"ฉันกําลังมองหาใครบางคนอยู่ น่าจะจัดการได้ในสองวันนี้"ในดวงตาของหลิ่วอี๋หนิงมีประกายความสุขแวบเข้ามา "ขอบคุณค่ะคุณพ่อ!""อย่าดีใจเร็วเกินไป ถ้ามีครั้งต่อไปอีก ฉันจะไม่ยุ่งแล้ว""ทราบแล้วค่ะ ถ้าอย่างนั้นหนูขอกลับห้องไปนอนก่อนนะคะ คุณพ่อก็พักผ่อนเร็วๆ นะคะ"หลิ่วอี๋หนิงหันหลังจะจากไป ทันใดนั้นหลิวเฉิงจื้อกลับพูดด้วยเสียงเยือกเย็นว่า "อี๋หนิง ทางที่ดีแกไม่ควรได้ยินสิ่งที่ไม่ควรฟังดีกว่า ไม่เช่นนั้นอย่าว่าพ่อที่ไม่เห็นแก่ความเป็นพ่อลูก"เมื่อได้ยินคำเตือนในน้ำเสียงของเขา หลิ่วอี๋หนิงกัดริมฝีปากล่างและหันมามองเขาด้วยสีหน้าสงสัย"พ่อคะ พ่อพูดถึงอะไรที่ไม่ควรได้ยิน? ทำไมหนูไม่เข้าใจ?"หลิวเฉิงจื้อมองเธอด้วยสายตาเย็นชา เมื่อเห็นเธอแสดงความสับสนอย่างแท้จริง ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้ยินอะไรจริงๆ เขาจึงเก็บความสงสัยในใจ"ไม่เข้าใจก็ดีแล้ว กลับไปพักผ่อนเถอะ"จนกระทั่งกลับถึงห้องนอนและล็อคประตู หลิ่วอี๋หนิงถึงได้พบว่าตัวเองเหงื่อแตกเต็มตัวเมื่อครู่เธอรู้สึกได้ชัดเจนว่า หลิวเฉิงจื้อมีความคิดที่จะฆ่าเธอ เพราะเขาไม่เคยมองเธอด้วยสายตาที่เย็นชาเช่นนั้นมาก่อนแต่ทว่าสิ่งนี้กลับทำให้เธอยิ่งมั่นใ
เขาคิดว่าตัวเองเป็นผู้ควบคุมในความสัมพันธ์นี้ ดังนั้นหลังจากรู้ว่าเขาไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากเขาให้ช่วยจัดการเรื่องชาร์จเวยป๋อ เขาจึงโทรมาถามเธอด้วยความโกรธแต่ถ้าเป็นเสิ่นเยี่ยนจือเมื่อแปดปีก่อน จะไม่รอให้เธอยอมจํานน แต่จะปกป้องเธออย่างสุดชีวิตเขาในวัยยี่สิบแปดปีและเขาในวัยยี่สิบปี ไม่ใช่คนเดียวกันมานานแล้วจี้อี่หนิงหลบตาลง ดวงตาทั้งสองข้างอดแดงไม่ได้ฝั่งปลายสายเงียบลง จนสามารถได้ยินเสียงหายใจของกันและกันความเงียบกินเวลานานกว่าหนึ่งนาที แต่เสิ่นเยี่ยนจือไม่ได้พูดอะไรจี้อี่หนิงเองก็ไม่รอต่อ แต่วางสายไปเองเธอขยี้ตาทั้งสองข้างที่แดงก่ำ จี้อี่หนิงอดที่จะยิ้มขมขื่นไม่ได้เธอไร้ประโยชน์จริงๆ เธอสาบานไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะไม่ให้เขามีผลต่ออารมณ์ของเธออีกแล้ว แต่ก็ยังคงรู้สึกเสียใจเสิ่นเยี่ยนจือครอบครองเวลาของเธอไปแปดปี และบางทีเธออาจต้องการอีกแปดปีเพื่อที่จะค่อยๆ ปล่อยวางก็ได้ณ ห้องรับแขกในวิลล่าหลังจากจี้อี่หนิงวางสายไป เสิ่นเยี่ยนจือก็ไม่มีความกล้าที่จะโทรไปอีกเมื่อได้ยินเธอบอกว่าเขาไม่แคร์เธอ แต่แค่ต้องการชนะ ขณะนั้นหัวใจของเขาเหมือนถูกกระแทกด้วยอะไรสักอย่าง คำแก้ตัวไม่ส
สีหน้าของเสิ่นเยี่ยนจือตึงเครียด ในใจเต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธ เพราะเขารู้ว่าเสิ่นซื่อเยี่ยนทำได้แน่นอน เพราะว่าลูกชายคนนี้อย่างตัวเขา เขาไม่เคยใส่ใจเลยในที่สุด เขาก็โทรหาหยางอวี่ด้วยเสียงเย็นชา "ทางหลิวเฉิงจื้อตอนนี้ยังไม่ต้องทำอะไร"เมื่อวางสายโทรศัพท์ เขามองไปที่เเสิ่นซื่อเยี่ยนด้วยสายตาเย็นชา"ตอนนี้พ่อไปได้แล้วครับ"แววตาของเสิ่นซื่อเยี่ยนหม่นหมองลง "สักวันหนึ่ง แกจะรู้ว่าทั้งหมดนี้ฉันทำเพื่อแก"เสิ่นเยี่ยนจือไม่พูดอะไร หยิบเอกสารขึ้นมาอ่าน ราวกับว่าไม่ได้ยินอะไรเลยขณะที่มองใบหน้าที่เย็นชาของเขา แววตาของเสิ่นซื่อเยี่ยนแฝงไปด้วยความเย็นชา เขาหันหลังเดินจากไปอย่างรวดเร็วเดิมทีหยางอวี่ที่กำลังไปบริษัทสาขาอยู่แล้ว เมื่อได้รับโทรศัพท์จากเสิ่นเยี่ยนจือก็รู้สึกงงงวย แต่ก็ต้องกลับไปเมื่อก้าวเข้าไปในห้องทำงาน ความหนาวเย็นแผ่ซ่านขึ้นมาจากกระดูกสันหลัง ราวกับเดินเข้ามาในดินแดนที่หนาวเย็นและเต็มไปด้วยหิมะ"ประธานเสิ่นครับ ทางหลิวเฉิงจื้อนั่น...""ไม่ต้องไปสนใจแล้ว ปล่อยข่าวว่าเป็นหลิ่วอี๋หนิงที่ถ่ายวิดีโอออกไปก็พอ"เมื่อเห็นใบหน้าที่เคร่งขรึมของเขา หยางอวี่เองก็ไม่กล้าถามอะไรมาก
ขณะที่เสิ่นเยี่ยนจือมาถึง จี้อี่หนิงเพิ่งตื่นไม่นานเนื่องจากอาการกระทบกระเทือนที่สมองเล็กน้อย ทันทีที่เธอลืมตาคลื่นไส้และอยากอาเจียนจึงต้องนอนตาหลับเมื่อรู้สึกถึงมีคนมานั่งข้างเตียง เธอนึกว่าเป็นสือเวยที่ไปเอายามา"เวยเวย ฉันรู้สึกแย่มาก อยากจะอ้วก…"เมื่อเห็นเธอขมวดคิ้ว ใบหน้าเล็กๆ ขนาดเท่าฝ่ามือซีดมากและหน้าผากของเธอเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น เสิ่นเยี่ยนจือรู้สึกเจ็บปวดใจ จึงรีบหยิบทิชชู่ที่อยู่ข้างๆ มาซับเหงื่อที่หน้าผากให้เธอเมื่อเสิ่นเยี่ยนจือเข้ามาใกล้ เธอได้กลิ่นน้ำหอมของเขา จึงรีบลืมตาขึ้นอย่างแรงเมื่อเห็นว่าเป็นเสิ่นเยี่ยนจือจริงๆ จี้อี่หนิงหันหน้าไปอีกทางและพูดด้วยน้ำเสียงรังเกียจว่า "อย่ามาแตะต้องฉัน"การต่อต้านในสายตาของเธอชัดเจนมาก มือของเสิ่นเยี่ยนจือแข็งอยู่กลางอากาศ จึงค่อยๆ ละมือกลับมาและนั่งลง"ได้ ผมจะไม่แตะต้องคุณ ถ้าไม่สบายตรงไหนให้บอกผม"ตอนนี้จี้อี่หนิงรู้สึกแย่มาก จึงไม่อยากไล่เขาไป จึงหลับตาลงแล้วไม่สนใจเขาสือเวยกลับมาพร้อมยา พอเห็นเสิ่นเยี่ยนจือก็เลิกคิ้วก่อน จากนั้นมุมปากก็ยกขึ้นแสยะยิ้ม"ประธานเสิ่นมาเยี่ยมอี่หนิง ไม่กลัวว่าชู้รักของคุณข้างนอกจะหึง
"อาเล็กครับ ขอบคุณที่อาเล็กมาเยี่ยมอี่หนิง แต่ปกติอายุ่งมาก ต่อไปไม่ต้องมาแล้ว"เสิ่นเยี่ยนจือพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่มีความสุภาพ มองเสิ่นซื่อด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเป็นศัตรู แทบจะเขียนคำว่าอยู่ให้ห่างจากจี้อี่หนิงไว้บนหน้าเขาเลยเสิ่นซื่อมองเขาด้วยสีหน้านิ่งสงบ ไม่มีความโกรธที่ถูกยั่วโมโหเลยแม้แต่น้อยเสิ่นเยี่ยนจือกัดฟันกรอด ในใจเต็มไปด้วยความโกรธ ท่าทีของเสิ่นซื่อทำให้เขารู้สึกเหมือนการชกหมอนเสิ่นซื่อไม่ได้ตอบเขา แต่หันไปพูดกับสือเวยว่า "คุณสือ พอดีผมมีประชุมอีก ขอตัวก่อนนะ"สือเวยพยักหน้า "ได้ค่ะ อาเล็กคะ ฉันจะไปส่งอาค่ะ""ไม่ต้องหรอก"เมื่อเห็นเสิ่นซื่อหันหลังเดินออกไป เสิ่นเยี่ยนจือก็เดินตามเขาไปเขาขวางเสิ่นซื่อที่หน้าลิฟต์ เสิ่นเยี่ยนจือจ้องมองเสิ่นซื่อ น้ำเสียงเต็มไปด้วยการเตือน "อาเล็กครับ หวังว่าอาจะเข้าใจว่าอี่หนิงเป็นภรรยาของผม เป็นหลานสะใภ้ของอา ไม่ใช่ผู้หญิงง่ายๆ ข้างนอก หวังว่าอาจะไม่มีความคิดบางอย่างที่ไม่เหมาะสม"เสิ่นซื่อมองเขาด้วยความเย็นชา ในแววตาไม่มีความอบอุ่นเลยแม้แต่น้อย"ถ้าฉันเป็นแก สิ่งที่แกควรกังวลตอนนี้คืออาการป่วยของภรรยาของแก ไม่ใช่เรื่องอื่นๆ
"ประธานเสิ่น ถ้าคุณไม่ได้รักอี่หนิงแล้ว อย่างน้อยก็นึกถึงความรู้สึกแปดปีที่ผ่านมาบ้าง ได้โปรดปล่อยเธอไปเถอะ""อย่าไปพัวพันกับเมียน้อยข้างนอกโดยไม่หย่า จนทำลายความรู้สึกที่เหลืออยู่น้อยนิดระหว่างพวกคุณให้หมดสิ้น"พูดจบแล้ว สือเวยก็หันหลังเดินจากไปโดยไม่สนใจว่า หน้าของเสิ่นเยี่ยนจือจะดูแย่ขนาดไหนมือของเสิ่นเยี่ยนจือที่จับโทรศัพท์นั้นบีบแน่นจนซีด ก้นดวงตาลึกซึ้งเย็นยะเยือก ราวกับหมึกดำที่มืดมนโทรศัพท์ยังคงดังอยู่ เขาขมวดคิ้วเดินไปที่บันไดแล้วรับสาย"มีเรื่องอะไร?"เสียงจริงจังของฉินจืออี้ดังลอดมาจากโทรศัพท์ "ประธานเสิ่นคะ ฉันมีเรื่องสำคัญจะบอกคุณค่ะ""ตอนนี้ฉันไม่ว่าง"ขณะที่กำลังจะวางสาย แต่เสียงจากอีกฝั่งไม่รู้พูดอะไรออกมา ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อทันทีผ่านไปหลายนาที เขาถึงได้ตอบด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก "เดี๋ยวฉันจะไปหาเธอ"เมื่อสือเวยกลับมาที่ห้องผู้ป่วย เห็นจี้อี่หนิงตื่นแล้ว จึงรีบเดินไปที่ข้างเตียง"อี่หนิง ฉันให้น้าที่บ้านของฉันต้มโจ๊กส่งมาให้ อีกเดี๋ยวก็น่าจะถึงแล้ว คุณพักผ่อนอีกสักหน่อยนะ""ได้"ผ่านไม่นานนัก เสิ่นเยี่ยนจือก็ผลักประตูเดินเข้ามาในห้องผู้ป่วยพอเห็นสีหน้า
"ฉันจะไม่หย่ากับเธอ ถึงแม้หย่าแล้วฉันก็ไม่มีทางแต่งงานกับเธอ เธอแค่คลอดลูกออกมาก็พอ ส่วนเรื่องอื่นไม่ใช่เรื่องของเธอที่จะมายุ่ง!"พอพูดจบ เสิ่นเยี่ยนจือก็หยิบผลการตรวจร่างกายแล้วเดินออกไปทันทีหลังจากประตูถูกปิดดังปัง ฉินจืออี้ก็เช็ดน้ำตาที่มุมตาออก มมุปากพลางยิ้มออกมาเล็กน้อยตลอดทั้งคืน เสิ่นเยี่ยนจือไม่ได้กลับมาที่โรงพยาบาลอีกเลยจี้อี่หนิงรู้สึกอยู่แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นเธอจึงไม่ได้รู้สึกผิดหวังหลังพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลไม่กี่วัน ร่างกายของจี้อี่หนิงก็ฟื้นฟูประมาณเจ็ดถึงแปดสิบเปอร์เซ็น นอกจากรู้สึกเวียนหัวเป็นครั้งคราวแล้ว แทบจะไม่มีปัญหาแล้ว หมอบอกว่าสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ในช่วงบ่าย"อี่หนิง บ่ายนี้ฉันมีธุระ ฉันจะให้คนขับรถของฉันมาส่งเธอกลับบ้านก็แล้วกัน""ไม่ต้องหรอก ของไม่เยอะ ฉันเรียกแท็กซี่กลับเองก็ได้"ในช่วงที่เธอพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลนี้ หลังจากที่โผล่มาครั้งแรกเสิ่นเยี่ยนจือไม่ได้มาเยี่ยมเธออีกเลย มีแต่สือเวยที่คอยดูแลเธอตลอด ซึ่งทำให้สือเวยเสียเวลาหลายเรื่อง เธอรู้สึกผิดมากแล้ว"ฉันจะให้คนขับรถมาสักรอบดีกว่า อย่างไรก็ตามบ่ายนี้เขาก็ไม่มีอะไรทำ เวลาค่อ
จี้อี่หนิงรู้สึกเหมือนกำลังได้ฟังเรื่องตลกจริงๆ เธอไม่เคยเห็นมาก่อนเลยว่า สามีกอดเมียน้อยและสั่งให้เมียหลวงขอโทษเมียน้อย"คุณคิดว่าเธอสมควรได้รับมันไหม?"ฉินจืออี้น้ำตาคลอเบ้า จับแขนเสื้อของเสิ่นเยี่ยนจือและสะอึกสะอื้นว่า "ประธานเสิ่นคะ อย่าทำให้คุณจี้ลำบากเลย...เดิมทีเรื่องนี้เป็นความผิดของฉันเอง ถ้าทำให้คุณจี้หายโกรธได้ ไม่ว่าเธอจะทำอะไร ฉันก็ยอมค่ะ..."เสิ่นเยี่ยนจือก้มลงมองเธอด้วยสายตาเย็นชา "หุบปากซะ!"เมื่อรับรู้ถึงความโกรธของเสิ่นเยี่ยนจือ ฉินจืออี้ก็ตัวสั่นเล็กน้อย หลบหน้าลงไม่กล้าพูดอะไรอีกมองดูทั้งสองกอดกันอยู่ จี้อี่หนิงรู้สึกแค่ความเย้ยหยันนี่คือสิ่งที่เสิ่นเยี่ยนจือพูดกับเธอก่อนหน้านี้ว่าไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ ทั้งสิ้นเหรอ?เขาคิดว่า...เธอเป็นคนโง่หรือเปล่า?ไม่อยากมองดูต่อไป จี้อี่หนิงจึงยัดของใส่กระเป๋าและหันหลังเตรียมจะจากไป"หยุดเดี๋ยวนี้!"เสียงฝีเท้าดังมาจากข้างหลัง ทันใดนั้น ข้อมือของเธอก็ถูกมือใหญ่คว้าเอาไว้จี้อี่หนิงยังไม่ทันตั้งตัว ก็ถูกเสิ่นเยี่ยนจือลากออกไปแรงของเขามากเกินไป ทำให้จี้อี่หนิงที่โซซัดโซเซเกือบจะล้มลงเมื่อเริ่มได้สติ เธอก็พยายามสะบั
เงียบไปสักครู่ เสิ่นซื่อเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าเย็นชา: "ผมจะไปหลังจากประชุมเสร็จ"ตอนเที่ยง จี้อี่หนิงเพิ่งขึ้นไปถึงชั้นบนสุด ซุนสิงก็ขวางเธอไว้"คุณจี้ ตอนนี้ประธานเสิ่นไม่อยู่ในห้องทำงานครับ""เขายังอยู่ในที่ประชุมหรือ?"ซุนสิงส่ายหน้า มองเธอพลางพูดว่า: "ไม่ใช่ เช้านี้ท่านผู้เฒ่าเสิ่นโทรหาเขา เขากลับไปบ้านเดิมแล้วยังไม่ได้กลับมาครับ"จี้อี่หนิงรู้สึกใจหายวูบ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นเพราะเรื่องเช้านี้"ฉันเข้าใจแล้ว เลขาซุน ขอบคุณที่บอกฉันเรื่องนี้ค่ะ"เห็นว่าสีหน้าเธอแทบไม่เปลี่ยน ซุนสิงขมวดคิ้ว "คุณจี้ คุณไม่ไปหาเขาหรือ?""ถึงฉันไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร อีกอย่างถ้าคนในตระกูลเสิ่นเห็นฉันตอนนี้ พวกเขาจะยิ่งอารมณ์เสียค่ะ""เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเพราะคุณ คุณไม่ควรจะแบกรับมันไปพร้อมกับประธานเสิ่นหรือ?"ซุนสิงมองเธอด้วยสายตาไม่พอใจ น้ำเสียงเย็นชาความรู้สึกของเสิ่นซื่อ เขาไม่มีสิทธิ์ถาม แต่ตอนนี้ท่าทีของจี้อี่หนิง ทำให้เขารู้สึกว่าเสิ่นซื่อช่างน่าเสียดายเขาต่อสู้กับตระกูลเสิ่นเพื่อเธอคนเดียว แต่จี้อี่หนิงกลับแค่ซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเขา ไม่มีท่าทีว่าจะร่วมแบกรับเลยสักนิด"เลขาซุน ถ้าเขาต้อง
"ผมว่าทำไมเธอรีบหย่ากับผม ที่แท้ก็ปีนเกาะอาเล็กของผมนี่เอง จี้อี่หนิงเธอก็ไม่ต่างอะไรจากพวกผู้หญิงไร้ค่าข้างนอกนั่นเลย""เพียะ!"จี้อี่หนิงตบเขาหนึ่งที ทันใดนั้นคนรอบข้างก็หันมามองทั้งหมดเสิ่นเยี่ยนจือไม่เคยรู้สึกอับอายขายหน้าขนาดนี้มาก่อน ดวงตาพ่นไฟ ยื่นมือไปบีบคอของจี้อี่หนิงแต่ยังไม่ทันได้แตะตัวเธอ ก็ถูกเตะหนึ่งที ล้มลงไปกับพื้นเสิ่นซื่อโอบจี้อี่หนิง มองลงมาที่เสิ่นเยี่ยนจือ"เธอเป็นป้าคนใหม่ของนาย ต่อไปพูดจาให้สุภาพหน่อย ไม่งั้นไม่ใช่แค่โดนเตะเท้าเดียวเท่านั้นนะ"เมื่อได้ยินคำว่าป้าคนใหม่ เสิ่นเยี่ยนจือหน้าเขียว"อาเล็ก คุณปู่คุณย่าจะไม่มีวันยอมให้คุณแต่งงานกับผู้หญิงที่หย่าร้างมาแล้ว แล้วการที่คุณอยู่กับเธอ ก็จะกลายเป็นเรื่องตลกของเมืองเซิน!"ยิ่งพูด สีหน้าของเสิ่นเยี่ยนจือก็ยิ่งดูภูมิใจท่านผู้เฒ่าเสิ่นและท่านแม่เฒ่าเสิ่นลำเอียงรักเสิ่นซื่อมากขนาดนั้น ผู้หญิงที่แนะนำให้เสิ่นซื่อก็พิถีพิถันคัดสรรมา ไม่คิดว่าสุดท้ายเสิ่นซื่อจะสนใจของมือสอง!"ดูแลตัวเองให้ดีก็พอ นายคิดว่าแต่งงานกับฉินจืออี้ แล้วจะยังมีโอกาสสืบทอดเสิ่นซื่อกรุ๊ปหรือไง?"สีหน้าของเสิ่นเยี่ยนจือแข็งค้าง มือ
จี้อี่หนิงก้มหน้าลง "ได้"เมื่อใกล้ถึงบริษัท จี้อี่หนิงยังคงให้เสิ่นซื่อจอดรถที่ปากทางเหมือนเดิมเขาขมวดคิ้ว สีหน้าแสดงความไม่พอใจ "ฉันน่าอับอายขนาดนั้นเลยหรือ?""ไม่ใช่อย่างนั้น ฉันเพิ่งหย่ากับเสิ่นเยี่ยนจือ ถ้าตอนนี้มีคนในบริษัทเห็นเราอยู่ด้วยกัน มันจะส่งผลเสียต่อคุณ""ฉันไม่สนใจ""แต่ฉันสนใจ และฉันก็ต้องการเวลาสักพักเพื่อปรับตัวกับความสัมพันธ์ของเรา ดังนั้นเรื่องที่เราคบกันขอให้เป็นความลับก่อนได้ไหม?"จี้อี่หนิงมองเขา ในดวงตาเต็มไปด้วยความหวังและความระมัดระวังเล็กน้อยเสิ่นซื่อยื่นมือปิดตาเธอ เสียงทุ้มต่ำแหบพร่า "ได้ แต่ฉันต้องเก็บดอกเบี้ยนิดหน่อย"จี้อี่หนิงชะงักไปครู่หนึ่ง ดวงตาเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย "ดอกเบี้ยอะไร?"ขนตาปัดฝ่ามือของเสิ่นซื่อส่งความรู้สึกคันเล็กน้อยเขาเอื้อมมือไปรัดเอวเธอ ก้มหน้าลงจูบ"อื้อ..."จี้อี่หนิงชะงักไปครู่หนึ่ง โดยสัญชาตญาณอยากจะหลบหนีเพิ่งจะถอยหลัง หลังก็ชนประตูรถ ไม่มีโอกาสหลบหนีแม้แต่น้อย ได้แต่ปล่อยให้เสิ่นซื่อทำตามใจชอบไม่รู้ผ่านไปนานแค่ไหน เสิ่นซื่อก็ปล่อยเธอในที่สุดจี้อี่หนิงหอบหายใจแล้ว ใบหน้าขาวนวลเดิมก็ขึ้นสีแดงระเรื่อเธอจ้อง
เมื่อกลับถึงวิลล่า เสิ่นซื่อให้คนรับใช้พาจี้อี่หนิงไปพักผ่อน ส่วนตัวเองไปที่ห้องทำงานติดต่อซุนสิงเพื่อสืบสวนชายที่ชนกับจี้อี่หนิงคืนนี้"ประธานเสิ่นได้ตรวจสอบแล้ว ชายคนนั้นคือฉินหลางนักแสดงหนุ่มที่กำลังฮอต คืนนี้นัดพบกับแฟนสาวนอกวงการที่ร้านอาหารนั้น หลังจากพบว่ามีปาปารัซซี่ รีบออกมาอย่างรีบร้อนแล้วชนกับคุณจี้"เสิ่นซื่อมีสีหน้าเย็นชา เสียงไร้ความรู้สึก "ให้บทเรียนเขาหน่อย"ซุนสิงตกใจในใจ รู้สึกว่าตนประเมินความสำคัญของจี้อี่หนิงในใจของเสิ่นซื่อต่ำเกินไปหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาเสนอว่า: "งั้นผมจะให้คนเปิดเผยเรื่องที่เขามีแฟนนอกวงการออกไปนะครับ?"พอดีฉินหลางมีละครรักที่กำลังจะออกอากาศ ช่วงนี้กำลังสร้างกระแสคู่จิ้นกับนางเอก ถ้าเปิดเผยเรื่องที่เขามีแฟนตอนนี้ คงจะสร้างผลกระทบเชิงลบไม่น้อย“อืน”อีกด้านหนึ่ง จัวเสี่ยวเทียนกลับถึงสตูดิโอ ดูภาพในกล้อง ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวคืนนี้ถ่ายได้แค่ภาพฉินหลางที่รีบออกจากร้านอาหาร ส่วนแฟนสาวนอกวงการ แม้แต่เงาก็ไม่เห็นและหลังจากคืนนี้ คงจะระวังตัวมากขึ้น ไม่ให้ปาปารัซซี่ถ่ายภาพได้อีก หลายเดือนนี้คงเสียเวลาเปล่าทันใดนั้น ภาพหนึ่งในกล้องดึงดูด
พูดจบ ไม่ให้โอกาสเสิ่นเยี่ยนจือได้พูดอีก จี้อี่หนิงวางสายและบล็อกเขาทันทีไม่นานหลังจากนั้น มีเบอร์ที่ไม่รู้จักโทรเข้ามา จี้อี่หนิงทำเป็นไม่เห็น หลังจากที่โทรมาหลายครั้งก็หยุดไปจี้อี่หนิงนำอาหารที่เธอทำมาวางบนโต๊ะ เพิ่งจะจัดการครัวเสร็จ กริ่งประตูก็ดังขึ้นหลังจากดูแล้วว่าคนที่หน้าประตูคือเสิ่นซื่อ จี้อี่หนิงจึงเปิดประตูได้กลิ่นอาหารหอม ดวงตาของเสิ่นซื่อเปล่งประกายด้วยความประหลาดใจ"คุณทำอาหารหรือ?"จี้อี่หนิงพยักหน้า ถอยข้างๆให้เสิ่นซื่อเข้ามา "อืม เรากินอาหารเย็นก่อน แล้วค่อยไปกัน"เพิ่งเข้ามาในห้องนั่งเล่น ก็เห็นอาหารสามอย่างกับซุปหนึ่งถ้วยวางอยู่บนโต๊ะ สองจานเป็นเนื้อสัตว์ หนึ่งจานเป็นผัก บวกกับซุปไข่มะเขือเทศ ดูแล้วทั้งสีสัน กลิ่น และรสชาติน่าจะครบถ้วน ชุดอาหารก็จัดไว้เรียบร้อยแล้วหลังจากนั่งลง เสิ่นซื่อพูดขึ้นมาทันทีว่า: "คุณทำอาหารบ่อยเหรอ?"จี้อี่หนิงยิ้มน้อยๆ "ไม่นะ ก่อนหย่ากับเสิ่นเยี่ยนจือ ส่วนใหญ่แม่บ้านเป็นคนทำอาหารค่ะ"“อืน”เสิ่นซื่อไม่พูดอะไรอีก หยิบตะเกียบขึ้นมาชิมอาหารคำหนึ่ง เงียบไปสองวินาที วางตะเกียบลงแล้วยกแก้วน้ำข้างๆขึ้นมาดื่มจากนั้นก็ไม่ยอมแพ้ ห
เมื่อเสิ่นซื่อมาถึง จี้อี่หนิงกำลังนั่งเหม่ออยู่บนโซฟาเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า เธอเงยหน้ามองไปที่ประตู ดวงตาของเธอแดงก่ำ แววตาเต็มไปด้วยความไร้ที่พึ่งและความกลัว เหมือนกระต่ายน้อยที่ตกใจกลัว"อาเล็ก มาแล้วนะคะ"เสิ่นซื่อเดินมาข้างเธอ พูดเสียงเครียด "มีบาดเจ็บไหม?"จี้อี่หนิงส่ายหน้า "ฉันไม่เป็นไร... ตอนนั้นฉันกับเวยเวยไปดื่มที่บาร์ ไม่ได้อยู่บ้าน... พอกลับมาก็เป็นแบบนี้แล้ว..."เสิ่นซื่อขมวดคิ้ว "แจ้งตำรวจแล้วหรือยัง?""แจ้งแล้วค่ะ ตำรวจน่าจะมาในอีกสักครู่""อืม ที่นี่คงอยู่ไม่ได้แล้ว ผมจะให้ซุนสิงหาบ้านใหม่ให้คุณ""แล้วอีกสองสามวันนี้... ฉันไปพักที่บ้านคุณได้ไหม?"ทันทีที่พูดจบ ทั้งห้องนั่งเล่นก็ตกอยู่ในความเงียบ เงียบจนแทบได้ยินเสียงหายใจของกันและกันดวงตาทั้งสองของเสิ่นซื่อหรี่ลงอย่างอันตราย เขาเอ่ยทีละคำ "คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังพูดอะไร?"สายตาตรงไปตรงมาของเขา ดูเหมือนจะสามารถทะลุทะลวงทุกอย่าง ทำให้จี้อี่หนิงรู้สึกว่าตัวเองไม่มีที่หลบซ่อน ราวกับว่าความคิดเล็กๆ น้อยๆ ทั้งหมดของเธอถูกเขามองทะลุเธอบังคับตัวเองให้สบตากับเขา พยักหน้าและพูดว่า "ฉันรู้คะ"เสิ่นซื่อมองเธอ แล้วยิ้ม
พอเพิ่งติดต่อได้ เสียงร้อนรนของเวินจิ้งหงก็ดังมาตามสาย "ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน? พ่อของเธอไปหาตระกูลเสิ่นเพื่อเธอ แต่กลับถูกกลั่นแกล้ง แล้วเขาดื่มเหล้าเพื่อขอขมาจนต้องเข้าห้องฉุกเฉิน!"จี้อี่หนิงรู้สึกเหมือนมีเสียงระเบิดในหัว เธอยืนแข็งทื่ออยู่กับที่ และกว่าจะตอบสนองได้ก็ผ่านไปหลายวินาที"ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ค่ะ!"ขณะที่พูด จี้อี่หนิงตัวสั่นไปทั้งตัวสือเวยก็ตื่นขึ้นมาตอนนั้นพอดี เมื่อเห็นว่าจี้อี่หนิงมีอารมณ์ไม่ปกติ เธอจึงรีบลุกขึ้น "อี่หนิง เกิดอะไรขึ้น?"จี้อี่หนิงเงยหน้ามองเธอ ตาของเธอแดงก่ำ น้ำตาไหลไม่หยุด"พ่อของฉันเกิดเรื่อง ฉันไม่สามารถขับรถได้..."สีหน้าของสือเวยเคร่งขรึมลง เธอคว้ามือของจี้อี่หนิงแล้วพูดเสียงทุ้ม "เมื่อคืนเราดื่มเยอะมาก ตอนนี้เราขับรถไม่ได้เหมือนกัน ให้เราเรียกแท็กซี่ไปโรงพยาบาลกัน"เธอจูงจี้อี่หนิงออกจากบาร์ และเรียกแท็กซี่ที่ริมถนนตรงไปยังโรงพยาบาลเมื่อพวกเธอไปถึงหน้าห้องฉุกเฉิน การผ่าตัดเพิ่งเสร็จสิ้นหมอมีสีหน้าเหนื่อยล้า แต่เมื่อมองไปที่จี้อี่หนิงและเวินจิ้งหงสายตากลับเต็มไปด้วยความโกรธ "ทุกครั้งที่ผมตรวจ ผมก็เตือนว่าคนไข้ห้ามสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
เวินจิ้งหงหน้าตาเครียด เลยสะบัดมือพูดว่า "ได้ๆๆ ฉันไม่พูดแล้ว ใครๆ ก็บอกว่าเป็นแม่เลี้ยงนี่ยาก ทำอะไรก็ไม่ถูกใจทั้งสองฝ่าย ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว!"จี้เหว่ยหงขมวดคิ้ว สีหน้าดูจนใจ "ผมไม่ได้มีความคิดแบบนั้น""แล้วคุณหมายความว่ายังไง? สองปีที่คุณป่วยฉันดูแลคุณอย่างเต็มที่ ก็ไม่ได้ทำร้ายลูกสาวคุณด้วย คราวนี้เธอก่อเรื่องใหญ่ ฉันแค่ว่าเธอไปนิดหน่อยก็ทำไม่ได้อีกเหรอ?"เห็นเวินจิ้งหงมีท่าทีรุกเร้า จี้เหว่ยหงรู้สึกหงุดหงิด เขาหันหน้าไปอีกทางไม่พูดอะไรต่อเวินจิ้งหงยิ่งโกรธมากขึ้น เริ่มบ่นพึมพำถึงความลำบากที่ต้องดูแลจี้เหว่ยหงในช่วงหลายปีที่ผ่านมาหลังจากอดทนฟังอยู่สองสามนาทีจี้เหว่ยหงก็ทนไม่ไหว ตะโกนด้วยความโกรธว่า: "การที่คุณดูแลผมมันเหนื่อยก็จริง แต่ก่อนที่เภสัชกรรมเหว่ยหงจะล้มละลาย ผมให้คุณไม่พอหรือไง? ลูกสาวของผมยังไงก็ไม่ใช่เรื่องที่คุณจะมาพูดได้!"เวินจิ้งหงหัวเราะเยาะ "ดี งั้นคุณก็ให้เธอมาดูแลคุณแล้วกัน! อย่าให้ฉันดูแลคุณอีกเลย!"พูดจบ เวินจิ้งหงก็หันหลังเดินออกไปด้วยความโกรธเมื่อประตูห้องพยาบาลถูกปิดอย่างแรง ห้องก็กลับมาเงียบอีกครั้งจี้เหว่ยหงถอนหายใจ หยิบโทรศัพท์ข้างตัวโทรออก
สองคนหันหลังกลับพร้อมกัน โดยไม่รู้ว่าจี้เหว่ยหงตื่นขึ้นมาแล้วตั้งแต่เมื่อไหร่จี้อี่หนิงรีบเข้าไปช่วยพยุงเขา แต่กลับถูกเขาผลักออกไป"อี่หนิง เธอทำให้พ่อผิดหวังมาก"เมื่อเผชิญหน้ากับสายตาที่ผิดหวังของจี้เหว่ยหง ร่างของจี้อี่หนิงก็แข็งทื่อไปทั้งตัว"พ่อ... แม้แต่พ่อก็ไม่เข้าใจหนูเหรอ?"ที่เธอทำแบบนี้ ก็เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้เขา เธอคิดว่าถึงแม้ทุกคนจะไม่เข้าใจเธอ อย่างน้อยจี้เหว่ยหงก็น่าจะเข้าใจ"พ่อเข้าใจเธอแล้วจะมีประโยชน์อะไร? เรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว เธอขุดมันขึ้นมาใหม่ก็จะส่งผลกระทบต่อชีวิตของเธอเท่านั้น ชีวิตของเธอยังอีกยาวไกล ถ้าเธอส่งเสิ่นซื่อเยี่ยนเข้าคุก คนในตระกูลเสิ่นจะแก้แค้นเธอยังไง?"ตอนนี้เขาไม่มีความสามารถที่จะปกป้องเธอได้ การที่เธอทำแบบนี้จะทำลายชีวิตของเธอไปตลอดกาล"หรือว่าหนูควรจะทำเป็นไม่รู้อะไรเลย แล้วก็ใช้ชีวิตอยู่กับเสิ่นเยี่ยนจือต่อไปด้วยความเกลียดชังอย่างนั้นเหรอ?""เธอจะอยู่กับเขาหรือไม่ ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่เหวยหงล้มละลาย เรื่องนี้ตอนนี้ยังมีทางแก้ไขได้ไหม?"จี้อี่หนิงสูดหายใจลึกๆ "ไม่ได้แล้ว หลักฐานหนูส่งให้ตำรวจไปแล้ว และถึงแม้จะยังแก้ไขได้ หนู