แชร์

บทที่ 60

ผู้เขียน: แสงอรุณฤดูใบไม้ผลิ
เมื่อเห็นคำพูดที่ด่าทอเธอเหล่านั้น หลิ่วอี๋หนิงก็โกรธมากจนแทบจะบีบหน้าจอแตก

เธอไม่คิดว่าจี้อี่หนิงจะระวังเจิ้งกั๋วอันตั้งแต่แรก ไม่เพียงแต่ชื่อเสียงของจี้อี่หนิงจะไม่เสื่อมเสียแล้ว อาจจะถูกโยงทาถึงเธอด้วย

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เธอก็รีบติดต่อบัญชีสร้างข่าวปลอมนั้นไป และขอให้อีกฝ่ายลบวิดีโอที่โพสต์ไปก่อนหน้านี้

แต่ข่าวที่ได้รับก็คือบัญชีของเขาถูกระงับการใช้งานและไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้ในขณะนี้

หลิ่วอี๋หนิงใจเสีย มันบังเอิญขนาดนี้เลยเหรอ ทันทีที่จี้อี่หนิงโพสต์คลิปเสียง บัญชีของเขาก็มีปัญหาทันที

หรือว่า... เสิ่นเยี่ยนจือจะยื่นมือมาช่วย?

หลิ่วอี๋หนิงยิ่งคิดก็ยิ่งใจไม่ดี

ถ้าตรวจสอบมาภึงเธอ เธอต้องซวยแน่

เธอรีบลุกขึ้นหาหลิวเฉิงจื้อที่ห้องหนังสือ มีเพียงหลิวเฉิงจื้อ เท่านั้นที่สามารถช่วยเธอได้

หลังจาดได้ยินสิ่งที่หลิ่วอี๋หนิงพูด หลิวเฉิงจื้อก็ตบเธอทันที

"นังโง่! แกจะเอาให้ฉันตายเลยใช่ไหมถึงจะพอใจ?"

เขาเคยเตือนเธอมาก่อนแล้วว่าอย่าไปยุ่งกับจี้อี่หนิงอีก ไม่คิดว่านอกจากเธอจะไม่ฟังแล้วยังทำผิดพลาดครั้งใหญ่แบบนี้อีก

เธอรู้สึกเจ็บแสบที่ใบหน้า แต่หลิ่วอี๋หนิงไม่สนใจ เธอรีบคุกเข่าลงที่หน้าโ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 61

    "ฉันกําลังมองหาใครบางคนอยู่ น่าจะจัดการได้ในสองวันนี้"ในดวงตาของหลิ่วอี๋หนิงมีประกายความสุขแวบเข้ามา "ขอบคุณค่ะคุณพ่อ!""อย่าดีใจเร็วเกินไป ถ้ามีครั้งต่อไปอีก ฉันจะไม่ยุ่งแล้ว""ทราบแล้วค่ะ ถ้าอย่างนั้นหนูขอกลับห้องไปนอนก่อนนะคะ คุณพ่อก็พักผ่อนเร็วๆ นะคะ"หลิ่วอี๋หนิงหันหลังจะจากไป ทันใดนั้นหลิวเฉิงจื้อกลับพูดด้วยเสียงเยือกเย็นว่า "อี๋หนิง ทางที่ดีแกไม่ควรได้ยินสิ่งที่ไม่ควรฟังดีกว่า ไม่เช่นนั้นอย่าว่าพ่อที่ไม่เห็นแก่ความเป็นพ่อลูก"เมื่อได้ยินคำเตือนในน้ำเสียงของเขา หลิ่วอี๋หนิงกัดริมฝีปากล่างและหันมามองเขาด้วยสีหน้าสงสัย"พ่อคะ พ่อพูดถึงอะไรที่ไม่ควรได้ยิน? ทำไมหนูไม่เข้าใจ?"หลิวเฉิงจื้อมองเธอด้วยสายตาเย็นชา เมื่อเห็นเธอแสดงความสับสนอย่างแท้จริง ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้ยินอะไรจริงๆ เขาจึงเก็บความสงสัยในใจ"ไม่เข้าใจก็ดีแล้ว กลับไปพักผ่อนเถอะ"จนกระทั่งกลับถึงห้องนอนและล็อคประตู หลิ่วอี๋หนิงถึงได้พบว่าตัวเองเหงื่อแตกเต็มตัวเมื่อครู่เธอรู้สึกได้ชัดเจนว่า หลิวเฉิงจื้อมีความคิดที่จะฆ่าเธอ เพราะเขาไม่เคยมองเธอด้วยสายตาที่เย็นชาเช่นนั้นมาก่อนแต่ทว่าสิ่งนี้กลับทำให้เธอยิ่งมั่นใ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 62

    เขาคิดว่าตัวเองเป็นผู้ควบคุมในความสัมพันธ์นี้ ดังนั้นหลังจากรู้ว่าเขาไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากเขาให้ช่วยจัดการเรื่องชาร์จเวยป๋อ เขาจึงโทรมาถามเธอด้วยความโกรธแต่ถ้าเป็นเสิ่นเยี่ยนจือเมื่อแปดปีก่อน จะไม่รอให้เธอยอมจํานน แต่จะปกป้องเธออย่างสุดชีวิตเขาในวัยยี่สิบแปดปีและเขาในวัยยี่สิบปี ไม่ใช่คนเดียวกันมานานแล้วจี้อี่หนิงหลบตาลง ดวงตาทั้งสองข้างอดแดงไม่ได้ฝั่งปลายสายเงียบลง จนสามารถได้ยินเสียงหายใจของกันและกันความเงียบกินเวลานานกว่าหนึ่งนาที แต่เสิ่นเยี่ยนจือไม่ได้พูดอะไรจี้อี่หนิงเองก็ไม่รอต่อ แต่วางสายไปเองเธอขยี้ตาทั้งสองข้างที่แดงก่ำ จี้อี่หนิงอดที่จะยิ้มขมขื่นไม่ได้เธอไร้ประโยชน์จริงๆ เธอสาบานไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะไม่ให้เขามีผลต่ออารมณ์ของเธออีกแล้ว แต่ก็ยังคงรู้สึกเสียใจเสิ่นเยี่ยนจือครอบครองเวลาของเธอไปแปดปี และบางทีเธออาจต้องการอีกแปดปีเพื่อที่จะค่อยๆ ปล่อยวางก็ได้ณ ห้องรับแขกในวิลล่าหลังจากจี้อี่หนิงวางสายไป เสิ่นเยี่ยนจือก็ไม่มีความกล้าที่จะโทรไปอีกเมื่อได้ยินเธอบอกว่าเขาไม่แคร์เธอ แต่แค่ต้องการชนะ ขณะนั้นหัวใจของเขาเหมือนถูกกระแทกด้วยอะไรสักอย่าง คำแก้ตัวไม่ส

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 63

    สีหน้าของเสิ่นเยี่ยนจือตึงเครียด ในใจเต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธ เพราะเขารู้ว่าเสิ่นซื่อเยี่ยนทำได้แน่นอน เพราะว่าลูกชายคนนี้อย่างตัวเขา เขาไม่เคยใส่ใจเลยในที่สุด เขาก็โทรหาหยางอวี่ด้วยเสียงเย็นชา "ทางหลิวเฉิงจื้อตอนนี้ยังไม่ต้องทำอะไร"เมื่อวางสายโทรศัพท์ เขามองไปที่เเสิ่นซื่อเยี่ยนด้วยสายตาเย็นชา"ตอนนี้พ่อไปได้แล้วครับ"แววตาของเสิ่นซื่อเยี่ยนหม่นหมองลง "สักวันหนึ่ง แกจะรู้ว่าทั้งหมดนี้ฉันทำเพื่อแก"เสิ่นเยี่ยนจือไม่พูดอะไร หยิบเอกสารขึ้นมาอ่าน ราวกับว่าไม่ได้ยินอะไรเลยขณะที่มองใบหน้าที่เย็นชาของเขา แววตาของเสิ่นซื่อเยี่ยนแฝงไปด้วยความเย็นชา เขาหันหลังเดินจากไปอย่างรวดเร็วเดิมทีหยางอวี่ที่กำลังไปบริษัทสาขาอยู่แล้ว เมื่อได้รับโทรศัพท์จากเสิ่นเยี่ยนจือก็รู้สึกงงงวย แต่ก็ต้องกลับไปเมื่อก้าวเข้าไปในห้องทำงาน ความหนาวเย็นแผ่ซ่านขึ้นมาจากกระดูกสันหลัง ราวกับเดินเข้ามาในดินแดนที่หนาวเย็นและเต็มไปด้วยหิมะ"ประธานเสิ่นครับ ทางหลิวเฉิงจื้อนั่น...""ไม่ต้องไปสนใจแล้ว ปล่อยข่าวว่าเป็นหลิ่วอี๋หนิงที่ถ่ายวิดีโอออกไปก็พอ"เมื่อเห็นใบหน้าที่เคร่งขรึมของเขา หยางอวี่เองก็ไม่กล้าถามอะไรมาก

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 64

    ขณะที่เสิ่นเยี่ยนจือมาถึง จี้อี่หนิงเพิ่งตื่นไม่นานเนื่องจากอาการกระทบกระเทือนที่สมองเล็กน้อย ทันทีที่เธอลืมตาคลื่นไส้และอยากอาเจียนจึงต้องนอนตาหลับเมื่อรู้สึกถึงมีคนมานั่งข้างเตียง เธอนึกว่าเป็นสือเวยที่ไปเอายามา"เวยเวย ฉันรู้สึกแย่มาก อยากจะอ้วก…"เมื่อเห็นเธอขมวดคิ้ว ใบหน้าเล็กๆ ขนาดเท่าฝ่ามือซีดมากและหน้าผากของเธอเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น เสิ่นเยี่ยนจือรู้สึกเจ็บปวดใจ จึงรีบหยิบทิชชู่ที่อยู่ข้างๆ มาซับเหงื่อที่หน้าผากให้เธอเมื่อเสิ่นเยี่ยนจือเข้ามาใกล้ เธอได้กลิ่นน้ำหอมของเขา จึงรีบลืมตาขึ้นอย่างแรงเมื่อเห็นว่าเป็นเสิ่นเยี่ยนจือจริงๆ จี้อี่หนิงหันหน้าไปอีกทางและพูดด้วยน้ำเสียงรังเกียจว่า "อย่ามาแตะต้องฉัน"การต่อต้านในสายตาของเธอชัดเจนมาก มือของเสิ่นเยี่ยนจือแข็งอยู่กลางอากาศ จึงค่อยๆ ละมือกลับมาและนั่งลง"ได้ ผมจะไม่แตะต้องคุณ ถ้าไม่สบายตรงไหนให้บอกผม"ตอนนี้จี้อี่หนิงรู้สึกแย่มาก จึงไม่อยากไล่เขาไป จึงหลับตาลงแล้วไม่สนใจเขาสือเวยกลับมาพร้อมยา พอเห็นเสิ่นเยี่ยนจือก็เลิกคิ้วก่อน จากนั้นมุมปากก็ยกขึ้นแสยะยิ้ม"ประธานเสิ่นมาเยี่ยมอี่หนิง ไม่กลัวว่าชู้รักของคุณข้างนอกจะหึง

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 65

    "อาเล็กครับ ขอบคุณที่อาเล็กมาเยี่ยมอี่หนิง แต่ปกติอายุ่งมาก ต่อไปไม่ต้องมาแล้ว"เสิ่นเยี่ยนจือพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่มีความสุภาพ มองเสิ่นซื่อด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเป็นศัตรู แทบจะเขียนคำว่าอยู่ให้ห่างจากจี้อี่หนิงไว้บนหน้าเขาเลยเสิ่นซื่อมองเขาด้วยสีหน้านิ่งสงบ ไม่มีความโกรธที่ถูกยั่วโมโหเลยแม้แต่น้อยเสิ่นเยี่ยนจือกัดฟันกรอด ในใจเต็มไปด้วยความโกรธ ท่าทีของเสิ่นซื่อทำให้เขารู้สึกเหมือนการชกหมอนเสิ่นซื่อไม่ได้ตอบเขา แต่หันไปพูดกับสือเวยว่า "คุณสือ พอดีผมมีประชุมอีก ขอตัวก่อนนะ"สือเวยพยักหน้า "ได้ค่ะ อาเล็กคะ ฉันจะไปส่งอาค่ะ""ไม่ต้องหรอก"เมื่อเห็นเสิ่นซื่อหันหลังเดินออกไป เสิ่นเยี่ยนจือก็เดินตามเขาไปเขาขวางเสิ่นซื่อที่หน้าลิฟต์ เสิ่นเยี่ยนจือจ้องมองเสิ่นซื่อ น้ำเสียงเต็มไปด้วยการเตือน "อาเล็กครับ หวังว่าอาจะเข้าใจว่าอี่หนิงเป็นภรรยาของผม เป็นหลานสะใภ้ของอา ไม่ใช่ผู้หญิงง่ายๆ ข้างนอก หวังว่าอาจะไม่มีความคิดบางอย่างที่ไม่เหมาะสม"เสิ่นซื่อมองเขาด้วยความเย็นชา ในแววตาไม่มีความอบอุ่นเลยแม้แต่น้อย"ถ้าฉันเป็นแก สิ่งที่แกควรกังวลตอนนี้คืออาการป่วยของภรรยาของแก ไม่ใช่เรื่องอื่นๆ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 66

    "ประธานเสิ่น ถ้าคุณไม่ได้รักอี่หนิงแล้ว อย่างน้อยก็นึกถึงความรู้สึกแปดปีที่ผ่านมาบ้าง ได้โปรดปล่อยเธอไปเถอะ""อย่าไปพัวพันกับเมียน้อยข้างนอกโดยไม่หย่า จนทำลายความรู้สึกที่เหลืออยู่น้อยนิดระหว่างพวกคุณให้หมดสิ้น"พูดจบแล้ว สือเวยก็หันหลังเดินจากไปโดยไม่สนใจว่า หน้าของเสิ่นเยี่ยนจือจะดูแย่ขนาดไหนมือของเสิ่นเยี่ยนจือที่จับโทรศัพท์นั้นบีบแน่นจนซีด ก้นดวงตาลึกซึ้งเย็นยะเยือก ราวกับหมึกดำที่มืดมนโทรศัพท์ยังคงดังอยู่ เขาขมวดคิ้วเดินไปที่บันไดแล้วรับสาย"มีเรื่องอะไร?"เสียงจริงจังของฉินจืออี้ดังลอดมาจากโทรศัพท์ "ประธานเสิ่นคะ ฉันมีเรื่องสำคัญจะบอกคุณค่ะ""ตอนนี้ฉันไม่ว่าง"ขณะที่กำลังจะวางสาย แต่เสียงจากอีกฝั่งไม่รู้พูดอะไรออกมา ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อทันทีผ่านไปหลายนาที เขาถึงได้ตอบด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก "เดี๋ยวฉันจะไปหาเธอ"เมื่อสือเวยกลับมาที่ห้องผู้ป่วย เห็นจี้อี่หนิงตื่นแล้ว จึงรีบเดินไปที่ข้างเตียง"อี่หนิง ฉันให้น้าที่บ้านของฉันต้มโจ๊กส่งมาให้ อีกเดี๋ยวก็น่าจะถึงแล้ว คุณพักผ่อนอีกสักหน่อยนะ""ได้"ผ่านไม่นานนัก เสิ่นเยี่ยนจือก็ผลักประตูเดินเข้ามาในห้องผู้ป่วยพอเห็นสีหน้า

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 67

    "ฉันจะไม่หย่ากับเธอ ถึงแม้หย่าแล้วฉันก็ไม่มีทางแต่งงานกับเธอ เธอแค่คลอดลูกออกมาก็พอ ส่วนเรื่องอื่นไม่ใช่เรื่องของเธอที่จะมายุ่ง!"พอพูดจบ เสิ่นเยี่ยนจือก็หยิบผลการตรวจร่างกายแล้วเดินออกไปทันทีหลังจากประตูถูกปิดดังปัง ฉินจืออี้ก็เช็ดน้ำตาที่มุมตาออก มมุปากพลางยิ้มออกมาเล็กน้อยตลอดทั้งคืน เสิ่นเยี่ยนจือไม่ได้กลับมาที่โรงพยาบาลอีกเลยจี้อี่หนิงรู้สึกอยู่แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นเธอจึงไม่ได้รู้สึกผิดหวังหลังพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลไม่กี่วัน ร่างกายของจี้อี่หนิงก็ฟื้นฟูประมาณเจ็ดถึงแปดสิบเปอร์เซ็น นอกจากรู้สึกเวียนหัวเป็นครั้งคราวแล้ว แทบจะไม่มีปัญหาแล้ว หมอบอกว่าสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ในช่วงบ่าย"อี่หนิง บ่ายนี้ฉันมีธุระ ฉันจะให้คนขับรถของฉันมาส่งเธอกลับบ้านก็แล้วกัน""ไม่ต้องหรอก ของไม่เยอะ ฉันเรียกแท็กซี่กลับเองก็ได้"ในช่วงที่เธอพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลนี้ หลังจากที่โผล่มาครั้งแรกเสิ่นเยี่ยนจือไม่ได้มาเยี่ยมเธออีกเลย มีแต่สือเวยที่คอยดูแลเธอตลอด ซึ่งทำให้สือเวยเสียเวลาหลายเรื่อง เธอรู้สึกผิดมากแล้ว"ฉันจะให้คนขับรถมาสักรอบดีกว่า อย่างไรก็ตามบ่ายนี้เขาก็ไม่มีอะไรทำ เวลาค่อ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 68

    จี้อี่หนิงรู้สึกเหมือนกำลังได้ฟังเรื่องตลกจริงๆ เธอไม่เคยเห็นมาก่อนเลยว่า สามีกอดเมียน้อยและสั่งให้เมียหลวงขอโทษเมียน้อย"คุณคิดว่าเธอสมควรได้รับมันไหม?"ฉินจืออี้น้ำตาคลอเบ้า จับแขนเสื้อของเสิ่นเยี่ยนจือและสะอึกสะอื้นว่า "ประธานเสิ่นคะ อย่าทำให้คุณจี้ลำบากเลย...เดิมทีเรื่องนี้เป็นความผิดของฉันเอง ถ้าทำให้คุณจี้หายโกรธได้ ไม่ว่าเธอจะทำอะไร ฉันก็ยอมค่ะ..."เสิ่นเยี่ยนจือก้มลงมองเธอด้วยสายตาเย็นชา "หุบปากซะ!"เมื่อรับรู้ถึงความโกรธของเสิ่นเยี่ยนจือ ฉินจืออี้ก็ตัวสั่นเล็กน้อย หลบหน้าลงไม่กล้าพูดอะไรอีกมองดูทั้งสองกอดกันอยู่ จี้อี่หนิงรู้สึกแค่ความเย้ยหยันนี่คือสิ่งที่เสิ่นเยี่ยนจือพูดกับเธอก่อนหน้านี้ว่าไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ ทั้งสิ้นเหรอ?เขาคิดว่า...เธอเป็นคนโง่หรือเปล่า?ไม่อยากมองดูต่อไป จี้อี่หนิงจึงยัดของใส่กระเป๋าและหันหลังเตรียมจะจากไป"หยุดเดี๋ยวนี้!"เสียงฝีเท้าดังมาจากข้างหลัง ทันใดนั้น ข้อมือของเธอก็ถูกมือใหญ่คว้าเอาไว้จี้อี่หนิงยังไม่ทันตั้งตัว ก็ถูกเสิ่นเยี่ยนจือลากออกไปแรงของเขามากเกินไป ทำให้จี้อี่หนิงที่โซซัดโซเซเกือบจะล้มลงเมื่อเริ่มได้สติ เธอก็พยายามสะบั

บทล่าสุด

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 104

    วินาทีที่กริดทะลุเข้าไปบนหลังมือ จี้อี่หนิงหลุดร้องออกมา เจ็บปวดจนใบหน้าขาวซีดเลือดสดๆ รินไหลจากหลังมือของเธอ ดูน่าสยดสยองเป็นอย่างมากหลิ่วอี๋หนิงหัวเราะ แล้วดึงกริดออกมาจนเลือดพุ่งกระฉูดตามไปด้วย จี้อี่หนิงกัดริมฝีปากอย่างแรง จึงไม่มีเสียงโหยหวนเล็ดลอดออกมาดูสีหน้าอดทนอดกลั้นของเธอแล้ว มุมปากของหลิ่วอี๋หนิงก็ยกยิ้มกว้างขึ้น"ไม่คิดว่ากระดูกของเธอมันจะแข็งเอาเรื่อง แต่ก็ไม่รู้ว่า มันจะแข็งไปได้ถึงเมื่อไหร่"หล่อนชูกริดขึ้นอีกครั้ง เตรียมจะแทงลงไปยังหน้าอกของจี้อี่หนิงสุดแรงเกิดทว่าจังหวะที่กริดอยู่ห่างจากหน้าอกข้างซ้ายของจี้อี่หนิงเพียงไม่กี่เซนติเมตร จู่ๆ ความปวดร้าวก็ส่งตรงมาจากข้อมือ กริดที่กำอยู่ก็ตกลงบนพื้นเช่นกันหลิ่วอี๋หนิงมองลูกดอกที่แทงใส่ข้อมือของหล่อนอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา แล้วช้อนสายตาขึ้นมองไปยังทิศทางที่ลูกดอกยิงมาในทันที ก่อนจะเห็นร่างใครบางคนกำลังวิ่งมายังที่หล่อนอยู่แววตาของหล่อนเผยความลนลาน รีบก้มหน้าไปเก็บกริด ทว่าจังหวะที่กำลังก้มหน้าอยู่นั้น หล่อนก็ถูกเตะเข้าตรงลิ้นปี่อย่างรุนแรง จนกระเด็นออกไปทั้งร่างร่างกายของหล่อนกระแทกลงบนพื้นราวกับว่าวที่ด้

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 103

    ตอนนี้หากจี้อี่หนิงตายไป นอกจากอีกฝ่ายจะไม่ให้เงินแล้ว ดีไม่ดีจะโยนขี้ให้เขาว่าเป็นคนฆ่าจี้อี่หนิง เขาไม่มีอำนาจ แถมตอนนี้เจิ้งโหยวโหย่วยังโดนขังอยู่ในคุกอีก เขาจะเอาอะไรไปสู้หลิ่วอี๋หนิงเพราะงั้นเวลานี้การที่จี้อี่หนิงมีชีวิตต่อไป จะเป็นผลดีกับเขามากกว่า"แกเป็นบ้าไปแล้วหรอ? ดีไม่ดีตอนนี้เสิ่นเยี่ยนจือรู้แล้วว่าพวกเราจับตัวหล่อนมา ยิ่งชักช้ายิ่งจะไม่เป็นผลดีกับพวกเรา""ฉันแค่ต้องการเห็นเงินก่อน ถ้าคุณอยากฆ่าเธอผมจะไม่ยุ่ง""ดึกดื่นป่านนี้ ฉันจะไปโอนเงินให้แกได้ยังไง อย่างน้อยๆ ก็ต้องรอพรุ่งนี้เช้า ให้เจ้าหน้าที่ธนาคารเข้างานก่อน!"หลิ่วอี๋หนิงโมโหจนจะบ้า เจิ้งกั๋วอันเหมือนกับเจิ้งโหยวโหย่วไม่มีผิด ร่วมมือกับคนโง่ มีแต่จะพาเธอลงเหวอีกอย่างถึงจะโอนเงิน เธอก็ต้องใช้บัญชีต่างประเทศ ไม่งั้นถึงตอนนั้นเธอจะโดนตรวจพบได้"ฉันไม่สน ฉันจะเอาเงิน"ขณะที่ทั้งสองคนกำลังมีปากเสียงกัน แสงไฟจากที่ไกลๆ ก็เคลื่อนตัวเข้ามาเรื่อยๆสีหน้าของหลิ่วอี๋หนิงเปลี่ยนในทันใด เธอสั่งเสียงเย็นชา "เร็ว รีบพาเธอขึ้นบนดาดฟ้า!"เจิ้งกั๋วอันเองก็ตระหนักได้ถึงความตึงเครียดของสถานการณ์ ก็ไม่ได้โต้เถียงกับหลิ่วอ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 102

    สีหน้าของเสิ่นซื่อเปลี่ยนทันที เขาพูดเสียงเย็น "เกิดอะไรขึ้น?""ในบ้านของคุณจี้เละเทะไปหมด โทรศัพท์ของเธอวางอยู่บนโซฟา แต่เจ้าตัวหายไปครับ""รีบไปสืบเดี๋ยวนี้"ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ซุนสิงก็สืบได้ว่าจี้อี่หนิงถูกลักพาตัวไป จีบรีบรายงานเสิ่นซื่อทันทีรถตู้ไม่ติดป้ายทะเบียนเพิ่งจะเข้าเขตตัวเมืองได้ไม่เท่าไหร่ ก็ถูกกลุ่มคนขวางเอาไว้เมื่อเห็นชายชุดดำสิบกว่าคนยืนล้อมตัวรถ ชายหนุ่มก็ชะงักไป เปิดประตูลงจากรถ ขณะกำลังจะถามว่ามีอะไร ก็ถูกคนถีบเข้าอย่างแรง จนทรุดลงไปนั่งคุกเข่ากับพื้น"โอ๊ย!"เขาโอดครวญอย่างน่าสังเวช ความเจ็บปวดจากหัวเข่าที่แตกทำให้เขาหน้าซีด เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นเต็มไปหน้าไม่หยุดซุนสิงมีสีหน้าเย็นยะเยือก "แกลักพาตัวคนไปไว้ที่ไหน?"แววตาของชายหนุ่มเผยความลนลานเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะรีบส่ายหน้า "พวกแกพูดอะไร...ฉันไม่รู้เรื่อง"ซุนสิงแค่นหัวเราะเสียงเย็น "ไม่รู้เรื่องใช่ไหม? งั้นก็จะกระทืบจนกว่าจะรู้"วินาทีที่เขาพูดจบ ชายชุดดำสิบกว่าคนรุมเข้าไป เสียงโอดครวญดังเป็นระลอกๆไม่ถึงห้านาที ชายหนุ่มก็พูดอย่างสังเวช "อย่าทำผมเลย...อย่าทำผมเลย ผมจะบอกแล้ว...ผมจะบอก"ซุนสิงส่งซิ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 101

    "ใครน่ะ?"เมื่อฟังออกว่าเป็นฉินจืออี้ สีหน้าของจี้อี่หนิงก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย"ฉันคือจี้อี่หนิง ฉันต้องการคุยกับเสิ่นเยี่ยนจือ เอาโทรศัพท์ให้เขา"เสียงหัวเราะเบาๆ ดังมาจากปลายสาย "เธอบอกว่าเยี่ยนจือน่ะหรอ เขากำลังอาบน้ำอยู่ เกรงว่าจะไม่ว่างรับสายเธอน่ะสิ คุณจี้ มีธุระอะไรกับเขาบอกฉันได้เลย ฉันจะช่วยบอกเขาให้"จี้อี่หนิงกัดริมฝีปากเล็กน้อย มือที่ทิ้งน้ำหนักลงข้างตัวกำแน่นโดยอัตโนมัติ"ฉินจืออี้ ฉันถูกลักพาตัว..."ยังพูดไม่ทันจบ ฉินจืออี้ก็ตัดบทเธอขึ้นมา "จี้อี่หนิง เธอคิดว่าคำโกหกเงอะงะแบบนี้จะทำให้เยี่ยนจือไปหาเธอได้หรอ? ถ้าเธออยากจะเขาจริงๆ เธอก็มาหาเขาเองสิ แต่คืนนี้เขาต้องอยู่เป็นเพื่อนฉันกับลูก เกรงว่าจะไม่ว่างสนใจเธอหรอก"เวลานี้เหตุการณ์เกี่ยวพันกับชีวิต จี้อี่หนิงจึงไม่มีเวลามาคิดแค้นหล่อน"ฉันโดนลักพาตัวจริงๆ...ขอแค่เธอบอกเขาเรื่องนี้ก็พอ...""ถ้าเธอโดนลักพาตัวจริง งั้นก็ไปตายซะสิ ถ้าไม่มีเธอสักคน ลูกในท้องของฉันก็เชิดหน้าชูตาเกิดมาได้อย่างภาคภูมิ ฉันเองก็จะได้อยู่กับเยี่ยนจือ ไม่ต้องห่วงนะ ถ้าเธอตายไป ฉันจะเผากระดาษเงินกระดาษทองไปให้ทุกปีเลยล่ะ"น้ำเสียงของฉินจืออี้เต

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 100

    "ต่อให้แกแฉออกไปตอนนี้ฉันก็ไม่มีเงิน อีกอย่างถ้าเรื่องนี้ถูกแฉออกไป แกก็ต้องติดคุกเหมือนกัน!"เสียงถกเถียงของทั้งสองคนรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ในที่สุดจี้อี่หนิงก็รู้แล้วว่าคนที่ลักพาตัวตนเองคือพ่อของเจิ้งโหยวโหย่ว เจิ้งกั๋วอันแต่ตัวเธอเคยเขาแค่ครั้งเดียวเอง เขารู้ได้ยังไงว่าเธออยู่ที่ไหน? อีกทั้งยังแอบซุ่มอยู่ในบ้านเธออีก...เธอสามารถมั่นใจได้ว่า นี่ไม่ใช่วิธีที่แรงงานเกษตรคิดออกมาได้แน่ ๆ ต้องมีคนคอยบงการเขาอยู่เบื้องหลังแน่นอนและคนคนนั้น เห็นได้ชัดว่าเป็นหลิ่วอี๋หนิงผ่านไปสักพัก เสียงถกเถียงข้างนอกก็หยุดลง ตามมาด้วยเสียงสตาร์ทรถยนต์ และไม่นานบริเวณโดยรอบก็เหลือแต่ความเงียบจี้อี่หนิงหายใจช้า ๆ โดยไม่รู้ตัว ไม่กล้าหอบหายใจเสียงดังทันใดนั้น เธอก็รู้สึกว่ากระเป๋าเดินทางขยับ จากนั้นก็เป็นเสียงล้อลากกับพื้นเมื่อสังเกตได้ว่าอีกฝ่ายกำลังลากตัวเธอไปที่ไหนก็ไม่รู้ ในใจจี้อี่หนิงก็ตื่นตระหนกทันที ครุ่นคิดอย่างรวดเร็วว่าจะหนียังไงดีเธอค่อย ๆ รูดซิปบนหัวออก แต่ข้างนอกมืดสนิท มีแค่แสงสว่างเพียงเล็กน้อยคอยส่องทางจากไฟฉายกระบอกหนึ่งในมือของคนข้างหน้าที่ลากกระเป๋าเดินทางจี้อี่หนิงมองไม่ส

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 99

    มีคนแอบซุ่มรอทั้งในห้องนอนและหน้าประตู เห็นทีอีกฝ่ายคงวางแผนมาแล้วเธอลุกขึ้นมาวิ่งไปตรงไปยังห้องครัว แต่เพิ่งเริ่มวิ่งได้สองก้าวก็ถุกคนคว้าแขนเอาไว้ แล้วกระแทกเธอเข้ากับกำแพงอย่างแรง"แกเป็นใคร? ทำไมต้อง...อื้อ..."อีกฝ่ายใช้มือข้างหนึ่งกดจี้อี่หนิงไว้ มืออีกข้างก็ใช้ผ้าผืนหนึ่งอุดจมูกของจี้อี่หนิง ไม่ให้โอกาสจี้อี่หนิงได้พูดเลยสักนิดกลิ่นฉุนเตะจมูก ภาพตรงหน้าของจี้อี่หนิงก็ค่อย ๆ มัวลงช้า ๆผ่านไปไม่นาน ผู้ชายสวมผ้าปิดปากสองคนก็ลากกระเป๋าเดินทางใบหนึ่งเดินออกไปจากบ้านของจี้อี่หนิงเนื่องจากตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มกว่าแล้ว คนส่วนมาก็เลิกงานกลับบ้านกันหมด ในหมู่บ้านจึงไม่ค่อยมีคนสักเท่าไหร่ ดังนั้นจึงไม่มีใครสังเกตสองคนนี้ไม่นาน ทั้งสองคนก็มาถึงประตูหลังของหมู่บ้าน มีรถตู้ที่ไม่มีป้ายทะเบียนคันหนึ่งจอดอยู่ใต้ต้นไม้ทั้งสองคนเอากระเป๋าเดินทางใส่ไว้ในกระโปรงหลังรถ จากนั้นก็ขับรถมุ่งตรงออกไปยังนอกเมืองทันทีชิงหงกรุ๊ปห้องทำงานประธานซุนสิงถือเอกสารชุดหนึ่งรีบเดินเข้าไปอย่างรีบเร่ง "ประธานเสิ่นครับ เมื่อกี้บริษัทคู่ค้าส่งเอกสารชุดนี้กลับมา บอกว่าข้อมูลการทดลองเหมือนจะมีปัญหา แต่

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 98

    ทันใดนั้น ใบหน้าของเสิ่นเยี่ยนจือก็ปรากฏเป็นรอยฝ่ามือขึ้นมาทันที แววตาของเขาที่มองจี้อี่หนิงก็กลายเปลี่ยนเป็นความเย็นชาอย่างสุดขั้ว“นี่คุณกล้าตบผมเหรอ?!”จี้อี่หนิงเงยหน้าขึ้นสบตากับแววตาโกรธเคืองของเขา แล้วพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ "ทำไมฉันจะตบคุณไม่ได้? คนที่นอกใจคือคุณต่างหาก แต่คุณบังอาจวิ่งแจ้นไปใส่ร้ายฉันต่อหน้าพ่อของฉัน คุณไม่สมควรโดนตบรึไง?"ทันทีที่พูดจบ เสิ่นเยี่ยนจือก็บีบคางเธอและกดเธอไว้กับกำแพงทันที รังสีความโหดฉายออกมาในแววตา"อี่หนิง คุณไม่เชื่อฟังคำสั่งของผมก่อนเอง ถ้าคุณเชื่อฟังผมดี ๆ ผมก็ไม่มาหาพ่อตาหรอก"จี้อี่หนิงแค่นหัวเราะออกมา "ถ้าคุณกล้ามาหาพ่อของฉันอีก ฉันก็จะแฉเรื่องที่คุณนอกใจออกมาให้หมด""ถ้าคุณไม่กลัวว่าพ่อจะได้รับแรงกระตุ้นแล้วอาการแย่ลง คุณจะไปบอกตอนนี้เลยก็ได้"น้ำเสียงไม่แยแสของเสิ่นเยี่ยนจือทำให้ความโกรธของจี้อี่หนิงสุมขึ้นในอก มือที่วางข้างลำตัวก็กำแน่นโดยไม่รู้ตัว"เสิ่นเยี่ยนจือ ทำไมคุณกลายเป็นคนหน้าด้านไร้ยางอายได้ขนาดนี้?!"เสิ่นเยี่ยนจือก้มหน้ามองเธอ เมื่อเห็นความเกลียดชังและความโกรธในแววตาของเธอ ม่านตาของเขาก็หดตัวลงแล้วบีบคางเธอแน่นกว่าเดิ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 97

    ฝีเท้าของจี้อี่หนิงหยุดชะงักไป ขมวดคิ้วมองเสิ่นเยี่ยนจือที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยแววตาโกรธเคือง"คุณไปพูดอะไรกับพ่อฉัน?!"เสิ่นเยี่ยนจือยังไม่ทันปริปาก จี้เหว่ยหงก็พูดด้วยความเกรี้ยวกราด "เธอยังกล้าคาดคั้นเยี่ยนจืออีก?! เธอกับอาเล็กของเขาแอบกิ๊กกันเธอไม่รู้สึกผิดกับเขาเลยรึไง?"จี้อี่หนิงโมโหจนหน้าซีด แม้แต่ปลายนิ้วยังสั่นระริกเธอไม่คิดเลยว่าเสิ่นเยี่ยนจือจะหน้าไม่อายขนาดนี้ แว้งกัดต่อหน้าจี้เหว่ยหงก่อนซะงั้นสิ่งที่ทำให้เธอคิดไม่ถึงก็ถึง จี้เหว่ยหงกลับเชื่อจริง ๆ"พ่อคะ ในสายตาพ่อหนุเป็นคนแบบนั้นเหรอ? พ่อไม่ถามหนูเลยด้วยซ้ำ แค่คำพูดของเสิ่นเยี่ยนจือฝ่ายเดียวก็คิดว่าหนุหักหลังเขาแล้ว?!"จี้อี่หนิงสูดหายใจลึก ตัดสินใจจะไม่ปิดบังเรื่องที่เสิ่นเยี่ยนจือนอกใจแอีกต่อไปแล้ว"พ่อรู้ไหมว่าเขาแอบ...""อี่หนิง เมื่อกี้พ่อเกือบจะเป็นลมเพราะเรื่องของเธอ หมอบอกว่าห้ามให้เขาถูกกระตุ้นแล้ว เธอต้องทำให้พ่อโมโหจนอกแตกตายก่อนถึงจะพอใจใช่ไหม?"เสียงของเสิ่นเยี่ยนจือดังมากจนกลบเสียงของจี้อี่หนิงไปหมดมือที่วางข้างลำตัวของจี้อี่หนิงกำแน่น ในใจเกลียดเสิ่นเยี่ยนจืออย่างสุดขีด"ในเมื่อคุณรู้ว่าพ่อของฉัน

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 96

    เสิ่นซื่อเงยหน้ามองเขา เอ่ยปากด้วยสีหน้าเย็นชา "รู้แล้ว"เมื่อเห็นสีหน้าของเขาเฉยเมย ซุนสิงก็รู้สึกว่าการที่ตัวเองตั้งใจบอกเขาเรื่องนี้โดยเฉพาะมันไม่จำเป็นเลยพร้อมทั้งเตือนเสิ่นซื่อว่ามีประชุมตอนสิบโมง ซุนสิงก็หมุนตัวออกไปช่วงเที่ยง จี้อี่หนิงถือบัตรอาหารไปที่โรงอาหารเพิ่งเดินเข้าไปก็ต้องอึ้งกับความหรูหราของโรงอาหารชิงหง นี่ไม่ใช่โรงอาหารแล้ว ไม่ต่างอะไรกับร้านอาหารติดดาวเลยสักนิดเมื่อกวาดตามองไปแล้วอาหารทุกช่องล้วนประณีตเป็นอย่างมาก แค่มองก็รู้สึกหิวแล้วอีกทั้งราคาอาหารยังถูกมากเทียบเท่ากับโรงอาหารในมหาวิทยาลัยเลยโรงอาหารมีสามชั้นถ้วน มีอาหารครอบคลุมทุกชนิดทั้งอาหารตะวันตก อาหารจีน อีกทั้งยังมีอาหารประจำชาติเฉพาะกลุ่มประเทศอื่น ๆ อีกจี้อี่หนิงยืนต่อแถวอยู่ที่ช่องอาหารไทย สั่งข้าวผัดสับปะรดหนึ่งจานและต้มยำกุ้งหนึ่งถ้วยแล้วหาที่นั่งมุมหนึ่งนั่งลงเมื่อชิมน้ำซุปไปหนึ่งคำ ความเซอร์ไพรส์ก็ปรากฏขึ้นในแววตาของเธอ นี่มันอร่อยเหมือนที่เธอเคยกินที่ร้านอาหารห้าดาวเลยก่อนหน้านี้บนโซเชียลมีคนพูดกันว่าเรื่องโรงอาหารของชิงหงเทียบเท่าระดับห้าดาว ตอนนั้นจี้อี่หนิงยังคิดว่ากล่าวเกินจร

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status