเธอลงไปเมื่อกี้ถูกกล้องวงจรปิดจับได้หมดแล้ว เดี๋ยวผมจะพาเธอไปตรวจอาการ บิลค่ารักษาพยาบาลและค่าเสียหายทางจิตใจ ผมจะให้ทนายคุยกับเธอ""ฮ่ะๆ เธอก็ไม่ได้ตบฉันเหรอ? ตรวจอาการ ใครๆ ก็ทำได้! ฉันก็จะไปตรวจ!"เวินลี่เจ๋อมีแววความเย็นชาในตา เขาเข้าใกล้ผู้หญิงและพูดเสียงต่ำที่มีแค่สองคนฟังได้: "เธอควรอธิษฐานให้เธอไม่มีอะไร มิฉะนั้นผมจะฆ่าเธอ!"เสียงของเขาเย็นชาและใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม ทำให้ผู้หญิงรู้สึกหนาวเยือกในใจเธอมีลางสังหรณ์ว่า ผู้ชายคนนี้ไม่ได้ขู่เธอ เขากำลังพูดจริง!ขณะที่เธอยืนอึ้งไปด้วยความกลัว เขาก็ปล่อยมือเธอและหันหลังเดินไปทันที โดยอุ้มจี้อี่หนิงขึ้นและเดินเร็วไปที่ประตูจี้อี่หนิงไม่คิดว่า เมื่อคืนนี้ที่เธอพูดกับเวินลี่เจ๋อเขาจะช่วยเธอในวันนี้จนกระทั่งออกจากประตู เธอถึงได้สติและรีบพูดว่า: "ปล่อยฉันลงก่อน ฉันเดินเองได้ และก็ไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจ"ถึงแม้จะล้มแรง แต่คงไม่กระทบกระดูกอ
เสียงแตรดังขึ้นจากข้างหลัง จี้อี่หนิงหันกลับไปและรีบขับรถไปจอดข้างทางเมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา มือของเธอสั่นสายยังคงเชื่อมต่ออยู่ เสียงของสือเวยที่เต็มไปด้วยความกังวลดังออกมาจากโทรศัพท์"อี่หนิง เธอเป็นอะไรหรือเปล่า? ไม่มีอะไรใช่ไหม? เธอกำลังขับรถไปทำงานใช่ไหม? ฉันมันโง่จริงๆ ไม่ควรบอกข่าวนี้ตอนนี้เลย!"จี้อี่หนิงเช็ดน้ำตาที่มุมตาแล้วพูดเสียงเบาๆ "ไม่มีอะไร แค่โทรศัพท์หลุดจากมือไป""ถ้าไม่มีอะไรฉันก็โล่งใจ... ฉันไม่ควรโทรหาตอนนี้จริงๆ..."เสียงของสือเวยเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ก่อนหน้านี้ตอนที่เธอเห็นข่าวนั้นเธอโกรธมากจนไม่ได้คิดอะไร รีบโทรหาจี้อี่หนิงตอนนี้คิดแล้วรู้สึกเสียใจสุดๆ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับจี้อี่หนิง เธอคงไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้!"อืม ฉันต้องขับรถแล้ว เอาไว้คุยทีหลัง"พูดจบ จี้อี่หนิงก็วางสายเธอสูดหายใจลึก เปิดเว็บค้นหาเกี่ยวกับเสิ่นซื่อและฉีรั่วอวี่ข่าวทั้งหมดที่ปรากฏคือพวกเขาประกาศกลับมาคบกัน【รอแฟนเก้าห้าปี CEOชิงหง เสิ่นซื่อในที่สุดก็สมหวัง!】【เปิดเผยสาเหตุที่เสิ่นซื่อโสดมานาน เพราะรอแฟนเก่าไปเรียนต่อต่างประเทศ!】【เผยข่าวเสิ่นซื่อกับแฟนเก่ากลับมาคบกัน ทั้งค
เสิ่นซื่อสีหน้าเย็นชา "วันนั้นที่เธอกลับมาประเทศ"เหนียเว่ยชิงตัวสั่นเล็กน้อย เขาสูดหายใจลึกก่อนพูดอย่างช้าๆ: "ที่เธอเลิกกับจี้อี่หนิงแล้วกลับไปอยู่กับรั่วอวี่ก็เพราะเธอเหลือเวลาแค่สามเดือนใช่ไหม?"เสิ่นซื่อขมวดคิ้ว "ผมไม่ได้กลับไปคบกับเธอ"เขาแค่สัญญาว่าจะอยู่กับเธอในช่วงสามเดือนนี้ แต่ไม่ได้ตั้งใจจะกลับไปคบกัน"งั้น... เธอไม่รักรั่วอวี่แล้วจริงๆ เหรอ?""ตั้งแต่วันที่เธอเลือกจะไปต่างประเทศ พวกเราก็ไม่มีทางเป็นไปได้อีกแล้ว"มือที่ลงข้างลำตัวของเหนียเว่ยชิงกำแน่นทันที สีหน้าก็เริ่มตื่นเต้น "แต่รั่วอวี่รักเธอมาโดยตลอด ไม่เคยเปลี่ยนเลย และตอนนี้รั่วอวี่เหลือเวลาแค่สามเดือน เธอช่วย... หลอกรั่วอวี่สักหน่อยไม่ได้เหรอ?""ไม่ได้ มันไม่ยุติธรรมกับจี้อี่หนิง"เขาให้เธอรอเขาสามเดือน และก็เคยให้สัญญาว่าจะไม่กลับไปคบกับฉีรั่วอวี่แม้ว่าเธอจะไม่เชื่อ เขาก็จะไม่ลืมคำสัญญานั้น"อะไรที่ไม่ยุติธรรมล่ะ?รั่วอวี่ต้องการแค่สามเดือน หลังจากนั้นเธอก็สามารถกลับไปหาจี้อี่หนิงได้ นี่คือคำขอสุดท้ายของรั่วอวี่ ถึงแม้เธอจะไม่รักรั่วอวี่แล้ว แต่ครั้งหนึ่งพวกเธอก็เคยรักกัน เธอจะใจแข็งปล่อยให้รั่วอวี่จากไปอย
"ขอบใจนะ แต่ไม่ต้องหรอก ต่อไปเราควรหลีกเลี่ยงการติดต่อกันเป็นการส่วนตัว ฉันไม่อยากถูกคนอื่นชี้หน้าด่าอีกแล้ว"หลังจากพูดอย่างเย็นชาจบ จี้อี่หนิงก็กำลังจะเดินผ่านเขาไป แต่เขากลับขวางไว้"อี่หนิง คำพูดที่แม่ผมพูดกับเธอ ผมขอโทษแทนเธอด้วยนะ ผมก็พูดกับเธอแล้ว เธอสัญญาว่าจะไม่มายุ่งกับเธออีก อย่าโกรธเลยนะ ได้ไหม?""ถ้าเธอคิดว่าคำพูดพวกนั้นมันผิดจริงๆ คนที่มาที่นี่คืนนี้ก็ควรเป็นเธอไม่ใช่เธอ"เวินลี่เจ๋อขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วมองเธอพร้อมพูดเสียงเบา "ถ้าเธอมาขอโทษด้วยตัวเอง เธอจะให้อภัยเธอไหม?"ใบหน้าของจี้อี่หนิงแสดงความไม่พอใจออกมา เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเวินลี่เจ๋อถึงต้องการให้เธอให้อภัยเวินจิ้งหงเวินจิ้งหงเป็นแค่แม่เลี้ยงของเธอ พวกเธอแทบไม่มีความเกี่ยวข้องกัน ไม่จำเป็นต้องปรับความเข้าใจ"สิ่งที่เธอพูดกับฉัน ฉันไม่มีวันลืม และก็ให้อภัยไม่ได้ ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว อย่ามาหาฉันอีกเลย"ไม่ให้โอกาสเวินลี่เจ๋อพูดอีก จี้อี่หนิงก็เปิดประตูเข้าไปในบ้านทันทีเวินลี่เจ๋อยืนอยู่หน้าประตูสักพักก่อนจะจากไป พอกลับถึงบ้านก็เจอกับเวินจิ้งหงที่เพิ่งกลับมาหยิบเสื้อผ้าเมื่อเห็นกล่องอาหารในมือเขาเวินจิ้ง
จี้อี่หนิงเม้มริมฝีปากแน่น แล้วกดโทรหาเขาโดยตรง“ฉันยังอยู่ข้างนอก ครั้งหน้าหาอะไรมาให้ไม่ต้องลำบากหรอกนะ”ปลายสายเงียบไปไม่กี่วินาที เสียงอบอุ่นของเวินลี่เจ๋อจึงดังขึ้น “โอเค ตอนนี้ก็เกือบสี่ทุ่มแล้ว ให้ฉันไปรับเธอไหม?”เพราะคำพูดของเวินจิ้งหง จี้อี่หนิงจึงไม่อยากมีปฏิสัมพันธ์กับเวินลี่เจ๋อมากนัก“ไม่ต้อง ฉันมีเพื่อนมาส่ง ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็แค่นี้นะ”หลังจากวางสาย สือเวยถามด้วยความสงสัย “เมื่อกี้คุยกับใครน่ะ?”“พี่ชายต่างแม่ของฉัน”สือเวยดูตกใจเล็กน้อย “เขากลับมาแล้วเหรอ? เมื่อไหร่น่ะ?”เมื่อก่อนสือเวยไปบ้านจี้อี่หนิงบ่อย เลยเจอเวินลี่เจ๋ออยู่หลายครั้ง“ก็แค่ไม่กี่วันก่อนเอง”“โอ้ ตอนนี้เขาดูห่วงเธอดีนะ ฉันจำได้ว่าเมื่อก่อนไปบ้านเธอ เขาดูเย็นชาออก”“ก็โอเคล่ะ ใช่สิ…คืนนี้ฉันเป็นคนชวนแท้ๆ สุดท้ายเธอเป็นคนจ่าย เธอส่งบิลให้ฉันสิ เดี๋ยวฉันโอนให้”สือเวยมองค้อนเธอ “กับฉันยังจะคิดมากอีกเหรอ? ไว้คราวหน้าเลี้ยงคืนก็พอ แล้วเธอไปโรงพยาบาลกับเสิ่นซื่อทำไมล่ะ? เธอบาดเจ็บเหรอ?”จี้อี่หนิงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องน้ำคร่าวๆ ให้ฟัง หลังจากฟังจบสือเวยก็เดือดดาลทันที“ฉันก็รู้ว่าเธอนั่นม
“ฉันไม่อยากเลือกทั้งสองอย่าง ตอนนี้จอดรถเดี๋ยวนี้ ฉันจะลงรถ”เสิ่นซื่อขับรถต่อด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ในเมื่อเธอไม่อยากเลือก งั้นผมเลือกให้เอง”จี้อี่หนิงหัวเราะออกมาอย่างขมขื่น เธอรู้ว่าไม่ว่าเธอจะพูดอะไร เสิ่นซื่อก็ไม่มีทางปล่อยให้เธอลงรถ เธอจึงเงียบแล้วหันไปมองนอกหน้าต่างด้วยสีหน้าเย็นชาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ถึงหน้าโรงพยาบาล เสิ่นซื่ออุ้มเธอเข้าไปข้างในทันทียังไงขัดขืนก็ไม่มีประโยชน์ จี้อี่หนิงจึงนิ่งเงียบด้วยใบหน้าเย็นชาหลังจากตรวจเสร็จ หมอบอกว่าไม่มีอะไรน่ากังวล แค่จ่ายยาแบบรับประทานและยาทาตอนออกจากโรงพยาบาล เสิ่นซื่อยังจะอุ้มเธออีก แต่เธอก้าวถอยหลังหลบเธอพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คืนนี้ขอบคุณมาก ฉันจะกลับเองโดยแท็กซี่ก็ได้”พูดจบ เธอก็ถือถุงยาแล้วหันหลังเดินออกจากโรงพยาบาลเสิ่นซื่อเดินตามเธอมาเงียบ ๆ จนใกล้ถึงรถ เขาถึงได้ขวางเธอไว้แล้วพูดเสียงต่ำว่า “ผมจะไปส่งเธอ”จี้อี่หนิงเงยหน้ามองเขาอย่างจนใจ “เราก็เลิกกันไปแล้ว สิ่งที่คุณทำตอนนี้ไม่มีความหมาย ฉันจะไม่กลับไป และไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคุณกับฉีรั่วอวี่ค่ะ”“ฉันไม่ได้กลับไปคบกับเธอ และจะไม่กลับไปคบด้วย”