“ฉันควรทำอะไรไม่ควรทำอะไร ไม่จำเป็นต้องให้คุณมาเตือน”คล้อยหลังเสิ่นซื่อพูดจบ ทั่วทั้งห้องทำงานก็ตกสู่ความเงียบงันลุงหลานทั้งสองจดจ้องกันไปมาด้วยท่าทีเย็นยะเยือก ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมถอยซุนสิงที่อยู่ข้างๆเห็นสถานการณ์ท่าไม่ดี จึงรีบเร่งเดินเข้าไป “ประธานเสิ่นเล็ก พอรู้เรื่องรูปภาพในอินเทอร์เน็ตวันนี้แล้ว ประธานเสิ่นก็กำลังจัดการ ไม่อย่างนั้นคุณกลับไปก่อนดีกว่าครับ”เสิ่นเยี่ยนจือหันมองซุนสิง เอ่ยเสียงเยือกเย็น “เลขาซุน คุณอยู่กับอาเล็กมากี่ปีแล้ว หวังว่าคุณจะมีเวลาโน้มน้าวเขา ให้เขาอย่า......”"เสิ่นเยี่ยนจือ!"เสิ่นซื่อตะโกนลั่นตัดบทเขา ความโกรธเกรี้ยวสุดขีดปะทุขึ้นในดวงตา "หากยังพูดจาไร้สาระอีกแค่ประโยคเดียว ก็อย่าคิดว่าจะได้นั่งตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของเสิ่นซื่อกรุ๊ปอย่างมั่นคงอีกเลย"เสิ่นเยี่ยนจือกำหมัดข้างตัวแน่น ความหงุดหงิดอัดแน่นเต็มทรวงถึงขีดสุด แต่ก็ไม่กล้าฉีกหน้าเสิ่นซื่อจริงๆ เพราะเขารู้ดีว่าความสามารถนี้ที่เสิ่นซื่อมีอยู่ สามารถดึงเขาลงจากตำแหน่งได้จริงๆเขามองไปทางเสิ่นซื่อ ก่อนจะเอ่ยเน้นทีละคำชัดเจน "หวังว่าอาเล็กจะทำตัวให้ดีก็แล้วกัน!"พูดจบ เขาก็หันกายเดินออกไ
พอเห็นจี้อี่หนิงตัวสั่นเบาๆ สายตาเสิ่นเยี่ยนจือพลันฉายแววพอใจจี้อี่หนิงกัดริมฝีปากล่างแน่น ก่อนตอบเสียงเย็นชา "ฉันจะไปเข้างานแล้ว ตอนนี้คุณคงไปได้แล้วใช่ไหม?"เมื่อเห็นท่าทีหัวรั้นไม่สนฟังคำใครของเธอแล้ว สายตาเสิ่นเยี่ยนจือพลันฉายแววคร่ำเคร่งแต่เมื่อนึกขึ้นได้เขาก็ไม่อยากบังคับรีบเร่งอีกฝ่าย ไม่อย่างนั้นความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองต้องตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆอย่างแน่นอน"ผมจะไปส่งคุณ""ไม่ต้องค่ะ"พูดจบ เธอจึงผลักเสิ่นเยี่ยนจือออกประตู ก่อนปิดแล้วจากไปทันทีหลังจากมาถึงบริษัท ก็พบว่าเพื่อร่วมงานในบริษัทต่างแอบมองเธอ สีหน้าจี้อี่หนิงราบเรียบไร้อารมณ์ คาดว่ามุกคนคงเห็นภาพนั้นในอินเทอร์เน็ตหมดแล้วสางของไว้บนโต๊ะทำงานเสร็จ ขณะจี้อี่หนิงกำลังเตรียมตัวไปห้องปฏิบัติการ เซี่ยงอวี่ที่อยู่ข้างๆปรี่เข้ามาฉับพลัน พูดเสียงเบา “อี่หนิง เรื่องภาพในอินเทอร์เน็ตนั้น......เป็นความจริงเหรอ? ประธานเสิ่นชอบเธอจริงๆเหรอ?”ชั่วเวลานั้นผู้คนรอบๆพลันหูผึ่งขึ้นมายังไงซะเรื่องก่อนหน้านี้ที่จี้อี่หนิงทำอุปกรณ์การทดลองระเบิด แล้วเสิ่นซื่อเสี่ยงอันตรายไปช่วยตนนั้นทุกคนก็รู้ดีประกอบกับภาพเมื่อคืนที่ดูมีบรร
เจิ้งกั๋วอันในตอนนี้กำลังอยู่ที่โถงทางเดินโรงพยาบาลมองใบเสร็จด้วยความกังวล ตอบกลับด้วยเสียงจริงจัง “ภายในไม่กี่วันนี่ล่ะ”วันนี้เขาไม่เหลือเงินแม้แต่แดงเดียว ไม่พอเจิ้งโหยวโหย่วยังอยู่สถานีตำรวจ ทำได้เพียงต้องทำตามที่หลิ่วอี๋หนิงบอกเท่านั้นถึงจะมีโอกาสหาเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลได้“งั้นฉันจะรอข่างดีจากอาเจิ้งก็แล้วกัน”วางสายเสร็จ มุมปากหลิ่วอี๋หนิงหยักยิ้มหยันขอเพียงเจิ้งกั๋วอันลักพาตัวจี้อี่หนิงไป ถึงเวลานั้นเธอค่อยให้พวกมันทั้งสองตายด้วยกัน หลังจากนั้นตนก็สบายใจไร้กังวลแล้วในห้องปฏิบัติการ จี้อี่หนิงกำลังเตรียมทำการทดลองก่อนหน้านี้ต่อ ก็ได้ข่าวจากเจี่ยงหรู ให้เธอไปห้องทำงานเมื่อถึงห้องทำงาน เจี่ยงหรูยกยิ้มพลางให้เธอนั่งลง"อี่หนิง ลงพื้นที่ปฏิบัติการเมืองหรงกับประธานเสิ่นครั้งนี้รู้สึกยังไงบ้าง?"จี้อี่หนิงเม้มปาก “ก็พอได้ค่ะ พี่หรูมีเรียกฉันมามีเรื่องอะไรเหรอคะ?”“คือว่า ทางสำนักงานใหญ่ให้ความสำคัญกับโครงการที่เธอกำลังพัฒนามาก ประกอบกับโครงการนี้ได้รับการลงทุนจากประธานเสิ่น เพื่อเลี่ยงไม่ให้ต้องคอยวิ่งไปมาติดตามความคืบหน้าของโครงการ ทางสำนักงานใหญ่จึงตั้งใจส่งเธอไปทำงาน
กลับถึงบ้าน จี้อี่หนิงก็ติดต่อซุนสิง สองซุนสิงให้เธอไปตามหาเขาที่ห้องทำงานประธานเช้าวันถัดไป ถึงเวลานั้นจะพาเธอไปแสกนลายนิ้วมือและทำบัตรผ่านประตูหลังจากวางสาย จี้อี่หนิงก็รู้สึกกังวลขึ้นอย่างบอกไม่ถูกเดิมทีเสิ่นเยี่ยนจือก็สงสัยว่าเสิ่นซื่อกำลังวางแผนคิดไม่ซื่อกับเธอ ตอนนี้ตนต้องไปทำงานที่ชิงหง หากเขารู้ ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องวุ่นอะไรขึ้นบ้างแต่สถานการณ์ตอนนี้ ทำได้เพียงเดินหนึ่งก้าวมองหนึ่งก้าวแล้ว รอให้เขารู้จริงๆก่อน ถึงวันนั้นค่อยว่ากันเช้าวันถัดมา จี้อี่หนิงตื่นมาอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็บึ่งรถไปชิงหงจอดรถใต้ตึกชิงหงแล้ว จี้อี่หนิงจึงไปบอกหน้าเคาน์เตอร์ว่ามาหาซุนสิง ทางเคาน์เตอร์ยืนยันตัวตนเธอได้แล้วจึงนำทางเธอไปหน้าลิฟต์"คุณจี้ ห้องทำงานท่านประานอยู่ชั้นบนสุดค่ะ"จี้อี่หนิงพยักหน้า “โอเคค่ะ ขอบคุณมากค่ะ”หลังจากเข้าลิฟต์ จี้อี่หนิงจึงกดปุ่มชั้นลิฟต์ ประตูลิฟต์ปิดลงก่อนค่อยๆเคลื่อนตัวขึ้นข้างบนนี่เป็นครั้งแรกที่เธอมาชิงหง ก่อนหน้านี้เคยได้มาว่าลิฟต์ของชิงหงวิวสวยมาก ตอนนี้ได้รู้แล้วว่าเป็นเรื่องจริงคล้อยหลังลิฟต์มุ่งขึ้นด้านบน ภาพทิวทัศน์ของเมืองทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ดูแล
เสิ่นซื่อเงยหน้ามองเขา เอ่ยปากด้วยสีหน้าเย็นชา "รู้แล้ว"เมื่อเห็นสีหน้าของเขาเฉยเมย ซุนสิงก็รู้สึกว่าการที่ตัวเองตั้งใจบอกเขาเรื่องนี้โดยเฉพาะมันไม่จำเป็นเลยพร้อมทั้งเตือนเสิ่นซื่อว่ามีประชุมตอนสิบโมง ซุนสิงก็หมุนตัวออกไปช่วงเที่ยง จี้อี่หนิงถือบัตรอาหารไปที่โรงอาหารเพิ่งเดินเข้าไปก็ต้องอึ้งกับความหรูหราของโรงอาหารชิงหง นี่ไม่ใช่โรงอาหารแล้ว ไม่ต่างอะไรกับร้านอาหารติดดาวเลยสักนิดเมื่อกวาดตามองไปแล้วอาหารทุกช่องล้วนประณีตเป็นอย่างมาก แค่มองก็รู้สึกหิวแล้วอีกทั้งราคาอาหารยังถูกมากเทียบเท่ากับโรงอาหารในมหาวิทยาลัยเลยโรงอาหารมีสามชั้นถ้วน มีอาหารครอบคลุมทุกชนิดทั้งอาหารตะวันตก อาหารจีน อีกทั้งยังมีอาหารประจำชาติเฉพาะกลุ่มประเทศอื่น ๆ อีกจี้อี่หนิงยืนต่อแถวอยู่ที่ช่องอาหารไทย สั่งข้าวผัดสับปะรดหนึ่งจานและต้มยำกุ้งหนึ่งถ้วยแล้วหาที่นั่งมุมหนึ่งนั่งลงเมื่อชิมน้ำซุปไปหนึ่งคำ ความเซอร์ไพรส์ก็ปรากฏขึ้นในแววตาของเธอ นี่มันอร่อยเหมือนที่เธอเคยกินที่ร้านอาหารห้าดาวเลยก่อนหน้านี้บนโซเชียลมีคนพูดกันว่าเรื่องโรงอาหารของชิงหงเทียบเท่าระดับห้าดาว ตอนนั้นจี้อี่หนิงยังคิดว่ากล่าวเกินจร
ฝีเท้าของจี้อี่หนิงหยุดชะงักไป ขมวดคิ้วมองเสิ่นเยี่ยนจือที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยแววตาโกรธเคือง"คุณไปพูดอะไรกับพ่อฉัน?!"เสิ่นเยี่ยนจือยังไม่ทันปริปาก จี้เหว่ยหงก็พูดด้วยความเกรี้ยวกราด "เธอยังกล้าคาดคั้นเยี่ยนจืออีก?! เธอกับอาเล็กของเขาแอบกิ๊กกันเธอไม่รู้สึกผิดกับเขาเลยรึไง?"จี้อี่หนิงโมโหจนหน้าซีด แม้แต่ปลายนิ้วยังสั่นระริกเธอไม่คิดเลยว่าเสิ่นเยี่ยนจือจะหน้าไม่อายขนาดนี้ แว้งกัดต่อหน้าจี้เหว่ยหงก่อนซะงั้นสิ่งที่ทำให้เธอคิดไม่ถึงก็ถึง จี้เหว่ยหงกลับเชื่อจริง ๆ"พ่อคะ ในสายตาพ่อหนุเป็นคนแบบนั้นเหรอ? พ่อไม่ถามหนูเลยด้วยซ้ำ แค่คำพูดของเสิ่นเยี่ยนจือฝ่ายเดียวก็คิดว่าหนุหักหลังเขาแล้ว?!"จี้อี่หนิงสูดหายใจลึก ตัดสินใจจะไม่ปิดบังเรื่องที่เสิ่นเยี่ยนจือนอกใจแอีกต่อไปแล้ว"พ่อรู้ไหมว่าเขาแอบ...""อี่หนิง เมื่อกี้พ่อเกือบจะเป็นลมเพราะเรื่องของเธอ หมอบอกว่าห้ามให้เขาถูกกระตุ้นแล้ว เธอต้องทำให้พ่อโมโหจนอกแตกตายก่อนถึงจะพอใจใช่ไหม?"เสียงของเสิ่นเยี่ยนจือดังมากจนกลบเสียงของจี้อี่หนิงไปหมดมือที่วางข้างลำตัวของจี้อี่หนิงกำแน่น ในใจเกลียดเสิ่นเยี่ยนจืออย่างสุดขีด"ในเมื่อคุณรู้ว่าพ่อของฉัน
ทันใดนั้น ใบหน้าของเสิ่นเยี่ยนจือก็ปรากฏเป็นรอยฝ่ามือขึ้นมาทันที แววตาของเขาที่มองจี้อี่หนิงก็กลายเปลี่ยนเป็นความเย็นชาอย่างสุดขั้ว“นี่คุณกล้าตบผมเหรอ?!”จี้อี่หนิงเงยหน้าขึ้นสบตากับแววตาโกรธเคืองของเขา แล้วพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ "ทำไมฉันจะตบคุณไม่ได้? คนที่นอกใจคือคุณต่างหาก แต่คุณบังอาจวิ่งแจ้นไปใส่ร้ายฉันต่อหน้าพ่อของฉัน คุณไม่สมควรโดนตบรึไง?"ทันทีที่พูดจบ เสิ่นเยี่ยนจือก็บีบคางเธอและกดเธอไว้กับกำแพงทันที รังสีความโหดฉายออกมาในแววตา"อี่หนิง คุณไม่เชื่อฟังคำสั่งของผมก่อนเอง ถ้าคุณเชื่อฟังผมดี ๆ ผมก็ไม่มาหาพ่อตาหรอก"จี้อี่หนิงแค่นหัวเราะออกมา "ถ้าคุณกล้ามาหาพ่อของฉันอีก ฉันก็จะแฉเรื่องที่คุณนอกใจออกมาให้หมด""ถ้าคุณไม่กลัวว่าพ่อจะได้รับแรงกระตุ้นแล้วอาการแย่ลง คุณจะไปบอกตอนนี้เลยก็ได้"น้ำเสียงไม่แยแสของเสิ่นเยี่ยนจือทำให้ความโกรธของจี้อี่หนิงสุมขึ้นในอก มือที่วางข้างลำตัวก็กำแน่นโดยไม่รู้ตัว"เสิ่นเยี่ยนจือ ทำไมคุณกลายเป็นคนหน้าด้านไร้ยางอายได้ขนาดนี้?!"เสิ่นเยี่ยนจือก้มหน้ามองเธอ เมื่อเห็นความเกลียดชังและความโกรธในแววตาของเธอ ม่านตาของเขาก็หดตัวลงแล้วบีบคางเธอแน่นกว่าเดิ
มีคนแอบซุ่มรอทั้งในห้องนอนและหน้าประตู เห็นทีอีกฝ่ายคงวางแผนมาแล้วเธอลุกขึ้นมาวิ่งไปตรงไปยังห้องครัว แต่เพิ่งเริ่มวิ่งได้สองก้าวก็ถุกคนคว้าแขนเอาไว้ แล้วกระแทกเธอเข้ากับกำแพงอย่างแรง"แกเป็นใคร? ทำไมต้อง...อื้อ..."อีกฝ่ายใช้มือข้างหนึ่งกดจี้อี่หนิงไว้ มืออีกข้างก็ใช้ผ้าผืนหนึ่งอุดจมูกของจี้อี่หนิง ไม่ให้โอกาสจี้อี่หนิงได้พูดเลยสักนิดกลิ่นฉุนเตะจมูก ภาพตรงหน้าของจี้อี่หนิงก็ค่อย ๆ มัวลงช้า ๆผ่านไปไม่นาน ผู้ชายสวมผ้าปิดปากสองคนก็ลากกระเป๋าเดินทางใบหนึ่งเดินออกไปจากบ้านของจี้อี่หนิงเนื่องจากตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มกว่าแล้ว คนส่วนมาก็เลิกงานกลับบ้านกันหมด ในหมู่บ้านจึงไม่ค่อยมีคนสักเท่าไหร่ ดังนั้นจึงไม่มีใครสังเกตสองคนนี้ไม่นาน ทั้งสองคนก็มาถึงประตูหลังของหมู่บ้าน มีรถตู้ที่ไม่มีป้ายทะเบียนคันหนึ่งจอดอยู่ใต้ต้นไม้ทั้งสองคนเอากระเป๋าเดินทางใส่ไว้ในกระโปรงหลังรถ จากนั้นก็ขับรถมุ่งตรงออกไปยังนอกเมืองทันทีชิงหงกรุ๊ปห้องทำงานประธานซุนสิงถือเอกสารชุดหนึ่งรีบเดินเข้าไปอย่างรีบเร่ง "ประธานเสิ่นครับ เมื่อกี้บริษัทคู่ค้าส่งเอกสารชุดนี้กลับมา บอกว่าข้อมูลการทดลองเหมือนจะมีปัญหา แต่
ใบหน้าของเสิ่นเยี่ยนจือเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดอย่างมากในทันที เขาตวาดด้วยความโกรธ: "ทำไมเพิ่งตรวจสอบให้ชัดเจนตอนนี้?!"หยางอวี่พูดด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสา "ประธานเสิ่น ก่อนหน้านี้ผมอยากจะตรวจสอบ แต่คุณบอกว่าไม่ต้องตรวจแล้ว... ผมเพิ่งไปเยี่ยมเพื่อนที่โรงพยาบาลเมื่อคืน และบังเอิญเจอพ่อแม่ของคุณสือผมเลยกลับไปสืบสวนใหม่..."เมื่อได้รับการเตือนความจำเช่นนี้ เสิ่นเยี่ยนจือถึงนึกได้ว่าตอนนั้นเขาโกรธมาก และดูเหมือนว่าเขาจะพูดอะไรแบบนั้นจริงๆ"ถ้ามีเรื่องแบบนี้อีก ให้รีบตรวจสอบให้ชัดเจนโดยเร็วที่สุด!""...ครับ"ขณะกำลังจะวางสาย เขานึกถึงเรื่องที่จี้อี่หนิงออกไปกับเสิ่นซื่อเมื่อสักครู่ จึงพูดเสียงทุ้มว่า "ไปตรวจสอบดูว่าตอนนี้อี่หนิงกับอาเล็กอยู่ที่ไหน"หยางอวี่ตรวจสอบได้อย่างรวดเร็วเมื่อรู้ว่าเสิ่นซื่อส่งจี้อี่หนิงกลับห้องเช่าแล้วก็จากไป เสิ่นเยี่ยนจือถอนหายใจด้วยความโล่งอก พร้อมกับรู้สึกผิดบ้าง เพราะครั้งนี้เขาเข้าใจผิดในจี้อี่หนิงและยังขังเธอไว้ในห้องใต้ดินสองวันลังเลสักครู่ เขาตัดสินใจรอให้จี้อี่หนิงใจเย็นลงสักสองสามวันก่อนจะไปขอโทษและง้อให้เธอกลับมาทันใดนั้น เขานึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมา
เสิ่นเยี่ยนจือมองเขาด้วยสีหน้าเยาะเย้ย อยากจะประกาศเรื่องนี้ให้ทั่วโลกรู้ทันทีเมื่อถึงเวลานั้นท่านแม่เฒ่าเสิ่นและท่านผู้เฒ่าเสิ่นจะผิดหวังกับเสิ่นซื่ออย่างที่สุด และจะไม่คิดมอบเสิ่นซื่อกรุ๊ปให้เขาอีกต่อไป"เสิ่นเยี่ยนจือ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ผมจะไม่ปล่อยเจ้าไว้!"ทิ้งคำพูดเย็นชานี้ไว้ เสิ่นซื่อเดินไปหน้าจี้อี่หนิงแล้วอยากจะอุ้มเธอขึ้น แต่จี้อี่หนิงกลับถอยหลังไปก้าวหนึ่งโดยไม่รู้ตัวสายตาของเสิ่นซื่อเข้มขึ้น ไม่สนใจการต่อต้านของเธอ อุ้มเธอขึ้นตรงๆ ต่อหน้าเสิ่นเยี่ยนจือ"อาเล็ก ปล่อยฉันลง ฉันเดินเองได้"เสิ่นซื่อก้มมองเธอแวบหนึ่ง "เธอแน่ใจหรือ?"“ใช่ค่ะ”เห็นเธอยืนยันอย่างหนักแน่น เสิ่นซื่อเงียบไปสองสามวินาที แล้วก็ปล่อยเธอลงตามที่เธอบอก"ขอบคุณ อาเล็ก""ผมจะช่วยพยุงเธอ""ค่ะ"ด้วยการช่วยเหลือของเสิ่นซื่อ จี้อี่หนิงค่อยๆ เดินออกจากวิลล่าทีละก้าวเสิ่นเยี่ยนจือจ้องร่างของทั้งสองคนด้วยความโกรธและเยือกเย็นในสายตาแต่เขารู้ดีว่าตัวเองไม่สามารถขัดขวางได้จนกระทั่งเดินออกจากวิลล่า จี้อี่หนิงจึงหันไปมองเสิ่นซื่อดวงตาทั้งสองเต็มไปด้วยความขอบคุณ"อาเล็ก ขอบคุณที่ช่วยฉันออกมา"ถ
คนรับใช้ไม่ได้ให้โอกาสจี้อี่หนิงได้ดิ้นรนเลย โยนเธอเข้าไปในห้องใต้ดินทันทีห้องใต้ดินของวิลล่าปกติใช้เก็บของที่ไม่ค่อยได้ใช้ เย็นและมืด หลังจากจี้อี่หนิงถูกขังเข้าไป คนรับใช้ก็ล็อกประตูแล้วเดินจากไปทันทีจี้อี่หนิงหยิบโทรศัพท์ออกมา พบว่าไม่มีสัญญาณ จึงต้องล้มเลิกความคิดที่จะหาคนมาช่วยเธอออกไปในช่วงเวลาที่แสงโทรศัพท์ดับลง ห้องใต้ดินก็จมอยู่ในความมืดอีกครั้งตอนประมาณสี่ทุ่ม ประตูห้องใต้ดินเปิดออก เสิ่นเยี่ยนจือเดินเข้ามาด้วยสีหน้าบึ้งตึง"รู้ตัวหรือยังว่าทำผิด?"จี้อี่หนิงมองเขาอย่างเย็นชา ในดวงตาไม่มีความอบอุ่นแม้แต่น้อย"เสิ่นเยี่ยนจือ ฉันอธิบายให้คุณฟังแล้ว แต่คุณไม่ยอมฟัง ฉันไม่รู้สึกว่าตัวเองทำผิด"สีหน้าของเสิ่นเยี่ยนจือเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดอย่างมาก สายตาที่จ้องมองที่จี้อี่หนิงก็เย็นชาจนน่ากลัว"ในเมื่อเธอไม่ยอมรับความผิด คืนนี้ก็นอนที่นี่แล้วกัน ทบทวนตัวเองดีๆ!"พูดจบ เขาก็หันหลังเดินออกไปประตูห้องใต้ดินปิดลงอีกครั้ง ตัดขาดแสงสว่างจากภายนอกในวันที่สอง ที่จี้อี่หนิงถูกขังในห้องใต้ดิน เสิ่นซื่อก็มาที่ประตู"จี้อี่หนิงอยู่ไหน?"เสิ่นเยี่ยนจือมองเขาอย่างเย็นชา "อาเล็ก
"ได้ ผมจะส่งเธอไปครับ""ไม่ต้องหรอก ฉันขับรถมาเอง"ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง จี้อี่หนิงก็มาถึงโรงพยาบาลเมื่อเห็นว่าสือเวยตื่นขึ้นมาจริงๆ เธอก็รู้สึกโล่งอกอย่างมาก ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำโดยไม่รู้ตัวเมื่อแม่สือเห็นเธอ สีหน้าก็หม่นลงทันที"คุณจี้ ที่นี่ไม่ต้อนรับคุณคะ"เมื่อได้ยินเช่นนั้นสือเวยก็ขมวดคิ้วมองเธอ "แม่ แม่กำลังทำอะไรน่ะ?"แม่สือแค่นเสียงเย็นชา "ถ้าไม่ใช่เพราะไปฉลองวันเกิดให้เธอ ลูกก็คงไม่เกิดเรื่อง""สองเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกันเลย หรือว่าถ้าฉันออกไปกินข้าวแล้วเกิดอุบัติเหตุระหว่างทาง ก็จะโทษว่าฉันไปร้านอาหารนั้นเหรอ?""ยังไง ฉันก็ไม่อยากให้ลูกคบกับเธออีกต่อไป""ฉันจะคบกับเพื่อนฉันหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องที่แม่จะมาจัดการคะ!""แก!"แม่สือโกรธจนหน้าซีด วางชามในมือลงบนโต๊ะอย่างแรง แล้วพูดอย่างโกรธเกรี้ยว "ดี ตอนนี้ลูกมีปีกแข็งแล้ว ฉันควบคุมลูกไม่ได้แล้ว ฉันไปละ!"เมื่อเห็นแม่สือ ลุกขึ้นจะออกไปจี้อี่หนิงรีบพูดว่า "คุณป้าเจิ้ง ฉันแค่มาดูว่าเวยเวยตื่นขึ้นมาจริงๆ หรือเปล่า ป้าไม่ต้องไปหรอก ฉันจะไปเดี๋ยวนี้เอง"พูดจบจี้อี่หนิงก็มองสือเวย"เวยเวย ฉันจะมาเยี่ยมเธอวันหลังนะ""อี่หนิง
จี้อี่หนิงหันไปมองที่ประตู เห็นโจวเส้าชิงเดินมาหาเธอด้วยสีหน้าเย็นชา เธอหัวเราะเยาะเบาๆ"คุณโจว คุณต้องการอะไร?"โจวเส้าชิงมองเธอด้วยสายตาเย็นชา "ปล่อยอวี่เซวียนไป""คุณน่าจะรู้นะว่าเธอทำให้สือเวยนอนหมดสติอยู่ในห้องไอซียู คุณมีสิทธิ์อะไรมาบอกให้ฉันปล่อยเธอ?""ถึงตอนนี้คุณจะโยนเธอออกไปจากที่นี่จริงๆ ก็ไม่สามารถทำให้เวยเวยตื่นขึ้นมาได้ และเธอก็ได้รับการลงโทษที่สมควรแล้วด้วย"จี้อี่หนิงหัวเราะเยาะ "การลงโทษอะไร?"โจวเส้าชิงขมวดคิ้ว รู้สึกว่านิสัยของจี้อี่หนิงช่างน่ารำคาญจริงๆจู้อวี่เซวียนดูทุกข์ทรมานขนาดนี้แล้ว เธอยังไม่ยอมปล่อยเธอไป"ถ้าคุณโยนเธอลงไปจริงๆ มันจะเป็นการสร้างศัตรูกับตระกูลจู้ ถ้าการกระทำของคุณทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างจู้ซื่อกรุ๊ปกับเสิ่นซื่อกรุ๊ป คนตระกูลเสิ่นก็จะไม่ปล่อยคุณเช่นกันครับ"จี้อี่หนิงเลิกคิ้ว พูดอย่างช้าๆ ทีละคำ "พูดแบบนี้ คุณโจวกำลังหวังดีกับฉันสินะ?"ได้ยินน้ำเสียงประชดประชันของเธอโจวเส้าชิง มีประกายความเย็นชาวาบผ่านดวงตา "ยังไงก็ตาม ถ้าวันนี้คุณกล้าผลักเธอลงไปจากที่นี่ ผมจะไม่ปล่อยคุณไป และเสิ่นซื่อก็ไม่ได้เก่งกาจไปเสียทุกอย่าง เขาก็ไม่สามารถอยู
"ฉันรู้ตัวแล้วว่าทำผิด... ฉันจะไปมอบตัวที่สถานีตำรวจ คุณปล่อยฉันไปได้ไหม?"จี้อี่หนิงส่ายหน้า "คงเป็นไปไม่ได้ เพราะถึงแม้เธอจะไปมอบตัวที่สถานีตำรวจตระกูลจู้ก็สามารถประกันตัวเธอออกมาได้ สิ่งที่ฉันต้องการคือให้เธอได้รับความเจ็บปวดเช่นเดียวกับที่สือเวยได้รับ มีเพียงแบบนี้เท่านั้นที่เธอจะเข้าใจความเจ็บปวดที่สือเวยเคยประสบคะ"ในใจของจู้อวี่เซวียนเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เธอไม่คิดว่าจี้อี่หนิงจะโหดร้ายขนาดนี้เธอเริ่มรู้สึกเสียใจ ทำไมถึงไปฟังหวงอีเหรินและลงมือกับสือเวย ถ้าเธอฟังพ่อแม่และขอโทษจี้อี่หนิงดีๆ ตอนนี้เธอก็คงไม่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังแบบนี้ใช่สิ... มันเป็นหวงอีเหรินที่สั่งให้เธอทำ ถ้าผลักทุกอย่างไปให้หวงอีเหรินก็น่าจะได้นี่?คิดถึงตรงนี้ เธอรีบเงยหน้าขึ้นมองไปที่จี้อี่หนิง"คุณจี้คะ เรื่องนี้เป็นหวงอีเหรินที่สั่งให้ฉันทำคะ"จี้อี่หนิงขมวดคิ้ว มองเธออย่างเย็นชา "หวงอีเหรินไม่มีความแค้นอะไรกับสือเวยเลย การสั่งให้เธอทำร้ายสือเวย เธอจะได้ประโยชน์อะไร?"จู้อวี่เซวียนส่ายหน้า พูดด้วยเสียงสั่น "ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เธอบอกฉันว่า ถ้าฉันทำลายสือเวยได้ โจวเส้าชิงก็จะอยู่กับฉัน
ดูจากสีหน้าที่หวาดกลัวของเธอ ในดวงตาของจี้อี่หนิงไม่มีความรู้สึกสะเทือนใจแม้แต่น้อย ตอนที่สือเวยกระโดดลงไปก่อนหน้านี้ เธอน่าจะกลัวมากกว่านี้ด้วยซ้ำจู้อวี่เซวียนกัดฟันมองเธอ "จี้อี่หนิง เธอต้องการอะไรกันแน่?"จี้อี่หนิงยิ้มบางๆ พูดทีละคำอย่างชัดเจน "แค่อยากให้เธอได้สัมผัสความเจ็บปวดและความหวาดกลัวที่สือเวยเคยประสบมาก่อนหน้านี้เท่านั้นเอง"ม่านตาของเธอหดเกร็งทันที "เธอกล้าหรือ! ถ้าเธอกล้าทำอะไรฉัน ตระกูลจู้จะไม่ปล่อยเธอไปแน่""ถ้าตระกูลจู้เต็มใจปกป้องเธอ เธอก็คงไม่ปรากฏตัวที่นี่แล้ว ไม่ใช่หรือ?"ความหวาดกลัวผุดขึ้นในใจของจู้อวี่เซวียน เพราะเมื่อสักครู่ที่บ้านตระกูลจู้ พ่อของเธอเห็นเธอถูกพาตัวไปต่อหน้าต่อตา แต่ไม่ได้ทำอะไรเลยเมื่อนึกถึงสือเวยที่ตอนนี้ยังนอนอยู่ในห้องไอซียูโดยไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะฟื้น ร่างกายของจู้อวี่เซวียนก็เริ่มสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ทันทีเธอไม่อยากเป็นแบบนั้น!"คุณจี้คะ ฉันรู้ตัวแล้วว่าทำผิด คุณปล่อยฉันไปได้ไหม ฉันไม่กล้าทำอีกแล้ว ฉันจะไปคุกเข่าหน้าห้องของสือเวยเพื่อขอให้เธอยกโทษให้ ฉันขอร้องคุณ..."เธอกลัวจนหน้าซีด สายตาที่มองไปที่จี้อี่หนิงเต็มไปด้วยการวิงว
ไม่คิดว่าสือเวยตอนที่กระโดดลงมา อีกฝ่ายจะพยายามคว้าตัวเธอไว้ ทำให้เธอศีรษะฟาดพื้นและหมดสติสีหน้าของเสิ่นซื่อเย็นชา "โยนคนทั้งสองไปที่สถานีตำรวจ ส่วนเรื่องของจู้อวี่เซวียน พาคนไปจับตัวเธอมาส่งต่อหน้าจี้อี่หนิงให้เธอจัดการเองครับ"จู้อวี่เซวียนเพิ่งมาถึงสนามบิน ก็ถูกคนของตระกูลจู้สกัดไว้สีหน้าของเธอไม่ดี "ออกไป! ฉันจะพลาดเที่ยวบินแล้ว!"ผู้นำคือคนดูแลบ้านของตระกูลจู้ ปกติจะฟังแต่คำสั่งของพ่อจู้เท่านั้น"คุณหนู นายท่านสั่งให้ผมพาคุณกลับไปครับ""ฉันไม่อยากกลับไป ฉันอยากไปต่างประเทศ! ถ้ายังไม่ไป ฉันจะไม่ไว้หน้าเธอนะ!"แต่คนดูแลบ้านทำเหมือนไม่ได้ยิน ให้สัญญาณกับคนด้านหลัง อีกฝ่ายรีบเข้ามาจับจู้อวี่เซวียนแล้วลากเธอเข้าไปในรถทันที"ปล่อยฉัน! พวกแกก็แค่สุนัขของตระกูลจู้ อย่าแตะต้องฉัน! ฉันจะให้พ่อฉันจัดการพวกแกแน่!"ไม่ว่าเธอจะด่าอย่างไร สีหน้าของพวกเขาก็ไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย พวกเขายัดเธอเข้าไปในรถและรีบออกจากสนามบินอย่างรวดเร็วเพิ่งกลับถึงบ้าน จู้อวี่เซวียนก็ถูกพ่อของเธอตบหน้าอย่างแรง"เธอนี่มันโง่จริงๆ! ผมให้เธอไปขอโทษจี้อี่หนิง ผลปรากฏว่าจี้อี่หนิงยังไม่มีข่าวคราว ตอนนี้เธอ
ที่โรงพยาบาลฉินจืออี้ได้รับโทรศัพท์จากหยางอวี่อย่างรวดเร็ว เมื่อรู้ว่าเสิ่นเยี่ยนจือได้บริจาคไตให้พ่อของเธอ เธอรู้สึกปลาบปลื้มยินดีอย่างมากเธอคิดว่าจะต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่า เสิ่นเยี่ยนจือจะยอมตกลงเรื่องนี้ ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้!ต่อไป เธอเพียงแค่หาโอกาสบอกเรื่องนี้กับจี้อี่หนิงก็พอก้มลงแตะท้องที่ยังไม่ได้แสดงอาการตั้งครรภ์ ในดวงตาเต็มไปด้วยการคำนวณอย่างละเอียดทั้งวัน จี้อี่หนิงพยายามหาโอกาสโทรหาเสิ่นเยี่ยนจือสิบกว่าครั้ง แต่เขาไม่รับสายเลยสักครั้งดูเหมือนว่าเธอจะต้องรอให้เขากลับมาจากการเดินทางธุรกิจก่อน แล้วค่อยๆ อธิบายเรื่องนี้กับเขาห้องทำงานประธานซุนสิงถือเอกสารเคาะประตูเข้าไป "ประธานเสิ่น เรื่องเมื่อคืนนี้มีความคืบหน้าแล้วครับ"เสิ่นซื่อวางเอกสารลง และเงยหน้ามองเขาซุนสิงยื่นเอกสารให้เขาพร้อมกับพูดว่า: "ครึ่งชั่วโมงหลังจากสือเวยเข้าโรงแรม เราพบรถต้องสงสัยคันหนึ่ง รถคันนี้ขับออกจากประตูหลังของโรงแรมไม่นาน หลังจากที่สือเวยประสบเหตุ และรถคันนี้ใช้ป้ายทะเบียนปลอม หลังจากนั้นไม่นานก็หายไปในถนนเล็กๆ ที่ไม่มีกล้องวงจรปิด ตอนนี้กำลังตรวจสอบตำแหน่งสุดท้ายอยู่ครับ"เสิ่นซื่