"นั่นยังไม่ได้หรือ? นางไม่มีเรี่ยวแรง งั้นก็เพิ่มเรี่ยวแรงนางซะสิ" อวี่เหวินห่าวกล่าวหมอหลวงเฉาโบกมือของเขา "ท่านอ๋องของข้า ยาไร้กังวลนั้นสามารถกระตุ้นศักยภาพและเรี่ยวแรงของร่างกายได้ แต่ตอนนี้พระชายากินดื่มไม่ได้ และร่างกายของนางก็อ่อนล้าถึงขีดสุด ร่างกายฟื้นฟูแทบไม่ไหว จะกระตุ้นนางได้อย่างไร? หากไม่ได้รับการกระตุ้นฟื้นฟูจะทนไหวไปตลอดรอดฝั่งหรือ? หากทนไม่ไหวและใช้ยาไร้กังวลนี้ กระหม่อมขอบังอาจพูดอะไรที่ไม่น่าฟัง มันจะให้ผลตรงกันข้าม ทำให้นางหมดเรี่ยวแรง บั่นทอนพลังชีวิตนาง และอาจถึงแก่ชีวิตได้นะพ่ะย่ะค่ะ”คำพูดของหมอหลวงเฉาทำให้อวี่เหวินห่าวตกอยู่ในความตื่นตระหนก เขาตกตะลึงไปครู่หนึ่งจนขาดสติและตะโกนออกมาด้วยใบหน้าซีดขาวว่า "ข้าไม่สน พวกเจ้าต้องหาทาง"ทุกคนกังวลอยู่พักหนึ่ง พวกเขาจะทำอย่างไร? แม้แต่ผู้หญิงที่ฉลาดและมีความสามารถก็ไม่สามารถทำอาหารได้หากไม่มีข้าว พระชายาไม่มีเรี่ยวแรงแล้ว และไม่มีใครสามารถช่วยนางในการคลอดบุตรครั้งนี้ได้หมอหลวงเฉาถอนหายใจ "กระหม่อมเกรงว่านี่เป็นความตั้งใจของคนร้าย ไม่ช้าก็เร็ว ไม่กี่วันนี้ถึงลงมือได้"หมอหลวงเฉาคิดอยู่ในใจ แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา หาก
แต่ในวังกลับมีข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วเมื่อพูดถึงการป้องกันอย่างแน่นหนาในจวนอ๋องฉู่ จะมีคนลงมือได้อย่างไร?ยิ่งกว่านั้น พระชายาฉู่ไม่ได้ถูกพิษ เห็นได้ชัดว่าไม่ได้มีคนทำร้ายนางในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อมีเรื่องเกิดขึ้นกับนาง เห็นได้ชัดว่าบารมีไม่เพียงพอ ยังบอกอีกว่าอ๋องฉู่ไม่ใช่คนโชคดีมากขนาดนั้น ไม่เช่นนั้นจะปกป้องลูกเอาไว้ไม่ได้อย่างไร?ก่อนหน้านี้หลายคนคิดในใจว่า หากพระชายาฉู่ให้กำเนิดลูกชาย ตำแหน่งรัชทายาทจะตกอยู่กับอ๋องฉู่เป็นแน่แต่ตอนนี้สถานการณ์กลับพลิกผันอย่างกะทันหัน ดังนั้นจึงเห็นได้เรื่องน่ายินดีในจวนอ๋องฉู่นั้นจะเปล่าประโยชน์ในท้ายที่สุดข่าวลือเหล่านี้ไปถึงหูของจักรพรรดิหมิงหยวน พระองค์ทรงกริ้วมาก และสั่งให้มู่หรูกงกงจับคนที่ปล่อยข่าวลือมาแต่ใครจะรู้เล่า? ข่าวลือเหล่านี้ค่อย ๆ ไปถึงเมืองหลวง ตอนนี้ใครต่อใครก็พูดว่าอ๋องฉู่มีบุญไม่พอ เกรงว่าเขาคงไม่ใช้ผู้ถูกเลือกที่ยิ่งใหญ่เกี่ยวกับรัชทายาท ผู้คนในเมืองหลวงต่างกดดันมานานเกินไป ฮ่องเต้ยังไม่ตัดสินใจเลือกอ๋องสักคนมาเป็นรัชทายาท บรรดาท่านอ๋องก็ยังไม่ให้กำเนิดบุตรชาย อดสงสัยไม่ได้ว่าตระกูลอวี่เหวินนั้นได้สูญเสียพรจากสวรรค์ไ
ฮูหยินเฒ่าลูบผมของนางอย่างอ่อนโยนด้วยความรัก นัยน์ตาของนางมีร่องรอยความกังวลซ่อนอยู่ในแววตาหลังจากปลอบหยวนชิงหลิงแล้ว ฮูหยินเฒ่าก็ดึงอวี่เหวินห่าวออกมา และบอกเขาว่าอาฉวนถูกขโมยฆ่าตายอยู่ข้างถนนอวี่เหวินห่าวคาดเอาไว้นานแล้วจึงปลอบโยนนาง "ท่านย่าไม่จำเป็นต้องตรวจสอบเรื่องนี้ในตอนนี้ ใคร ๆ ก็ทำได้ทั้งนั้น เรื่องนี้ในอนาคตค่อยว่ากัน แต่ตอนนี้เรื่องของเหล่าหยวนสำคัญที่สุด"ฮูหยินเฒ่ารู้สึกโล่งใจ และพอใจกับหลานเขยคนนี้มาก แต่นางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้า และไม่รู้ว่านางจะรอดจากหายนะครั้งนี้ได้หรือไม่ฮูหยินเสนาบดีเจียงหนิงยังคงใช้การฝังเข็มเพื่อบรรเทาอาการปวดหลังของหยวนชิงหลิง และยังออกแบบรายการอาหารขึ้นมาเอง เพื่อให้แม่นมฉีปรุงอาหารให้กับหยวนชิงหลิงแม่นมฉีย่อมแอบนำมันไปสอบถามหมอหลวง หมอหลวงเฉาเห็นใบรายการนี้ และคิดว่ามันค่อนข้างจะกล้าไปสักหน่อย แต่ตอนนี้เขาจะลองมันดูสักตั้งทุกคนต่างรู้สึกว่า ถึงแม้ว่าความหวังจะหริบหรี่ก็อยากจะลองพยายามทำมันอย่างเต็มที่หยวนชิงหลิงให้อวี่เหวินห่าวฆ่าเชื้อในห้องผ่าตัดอีกครั้ง และไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปห้องผ่าตัดนี้ปิดตายอย่างแน่นหนาไม่ใช่เพียงแค่
นางนั่งที่ข้างเตียงและจับมือหยวนชิงหลิงเอาไว้ แววตาของนางเต็มไปด้วยความกังวลและพูดว่า "เจ้ารู้หรือไม่ว่าการคลอดลูกของเจ้าเกี่ยวข้องกับชะตากรรมในอนาคตของจวนอ๋องฉู่ ตอนนี้มีคนมากมายกำลังสร้างปัญหา ปล่อยข่าวว่าฝ่าบาทไม่ทรงประพฤติชอบในศีลธรรม ทำให้เจ้าเกิดเหตุร้ายก่อนคลอด และตอนนี้มีคนมากมายจับตามองอยู่ พระชายาฉู่ ข้าขอเตือนเจ้า เจ้าต้องกัดฟันเสี่ยงชีวิตให้กำเนิดลูกให้ได้เข้าใจไหม?"นางข้าหลวงสี่ที่ได้ยินรีบวางกาน้ำชาและเข้ามา โดยไม่สนใจว่าจะเป็นการลบหลู่เบื้องสูงหรือไม่ นางดึงตัวพระสนมเสียนเฟยออกไป “พระนางทรงเหนื่อยมากแล้ว มาดื่มชาก่อนเถอะเพคะ พระชายาควรพักผ่อนได้แล้ว”พระสนมเสียนเฟยผลักนางข้าหลวงสี่ออกไปและพูดด้วยความโกรธ "พวกเจ้าควรบอกเรื่องนี้กับนางตั้งแต่แรก ให้นางรู้ว่าตัวเองมีความรับผิดชอบที่สำคัญมากแค่ไหน ให้นางเข้าใจว่า แม้ว่านางจะตายก็ต้องกลั้นใจคลอดลูกให้ได้"นางข้าหลวงสี่เริ่มกระวนกระวาย "พระสนมเสียนเฟยพอแล้ว พระองค์ออกไปได้แล้ว"ใบหน้าของหยวนชิงหลิงที่ซีดแล้วซีดอีกพูดว่า "โม่โม่ ให้เสด็จแม่พูด นางพูดถูก มีเรื่องบางอย่าง ข้าเองก็มีสิทธิ์ที่จะได้รับรู้"พระสนมเสียนเฟยผลักนา
เขาหันกลับไปสั่งถังหยางและเอ่ยอย่างเย็นชา "เชิญพระสนมเสียนเฟยเสด็จกลับวังพ่ะย่ะค่ะ"“ลูกห้า อย่าเมินคำแนะนำของข้า แม่ทำทุกอย่างเพื่อเจ้านะ” พระสนมเสียนเฟยพูดอย่างร้อนใจ และยื่นมือไปดึงแขนเขา เขาสะบัดทิ้งและก็เข้าไปข้างในพร้อมปิดประตูทันทีถังหยางพยายามเกลี้ยกล่อมให้นางกลับไป หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้ยินเสียงตะโกนจากข้างนอก "พระสนมเสียนเฟย เคลื่อนขบวนได้!"อวี่เหวินห่าวนั่งบนเตียงและกอดหยวนชิงหลิงเอาไว้สำหรับชีวิตคู่แล้ว นี่เป็นช่วงเวลาที่ยากที่สุดในใจของหยวนชิงหลิงมีหลายสิ่งหลายอย่างที่จะถามเต็มไปหมดนางอยากถามเกี่ยวกับความวุ่นวายข้างนอก และยังอยากบอกว่าเสียนเฟยบอกนางให้รักษาเด็กไม่รักษาแม่เอาไว้อย่างไรก็ตาม ในตอนท้ายนางไม่ได้ถามหรือพูดอะไร เรี่ยวแรงของเธอที่เหลืออยู่ตอนนี้ ทำให้นางสนสถานการณ์อื่นไม่ได้อีกนางยังคงหอบเล็กน้อยเหมือนปลาทองท้องโตอวี่เหวินห่าวอุ้มนางไว้ในอ้อมแขน ยื่นมือออกไปประคองเอวของนาง และกดไปที่หน้าท้องด้านข้างเบา ๆ เขารู้สึกได้ว่าเด็กกำลังเคลื่อนไหวอยู่ข้างในการเคลื่อนไหวนั้นรุนแรงราวกับว่าทนรอแทบไม่ไหวแล้วที่จะออกมาอวี่เหวินห่าวรู้สึกได้ แม้ว่าเขาจ
หลังจากที่พระสนมเสียนเฟยถูกเชิญกลับวัง นางก็กระวนกระวายมากไทเฮาทรงหมดสติไปสองครั้งครั้ง เพราะการกระทบกระเทือนถึงครรภ์ของหยวนชิงหลิง หากเกิดอะไรขึ้นกับไทเฮา ตระกูลซูจะทำอย่างไร? ตระกูลซูในวันนี้ล้วนได้รับการสนับสนุนจากไทเฮาทั้งสิ้นนางนึกถึงสิ่งที่ลูกห้าพูดแล้วรู้สึกหวาดกลัวขึ้น หยวนชิงหลิงคนนี้รู้จักมนต์เสน่ห์หรือไม่? ทำให้ลูกห้าหลงใหลเช่นนี้ กล่าวได้ว่าในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่แสนสำคัญ เขาจะทำทุกอย่างเพื่อรักษาหยวนชิงหลิงเอาไว้เขาไม่สนอนาคตของตัวเองหรือ? ไม่ได้ ปล่อยหยวนชิงหลิงอยู่เคียงข้างเขาไว้ไม่ได้แล้ว มิฉะนั้น ในภายภาคหน้าลูกห้าจะสูญเสียจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ทั้งหมดและกลายเป็นคนขี้ขลาดอย่างสิ้นเชิงนางต้องคิดหาวิธีในพริบตาก็เข้าสู่ต้นเดือนเมษายน หยวนชิงได้รับบาดเจ็บ ผ่านการพักฟื้นก็ไม่ได้ผล และนางยังคงอยู่บนเตียงทุกคนคิดว่าหยวนชิงหลิงกำลังจะคลอดลูกในปลายเดือนมีนาคม แต่คาดไม่ถึงว่าในต้นเดือนเมษายน ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดจากนาง ซึ่งทำให้ผู้คนวิตกกังวลอย่างมากทั้งหมดนับดูนับว่าเป็นเวลาเก้าเดือนแล้วไม่รู้ว่าเกิดเรื่องบ้าบออะไรขึ้นมากับราชวงศ์เป่ยถังในปีนี้จริง ๆ ไทเฮาทร
อาหรูถอนหายใจเบา ๆ “เพคะ หม่อมฉันจะออกไป”เมื่อพระชายาอันมาถึงห้องหนังสือ อ๋องอันก็ลุกขึ้นจับมือนางแล้วพูดเบา ๆ ว่า "ทำไมใส่เสื้อผ้าน้อยจริง ไม่หนาวรึ?”พระชายาอันยิ้มอย่างอ่อนโยน "ไม่หนาว ลมอุ่นดีเพคะ""รีบนั่งลงเถอะ" หลังจากให้นางนั่งลง อ๋องอันก็โอบไหล่นางแล้วพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า "เจ้ารู้เรื่องที่พระชายาฉู่จะคลอดแล้วใช่ไหม? เพราะเรื่องของนางทำให้ไท่ซ่างหวงและไทเฮาล้มป่วย ข้าจึงเป็นห่วง"พระชายาอันถอนหายใจอย่างโศกเศร้า "ใช่ หม่อมฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่จู่ ๆ เรื่องก็วุ่นวายเช่นนี้""ก่อนหน้านี้ ถึงข้าจะมีเรื่องเข้าใจผิดกับเจ้าห้า แม้ว่าในภายหลังความเข้าใจผิดจะคลี่คลายลงแล้ว แต่ก็มีความร้าวฉานเหลืออยู่ ข้าเองก็ไปถามไถ่เขาไม่ได้ แต่เป็นพี่น้องกัน เมื่อเกิดเรื่องขึ้นที่จวนของเขา ในฐานะพี่ชายจะไม่สนใจถามไถ่มันก็รู้สึกไม่ดีนัก เจ้าเข้าวังไปหาพระสนมเสียนเฟย และให้คำแนะนำนิดหน่อยก็ถือว่าพวกเราทำดีที่สุดแล้ว”พระชายาอันมองเขาด้วยแววตาลังเล “วันที่เจ้าห้าพาคนมาก่อเรื่อง และเอาแต่พูดว่าท่านทำร้ายพระชายาของเขา มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”นางอยากจะถามเรื่องนี้มานานแล้ว แต่ไม่กล้าถาม เพรา
ไทเฮาที่ประชวรอยู่นั้น เมื่อได้ฟังคำแนะนำของพระสนมเสียนเฟย จึงได้พยายามดิ้นรนสั่งให้คนไปเชิญจักรพรรดิหมิงหยวน และขอทำพิธีสักการะบูชาฟ้าดินอย่างจักรพรรดิหมิงหยวนมีหรือคิดจะสักการะฟ้าดินที่ไหน? แต่ไทเฮาเชื่อว่าเป็นเพราะในปีที่แล้ว ที่ไม่ได้จัดงานอย่างยิ่งใหญ่ จึงถูกสวรรค์ลงโทษจักรพรรดิหมิงหยวนกลัวว่าความคิดฟุ้งซ่านของนางจะทำให้นางเสียสุขภาพได้ ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากตกลงเพียงแต่ว่าพิธีสักการะบูชาฟ้าดินอย่างยิ่งใหญ่นั้นไม่สามารถทำได้ด้วยการสั่งออกไปแค่คำสองคำไทเฮามีพระราชเสาวนีย์เชิญท่านเจ้าอาวาสเข้าวังเพื่อหารือกับกรมราชพิธี เรื่องพิธีสักการะบูชาฟ้าดินก่อนที่เจ้าอาวาสจะเข้าวัง เขาบอกอวี่เหวินห่าวซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า หากพระชายามีสัญญาณของการคลอดบุตรจะต้องแจ้งให้เขาทราบหยวนชิงหลิงเคยบอกอวี่เหวินห่าวมาก่อนว่า เขาต้องการให้เจ้าอาวาสอยู่เฝ้าเพื่ออธิษฐานขอพร แต่อวี่เหวินห่าวได้ยินว่ามีการจัดพิธีสักการะบูชาฟ้าดินดังนั้นเขาจึงไม่ได้ขัดขวาง เขาอธิษฐานขอพรในจวนอยู่แล้ว และพิธีสักการะบูชาฟ้าดินดูจะทรงพลังมาก บางทีอาจจะได้ผลดีกว่าเขาเพียงแต่บอกหยวนชิงหลิงว่า เขาจะจัดพิธีสักก